|0 คอมเมนต์
1.การคิด Free cash flow ของผมถูกต้องไหม
ผมคิดว่าถูกนะครับ แต่ change in WC ต้องไม่รวมเงินสดอย่างที่พี่ Aircraft บอก
ชอบเว็บนี้ครับ เห็นย้อนหลัง 4 ปี
http://investing.businessweek.com/busin ... ncy=native
มีพี่น้องใน Thai VI แบ่งปันมา เวลาจะเปลี่ยนดูหุ้นอื่น ก็เปลี่ยนสัญลักษณ์เอา
ไม่ทราบว่าทำไมพี่ Amadeus ถึงอยากทำ FCF เองเหรอครับ เพราะทาง
บริษํทเค้าก็จัดทำมาให้อยู่แล้วทุกไตรมาส
แต่ถ้าเพื่อประมาณการในอนาคต ผมว่าใช้การดู trend และประมาณเอาก็พอ
รึเปล่าครับ
ผมทำอย่างที่พี่ Aircraft บอกเลยครับ คือดู Operating cash flow ย้อนหลัง
ปรับด้วย CAPEX
แต่ผมจะดูค่อนข้างละเอียดครับ ในส่วนของ CAPEX ว่าเป็นการเพิ่ม
กำลังการผลิต หรือแค่ปรับปรุงใหญ่ทั่วไป
ถ้าเป็นเพิ่มกำลังการผลิต ก็ไม่ควรเอารวมครับ เพราะเป็นแค่ครั้งคราว
โดยถือว่าจะได้ Cash เพิ่มในอนาคต ถ้า NPV เป็นบวก (เชื่อใจ ผบห)
ในส่วน CAPEX ค่อนข้างต้องลงไปดูรายละเอียดครับว่าทำไมปี 06-07
ถึงมีค่อนข้างสูงและปี 2009 ทำไมค่อนข้างต่ำ อันนี้คงต้องใช้วิจารณญาณ
ว่าการลงุทนที่เหมาะสมของธุรกิจ BAFS ควรเป็นเท่าไหร่ สูงหรือต่ำกว่า
ค่าเสื่อมราคา ผมว่าในบางธูรกิจ ค่าเสื่อมราคาเค้าก็ตัดกันเวอร์ไปน่ะครับ
CAPEX เลยอาจจะแค่ 50% ของค่าเสื่อมก็น่าจะพอ
ส่วน Operating cash flow ก็คงดูการเปลี่ยนแปลง working capital และ
Net profit ครับว่าการเติบโตนั้น ทำให้ Working capital มีปัญหารึเปล่า
2.การใช้ FCF กับหุ้นลักษณะนี้เหมาะสมไหม
ส่วนตัวผมคิดว่า FCF สามารถใช้ได้ทุกธุรกิจนะครับ แต่ธุรกิจที่เป็น
Cyclicle จะทำยากกว่า แต่ก็ทำได้ครับ โดยการประมาณ FCF ให้ cover
cycle ของธุรกิจเพื่อดูว่าคุ้มที่จะลงทุนมั๊ย ต้องอาศัย assumption มาก
และไม่แน่นอนสูงครับ
แต่ BAFS ดูจะใช้ได้ดีทีเดียว เพราะ CFO ค่อนข้างนิ่ง
ถ้าดูแค่ cash flow ตาม link ข้างบน ผมคงประมาณเบื้องต้นเล่นๆว่า
CFO = 950 M
CAPEX = -200 M (ดูจากปี 2008 น่าจะเป็นปีปกติ)
FCF = 750 M
หนื้สินหักจากเงินสดน่าจะมีซัก 2,500 ล้าน
Market cap ประมาณ 4,400 ล้าน
รวมมูลค่าทั้งบริษัท 6,500 ล้าน
เอา FCF มาจ่ายได้เวลาคืนทุนประมาณ 8 ปีครึ่ง คิดเป็นผลตอบแทน
ประมาณ 11.5% ครับ แต่ถ้ากิจการสามารถสร้าง FCF ได้มากกว่า 750 ล้าน
ต่อปี % ผลตอบแทนก็จะสูงขึ้นครับ
ปล. ถูกผิดหรือคิดเห็นยังไงรบกวนชี้แนะด้วยครับ