STPI ถูกนำเข้าเป็นหนึ่งในร้อยคนร้อยหุ้นช่วงปลายปี 2006 โดย คุณ HOTNONAME
ช่วงนั้น STPI เป็นหุ้น Hot Hit มาก เพราะ ผลงานสามไตรมาสที่ผ่านมาสวยหรูเหลือเกิน และก็คาดกันว่าไตรมาสสี่ก็จะออกมาสวยหรูและปันผลงาม แต่ฝันของนักลงทุนก็ต้องพังทลายลงหลังจากที่ งบปี 2006 ออกมา มีการกันสำรองไปจำนวน 120 ล้านบาทได้ ทำให้กำไรหดหายไปตามกัน( แต่ก็ยังสูงถึง .98 บาท) และ ปันผลที่คาดว่าจะสวยหรู ก็เหลือแค่ 5 สตางค์ โดยเหตุผลที่ว่าต้องสำรองไว้รองรับกับงานที่คาดว่าจะได้ในอนาคต ซึ่งเหตุผลก็ฟังขึ้นอยู่ ถ้าเอาไว้ขยายงานจริงๆ
ด้วยเหตุนี้ทำให้ ราคา STPI ร่วงจาก 4 บาทกว่า เหลือแค่ 2 บาทปลายๆ ซึ่งนี่น่าจะเป็นครั้งเดียวที่ STPI ทำ นักลงทุนผิดหวังอย่างแรง เพราะเรื่อง กันสำรองนี้ บริษัทไม่เคยพูดถึงมาก่อนเลย บอกแต่เรื่องรายได้ว่าจะดีมาก แล้วผลออกมารายได้ก้อดีจริง เค้าก็ไม่ได้โกหกอะไร แต่แค่บอกไม่หมดเรื่องกันสำรอง เลยเล่นเอาเจ๊งไปตามๆกัน
พอมาปี 2007 ปีนี้รายได้บริษัทก็ไม่มีไรหวือหวาเลย เหมือนแทบจะไม่มี สงสัยอาจจะเตรียมตัวรับศึกใหญ่พลูโตอยู่ ^^ เตรียมตัวซะตั้งแต่ยังไม่รุ้ผลประมูลเลย ทำให้ผลออกมาทั้งปีบริษัทขาดทุนเล็กน้อยที่ประมาณ 6.5 ล้านบาท...แต่มีดีที่ปีนี้ คุณ อนุทิน ชาญวีรกุล มาทวงบัลลังค์ ซื้อหุ้นคืนจากคุณ ชำนิ ประมาณ 10 ล้านหุ้น แล้วก้อมีซื้อจากรายใหญ่อีกคน ประมาณ 7 ล้านหุ้นได้ แล้วก็เหมือนเป็นการจุดพุให้กับราคา หุ้น STPI เลย
พอมาปี 2008 ช่วงต้นปีก็ประกาศมาว่าได้งานแล้ว (กว่าจะประกาศได้ รอจนเหงือกแห้ง ) อันนี้ขอพาดพิงนักวิเคราะห์ที่นึงได้มั้ยครับ ทาง STPI เชิญให้ไปฟัง แต่ดันปฏิเสธ บอกว่า STPI หุ้นปั่น ตัวเล็ก ไม่น่าสนใจ ฟังแล้วมันไม่สบอารมณ์เสียจริงๆ ทั้งๆที่ตอนนั้น STPI ประกาศมาโต้งๆว่าได้งานพลูโตแล้ว
ปี 2008 นี้ STPI ก็โชว์ผลงานทั้งปีอย่างสวยงาม และ ให้ปันผลสูงถึง 2.40 บาท เรียกได้ว่าให้ย้อนหลังจากที่ไม่ได้ให้มานานเลยทีเดียว
ดูจากประวัติคร่าวแล้ว ผมว่าSTPI มีทำผิดหวังหนักๆแค่ครั้งเดียว แต่ที่เกินหวังนี่เยอะแยะมากมายเหลือเกินครับ ^^ แต่จะติดก็ตรงราคาหุ้นนี่ยังไม่สมหวังซักที แต่พอเอาไปเทียบกับ หุ้นตัวอื่นๆ ในตลาดหุ้น ก็โอเคเลยทีเดียว SET ลงมา 50% ได้ แต่ STPI มาแถวๆ high เดิมแล้ว
งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ คุณ มาศถวิน ชาญวีรกุล ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง เห็นว่า อายุยัง 30 กว่าๆอยู่เลย แต่สร้างความแข็งแกร่งและพา STPI มาถึงขนาดนี้ จากบริษัทเล็กๆ มูลค่า ไม่กี่ร้อยล้าน ตอนนี้ก็กลายเป็น 2000 กว่าล้านเข้าไปแล้ว
PS. งานนี้ต้องขอขอบคุณ พี่หมอสามัญชนด้วยครับ ที่เป็นกำลังสำคัญในการหาข่าวสารข้อมูล สุดยอดจริงๆครับ ถ้าไม่ได้พี่หมอช่วยให้ข้อมูลคงถอดใจขายทิ้งไปหลายทีแล้ว
