ขอความกรุณาพี่ๆ ช่วยวิจารณ์วิธีการเลือกหุ้นของผมด้วยครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3653
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความกรุณาพี่ๆ ช่วยวิจารณ์วิธีการเลือกหุ้นของผมด้วยครับ
โพสต์ที่ 32
ทั้ง fcf, zero curve, Discount Rate, WACC, DCF
ผมมองว่ามันเป็น เครื่องมือ - Tools
แต่มอง VI เป็นปรัชญา มากกว่า คณิตศาสตร์ หรือว่าเครื่องมือ
ดังนั้น VI ที่ใช้ทั้ง fcf, zero curve, Discount Rate, WACC, DCF
อาจจะ ซื้อ-ขาย หุ้นตัวเดียวกัน เวลาเดียวกัน กับเพื่อน VI อีกคน
ที่ไม่ได้ใช้ทั้ง fcf, zero curve, Discount Rate, WACC, DCF กับหุ้นตัวนั้นเลย
ก็มีความเป็นไปได้พอๆ กัน
ผมมองว่ามันเป็น เครื่องมือ - Tools
แต่มอง VI เป็นปรัชญา มากกว่า คณิตศาสตร์ หรือว่าเครื่องมือ
ดังนั้น VI ที่ใช้ทั้ง fcf, zero curve, Discount Rate, WACC, DCF
อาจจะ ซื้อ-ขาย หุ้นตัวเดียวกัน เวลาเดียวกัน กับเพื่อน VI อีกคน
ที่ไม่ได้ใช้ทั้ง fcf, zero curve, Discount Rate, WACC, DCF กับหุ้นตัวนั้นเลย
ก็มีความเป็นไปได้พอๆ กัน
- peacedev
- Verified User
- โพสต์: 668
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความกรุณาพี่ๆ ช่วยวิจารณ์วิธีการเลือกหุ้นของผมด้วยครับ
โพสต์ที่ 34
newbie_12 เขียน:ขอแชร์แนวคิดหน่อยนะครับ
การลงทุนสำหรับมือใหม่ ที่ยังไม่เคยชินกลับสภาพตลาด ยังไม่ค่อยคุ้นกับการที่อยู่ๆมันก็ขึ้น อยู่ๆมันก็ลง เงินเพิ่ม เงินหายวันละหลายพัน หรือหลายแสนบาท ควรเลือกวิธีการที่เรากันตัวเองจากสภาพตลาดที่เลวร้ายได้ (อย่าไปเทียบกับคนที่เค้าอยู่ในตลาดมานาน ที่เคยชินแล้ว หรือพวก full-time investor นะครับ พวกนี้เสือเขี้ยวตันทั้งนั้น เรายังไม่เก่งพอครับ)
วิธีการเลือกหุ้นที่จะทำให้เราปิดตาจากสภาวะตลาดที่ผันผวนได้ ผมมีแนวคิดแบบนี้ครับ
ต้องดูที่ตัวธุรกิจก่อน จะต้องเป็นธุรกิจที่เราทำความเข้าใจได้ง่าย สามารถสำรวจกิจการได้ง่ายๆ กิจการดีหรือไม่ดี สามารถสำรวจเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่ต้องใช้ความเซียน หรือความเทพในการหาข้อมูลใดๆ ที่สำคัญที่สุด ต้องบริษัทที่ "แพ้ยาก" สำหรับธุรกิจนั้นๆ
ถ้าคิดอะไรไม่ออก ว่าจะดูธุรกิจตัวไหน ให้ไปตลาดนัดผู้ลงทุนไทย ที่จัดโดย อ ไพบูลย์ กะ ดร นิเวศน์ ดูว่าท่านเชียร์ตัวไหน วิธีการเลือกหุ้นของท่าน ดร นิเวศน์ จะเหมาะกับมือใหม่มากๆครับ คือไม่ค่อยเสียง และจะเป็นหุ้นที่ชนะ ในระยะยาว
ส่วนอัตราส่วนทางการเงิน ก็ใช้ที่ จขกท ใช้มาก็ ok แล้วครับ พยายามเลือกหุ้นที่ปันผลเหมาะสม ROA ROE ที่สูงๆ
ส่วนวิธีคำนวน discount cash flow แนะนำว่าอย่าไปทำเลยครับ ทำไปก็ไม่ตรง เพราะตัวแปรเปลี่ยนนิดเดียว ค่าที่ได้ก็เปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ถ้าจะทำเล่นๆขำๆ ก็ไม่เป็นไรครับ
หลังจากที่ผ่านพ้นจากความเป็นมือใหม่แล้ว เคยชินกับสภาะตลาด และเอาตัวรอดจากสภาพตลาดที่เลวร้ายได้อย่างน้อยซัก 5 ปี ก็ถือว่าเริ่มที่จะเซียนแล้วครับ หลังจากนี้ จะไปลองเก็งกำไรบ้าง ทายตลาดบ้าง เล่นแนวรวยเร็ว เจ๊งเร็วบ้าง ก็ถือว่าไม่ค่อยจะเสี่ยงละครับ
(ผมก็มือกลางเก่ากลางใหม่นะครับ ลองเอาไปคิดไตร่ตรองด้วยเหตุผลเอง จะดีที่สุดครับ)
http://peacedev.wordpress.com
"The Quant"
"The Quant"
- unnop.t
- Verified User
- โพสต์: 924
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความกรุณาพี่ๆ ช่วยวิจารณ์วิธีการเลือกหุ้นของผมด้วยครับ
โพสต์ที่ 35
จุดอ่อนอย่างหนึ่งของพวก ratio ทั้งหลายคือ มันเป็นข้อมูลที่เกิดในอดีต ไม่สามารถบอกถึงอนาคตได้แน่นอน มีกับดักอยู่นะครับ :?
DCF ข้อดีคือมันเป็นการประเมินอนาคตจากข้อมูลปัจจุบัน และอดีต แต่ข้อเสียก็อย่างที่ว่ากัน มันมีตัวแปร เยอะมากที่อาจทำให้ค่าเปลี่ยนแปลงมีนัยสำคัญ ผมจะลองหลาย ๆ case และให้มี MOS เยอะหน่อย
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การมองพื้นฐานกิจการ biz model ในเชิงคุณภาพ ส่วนพวกตัวเลขเนีย มันเป็นข้อมุลเชิงปริมาณ
DCF ข้อดีคือมันเป็นการประเมินอนาคตจากข้อมูลปัจจุบัน และอดีต แต่ข้อเสียก็อย่างที่ว่ากัน มันมีตัวแปร เยอะมากที่อาจทำให้ค่าเปลี่ยนแปลงมีนัยสำคัญ ผมจะลองหลาย ๆ case และให้มี MOS เยอะหน่อย
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การมองพื้นฐานกิจการ biz model ในเชิงคุณภาพ ส่วนพวกตัวเลขเนีย มันเป็นข้อมุลเชิงปริมาณ
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
- BOONPARUEY
- Verified User
- โพสต์: 184
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความกรุณาพี่ๆ ช่วยวิจารณ์วิธีการเลือกหุ้นของผมด้วยครับ
โพสต์ที่ 39
... ขอแชร์ในฐานะผู้ประกอบการ ...
... หนี้ของธุรกิจมีตัวแปรใหญ่ ๒ ตัว คือ ...
... ๑. หนี้ที่อยู่ในเส้นทางการขยายการเติบโต ( Performance Loan ) เช่น
การขยายสาขา , การสร้างโรงงานเพิ่ม ฯ ล ฯ
... ๒. ภาระหนี้จากการบริหาร, ภาระจากการป้องกันฐานะธุรกิจ ,หนี้จากข้อ
พิพาท +ความเสื่อมค่าของทรัพย์สิน +หนี้จากการใช้จ่ายเกินตัวของธุรกิจ ฯ ล ฯ
... หนี้นั้นเป็นดาบ ๒ คม คือ ดี แะ ไม่ดี ...
... แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า หนี้ของบริษัทนั้นอยู่ในข้อไหน ? ...
... ง่าย ๆ คือ ต้องอ่านงบการเงินเป็น +เช็คประวัติคณะกรรมการ +ให้เราสนใจเฉพาะหุ้นธุรกิจที่เราเข้าใจ
... แล้วจะรู้ว่าเราเข้าใจจริงหรือเปล่า ? ...
... ก็คงต้องตอบคำถามที่ว่า ถ้าสมมุติว่ามีเงินทุนก้อนใหญ่ เราจะลงทุนทำธุรกิจอะไรตามความรู้จริงของเรา ณ ปัจจุบัน ...
... ทุก ๆ ธุรกิจในโลกนี้ มี ๔ กระบวนการ คือ
... ๑ . กระบวนการสร้างธุรกิจ ( ผู้ประกอบการ หรือ คณะลงมิอทำ ) ...
... ๒ .บริหารจัดการองค์กร - เมื่อสร้างแล้วก็มีการบริหารเข้ามาเกี่ยวข้อง ( เริ่มใช้คนอี่น ๆ ทำ) ...
... ๓ . ป้องกันฐานะ -เมื่อบริหารนาน ๆ โดยห่างการกระทำในข้อ ๑ ก็จะมีภาระต้องป้อง
กันมิให้ธุรกิจล้ม ...
... ๔ .กล่าวโทษต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัวว่าผิดยกเว้นตนเอง - เมื่อมาถึงข้อนี้เพราะอยู่ในข้อ ๒ +๓ นานไป ธุรกิจนั้นก็ล้มไป ...
... มีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์หลายบริษัทที่เติบโตในปัจจุบันมีหนี้มากมาก่อน ...
… ดู cp , cpall ,gfpt, อื่น ๆ อีกมาก ...
... การลงทุนมีความเสี่ยง อย่าเชื่อข้อมูลสาธารณะมากนัก ...
... ลับ -ลวง-พราง มีในทุกสื่อ ...
... พึ่งตนเองให้มาก ...
... ถ้าอยากพึ่งคนอี่น ๆ ก็ มี ๒ แนวทาง คือ ...
... ๑ . แนว VI แต่อย่าซึ้อหุ้นตามกูรูเหล่านี้ เพราะราคาอาจสูงไปมากแล้ว ...
... ๒ . แนวทางสารพัดเซียนในตลาด รวมทั้งนักวิเคราะห์จากบลจ.หลักทรัพย์ แต่สถิติในแวดวงนักลงทุน คือ ๑๐ คน ในแนวทางนี้ จะได้เงินไป ๑ คนเท่านั้น ...
... อย่าเชึ่อใครว่านักลงทุนไม่ต้องทำงานหนัก ลงแต่เงินอย่างเดียว ...
... อย่าเชึ่อใครว่าจะได้เงินง่าย ๆ จากตลาดหุ้น ( โดยเฉพาะ ตลท.ไทย)
... อย่าเริ่มลงทุนด้วยการติดตามราคาหุ้น ...
... ให้เริ่มจากการอ่านให้มาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ฯ ล ฯ + ออกสำรวจตลาด +เลือกหุ้นที่คิดว่ารู้จักดีสักจำนวนหนึ่ง+ทดลองลงทุนในเกมลงทุนหุ้นจำลอง ...
... เมึ่อใดคิดว่าพร้อมแล้วก็เข้าตลาดจริง ...
... ไม่ต้องรีบร้อนเพราะตลาด ณ ปัจจุบันยังมีบริษัทเน่า ๆ มากมายนัก
... ยังมีบริษัทดี ๆ ที่รอเข้ามาอีกมากมายนัก ...
... ก็ไม่ใช่เชี่ยวชาญอะไรนักหรอก เพียงแต่พอจะผ่านตลาดในยุค ๑๗๐๐ มาได้โดยไม่เจ็บตัว โดยทุนเดิมถอนออกหมดแล้ว เหลือแค่ส่วนต่าง
ณ ปัจจุบัน ที่ยังเติบโตดีอยู่ ...
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
... หนี้ของธุรกิจมีตัวแปรใหญ่ ๒ ตัว คือ ...
... ๑. หนี้ที่อยู่ในเส้นทางการขยายการเติบโต ( Performance Loan ) เช่น
การขยายสาขา , การสร้างโรงงานเพิ่ม ฯ ล ฯ
... ๒. ภาระหนี้จากการบริหาร, ภาระจากการป้องกันฐานะธุรกิจ ,หนี้จากข้อ
พิพาท +ความเสื่อมค่าของทรัพย์สิน +หนี้จากการใช้จ่ายเกินตัวของธุรกิจ ฯ ล ฯ
... หนี้นั้นเป็นดาบ ๒ คม คือ ดี แะ ไม่ดี ...
... แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า หนี้ของบริษัทนั้นอยู่ในข้อไหน ? ...
... ง่าย ๆ คือ ต้องอ่านงบการเงินเป็น +เช็คประวัติคณะกรรมการ +ให้เราสนใจเฉพาะหุ้นธุรกิจที่เราเข้าใจ
... แล้วจะรู้ว่าเราเข้าใจจริงหรือเปล่า ? ...
... ก็คงต้องตอบคำถามที่ว่า ถ้าสมมุติว่ามีเงินทุนก้อนใหญ่ เราจะลงทุนทำธุรกิจอะไรตามความรู้จริงของเรา ณ ปัจจุบัน ...
... ทุก ๆ ธุรกิจในโลกนี้ มี ๔ กระบวนการ คือ
... ๑ . กระบวนการสร้างธุรกิจ ( ผู้ประกอบการ หรือ คณะลงมิอทำ ) ...
... ๒ .บริหารจัดการองค์กร - เมื่อสร้างแล้วก็มีการบริหารเข้ามาเกี่ยวข้อง ( เริ่มใช้คนอี่น ๆ ทำ) ...
... ๓ . ป้องกันฐานะ -เมื่อบริหารนาน ๆ โดยห่างการกระทำในข้อ ๑ ก็จะมีภาระต้องป้อง
กันมิให้ธุรกิจล้ม ...
... ๔ .กล่าวโทษต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัวว่าผิดยกเว้นตนเอง - เมื่อมาถึงข้อนี้เพราะอยู่ในข้อ ๒ +๓ นานไป ธุรกิจนั้นก็ล้มไป ...
... มีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์หลายบริษัทที่เติบโตในปัจจุบันมีหนี้มากมาก่อน ...
… ดู cp , cpall ,gfpt, อื่น ๆ อีกมาก ...
... การลงทุนมีความเสี่ยง อย่าเชื่อข้อมูลสาธารณะมากนัก ...
... ลับ -ลวง-พราง มีในทุกสื่อ ...
... พึ่งตนเองให้มาก ...
... ถ้าอยากพึ่งคนอี่น ๆ ก็ มี ๒ แนวทาง คือ ...
... ๑ . แนว VI แต่อย่าซึ้อหุ้นตามกูรูเหล่านี้ เพราะราคาอาจสูงไปมากแล้ว ...
... ๒ . แนวทางสารพัดเซียนในตลาด รวมทั้งนักวิเคราะห์จากบลจ.หลักทรัพย์ แต่สถิติในแวดวงนักลงทุน คือ ๑๐ คน ในแนวทางนี้ จะได้เงินไป ๑ คนเท่านั้น ...
... อย่าเชึ่อใครว่านักลงทุนไม่ต้องทำงานหนัก ลงแต่เงินอย่างเดียว ...
... อย่าเชึ่อใครว่าจะได้เงินง่าย ๆ จากตลาดหุ้น ( โดยเฉพาะ ตลท.ไทย)
... อย่าเริ่มลงทุนด้วยการติดตามราคาหุ้น ...
... ให้เริ่มจากการอ่านให้มาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ฯ ล ฯ + ออกสำรวจตลาด +เลือกหุ้นที่คิดว่ารู้จักดีสักจำนวนหนึ่ง+ทดลองลงทุนในเกมลงทุนหุ้นจำลอง ...
... เมึ่อใดคิดว่าพร้อมแล้วก็เข้าตลาดจริง ...
... ไม่ต้องรีบร้อนเพราะตลาด ณ ปัจจุบันยังมีบริษัทเน่า ๆ มากมายนัก
... ยังมีบริษัทดี ๆ ที่รอเข้ามาอีกมากมายนัก ...
... ก็ไม่ใช่เชี่ยวชาญอะไรนักหรอก เพียงแต่พอจะผ่านตลาดในยุค ๑๗๐๐ มาได้โดยไม่เจ็บตัว โดยทุนเดิมถอนออกหมดแล้ว เหลือแค่ส่วนต่าง
ณ ปัจจุบัน ที่ยังเติบโตดีอยู่ ...
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
... " บุญ คือ เสบียงของคนไม่ประมาท " พุทธตรัส ...
- OutOfMyMind
- Verified User
- โพสต์: 1232
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความกรุณาพี่ๆ ช่วยวิจารณ์วิธีการเลือกหุ้นของผมด้วยครับ
โพสต์ที่ 40
สำหรับ ผมชอบบริษัทที่มีหนี้มากครับ
แต่เป็นหนี้ที่ไม่เสียดอกนะครับ เช่นพวก รายได้รับล่วงหน้า หรือ account payable ที่ติดพวก supplier ไว้ เพราะมันได้เงินเค้ามาใช้ฟรีๆ : )
Ratio อาจใช้มองอนาคตได้
หากมั่นใจว่าบริษัทนั้นกระจายความเสี่ยงดี หรืออยู่ในอุตสาหกรรมที่ mature แล้ว Ratio จะค่อนข้างคงที่ ไม่ผันผวน จากนั้นก็ทำการ Top-Down ประเมิณยอดขายในปีข้างหน้าให้ใกล้เคียงที่สุด ใส่ Ratio ลงไป จะได้เห็นภาพอะไร ๆ คร่าง ๆ ในอนาคตได้
แต่เป็นหนี้ที่ไม่เสียดอกนะครับ เช่นพวก รายได้รับล่วงหน้า หรือ account payable ที่ติดพวก supplier ไว้ เพราะมันได้เงินเค้ามาใช้ฟรีๆ : )
Ratio อาจใช้มองอนาคตได้
หากมั่นใจว่าบริษัทนั้นกระจายความเสี่ยงดี หรืออยู่ในอุตสาหกรรมที่ mature แล้ว Ratio จะค่อนข้างคงที่ ไม่ผันผวน จากนั้นก็ทำการ Top-Down ประเมิณยอดขายในปีข้างหน้าให้ใกล้เคียงที่สุด ใส่ Ratio ลงไป จะได้เห็นภาพอะไร ๆ คร่าง ๆ ในอนาคตได้
แชทบอทสำหรับนักลงทุนเน้นคุณค่า
https://www.chathoon.com/
https://www.chathoon.com/
- ขงเบ้ง
- Verified User
- โพสต์: 399
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความกรุณาพี่ๆ ช่วยวิจารณ์วิธีการเลือกหุ้นของผมด้วยครับ
โพสต์ที่ 41
[quote="gold5599"]สวัสดีครับ ผมเป็นมือใหม่พึ่งศึกษาการลงทุนในหุ้น (แต่เคยกระโดดเข้าไปเล่น forex และทองคำมาแล้ว เจ็บครับ) แล้วได้รับความกรุณาจากพี่ ส.สลึง เรื่องหนังสือและพี่ทุกคนในการศึกษาแง่คิดต่างๆในการลงทุนในเวป thaivi
ไม่มีกลยุทธ์ใดตายตัวขึ้นอยู่กับสภาวะการณ์
เวลารุกคิดให้นานแต่เวลาถอยต้องเร็วไร้เงา
อิสรภาพทางการเงินเป็นแค่การเริ่มต้น
ปลายทาง คือ ความหลุดพ้น
ชีวิต คือ ความว่างเปล่า
ไม่มีใครหนีพ้นความตาย
แม้เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1ของโลก
เวลารุกคิดให้นานแต่เวลาถอยต้องเร็วไร้เงา
อิสรภาพทางการเงินเป็นแค่การเริ่มต้น
ปลายทาง คือ ความหลุดพ้น
ชีวิต คือ ความว่างเปล่า
ไม่มีใครหนีพ้นความตาย
แม้เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1ของโลก
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความกรุณาพี่ๆ ช่วยวิจารณ์วิธีการเลือกหุ้นของผมด้วยครับ
โพสต์ที่ 42
ผมว่าข้อมูลเชิงคุณภาพดูหยาบๆเป็นเครื่อง confirm หลังจากเราวิเคราะห์ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทแล้วก็พอครับ สุดท้ายแล้วข้อมูลเชิงคุณภาพทุกตัวจะพาเราไปหากำไรซึ่งเป็นตัวที่จะทำให้หุ้นขึ้นจริงๆ แต่ที่สำคัญกว่าคือกำไรต้องโตด้วยครับ ถ้ากำไรนิ่งๆหรือค่อยๆโตเราอาจจะหวัง capital gain ไม่ได้มาก แต่อาจไปหวังที่ปันผลที่สม่ำเสมอแทน
เมื่อก่อนผมเล่นหุ้นมองแค่ eps growth ยิ่งมาก p/e ต่ำๆ ซื้อไปก็กำไรทุกที(ถ้าคิดกำไรใกล้เคียง) ถึงแม้จะมองแค่ปีต่อปีก็ตาม แต่หลังๆผ่านวิกฤติมารอบนึงหุ้นที่คุณภาพไม่ถึงเวลาเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ความมั่นใจในการถือของเราจะน้อยแล้วสุดท้ายต้องตามมา cut loss เพราะกลัวมันไปแล้วไปลับ หลังๆเลยเปลี่ยนใหม่พยายามมองคุณภาพของกำไรมากขึ้นเลยเลือกเอาที่ eps growth มากๆ (เหมือนเดิม) แต่เพิ่มการดูธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งมีกำไรต่อเนื่องนานหน่อยดีกว่า เวลาเราถือๆอยู่แล้วเกิดวิกฤติกำไรอาจหดหายไปบ้าง แต่สุดท้ายก็ไม่ต้องรีบขายถ้าไม่เห็นโอกาสที่ดีกว่า เพราะด้วยความแข็งแกร่งของธุรกิจสุดท้ายก็กลับมาได้อยู่ดี สบายใจกว่าด้วยครับ
จุดชี้ขาดคือการหา forward eps ให้ถูกต้องหรือใกล้เคียงนี่แหล่ะครับ ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่า่ย ต้องอาศัยขยันหาข้อมูลและประสบการณ์พอสมควรเลยครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
เมื่อก่อนผมเล่นหุ้นมองแค่ eps growth ยิ่งมาก p/e ต่ำๆ ซื้อไปก็กำไรทุกที(ถ้าคิดกำไรใกล้เคียง) ถึงแม้จะมองแค่ปีต่อปีก็ตาม แต่หลังๆผ่านวิกฤติมารอบนึงหุ้นที่คุณภาพไม่ถึงเวลาเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ความมั่นใจในการถือของเราจะน้อยแล้วสุดท้ายต้องตามมา cut loss เพราะกลัวมันไปแล้วไปลับ หลังๆเลยเปลี่ยนใหม่พยายามมองคุณภาพของกำไรมากขึ้นเลยเลือกเอาที่ eps growth มากๆ (เหมือนเดิม) แต่เพิ่มการดูธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งมีกำไรต่อเนื่องนานหน่อยดีกว่า เวลาเราถือๆอยู่แล้วเกิดวิกฤติกำไรอาจหดหายไปบ้าง แต่สุดท้ายก็ไม่ต้องรีบขายถ้าไม่เห็นโอกาสที่ดีกว่า เพราะด้วยความแข็งแกร่งของธุรกิจสุดท้ายก็กลับมาได้อยู่ดี สบายใจกว่าด้วยครับ
จุดชี้ขาดคือการหา forward eps ให้ถูกต้องหรือใกล้เคียงนี่แหล่ะครับ ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่า่ย ต้องอาศัยขยันหาข้อมูลและประสบการณ์พอสมควรเลยครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
It's earnings that count
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความกรุณาพี่ๆ ช่วยวิจารณ์วิธีการเลือกหุ้นของผมด้วยครับ
โพสต์ที่ 43
แก้ไขครับ
Blueblood เขียน:ผมว่าข้อมูลเชิงคุณภาพดูหยาบๆเป็นเครื่อง confirm หลังจากเราวิเคราะห์ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทแล้วก็พอครับ สุดท้ายแล้วข้อมูลเชิงคุณภาพทุกตัวจะพาเราไปหา eps ซึ่งเป็นตัวที่จะทำให้หุ้นขึ้นจริงๆ แต่ที่สำคัญกว่าคือ epsต้องโตด้วยครับ ถ้า eps นิ่งๆหรือค่อยๆโตเราอาจจะหวัง capital gain ไม่ได้มาก แต่อาจไปหวังที่ปันผลที่สม่ำเสมอแทน
It's earnings that count
- phoncu
- Verified User
- โพสต์: 338
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความกรุณาพี่ๆ ช่วยวิจารณ์วิธีการเลือกหุ้นของผมด้วยครับ
โพสต์ที่ 44
Blueblood เขียน: จุดชี้ขาดคือการหา forward eps ให้ถูกต้องหรือใกล้เคียงนี่แหล่ะครับ ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่า่ย ต้องอาศัยขยันหาข้อมูลและประสบการณ์พอสมควรเลยครับ รบกวนคุณ Blueblood ช่วยขยายตรงนี้ให้เป็นวิทยาทานหน่อยครับ :P :P
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความกรุณาพี่ๆ ช่วยวิจารณ์วิธีการเลือกหุ้นของผมด้วยครับ
โพสต์ที่ 45
[quote="phoncu"][quote="Blueblood"]
จุดชี้ขาดคือการหา forward eps ให้ถูกต้องหรือใกล้เคียงนี่แหล่ะครับ ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่า่ย ต้องอาศัยขยันหาข้อมูลและประสบการณ์พอสมควรเลยครับ
จุดชี้ขาดคือการหา forward eps ให้ถูกต้องหรือใกล้เคียงนี่แหล่ะครับ ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่า่ย ต้องอาศัยขยันหาข้อมูลและประสบการณ์พอสมควรเลยครับ
It's earnings that count
-
- Verified User
- โพสต์: 558
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความกรุณาพี่ๆ ช่วยวิจารณ์วิธีการเลือกหุ้นของผมด้วยครับ
โพสต์ที่ 46
[quote="Blueblood"][quote="phoncu"][quote="Blueblood"]
จุดชี้ขาดคือการหา forward eps ให้ถูกต้องหรือใกล้เคียงนี่แหล่ะครับ ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่า่ย ต้องอาศัยขยันหาข้อมูลและประสบการณ์พอสมควรเลยครับ
จุดชี้ขาดคือการหา forward eps ให้ถูกต้องหรือใกล้เคียงนี่แหล่ะครับ ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่า่ย ต้องอาศัยขยันหาข้อมูลและประสบการณ์พอสมควรเลยครับ
- phoncu
- Verified User
- โพสต์: 338
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความกรุณาพี่ๆ ช่วยวิจารณ์วิธีการเลือกหุ้นของผมด้วยครับ
โพสต์ที่ 47
[quote="Blueblood"][quote="phoncu"][quote="Blueblood"]
จุดชี้ขาดคือการหา forward eps ให้ถูกต้องหรือใกล้เคียงนี่แหล่ะครับ ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่า่ย ต้องอาศัยขยันหาข้อมูลและประสบการณ์พอสมควรเลยครับ
จุดชี้ขาดคือการหา forward eps ให้ถูกต้องหรือใกล้เคียงนี่แหล่ะครับ ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่า่ย ต้องอาศัยขยันหาข้อมูลและประสบการณ์พอสมควรเลยครับ
- killyz
- Verified User
- โพสต์: 409
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความกรุณาพี่ๆ ช่วยวิจารณ์วิธีการเลือกหุ้นของผมด้วยครับ
โพสต์ที่ 48
Blueblood เขียน: ประมาณว่าต้องเจอหลอกมาเยอะๆก่อน
ไม่เจอไม่ได้หรือครับ ถ้าอยากจะหา forward eps ให้ใกล้เคียง
ฉัน(ผู้บริหาร)ไม่ใช่ผีจะมาหลอกเธอ(แมงเม่า)ได้ไง :twisted:
การลงทุนมีความเสียว โปรดใช้วิจารณญาณในการลอก