การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
JunkieXL
Verified User
โพสต์: 1
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ ก.ย. 14, 2009 10:59 am | 0 คอมเมนต์
สวัสดีครับ
ผมเริ่มเข้าลงทุนในตลาดได้ไม่นาน โดยเริ่มจากการศึกษาหนังสือแปลของด้าน VI ครับ ก็เกิดสงสัยว่าตลาดหุ้นของไทยมันมีการเปลี่ยนแปลงรุนแรงบ่อยครั้งกว่าต่างประเทศ แต่จากการศึกษาจากบทความในเว็บก็พบว่าพวกพี่ๆ ที่ใช้หลักการลงทุนแบบ VI ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในตลาดหุ้นไทย
อยากทราบว่าพวกพี่มีวิธีจัดการอย่างไรเมื่อเกิดปัญหา เมื่อเกิดปัญหาพบว่าผลการลงทุนดีกว่าตลาด เช่นติดลบน้อยกว่า แต่...ทำไมถึงไม่เคลียร์พอร์ตออกจากตลาด
แล้วค่อยเข้ามาใหม่ เพราะว่าเกิดเร็วมากเคลียร์ไม่ทัน หรือว่าไม่มีสภาพคล่องออกไม่ได้ หรือว่าพอร์ตใหญ่มากออกไม่ได้ หรือว่าการออกจากตลาดแล้วเข้ามาใหม่ทำให้เสียโอกาส หรือว่า...
อีก 10 ปีมันจะมีโอกาสขึ้นไปถึง 1,000+ มั้ยครับ
อ่านหนังสือแต่ขาดประสบการณ์ครับ ขอบคุณทุกคำชี้แนะล่วงหน้าครับ :lol:
aonzzung
Verified User
โพสต์: 611
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ ก.ย. 14, 2009 11:31 am | 0 คอมเมนต์
กำลังสงสัยเรื่องนี้อยู่เหมือนกันครับ
กำลังคิดว่าก่อนเกิดวิฤต เนี่ย VI ทำไมไม่ล้าง port ( หรือล้างแต่ไม่ได้บอก)
แล้วค่อยเข้ามาใหม่ เห็นพูดถึงเรื่อง ขาดทุนน้ิอยกว่าคนอื่น(พวกเก็งกำไร) แต่ผมว่าถ้า trade แบบ VI ตอน set 1000+ เนี่ย ผมว่า MOS ก็เอาไม่อยู่นะ
อีกอย่าง หุ้นหลังวิกฤต เนี่ย อีกเมื่อไีรจะ rebound ขึ้นไปถึงราคาตอน 1000+
ก็ไม่ทราบได้
พี่ๆช่วยแนะนำหน่อยครับ
newbie_12
Verified User
โพสต์: 2904
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ ก.ย. 14, 2009 12:15 pm | 0 คอมเมนต์
อยากทราบว่าพวกพี่มีวิธีจัดการอย่างไรเมื่อเกิดปัญหา เมื่อเกิดปัญหาพบว่าผลการลงทุนดีกว่าตลาด เช่นติดลบน้อยกว่า แต่...ทำไมถึงไม่เคลียร์พอร์ตออกจากตลาด
แล้วค่อยเข้ามาใหม่ เพราะว่าเกิดเร็วมากเคลียร์ไม่ทัน หรือว่าไม่มีสภาพคล่องออกไม่ได้ หรือว่าพอร์ตใหญ่มากออกไม่ได้ หรือว่าการออกจากตลาดแล้วเข้ามาใหม่ทำให้เสียโอกาส หรือว่า...
ถ้าทำได้แบบนี้จริงก็รวยจริงหล่ะครับ คาดว่าหุ้นจะลงก็ขายทิ้ง แล้วกลับไปซื้อตอนที่หุ้นลงแตะพื้นแล้วรอวันขึ้น
แต่ในความเป็นจริง ไม่มีใครรู้หรอกครับ ถึงรู้ก็รู้ไม่ 100% ว่าหุ้นจะขึ้นหรือหุ้นจะลง
การคาดการณ์ตลาด ประกอบไปด้วยตัวแปรนับ 10000
เลือกดูในสิ่งที่เรารู้แน่ๆดีกว่าครับ
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
อะไรดีละ
Verified User
โพสต์: 680
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ ก.ย. 14, 2009 12:34 pm | 0 คอมเมนต์
ใน 10 ปี...น่าจะเกิน 1 พันจุดได้ครับ....
Suysak
Verified User
โพสต์: 691
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ ก.ย. 14, 2009 1:18 pm | 0 คอมเมนต์
สำคัญ คือเราไม่รู้ว่ามันจะขึ้นจะลงนะสิ แต่ถ้าบริษัทมีการขยายตัว ตั้งใจทำธุรกิจ เราก็ถือไปเรื่อยๆครับ :B
นักดูดาว
Verified User
โพสต์: 2513
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ ก.ย. 14, 2009 1:52 pm | 0 คอมเมนต์
ลงทุนระยะยาว ไม่ได้แปลว่าถือหุ้นตัวเดิมเป็นระยะเวลายาวๆเสมอไปนะครับ
zesar
Verified User
โพสต์: 390
ผู้ติดตาม: 0
จันทร์ ก.ย. 14, 2009 2:42 pm | 0 คอมเมนต์
ลงทุนระยะยาว ไม่ได้แปลว่าถือหุ้นทั้ง SET ด้วยครับ :D
kmphol
Verified User
โพสต์: 417
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร ก.ย. 15, 2009 4:09 pm | 0 คอมเมนต์
ลงทุนระยะยาว ไม่ได้หมายถึง
การถือหุ้นให้นาน นาน นานที่สุด โดยไม่ได้ขายออกเลยด้วย ไม่งั้นเวลาหุ้นตก ก็คงไม่มีเงินมาเก็บเลย
ศิษย์เซียน007
Verified User
โพสต์: 1254
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร ก.ย. 15, 2009 5:01 pm | 0 คอมเมนต์
นักดูดาว เขียน: ลงทุนระยะยาว ไม่ได้แปลว่าถือหุ้นตัวเดิมเป็นระยะเวลายาวๆเสมอไปนะครับ
ถ้าปู่บัฟเฟตต์ได้ยินอาจจะบอก"ผมจะขายหุ้นโค้กก็ต่อเมื่อผมเลิกดื่มโค้กไปดื่มpepsi"
KB
Verified User
โพสต์: 1558
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร ก.ย. 15, 2009 5:05 pm | 0 คอมเมนต์
ผลตอบแทนของบริษัทถ้าเราศึกษาดีๆ มันคาดการณ์ได้ง่ายกว่าดัชนีตลาด ที่ถือเพราะเชื่อมั่นในข้อมูลที่มี ซื้อขายตามเหตุผลโดยไม่เอาอารมณ์มาเกี่ยว
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร ก.ย. 15, 2009 6:59 pm | 0 คอมเมนต์
ถ้าเราอยู่วงนอก คือมองดูแต่ยังไม่ได้ซื้อขายหุ้นจริงๆ มองดูก็เหมือนง่าย
ยิ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ก็ยิ่งง่ายใหญ่
แต่เมื่อเราได้ลงทุนจริงๆแล้ว จะพบว่าไม่ง่ายเหมือนที่เคยคิด
ปลายปีก่อน ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายก็บอกว่าปีนี้สภาพเศรษฐกิจทั้งโลกจะแย่มากๆ แย่มากที่สุดในรอบหลายสิบปี ปีที่แล้วเผาหลอก ปีนี้เผาจริง
แต่ปรากฏว่า ดัชนีหุ้นขึ้นมาจากจุดต่ำสุดหลายสิบเปอร์เซ็นต์ มาพร้อมกับข่าวดีท่วมตลาด
หรือแม้แต่เหตุการณ์มาตรการ 30% หรือ เหตุการณ์ปฏิวัติ เราควรทำอย่างไรกับหุ้นในพอร์ตของเราดี
สุดท้าย เราลองพิจารณาดูว่า ณ.ดัชนีตอนนี้ เราควรซื้อหรือขายหุ้นดีละครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
podrbu
Verified User
โพสต์: 119
ผู้ติดตาม: 0
อังคาร ก.ย. 15, 2009 11:49 pm | 0 คอมเมนต์
[quote="chatchai"]ถ้าเราอยู่วงนอก
Diablo
Verified User
โพสต์: 822
ผู้ติดตาม: 0
พุธ ก.ย. 16, 2009 12:45 am | 0 คอมเมนต์
คนเล่นเป็นหมู
คนดูเป็นเซียน :D
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 0
พุธ ก.ย. 16, 2009 9:31 am | 0 คอมเมนต์
ถ้าปีที่แล้วผมรู้ว่าหุ้นจะลง.. ผมก็ล้าง port เหมือนกัน..
แต่เพราะไม่รู้นี่แหละ เลยอยู่ในหุ้นตลอด.. ไม่หนีไปไหน
ที่สำคัญ ผมไม่ได้ซื้อ set ครับ... set ตอนนี้ยังไปไม่ถึงปีที่แล้ว หุ้นหลายตัวที่ผมถือทะลุ High ไปสบายๆ สุดท้ายก็ต้องวิเคราะห์เป็นตัวๆไปอยู่ดี เพราะงั้นถ้ายังคิดว่าหุ้นที่ถืออยู่มันถูก ก็ไม่รู้จะขายไปไปทำไม
ศิษย์เซียน007
Verified User
โพสต์: 1254
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ก.ย. 17, 2009 4:50 pm | 0 คอมเมนต์
[quote="Diablo"]คนเล่นเป็นหมู
คนดูเป็นเซียน
charnengi
Verified User
โพสต์: 2388
ผู้ติดตาม: 0
พฤหัสฯ. ก.ย. 17, 2009 5:22 pm | 0 คอมเมนต์
ผมว่าหลายๆ คน สร้าง new high ของพอร์ตได้จากวิกฤตคราวนี้ รวมถึงตัวผมด้วย เพิ่งเจอวิกฤตรอบแรก :lol:
การที่เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะลงหรือจะขึ้น ก็ทำให้ผมถือหุ้นเต็มพอร์ตตลอดเช่นเดียวกับพี่ๆหลายคน
ที่สำคัญผมรู้แล้วว่า GDP -7% ไม่ได้ทำให้บริษัทที่แข็งแกร่ง แย่ลงเลย ตอนปลายที่แล้ว ขายกันอย่างกับบริษัทจะเจ้ง ไม่ว่าจะเป็น cpf cpall hmpro spali irp
มองภาพกว้างให้ออก ขยันหาข้อมูลในรายละเอียด
จะเกิดวิกฤตอีกกี่ครั้ง ก็ยังมีโอกาสเสมอ แต่ความทุกข์ตอนขาดทุนมันหนักหนากว่าความดีใจตอนได้กำไร 3 เท่าครับ
Skyforever
Verified User
โพสต์: 1203
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ก.ย. 18, 2009 5:01 pm | 0 คอมเมนต์
พวกเราคาดการณ์ราคาหุ้นไม่ได้ครับ แต่พวกเราคาดประเมินพื้นฐานของบริษัทที่เราลงทุนได้ ดังนั้นตราบที่พื้นฐานบริษัทยังดี เราก็ไม่คิดที่จะขายกิจการของเราหรอกครับ
แต่ถ้าเราสามารถรู้ราคาหุ้นล่วงหน้าได้ เราก็คงไม่มาลงทุนแนว VI หรอกครับ เราก็ไปเก็งกำไรราคาหุ้นซะเลย อิอิ :D :D
holidaytours
Verified User
โพสต์: 349
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ก.ย. 18, 2009 10:31 pm | 0 คอมเมนต์
ผมเองครั้งแรกที่ลงทุนความตั้งใจครั้งแรกคือถือยาว
แต่สภาพแวดล้อมรอบข้างมีแต่คนเล่นสั้น ๆ
ตะบะก็ไม่แข็งพอ ก็เลยออกจะมั่ว ๆ
มีความรู้ + ประสบการณ์ + มีเงินเหลือ
และสุดท้ายกระบี่อยู่ที่ใจครับ
คือบทสรุปของผมในการคิดจะลงทุนระยะยาวครับ :D
holidaytours
Verified User
โพสต์: 349
ผู้ติดตาม: 0
ศุกร์ ก.ย. 18, 2009 10:34 pm | 0 คอมเมนต์
[quote="JunkieXL"]สวัสดีครับ
ผมเริ่มเข้าลงทุนในตลาดได้ไม่นาน โดยเริ่มจากการศึกษาหนังสือแปลของด้าน VI ครับ ก็เกิดสงสัยว่าตลาดหุ้นของไทยมันมีการเปลี่ยนแปลงรุนแรงบ่อยครั้งกว่าต่างประเทศ
stockms
Verified User
โพสต์: 920
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ก.ย. 19, 2009 12:07 pm | 0 คอมเมนต์
ผมซื้อหุ้นรายตัว แต่ก็ดูดัชนีประกอบระดับการลงทุน โดยใช้ดัชนีที่ 100 เป็นตัวตั้งว่าจะลงทุนเต็ม 100% และจะขายออกทุก 5% ทุก 100 จุดที่เพิ่มขึ้น อย่างตอนนี้ดัชนีแถว 700 ผมพยามยามลดพอร์ตเพื่อให้เเหลือเงินสดซัก 30% โดยจะเลือกขายตัวที่คิดว่ามี mos น้อยที่สุดออกก่อน ถ้าคุณเป็นคนชอบซื้อขายหุ้น พบว่าวิธีนีไม่ทำให้เครียดหรือเกร็ง ไม่ว่าหุ้นจะลงหรือขึ้นหรือลง มีหุ้นและมีเงินให้ซื้อให้ขายตลอดเวลา
SV2
Verified User
โพสต์: 181
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ก.ย. 19, 2009 1:52 pm | 0 คอมเมนต์
สมมุติเราเป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี่๋ยวอยู่ร้านหนึ่ง ขายดีมากๆทุกๆวันคนแน่นร้านตั้งแต่เปิดร้านจนร้านปิด จุดแข็งของร้านคืออร่อย สอาด ราคาไม่แพงเกินไป คุ้มค่า
ร้านของเราในแต่ละปีก็จะมีคนมาขอซื้อร้านเพราะเห็นว่าขายดีและมีกำไร แต่เราไม่อยากขายถึงแม้จะให้ราคาที่สูงมากๆ เพราะเราคิดว่าเรายังทำเองได้อีกเป็นสิบๆปี
อยู่มาวันหนึ่งทางการเวณคืนที่ดินเฉียดๆร้านไป เพื่อทำสพานหรือทางด่วน เราก็กลุ้มใจเพราะการทำสพานหรือทางด่วนคงต้องทำกันเป็นปีๆ
และระหว่างที่ก่อสร้างก็จะมีฝุ่นมาก เสียงดัง ทางเดินก็คงไม่เดินได้สบายเหมือนเดิมหรืออาจกลายเป็นดินเป็นหลุมเป็นบ่อ ที่ว่างๆที่ลูกค้าเคยจอดรถได้ก็หายไป
เราจึงคิดว่าลูกค้าคงต้องหายไปมากพอควร คิดได้แล้วก็โทรศัพท์ไปหาคนที่เคยมาขอซื้อร้าน แต่ว่าโทรไปหาใครก็ไม่มีใครอยากได้ร้านแล้วเพราะรู้เรื่องการทำสพาน
บางคนเสียไม่ได้ก็บอกราคากลับมาต่ำกว่าที่เคยบอกเราเอาไว้มากๆ กลุ้มใจจริงๆเราจะทำยังไงดี
ขายไปเถอะ ใจหนึ่งคิด แล้วค่อยไปหาทำเลอื่น
ทนๆไปเถอะ กำไรน้อยก็ยังดีกว่าไม่ต้องเสี่ยงถ้าไปทำเลอื่น อาจเจอคู่แข่งมาก ทำเลอาจไม่เหมาะเท่า ไม่สะดวก ที่จอดรถไม่มี ค่าเช่าแพง ฯลฯ
สองปีเศษผ่านไป
ร้านกลับมาขายดีเหมือนเดิมและดูเหมือนจะค่อยๆขายดีขึ้นด้วยซำ้ เพราะลูกค้าเก่าๆรู้ว่าสพานทำเสร็จแล้ว ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม
แต่มีบางสิ่งที่ดีขึ้นอีกคือมีที่จอดรถใต้สพานทำให้จอดรถได้มากขึ้น ร้านข้างๆกันก็ย้ายไปขายที่อื่นนานแล้ว
ปีถัดมากลูกค้ามากขึ้นอีกมาก เราก็เลยคิดจะขยายร้านเพิ่มอีกห้อง
ถ้าเราตัดสินใจขายร้านไปถูกๆตอนนั้น วันนี้เราจะซื้อร้านกลับมาได้ไหม ได้ในราคาไหน
อาจจะซื้อได้หรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าได้คงต้องเป็นราคาที่สูงมากแน่ๆ
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0
เสาร์ ก.ย. 19, 2009 3:43 pm | 0 คอมเมนต์
stockms เขียน: ผมซื้อหุ้นรายตัว แต่ก็ดูดัชนีประกอบระดับการลงทุน โดยใช้ดัชนีที่ 100 เป็นตัวตั้งว่าจะลงทุนเต็ม 100% และจะขายออกทุก 5% ทุก 100 จุดที่เพิ่มขึ้น อย่างตอนนี้ดัชนีแถว 700 ผมพยามยามลดพอร์ตเพื่อให้เเหลือเงินสดซัก 30% โดยจะเลือกขายตัวที่คิดว่ามี mos น้อยที่สุดออกก่อน ถ้าคุณเป็นคนชอบซื้อขายหุ้น พบว่าวิธีนีไม่ทำให้เครียดหรือเกร็ง ไม่ว่าหุ้นจะลงหรือขึ้นหรือลง มีหุ้นและมีเงินให้ซื้อให้ขายตลอดเวลา
เป็นความคิดในการบริหารความเสี่ยงที่ดีคับ
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
sai
Verified User
โพสต์: 4090
ผู้ติดตาม: 2
เสาร์ ก.ย. 19, 2009 4:26 pm | 0 คอมเมนต์
stockms เขียน: ผมซื้อหุ้นรายตัว แต่ก็ดูดัชนีประกอบระดับการลงทุน โดยใช้ดัชนีที่ 100 เป็นตัวตั้งว่าจะลงทุนเต็ม 100% และจะขายออกทุก 5% ทุก 100 จุดที่เพิ่มขึ้น อย่างตอนนี้ดัชนีแถว 700 ผมพยามยามลดพอร์ตเพื่อให้เเหลือเงินสดซัก 30% โดยจะเลือกขายตัวที่คิดว่ามี mos น้อยที่สุดออกก่อน ถ้าคุณเป็นคนชอบซื้อขายหุ้น พบว่าวิธีนีไม่ทำให้เครียดหรือเกร็ง ไม่ว่าหุ้นจะลงหรือขึ้นหรือลง มีหุ้นและมีเงินให้ซื้อให้ขายตลอดเวลา
ถ้าดัชนีอยู่ที่ 1000 จุด คุณ stockms จะมีการปรับแผนใหม่อีกครั้งหรือไม่ครับ ไม่งั้นต้องถือเงินสด 100 % เลยนะครับ
Small Details Make a Big Difference
sai
Verified User
โพสต์: 4090
ผู้ติดตาม: 2
เสาร์ ก.ย. 19, 2009 4:31 pm | 0 คอมเมนต์
sai เขียน:
ถ้าดัชนีอยู่ที่ 1000 จุด คุณ stockms จะมีการปรับแผนใหม่อีกครั้งหรือไม่ครับ ไม่งั้นต้องถือเงินสด 100 % เลยนะครับ
ขอโทษทีครับ สงสัยผมจะเข้าใจผิดครับ นึกว่าขายออกที่ดัชนี 100 จุดทุก 10 % แต่ขอถามอย่างเดิมครับว่าเราจะทำอย่างไรหากดัชนีไปถึงจุดที่เราต้องถือเงินสด 100 % คือเราต้องมีการทำการประเมิณสูตรดังกล่าวใหม่หรือไม่โดยอาจเทียบกับ pe หรือ pbv หรือมีกรอบเวลาในการทำตามแผนเพือ่ให้รองรับกับตลาด ทุกทุกกี่ปีแบบนั้นน่ะครับผม :lol:
Small Details Make a Big Difference
stockms
Verified User
โพสต์: 920
ผู้ติดตาม: 0
พุธ ก.ย. 23, 2009 9:40 pm | 0 คอมเมนต์
ผมก็อยากให้ถึงวันที่ผมได้ถือเงินสด 100% จริงๆ ครับ เพราะคิดว่าวันนั้นผมและเพื่อนๆ ในนี้น่าจะอารมณ์ดีมาก และอาจจะต้องนัดฉลองแล้วมาวางแผนกันว่าจะไปลงทุนในทรัพย์สินประเภทใดดี พันธบัตร ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ หรือฝากธนาคารรอให้หุ้นตกดี