ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
-
- Verified User
- โพสต์: 281
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 1
ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2552
จะอยู่ที่ 12.8 ล้านคน หรือหดตัวร้อยละ 8.8 จากปี 2551
โดยมีแนวโน้มชะลอลงมากในช่วงครึ่งปีแรกของปีก่อนจะปรับดีขึ้น
และเข้าสู่สภาวะปกติในช่วยปลายปี 2552
ที่มา:แนวโน้มการท่องเที่ยวของไทยหลังเหตุการณ์ปิดสนามบิน...เกศสรินทร์ ตันสุวรรณรัตน์ ...แว่นขยายเศรษฐกิจ - สายนโยบายการเงิน....ฉบับที่ 10 มกราคม 2552
http://www.bot.or.th/Thai/EconomicCondi ... 102552.pdf
จะอยู่ที่ 12.8 ล้านคน หรือหดตัวร้อยละ 8.8 จากปี 2551
โดยมีแนวโน้มชะลอลงมากในช่วงครึ่งปีแรกของปีก่อนจะปรับดีขึ้น
และเข้าสู่สภาวะปกติในช่วยปลายปี 2552
ที่มา:แนวโน้มการท่องเที่ยวของไทยหลังเหตุการณ์ปิดสนามบิน...เกศสรินทร์ ตันสุวรรณรัตน์ ...แว่นขยายเศรษฐกิจ - สายนโยบายการเงิน....ฉบับที่ 10 มกราคม 2552
http://www.bot.or.th/Thai/EconomicCondi ... 102552.pdf
Money is neutral
-
- Verified User
- โพสต์: 281
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 3
ชายทะเลไทยติดอันดับโลก
วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2552 12:45
ททท.เผยกทม.ติดอัันดับ1ใน6เมื่องน่าท่องเที่ยวจากทั่วโลก
นายมานิตย์ บุญฉิม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสตอกโฮล์ม เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้รับการโหวตความนิยมแหล่งท่องเที่ยวประเภทหาดทรายชายทะเลติดอันดับ1 ในกลุ่ม Sun and Beach Outside Europe ประจำปี 2552 ที่จัดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์ Aftonbladet ชื่อดังของของประเทศสวีเดน โดยสำรวจความคิดเห็นสมาชิกของหนังสือพิมพ์ดังกล่าว จำนวน 30,093 คนเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว ประเภทเมืองน่าเที่ยว และหาดทรายชายทะเล ซึ่งตั้งอยู่ในและนอกทวีปยุโรปที่นักท่องเที่ยวมีความประทับใจ และต้องการจะเดินทางเพื่อท่องเที่ยว และพักผ่อนในปี 2552
นอกจากนี้ นายมานิตย์ กล่าวต่อว่า กรุงเทพมหานครของไทยยังติด 1 ใน 6 ของการจัดอันดับประเภทเมืองน่าเที่ยวจากทั่วโลก(Big City Worldwide) โดยผลการโหวตได้เผยแพร่ผ่านเอกสารชื่อ Aftonbladet Resa ซึ่งเป็นเอกสารแนบของหนังสือพิมพ์ Aftonbladet ซึ่งผลคะแนนจากการโหวตดังกล่าว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากททท. ได้ทำการประชาสัมพันธ์เชิงรุกไปยังประเทศต่างๆ ผ่านสื่อในหลายช่องทาง โดยเน้นไปที่การเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ให้นักท่องเที่ยว เกิดการรับรู้ว่าประเทศไทยปลอดภัย สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ และมีความคุ้มค่าในการใช้จ่ายมากที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งอื่นๆ.
วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2552 12:45
ททท.เผยกทม.ติดอัันดับ1ใน6เมื่องน่าท่องเที่ยวจากทั่วโลก
นายมานิตย์ บุญฉิม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสตอกโฮล์ม เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้รับการโหวตความนิยมแหล่งท่องเที่ยวประเภทหาดทรายชายทะเลติดอันดับ1 ในกลุ่ม Sun and Beach Outside Europe ประจำปี 2552 ที่จัดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์ Aftonbladet ชื่อดังของของประเทศสวีเดน โดยสำรวจความคิดเห็นสมาชิกของหนังสือพิมพ์ดังกล่าว จำนวน 30,093 คนเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว ประเภทเมืองน่าเที่ยว และหาดทรายชายทะเล ซึ่งตั้งอยู่ในและนอกทวีปยุโรปที่นักท่องเที่ยวมีความประทับใจ และต้องการจะเดินทางเพื่อท่องเที่ยว และพักผ่อนในปี 2552
นอกจากนี้ นายมานิตย์ กล่าวต่อว่า กรุงเทพมหานครของไทยยังติด 1 ใน 6 ของการจัดอันดับประเภทเมืองน่าเที่ยวจากทั่วโลก(Big City Worldwide) โดยผลการโหวตได้เผยแพร่ผ่านเอกสารชื่อ Aftonbladet Resa ซึ่งเป็นเอกสารแนบของหนังสือพิมพ์ Aftonbladet ซึ่งผลคะแนนจากการโหวตดังกล่าว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากททท. ได้ทำการประชาสัมพันธ์เชิงรุกไปยังประเทศต่างๆ ผ่านสื่อในหลายช่องทาง โดยเน้นไปที่การเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ให้นักท่องเที่ยว เกิดการรับรู้ว่าประเทศไทยปลอดภัย สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ และมีความคุ้มค่าในการใช้จ่ายมากที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งอื่นๆ.
Money is neutral
-
- Verified User
- โพสต์: 361
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 5
ผมว่าเรื่องเที่ยวเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับคนยุโรป อเมริกา
นักท่องเที่ยวที่เคยเที่ยวในประเทศที่ค่าครองชีพแพงๆ เช่นยุโรป ญี่ปุ่น
อาจจะเปลี่ยนเป็นประเทศที่ค่าครองชีพถูกอย่างเมืองไทยก็ได้ครับ
นักท่องเที่ยวที่เคยเที่ยวในประเทศที่ค่าครองชีพแพงๆ เช่นยุโรป ญี่ปุ่น
อาจจะเปลี่ยนเป็นประเทศที่ค่าครองชีพถูกอย่างเมืองไทยก็ได้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 331
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 6
เป็นไปได้ครับtae_2323 เขียน:ผมว่าเรื่องเที่ยวเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับคนยุโรป อเมริกา
นักท่องเที่ยวที่เคยเที่ยวในประเทศที่ค่าครองชีพแพงๆ เช่นยุโรป ญี่ปุ่น
อาจจะเปลี่ยนเป็นประเทศที่ค่าครองชีพถูกอย่างเมืองไทยก็ได้ครับ
ผมจำตัวเลขแน่นอนไม่ได้ แต่มีคนเคยบอกไว้ว่า
นักท่องเที่ยวชาวสแกนฯ เวลาพักร้อน
ถ้าอยู่ในประเทศตัวเอง เงิน 10 000 บาท อยู่ได้หนึ่งวัน
แต่ถ้ามาไทย อยู่ได้ 5 วันครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1734
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 7
ฟังข่าวการท่องเที่ียวจากโทรทัศน์
เดือนมกราคมปีนี้ดีกว่าเดือนธันวาคมปีก่อน
และเดือนกุมภาพันธ์ก็ดีกว่าเดือนมกราคมครับ
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
เดือนมกราคมปีนี้ดีกว่าเดือนธันวาคมปีก่อน
และเดือนกุมภาพันธ์ก็ดีกว่าเดือนมกราคมครับ
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 510
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 9
มองอีกมุม
คนไทยกลุ่มที่เคยไปเที่ยวต่างประเทศ
อาจจะหันกลับมาเที่ยวไทยในอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้น
หรือถ้าเป็นช่วงปกติ
คนที่ไม่มีโอกาสพักโรงแรม รีสอร์ทหรู ราคาแพง
ก็มีโอกาสช่วงนี้ มีโปรโมชั่นเที่ยวไทย
เห็นเวลามีงานที่ศูนย์สิริกิตติ์
คนล้นทุกที ทั้งคนเดิน คนซื้อแพกเก็จ
อีกอย่างถ้าเวลาเครียดๆ
คนมักจะออกไปท่องเที่ยว เปลี่ยนบรรยากาศ
ก็เป็นทางเลือกลำดับต้นๆ เช่นกัน
คนไทยกลุ่มที่เคยไปเที่ยวต่างประเทศ
อาจจะหันกลับมาเที่ยวไทยในอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้น
หรือถ้าเป็นช่วงปกติ
คนที่ไม่มีโอกาสพักโรงแรม รีสอร์ทหรู ราคาแพง
ก็มีโอกาสช่วงนี้ มีโปรโมชั่นเที่ยวไทย
เห็นเวลามีงานที่ศูนย์สิริกิตติ์
คนล้นทุกที ทั้งคนเดิน คนซื้อแพกเก็จ
อีกอย่างถ้าเวลาเครียดๆ
คนมักจะออกไปท่องเที่ยว เปลี่ยนบรรยากาศ
ก็เป็นทางเลือกลำดับต้นๆ เช่นกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 144
- ผู้ติดตาม: 0
robokie
โพสต์ที่ 10
ไม่จริงหลอกครับผมทำงานด้านนี้โดยตรง แต่ละโรงแรมมีแต่ลดค่าใช้จ่ายและพนักงานอีกต่างหาก เทียบกับเมื่อก่อนแขกต่างกันเยอะโดยที่คนมาพักนั้นคนเดิม แต่การจะใช้จ่ายเหมือนเดิมนั้นไม่มี ขนาดโรงแรมที่ทำนี่เก่าแก่ที่สุดแล้วนะตั้ง130กว่าปี ยังมีแขกพักไม่ถึง60%เลย แย่จัง
- charnengi
- Verified User
- โพสต์: 2388
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 11
เค้าว่าฟื้นปลายปี ไม่ใช่ตอนนี้ครับ แต่ก็ไม่แปลกเพราะ Q4 ปีที่แล้วต่ำมาก
ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงในประเทศอีก ก็คงฟื้น
ก็ว่ากันไป โรงแรมไหน เจ๋งเรื่อง revenue management คงได้เปรียบครับ
ได้เงินน้อยดีกว่าห้องว่าง :lol:
ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงในประเทศอีก ก็คงฟื้น
ก็ว่ากันไป โรงแรมไหน เจ๋งเรื่อง revenue management คงได้เปรียบครับ
ได้เงินน้อยดีกว่าห้องว่าง :lol:
low PROFILE but HIGH PROFITS
-
- Verified User
- โพสต์: 331
- ผู้ติดตาม: 0
Re: robokie
โพสต์ที่ 12
ปกติ occupancy rate ของโรงแรมในไทยไม่ถึง 100% นะครับrobokie เขียน: ขนาดโรงแรมที่ทำนี่เก่าแก่ที่สุดแล้วนะตั้ง130กว่าปี ยังมีแขกพักไม่ถึง60%เลย แย่จัง
ของไทยเฉลี่ยย้อนหลัง 10 กว่าปีมานี้ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 60 - 70%
ถ้าได้เกือบ 60 นี่ ก็ถือว่าดีแล้วนะครับ สำหรับสถานการณ์ตอนนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 57
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 13
เราอยู่ที่ภูเก็ตตรงหาดเลยค่ะ
เงียบมาก ห้องพักของเกสเฮ้าที่เราพัก
จากสิบห้าห้องมีเเขกเเค่สองถึงสี่ห้อง
ปกติตอนนี้จะเต็มกัน
เเม้เเต่เเบรนด์หรูห้าดาว ก็ปิดไปเเล้ว
อันนี้มันมีทั้งซื้อขาดเเละให้เช่า
ปกติมีเเขกVIP ระดับโลกมาพักนะคะ
ตอนนี้ก้อเงียบไป(คงไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจมั้งคะ)
เพราะไม่มีเเขก เข้าใจว่าจะได้ปรับปรุงด้วย
เเล้วตรงแถว ที่มีโรงเเรมห้าดาวห้าโรงแรม
(คงนึกออกนะคะ)
ที่มีบันยันทรีน่ะค่ะ
เเละอื่นๆอีกน่ะค่ะ
มีพนักงานประท้วงเรื่องลดโบนัส คือให้นะคะเเต่ลด
ลง เค้าปิดถุนนด้วย ผลคือเค้าปิดโรงเเรมเลยค่ะ
เเล้วปลดพนักงานพวกนั้นออกหมด
ส่วนโรงเเรมเล็กๆ ข้างๆที่เราพัก ก็มีห้องพักหลายสิบห้อง
มีเเขกพักไม่ถึงห้าห้อง ปกติเเขกพวกนี้จะเป็นเจ้าของ
กิจการฝรั่งเเก่ๆชาวยุโรป เค้าจะมาพักเป็นเดือน
ปีนี้เหลือคนที่มาน้อยมาก ต้องรวยจริงๆ
หลายๆคนไม่มาเพราะเรื่องเศรษฐกิจ
เเขกชาวอิตาเลี่ยนบอกว่าคนตกงานเยอะมาก
เค้าเปิดร้านอาหารก็ซบเซา
เเม้เเต่สเเกนบางพวกก็หายไป
พวกสเเกนเนี่ยพอเกษียนก็ไม่ได้ว่าได้เงินมากนะคะ
เห็นทหารคนนึงเป็นถึงนายพล เค้ามีเมียคนไทย
พยาบาลก็เห็นได้เดือนละเเสนเดียวซึ่งน้อยสำหรับค่า
ครองชีพเค้า เเต่เค้าไม่ต้องเสียค่าที่พักกะค่าเครื่อง
ถ้าอยู่บ้านเค้าเอง เเละไม่ต้องเสียค่าทิป ค่าเหล้า
ค่าเที่ยว ค่ารถ
(ที่นี่รถเที่ยวละหกร้อยไปกลับก็พันสองเเล้ว)
เเล้วร้านเสริมสวยร้านยา เเถวนี้เงียบเลย
ร้านยาที่เปิดมาสามปีเเล้ว
เค้าทนไม่ไหวเลยปิดร้านไปแล้ว
เราว่ามันเเย่มากนะ คนไม่ได้อยู่เมืองท่องเที่ยวคง
ไม่ได้เห็นผลกระทบเเต่เราอยู่ที่นี่เห็นเลยค่ะ
เงียบมาก ห้องพักของเกสเฮ้าที่เราพัก
จากสิบห้าห้องมีเเขกเเค่สองถึงสี่ห้อง
ปกติตอนนี้จะเต็มกัน
เเม้เเต่เเบรนด์หรูห้าดาว ก็ปิดไปเเล้ว
อันนี้มันมีทั้งซื้อขาดเเละให้เช่า
ปกติมีเเขกVIP ระดับโลกมาพักนะคะ
ตอนนี้ก้อเงียบไป(คงไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจมั้งคะ)
เพราะไม่มีเเขก เข้าใจว่าจะได้ปรับปรุงด้วย
เเล้วตรงแถว ที่มีโรงเเรมห้าดาวห้าโรงแรม
(คงนึกออกนะคะ)
ที่มีบันยันทรีน่ะค่ะ
เเละอื่นๆอีกน่ะค่ะ
มีพนักงานประท้วงเรื่องลดโบนัส คือให้นะคะเเต่ลด
ลง เค้าปิดถุนนด้วย ผลคือเค้าปิดโรงเเรมเลยค่ะ
เเล้วปลดพนักงานพวกนั้นออกหมด
ส่วนโรงเเรมเล็กๆ ข้างๆที่เราพัก ก็มีห้องพักหลายสิบห้อง
มีเเขกพักไม่ถึงห้าห้อง ปกติเเขกพวกนี้จะเป็นเจ้าของ
กิจการฝรั่งเเก่ๆชาวยุโรป เค้าจะมาพักเป็นเดือน
ปีนี้เหลือคนที่มาน้อยมาก ต้องรวยจริงๆ
หลายๆคนไม่มาเพราะเรื่องเศรษฐกิจ
เเขกชาวอิตาเลี่ยนบอกว่าคนตกงานเยอะมาก
เค้าเปิดร้านอาหารก็ซบเซา
เเม้เเต่สเเกนบางพวกก็หายไป
พวกสเเกนเนี่ยพอเกษียนก็ไม่ได้ว่าได้เงินมากนะคะ
เห็นทหารคนนึงเป็นถึงนายพล เค้ามีเมียคนไทย
พยาบาลก็เห็นได้เดือนละเเสนเดียวซึ่งน้อยสำหรับค่า
ครองชีพเค้า เเต่เค้าไม่ต้องเสียค่าที่พักกะค่าเครื่อง
ถ้าอยู่บ้านเค้าเอง เเละไม่ต้องเสียค่าทิป ค่าเหล้า
ค่าเที่ยว ค่ารถ
(ที่นี่รถเที่ยวละหกร้อยไปกลับก็พันสองเเล้ว)
เเล้วร้านเสริมสวยร้านยา เเถวนี้เงียบเลย
ร้านยาที่เปิดมาสามปีเเล้ว
เค้าทนไม่ไหวเลยปิดร้านไปแล้ว
เราว่ามันเเย่มากนะ คนไม่ได้อยู่เมืองท่องเที่ยวคง
ไม่ได้เห็นผลกระทบเเต่เราอยู่ที่นี่เห็นเลยค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 57
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 15
อมันปุรีหรือบันยันทรีนี่ล่ะค่ะ อยู่ตรงหาดสุรินทร์
ตรงเเหลมน่ะค่ะ ตรงที่ขายเห็นว่าดีไซเนอร์
ระดับโลกชาวญี่ปุ่น เคนโซ่หรือว่าอิเซ่มิยาเกะนี่เเหละ
มาซื้อหลังนึงด้วยค่ะ
เเถวๆโรงเเรมเชดี้น่ะค่ะ
ตรงหาดสุรินทร์นี่จะเป็นพวกฝรั่งรวยนะคะ
มันจะมีเขาที่มีรีสอร์ทเเพงๆ
หลังละหลายสิบถึงร้อยล้านอยู่
เเล้วมี มาริออท คอร์ทยาด เเละทวินปามด้วย
เงียบเลยค่ะ ไม่เห็นฝรั่งเลย เหงาเลยค่ะ
พวกพนักงานนวดร้านสปา หนีกลับบ้านนอกไปทำนา
กันเยอะเลยค่ะ เพราะว่าไม่มีเเขกให้นวด
เเม้ว่าบางคนเค้าจะรับจ๊อบ ขายบริการเสริมนะคะ
(ไม่ใช่ทุกคนที่ทำนะคะ เห็นร้านข้างที่พักเรา
มีคนที่หนีเเม่บังคับให้เเต่งงานกับฝรั่งมาเป็นพนักงาน
นวดก็มี)
ตรงเเหลมน่ะค่ะ ตรงที่ขายเห็นว่าดีไซเนอร์
ระดับโลกชาวญี่ปุ่น เคนโซ่หรือว่าอิเซ่มิยาเกะนี่เเหละ
มาซื้อหลังนึงด้วยค่ะ
เเถวๆโรงเเรมเชดี้น่ะค่ะ
ตรงหาดสุรินทร์นี่จะเป็นพวกฝรั่งรวยนะคะ
มันจะมีเขาที่มีรีสอร์ทเเพงๆ
หลังละหลายสิบถึงร้อยล้านอยู่
เเล้วมี มาริออท คอร์ทยาด เเละทวินปามด้วย
เงียบเลยค่ะ ไม่เห็นฝรั่งเลย เหงาเลยค่ะ
พวกพนักงานนวดร้านสปา หนีกลับบ้านนอกไปทำนา
กันเยอะเลยค่ะ เพราะว่าไม่มีเเขกให้นวด
เเม้ว่าบางคนเค้าจะรับจ๊อบ ขายบริการเสริมนะคะ
(ไม่ใช่ทุกคนที่ทำนะคะ เห็นร้านข้างที่พักเรา
มีคนที่หนีเเม่บังคับให้เเต่งงานกับฝรั่งมาเป็นพนักงาน
นวดก็มี)
-
- Verified User
- โพสต์: 57
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 16
ปิดนานเท่าไหรไม่ได้ตามข่าวนะคะ
เเต่ที่รู้ปกติที่นี่ไม่เคยปิดมาก่อนค่ะ
ตอนนี้โรงเเรมตายสนิทค่ะ
ร้านค้าที่อาศัยนักท่องเที่ยวก็พลอยเเย่ไปด้วย
อ้อ ร้านขายพวกของเก่าเลียนเเบบเเถวนี้ก็ปิดไปร้านนึง
เเล้วค่ะ ร้านสักหน้าร้านก็เหงาเชียว เเต่เค้าก้อประยุกต์
มาขายพวกผักสด อาหารเเทนก็พอไปได้ค่ะ คนท้องถิ่น
ยังซื้อ ร้านข้าวเเกงโดนไล่ที่
เห็นว่าเค้าจะขายที่ดินนี้ห้าสิบล้าน
ยังไม่มีใครซื้อหรอกค่ะ บอกเเพงซะขนาดนั้นพอดีเจ้า
ของเป็นเศรษฐีค่ะ
พวกคอนโดริมหาดฝรั่งทิ้งเงินดาวน์กันเป็นเเถวเลยค่ะ
เเต่ที่รู้ปกติที่นี่ไม่เคยปิดมาก่อนค่ะ
ตอนนี้โรงเเรมตายสนิทค่ะ
ร้านค้าที่อาศัยนักท่องเที่ยวก็พลอยเเย่ไปด้วย
อ้อ ร้านขายพวกของเก่าเลียนเเบบเเถวนี้ก็ปิดไปร้านนึง
เเล้วค่ะ ร้านสักหน้าร้านก็เหงาเชียว เเต่เค้าก้อประยุกต์
มาขายพวกผักสด อาหารเเทนก็พอไปได้ค่ะ คนท้องถิ่น
ยังซื้อ ร้านข้าวเเกงโดนไล่ที่
เห็นว่าเค้าจะขายที่ดินนี้ห้าสิบล้าน
ยังไม่มีใครซื้อหรอกค่ะ บอกเเพงซะขนาดนั้นพอดีเจ้า
ของเป็นเศรษฐีค่ะ
พวกคอนโดริมหาดฝรั่งทิ้งเงินดาวน์กันเป็นเเถวเลยค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 281
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 18
พอดีกลับไปอ่านบทความอีกรอบ...ที่เค้าว่าจะฟื้นปลายปี 52 นะครับเค้ามุ่งที่จะวิเคราะห์ผลกระทบจากเหตุการความไม่สงบจนถึงขั้นปิดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองในช่วงที่ผ่านมา ต่อภาคการท่องเที่ยวของไทย
ดั้งนั้นถ้าบวกกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกด้วย...ก็อาจจะฟื้นช้ากว่านั้นแน่
จากข้อมูลหน้าที่ 11 ....อนึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าธุรกิจการโรงแรมของไทยได้เผชิญกับสถานการณ์ที่อัตราการเข้าพักอยู่ในระดับที่ต่ำมาตั้งแต่ต้นปี 2551
แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะขยายตัวสูงในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้มีสาเหตุสำคัญจากปัญหาจำนวนห้องพักล้นตลาด (Oversupply)
จากการขยายจำนวนโรงแรมและจำนวนห้องพักอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
ขอบคุณคุณ TIARA สำหรับข้อมูลนะครับแสดงว่าตอนนี้ Supply ก็เริ่มลดลงที่เดียว
เพื่อเข้าปรับสู่จุดสมดุลอีกครั้งจากการกระทำของมือที่มองไม่เห็นและผู้ที่แข็งแกร่งกว่าก็จะอยู่รอดได้และเมื่อฟื้นก็อาจจะกลับมายิ่งใหญ่กว่าเก่านะครับ
แม้จะดูโหดร้ายไปหน่อยกับคนที่ต้องว่างงาน
ไม่แน่ว่าถ้าการตกต่ำของการท่องเที่ยวหนักกว่าและรุนแรงกว่าทุกครั้ง
เมื่อถึงวัฏจักรขาขึ้นของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็น่าสนว่าจะ....กี่เด้ง :lol:
ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแสดงความเห็นครับ
ดั้งนั้นถ้าบวกกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกด้วย...ก็อาจจะฟื้นช้ากว่านั้นแน่
จากข้อมูลหน้าที่ 11 ....อนึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าธุรกิจการโรงแรมของไทยได้เผชิญกับสถานการณ์ที่อัตราการเข้าพักอยู่ในระดับที่ต่ำมาตั้งแต่ต้นปี 2551
แม้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะขยายตัวสูงในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้มีสาเหตุสำคัญจากปัญหาจำนวนห้องพักล้นตลาด (Oversupply)
จากการขยายจำนวนโรงแรมและจำนวนห้องพักอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
ขอบคุณคุณ TIARA สำหรับข้อมูลนะครับแสดงว่าตอนนี้ Supply ก็เริ่มลดลงที่เดียว
เพื่อเข้าปรับสู่จุดสมดุลอีกครั้งจากการกระทำของมือที่มองไม่เห็นและผู้ที่แข็งแกร่งกว่าก็จะอยู่รอดได้และเมื่อฟื้นก็อาจจะกลับมายิ่งใหญ่กว่าเก่านะครับ
แม้จะดูโหดร้ายไปหน่อยกับคนที่ต้องว่างงาน
ไม่แน่ว่าถ้าการตกต่ำของการท่องเที่ยวหนักกว่าและรุนแรงกว่าทุกครั้ง
เมื่อถึงวัฏจักรขาขึ้นของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็น่าสนว่าจะ....กี่เด้ง :lol:
ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแสดงความเห็นครับ
Money is neutral
-
- Verified User
- โพสต์: 281
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 21
ททท.ชงแผน ดันเที่ยวปี53 ใช้ของเก่าต่อ
วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2552
ททท.เปิดแผนตลาดปีหน้าใช้ อะเมซิง ไทยแลนด์ อะเมซิง แวลู ต่ออีกปี หวังดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทยเพิ่ม
นายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การตลาดปี 2553 ททท.ด้านตลาดต่างประเทศจะเสนอให้ใช้สโลแกน อะเมซิง ไทยแลนด์ อะเมซิง แวลู ต่อเนื่องอีก 1-2 ปี เพื่อตอกย้ำว่าประเทศไทยเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าเงิน ซึ่งสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
การจูงใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางมา ต้องสร้างความรู้สึกถึงความคุ้มค่า นายสันติชัย กล่าว
สำหรับแผนการตลาดในปีนี้ ททท.จะรุกตลาดตะวันออกกลาง โดยเดือนพ.ค.นี้ จะนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวออกโรดโชว์สินค้าทางการท่องเที่ยวที่ ดูไบ ซึ่งกลุ่มตะวันออกกลางจะเข้ามาทดแทนตลาดเอเชีย เกาหลี ญี่ปุ่น ที่เข้าไทยลดลง
ด้านนายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ กล่าวว่า แผนการตลาดในประเทศปี 2553 ททท.มีแนวคิดจัดทำโครงการ ไอเดีย ไอดู กระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวตามจินตนาการ ตามความฝัน เพื่อสร้างความประทับใจให้ในการเดินทางท่องเที่ยว
ทั้งนี้ เบื้องต้นจะเชิญชวนให้บริษัททัวร์ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ร่วมออกแบบรายละเอียดการเดินทางให้ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างจุดขายให้การท่องเที่ยวในประเทศ
วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2552
ททท.เปิดแผนตลาดปีหน้าใช้ อะเมซิง ไทยแลนด์ อะเมซิง แวลู ต่ออีกปี หวังดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทยเพิ่ม
นายสันติชัย เอื้อจงประสิทธิ์ รองผู้ว่าการด้านตลาดต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การตลาดปี 2553 ททท.ด้านตลาดต่างประเทศจะเสนอให้ใช้สโลแกน อะเมซิง ไทยแลนด์ อะเมซิง แวลู ต่อเนื่องอีก 1-2 ปี เพื่อตอกย้ำว่าประเทศไทยเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าเงิน ซึ่งสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
การจูงใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางมา ต้องสร้างความรู้สึกถึงความคุ้มค่า นายสันติชัย กล่าว
สำหรับแผนการตลาดในปีนี้ ททท.จะรุกตลาดตะวันออกกลาง โดยเดือนพ.ค.นี้ จะนำผู้ประกอบการท่องเที่ยวออกโรดโชว์สินค้าทางการท่องเที่ยวที่ ดูไบ ซึ่งกลุ่มตะวันออกกลางจะเข้ามาทดแทนตลาดเอเชีย เกาหลี ญี่ปุ่น ที่เข้าไทยลดลง
ด้านนายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ กล่าวว่า แผนการตลาดในประเทศปี 2553 ททท.มีแนวคิดจัดทำโครงการ ไอเดีย ไอดู กระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวตามจินตนาการ ตามความฝัน เพื่อสร้างความประทับใจให้ในการเดินทางท่องเที่ยว
ทั้งนี้ เบื้องต้นจะเชิญชวนให้บริษัททัวร์ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ร่วมออกแบบรายละเอียดการเดินทางให้ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างจุดขายให้การท่องเที่ยวในประเทศ
Money is neutral
-
- Verified User
- โพสต์: 281
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 22
นักการเงินมั่นใจท่องเที่ยวภูเก็ต ฟื้นตัวก่อนจังหวัดอื่น
นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบรรษัทธุรกิจ ธนาคารกสิกรไทย ให้สัมภาษณ์ที่ จ.ภูเก็ต ภายหลัง การมอบร่มและเต็นท์ชายหาดให้กับกลุ่มสมาชิกกลุ่มร่ม-เก้าอี้ผ้าใบ กลุ่มหมอนวด ชายหาดในตำบลกะรน อ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วยเงินสด 200,000 บาท
โดยมีนายทวี ทองแช่ม นายเทศมนตรีตำบลกะรน นายสมบัติ อติเศรษฐ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมหาดกะตะ-กะรน ตัวแทนสมาชิกกลุ่มร่ม-เก้าอี้ผ้าใบและหมอนวดชายหาดเป็นผู้รับมอบ ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลกะรน เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา
นายวศินกล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในกิจกรรมช่วยเหลือสังคมของทางธนาคาร เพื่อร่วมกับคนในพื้นที่ในการพัฒนาเศรษฐกิจและธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการสัมมนาให้ความรู้ทางวิชาการด้านการเงินการลงทุน หรือมหกรรมการเงิน
ส่วนแนวโน้มของภาวะเศรษฐกิจนั้น นายวศิน กล่าวว่า คงต้องมองต้องแต่ภาวะเศรษฐกิจโลกซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวตามไปด้วย นอกจากนี้เรายังมีปัญหาการเมืองในประเทศด้วย ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาลดลง
สำหรับภูเก็ตถือแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ประกอบกับอัธยาศรัยน้ำใจไมตรีที่ดี และยากที่หาแหล่งท่องเที่ยวใดมาทดแทนได้ ดังนั้นจึงเชื่อว่าแม้จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจดังกล่าว แต่ไม่น่าจะนานมากนักและสามารถที่จะฟื้นตัวได้ก่อนจังหวัดอื่นๆ
นายวศิน กล่าวถึงระยะเวลาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจว่า หากพิจารณาในภาพใหญ่ของประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกและหนักกว่าที่คาดคิด ดังนั้นในช่วงไตรมาสที่ 1-3 ของปีก็ยังคงมีการชะลอตัวอยู่ โดยยังมีการฟื้นตัวไม่มากนัก แต่จะให้เห็นผลชัดเจนก็น่าจะเป็นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2553 โดยธุรกิจที่มีการฟื้นตัวในลำดับต้นๆ ได้แก่ ภาคการท่องเที่ยวและการเกษตร
ส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ก็มีการชะลอตัวเช่นกัน ทั้งในแง่การลงทุนใหม่และกำลังซื้อ รวมถึงทำเลที่ตั้ง ส่วนของการปล่อยสินเชื่อสามารถที่จะมองได้ 2 แง่ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและสถาบันการเงิน เนื่องจากเคยประสบวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 จึงมีการเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนหรือการปล่อยสินเชื่อมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังมีการให้ความรู้กับผู้ประกอบการเกี่ยวกับการเตรียมตัวสำหรับรับมือกับเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นหรือการเข้าไปเป็นผู้ให้คำแนะนำกับนักลงทุนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายวศิน กล่าวว่า ปัจจัยที่มีผลต่กภาวะเศรษฐกิจนั้นยังคงเป็นเรื่องของภาวะเศรษฐกิจโลก และการเมืองภายในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวหากไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้นก็จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวให้กลับมาได้โดยเร็ว
นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบรรษัทธุรกิจ ธนาคารกสิกรไทย ให้สัมภาษณ์ที่ จ.ภูเก็ต ภายหลัง การมอบร่มและเต็นท์ชายหาดให้กับกลุ่มสมาชิกกลุ่มร่ม-เก้าอี้ผ้าใบ กลุ่มหมอนวด ชายหาดในตำบลกะรน อ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วยเงินสด 200,000 บาท
โดยมีนายทวี ทองแช่ม นายเทศมนตรีตำบลกะรน นายสมบัติ อติเศรษฐ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมหาดกะตะ-กะรน ตัวแทนสมาชิกกลุ่มร่ม-เก้าอี้ผ้าใบและหมอนวดชายหาดเป็นผู้รับมอบ ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลกะรน เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา
นายวศินกล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในกิจกรรมช่วยเหลือสังคมของทางธนาคาร เพื่อร่วมกับคนในพื้นที่ในการพัฒนาเศรษฐกิจและธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการสัมมนาให้ความรู้ทางวิชาการด้านการเงินการลงทุน หรือมหกรรมการเงิน
ส่วนแนวโน้มของภาวะเศรษฐกิจนั้น นายวศิน กล่าวว่า คงต้องมองต้องแต่ภาวะเศรษฐกิจโลกซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวตามไปด้วย นอกจากนี้เรายังมีปัญหาการเมืองในประเทศด้วย ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาลดลง
สำหรับภูเก็ตถือแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ประกอบกับอัธยาศรัยน้ำใจไมตรีที่ดี และยากที่หาแหล่งท่องเที่ยวใดมาทดแทนได้ ดังนั้นจึงเชื่อว่าแม้จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจดังกล่าว แต่ไม่น่าจะนานมากนักและสามารถที่จะฟื้นตัวได้ก่อนจังหวัดอื่นๆ
นายวศิน กล่าวถึงระยะเวลาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจว่า หากพิจารณาในภาพใหญ่ของประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกและหนักกว่าที่คาดคิด ดังนั้นในช่วงไตรมาสที่ 1-3 ของปีก็ยังคงมีการชะลอตัวอยู่ โดยยังมีการฟื้นตัวไม่มากนัก แต่จะให้เห็นผลชัดเจนก็น่าจะเป็นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2553 โดยธุรกิจที่มีการฟื้นตัวในลำดับต้นๆ ได้แก่ ภาคการท่องเที่ยวและการเกษตร
ส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ก็มีการชะลอตัวเช่นกัน ทั้งในแง่การลงทุนใหม่และกำลังซื้อ รวมถึงทำเลที่ตั้ง ส่วนของการปล่อยสินเชื่อสามารถที่จะมองได้ 2 แง่ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและสถาบันการเงิน เนื่องจากเคยประสบวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 จึงมีการเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนหรือการปล่อยสินเชื่อมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังมีการให้ความรู้กับผู้ประกอบการเกี่ยวกับการเตรียมตัวสำหรับรับมือกับเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นหรือการเข้าไปเป็นผู้ให้คำแนะนำกับนักลงทุนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายวศิน กล่าวว่า ปัจจัยที่มีผลต่กภาวะเศรษฐกิจนั้นยังคงเป็นเรื่องของภาวะเศรษฐกิจโลก และการเมืองภายในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวหากไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้นก็จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวให้กลับมาได้โดยเร็ว
Money is neutral
-
- Verified User
- โพสต์: 513
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 23
เรียนถามคุณ TIARA ครับTIARA เขียน:เราอยู่ที่ภูเก็ตตรงหาดเลยค่ะ
เงียบมาก ห้องพักของเกสเฮ้าที่เราพัก
คุณ TIARA อยู่ภูเก็ตหลายปีหรือยังครับ คือผมรู้สึก(ไปเองรึเปล่า)ว่าภูเก็ตมันเงียบมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่คราวเกิดสึนามิโน่น ก็รู้สึกว่าภูเก็ตไม่ใช่แม่ไข่มุกเนื้อหอมเหมือนแต่เก่าก่อน เมื่อประมาณ10ปีก่อน ผมต้องลงไปทำงานที่ภูเก็ตทุกเดือน นาน2ปี ตอนนั้นรู้สึกว่าภูเก็ตคึกคักมาก นักท่องเที่ยวเยอะแยะ ตอนนั้นผมชอบไปนั่งเล็งสาวๆยุ่นปี่ ตอนนั้นน้องๆโนเนะหาง่ายกว่าหาเซเว่นอีก โทษทีคับ เผลอออกนอกกรอบอีกแระ ต่อคับ หาดป่าตองตอนกลางคืนเนี่ย ไม่แพ้พัทยาเลย หลังจากนั้น ผมมีโอกาสกลับไปอีกครั้ง ปีที่เกิดสึนามิ กระแดะลงไปช่วยชาวบ้านเค้า แต่ตอนที่เกิดเรื่องไม่ว่าง ได้ลงไปช่วงสงกรานต์ ถือโอกาสเที่ยวไปด้วยเลย รู้สึกครับว่ามันเงียบนะ ขนาดเป็นช่วงสงกรานต์ แล้วจวบจนปัจจุบัน จากข่าวสารข้อมูลต่างๆก็ไม่รู้สึกว่าภูเก็ตจะบูมเหมือนในอดีตเลยอ่ะคับ ไม่ทราบว่าคุณTIARA มีความเห็นอย่างไรคับ
***ทั้งหมดเป็นความรู้สึกส่วนบุคคลนะคับ
ได้เวลาเหล่าอินทรีย์ ผงาดบนฟากฟ้า
-
- Verified User
- โพสต์: 57
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 24
เราไป ๆ อยู่ๆหลายรอบเเล้วค่ะ
เคยอยู่ทั้งป่าตอง กะตะ กะรน สุรินท์เเละในตัวเมือง
ตอนช่วงสึนามิเราพึ่งเปิดร้านยาพอดี ยอดขายกำลังดีๆ
พอสึนามิตูม ยอดเหลือ30%เองค่ะ เศร้าเลย
(ตอนเปิดร้านที่หาดใหญ่ตอนเพิ่งเปิดก็ไข้หวัดนกพอดี
ตอนมาอยู่ที่นี่ ก้อ เป็นช่วงเศรษฐกิจตกพอดี
ร้านนี้ก็เพิ่งเปิดใหม่ๆเลย เเต่ร้านสุดท้ายนี่ไม่ใช่ร้านเรา)
เเปลกนะคะ เปิดร้านทีไร วิกฤติทุกที เเต่ถือว่าเป็นโชค
ค่ะเพราะไม่งั้นป่านนี้ยังต้องนั่งขายยาอยู่เลย
เราว่าภูเก็ตดีทุกอย่างยกเว้นอย่างเดียว
มีคนที่โขกนักท่องเที่ยวมากไปหน่อยเเบบหน้าเลือดเลย
เมืองท่องเที่ยวอื่น(เราไปอยู่มาห้าหกที่เเล้วมั้ง)
เค้าจะโขกเเต่ฝรั่งเเต่ที่นี่ คนไทยก็ไม่เว้น
เเละตั้งเเต่อยุ่มาที่นี่ค่าครองชีพเเพงที่สุด
เราจะเจอคนที่หลอกนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลาเยอะกว่า
เมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ขนาดหาดที่ลงไปเล่นน้ำไม่ได้
เพราะมีคลื่นใต้น้ำหรือrip curl นี่เเหละ
ทางการเค้าปักป้ายห้ามลงเล่นน้ำ
เค้ายังถอนออก เพราะเห็นเเก่เงินจากการท่องเที่ยว
เราบอกได้เลยว่าอยู่ที่นี่คุณจะเจอคนที่ฟันเเละเขี้ยว
มากกว่าเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ
เเต่อัธยาศัยจะดียิ้มเเย้ม
เเต่ข้างในไม่ใช่
คิดดูว่ารถสาธารณะดีๆยังไม่มีเลย
เพราะเรื่องผลประโยชน์จากการเมืองท้องถิ่น
เพราะเค้ามีโชว์รูมรถหลายที่
เเละพอมีคนจะทำพวกรถเหมาเห็นเเก่ตัวก็ประท้วง
เเต่ราคารถเหมานี่เเพงมหาโหด เเพงกว่าหาดใหญ่
หกเท่าค่ะ เเละมอเตอร์ไชต์รับจ้างเราว่าเเพงสุด
ในประเทศไทยเเล้วล่ะ
เราเคยไปอยู่พัทยา
ถึงเมืองจะวุ่นวายน่ารำคาญ
เเต่คนใจดีกว่ามาก เเละค่าครองชีพถูกกว่ามาก
(เเต่ฝรั่งที่นั่นก็กุ๊ยกว่ามาก เราเคยชกฝรั่งมาเเล้วเพราะ
มันมาลวนลาม)
เคยอยู่ทั้งป่าตอง กะตะ กะรน สุรินท์เเละในตัวเมือง
ตอนช่วงสึนามิเราพึ่งเปิดร้านยาพอดี ยอดขายกำลังดีๆ
พอสึนามิตูม ยอดเหลือ30%เองค่ะ เศร้าเลย
(ตอนเปิดร้านที่หาดใหญ่ตอนเพิ่งเปิดก็ไข้หวัดนกพอดี
ตอนมาอยู่ที่นี่ ก้อ เป็นช่วงเศรษฐกิจตกพอดี
ร้านนี้ก็เพิ่งเปิดใหม่ๆเลย เเต่ร้านสุดท้ายนี่ไม่ใช่ร้านเรา)
เเปลกนะคะ เปิดร้านทีไร วิกฤติทุกที เเต่ถือว่าเป็นโชค
ค่ะเพราะไม่งั้นป่านนี้ยังต้องนั่งขายยาอยู่เลย
เราว่าภูเก็ตดีทุกอย่างยกเว้นอย่างเดียว
มีคนที่โขกนักท่องเที่ยวมากไปหน่อยเเบบหน้าเลือดเลย
เมืองท่องเที่ยวอื่น(เราไปอยู่มาห้าหกที่เเล้วมั้ง)
เค้าจะโขกเเต่ฝรั่งเเต่ที่นี่ คนไทยก็ไม่เว้น
เเละตั้งเเต่อยุ่มาที่นี่ค่าครองชีพเเพงที่สุด
เราจะเจอคนที่หลอกนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลาเยอะกว่า
เมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ขนาดหาดที่ลงไปเล่นน้ำไม่ได้
เพราะมีคลื่นใต้น้ำหรือrip curl นี่เเหละ
ทางการเค้าปักป้ายห้ามลงเล่นน้ำ
เค้ายังถอนออก เพราะเห็นเเก่เงินจากการท่องเที่ยว
เราบอกได้เลยว่าอยู่ที่นี่คุณจะเจอคนที่ฟันเเละเขี้ยว
มากกว่าเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ
เเต่อัธยาศัยจะดียิ้มเเย้ม
เเต่ข้างในไม่ใช่
คิดดูว่ารถสาธารณะดีๆยังไม่มีเลย
เพราะเรื่องผลประโยชน์จากการเมืองท้องถิ่น
เพราะเค้ามีโชว์รูมรถหลายที่
เเละพอมีคนจะทำพวกรถเหมาเห็นเเก่ตัวก็ประท้วง
เเต่ราคารถเหมานี่เเพงมหาโหด เเพงกว่าหาดใหญ่
หกเท่าค่ะ เเละมอเตอร์ไชต์รับจ้างเราว่าเเพงสุด
ในประเทศไทยเเล้วล่ะ
เราเคยไปอยู่พัทยา
ถึงเมืองจะวุ่นวายน่ารำคาญ
เเต่คนใจดีกว่ามาก เเละค่าครองชีพถูกกว่ามาก
(เเต่ฝรั่งที่นั่นก็กุ๊ยกว่ามาก เราเคยชกฝรั่งมาเเล้วเพราะ
มันมาลวนลาม)
-
- Verified User
- โพสต์: 57
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 25
อ้อไม่ใช่ไม่มีรถซะทีเดียวนะคะ มีเเต่ห่วยมาก
มีไม่นาน ทั้งร้อนทั้งช้า เเละไม่ครอบคลุมรถน้อย
อย่าไปหวังรถรับจ้างถูกๆ ที่วิ่งเป็นสายเหมือนที่อื่น
ตอนอยู่พัทยามีวิ่งทั้งวันทั้งคืนรอบเมืองเเค่ห้าบาท
ที่นี่ระยะเดียวกันคุณต้องมีเงิน ร้อยยี่สิบถึงร้อยห้าสิบ
อ้อ ตอนอยู่หาดป่าตอง เราก็อยู่ติดหาดเลย
โชคดีก่อนสึนามิมา เพราะตอนสึนามิย้ายไปอยู่ในเมืองเเล้ว
ตอนอยู่ป่าตองเราต้องเสียค่าจอดรถวันละห้าสิบบาท
สาวๆ ญี่ปุ่นน่ารักเยอะมาก เเละเห็นเยอะที่ควงกับฝรั่ง
สาวญี่ปุ่นเค้าก็เห่อฝรั่งนะ
เเต่ที่เสียดายคือจะมีพวกบีชบอย คือเด็กพื้นบ้าน
ผอมเเกรน หัวเเดงเพราะตากเเดด
ที่ดูเเละพวกสกูตเตอร์ หรืออุปกรณ์ชายหาดน่ะค่ะ
สาวญี่ปุ่นน่ารักๆ เเบบเหมือนออกมาจากในนิตยสาร
จะชอบมาก เค้ามาอยู่กินด้วยก็มี บางคนออกเงิน
ให้บีชบอย ทำร้านเช่าเครื่องเล่นทางน้ำเลยนะคะ
สาวญี่ปุ่นเค้าคงชอบคนดำๆมั้งที่เมืองเค้าหายาก
เราเห็นเเล้วเหมือนหญิงงามกับอสูร
เเต่ของอย่างนี้ลางเนื้ชอบลางยาว่าเค้าไม่ได้
เเต่ที่เเย่คือพวกบีชบอยจะเเข่งกันว่าใครได้สาวญี่ปุ่นมากกว่ากัน
เเล้วพวกนี้เป็นเอดส์เยอะมากเลยค่ะ
มีไม่นาน ทั้งร้อนทั้งช้า เเละไม่ครอบคลุมรถน้อย
อย่าไปหวังรถรับจ้างถูกๆ ที่วิ่งเป็นสายเหมือนที่อื่น
ตอนอยู่พัทยามีวิ่งทั้งวันทั้งคืนรอบเมืองเเค่ห้าบาท
ที่นี่ระยะเดียวกันคุณต้องมีเงิน ร้อยยี่สิบถึงร้อยห้าสิบ
อ้อ ตอนอยู่หาดป่าตอง เราก็อยู่ติดหาดเลย
โชคดีก่อนสึนามิมา เพราะตอนสึนามิย้ายไปอยู่ในเมืองเเล้ว
ตอนอยู่ป่าตองเราต้องเสียค่าจอดรถวันละห้าสิบบาท
สาวๆ ญี่ปุ่นน่ารักเยอะมาก เเละเห็นเยอะที่ควงกับฝรั่ง
สาวญี่ปุ่นเค้าก็เห่อฝรั่งนะ
เเต่ที่เสียดายคือจะมีพวกบีชบอย คือเด็กพื้นบ้าน
ผอมเเกรน หัวเเดงเพราะตากเเดด
ที่ดูเเละพวกสกูตเตอร์ หรืออุปกรณ์ชายหาดน่ะค่ะ
สาวญี่ปุ่นน่ารักๆ เเบบเหมือนออกมาจากในนิตยสาร
จะชอบมาก เค้ามาอยู่กินด้วยก็มี บางคนออกเงิน
ให้บีชบอย ทำร้านเช่าเครื่องเล่นทางน้ำเลยนะคะ
สาวญี่ปุ่นเค้าคงชอบคนดำๆมั้งที่เมืองเค้าหายาก
เราเห็นเเล้วเหมือนหญิงงามกับอสูร
เเต่ของอย่างนี้ลางเนื้ชอบลางยาว่าเค้าไม่ได้
เเต่ที่เเย่คือพวกบีชบอยจะเเข่งกันว่าใครได้สาวญี่ปุ่นมากกว่ากัน
เเล้วพวกนี้เป็นเอดส์เยอะมากเลยค่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 57
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 26
เรายังเคยอ่านการ์ตูนเรื่องราวเป็นสาวญี่ปุ่นมาเจอหนุ่ม
ไทยบีชบอยรักกัน เเละสาวตั้งท้อง หนุ่มก้อรับผิดชอบ
ไป บ้านในเรื่องเป็นกระต๊อบจากใต้ถุนสูง
นัยว่าบีชบอยนี่ฮอตมากที่ญี่ปุ่นนะคะ
เค้าคงบอกต่อๆกันมา
ปล. ไม่ต้องรีบไปจองตั๋ว เพื่อมาสมัครงานบีชบอยนะคะ
ยังทัน ยังทัน อิอิ ล้อเล่นค่ะ
เรื่องราวมันก็หลายปีเเล้ว ตอนนี้ไม่รู้เปลี่ยนเเปลงไปยังไง
เเล้วเพราะไม่ได้ไปอีกเลย
ไทยบีชบอยรักกัน เเละสาวตั้งท้อง หนุ่มก้อรับผิดชอบ
ไป บ้านในเรื่องเป็นกระต๊อบจากใต้ถุนสูง
นัยว่าบีชบอยนี่ฮอตมากที่ญี่ปุ่นนะคะ
เค้าคงบอกต่อๆกันมา
ปล. ไม่ต้องรีบไปจองตั๋ว เพื่อมาสมัครงานบีชบอยนะคะ
ยังทัน ยังทัน อิอิ ล้อเล่นค่ะ
เรื่องราวมันก็หลายปีเเล้ว ตอนนี้ไม่รู้เปลี่ยนเเปลงไปยังไง
เเล้วเพราะไม่ได้ไปอีกเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 281
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 27
วันที่ 31 มีนาคม 2552 00:00
โรงแรมหวั่น 2 เดือนตายหมู่เลิกจ้าง 7.5 หมื่นคน
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย
สมาคมโรงแรม สะท้อนผลกระทบการเมือง-เศรษฐกิจต่ออุตสาหกรรมโรงแรมส่อเค้าวิกฤติ อีก 2 เดือน คาดรร.เริ่มปิดตัว - คนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตกงาน 15%
สมาคมโรงแรม สะท้อนผลกระทบการเมือง-เศรษฐกิจต่ออุตสาหกรรมโรงแรมส่อเค้าวิกฤติ อีก 2 เดือน คาดรร.เริ่มปิดตัว - คนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตกงาน 15% ขณะที่รร.ขนาดเล็กสายป่านสั้นในกทม.เริ่มตาย ผุดไอเดีย แคมเปญขายระดับโลก แนะรัฐอัดฉีดเยนต์ทั่วโลกหากดึงนักท่องเที่ยวพัก 4 คืน ได้หัวละ1,500 บาท คาดกระตุ้นเงินสะพัดกว่า 3หมื่นล้าน
สมาคมโรงแรมไทย จัดเสวนา ผ่าทางตัน แก้วิกฤติก่อนธุรกิจโรงแรมตายหมู่ โดยมีตัวแทนสมาชิกผู้ประกอบการโรงแรม และผู้ประกอบการโรงแรมภาคต่างๆ ร่วมเสวนา โดยนายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมปัจจัยลบทั้งการเมืองในประเทศและโดยเฉพาะวิกฤตเศรษฐกิจโลก ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวและโรงแรมของประเทศไทยมากขึ้นอย่างชัดเจน
ทั้งนี้จากการประเมินผลกระทบดังกล่าวพบว่า อีก 1-2 เดือนข้างหน้า หากภาครัฐไม่มีมาตรการอะไรออกมาช่วยเหลือภาคท่องเที่ยวอย่างตรงจุด จะส่งผลให้แรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งมีทั้งหมด 1 ล้านคน แบ่งเป็นกลุ่มแรงงานในอุตสาหกรรมโรงแรมกว่า 50% หรือ 500,000 คนต้องถูกเลิกจ้างไม่น้อยกว่า 10-15%
ที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้เสนอมาตรการให้รัฐช่วยเหลือผู้ประกอบการไปหลายข้อ แต่ปรากฎว่าได้รับการตอบรับมาเพียงบางเรื่องเท่านั้น ทำให้การแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวอาจไม่ได้ผลเท่าที่ควรนายประกิจกล่าวและว่า
ที่ผ่านมามาตรการที่รัฐบาลตอบรับเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นมาตราการที่ออกมาแก้ไขอย่างไม่ตรงจุด เช่น ค่าธรรมเนียมวีซ่า จากที่ขอ 6 เดือนได้3 เดือน, การลดธรรมเนียมค่าจอดเครื่องบินได้แค่ 20% บางสนามบิน จากที่ขอ 50%ทุกสนามบิน รวมถึงการสนับสนุนเงินกู้ท่องเที่ยวสำหรับท่องเที่ยวที่ยื่นขอ 6 แสนล้าน ในที่สุดเหลือเพียง 5 พันล้าน โดยเป็นของโรงแรม 2 พันล้านเท่านั้น ซึ่งยังไม่เพียงพอ ขณะที่หลายข้อเสนอยังไม่ได้รับการตอบรับจากภาครัฐ เช่น การยกเลิกการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมห้อง 60 บาท และการช่วยเหลือเงินประกันสังคม 6 เดือน เป็นต้น
3เดือนแรก อัตราเข้าพักลด 25%
สำหรับอัตราเข้าพักโรงแรม 3 เดือนแรก ภาพรวมลดลง 20-25% เทียบกับปีที่แล้ว โดยเฉพาะสงกรานต์ จังหวัดเชียงใหม่ได้ 50-60% เฉพาะวันที่ 12-13 เมษายนเท่านั้นที่จะมีอัตราเข้าพัก 80% จากปรกติที่จะสูงถึง 90-95%
ภูเก็ต อัตราเข้าพัก 65-70% จากปกติ 90-95% พัทยา 50-60% จากปกติ 70-80% ขณะที่กรุงเทพมีอัตราเข้าพัก 40-50% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราปกติ ซึ่งในช่วงสงกรานต์อัตราเข้าพักโรงแรมในกรุงเทพจะไม่เต็มอยู่แล้ว ส่วนตลาดจีนช่วงสงกรานต์มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ(ชาร์เตอร์ไฟล์ท) เข้ามา 80 ลำ จากปกติเข้ามา 200-300 ลำ คาดว่าจะมีคนจีนเข้ามารวม 20,000 คน จากปกติ 50,000 คน ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาช่วงสงกรานต์ เป็นคนไทยเป็นหลัก ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยว
ไม่เกิน 2 เดือนรร.ภาคใต้จ่อคิวปิดตัว
นายเมธี ตันมานะตระกูล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า ขณะนี้โรงแรมในภาคใต้ มีอัตราการเข้าพัก 60% ซึ่งอาจดีกว่าภาคอื่นเนื่องจากมีชาร์แตอร์ไฟลท์เข้ามาโดยตรง แต่ทั้งนี้ในส่วนของรายได้กลับเหลือเพียง 40% เท่านั้น เพราะผู้ประกอบการทำโปรโมชั่นราคา และใช้ราคาขายสำหรับช่วงโลว์ซีซันมาขายตั้งแต่ต้นปี
ธุรกิจโรงแรมขณะนี้ถึงทางตัน ผู้ประกอบการต้องปลุกระดมเพื่อเสนอต่อรัฐว่าที่ผ่านมาคันตรงไหน เพราะที่ผ่านมารัฐบาลเกาไม่ถูกที่คัน ก่อนที่โรงแรมจะตายแน่นอนในไม่เกิน 2 เดือนนับจากนี้นายเมธีกล่าว
รร.เล็กในกรุงเทพเริ่มตาย
นายเจริญ นัดพบสุข อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า สำหรับโรงแรมขนาดเล็ก ที่มีห้องพักไม่เกิน 250 ห้อง ในกรุงเทพ ได้รับผลกระทบแล้ว เนื่องจากมีสายป่านในการบริหารสั้นกว่าโรงแรมขนาดใหญ่ ทำให้เริ่มมีการปิดตัวไปแล้วหลายราย แม้จะมีการพยายามลดต้นทุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปิดล้อมสนามบินในปีที่แล้ว
รร.ขนาดเล็กหลายแห่งได้พยายามใช้แนวทางของบัดเจ็ทโฮเต็ลมาใช้เป็นแนวปฎิบัติเพื่อแก้ไข ทำให้หลังจากนี้จำนวนแรงงานของโรงแรมอาจต้องลดลงถึง 2 ใน 3 ส่วน หรือคิดเป็นแรงงาน 1 คนดูแลห้องพัก 3 ห้องจากเดิมใช้แรงงาน 1.7 คนต่อ 1 ห้อง นายเจริญกล่าวและว่า
แต่อย่างไรแล้ว แม้รร.ขนาดเล็กจะปรับตัวในรูปแบบดังกล่าว ก็อาจได้รับผลกระทบในอนาคตจากกลุ่มบัดเจ็ทโรงแรมตัวจริงที่คาดว่าจะเข้ามา 250-300 แห่ง จาก 4-5 กลุ่มโรงแรม ภายในใน 2-3ปีนี้ ทำให้ผู้ประกอบการอาจต้องเตรียมปรับตัวเพื่อรองรับกระแสดังกล่าวอีกด้าน
รร.ภาคตะวันออกยอดพักลดลง 20-30%
นางสาวบุณฑริก กุศลวิทย์ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า กลุ่มโรงแรมในภาคตะวันออก ขณะนี้มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยลดลง 20-30% โดยโรงแรมระดับ 3 ดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงมากกว่าโรงแรมระดับ 4-5 ดาว ซึ่งมีการหั่นราคาต่ำลงมาแข่งขันกับโรงแรมระดับ 3 ดาว โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เหลืออยู่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่กลุ่มมาเที่ยวซ้ำเป็นหลัก กลุ่มตลาดใหม่และกลุ่มเอเชียไม่มีการท่องเที่ยวเข้ามาเลย
โรงแรมอิสระขนาดเล็ก ต้องลดต้นทุนเร่งด่วน โดยตัดสินใจทันทีว่าจะลดค่าใช้จ่ายอย่างไร โดยอาจปิดบริการบางแผนก หรือลดการทำงานในแต่ละแผนกเพื่อรักษากระแสเงินหมุนเวียน และหันมาโฟกัสตลาดโอกาสใหม่ๆ ส่วนตลาดที่ชะลอเอาไว้ทีหลังนางสาวบุณฑริกกล่าว
ส.โรงแรมชงแคมเปญระดับโลกกู้วิกฤต
ในงานเสวนาดังกล่าว นายเมธีได้นำเสนอแนวทางการแก้ไขวิกฤตการท่องเที่ยวแก่รัฐบาล โดยแนะให้รัฐบาลซึ่งประกอบด้วย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ร่วมมือกับ ภาคเอกชน ออกแคมเปญระดับชาติขายท่องเที่ยวไทยในทั่วโลก ในช่วงเดือน พ.ค.-พ.ย.นี้ รวม 7 เดือน โดยใช้งบประมาณ 3.5พันล้านบาท ให้ค่าส่วนต่างรายได้(คอมมิชชั่น) กับตัวแทนจำหน่ายต่างชาติทั่วโลกที่สามารถนำคณะนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย จะได้รับเงิน 1,500 บาทต่อคน โดยมีเงื่อนไขจะต้องเข้าพักในไทยอย่างต่ำ 4 วัน
ทั้งนี้ รัฐบาลจะต้องสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวทั่วโลกโดยร่วมกับบริษัทประกันชีวิต ทำประกันความเสี่ยงจากการเข้ามาท่องเที่ยวในไทยรวมถึงกรณีการปิดสนามบิน ภายใต้วงเงินชดเชยคนละ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถ้ารัฐบาลทำได้ คาดว่าจะดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในช่วง 7 เดือนที่จัดแคมเปญได้ไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน สร้างรายได้จากาการใช้จ่ายได้ 3.6 ล้านบาท คิดจากากรใช้จ่าย 4.58พันบาทต่อคนต่อวัน โดยเป็นค่าใช้จ่ายในกลุ่มโรงแรมไม่น้อยกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังช่วยชะลอการเลิกจ้างแรงงานไปได้ 4-5หมื่นคน
แนะรัฐต้องเรียกความเชื่อมั่น
นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังเสนอต่อรัฐบาลว่า ควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวในโลก ทั้งในแง่การเมืองและโครงการอีลิทการ์ด รวมทั้งเจรจากับธนาคารเพื่อช่วยเหลือการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้นเชื่อว่าในสถานการณ์เช่นนนี้อาจเกิดหนี้เสียจากธุรกิจโรงแรมจำนวนไม่น้อยในอนาคต
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กหลังจากนี้นั้น ควรรวมตัวกันออกมาขอความร่วมกับท้องถิ่น เช่น กทม.ในการสนับสนุนงบและการทำการตลาดร่วมกัน โดยเฉพาะในรูปแบบการออกโรดโชว์ เทรดโชว์ในต่างประเทศ เนื่องจากโรงแรมขนาดเล็กมีงบในการทำตลาดน้อย
ดุสิตแนะคุมคุณภาพในภาวะลดต้นทุน
นายชนินทธ์ โทณวณิก ที่ปรึกษากิติมศักดิ์ สมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ธุรกิจโรงแรมต้องเน้นเรื่องการควบคุมค่าใช้จ่าย โดยที่คุณภาพการให้บริการของโรงแรมยังคงเดิม เช่น ถ้ามีโรงแรมหลายแห่งอยู่ในเครือ ให้ใช้วิธีการรวมทีมงานของโรงแรมหลายๆ แห่งเข้ามาทำงาน เช่นเดียวกับดุสิต ซึ่งมีแนวคิดในการตั้งทีมบัญชีกลางเพื่อบริหารโรงแรมทั้งหมดเป็นต้น
โรงแรมหวั่น 2 เดือนตายหมู่เลิกจ้าง 7.5 หมื่นคน
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย
สมาคมโรงแรม สะท้อนผลกระทบการเมือง-เศรษฐกิจต่ออุตสาหกรรมโรงแรมส่อเค้าวิกฤติ อีก 2 เดือน คาดรร.เริ่มปิดตัว - คนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตกงาน 15%
สมาคมโรงแรม สะท้อนผลกระทบการเมือง-เศรษฐกิจต่ออุตสาหกรรมโรงแรมส่อเค้าวิกฤติ อีก 2 เดือน คาดรร.เริ่มปิดตัว - คนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตกงาน 15% ขณะที่รร.ขนาดเล็กสายป่านสั้นในกทม.เริ่มตาย ผุดไอเดีย แคมเปญขายระดับโลก แนะรัฐอัดฉีดเยนต์ทั่วโลกหากดึงนักท่องเที่ยวพัก 4 คืน ได้หัวละ1,500 บาท คาดกระตุ้นเงินสะพัดกว่า 3หมื่นล้าน
สมาคมโรงแรมไทย จัดเสวนา ผ่าทางตัน แก้วิกฤติก่อนธุรกิจโรงแรมตายหมู่ โดยมีตัวแทนสมาชิกผู้ประกอบการโรงแรม และผู้ประกอบการโรงแรมภาคต่างๆ ร่วมเสวนา โดยนายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมปัจจัยลบทั้งการเมืองในประเทศและโดยเฉพาะวิกฤตเศรษฐกิจโลก ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวและโรงแรมของประเทศไทยมากขึ้นอย่างชัดเจน
ทั้งนี้จากการประเมินผลกระทบดังกล่าวพบว่า อีก 1-2 เดือนข้างหน้า หากภาครัฐไม่มีมาตรการอะไรออกมาช่วยเหลือภาคท่องเที่ยวอย่างตรงจุด จะส่งผลให้แรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งมีทั้งหมด 1 ล้านคน แบ่งเป็นกลุ่มแรงงานในอุตสาหกรรมโรงแรมกว่า 50% หรือ 500,000 คนต้องถูกเลิกจ้างไม่น้อยกว่า 10-15%
ที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้เสนอมาตรการให้รัฐช่วยเหลือผู้ประกอบการไปหลายข้อ แต่ปรากฎว่าได้รับการตอบรับมาเพียงบางเรื่องเท่านั้น ทำให้การแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวอาจไม่ได้ผลเท่าที่ควรนายประกิจกล่าวและว่า
ที่ผ่านมามาตรการที่รัฐบาลตอบรับเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นมาตราการที่ออกมาแก้ไขอย่างไม่ตรงจุด เช่น ค่าธรรมเนียมวีซ่า จากที่ขอ 6 เดือนได้3 เดือน, การลดธรรมเนียมค่าจอดเครื่องบินได้แค่ 20% บางสนามบิน จากที่ขอ 50%ทุกสนามบิน รวมถึงการสนับสนุนเงินกู้ท่องเที่ยวสำหรับท่องเที่ยวที่ยื่นขอ 6 แสนล้าน ในที่สุดเหลือเพียง 5 พันล้าน โดยเป็นของโรงแรม 2 พันล้านเท่านั้น ซึ่งยังไม่เพียงพอ ขณะที่หลายข้อเสนอยังไม่ได้รับการตอบรับจากภาครัฐ เช่น การยกเลิกการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมห้อง 60 บาท และการช่วยเหลือเงินประกันสังคม 6 เดือน เป็นต้น
3เดือนแรก อัตราเข้าพักลด 25%
สำหรับอัตราเข้าพักโรงแรม 3 เดือนแรก ภาพรวมลดลง 20-25% เทียบกับปีที่แล้ว โดยเฉพาะสงกรานต์ จังหวัดเชียงใหม่ได้ 50-60% เฉพาะวันที่ 12-13 เมษายนเท่านั้นที่จะมีอัตราเข้าพัก 80% จากปรกติที่จะสูงถึง 90-95%
ภูเก็ต อัตราเข้าพัก 65-70% จากปกติ 90-95% พัทยา 50-60% จากปกติ 70-80% ขณะที่กรุงเทพมีอัตราเข้าพัก 40-50% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราปกติ ซึ่งในช่วงสงกรานต์อัตราเข้าพักโรงแรมในกรุงเทพจะไม่เต็มอยู่แล้ว ส่วนตลาดจีนช่วงสงกรานต์มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ(ชาร์เตอร์ไฟล์ท) เข้ามา 80 ลำ จากปกติเข้ามา 200-300 ลำ คาดว่าจะมีคนจีนเข้ามารวม 20,000 คน จากปกติ 50,000 คน ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาช่วงสงกรานต์ เป็นคนไทยเป็นหลัก ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยว
ไม่เกิน 2 เดือนรร.ภาคใต้จ่อคิวปิดตัว
นายเมธี ตันมานะตระกูล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า ขณะนี้โรงแรมในภาคใต้ มีอัตราการเข้าพัก 60% ซึ่งอาจดีกว่าภาคอื่นเนื่องจากมีชาร์แตอร์ไฟลท์เข้ามาโดยตรง แต่ทั้งนี้ในส่วนของรายได้กลับเหลือเพียง 40% เท่านั้น เพราะผู้ประกอบการทำโปรโมชั่นราคา และใช้ราคาขายสำหรับช่วงโลว์ซีซันมาขายตั้งแต่ต้นปี
ธุรกิจโรงแรมขณะนี้ถึงทางตัน ผู้ประกอบการต้องปลุกระดมเพื่อเสนอต่อรัฐว่าที่ผ่านมาคันตรงไหน เพราะที่ผ่านมารัฐบาลเกาไม่ถูกที่คัน ก่อนที่โรงแรมจะตายแน่นอนในไม่เกิน 2 เดือนนับจากนี้นายเมธีกล่าว
รร.เล็กในกรุงเทพเริ่มตาย
นายเจริญ นัดพบสุข อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า สำหรับโรงแรมขนาดเล็ก ที่มีห้องพักไม่เกิน 250 ห้อง ในกรุงเทพ ได้รับผลกระทบแล้ว เนื่องจากมีสายป่านในการบริหารสั้นกว่าโรงแรมขนาดใหญ่ ทำให้เริ่มมีการปิดตัวไปแล้วหลายราย แม้จะมีการพยายามลดต้นทุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปิดล้อมสนามบินในปีที่แล้ว
รร.ขนาดเล็กหลายแห่งได้พยายามใช้แนวทางของบัดเจ็ทโฮเต็ลมาใช้เป็นแนวปฎิบัติเพื่อแก้ไข ทำให้หลังจากนี้จำนวนแรงงานของโรงแรมอาจต้องลดลงถึง 2 ใน 3 ส่วน หรือคิดเป็นแรงงาน 1 คนดูแลห้องพัก 3 ห้องจากเดิมใช้แรงงาน 1.7 คนต่อ 1 ห้อง นายเจริญกล่าวและว่า
แต่อย่างไรแล้ว แม้รร.ขนาดเล็กจะปรับตัวในรูปแบบดังกล่าว ก็อาจได้รับผลกระทบในอนาคตจากกลุ่มบัดเจ็ทโรงแรมตัวจริงที่คาดว่าจะเข้ามา 250-300 แห่ง จาก 4-5 กลุ่มโรงแรม ภายในใน 2-3ปีนี้ ทำให้ผู้ประกอบการอาจต้องเตรียมปรับตัวเพื่อรองรับกระแสดังกล่าวอีกด้าน
รร.ภาคตะวันออกยอดพักลดลง 20-30%
นางสาวบุณฑริก กุศลวิทย์ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า กลุ่มโรงแรมในภาคตะวันออก ขณะนี้มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยลดลง 20-30% โดยโรงแรมระดับ 3 ดาวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงมากกว่าโรงแรมระดับ 4-5 ดาว ซึ่งมีการหั่นราคาต่ำลงมาแข่งขันกับโรงแรมระดับ 3 ดาว โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เหลืออยู่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่กลุ่มมาเที่ยวซ้ำเป็นหลัก กลุ่มตลาดใหม่และกลุ่มเอเชียไม่มีการท่องเที่ยวเข้ามาเลย
โรงแรมอิสระขนาดเล็ก ต้องลดต้นทุนเร่งด่วน โดยตัดสินใจทันทีว่าจะลดค่าใช้จ่ายอย่างไร โดยอาจปิดบริการบางแผนก หรือลดการทำงานในแต่ละแผนกเพื่อรักษากระแสเงินหมุนเวียน และหันมาโฟกัสตลาดโอกาสใหม่ๆ ส่วนตลาดที่ชะลอเอาไว้ทีหลังนางสาวบุณฑริกกล่าว
ส.โรงแรมชงแคมเปญระดับโลกกู้วิกฤต
ในงานเสวนาดังกล่าว นายเมธีได้นำเสนอแนวทางการแก้ไขวิกฤตการท่องเที่ยวแก่รัฐบาล โดยแนะให้รัฐบาลซึ่งประกอบด้วย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ร่วมมือกับ ภาคเอกชน ออกแคมเปญระดับชาติขายท่องเที่ยวไทยในทั่วโลก ในช่วงเดือน พ.ค.-พ.ย.นี้ รวม 7 เดือน โดยใช้งบประมาณ 3.5พันล้านบาท ให้ค่าส่วนต่างรายได้(คอมมิชชั่น) กับตัวแทนจำหน่ายต่างชาติทั่วโลกที่สามารถนำคณะนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย จะได้รับเงิน 1,500 บาทต่อคน โดยมีเงื่อนไขจะต้องเข้าพักในไทยอย่างต่ำ 4 วัน
ทั้งนี้ รัฐบาลจะต้องสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวทั่วโลกโดยร่วมกับบริษัทประกันชีวิต ทำประกันความเสี่ยงจากการเข้ามาท่องเที่ยวในไทยรวมถึงกรณีการปิดสนามบิน ภายใต้วงเงินชดเชยคนละ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถ้ารัฐบาลทำได้ คาดว่าจะดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในช่วง 7 เดือนที่จัดแคมเปญได้ไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน สร้างรายได้จากาการใช้จ่ายได้ 3.6 ล้านบาท คิดจากากรใช้จ่าย 4.58พันบาทต่อคนต่อวัน โดยเป็นค่าใช้จ่ายในกลุ่มโรงแรมไม่น้อยกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังช่วยชะลอการเลิกจ้างแรงงานไปได้ 4-5หมื่นคน
แนะรัฐต้องเรียกความเชื่อมั่น
นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังเสนอต่อรัฐบาลว่า ควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวในโลก ทั้งในแง่การเมืองและโครงการอีลิทการ์ด รวมทั้งเจรจากับธนาคารเพื่อช่วยเหลือการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้นเชื่อว่าในสถานการณ์เช่นนนี้อาจเกิดหนี้เสียจากธุรกิจโรงแรมจำนวนไม่น้อยในอนาคต
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กหลังจากนี้นั้น ควรรวมตัวกันออกมาขอความร่วมกับท้องถิ่น เช่น กทม.ในการสนับสนุนงบและการทำการตลาดร่วมกัน โดยเฉพาะในรูปแบบการออกโรดโชว์ เทรดโชว์ในต่างประเทศ เนื่องจากโรงแรมขนาดเล็กมีงบในการทำตลาดน้อย
ดุสิตแนะคุมคุณภาพในภาวะลดต้นทุน
นายชนินทธ์ โทณวณิก ที่ปรึกษากิติมศักดิ์ สมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ธุรกิจโรงแรมต้องเน้นเรื่องการควบคุมค่าใช้จ่าย โดยที่คุณภาพการให้บริการของโรงแรมยังคงเดิม เช่น ถ้ามีโรงแรมหลายแห่งอยู่ในเครือ ให้ใช้วิธีการรวมทีมงานของโรงแรมหลายๆ แห่งเข้ามาทำงาน เช่นเดียวกับดุสิต ซึ่งมีแนวคิดในการตั้งทีมบัญชีกลางเพื่อบริหารโรงแรมทั้งหมดเป็นต้น
Money is neutral
-
- Verified User
- โพสต์: 513
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 28
ขอบคุณ คุณTIARA ที่มาเล่าประสบการณ์สนุกๆให้ฟังครับ
ได้เวลาเหล่าอินทรีย์ ผงาดบนฟากฟ้า
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
ธปท..คาดว่านักท่องเที่ยวในปี 52 จะเข้าสู่ภาวะปกติช่วงปลายปี
โพสต์ที่ 30
ตอนนี้สถานะการท่องเที่ยวของชลบุรีถือว่าเลวร้าย
เทียบเท่ากับตอนที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองถูกปิด
กูรูในเรื่องศก เริ่มออกมาบอกว่า การฟื้นตัวไม่ใช่ปีนี้แล้ว
ปีหน้า (ยังดีบอกว่าปีหน้าไม่ใช่บอกว่าชาติหน้า ตามโฆษณาสียี่ห้อหนึ่ง)
เทียบเท่ากับตอนที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองถูกปิด
กูรูในเรื่องศก เริ่มออกมาบอกว่า การฟื้นตัวไม่ใช่ปีนี้แล้ว
ปีหน้า (ยังดีบอกว่าปีหน้าไม่ใช่บอกว่าชาติหน้า ตามโฆษณาสียี่ห้อหนึ่ง)