ผลตอบแทน 5-6 % ใน 6 เดือน
-
- Verified User
- โพสต์: 1150
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทน 5-6 % ใน 6 เดือน
โพสต์ที่ 4
กองทุนอสังหาริมทรัพย์ SIRIPF เป็นกองทุนที่ทาง แสนสิริ ขายให้กองทุน
โดยสัญญาว่าจะจ่ายผลตอบแทนคงที่เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยมีเงื่อนไขว่า
เมื่อครบ 5 ปี กองทุนมีสิทธิขายคืนในแสนสิริในราคาที่ซื้อมา ซึ่งในเดือนกันยายนนี้กองทุนก็จะครบ 5 ปี ซึ่งกองทุนได้มีมติไปแล้ว่าให้ขายทรัพย์สินคืนให้แสนสิริในราคาที่ซื้อมา โดยมี option เพิ่มเติมว่า ถ้าแสนสิริ หาคนมาซื้อในราคาที่สูงกว่ากองทุนจะขายให้แสนสิริได้ กองทุนก็อาจขายได้ในราคาที่สูงกว่าซื้อมา
ตอนนี้ ราคา SIRIPF อยู่ที่ 9.9 บาท ถ้าขายคืนได้ 10 บาท ก็ได้ผลตอบแทน .1 บาท รวมกับผลตอนแทนรายปีของปีนี้อีก 9 เดือน ซึ่งปกติจะจ่าย .182 ประมาณ 3 Quater ประมาณ 0.182*3 ซึ่งก็จะหักค่าใช่จ่ายของบริษัทจัดการกองทุนอีกเล็กน้อย ผลตอบแทนก็จะประมาณนี้ แต่อาจจะมากขึ้นถ้าโชคดีมีคนมาซื้อทรัพย์สินในราคาที่สูงกว่าราคาขายในแสนสิริ
โดยสัญญาว่าจะจ่ายผลตอบแทนคงที่เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยมีเงื่อนไขว่า
เมื่อครบ 5 ปี กองทุนมีสิทธิขายคืนในแสนสิริในราคาที่ซื้อมา ซึ่งในเดือนกันยายนนี้กองทุนก็จะครบ 5 ปี ซึ่งกองทุนได้มีมติไปแล้ว่าให้ขายทรัพย์สินคืนให้แสนสิริในราคาที่ซื้อมา โดยมี option เพิ่มเติมว่า ถ้าแสนสิริ หาคนมาซื้อในราคาที่สูงกว่ากองทุนจะขายให้แสนสิริได้ กองทุนก็อาจขายได้ในราคาที่สูงกว่าซื้อมา
ตอนนี้ ราคา SIRIPF อยู่ที่ 9.9 บาท ถ้าขายคืนได้ 10 บาท ก็ได้ผลตอบแทน .1 บาท รวมกับผลตอนแทนรายปีของปีนี้อีก 9 เดือน ซึ่งปกติจะจ่าย .182 ประมาณ 3 Quater ประมาณ 0.182*3 ซึ่งก็จะหักค่าใช่จ่ายของบริษัทจัดการกองทุนอีกเล็กน้อย ผลตอบแทนก็จะประมาณนี้ แต่อาจจะมากขึ้นถ้าโชคดีมีคนมาซื้อทรัพย์สินในราคาที่สูงกว่าราคาขายในแสนสิริ
-
- Verified User
- โพสต์: 124
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทน 5-6 % ใน 6 เดือน
โพสต์ที่ 5
วาระที่ 2. รับทราบการแต่งตั้งผู้ดำเนินการจำหน่ายทรัพย์สินของกองทุนรวม
มติผู้ถือหน่วยลงทุน :
ผู้ถือหน่วยลงทุนรับทราบการแต่งตั้งบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการจำหน่ายทรัพย์สินของ
กองทุน รวมแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งทำหน้าที่บริหารงานขายตั้งแต่การประกาศขายทรัพย์สินเป็นการทั่วไป
จนกระทั่งครบกำหนดเวลาการขายคืนทรัพย์สินให้แก่แสนสิริ ทั้งนี้ ในการทำหน้าที่ดังกล่าว บริษัทจัดการจะ
เป็นผู้พิจารณาราคาขายครั้งสุดท้าย ส่วนค่าบริหารงานขายทรัพย์สินมีอัตราร้อยละ 3 ของราคาทรัพย์สินที่ขายได้
และกองทุนรวมจะเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการบริหารงานขายและ/หรือจากการดำเนินการ
โฆษณาประชาสัมพันธ์ตามสัดส่วนของราคาทุนของทรัพย์สินที่ขายได้เมื่อเทียบกับราคาทุนของทรัพย์สินทั้งหมด
ตรงที่ 3% ทางกองทุนเป็นคนออกค่าใช้จ่าย แปลว่า ถ้าขายได้ที่ราคา 10 บาทจะเหลือคืนแค่ 9.7 บาท หรือเปล่าครับ อ่านแล้วยัง งงๆ
มติผู้ถือหน่วยลงทุน :
ผู้ถือหน่วยลงทุนรับทราบการแต่งตั้งบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการจำหน่ายทรัพย์สินของ
กองทุน รวมแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งทำหน้าที่บริหารงานขายตั้งแต่การประกาศขายทรัพย์สินเป็นการทั่วไป
จนกระทั่งครบกำหนดเวลาการขายคืนทรัพย์สินให้แก่แสนสิริ ทั้งนี้ ในการทำหน้าที่ดังกล่าว บริษัทจัดการจะ
เป็นผู้พิจารณาราคาขายครั้งสุดท้าย ส่วนค่าบริหารงานขายทรัพย์สินมีอัตราร้อยละ 3 ของราคาทรัพย์สินที่ขายได้
และกองทุนรวมจะเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการบริหารงานขายและ/หรือจากการดำเนินการ
โฆษณาประชาสัมพันธ์ตามสัดส่วนของราคาทุนของทรัพย์สินที่ขายได้เมื่อเทียบกับราคาทุนของทรัพย์สินทั้งหมด
ตรงที่ 3% ทางกองทุนเป็นคนออกค่าใช้จ่าย แปลว่า ถ้าขายได้ที่ราคา 10 บาทจะเหลือคืนแค่ 9.7 บาท หรือเปล่าครับ อ่านแล้วยัง งงๆ
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทน 5-6 % ใน 6 เดือน
โพสต์ที่ 6
[quote="weraphat"]วาระที่ 2. รับทราบการแต่งตั้งผู้ดำเนินการจำหน่ายทรัพย์สินของกองทุนรวม
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทน 5-6 % ใน 6 เดือน
โพสต์ที่ 7
เอ้อ 9.7 ถูกแล้วนี่หว่า เมาแล้วเรา :drink: :drink: :drink:กล้วยไม้ขาว เขียน:3% น่าจะ 9.97 มากกว่านะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1070
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทน 5-6 % ใน 6 เดือน
โพสต์ที่ 12
ที่ ING.0110/2553 วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553
เรื่อง แจ้งวันปิดสมุดทะเบียนการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหน่วยลงทุนในการเข้าประชุมผู้ถือหน่วย
ลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ (SIRIPF)
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ("บริษัทจัดการ") ในฐานะบริษัทจัดการของ
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ ("กองทุนรวม") ขอแจ้งให้ทราบว่า ตามที่กองทุนรวมได้จดทะเบียนจัดตั้ง
กองทุนเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2548 และได้ลงทุนในบ้านเดี่ยวในโครงการบ้านแสนสิริ-สุขุมวิท 67 จำนวน 25 หลัง
ในราคาทั้งสิ้น 850 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2548 โดยเมื่อกองทุนรวมได้ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวแล้ว
กองทุนรวมได้ให้ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ("แสนสิริ") เช่าทรัพย์สินดังกล่าว เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยคิดค่าเช่า
สำหรับบ้าน 25 หลัง ในอัตรา 70 ล้านบาทต่อ ปี ซึ่งตามโครงการจัดการของการทุนรวม (หน้า 13) กำหนดไว้ว่า
"2. เมื่อสิ้นสุดระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่กองทุนลงทุนในทรัพย์สินข้างต้น หากกองทุนประสงค์จะ
จำหน่ายทรัพย์สินของกองทุนไม่ว่าบางรายการ หรือทั้งหมด กองทุนจะใช้วิธีการเปิดเผยและเปิดโอกาสให้
บุคคลใดๆ ที่ประสงค์จะซื้ออย่างเสมอภาคกันเป็นอันดับแรก และในกรณีที่ได้ดำเนินการดังกล่าวแล้ว แต่ไม่มีผู้เสนอ
ซื้อหรือมีผู้เสนอซื้อในราคาต่ำกว่าราคาที่กองทุนซื้อมา กองทุนอาจจะใช้สิทธิเรียกให้บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
รับซื้อทรัพย์สินคืน (Put Option) บางรายการ หรือทั้งหมดตามที่กองทุนเห็นสมควร ในราคาที่กองทุนซื้อมา
3. ในส่วนของทรัพย์สินที่กองทุนไม่ได้จำหน่ายให้แก่บุคคลใดๆ และไม่ได้ใช้สิทธิเรียกให้ บริษัท แสนสิริ
จำกัด (มหาชน) ซื้อทรัพย์สินคืน (Put Option) เมื่อครบกำหนดระยะเวลาการเช่า 5 ปี กองทุนและบริษัท แสนสิริ จำกัด
(มหาชน) อาจตกลงให้ มีการทำสัญญาเช่าต่อไป ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดในขณะนั้นๆ"
วันที่ครบกำหนดเวลา 5 ปีที่กองทุนรวมมีสิทธิในการเรียกให้แสนสิริซื้อทรัพย์สินคืนดังกล่าว คือ วันที่
11 กันยายน 2553 อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2553 แสนสิริ ได้แจ้งมายังบริษัทจัดการว่า แสนสิริ
มีความประสงค์จะขอต่ออายุการเช่าทรัพย์สินดังกล่าวทั้งหมดต่อไปอีก 3 ปี นับจากวันที่ 12 กันยายน 2553 ถึง
วันที่ 11 กันยายน 2556 ในอัตราค่าเช่าร้อยละ 6 ต่อปี ของมูลค่าทรัพย์สินที่เหลือของกองทุนรวม โดยแสนสิริจะ
ไม่มีเงื่อนไขรับซื้อคืนทรัพย์สินดังกล่าวอีกต่อไป
ในการนี้จากการพิจารณาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน บริษัทจัดการจึงเห็นควรให้มีการขายทรัพย์สินโดยการประกาศ
ขายทรัพย์สินเป็นการทั่วไป เพื่อนำผลการประกาศขายทรัพย์สินดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาของผู้ถือหน่วยลงทุน
ว่าควรใช้สิทธิเรียกให้แสนสิริรับซื้อทรัพย์สินคืน (Put Option) หรือไม่ หรือพิจารณาว่าควรให้มีการต่ออายุการเช่าที่
แสนสิริเสนอหรือไม่
เนื่องจากประเด็นดังกล่าวเป็นประเด็นที่สำคัญ บริษัทจัดการจึงเห็นสมควรให้จัดประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน
ครั้งที่ 1/2553 ในวันที่ 3 มีนาคม 2553 เวลา 10.00 น. ณ.ห้อง รอยัล มณียา เอ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ
ราชประสงค์ เลขที่ 518/8 ถนนเพลินจิต กรุงเทพมหานคร โดยมีวาระการประชุมดังนี้
วาระที่ 1 รับทราบผลการประกาศขายทรัพย์สิน
วาระที่ 2 รับทราบการแต่งตั้งผู้ดำเนินการจำหน่ายทรัพย์สินของกองทุนรวม
วาระที่ 3 พิจารณาการใช้สิท ธิเรียกให้แ สนสิริรับ ซื้อ ทรัพย์สินคืน หรือการต่ออายุก ารเช่าทรัพย์สิน
ให้แก่แสนสิริตามข้อเสนอของแสนสิริและพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการลงทุนของ
กองทุนรวม
วาระที่ 4 รับทราบการปรับปรุงและตกแต่งทรัพย์สินของกองทุนรวม
วาระที่ 5 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)
เนื่องจากกรณีการไม่ใช้สิทธิในการขายคืนทรัพย์สินแก่แสนสิริ โดยต่ออายุการเช่าทรัพย์สินให้แก่แสนสิริ
ถือว่าเป็นการทำธุรกรรมกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ สน.29/2549 เรื่อง
การกระทำที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในการจัดการกองทุนและหลักเกณฑ์ในการป้องกัน ลงวันที่
19 กรกฎาคม 2549 ดังนั้น กรณีการต่ออายุการเช่าทรัพย์สินให้แก่แสนสิริออกไปอีก 3 ปีดังกล่าวต้องผ่านมติอนุมัติ
ด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยไม่นับ
ส่วนของผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีส่วนได้เสีย
ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะจัดส่งหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน พร้อมเอกสารประกอบการพิจารณาให้แก่
ผู้ถือหน่วยลงทุนพร้อมกับการจัดส่งเอกสารดังกล่าวให้แก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 7 วันล่วงหน้าก่อนวัน
ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนดังกล่าว
บริษัทจัดการจึงขอแจ้งการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหน่วยลงทุนใน
การเข้าร่วมประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2553
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายแกรนท์ แอนดรูว์ ไบเลย์)
กรรมการ
เรื่อง แจ้งวันปิดสมุดทะเบียนการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหน่วยลงทุนในการเข้าประชุมผู้ถือหน่วย
ลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ (SIRIPF)
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ("บริษัทจัดการ") ในฐานะบริษัทจัดการของ
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ ("กองทุนรวม") ขอแจ้งให้ทราบว่า ตามที่กองทุนรวมได้จดทะเบียนจัดตั้ง
กองทุนเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2548 และได้ลงทุนในบ้านเดี่ยวในโครงการบ้านแสนสิริ-สุขุมวิท 67 จำนวน 25 หลัง
ในราคาทั้งสิ้น 850 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2548 โดยเมื่อกองทุนรวมได้ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวแล้ว
กองทุนรวมได้ให้ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ("แสนสิริ") เช่าทรัพย์สินดังกล่าว เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยคิดค่าเช่า
สำหรับบ้าน 25 หลัง ในอัตรา 70 ล้านบาทต่อ ปี ซึ่งตามโครงการจัดการของการทุนรวม (หน้า 13) กำหนดไว้ว่า
"2. เมื่อสิ้นสุดระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่กองทุนลงทุนในทรัพย์สินข้างต้น หากกองทุนประสงค์จะ
จำหน่ายทรัพย์สินของกองทุนไม่ว่าบางรายการ หรือทั้งหมด กองทุนจะใช้วิธีการเปิดเผยและเปิดโอกาสให้
บุคคลใดๆ ที่ประสงค์จะซื้ออย่างเสมอภาคกันเป็นอันดับแรก และในกรณีที่ได้ดำเนินการดังกล่าวแล้ว แต่ไม่มีผู้เสนอ
ซื้อหรือมีผู้เสนอซื้อในราคาต่ำกว่าราคาที่กองทุนซื้อมา กองทุนอาจจะใช้สิทธิเรียกให้บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
รับซื้อทรัพย์สินคืน (Put Option) บางรายการ หรือทั้งหมดตามที่กองทุนเห็นสมควร ในราคาที่กองทุนซื้อมา
3. ในส่วนของทรัพย์สินที่กองทุนไม่ได้จำหน่ายให้แก่บุคคลใดๆ และไม่ได้ใช้สิทธิเรียกให้ บริษัท แสนสิริ
จำกัด (มหาชน) ซื้อทรัพย์สินคืน (Put Option) เมื่อครบกำหนดระยะเวลาการเช่า 5 ปี กองทุนและบริษัท แสนสิริ จำกัด
(มหาชน) อาจตกลงให้ มีการทำสัญญาเช่าต่อไป ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสมกับสภาวะตลาดในขณะนั้นๆ"
วันที่ครบกำหนดเวลา 5 ปีที่กองทุนรวมมีสิทธิในการเรียกให้แสนสิริซื้อทรัพย์สินคืนดังกล่าว คือ วันที่
11 กันยายน 2553 อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2553 แสนสิริ ได้แจ้งมายังบริษัทจัดการว่า แสนสิริ
มีความประสงค์จะขอต่ออายุการเช่าทรัพย์สินดังกล่าวทั้งหมดต่อไปอีก 3 ปี นับจากวันที่ 12 กันยายน 2553 ถึง
วันที่ 11 กันยายน 2556 ในอัตราค่าเช่าร้อยละ 6 ต่อปี ของมูลค่าทรัพย์สินที่เหลือของกองทุนรวม โดยแสนสิริจะ
ไม่มีเงื่อนไขรับซื้อคืนทรัพย์สินดังกล่าวอีกต่อไป
ในการนี้จากการพิจารณาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน บริษัทจัดการจึงเห็นควรให้มีการขายทรัพย์สินโดยการประกาศ
ขายทรัพย์สินเป็นการทั่วไป เพื่อนำผลการประกาศขายทรัพย์สินดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาของผู้ถือหน่วยลงทุน
ว่าควรใช้สิทธิเรียกให้แสนสิริรับซื้อทรัพย์สินคืน (Put Option) หรือไม่ หรือพิจารณาว่าควรให้มีการต่ออายุการเช่าที่
แสนสิริเสนอหรือไม่
เนื่องจากประเด็นดังกล่าวเป็นประเด็นที่สำคัญ บริษัทจัดการจึงเห็นสมควรให้จัดประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน
ครั้งที่ 1/2553 ในวันที่ 3 มีนาคม 2553 เวลา 10.00 น. ณ.ห้อง รอยัล มณียา เอ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ
ราชประสงค์ เลขที่ 518/8 ถนนเพลินจิต กรุงเทพมหานคร โดยมีวาระการประชุมดังนี้
วาระที่ 1 รับทราบผลการประกาศขายทรัพย์สิน
วาระที่ 2 รับทราบการแต่งตั้งผู้ดำเนินการจำหน่ายทรัพย์สินของกองทุนรวม
วาระที่ 3 พิจารณาการใช้สิท ธิเรียกให้แ สนสิริรับ ซื้อ ทรัพย์สินคืน หรือการต่ออายุก ารเช่าทรัพย์สิน
ให้แก่แสนสิริตามข้อเสนอของแสนสิริและพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการลงทุนของ
กองทุนรวม
วาระที่ 4 รับทราบการปรับปรุงและตกแต่งทรัพย์สินของกองทุนรวม
วาระที่ 5 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)
เนื่องจากกรณีการไม่ใช้สิทธิในการขายคืนทรัพย์สินแก่แสนสิริ โดยต่ออายุการเช่าทรัพย์สินให้แก่แสนสิริ
ถือว่าเป็นการทำธุรกรรมกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ สน.29/2549 เรื่อง
การกระทำที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในการจัดการกองทุนและหลักเกณฑ์ในการป้องกัน ลงวันที่
19 กรกฎาคม 2549 ดังนั้น กรณีการต่ออายุการเช่าทรัพย์สินให้แก่แสนสิริออกไปอีก 3 ปีดังกล่าวต้องผ่านมติอนุมัติ
ด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยไม่นับ
ส่วนของผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีส่วนได้เสีย
ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะจัดส่งหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน พร้อมเอกสารประกอบการพิจารณาให้แก่
ผู้ถือหน่วยลงทุนพร้อมกับการจัดส่งเอกสารดังกล่าวให้แก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 7 วันล่วงหน้าก่อนวัน
ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนดังกล่าว
บริษัทจัดการจึงขอแจ้งการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหน่วยลงทุนใน
การเข้าร่วมประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2553
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายแกรนท์ แอนดรูว์ ไบเลย์)
กรรมการ