สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 1
พึ่งเริ่มเล่นหุ้นได้ไม่นาน (ไม่ถึงหนึ่งเดือน)
ก่อนหน้านั้นก็ลองผิดลองถูก เสียค่าครูไปพอสมควร
ก่อนหน้านี้มีศึกษาเกี่ยวกับ technical analysis อยู่ ได้พอขั้นพื้นฐาน (อ่านกราฟ และตีความได้ แต่ยังไม่เก่งมากเท่าไหร่)
แต่หลังจากพอเล่นไปได้สักพัก ก็พบว่า ทางเทคนิค ก็ยังแท้เจ้ามือตลาดและการคาดเดาไม่ได้ของตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน รวมถึงปัจจัยแวดล้อมมากมาย
ที่ส่งผลกระทบต่อหุ้นที่ผมกำลังเล่น ซึ่งแน่นอน ผมไม่มีทางรู้มันล่วงหน้าได้เลย
ก่อนหน้านั้นได้ยินคำว่า VI มาพอสมควร
หลายๆคนมักเข้าใจว่า VI คือการเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดี ในราคาถูก แล้วเก็บยาวเพื่อรอการงอกเงยของกำไรของบริษัทนั้นๆ
หลักการคือให้เลือกหุ้นที่ p/e ต่ำๆ แล้วลองเจาะลึกไปที่งบการเงิน
เข้าไปดูอัตราการเติบโตของกำไร อัตราการลดลงของจำนวนหนี้ ฯลฯ
เนื่องจากผมไม่มีความรู้ทางด้าน VI มาก่อน
เมื่อวานเลยลองไปร้านหนังสือ หาซื้อ "ตีแตก" ของอาจารย์นิเวศน์ มานั่งอ่าน
หลังจากอ่านจบทำให้เข้าใจใน concept ของการลงทุนแบบ VI เพิ่มมากขึ้นพอสมควร
วันนี้ผมก็เลยลองไปโหลดงบการเงิน Q2 ของ CPF มาลองวิเคราะห์งบการเงินดู
ก็เลยอยากให้พี่ๆที่ห้องนี้ หากไม่รบกวนจนเกินไป ช่วยตรวจคำวิเคราะห์ของผมให้หน่อย จะขอบคุณมากเลยครับ
จะทยอยลงข้อมูลไปเรื่อยๆนะครับผม :lol:
ก่อนหน้านั้นก็ลองผิดลองถูก เสียค่าครูไปพอสมควร
ก่อนหน้านี้มีศึกษาเกี่ยวกับ technical analysis อยู่ ได้พอขั้นพื้นฐาน (อ่านกราฟ และตีความได้ แต่ยังไม่เก่งมากเท่าไหร่)
แต่หลังจากพอเล่นไปได้สักพัก ก็พบว่า ทางเทคนิค ก็ยังแท้เจ้ามือตลาดและการคาดเดาไม่ได้ของตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน รวมถึงปัจจัยแวดล้อมมากมาย
ที่ส่งผลกระทบต่อหุ้นที่ผมกำลังเล่น ซึ่งแน่นอน ผมไม่มีทางรู้มันล่วงหน้าได้เลย
ก่อนหน้านั้นได้ยินคำว่า VI มาพอสมควร
หลายๆคนมักเข้าใจว่า VI คือการเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดี ในราคาถูก แล้วเก็บยาวเพื่อรอการงอกเงยของกำไรของบริษัทนั้นๆ
หลักการคือให้เลือกหุ้นที่ p/e ต่ำๆ แล้วลองเจาะลึกไปที่งบการเงิน
เข้าไปดูอัตราการเติบโตของกำไร อัตราการลดลงของจำนวนหนี้ ฯลฯ
เนื่องจากผมไม่มีความรู้ทางด้าน VI มาก่อน
เมื่อวานเลยลองไปร้านหนังสือ หาซื้อ "ตีแตก" ของอาจารย์นิเวศน์ มานั่งอ่าน
หลังจากอ่านจบทำให้เข้าใจใน concept ของการลงทุนแบบ VI เพิ่มมากขึ้นพอสมควร
วันนี้ผมก็เลยลองไปโหลดงบการเงิน Q2 ของ CPF มาลองวิเคราะห์งบการเงินดู
ก็เลยอยากให้พี่ๆที่ห้องนี้ หากไม่รบกวนจนเกินไป ช่วยตรวจคำวิเคราะห์ของผมให้หน่อย จะขอบคุณมากเลยครับ
จะทยอยลงข้อมูลไปเรื่อยๆนะครับผม :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 2
งบดุลของ CPF Q2 สามารถโหลดได้จากลิงค์นี้เลยครับ
(เอาไว้ดูเป็น reference ในกรณีที่ผมอาจลงตัวเลขผิด แหะ แหะ )
http://www.set.or.th/dat/news/200908/09027393.zip
(เอาไว้ดูเป็น reference ในกรณีที่ผมอาจลงตัวเลขผิด แหะ แหะ )
http://www.set.or.th/dat/news/200908/09027393.zip
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 3
ส่วนอันนี้เป็นตารางสรุปที่ผมเลียนแบบจากหนังสือ ตีแตก ขึ้นมาครับ
ทำลงใน excel แล้วกรอกตัวเลขเอา เวลาเปลี่ยนไปใช้หุ้นตัวอื่นจะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเขียนใหม่ครับ
จากตารางด้านล่างนั้นเป็น งบดุลของ CPF
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552
คำถามครับ
1. เขาจะมี "งบการเงินรวม" กับ "งบการเงินเฉพาะกิจการ" แต่โดยทั่วไปเราจะใช้ "งบการเงินรวม" มาวิเคราะห์งบดุลของบริษัทนั้นๆ ใช่ไหมครับ
2. เขาให้ข้อมูลของปี 2551 มาด้วย จุดประสงค์เพื่อให้เรามีข้อเปรียบเทียนผบการดำเนินงาน ใช่ไหมครับ
3. ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลของไตรมาสที่ 2
ผมสงสัยว่า ยอดขายที่เขาให้มา (ซึ่งมีค่าเท่ากับ 40,613,251 ลบ.)
หากผมต้องการทำรวมเป็นหนึ่งปี ผมเอาค่าดังกล่าวคูณ 4 นี่ถูกต้องไหมครับ
หรือว่าจับคูณแค่ 2 เพราะว่าค่าที่ได้มาเป็นของไตรมาสที่ 2 แล้ว (ผมงงมากครับ)
4. เขาให้ข้อมูลมาทั้ง "งวดสามเดือน" และ "งวดหกเดือน"
แล้วถ้าผมใช้ข้อมูลของ "งวดสามเดือน" มาวิเคราะห์ จะถูกไหมครับ
(ไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้ รบกวนช่วยอธิบายทีครับ)
ปล. หากเจอตรงส่วนไหนที่ผมลงค่าผิด รบกวนบอกผมด้วยนะครับ
ทำลงใน excel แล้วกรอกตัวเลขเอา เวลาเปลี่ยนไปใช้หุ้นตัวอื่นจะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเขียนใหม่ครับ
จากตารางด้านล่างนั้นเป็น งบดุลของ CPF
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552
คำถามครับ
1. เขาจะมี "งบการเงินรวม" กับ "งบการเงินเฉพาะกิจการ" แต่โดยทั่วไปเราจะใช้ "งบการเงินรวม" มาวิเคราะห์งบดุลของบริษัทนั้นๆ ใช่ไหมครับ
2. เขาให้ข้อมูลของปี 2551 มาด้วย จุดประสงค์เพื่อให้เรามีข้อเปรียบเทียนผบการดำเนินงาน ใช่ไหมครับ
3. ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลของไตรมาสที่ 2
ผมสงสัยว่า ยอดขายที่เขาให้มา (ซึ่งมีค่าเท่ากับ 40,613,251 ลบ.)
หากผมต้องการทำรวมเป็นหนึ่งปี ผมเอาค่าดังกล่าวคูณ 4 นี่ถูกต้องไหมครับ
หรือว่าจับคูณแค่ 2 เพราะว่าค่าที่ได้มาเป็นของไตรมาสที่ 2 แล้ว (ผมงงมากครับ)
4. เขาให้ข้อมูลมาทั้ง "งวดสามเดือน" และ "งวดหกเดือน"
แล้วถ้าผมใช้ข้อมูลของ "งวดสามเดือน" มาวิเคราะห์ จะถูกไหมครับ
(ไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้ รบกวนช่วยอธิบายทีครับ)
ปล. หากเจอตรงส่วนไหนที่ผมลงค่าผิด รบกวนบอกผมด้วยนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 4
ต่อไปจะเป็นส่วนของการวิเคราะห์จากงบดุลที่ได้มาแล้วนะครับ
step การวิเคราะห์ผมจะเลียนแบบของ อาจารย์ เขาเลย เพราะแนวทางของผมเองยังไม่มี และก็มองว่าของอาจารย์แกเขาทำออกมาได้ดีมากๆด้วย
อันนี้เป็นภาพรวมๆก่อนนะครับ
1. ยอดขาย 1 ไตรมาสหรือ 3 เดือน ขายได้ 40,613,251 ล้านบาท ทั้งปีคิดเป็น 162,453,004
เปรียบเทียบกับทรัพย์สินที่มีอยู่ 103,151,967 จะเห็นว่ายอดขายเป็น 1.6 เท่าของสินทรัพย์ ซึ่งถือว่า ค่อนข้างโอเค ใช่ไหมครับ
2. รายได้อื่นๆ 297,627 เท่ากับประมาณ 0.73 %
(หากมีค่ามากหมายความว่าบริษัทไปทำอย่างอื่นมากเกินไป ไม่เน้นกิจการหลักที่สำคัญกว่า)
3. รายได้ทั้งหมด 40,933,330 หักต้นทุนขาย 32,725,597 ได้กำไรขั้นต้น 8,207,733
หรือมีมาร์จินส่วนต่างกำไรประมาณ 20.05 ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอสมควร ใช่ไหมครับ
4. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 4,324,079
เปรียบเทียบกับยอดขาย 40,613,251 เท่ากับ 10.65 ซึ่งถือว่าไม่มากเกินไป
แต่หากเปรียบเทียบกับกำไรขั้นต้นจำนวน 8,207,733 เท่ากับ 52.68% ถือว่าเยอะพอสมควร
5. ผมหา "ดอกเบี้ยจ่าย" ไม่เจอ มันอยู่ตรงไหนเนี่ย :?:
6. บริษัทมีกำไรก่อนภาษีและรายการพิเศษ 3,927,541 แต่จ่ายภาษีนิติบุคคลเพียง 677,692
คิดเป็นเปอร์เซนต์ 17.25 นับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้าต้องเสียภาษีตามปกติจะต้องเสียถึง 30 %
ตามปกติจะต้องเสียภาษีถึง 30% ของกำไร หรือ 1,963,771 (ยังน้อยกว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่)
7. รายได้อื่นของบริษัทมีเพียง 55,982 ถือว่าดีแล้ว ยิ่งน้อยยิ่งดี
8. กำไรสุทธิของบริษัทในไตรมาสนี้เท่ากับ 3,249,849
เมื่อเปรียบเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 47,766,288 เท่ากับ 6.80 % ต่อ 1 ไตรมาส
หรือเท่ากับ 27.21 ต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นกำไรมหาศาล (เป้าหมายคือ 18-20% ต่อปี)
9. ในบรรทัดสุดท้ายของงบกำไรขาดทุน แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.48 บาทต่อ 1 ไตรมาส
เทียบให้เป็น 4 ไตรมาสจะกำไร 1.92 บาทต่อหุ้น (ถือว่าเยอะใช่ไหมครับ)
step การวิเคราะห์ผมจะเลียนแบบของ อาจารย์ เขาเลย เพราะแนวทางของผมเองยังไม่มี และก็มองว่าของอาจารย์แกเขาทำออกมาได้ดีมากๆด้วย
อันนี้เป็นภาพรวมๆก่อนนะครับ
1. ยอดขาย 1 ไตรมาสหรือ 3 เดือน ขายได้ 40,613,251 ล้านบาท ทั้งปีคิดเป็น 162,453,004
เปรียบเทียบกับทรัพย์สินที่มีอยู่ 103,151,967 จะเห็นว่ายอดขายเป็น 1.6 เท่าของสินทรัพย์ ซึ่งถือว่า ค่อนข้างโอเค ใช่ไหมครับ
2. รายได้อื่นๆ 297,627 เท่ากับประมาณ 0.73 %
(หากมีค่ามากหมายความว่าบริษัทไปทำอย่างอื่นมากเกินไป ไม่เน้นกิจการหลักที่สำคัญกว่า)
3. รายได้ทั้งหมด 40,933,330 หักต้นทุนขาย 32,725,597 ได้กำไรขั้นต้น 8,207,733
หรือมีมาร์จินส่วนต่างกำไรประมาณ 20.05 ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอสมควร ใช่ไหมครับ
4. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 4,324,079
เปรียบเทียบกับยอดขาย 40,613,251 เท่ากับ 10.65 ซึ่งถือว่าไม่มากเกินไป
แต่หากเปรียบเทียบกับกำไรขั้นต้นจำนวน 8,207,733 เท่ากับ 52.68% ถือว่าเยอะพอสมควร
5. ผมหา "ดอกเบี้ยจ่าย" ไม่เจอ มันอยู่ตรงไหนเนี่ย :?:
6. บริษัทมีกำไรก่อนภาษีและรายการพิเศษ 3,927,541 แต่จ่ายภาษีนิติบุคคลเพียง 677,692
คิดเป็นเปอร์เซนต์ 17.25 นับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้าต้องเสียภาษีตามปกติจะต้องเสียถึง 30 %
ตามปกติจะต้องเสียภาษีถึง 30% ของกำไร หรือ 1,963,771 (ยังน้อยกว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่)
7. รายได้อื่นของบริษัทมีเพียง 55,982 ถือว่าดีแล้ว ยิ่งน้อยยิ่งดี
8. กำไรสุทธิของบริษัทในไตรมาสนี้เท่ากับ 3,249,849
เมื่อเปรียบเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 47,766,288 เท่ากับ 6.80 % ต่อ 1 ไตรมาส
หรือเท่ากับ 27.21 ต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นกำไรมหาศาล (เป้าหมายคือ 18-20% ต่อปี)
9. ในบรรทัดสุดท้ายของงบกำไรขาดทุน แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.48 บาทต่อ 1 ไตรมาส
เทียบให้เป็น 4 ไตรมาสจะกำไร 1.92 บาทต่อหุ้น (ถือว่าเยอะใช่ไหมครับ)
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 5
สินทรัพย์ของบริษัท
1. เงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นของบริษัท จำนวนรวม 4,359,222 (มีสภาพคล่องทารการเงินสูงมาก)
2. ลูกหนี้การค้าของบริษัทมี 13,099,129 เมื่อเปรียบเทียบกับยอดขาย 40,613,251 ต่อไตรมาส หรือเป็นยอดขาย 13,537,750 ต่อเดือน
จะเห็นได้ว่าบริษัทให้เครดิตลูกค้าสั้นมาก คือ 29 วันเท่านั้น (โอกาสเกิดหนี้เสีย น้อย)
3. สินค้าคงคลังมีจำนวน 25,239,522 ลบ.
ในขณะที่ช่วง 3 เดือน บริษัทขายสินค้าไปตามราคาต้นทุน 32,725,597 หรือเดือนละ 10,908,532
เท่ากับว่าบริษัทมีสต๊อก , วัตถุดิบและสินค้าที่เตรียมส่งขาย 69 วัน (โดยประมาณ)
4. สินทรัพย์หมุนเวียนอื่นๆจำนวน 1,471,812
ถือว่าไม่มีนัยสำคัญมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับสินทรัพย์หมุนเวียนทั้งหมดจำนวน 44,431,557
5. เงินลงทุนและเงินให้กู้ ทั้งที่ให้แก่คนอื่นหรือให้แก่บริษัทในเครือ 9,960,009
(มากไปไม่ดี เพราะต้องกังวลว่าบริษัทเหล่านั้นอาจมีฐานะการเงินไม่ดี ทำให้เงินลงทุนหรือหนีนั้นกลายเป็นหนี้เสียไปได้)
6. กิจการนี้มีสินทรัพย์ที่เป็นที่ดิน , โรงงานและเครื่องจักรสุทธิ 43,886,187
หากเทียบกับยอดขายซึ่งมีจำนวนประมาณ 162,453,004 (คิดเป็น 27.01 % )
เป็นการลงทุนที่มากหรือน้อย ต้องพิจารณาดู
ในกรณีนี้ ผมคิดว่าเป็นการลงทุนที่ไม่มากจนเกินไป จะมากก็ต่อเมื่อเกิน 50% (ไม่ทราบว่าผมให้ % เยอะเกินไปไหมครับ)
7. สินทรัพย์อื่นๆมี 868,219 (มีน้อยถือว่าดี แสดงว่าผู้บริหารไม่นำเงินไปลงทุนในสิ่งอื่นๆนอกเหนือจากธุรกิจหลัก)
8. รวมแล้ว สินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทมี 103,151,967
หากเทียบกับยอดขาย (1ปี) 162,453,004 คิดเป็น 63.50%
มากหรือน้อย ต้องตีความเอาอีกที
อย่างกรณีนี้ สินทรัพย์มีเกินครึ่งของยอดขาย ถือว่า "ไม่ค่อยดี" ใช่ไหมครับ
1. เงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นของบริษัท จำนวนรวม 4,359,222 (มีสภาพคล่องทารการเงินสูงมาก)
2. ลูกหนี้การค้าของบริษัทมี 13,099,129 เมื่อเปรียบเทียบกับยอดขาย 40,613,251 ต่อไตรมาส หรือเป็นยอดขาย 13,537,750 ต่อเดือน
จะเห็นได้ว่าบริษัทให้เครดิตลูกค้าสั้นมาก คือ 29 วันเท่านั้น (โอกาสเกิดหนี้เสีย น้อย)
3. สินค้าคงคลังมีจำนวน 25,239,522 ลบ.
ในขณะที่ช่วง 3 เดือน บริษัทขายสินค้าไปตามราคาต้นทุน 32,725,597 หรือเดือนละ 10,908,532
เท่ากับว่าบริษัทมีสต๊อก , วัตถุดิบและสินค้าที่เตรียมส่งขาย 69 วัน (โดยประมาณ)
4. สินทรัพย์หมุนเวียนอื่นๆจำนวน 1,471,812
ถือว่าไม่มีนัยสำคัญมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับสินทรัพย์หมุนเวียนทั้งหมดจำนวน 44,431,557
5. เงินลงทุนและเงินให้กู้ ทั้งที่ให้แก่คนอื่นหรือให้แก่บริษัทในเครือ 9,960,009
(มากไปไม่ดี เพราะต้องกังวลว่าบริษัทเหล่านั้นอาจมีฐานะการเงินไม่ดี ทำให้เงินลงทุนหรือหนีนั้นกลายเป็นหนี้เสียไปได้)
6. กิจการนี้มีสินทรัพย์ที่เป็นที่ดิน , โรงงานและเครื่องจักรสุทธิ 43,886,187
หากเทียบกับยอดขายซึ่งมีจำนวนประมาณ 162,453,004 (คิดเป็น 27.01 % )
เป็นการลงทุนที่มากหรือน้อย ต้องพิจารณาดู
ในกรณีนี้ ผมคิดว่าเป็นการลงทุนที่ไม่มากจนเกินไป จะมากก็ต่อเมื่อเกิน 50% (ไม่ทราบว่าผมให้ % เยอะเกินไปไหมครับ)
7. สินทรัพย์อื่นๆมี 868,219 (มีน้อยถือว่าดี แสดงว่าผู้บริหารไม่นำเงินไปลงทุนในสิ่งอื่นๆนอกเหนือจากธุรกิจหลัก)
8. รวมแล้ว สินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทมี 103,151,967
หากเทียบกับยอดขาย (1ปี) 162,453,004 คิดเป็น 63.50%
มากหรือน้อย ต้องตีความเอาอีกที
อย่างกรณีนี้ สินทรัพย์มีเกินครึ่งของยอดขาย ถือว่า "ไม่ค่อยดี" ใช่ไหมครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 6
หนี้สินของบริษัท
1. เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ระยะสั้น ซึ่งต้องจ่ายดอกเบี่ยจำนวน 12,817,301
ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับยอดขาย 162,453,004 ต่อปี 7.88 %
2 เจ้าหนี้การค้าซึ่งเป็นผู้ขายสินค้าและวัตถุดิบให้แก่บริษัทนั้น มีจำนวนเพียง 7,711,548
ถือว่าน้อยมาก และอาจกล่าวได้ว่าบริษัทซื้อวัตถุดิบส่วนใหญ่เป็นเงินสดทั้งสิ้น (เงินสดอาจได้ส่วนลด)
3 หนี้สินหมุนเวียนอื่นๆ 2,313,867
เมื่อเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนทั้งหมด 33,220,942 คิดเป็น 6.96 %
ถือว่าน้อยหากเทียบกับขนาดของทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัท (ในความเป็นจริงเราไม่มีทางรู้ว่าเป็นหนี้อะไรบ้าง)
4. บริษัทมีหนี้ระยะยาว 18,390,019 ลบ.
แสดงว่าบริษัทนี้อาจมีการกู้มาลงทุน แต่กู้มาเพื่อหมุนเงินทำธุรกิจตามปกติจำนวนเพียง 12,817,301
(มีหนี้ระยะยาว นับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยง กรณีชำระหนี้ไม่ได้ ข้อนี้จึงควรระวัง ใช่ไหมครับ )
5. โครงสร้างทางการเงินของบริษัทนี้แข็งแรงมาก เพราะมีหนี้สินทั้งหมดเพียง 33,220,942
แต่มีส่วนของผู้ถือหุ้นรวมกันถึง 47,766,288 หรือมีหนี้เพียง 32.20 % ของสินทรัพย์
ซึ่งบริษัทโดยทั่วไปมักมีหนี้เกินกว่า 50% ของทรัพย์สินทั้งหมด
1. เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ระยะสั้น ซึ่งต้องจ่ายดอกเบี่ยจำนวน 12,817,301
ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับยอดขาย 162,453,004 ต่อปี 7.88 %
2 เจ้าหนี้การค้าซึ่งเป็นผู้ขายสินค้าและวัตถุดิบให้แก่บริษัทนั้น มีจำนวนเพียง 7,711,548
ถือว่าน้อยมาก และอาจกล่าวได้ว่าบริษัทซื้อวัตถุดิบส่วนใหญ่เป็นเงินสดทั้งสิ้น (เงินสดอาจได้ส่วนลด)
3 หนี้สินหมุนเวียนอื่นๆ 2,313,867
เมื่อเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนทั้งหมด 33,220,942 คิดเป็น 6.96 %
ถือว่าน้อยหากเทียบกับขนาดของทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัท (ในความเป็นจริงเราไม่มีทางรู้ว่าเป็นหนี้อะไรบ้าง)
4. บริษัทมีหนี้ระยะยาว 18,390,019 ลบ.
แสดงว่าบริษัทนี้อาจมีการกู้มาลงทุน แต่กู้มาเพื่อหมุนเงินทำธุรกิจตามปกติจำนวนเพียง 12,817,301
(มีหนี้ระยะยาว นับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยง กรณีชำระหนี้ไม่ได้ ข้อนี้จึงควรระวัง ใช่ไหมครับ )
5. โครงสร้างทางการเงินของบริษัทนี้แข็งแรงมาก เพราะมีหนี้สินทั้งหมดเพียง 33,220,942
แต่มีส่วนของผู้ถือหุ้นรวมกันถึง 47,766,288 หรือมีหนี้เพียง 32.20 % ของสินทรัพย์
ซึ่งบริษัทโดยทั่วไปมักมีหนี้เกินกว่า 50% ของทรัพย์สินทั้งหมด
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 7
จบแล้วครับ ปวดหัวมาก งงตัวเลขมากกับการวิเคราะห์งบดุล ยากจริงๆครับ
ก่อนจบ ขอลองดูภาพรวมกันอีกครั้งนะครับ
จากข้อมูลข้างต้น ผมสรุปได้ว่า
ณ ไตรมาส 2 นั้น
P/E ยังถือว่าไม่สูงมาก (น้อยกว่า 10) ซื้อเก็บได้
มูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น มีค่า 6.75 แต่ราคาล่าสุด 5.85 ซึ่งถือว่ายังต่ำกว่าอยู่ (วันนี้ปิด 6.00 แล้ว เหอๆ)
หากมาดูที่อัตรากำไรสุทธิ ก็ต้องร้องกันเลยทีเดียว เพราะกำไรเติบโตเทียบจากปีที่แล้วมากพอสมควร
แต่ผมมีข้อสงสัยอยู่นิดนึงครับ
หนี้สินมีค่าลดลง แต่ว่า รายได้รวมก็ลดลงเช่นเดียวกัน (แต่กำไรเพิ่มขึ้น)
อย่างนี้จะตีความได้อย่างไรครับ
จบแล้วครับ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำให้กับนักลงทุน VI น้องใหม่นะครับ
ก่อนจบ ขอลองดูภาพรวมกันอีกครั้งนะครับ
จากข้อมูลข้างต้น ผมสรุปได้ว่า
ณ ไตรมาส 2 นั้น
P/E ยังถือว่าไม่สูงมาก (น้อยกว่า 10) ซื้อเก็บได้
มูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น มีค่า 6.75 แต่ราคาล่าสุด 5.85 ซึ่งถือว่ายังต่ำกว่าอยู่ (วันนี้ปิด 6.00 แล้ว เหอๆ)
หากมาดูที่อัตรากำไรสุทธิ ก็ต้องร้องกันเลยทีเดียว เพราะกำไรเติบโตเทียบจากปีที่แล้วมากพอสมควร
แต่ผมมีข้อสงสัยอยู่นิดนึงครับ
หนี้สินมีค่าลดลง แต่ว่า รายได้รวมก็ลดลงเช่นเดียวกัน (แต่กำไรเพิ่มขึ้น)
อย่างนี้จะตีความได้อย่างไรครับ
จบแล้วครับ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำให้กับนักลงทุน VI น้องใหม่นะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 8
[quote="winkung"]ส่วนอันนี้เป็นตารางสรุปที่ผมเลียนแบบจากหนังสือ ตีแตก ขึ้นมาครับ
ทำลงใน excel แล้วกรอกตัวเลขเอา เวลาเปลี่ยนไปใช้หุ้นตัวอื่นจะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเขียนใหม่ครับ
จากตารางด้านล่างนั้นเป็น งบดุลของ CPF
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552
คำถามครับ
1. เขาจะมี "งบการเงินรวม" กับ "งบการเงินเฉพาะกิจการ" แต่โดยทั่วไปเราจะใช้ "งบการเงินรวม" มาวิเคราะห์งบดุลของบริษัทนั้นๆ
ทำลงใน excel แล้วกรอกตัวเลขเอา เวลาเปลี่ยนไปใช้หุ้นตัวอื่นจะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเขียนใหม่ครับ
จากตารางด้านล่างนั้นเป็น งบดุลของ CPF
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552
คำถามครับ
1. เขาจะมี "งบการเงินรวม" กับ "งบการเงินเฉพาะกิจการ" แต่โดยทั่วไปเราจะใช้ "งบการเงินรวม" มาวิเคราะห์งบดุลของบริษัทนั้นๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 9
ส่วนข้อที่เหลือหากมีเวลามาตอบให้แต่ไม่ค่อยอยากตอบ
เนื่องจากมันเจาะลึกเกินไป เดี๋ยวตอบไปคนถืออยู่หมั่นไส้เอาได้
แต่เจ้าข้องกระทู้ขยันมากๆ แต่พื้นฐานยังไม่แน่นเท่านั้น
เชิญเจ้าของกระทู้ลงพวก Course การเงินพื้นฐานหรือหาหนังสืองบการเงินมาอ่านอีกซักหน่อยล่ะครับ คำตอบเดี๋ยวมันออกมาจากหนังสือเอง ล่ะครับ
เนื่องจากมันเจาะลึกเกินไป เดี๋ยวตอบไปคนถืออยู่หมั่นไส้เอาได้
แต่เจ้าข้องกระทู้ขยันมากๆ แต่พื้นฐานยังไม่แน่นเท่านั้น
เชิญเจ้าของกระทู้ลงพวก Course การเงินพื้นฐานหรือหาหนังสืองบการเงินมาอ่านอีกซักหน่อยล่ะครับ คำตอบเดี๋ยวมันออกมาจากหนังสือเอง ล่ะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 912
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 10
เห็นว่าในตารางข้างบนหาไม่เจอ เลยนำมาให้ครับ
จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. 7,519,937,826 หุ้น
ข้อมูลดูที่ settrade ประกอบได้ครับ
http://www.settrade.com/C04_03_stock_co ... lectPage=3
จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. 7,519,937,826 หุ้น
ข้อมูลดูที่ settrade ประกอบได้ครับ
http://www.settrade.com/C04_03_stock_co ... lectPage=3
ในยามลมแรง แม้แต่ไก่งวงยังบินได้
แต่เมื่อยามลมพัดหวน ผู้ที่อยู่รอดนั้่นคือพญาอินทรี
แต่เมื่อยามลมพัดหวน ผู้ที่อยู่รอดนั้่นคือพญาอินทรี
-
- Verified User
- โพสต์: 912
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 11
ผมไม่เคยตาม cpf แต่แนะนำว่าลองเข้าไปถามในห้องนี้ดูครับ
(ไม่แน่ใจว่าเคยแวะเข้าไปดูหรือยัง)
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=1265
(ไม่แน่ใจว่าเคยแวะเข้าไปดูหรือยัง)
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=1265
ในยามลมแรง แม้แต่ไก่งวงยังบินได้
แต่เมื่อยามลมพัดหวน ผู้ที่อยู่รอดนั้่นคือพญาอินทรี
แต่เมื่อยามลมพัดหวน ผู้ที่อยู่รอดนั้่นคือพญาอินทรี
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 12
อยากให้มาตอบนะครับ ใครเขาจะไปว่าพี่ล่ะ ผมว่าไม่มีหรอกนะmiracle เขียน:ส่วนข้อที่เหลือหากมีเวลามาตอบให้แต่ไม่ค่อยอยากตอบ
เนื่องจากมันเจาะลึกเกินไป เดี๋ยวตอบไปคนถืออยู่หมั่นไส้เอาได้
แต่เจ้าข้องกระทู้ขยันมากๆ แต่พื้นฐานยังไม่แน่นเท่านั้น
เชิญเจ้าของกระทู้ลงพวก Course การเงินพื้นฐานหรือหาหนังสืองบการเงินมาอ่านอีกซักหน่อยล่ะครับ คำตอบเดี๋ยวมันออกมาจากหนังสือเอง ล่ะครับ
แนะนำ แบ่งปันความรู้ ผมว่าดีออกนะครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากๆ มันมีค่าสำหรับน้องใหม่อย่างผมมากๆเลยนะครับ
ยอมรับว่าผมพื้นฐานยังไม่แน่น เพราะพึ่งเริ่มศึกษาจริงจังก็เมื่อวานนี้เองครับ - -"
ให้ลง course เรียน คิดว่าคงไม่สะดวก เพราะผมอยู่ต่างจังหวัด
ส่วนเรื่องหาหนังสือมาอ่าน อันนี้เข้าท่าครับ เว้นแต่ความขี้เกียจจะครอบงำ 55+
จะรอคำอธิบายจากพี่ต่อนะครับ (ไว้ว่างๆมาเขียนต่อก็ได้)
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 13
เข้าไปแล้วครับ ขอบคุณมากๆ :lol:สวนหย่อม เขียน:ผมไม่เคยตาม cpf แต่แนะนำว่าลองเข้าไปถามในห้องนี้ดูครับ
(ไม่แน่ใจว่าเคยแวะเข้าไปดูหรือยัง)
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=1265
-
- Verified User
- โพสต์: 912
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 14
ปกติห้องนี้พี่ๆ หลายๆ ท่านไม่ได้เข้ามานะครับ
ถ้ายังไงอาจลองไปโพสต์ห้องปกติ มีพี่ๆ เก่งงบการเงินอยู่หลายคนเลยทีเดียวครับ
หรือลองถามพี่ลูกอิสานในคลังกระทู้คุณค่าดูครับ
ถ้ายังไงอาจลองไปโพสต์ห้องปกติ มีพี่ๆ เก่งงบการเงินอยู่หลายคนเลยทีเดียวครับ
หรือลองถามพี่ลูกอิสานในคลังกระทู้คุณค่าดูครับ
ในยามลมแรง แม้แต่ไก่งวงยังบินได้
แต่เมื่อยามลมพัดหวน ผู้ที่อยู่รอดนั้่นคือพญาอินทรี
แต่เมื่อยามลมพัดหวน ผู้ที่อยู่รอดนั้่นคือพญาอินทรี
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 15
ก่อนมาตอบ
ต้องถาม พี่winkung ทำไมสนใจเจ้า CPF ล่ะครับ
เพราะตัวนี้ข้อมูลบทวิเคราะห์มีให้อ่านจากโบรกเกอร์
ทั้งด้านเทคนิคคอลและพื้นฐานอยู่แล้ว
ผมจึงอยากรู้ว่าทำไมสนใจตัวนี้ล่ะ
ตัวอื่นๆอีกตั้งเกือบห้าร้อยตัวไม่สนใจ
ต้องมีอะไรที่ทำให้สนใจตัวนี้
ต้องถาม พี่winkung ทำไมสนใจเจ้า CPF ล่ะครับ
เพราะตัวนี้ข้อมูลบทวิเคราะห์มีให้อ่านจากโบรกเกอร์
ทั้งด้านเทคนิคคอลและพื้นฐานอยู่แล้ว
ผมจึงอยากรู้ว่าทำไมสนใจตัวนี้ล่ะ
ตัวอื่นๆอีกตั้งเกือบห้าร้อยตัวไม่สนใจ
ต้องมีอะไรที่ทำให้สนใจตัวนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 17
ขอบคุณพี่ winkung ที่ตอบคำถามของผมครับ
ซึ่งน้อยคนที่ในที่นี้ที่ตอบแบบพี่ winkung ที่ตอบแบบนี้ครับ
CPF เองมีวิบากกรรมเก่าคือ ตั้งแต่ไข้หวัดนกเป็นต้นมา
ทำให้ตัวนี้ลำบากมาตลอดเลย เหมือนกับอีกตัวหนึ่ง ในกลุ่มนี้
(จริงๆๆกลุ่มไก่มันมีนอกตลาดอีกตัวหลาย ที่เจ้าใหญ่มีอยู่สามเจ้า
CPF Gอะไรซักอย่าง แล้วก็เบทาโกร)
ตอนนี้ CPF ถือว่า ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ดันไปเจอวิกฤติเข้า เลยทำให้ นักลงทุนบ้างส่วนขายทิ้งไป แต่สภาพธุรกิจถือว่า ฟื้นไข้จากภาวะไข้หวัดนกระบาด สามารถส่งออกไปยังจุดสำคัญๆ คือ ยุโรปได้ แถมได้เพิ่มยอดส่งออกอีกต่างหาก
ผลิตภัณฑ์ตอนนี้สามารถ ขายในประเทศ ผ่านเครือข่ายของ CP ได้
หากมองภาพไม่ออกพี่ winkung ลองเดินเข้าไปที่ 7-11 (ร้านนี้ดร.นิเวศน์ถือหุ้นใหญ่ครับ) ลองไปหยิบอาหารที่ร้านนี้ดูว่า ผลิตมาจากไหนบ้าง
ส่วนงบเดี๋ยวมาตอบให้เมื่อว่างๆ
ซึ่งน้อยคนที่ในที่นี้ที่ตอบแบบพี่ winkung ที่ตอบแบบนี้ครับ
CPF เองมีวิบากกรรมเก่าคือ ตั้งแต่ไข้หวัดนกเป็นต้นมา
ทำให้ตัวนี้ลำบากมาตลอดเลย เหมือนกับอีกตัวหนึ่ง ในกลุ่มนี้
(จริงๆๆกลุ่มไก่มันมีนอกตลาดอีกตัวหลาย ที่เจ้าใหญ่มีอยู่สามเจ้า
CPF Gอะไรซักอย่าง แล้วก็เบทาโกร)
ตอนนี้ CPF ถือว่า ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ดันไปเจอวิกฤติเข้า เลยทำให้ นักลงทุนบ้างส่วนขายทิ้งไป แต่สภาพธุรกิจถือว่า ฟื้นไข้จากภาวะไข้หวัดนกระบาด สามารถส่งออกไปยังจุดสำคัญๆ คือ ยุโรปได้ แถมได้เพิ่มยอดส่งออกอีกต่างหาก
ผลิตภัณฑ์ตอนนี้สามารถ ขายในประเทศ ผ่านเครือข่ายของ CP ได้
หากมองภาพไม่ออกพี่ winkung ลองเดินเข้าไปที่ 7-11 (ร้านนี้ดร.นิเวศน์ถือหุ้นใหญ่ครับ) ลองไปหยิบอาหารที่ร้านนี้ดูว่า ผลิตมาจากไหนบ้าง
ส่วนงบเดี๋ยวมาตอบให้เมื่อว่างๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 2147
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 18
CPF ผมว่าแกะยากพอควรนะครับสำหรับมือใหม่ เพราะธุรกิจค่อนข้างใหญ๋และซับซ้อนและกำไรค่อนข้างหวือหวา (ดูเหมือนจะเข้าใจไม่ยากเพราะเราก็เห็น CP อยู่ทุกวัน เอหรือผมไม่เข้าใจมันเองหวา :8) ) ทำไมไม่ลองศึกษาจากจากบริษัทที่ไม่ได้ซับซ้อนและเข้าใจค่อนข้างง่ายดูก่อนหละครับ อย่างธุรกิจโรงพยาบาลขนาดไม่ใหญ่เป็นต้น ไม่ได้บอกใบ้อะไรนะครับ แค่รู้สึกว่างบค่อนข้างดูง่ายไม่ซับซ้อน กำไรค่อนข้างสม่ำเสมอครับ เอาใจช่วยคนขยันครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 19
[quote="Laziale"]CPF ผมว่าแกะยากพอควรนะครับสำหรับมือใหม่ เพราะธุรกิจค่อนข้างใหญ๋และซับซ้อนและกำไรค่อนข้างหวือหวา (ดูเหมือนจะเข้าใจไม่ยากเพราะเราก็เห็น CP อยู่ทุกวัน เอหรือผมไม่เข้าใจมันเองหวา
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 20
[quote="Laziale"]CPF ผมว่าแกะยากพอควรนะครับสำหรับมือใหม่ เพราะธุรกิจค่อนข้างใหญ๋และซับซ้อนและกำไรค่อนข้างหวือหวา (ดูเหมือนจะเข้าใจไม่ยากเพราะเราก็เห็น CP อยู่ทุกวัน เอหรือผมไม่เข้าใจมันเองหวา
- vi_tal signs
- Verified User
- โพสต์: 631
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 21
อืม เคยไปโพสต์ในห้องสินธรใช่ไหมครับ
ผมอยากให้ลอง อ่านงบของโรงพยาบาล ไทยนครินทร์ดูครับ
( TNH ) เพราะผมศึกษาตัวแรกจากตรงนี้
และก็ไม่มีงบเฉพาะกิจการ งบรวมอะไรมากมาย
มีแค่ค่ารักษา ค่าใช้จ่าย ฯลฯ บอกตามตรงว่าไม่ซับซ้อนครับ
ผมคงเหมือนหลายๆคน อ่านงบครั้งแรก เจอ น้องไก่ GFPT เข้าไป
ทำผมเกลียดไก่ ไปหลายเพลา :oops: :oops:
ผมอยากให้ลอง อ่านงบของโรงพยาบาล ไทยนครินทร์ดูครับ
( TNH ) เพราะผมศึกษาตัวแรกจากตรงนี้
และก็ไม่มีงบเฉพาะกิจการ งบรวมอะไรมากมาย
มีแค่ค่ารักษา ค่าใช้จ่าย ฯลฯ บอกตามตรงว่าไม่ซับซ้อนครับ
ผมคงเหมือนหลายๆคน อ่านงบครั้งแรก เจอ น้องไก่ GFPT เข้าไป
ทำผมเกลียดไก่ ไปหลายเพลา :oops: :oops:
มันจะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 23
สวัสดีครับ มีเรื่องรบกวนอีกแล้ว
พอดีผมกำลังวิเคราะห์งบดุลของ se-ed อยู่ครับ
ไล่วิเคราะห์ไปตาม step ที่หนังสือเขาเขียนเอาไว้
พอมาถึงตรงการคำนวณ ROA ROE
ซึ่งผมลองแทนค่าจากสูตรที่กำหนดให้ แต่ทำไมพอผมลองไปเช็คกับค่าที่ประกาศไว้ในเวป set.or.th แล้วค่า "มันไม่ตรงกัน" น่ะครับ
หรือว่าผมใส่่ค่าผิด รบกวนช่วยดูให้ทีนะครับ ขอบคุณมาก
พอดีผมกำลังวิเคราะห์งบดุลของ se-ed อยู่ครับ
ไล่วิเคราะห์ไปตาม step ที่หนังสือเขาเขียนเอาไว้
พอมาถึงตรงการคำนวณ ROA ROE
ซึ่งผมลองแทนค่าจากสูตรที่กำหนดให้ แต่ทำไมพอผมลองไปเช็คกับค่าที่ประกาศไว้ในเวป set.or.th แล้วค่า "มันไม่ตรงกัน" น่ะครับ
หรือว่าผมใส่่ค่าผิด รบกวนช่วยดูให้ทีนะครับ ขอบคุณมาก
-
- Verified User
- โพสต์: 2147
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 24
ค่า net profit ที่เอามาคำนวณตาม set.or.th จะใช้เป็นยอดเต็มปีครับ อย่าง ณ ตอนนี้เป็นยอดครึ่งปีแรก เค้าก็จะเอาครึ่งปีหลังของปี 51 มารวมคำนวณด้วย (คือเอายอดกำไรของ Q3'08 + Q4'08 + Q1'09 + Q2'09 มารวมกันครับ) แล้วค่อยหารด้วย Assets ครับ :Dwinkung เขียน:สวัสดีครับ มีเรื่องรบกวนอีกแล้ว
พอดีผมกำลังวิเคราะห์งบดุลของ se-ed อยู่ครับ
ไล่วิเคราะห์ไปตาม step ที่หนังสือเขาเขียนเอาไว้
พอมาถึงตรงการคำนวณ ROA ROE
ซึ่งผมลองแทนค่าจากสูตรที่กำหนดให้ แต่ทำไมพอผมลองไปเช็คกับค่าที่ประกาศไว้ในเวป set.or.th แล้วค่า "มันไม่ตรงกัน" น่ะครับ
หรือว่าผมใส่่ค่าผิด รบกวนช่วยดูให้ทีนะครับ ขอบคุณมาก
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 25
ค่า net profit ที่เอามาคำนวณตาม set.or.th จะใช้เป็นยอดเต็มปีครับ อย่าง ณ ตอนนี้เป็นยอดครึ่งปีแรก เค้าก็จะเอาครึ่งปีหลังของปี 51 มารวมคำนวณด้วย (คือเอายอดกำไรของ Q3'08 + Q4'08 + Q1'09 + Q2'09 มารวมกันครับ) แล้วค่อยหารด้วย Assets ครับLaziale เขียน:
อย่าโลภเกินความรู้ความสามารถของตัวเราเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 26
สอบถามหน่อยครับ กรณีดูงบดุลของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
"สินค้าคงเหลือ" นี่เราใช้คำแทนว่าอะไรครับ
ผมหาจาก งบดุลสินทรัพย์แล้วไม่เจอ เลยเอาค่ามาลงไม่ถูก
ใช่ "ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย-สุทธิ" หรือเปล่าครับ
"สินค้าคงเหลือ" นี่เราใช้คำแทนว่าอะไรครับ
ผมหาจาก งบดุลสินทรัพย์แล้วไม่เจอ เลยเอาค่ามาลงไม่ถูก
ใช่ "ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย-สุทธิ" หรือเปล่าครับ
อย่าโลภเกินความรู้ความสามารถของตัวเราเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 2147
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 27
ค่า net profit ที่เอามาคำนวณตาม set.or.th จะใช้เป็นยอดเต็มปีครับ อย่าง ณ ตอนนี้เป็นยอดครึ่งปีแรก เค้าก็จะเอาครึ่งปีหลังของปี 51 มารวมคำนวณด้วย (คือเอายอดกำไรของ Q3'08 + Q4'08 + Q1'09 + Q2'09 มารวมกันครับ) แล้วค่อยหารด้วย Assets ครับwinkung เขียน:
-
- Verified User
- โพสต์: 191
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 28
[quote="winkung"]สอบถามหน่อยครับ กรณีดูงบดุลของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
"สินค้าคงเหลือ"
"สินค้าคงเหลือ"
อย่าเชื่อสิ่งที่พระเจ้าบอก แต่จงคิดและเลือกที่จะเชื่อด้วยตัวท่านเอง !!
-
- Verified User
- โพสต์: 1036
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 29
สอบถามถึงหลักการเลือกหุ้นหน่อยครับ
ตอนนี้ วิธีการเลือกหุ้นเพื่อลงทุนสักตัวของผมคือ
1. ผมจะเข้าไปที่เวป settrade แล้วเข้าไปที่ อันดับในอุตสาหกรรม
2. หลังจากนั้นก็จะให้ทางเวปเรียงลำดับค่า p/e , p/bv และ Mkt cap จากน้อยไปมาก (ตามรูป)
3. ผมจะให้ความสนใจกับหุ้นที่มีค่า p/e ต่ำ (น้อยกว่า 10) และมีค่า Mkt cap ที่สูง (มากกว่า 1500)
4. เมื่อได้หุ้นที่น่ามีความสนใจแล้ว ผมก็จะเข้าเวป set แล้วพิมพ์ชื่อหุ้นนั้นเพื่อดูผลประกอบการขั้นพื้นฐานของหุ้นตัวนั้น (ตามรูป)
โดยสิ่งที่ผมจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือ
4.1 กำไรสุทธิต้องมีค่าเพิ่มมากขึ้น หรือไม่ลดลงมากเกินไป
4.2 %ROE ควรจะมีค่ามากๆ ( 12 ขึ้นไปกำลังดี )
4.3 อัตรากำไรสุทธิ ควรจะต้องมีค่าเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ
4.4 และถ้าหากราคาล่าสุดมีค่าต่ำกว่า มูลค่าหุ้นตามบัญชี ผมก็จะให้ความสนใจเป็นพิเศษ
4.4 ปันผลสม่ำเสมอ ก็จะยิ่งรับไว้พิจารณา
5. หลังจากผมกรองข้อมูลเบื้องต้นแล้วเห็นว่าเป็นหุ้นที่สมควรลงทุน ผมก็จะไปโหลดงบการเงินมาวิเคราะห์ดูต่อไปครับ
ไม่ทราบว่าหลักการข้างต้นของผม ถือว่าเป็นวิธีการเลือกหุ้นที่พอจะใช้ได้ไหมครับ ?
ในส่วนของตัวธุรกิจ หากไม่รู้ว่าบริษัทนั้นประกอบกิจการอะไร ผมก็จะเข้าไปที่บอร์ด "ร้อยคนร้อยหุ้น" เพื่ออ่านความเห็นของเพื่อนๆ thaivi ที่ post เอาน่ะครับ
--------------------------------------------------------------------------
มีหนึ่งคำถามที่ค้างคาใจ
หลายๆคนบอกผมว่าไม่ควรเชื่อค่า p/e ที่ทางเวปส่วนใหญ่เขาบอกมา เพราะค่ามักจะบิดเบือนความจริง
มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ แล้วอย่างนี้ผมจะหาค่าที่แท้จริงได้อย่างไร รบกวนชี้แนะด้วยครับ
ขอบคุณมากๆครับ :D
ตอนนี้ วิธีการเลือกหุ้นเพื่อลงทุนสักตัวของผมคือ
1. ผมจะเข้าไปที่เวป settrade แล้วเข้าไปที่ อันดับในอุตสาหกรรม
2. หลังจากนั้นก็จะให้ทางเวปเรียงลำดับค่า p/e , p/bv และ Mkt cap จากน้อยไปมาก (ตามรูป)
3. ผมจะให้ความสนใจกับหุ้นที่มีค่า p/e ต่ำ (น้อยกว่า 10) และมีค่า Mkt cap ที่สูง (มากกว่า 1500)
4. เมื่อได้หุ้นที่น่ามีความสนใจแล้ว ผมก็จะเข้าเวป set แล้วพิมพ์ชื่อหุ้นนั้นเพื่อดูผลประกอบการขั้นพื้นฐานของหุ้นตัวนั้น (ตามรูป)
โดยสิ่งที่ผมจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือ
4.1 กำไรสุทธิต้องมีค่าเพิ่มมากขึ้น หรือไม่ลดลงมากเกินไป
4.2 %ROE ควรจะมีค่ามากๆ ( 12 ขึ้นไปกำลังดี )
4.3 อัตรากำไรสุทธิ ควรจะต้องมีค่าเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ
4.4 และถ้าหากราคาล่าสุดมีค่าต่ำกว่า มูลค่าหุ้นตามบัญชี ผมก็จะให้ความสนใจเป็นพิเศษ
4.4 ปันผลสม่ำเสมอ ก็จะยิ่งรับไว้พิจารณา
5. หลังจากผมกรองข้อมูลเบื้องต้นแล้วเห็นว่าเป็นหุ้นที่สมควรลงทุน ผมก็จะไปโหลดงบการเงินมาวิเคราะห์ดูต่อไปครับ
ไม่ทราบว่าหลักการข้างต้นของผม ถือว่าเป็นวิธีการเลือกหุ้นที่พอจะใช้ได้ไหมครับ ?
ในส่วนของตัวธุรกิจ หากไม่รู้ว่าบริษัทนั้นประกอบกิจการอะไร ผมก็จะเข้าไปที่บอร์ด "ร้อยคนร้อยหุ้น" เพื่ออ่านความเห็นของเพื่อนๆ thaivi ที่ post เอาน่ะครับ
--------------------------------------------------------------------------
มีหนึ่งคำถามที่ค้างคาใจ
หลายๆคนบอกผมว่าไม่ควรเชื่อค่า p/e ที่ทางเวปส่วนใหญ่เขาบอกมา เพราะค่ามักจะบิดเบือนความจริง
มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ แล้วอย่างนี้ผมจะหาค่าที่แท้จริงได้อย่างไร รบกวนชี้แนะด้วยครับ
ขอบคุณมากๆครับ :D
อย่าโลภเกินความรู้ความสามารถของตัวเราเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 191
- ผู้ติดตาม: 0
สวัสดีครับ น้องใหม่พึ่งหัดตรวจสอบงบดุล รบกวนช่วยตรวจการบ้านใ
โพสต์ที่ 30
ค่า PE ก็คำนวณหาเองได้นิครับ เอา กำไรสุทธิ / ราคา
อย่าเชื่อสิ่งที่พระเจ้าบอก แต่จงคิดและเลือกที่จะเชื่อด้วยตัวท่านเอง !!