ของผมเป็นราชการแบบใหม่ครับ เค้าเรียก พนักงานองค์การของรัฐ ครับถือบัตรตราครุฑเหมือนกัน เบิกค่ารักษาพยาบาลได้เหมือนกัน แต่ที่ไม่เหมือนคือผมใช้ระบบเซ็นต์สัญญาเอาครับ มีการประเมินงานเหมือนรัฐวิสาหกิจและเอกชน(งานไม่ได้ตามเป้าก็ บ๊าย บาย) ส่วนบำเหน็จบำนาญผมไม่มีครับ หน่วยงานผมใช้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพครับ หักเก็บจากเงินเดือนเรา ผมก็ให้เค้าหักเต็มที่ 8% จากเงินเดือนแล้วก็ลืมมันไปเลยครับ... ไม่รู้ตอนออกจะได้เท่าไหร่ 555Magneto เขียน:คุณ sukum เป็นข้าราชการเดี๋ยวนี้ยังมีบำนาญอยู่หรือเปล่าครับ
หรือว่ารอรับบำเหน็จก้อนโตทีเดียว
ตั้งใจรับน้อยกว่าในตอนนี้เพื่อไปรับส่วนที่เหลือตอนเกษียณใช่ไหมครับเนี่ย
ถ้าเป็นบำนาญ อยู่ยาวๆ ก็ไม่เลวนะครับ เห็นบางคนทำงานตอน 23 ปี ทำถึง 60 ปี รวม 38 ปี แต่ได้บำนาญตั้งแต่ปีที่ 61 ถึง 100 ก็อีกครึ่งชีวิต รวมค่ารักษาพยาบาลทั้งหลายด้วย และถ้าทำงานดีมีผลงาน ได้เติบโตไป บำนาญก็ได้หลายตังก์อยู่
ปรึกษาครับว่าจะซื้อบ้านดีมั้ย และบ้านเป็นหนี้สินหรือเป็นทรัพ
- sukum
- Verified User
- โพสต์: 13
- ผู้ติดตาม: 0
ปรึกษาครับว่าจะซื้อบ้านดีมั้ย และบ้านเป็นหนี้สินหรือเป็นทรัพ
โพสต์ที่ 31
-
- Verified User
- โพสต์: 1289
- ผู้ติดตาม: 0
ปรึกษาครับว่าจะซื้อบ้านดีมั้ย และบ้านเป็นหนี้สินหรือเป็นทรัพ
โพสต์ที่ 32
ผมก็ยึดหลักการนี้เหมือนกันครับ ไม่มี BB, iPhone ไม่ฟุ่มเฟือยใช้อะไรหรูๆลูกอิสาน เขียน:
ลำบากวันนี้ เพื่อสบายในวันหน้า น่าจะเป็นหนทางรวย(ถ้าต้องการรวยนะ) คนทั่วไปที่ไม่รวยส่วนใหญ่บินก่อนผ่อนทีหลังกันทั้งนั้น
...ทุกวันนี้ก็ยังได้ผล ยัง"ไม่จน" สักที
อีกคำนึงครับ
ยังไม่รวย... อยู่อย่างรวย... จะไม่รวย... ยังไม่จน... อยู่อย่างจน... จะไม่จน
http://www.thaiinfonet.com/money/49-rich.html
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 1289
- ผู้ติดตาม: 0
ปรึกษาครับว่าจะซื้อบ้านดีมั้ย และบ้านเป็นหนี้สินหรือเป็นทรัพ
โพสต์ที่ 33
คุณ sukum อาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนไปนิดนึง เรือง RICH DAD POOR DAD ของ kiyosaki ..ครับ
การซื้อบ้าน เค้าเน้นมองแง่ลงทุน คือ ถ้ามันทำรายได้เข้ากระเป๋าเราทุกเดือน(ค่าเช่า)
จะ นับว่า สินทรัพย์ ...ถ้าอย่างรถ ซื้อมา ขับแท๊กซี่ ก็นับเป็นสินทรัพย์ได้
แต่ถ้าซื้อแล้ว มันไม่ทำรายได้ ก็นับเป็นหนี้สิน (หรือ คนไม่เช่า หรือ ได้ค่าเช่า5พัน แต่ผ่อน หมึ่น สรุปขาดทุนก็เป็นหนี้สิน)
ส่วนถ้าซื้อเพื่ออยู่เอง นั้น..ไม่อยากให้ยึดติดกับการนับแบบลงทุนมากนักครับ เอาว่า ซื้อให้เหมือนจะเพื่อลงทุน แล้วอยู่เเอง อนาคตปล่อยเช่าก็ได้ขายก็ดี ...ก็พอครับ (ประมาณคุณ O_CHAY)
เรื่องการงาน การก้าวหน้าด้านรายได้
...หากเป็นผมๆจะตั้งเป้าหมายก่อน "เขียนให้ชัดเจน"คุณ sukum ลองไปหาหนังสือแนว ทำงานให้ success/สร้างแรงบันดาลใจดูนะครับ
http://www.google.co.th/search?hl=th&q= ... =&gs_rfai=
ตั้งเป้าแล้ว....มาเรียงลำดับ
เรียนโทก็ใช้เงินเยอะ คุณจ่ายปีละ110,000 (90k+ค่าอื่นๆมีแน่นอน) แต่ เก็บปีละ 30000 ...เอา อย่างเดียว ไม่พอแล้ว แม้มีเงิน8หมื่นก็ตาม ปีหน้าไม่พอ
คุณเอาทีละอย่าง แล้วแต่ว่าเราจัดอะไรสำคัญก่อน ...เน้นว่ามองภาพรวมๆ
สมมติ
1.คุณอยากมีความสุขในชีวิต
2.อยากเรียนโท
3.อยากมีบ้าน
เขียน excel ธรรมดาๆ เขียน รายรับรายจ่ายเป็นยังไง
บวกเข้าไปว่า เดือนนึงต้องใช้อะไร จ่ายอะไร ถ้ากู้ซื้อบ้าน พอไหม , ถ้าเรียนโท
ทำออกมาให้เห็นเลขจริงๆ เห็นภาพ อย่าคิดในใจ
ถ้าเรียนโท หรือ ซื้อบ้าน มันทำให้การเงินมีปัญหา=คุณทุกข์..ภาพรวมก็เสีย ก็ไม่น่าทำ ...ถูกไหมครับ
ลองดู เรียนโืท..แล้วงานไม่เข้า เงินไม่พอ เครียดว่า ค่าเทอมๆหลังๆ ไม่พอ จะได้จบมั้ยเนี่ย...ก็ไม่มีความสุข..หมดกำลังใจอีก...เห็นด้วยใช่ไหมครับ
ลองดู บ้าน.....แล้วดอกเบี้ยขึ้น เศรษฐกิจแย่ งานไม่เข้า เงินเดือนไม่พอผ่อน...ทำโอถึงห้าทุ่ม...ขายหุ้นมาโปะ...กลัวโดนยึด...เครียดอีก...อุตส่าห์มีวิมาน
ที่นี้ ทำไงจะ ได้เิงินมาเพิ่ม เดือนละ 10,000บาท ให้ไวที่สุด
ก็ต้อง หารายได้เพิ่ม จะย้ายงาน หรือ เพิ่มรายได้อีกทาง ทำอะไรแล้วแต่ถนัด
แต่ต้อง"ทำ"
....ไม่งั้นหากคุณ คิดแบบเดิมๆ พูดแบบเดิม "ทำ"แบบเดิมๆ ผลออกมา ก็เดิมๆ
คือ ปีหน้า ยังไม่ชัวร์ว่าจะมีเงินเรียนโท ได้จบอย่างแน่นอน สบายใจ
หรือ รออีก 5ปี ถึง มีบ้าน อย่างมั่นคง.
คุณ"ทำ"ได้ครับ :D
การซื้อบ้าน เค้าเน้นมองแง่ลงทุน คือ ถ้ามันทำรายได้เข้ากระเป๋าเราทุกเดือน(ค่าเช่า)
จะ นับว่า สินทรัพย์ ...ถ้าอย่างรถ ซื้อมา ขับแท๊กซี่ ก็นับเป็นสินทรัพย์ได้
แต่ถ้าซื้อแล้ว มันไม่ทำรายได้ ก็นับเป็นหนี้สิน (หรือ คนไม่เช่า หรือ ได้ค่าเช่า5พัน แต่ผ่อน หมึ่น สรุปขาดทุนก็เป็นหนี้สิน)
ส่วนถ้าซื้อเพื่ออยู่เอง นั้น..ไม่อยากให้ยึดติดกับการนับแบบลงทุนมากนักครับ เอาว่า ซื้อให้เหมือนจะเพื่อลงทุน แล้วอยู่เเอง อนาคตปล่อยเช่าก็ได้ขายก็ดี ...ก็พอครับ (ประมาณคุณ O_CHAY)
เรื่องการงาน การก้าวหน้าด้านรายได้
...หากเป็นผมๆจะตั้งเป้าหมายก่อน "เขียนให้ชัดเจน"คุณ sukum ลองไปหาหนังสือแนว ทำงานให้ success/สร้างแรงบันดาลใจดูนะครับ
http://www.google.co.th/search?hl=th&q= ... =&gs_rfai=
ตั้งเป้าแล้ว....มาเรียงลำดับ
เรียนโทก็ใช้เงินเยอะ คุณจ่ายปีละ110,000 (90k+ค่าอื่นๆมีแน่นอน) แต่ เก็บปีละ 30000 ...เอา อย่างเดียว ไม่พอแล้ว แม้มีเงิน8หมื่นก็ตาม ปีหน้าไม่พอ
คุณเอาทีละอย่าง แล้วแต่ว่าเราจัดอะไรสำคัญก่อน ...เน้นว่ามองภาพรวมๆ
สมมติ
1.คุณอยากมีความสุขในชีวิต
2.อยากเรียนโท
3.อยากมีบ้าน
เขียน excel ธรรมดาๆ เขียน รายรับรายจ่ายเป็นยังไง
บวกเข้าไปว่า เดือนนึงต้องใช้อะไร จ่ายอะไร ถ้ากู้ซื้อบ้าน พอไหม , ถ้าเรียนโท
ทำออกมาให้เห็นเลขจริงๆ เห็นภาพ อย่าคิดในใจ
ถ้าเรียนโท หรือ ซื้อบ้าน มันทำให้การเงินมีปัญหา=คุณทุกข์..ภาพรวมก็เสีย ก็ไม่น่าทำ ...ถูกไหมครับ
ลองดู เรียนโืท..แล้วงานไม่เข้า เงินไม่พอ เครียดว่า ค่าเทอมๆหลังๆ ไม่พอ จะได้จบมั้ยเนี่ย...ก็ไม่มีความสุข..หมดกำลังใจอีก...เห็นด้วยใช่ไหมครับ
ลองดู บ้าน.....แล้วดอกเบี้ยขึ้น เศรษฐกิจแย่ งานไม่เข้า เงินเดือนไม่พอผ่อน...ทำโอถึงห้าทุ่ม...ขายหุ้นมาโปะ...กลัวโดนยึด...เครียดอีก...อุตส่าห์มีวิมาน
ที่นี้ ทำไงจะ ได้เิงินมาเพิ่ม เดือนละ 10,000บาท ให้ไวที่สุด
ก็ต้อง หารายได้เพิ่ม จะย้ายงาน หรือ เพิ่มรายได้อีกทาง ทำอะไรแล้วแต่ถนัด
แต่ต้อง"ทำ"
....ไม่งั้นหากคุณ คิดแบบเดิมๆ พูดแบบเดิม "ทำ"แบบเดิมๆ ผลออกมา ก็เดิมๆ
คือ ปีหน้า ยังไม่ชัวร์ว่าจะมีเงินเรียนโท ได้จบอย่างแน่นอน สบายใจ
หรือ รออีก 5ปี ถึง มีบ้าน อย่างมั่นคง.
คุณ"ทำ"ได้ครับ :D
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
- KGYF
- Verified User
- โพสต์: 399
- ผู้ติดตาม: 0
ปรึกษาครับว่าจะซื้อบ้านดีมั้ย และบ้านเป็นหนี้สินหรือเป็นทรัพ
โพสต์ที่ 35
บ้าน คือ วิมาน ทุกคนต้องมีบ้านครับ แต่มีแล้วต้องไม่เป็นภาระที่หนักเกินไป ถึงจะเรียกว่า บ้าน
" สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ = การให้ธรรมะเป็นทาน ย่อมชนะการให้ทั้งปวง "
" ทุกข์มี เพราะยึด ทุกข์ยืด เพราะอยาก ทุกข์มาก เพราะพลอย ทุกข์น้อย เพราะหยุด ทุกข์หลุด เพราะปล่อย"
" ทุกข์มี เพราะยึด ทุกข์ยืด เพราะอยาก ทุกข์มาก เพราะพลอย ทุกข์น้อย เพราะหยุด ทุกข์หลุด เพราะปล่อย"
-
- Verified User
- โพสต์: 44
- ผู้ติดตาม: 0
มือใหม่
โพสต์ที่ 36
พอดีผมเรียน ป.ตรีอยู่ปีนี้จะจบแล้ว....
อ่านๆดูแล้วมันน่าคือมากเลย...
ถ้าเราอยากมีบ้านเราจะเล่นหุ้นก้ลำบาก
ถ้าอยากได้ป้ายแดงก้ผ่อนเดือนเกือบหมื่น
อื่ม...ใครอยากมีบีบีไอโฟนก้ ผ่อนกันเข้าไป...
เห็นรุ่นพี่จบใหม่ๆหลายคนได้ตังเยอะหน่อย
ผลาญกับของฟุ่มเฟือยทั้งนั้นเลย
อ่านๆดูแล้วมันน่าคือมากเลย...
ถ้าเราอยากมีบ้านเราจะเล่นหุ้นก้ลำบาก
ถ้าอยากได้ป้ายแดงก้ผ่อนเดือนเกือบหมื่น
อื่ม...ใครอยากมีบีบีไอโฟนก้ ผ่อนกันเข้าไป...
เห็นรุ่นพี่จบใหม่ๆหลายคนได้ตังเยอะหน่อย
ผลาญกับของฟุ่มเฟือยทั้งนั้นเลย
- kosol
- Verified User
- โพสต์: 76
- ผู้ติดตาม: 0
ปรึกษาครับว่าจะซื้อบ้านดีมั้ย และบ้านเป็นหนี้สินหรือเป็นทรัพ
โพสต์ที่ 37
ผมว่าบ้านเป็นได้ทั้งสองอย่างในตัวมันเองครับ ถ้าไปกู้มาซื้อบ้านแล้วให้เช่าเงินเก็บค่าเช่าลบเงินที่ต้องจ่ายทางธนาคารแล้ว สมมติเหลือแสดงว่าบ้านเป็นทรัพย์สินและหากไม่เหลือแสดงว่าพี่กำลังจนลงเรื่อย ๆ แต่ถ้าอยู่เองเป็นหนี้สิน10000เปอร์เซ็นต์ครับ ไม่มีทรัพย์สินตัวไหนหรอกที่คอยกัดกินเงินจากกระเป๋าเราทุกเดือน เพราะถ้าเป็นทรัพย์สินจริงมันต้องคอยดูดเงินเข้ากระเป๋าเรามากกว่า หรือที่ผมเรียกว่าหนี้ดีนั้นเอง แต่ไม่ใช่ไม่อยากให้มีบ้านนะ แต่เราควรมีตอนที่เราพร้อมหรือมีรายได้จากที่อื่นมาจ่ายค่าผ่อนบ้าน แต่ถ้าคุณทำได้สักวันคุณจะสบายครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 147
- ผู้ติดตาม: 0
ปรึกษาครับว่าจะซื้อบ้านดีมั้ย และบ้านเป็นหนี้สินหรือเป็นทรัพ
โพสต์ที่ 38
คนที่มีบ้านอยู่แล้ว ถือว่าโชคดีนะครับที่มี่ต้นทุนที่ดี
สำหรับคนที่ไม่มีบ้าน กว่าจะตัดสินใจว่าจะมีบ้าน คิดหนักหลายตลบ
อย่างผม ไม่มีไรเลยในชีวิต ลงทุนในหุ้น ก็อยากทำ ซื้อบ้านก็ต้องทำ อายุมาขนาดนี้แล้ว สุดท้ายยังไงๆ ก็ตอ้งมีบ้าน ให้ครอบครัวมีบ้านเสียที (หลังจากเช่ามานาน)
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนซื้อบ้าน สำหรับผมคือ
-เตรียมความพร้อมเรื่องค่าใช้จ่าย แบ่งรายได้รายจ่ายประจำเดือนออกให้ชัดเจนเสียก่อน มีรายจ่ายทุกเดือนขั้นต่ำประมาณเท่าไร เหลือเงินเท่าไร มาคำนวณในการผ่อนบ้านทุกเดือน นอกจากนี้ต้องมองรายจ่ายที่ตามมาด้วย เช่น ค่าส่วนกลางประจำเดือน ค่าน้ำค่าไฟ (ปกติอยู่ราชการเสียน้อยมาก) ต้องเอามาคำนวณคร่าวๆไว้ จะได้กันเงินได้
-ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องดู เช่น ค่าตกแต่งบ้าน รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ( ผมไม่มีเลยสักอย่าง ทีวีแอร์ตู้เย็นที่นอน ตอ้งเริ่มจากศูนย์) ค่าจ้างแม่บ้านมาดูแลบ้าน
-พยายามกันเงินลงทุนในหุ้น แต่ไม่รู้จะทำได้แค่ไหน เรื่องนี้เครียดสุด 55
สุดท้าย กลัวชีวิตจะกลับมาเป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนเดิม
เพราะภาระ ต่างๆ ที่เกิด แต่ก็จำเป็น ทำไงได้
สำหรับคนที่ไม่มีบ้าน กว่าจะตัดสินใจว่าจะมีบ้าน คิดหนักหลายตลบ
อย่างผม ไม่มีไรเลยในชีวิต ลงทุนในหุ้น ก็อยากทำ ซื้อบ้านก็ต้องทำ อายุมาขนาดนี้แล้ว สุดท้ายยังไงๆ ก็ตอ้งมีบ้าน ให้ครอบครัวมีบ้านเสียที (หลังจากเช่ามานาน)
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนซื้อบ้าน สำหรับผมคือ
-เตรียมความพร้อมเรื่องค่าใช้จ่าย แบ่งรายได้รายจ่ายประจำเดือนออกให้ชัดเจนเสียก่อน มีรายจ่ายทุกเดือนขั้นต่ำประมาณเท่าไร เหลือเงินเท่าไร มาคำนวณในการผ่อนบ้านทุกเดือน นอกจากนี้ต้องมองรายจ่ายที่ตามมาด้วย เช่น ค่าส่วนกลางประจำเดือน ค่าน้ำค่าไฟ (ปกติอยู่ราชการเสียน้อยมาก) ต้องเอามาคำนวณคร่าวๆไว้ จะได้กันเงินได้
-ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องดู เช่น ค่าตกแต่งบ้าน รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ( ผมไม่มีเลยสักอย่าง ทีวีแอร์ตู้เย็นที่นอน ตอ้งเริ่มจากศูนย์) ค่าจ้างแม่บ้านมาดูแลบ้าน
-พยายามกันเงินลงทุนในหุ้น แต่ไม่รู้จะทำได้แค่ไหน เรื่องนี้เครียดสุด 55
สุดท้าย กลัวชีวิตจะกลับมาเป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนเดิม
เพราะภาระ ต่างๆ ที่เกิด แต่ก็จำเป็น ทำไงได้