วิกฤติ คุณภาพเวปบอร์ด Thaivi.com

[Juninho]

[quote="VI พันธุ์ทาง"]เห็นด้วยกับคุณ MO101 ครับ
ในร้อยคนร้อยหุ้น

[ดำ]

[quote="VI พันธุ์ทาง"]เห็นด้วยกับคุณ MO101 ครับ
ในร้อยคนร้อยหุ้น

[GeneraX]

ผมเคยเสนอให้ทางเว็บ upgrade ระบบให้มีระบบ "Thank" ให้กับ Post ที่เราเห็นด้วย และ อาจจะเพิ่มระบบการให้ Reputation กับแต่ละ User ID ซึ่งwebboard ใหญ่ๆ ของไทยและตปท.ทำแล้วผมว่า work มากๆครับ ทำให้คนที่โพสแนวไร้สาระลดลงไปมากจนแทบไม่มีเลย

ส่วนตัวผมเชือว่าระบบแบบนี้จะทำให้ภาระ MOD ของเว็บลดน้อยลงไปอีก แต่เท่าที่ผมเสนอคห.นี้ไว้ในกระทู้ข้างล่างนี้ แล้วพี่ๆส่วนมากยังไม่เห็นด้วยครับ  :roll:

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=42423

[DeepTVI]

[quote="VI พันธุ์ทาง"]เห็นด้วยกับคุณ MO101 ครับ
ในร้อยคนร้อยหุ้น

[noooon010]

คุณภาพนั้น เราต้องร่วมกันสร้างครับ
สร้างเมื่อไหร่ คุณภาพก็มาเมื่อนั้นครับ

[champ_st]

เราอยากให้สังคมที่นี่ดีดี เราก็ต้องเริ่มจากตัวเอง โพส แสดงความคิดเห็นอะไรที่มันดีดี ครับ

เริ่มจากตัวเองสำคัญที่สุด

[บูรพาไม่แพ้]

หรือว่า..แหล่งความรู้ทีดีสำหรับนักลงทุนรายย่อยแห่งนี้จะปนเปื้อนสารผิดเสียแล้ว  ..เมื่อก่อนผมไม่มีความรู้เรื่องหุ้นเลยก็ได้ความรู้ดีๆก็จากเซียนทั้งหลายในเวบนี้ แต่ตอนนี้น่าคิดครับ ผมว่าเราต้องช่วยกันครับ ให้เว็บนี้เป็นแหล่งความรู้จริงๆที่ไม่แผงมาด้วยผลประโยนช์อื่นๆ  ผมรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเว็บนี้มากจริงๆ

[schwartz_IR]

ผมเข้า web thaivi ตั้งแต่ยังใช้ชื่อเต็มว่า thaivalueinvestor.com
ได้รู้จัก FANCY จากลุงขวด ได้ซื้อ WG เพราะรู้จักสรรพคุณจากคุณฉัตรชัย
ได้เอาความรู้จากพี่ๆ หลายคน ไปลองผิดลองถูก ตั้งแต่ดูแต่ PE อย่างเดียว หัวหกก้นขวิดก็หลายที

การลอกการบ้าน มันก็มีอยู่บ้างแต่อยู่บนพื้นฐานของ ความเข้าใจในสิ่งที่เราจะซื้อ เข้าไปดูเข้าไปศึกษาเอง ผมไม่ซื้อหุ้นอย่าง N.., K..  เหตุเพราะไม่เคยดูไม่เคยเข้าใจอะไรมันเลย เพราะไม่ใช่สาวในสเปค ตอนนี้ก็ยังไม่ดู ไม่รู้เรียกซื่อบื้อรึเปล่า
เงินของใคร ก็ตัดสินใจกันเองครับ

[kmphol]

อ่านแล้วงง ว่า tvi เกิดวิกถตตรงไหน
เวปบอร์ดทุกแห่ง เป็นสังคมเปิด ในการแสดงความคิดเห็นที่ไม่มีการรับประกันความถูกต้องของความเห็นที่ถูกแสดง
ไม่มีการรับประกันผลตอบแทนของความเห็นที่แสดง
สมาชิกทุกท่านทั้งเก่าและใหม่ต้องใช้วิจารณญาณของตนเองในการใช้ความคิดเห็นเหล่านั้นอยู๋แล้ว

เวลากำไรหรือขาดทุนจึงควรให้เครดิตแก่วิจารณญาณของท่านเอง เวปบอร์ดเปนเพียงแหล่งของความเห็นแหล่งหนึ่งเท่านั้น มันไม่ใช่ลายแทงขุมทรัพย์ที่ใครใครก็ไปขุดได้


จะมาบอกว่าการโพสแสดงความเห็นของสมาชิกทำให้คุณภาพของเว็ปด้อยลงคงไม่ใช่หรอกครับ

ใครจะได้อะไรกำไรหรือขาดทุนจากเวปแห่งนี้มากน้อยแค่ไหน มันขึ้นกับคนที่เอาไปใช้มากกว่า ว่ามีมุมมองต่อความเห็นที่โพสอย่างไร ข้อความโพสต์เดียวกัน ถ้าคนอ่านมีมุมมองต่อข้อความนั้นต่างกัน กำไรขาดทุนก็ต่างกันด้วย
มันเปนเรื่องsubjective ที่ยากต่อการบอกว่าความที่โพสมันดี ไม่ดี ถูก ผิด จะมาจากเซียนหรือคนธรรมดามันก็เปนแค่เพียงความเห็นที่ไม่มีการรับรองความถูกต้อง

คนที่ใช้เวปนี้ควรระลึกในสิ่งเหล่านี้ไว้ด้วย
แล้วท่านจะลงทุนได้อย่างปลอดภัย ไม่เป็นแมงเม่า ไม่เปนเครื่องมือของใคร และไม่ตกเปนเหยื่อใคร

[ดำ]

เราอยากให้สังคมที่นี่ดีดี เราก็ต้องเริ่มจากตัวเอง โพส แสดงความคิดเห็นอะไรที่มันดีดี ครับ

เริ่มจากตัวเองสำคัญที่สุด

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

โครงการลด ละ เลิก เชียร์ (แบบไร้สาร)

เริ่มที่ตัวคุณเองก่อน แล้วสอนลูกหลาน

[prakarnb]

ผมคิดว่า เราไม่ควรปิดกั้นทุกความคิดเห็น การที่มีผู้ Post แบบมีงาน ( เชียร์หุ้นแบบมีนอกมีใน ) ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะเรา ( แฟนพันธุ์แท้ VI ) จะ Post ตอบและให้ความเห็นแบบตรงไปตรงมา ตัวไหนพื้นฐานไม่ดี ตัวไหนปั่น ก็ให้ความเห็นแบบจะจะ ไปเลย ซักพักก็จะหยุดไปเอง
     ไม่มีใครดูแลเราดี เท่าพวกเราดูแลกันเอง
พวกเขาจะรู้ว่า Board ของเรา ไม่ใช่ที่ปล่อยข่าว

VI_Sniper

[kurapica]

 :cheers:  :cheers:
สำหรับผม มันหมายความว่า ยินดีด้วยครับ หุ้นขึ้นเยอะต้องฉลองซักหน่อย

[pak]

ทุกครั้งที่ผมเข้าเว็บนี้...
ผมมักจะแอบภูมิใจ, อมยิ้ม และชื่นชมกับคำว่า "All for one, one for all" และ คำว่า "ไม่มีคำถามใดง่ายเกินไป โง่เกินไป"
คำพูดเหล่านี้แสดงถึง "ตัวตนและจิตวิญญาณ" ของเว็บไซต์แห่งนี้
นั่นก็คือ..."การให้"

----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ร้อยคนร้อยหุ้น
โครงการ "ร้อยคนร้อยหุ้น" แหล่งรวบรวมข้อมูลของหุ้นต่างๆ All for one, one for all
 
มือใหม่หัดลงทุน
โครงการทดลอง ยินดีต้อนรับทุกคำถามเกี่ยวกับการลงทุน ไม่มีคำถามใดง่ายเกินไป โง่เกินไป
----------------------------------------------------------------------------------------------------------

"การให้" อาจหมายถึง "การให้หรือแบ่งปันความรู้" , "การให้ข้อมูลที่ถูกต้อง"
หรือแม้แต่ "การให้สติ(ในกรณีที่บางคนอาจถูกชักจูงไปในทางที่ผิด)"
ผมเชื่อว่า "ในวิกฤติก็ยังมีความสวยงามซ่อนอยู่เสมอครับ"

[sialic]

เห็นด้วยกับคุณ kmphol ค่ะ  :lol:  :lol:

[Zumo]

ผมเป็นคนนึงที่ใช้เครื่องหมาย emotion บ่อยครับ มันเป็นเรื่องของการแสดงอารมณ์ ผมว่าไม่น่าผิดตรงไหนน่ะครับ  
ลองไปดูช่วงหุ้นตกๆ  "" ก้อจะเต็ม ห้องร้อยคนร้อยหุ้น ......แต่ไม่เห็นมีใครพูดถึง
พอตลาดขึ้นเยอะๆ":cheers:" เต็มห้องกลายเป็นคุณภาพกระทู้ต่ำลงซะงั้น

[Green_tree]

"เราคิดดูซิว่า ถ้าคนทุกคนต้องพูดให้ถูกใจฉัน คนทุกคนต้องทำให้ถูกใจฉันฉันจึงจะสงบ ฉันจึงจะสบาย คนทั้งโลกจะให้เขามาพูดถูกใจเรามีไหม จะมาทำถูกใจเราทุกคนมีไหม ไม่มี เมื่อไม่มี เราก็เป็นทุกข์อยู่ตลอดเวลา ถ้าเราไม่มีการปล่อยวาง เราเกิดมาในชีวิตหนึ่ง เราจะหาความสงบว่า คุณต้องพูดให้ถูกใจฉัน คุณต้องทำให้ถูกใจฉันฉันจึงจะสบาย ในชีวิตหนึ่งจะได้สบายไหมคนเรา คุณต้องพูดให้ถูกใจฉัน คุณก็ต้องทำให้ถูกใจฉัน ฉันจึงจะสงบ ถ้าไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่สงบ คนคนนี้เกิดมาไม่รู้กี่ชาติก็ไม่มีความสงบ เพราะคนหลายคนใครจะมาพูดให้ถูกใจเราทุกคน ใครจะมาทำให้ดีทุกคน มันไม่มีหรอกอย่างนี้ นี่มันเป็นธรรมะ เราจะต้องศึกษาอย่างนี้" - หลวงพ่อชา สุภัทโท

[pol256]

ผมมือใหม่ สมาชิกใหม่ เพิ่งเข้ามาอ่านเดือนที่แล้ว

อยากให้ความเห็นแบบนี้

มุม VI ก็จะมองว่าเด็กๆมาลอกไปเอากำไรเฉยๆ ไม่คิดเอง ซึ่งก็ถูก

เด็กขยัน ก็อยากทำได้อย่างพี่ๆ แต่ต้องใช้เวลา บางทีได้หุ้นซักตัวมาศึกษาทำไม พี่ๆถึงเลือกซื้อเพราะอะไร จังหวะเวลาไหน ราคาประมาณอย่างไร  ถ้าแบบนี้ก็จะเข้าใจได้เร็ว การอ่านหนังสือแต่ไม่ทำโจทย์หรือดูตัวอย่างก็ยากจะเข้าใจ

เด็กช่างลอก อันนี้สิที่พี่ๆต่อว่า ผมก็เห็นด้วย ไม่คิดจะศึกษา ได้อะไรมาซื้อตามอย่างเดียว กำไร 10-20% ก็ดีใจเป็นเจ้าเข้า แบบนี้ก็ไม่ไหว

เสนออีกทางออก ให้มีกดคะแนน +/- แต่ละคนได้ คนไหนทำดีก็ + คนไหนช่างลอกก็ -    มันจะติดตัวตลอดเวลาจะโพสท์อะไร ก็ไม่ต้องไปอ่านให้เสียอารมณ์เนอะ  :D

ปล. ThaiVI เป็นเวปดีๆที่เสนอแนวคิด และความรู้อย่างตรงไปตรงมา ต่างกันเวปปั่นอื่นๆมาก จึงอยากให้สังคม ThaiVI มีคุณภาพเช่นกันคับ

[picatos]

ผมว่ามันก็แค่กิเลสมนุษย์เท่านั้นแหละครับ...

นักลงทุนฝรั่งก็ซื้อหุ้นตามบัฟเฟต์เหมือนกัน

ไอ้วัฎจักรตามคนดัง ตามคนเก่ง ตามเซียนเนี่ยมันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป ในทุกๆ สังคมอยู่แล้ว ผมไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด เพราะ มันเป็นสัจธรรมอยู่แล้วว่ามนุษย์นั้นจมอยู่กับกองทุกข์ และกองกิเลส ถ้าคุณมองว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด นั่นหมายถึงคุณเริ่มเห็นความจำเป็นที่จะต้องละกิเลสแล้ว

การละซึ่งกิเลสได้ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี มีสติ ลอยอยู่เหนือกิเลส มองเห็น และใช้ประโยชน์จากกิเลสของคนอื่น นั่นแหละจะเป็นหนทางที่จะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ

ตั้งแต่ผมปฎิบัติวิปัสสนาและบวชกลับมา ผมอยากจะเขียนบทความเกี่ยวกับ "วิปัสสนากรรมฐานกับการลงทุนแบบ Value Investing" แต่เวลาและโอกาสยังไม่พร้อม... หวังว่าวันนึงจะได้มีโอกาสเขียนและเผยแพร่ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน

แต่บทสรุปของบทความนี้ คือ ผมเชื่อว่า การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน นั้นส่งเสริมให้ผมลงทุนแบบ VI ได้ดียิ่งขึ้นครับ

[newbie_12]

ผมว่ามันก็แค่กิเลสมนุษย์เท่านั้นแหละครับ...

นักลงทุนฝรั่งก็ซื้อหุ้นตามบัฟเฟต์เหมือนกัน

ไอ้วัฎจักรตามคนดัง ตามคนเก่ง ตามเซียนเนี่ยมันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป ในทุกๆ สังคมอยู่แล้ว ผมไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด เพราะ มันเป็นสัจธรรมอยู่แล้วว่ามนุษย์นั้นจมอยู่กับกองทุกข์ และกองกิเลส ถ้าคุณมองว่ามันเป็นสิ่งที่ผิด นั่นหมายถึงคุณเริ่มเห็นความจำเป็นที่จะต้องละกิเลสแล้ว

การละซึ่งกิเลสได้ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี มีสติ ลอยอยู่เหนือกิเลส มองเห็น และใช้ประโยชน์จากกิเลสของคนอื่น นั่นแหละจะเป็นหนทางที่จะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ

ตั้งแต่ผมปฎิบัติวิปัสสนาและบวชกลับมา ผมอยากจะเขียนบทความเกี่ยวกับ "วิปัสสนากรรมฐานกับการลงทุนแบบ Value Investing" แต่เวลาและโอกาสยังไม่พร้อม... หวังว่าวันนึงจะได้มีโอกาสเขียนและเผยแพร่ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน

แต่บทสรุปของบทความนี้ คือ ผมเชื่อว่า การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน นั้นส่งเสริมให้ผมลงทุนแบบ VI ได้ดียิ่งขึ้นครับ

เข้ามารอเป็นคนแรก

[kurapica]

"เราคิดดูซิว่า ถ้าคนทุกคนต้องพูดให้ถูกใจฉัน คนทุกคนต้องทำให้ถูกใจฉันฉันจึงจะสงบ ฉันจึงจะสบาย คนทั้งโลกจะให้เขามาพูดถูกใจเรามีไหม จะมาทำถูกใจเราทุกคนมีไหม ไม่มี เมื่อไม่มี เราก็เป็นทุกข์อยู่ตลอดเวลา ถ้าเราไม่มีการปล่อยวาง เราเกิดมาในชีวิตหนึ่ง เราจะหาความสงบว่า คุณต้องพูดให้ถูกใจฉัน คุณต้องทำให้ถูกใจฉันฉันจึงจะสบาย ในชีวิตหนึ่งจะได้สบายไหมคนเรา คุณต้องพูดให้ถูกใจฉัน คุณก็ต้องทำให้ถูกใจฉัน ฉันจึงจะสงบ ถ้าไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่สงบ คนคนนี้เกิดมาไม่รู้กี่ชาติก็ไม่มีความสงบ เพราะคนหลายคนใครจะมาพูดให้ถูกใจเราทุกคน ใครจะมาทำให้ดีทุกคน มันไม่มีหรอกอย่างนี้ นี่มันเป็นธรรมะ เราจะต้องศึกษาอย่างนี้" - หลวงพ่อชา สุภัทโท

ถูกต้องทุกประการ ผมเห็นด้วยอย่างแรง
แต่อะไรที่เราพอจะจัดการได้ก็น่าจะลองทำก่อน ส่วนที่จัดการไม่ได้ก็คงต้องเข้าใจและปล่อยมันไป

[ดำ]

การละซึ่งกิเลสได้ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี มีสติ ลอยอยู่เหนือกิเลส มองเห็น และใช้ประโยชน์จากกิเลสของคนอื่น นั่นแหละจะเป็นหนทางที่จะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ

แต่การช่วยกันป้องกันไม่ส่งเสริมให้คนอื่นเกิดกิเลส ก็เป็นสิ่งที่ควรทำไม่ใช่เหรอครับ

หรือว่าใช้หลัก "ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน" ดีกว่า

[PP]

.............................................................................................................................................
ตั้งแต่ผมปฎิบัติวิปัสสนาและบวชกลับมา ผมอยากจะเขียนบทความเกี่ยวกับ "วิปัสสนากรรมฐานกับการลงทุนแบบ Value Investing" แต่เวลาและโอกาสยังไม่พร้อม... หวังว่าวันนึงจะได้มีโอกาสเขียนและเผยแพร่ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน

แต่บทสรุปของบทความนี้ คือ ผมเชื่อว่า การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน นั้นส่งเสริมให้ผมลงทุนแบบ VI ได้ดียิ่งขึ้นครับ

มานั่งรออ่านแถวหน้าครับ  :)    น่าสนใจครับ" วิปัสนากรรมฐานกับการลงทุนแบบ Value Investing " อย่างที่คุณ picatos ว่าไว้  เพราะมนุษย์ คือ สิ่งมีชีวิตที่มากด้วยอารมณ์ (โลภ โกรธ หลง ชอบ เกลียด รัก  และอีกสารพัดจะสาธยาย)   น้อยคนที่จะมองเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในตัวเอง(........ผมว่า .....พระอรหันต์เท่านั้นที่จะเข้าใจลึกซึ้งถึงเรื่องนี้)  นอกจากคนที่เคยฝึกฝมีนสติตามรู้กายและใจของตนแบบวิปัสนากรรมฐานเท่านั้นจะมองเห็นสิ่งเหล่านี้ในตัวของตนเองได้  และหากสามารถรู้สิ่งเหล่านี้ได้ตามความเป็นจริงโดยมีสติรู้  ผมว่ามีประโยชน์มากต่อการลงทุนแบบ VI แน่นอน

จากบทความ Forbes on Buffett ( http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=42745 ) ที่ผมโพสต์แปะไว้เมื่อปลายเดือนก่อน โดยเฉพาะตอนที่ชื่อ "The Not-So-Silent Partner" หน้า 19 paragraph ที่ 4  Munger พูดถึงเรื่องของ ความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน ก่อผลด้านลบต่อการลงทุนครับ (แกเป็นนักปราชญ์จริงๆ)   ความดังนี้:

The last sentence explains a lot about both men. Munger is immensely opinionated. Yet he is willing to play second fiddle. To subordinate strong views and a powerful personality requires a high degree of self-discipline and objectivity.  Objectivity is the key word here. It means stripping decisions of emotions, of hopes and fears, of impatience and self-delusion and all purely subjective elements. Few peope have this strength. Munger does. Giving in sometimes to Buffett requires, in Munger's own words,"objectivity about where you rank in the scheme of things."

ยังไงก็ขออ่านจากประสบการณ์คุณ picatos หน่อยเพื่อเปรียบเทียบกับปรัชญาของ Munger  :lol:

[Sorgios]

ผมว่าโลกมันก็เป็นอย่างนี้ละครับ

ในป่าก็ไม่ได้มีสิงโตอย่างเดียว

มีลิง มีเต่า มีกวาง มีนก

สัตว์กินเนื้อบ้าง กินพืชบ้าง กินซากสัตว์ที่ตายแล้วบ้าง

ขโมยไข่เขากินบ้าง

มีความหลากหลายแต่งดงามในตัวของมันเอง

เปรียบเทียบได้เห็นภาพดีครับพี่

[นพพร]

เห็นด้วยกับความทุกท่านเลยครับที่อยากให้เวปนี้มีคุณภาพที่ดีต่อไป ถึงเป็นเด็กใหม่แต่อายุเกินเด็กที่พึ่งเข้ามาเวปนี้ ก็จะไม่ลอกหุ้นครับ แต่จะพยายามหาเอง

[PRO_BABY]

เมื่อก่อนตอนผมเรียนจบใหม่ๆ ก็ได้ thaivi นี่แหละครับ ทุกกระทู้ ทุกบทความ สาระ เนื้อหา ข้อมูล แต่เดี๋ยวนี้......................น่าจะให้ที่นี่เป็นเหมือนที่ศึกษา ขอความรู้ ให้ข้อมูล แนวคิด มากกว่าเชียร์หุ้นครับ

ผมก็เด็กใหม่เพิ่งเปิดพอร์ทครับ

[miracle]

เมื่อคุณคิดบวก มันก็เป็นบวก
คิดเป็นลบ มันก็ลบ
มันเหมือนดาบสองด้านล่ะ
เราห้ามความคิดของคนอื่นไม่ได้
แล้วความคิดของเราก็รวดเร็วมากเหมือนกัน
แล้วเรารู้ทันความคิดของเราแล้วหรือยัง

[ake3004]

waiting K. Picatos book kab.Pls update

[Anti-Aircraft]

[quote="pak"]ทุกครั้งที่ผมเข้าเว็บนี้...
ผมมักจะแอบภูมิใจ, อมยิ้ม และชื่นชมกับคำว่า "All for one, one for all" และ คำว่า "ไม่มีคำถามใดง่ายเกินไป โง่เกินไป"
คำพูดเหล่านี้แสดงถึง "ตัวตนและจิตวิญญาณ" ของเว็บไซต์แห่งนี้
นั่นก็คือ..."การให้"

----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ร้อยคนร้อยหุ้น
โครงการ "ร้อยคนร้อยหุ้น" แหล่งรวบรวมข้อมูลของหุ้นต่างๆ All for one, one for all

[pornchai_w]

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาเวป thaivi ได้ไม่นาน ที่โพสแสดงความเห็นก็ไม่ได้มีข้อมูลเด็ดๆ อะไรมาบอก เพราะวิเคราะห์บริษัทได้แบบพื้นๆ หลายๆครั้งก็ คอมเม้นท์ไปตามความรู้สึก บางทีอ่านข้อมูลบางบริษัทที่พี่ๆเพื่อนๆบอกว่าน่าสนใจก็ไปวิเคราะห์ต่อแล้วซื้อตามบ้าง และดูว่าเซียนสนใจตัวไหนก็ตามดู ก็เห็นมันขึ้นไปได้ดี แต่ไม่กล้าซื้อตามก็เยอะเพราะยังไม่ได้วิเคราะห์เอง

อย่างไรก็ตามผมมีความรู้สึกว่าเวป thaivi ก็คล้ายๆ หุ้นตัวหนึ่งที่มีข่าวเข้ามากระทบ เซียนท่านต่างๆ ก็คงคล้ายๆข่าวดี ช่วงแรกคนข้างนอกก็ยังไม่รู้จักเวป thaivi แต่พอมีข่าวดีออกเรื่อยๆ ว่าซื้อตามเซียนแล้วกำไร ก็มีการสนใจจากคนข้างนอกและเข้ามาดูมาซื้อตามแล้วก็ได้กำไรจริง ซึ่งก็เป็นธรรมดาเวลาคนได้ก็จะเสียงดัง พยายามเข้ามาคุยว่าได้เท่านั้นเท่านี้ ซื้อตามแล้วดีอย่างนั้นอย่างนี้

แต่ผมคิดว่าพอถึงจุดหนึ่ง หุ้นที่ไม่ได้ดีจริงแต่มีการนั่งเทียนคาดการณ์ว่าจะดีอย่างนั้นอย่างนี้แล้ว คนที่ไม่วิเคราะห์ด้วยตัวเอง แห่ซื้อตาม แต่หุ้นไม่ดีจริงสุดท้ายราคาหุ้นก็จะตกมาที่พื้นฐาน กลุ่มคนพวกนี้ก็จะหายไปจากเวปเพราะคิดว่าไม่มีข่าวดี หรือ ไม่ดีจริงแล้ว (ซึ่งหากเป็น vi ที่เป็นคนไฝ่รู้ก็คงไม่ซื้อตามแห่ เพราะหลายคนบอกว่าเปลี่ยนแนวมาเป็น vi ซึ่งเป็นแบบที่วิเคราะห์ด้วยตัวเองแล้ว แต่หากยังลงทุนแบบสมัยก่อนที่ซื้อตามโพยอยู่อีกก็ไม่ควรเรียกตัวเองว่า vi อยู่ดี)

ผมว่าเราคงไม่สามารถบังคับให้คนทุกคนที่เข้ามาดู เปลี่ยนแนวความคิดให้เป็น vi หรือโพสข้อความทุกอย่างแบบที่ ชาวvi คิดได้ แต่ผมคิดว่าสุดท้ายแล้วหากที่นี่ไม่เหมาะกับเขา เขาก็จะค่อยๆ ถอยห่างออกไปเอง

ขอquoteคำตอบของ ดร. นะครับที่ผมถามในงานจิบเบียร์ที่ผ่านมา (ขอบคุณน้องแชมป์ ที่ช่วยจดเล็กเซอร์ มาให้)

ถาม    VI นี่จะมีคนเยอะไปถึงไหน
ดร.ตอบ  ผมก็มองว่า VI มันก็คงจะโตไปรื่อยๆแต่เมือ่ไปถึงจุดนึงมันก้จะหยุด มีคนเข้า คนออก ไม่โกรท ซึ่งมันก็เปนเหมือนกันทุกที และ VI ก็ไม่ได้ครองตลาด แต่ก็มีหุ้นบ้างตัวที่เราก็ไปมีอิจธิพลทำให้ขึ้นลงได้อยุ่บ้าง 555 แสดงว่าเงินพวกเราหลังๆก็คงเยอะอยู่

[นักดูดาว]

ไม่มีอะไรอยู่ค้ำฟ้า

เห็นคนเก่งๆหลายท่านที่เคยอยู่ในเว็บนี้ หันไปเล่น facebook, twitter, BB หรือไม่ก็ตั้งกลุ่มตั้งเว็บกันใหม่แล้ว ไม่เฉพาะเว็บนี้ แต่เว็บอื่นก็เป็น

กระแส social network มันแรงครับ มวลชนเริ่มขยับก้าวหน้า หลุดออกจากกรอบเดิมๆ สื่อที่ตามไปไม่ทันก็ด้อยลงเป็นธรรมดา