การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
-
Blueblood
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
เคยคิดแบบนี้เหมือนกันครับ ที่บ้านมีคอนโดให้เช่าอยู่นิดหน่อย ตอนปี 2008 หุ้นถูกมาก ผมมีความคิดว่าจะยุให้ที่บ้านขายคอนโด ซึ่ง yield ก็ต่ำมาก (net แล้วไม่ถึง 5%) คนเช่าก็หายาก ไหนจะค่าดูแลรักษาอีก เอาแค่ขายคอนโดไปซื้อกองทุนอสังหาอย่างพวก cpnrf ผมว่าคุ้มกว่าเป็นไหนๆยิ่งตอนนั้น cpnrf อยู่ที่ 6-7 บาท yield เกิน 10% ด้วยซ้ำ ไม่ต้องดูแล อยากได้เงินคืนก็ขายง่าย แถมมี potential capital gain เมื่อวิกฤติผ่านไปอีกต่างหาก
พอคิดได้แบบนี้ผมก็เอาเลยครับประกาศขายคอนโดแม่ไปขนาดลดราคาจากราคาตอนปกติไป 10-20% ยังไม่มีคนซื้อเลยครับ มีแต่ดูๆๆๆ ไม่มีใครกล้าตัดสินใจอะไร จนโอกาสผ่านไปหุ้นหลายๆตัวขึ้นมามากมาย คนซื้อคอนโดก็เริ่มมาจะขอซื้อกันตลอด ... แต่มันไม่ทันซะแล้ว ก็เลยต้องปฏิเสธไป
ผมว่าถ้าในภาวะวิกฤติที่เราเห็นโอกาสที่หุ้นดีๆหลายตัวราคาลดลงมามากๆและมีปันผลที่คาดว่ามั่นคงไม่ลดลงเหมือนราคาหุ้นเพื่อเป็นกระแสเงินสดระหว่างรอให้หุ้นขึ้นไปสู่มูลค่าปกติ เราก็อาจพิจารณาขายอสังหาได้ครับ แต่ถ้าราคาหุ้นส่วนใหญ่อยุ่แถวๆ fair value แบบนี้ และประกอบกับคุณเจ้าของกระทู้ไม่มีประสบการณ์ในตลาดหุ้นมากเท่าไหร่ ผมว่าเสี่ยงเกินไปครับ
อ่านๆดูผลตอบแทนการลงทุนคอนโดให้เช่าของคุณเจ้าของกระทู้ไม่น่าดึงดูดหรือสร้าง wealth อะไรได้มากมายเลยครับ ถ้าให้แนะนำแบบวัยรุ่น

ผมว่าขายไปให้หมดแล้วเอาเงินไปซื้อพันธบัตรดีกว่าครับ รอดอกเบี้ยสัก 5% แล้วก็ซื้อไปเลย ดีกว่ามานั่งปล่อยเช่า ระแวงว่าคนเช่าจะไม่มี แต่ดอกต้องส่ง ต้นต้องผ่อน เสียสุขภาพจิตครับ รอว่าเมื่อไหร่โอกาสมาค่อยลงมือตีแตกใหม่ครับ
It's earnings that count
-
green-orange
- Verified User
- โพสต์: 896
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
aarongibsonus เขียน:
อ่านจากประโยคนี้แล้วงงครับ
เพราะถ้ากิจการมีกำไรนิดหน่อย
-
aarongibsonus
- Verified User
- โพสต์: 37
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
Blueblood เขียน:เคยคิดแบบนี้เหมือนกันครับ ที่บ้านมีคอนโดให้เช่าอยู่นิดหน่อย ตอนปี 2008 หุ้นถูกมาก ผมมีความคิดว่าจะยุให้ที่บ้านขายคอนโด ซึ่ง yield ก็ต่ำมาก (net แล้วไม่ถึง 5%) คนเช่าก็หายาก ไหนจะค่าดูแลรักษาอีก เอาแค่ขายคอนโดไปซื้อกองทุนอสังหาอย่างพวก cpnrf ผมว่าคุ้มกว่าเป็นไหนๆยิ่งตอนนั้น cpnrf อยู่ที่ 6-7 บาท yield เกิน 10% ด้วยซ้ำ ไม่ต้องดูแล อยากได้เงินคืนก็ขายง่าย แถมมี potential capital gain เมื่อวิกฤติผ่านไปอีกต่างหาก
พอคิดได้แบบนี้ผมก็เอาเลยครับประกาศขายคอนโดแม่ไปขนาดลดราคาจากราคาตอนปกติไป 10-20% ยังไม่มีคนซื้อเลยครับ มีแต่ดูๆๆๆ ไม่มีใครกล้าตัดสินใจอะไร จนโอกาสผ่านไปหุ้นหลายๆตัวขึ้นมามากมาย คนซื้อคอนโดก็เริ่มมาจะขอซื้อกันตลอด ... แต่มันไม่ทันซะแล้ว ก็เลยต้องปฏิเสธไป
เป็นเหมือนกันคะ แบบว่าพยายามคอนโดตรงอโศกออกไป ฝากให้นายหน้าขายอยู่เป็นปี ก็ยังขายไม่ได้เลยคะ จนต้องหาคนมาเช่า
เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการผ่อนธนาคารคะ แต่กว่าจะหาคนเช่าได้ก็ทำเอาหืดขึ้นคอเหมือนกันคะ เดี๋ยวกลับไปไทยอาทิตย์หน้า
ก็จะไปหาลู่ทางการขายแล้วคะ สัญญาเช่าตอนนี้มีอยู่ 6 เืดือน หมดสัญญาเมื่อไหร่ ถ้าไม่มีคนเช่าก็คงจะรับภาระผ่อนธนาคารไม่ไหวแล้วคะ
-
กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
กล้วยไม้ขาว เขียน:เวลาคิดผลตอบแทนจากคอนโดที่แท้จริงจะมี Leverage นะครับ
คอนโดแห่งแรกลงเงินดาวน์ไปเท่าไหร่ครับ
ผลตอบแทนต่อปี = (ค่าเช่าต่อ - เงินผ่อนธนาคารต่อปี)*(1 - อัตราห้องว่างต่อปี) / เงินดาวน์
จะคล้าย ๆ กับเราใช้มาจิ้นนะครับ
พิมพ์ผิด เขินจัง
ผลตอบแทนต่อปี = ((ค่าเช่าต่อ*(1 - อัตราห้องว่างต่อปี)) - เงินผ่อนธนาคารต่อปี) / เงินลงทุนทั้งหมดที่เป็นเงินเรา (ดาวน์ ตกแต่ง สัญญา ETC.)
คล้าย ๆ คนนี้คิดเลยแต่ผมไม่คิด capital gain
picklife เขียน:
1.คอนโดโครงการ เอพี ลาดพร้าว 34 ตอนนี้มีคนเช่าสัญญา 1 ปี เดือน ละ 15000 บาทก็เอาเงินจากผู้เช่าไปผ่อนธนาคารคะ
ค้างผ่อนธนาคารอยู่อีกราวๆ 2 ล้านคะ ถ้าขายตอนนี้ก็ึคงเหลือเงินอยู่ประมาณ 8 แสน- 1 ล้านคะ
Ans-คิดตัวเลขกลมๆนะครับรายละเอียดลองคิดเองนะครับเอาแนวคิดไปมูลค่าคอนโดน่าจะ3ล้าน
กำไรค่าเช่า1.8แสน*0.9(เพราะไม่มีทางคนเช่าจะเต็มทุกเดือน)=1.62
มูลค่าเงินลงทุน1ล้าน
ค่าดอกสมมุติ5% ก็ปีละ1แสนบาท/ปี
ราคาคอนโดขึ้นสมมุติ5% ก็ปีละ1แสนบาท/ต่อปี
(คอนโดจะราคาขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ควรถือเกิน30ปีเสี่ยงต่อการถือซาก)
ดังนั้น ROA=162000/3000000=5.4%ต่อปี
แต่ ROE=162000/1000000=16.2%ต่อปี
ปล.ลองปรับตัวเลขดูนะครับเพราะผมไม่รู้ดอก และอัตราการเติบโตของคอนโดเพราะในแต่ละที่ก็ต่างกันไปแต่สามารถหาได้ครับ
-
TB
- Verified User
- โพสต์: 99
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
กระทู้ที่ทำให้รู้ว่า ในweb นี้มีคนใจดีมีความรู้เยอะจริงๆ
ชื่นชมทุกท่านที่เข้ามาระดมความคิดเพื่อน้องเค้า ครับ
(ต้องกลับไปทบทวนตัวเอง ว่าอายุ 20 กว่า ยังสนใจแต่
การเกร็งกำไร มากกว่ามองไปข้างหน้าและมีเป้าหมายอย่างจริงจัง
ขอให้ลงทุนโดยมีสติ เผื่อใจและเผื่อทุน ในกรณีที่เกิดขึ้นมาในรอบ
สามปีที่ผ่านมา ให้บทเรียนค่อนข้างเยอะ ลองหารูปแบบของการลงทุน
ที่เหมาะกับความเสี่ยงที่ตัวคุณเองยอมรับได้ และจะไม่เสียใจทีหลัง
อาจจะเริ่มลงทุนจาก prop fund ที่มีหลายคนแนะนำ และเป็นรูปแบบที่ตัวคุณเอง
มีความเข้าใจบ้างอยู่แล้ว ขอให้โชคดีครับ
-
TB
- Verified User
- โพสต์: 99
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ปล ปีนี้ครึ่งปีแรก เป็นช่วงที่มองแนวโน้มที่ยาก
เพราะจะมีข่าวดีและร้าย ปะปนกันไป
upside downside ใกล้เคียงกัน
บริษัทที่มีพื้นฐานแข่งแกร่งอาจมีผลตอบแทน น้อยกว่าหุ้นเก็งกำไร
ในระยะสั้น แต่ในระยะยาวยังไงก็มีผลตอบแทนที่ดีกว่าแน่นอนครับ
เอาประสบการณ์ของการลงทุนที่พยายามเห็นหุ้นเก็งกำไรให้ชนะ set
ได้ไม่คุ้มเหนื่อยครับ เสียเวลาและเสียสุขภาพจิต
เมื่อเปรียบเทียบกับอีก port ที่เลือกจากหุ้นที่กองทุนและสถาบันชอบถือ
หรือกองทุน index fund ต้องถือ และเลือกลงทุนในเวลาและราคาที่เหมาะสม
(จะยากก็ตรงนี้ แต่ก็ไม่ยากที่จะชนะตลาด)