ขอความเห็นพี่ปรัชญา เกี่ยวกับสถานะการณ์ ครึ่งปีหลังครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
โป้ง
Verified User
โพสต์: 2326
ผู้ติดตาม: 0

ขอความเห็นพี่ปรัชญา เกี่ยวกับสถานะการณ์ ครึ่งปีหลังครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ขอความเห็นพี่ปรัชญาและเพื่อนๆทุกๆท่านครับ

สถานะการณ์ในปัจจุบัน ราคาน้ำมันในตลาดโลกดีดตัวขึ้นมามาก ตลาดทุนเริ่มถดถอยลงทั่วโลก หากราคาน้ำมัน (ขอแค่ วิเคราะห์เพียงปัจจัยเดียว ) ยังคงดีดตัวสูงขึ้นไปถึง 50$/บาร์เรลหรือมากกว่านี้

ในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทในตลาดทุน( ยกเว้นกลุ่มพลังงาน )ยังคงสามารถทำกำไรโตต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนได้หรือไม่ครับ

และความเห็นของท่านคิดว่าธุรกิจกลุ่มไหน ควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด

ขอบคุณครับ :oops:
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

ขอความเห็นพี่ปรัชญา เกี่ยวกับสถานะการณ์ ครึ่งปีหลังครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ครึ่งปีหลังถ้าสถานะการราคาน้ำมันยังคงเดินหน้าอย่างนี้
เกือบทุกอย่างที่เติบโตจะสะดุด
จากเคยได้ดุลการค้าอาจจะติดลบ
ดอกเบี๊ยจะขึ้น
ต้นทุนทุกอย่างจะเพิ่มขึ้น กำไรบริษัทจดทะเบียนจะน้อยลง
ดอกเบี๊ยจ่ายจะเพิ่มขึ้น
บริษัทรถอาจจะชะลอการเติบโต ส่วนพวกอาลั่ยรถยนต์อาจจะไม่กระทบมากนักพวกไฟ แบ๊ตเตอรี่ ...แต่วัตถุดิบขึ้นราคาน่ากลัวหากไม่มีการปรับราคาได้ทันอาจลงกำไรปีนี้แต่ปีหน้ายังไม่กล้าคิดกลัวความไม่แน่นอน

ควรหาบริษัทที่ไม่มีหนี้สิน(เกี่ยวกับดอกเบี๊ย)
ควรหาบริษัทส่งออกบางบริษัท(เกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนถ้าขึ้นไปถึง43-45บาท/ดอลล่า)
เศรษฐกิจจะถดถอย กำลังซื้อภายในประเทศจะลดลง(มีเงินน้อยคงต้องประหยัดจากกินข้าวราดแกงคงต้องเปลี่ยนมากินบะหมี่สำเร็จรูปที่ถูกกว่า
โรงพยาบาลจะได้รับผลกระทบน้อยแต่คงไม่ค่อยเติบโต โรงแรมได้ผลกระทบน้อยและอาจดีเมื่อค่าเงินเราอ่อนต่างประเทศจะเข้ามาเที่ยวเพิ่มขึ้น


(เป็นเพียงแค่ความคิดเล็กน้อย ชื่อหุ้นไม่อาจบอกได้เดี๋ยวเขาหาว่ามาเชียร์ครับลองค้นหาดูและรอความคิดเห็นจากท่านอื่นๆ)
อยากรู้
ผู้ติดตาม: 0

ขอความเห็นพี่ปรัชญา เกี่ยวกับสถานะการณ์ ครึ่งปีหลังครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ทุกท่านเคยมีคำถามไหม

ทำไมราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นมาแบบผิดหูผิดตา ดูมันไม่ค่อยมีเหตุผล ถ้าบอกว่าเศษรฐกิจจีนหรือทั่วโลกเติบโตเร็วมาเทียบกับการไตร่ขึ้นของราคาน้ำมันก็ดูยังไม่สอดคล้องกัน

คำถาม จริงๆ น้ำมันแพงขึ้น slope ลาดชันแบบนี้ เกิดจากอะไรกันแน่?????

กับราคาวัตถุดิบบางตัวแพงแบบไม่มีเหตุผล ใครรู้ช่วยตอบที???????
เถ้าแก่
ผู้ติดตาม: 0

ขอความเห็นพี่ปรัชญา เกี่ยวกับสถานะการณ์ ครึ่งปีหลังครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ฟังจากข่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านนำมันออกมาพูดว่า ควรจะสำรวจกันใหม่ว่าในตอนนี้ปริมาณน้ำมันที่เหลืออยู่ในโลกนี้
แท้จริงเพียงพอที่จะใช้อยู่อีกกี่ปี...ฟังแล้วหนาวๆชอบกล

สำหรับไทย ผมว่าอสังหาตอนนี้ อตร. จริงๆ
บุคคลทั่วไป
ผู้ติดตาม: 0

ขอความเห็นพี่ปรัชญา เกี่ยวกับสถานะการณ์ ครึ่งปีหลังครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ถ้าแนวโน้มแบบพี่ปรัชญาว่ามา

นั้นถือเงินสดรอๆๆๆดีกว่า
บุคคลทั่วไป
ผู้ติดตาม: 0

ขอความเห็นพี่ปรัชญา เกี่ยวกับสถานะการณ์ ครึ่งปีหลังครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ถ้าแนวโน้มแบบพี่ปรัชญาว่ามา

นั้นถือเงินสดรอๆๆๆดีกว่า
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

ขอความเห็นพี่ปรัชญา เกี่ยวกับสถานะการณ์ ครึ่งปีหลังครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เรื่องหุ้น ไม่มีอะไรน่ากลัวขนาดนั้น เพราะ เมื่อมีข่าวร้าย หุ้นจะลงเกินจริง ทำให้เรามีโอกาสซื้อครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ปรัชญา
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 18252
ผู้ติดตาม: 0

ขอความเห็นพี่ปรัชญา เกี่ยวกับสถานะการณ์ ครึ่งปีหลังครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

เถ้าแก่ เขียน:ฟังจากข่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านนำมันออกมาพูดว่า ควรจะสำรวจกันใหม่ว่าในตอนนี้ปริมาณน้ำมันที่เหลืออยู่ในโลกนี้
แท้จริงเพียงพอที่จะใช้อยู่อีกกี่ปี...ฟังแล้วหนาวๆชอบกล

สำหรับไทย ผมว่าอสังหาตอนนี้ อตร. จริงๆ

เหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้...
ระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน(ไม่ค่อยราบรื่น)
จีนกับไต้หวันแข่งขันกันสะสมอาวุธ(อย่าเกิดการปะทะจะมีเรื่องที่ดึงเอาหลายๆชาติที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องและบานปลาย)
อินเดียกับปากีสถาน
เกาหลีเหนือขาดแคลนอาหารแต่เอาอาวุธนิวเคลียร์มาเป็นเงื่อนไข
ก่อการร้ายที่อินโดและรุมลามออกมาเรื่อยๆ กำลังจะชนรอบอีกปีแล้ว
การเปิดเสรีทางการค้า ในบางกรณีประเทศไทยยังเป็นรองคู่แข่ง

หุ้นดีดีซื้อได้หลายตัวอยู่ครับ ต้องคัดตัวถือ
อย่าง กล้องดิจิตอล ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ผลประกอบการออกมาดี
และ3ไตรมาสแล้ว คาดการณ์ง่ายและคาดจ่ายเงินปันผลได้ครับ
ถึงจะแขว่งขึ้นแกว่งลงก็ยังน่าเก็บไว้รอเงินปันผล
แล้วลองดูผลประกอบการพรุ่งนี้คงมีบริษัทที่น่าสนใจออกมาอีกครับ
หาบริษัทที่มีกำไรสะสมเยอะไว้ก่อนก็ดี พอดอกเบี๊ยขึ้นก็จะได้กำไรเป็นรายรับจากดอกเบี๊ย และเลือกหุ้นพวกพลังงานตามกองทุนบ้านเราครับ
โป้ง
Verified User
โพสต์: 2326
ผู้ติดตาม: 0

ขอความเห็นพี่ปรัชญา เกี่ยวกับสถานะการณ์ ครึ่งปีหลังครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ความเห็นส่วนตัว ราคาน้ำมันขึ้นพรวดแบบนี้ มี 2 ประเดน

- นักเก็งกำไร เข้าเก็งราคาน้ำมัน
- ประเทศ เวเนซุเอร่า อิรัก อีหร่าน ซีเรีย หมดปัญหาเรื่องความขัดแย้ง คงช่วยได้เยอะ

:wink:
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
โป้ง unlogin
ผู้ติดตาม: 0

ขอความเห็นพี่ปรัชญา เกี่ยวกับสถานะการณ์ ครึ่งปีหลังครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ข่าวจากกรุงเทพธุรกิจ
โอเปกยืนยันผลิตน้ำมันเพิ่มได้อีก 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน


นายปูร์โนโม ยุสเกียนโตโร ประธานกลุ่มโอเปก กล่าวย้ำอีกครั้งในวันนี้ว่า โอเปกยังมีศักยภาพที่จะผลิตน้ำมันเพิ่มได้อีก 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อช่วยลดความร้อนแรงของราคาน้ำมันในตลาดโลกขณะนี้ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเพิ่มการผลิต จะมีขึ้นในการประชุมกลุ่มโอเปก ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย วันที่ 14 กันยายน เท่านั้น ซึ่งจะมีประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่ไม่ได้เป็นสมาชิกโอเปกเข้าร่วมด้วย ซึ่งเขาคาดหวังว่า ประเทศนอกโอเปก จะสามารถผลิตน้ำมันเพิ่มได้

นายยุสเกียนโตโร กล่าวด้วยว่า รายงานล่าสุดจากกลุ่มโอเปกระบุว่า ปริมาณการผลิตในปัจจุบันอยู่ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน และโอเปกมีความกังวลที่ราคาน้ำมันสูงขึ้น แต่เขายืนยันว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงในขณะนี้ ไม่เกี่ยวกับปัญหาพื้นฐาน คือไม่เกี่ยวกับอุปสงค์และอุปทาน
สรุปแล้วคงเหลือสาเหตุเดียวที่น้ำมันขึ้น (วิเคราะห์จากข่าว) :roll:
ภาพประจำตัวสมาชิก
วันพีส
Verified User
โพสต์: 77
ผู้ติดตาม: 0

ขอความเห็นพี่ปรัชญา เกี่ยวกับสถานะการณ์ ครึ่งปีหลังครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ขออนุญาติท่านเจ้าของ คือ พี่ชอบอ่าน แห่งพันธุ์ทิพย์/สินธร นำการสนทนา มาลงครับ

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 45371.html

อีกหนึ่งมุมมองเกี่ยวกับเรื่องน้ำมัน จากเศรษฐกิจแบบโก่งคันธนู

- เกิดอะไรขึ้นกับราคาน้ำมันในปัจจุบัน (ผมได้คาดการณ์ผิดไปว่าไม่น่าจะสูงกว่า High เดิมคราวที่แล้ว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อจริงๆครับ) และเมื่อใดจึงจะกลับสู่สภาวะปกติ

ก่อนหน้านี้ไม่กี่อาทิตย์ ผมยังคิดอยู่ว่า
น้ำมันน่าจะเริ่มลงได้แล้ว แต่ต้องยอมรับว่า
ประเมิณสถานการณ์นี้ผิดไปจริงๆ

ยิ่งได้คุยกับนักธุรกิจหนุ่มนายนี้แล้ว จึงทำให้ผมรู้ว่า
ผมตกประเด็นสำคัญสำหรับการประเมินเรื่องราคาน้ำมันไปครับ
ตกยังไงลองดูคำตอบของเขานะครับ

ในมุมมองของผม ราคาน้ำมันที่สูงอยู่ในขณะนี้
เป็นปัจจัยที่ส่งผลทั้งทางด้านดีและร้ายไปทั่วโลก
ในด้านร้าย ทุกๆคนก็รู้กันอยู่โดยทั่วไปแล้ว
ขอพูดถึงด้านดีสักเล็กน้อย

ใครจะคิดบ้างว่า ราคาน้ำมันสามารถขึ้นมาสูงที่สุดในรอบ 21 ปี
แต่ก็เป็นไปแล้ว แต่คุณรู้ไหม ในช่วงนี้มีอะไรใหม่ๆปรากฏออกมาบ้าง

ในเรื่องการปฏิวัติอุสหากรรมรถยนต์
ได้มีการพัฒนาระบบขับเคลื่อนที่ใช้พลังงานหลากหลายมากขึ้น
ในประเทศไทยของคุณก็มีโครงการพลังงานรูปแบบใหม่มากขึ้น
และหลายๆประเทศในโลกก็พยายามทำเช่นนั้นอยู่
และที่สำคัญหลายๆประเทศได้พยายามผลักดัน
ให้มีการนำรถยนต์รูปแบบใหม่ที่ประหยัดพลังงานมาใช้
ทั้งๆที่พยายามมาหลายปี แต่ก็ไปไม่ถึงไหน

พอราคาน้ำมันแพงขึ้น โครงการเหล่านั้นก็พากันคึกคักขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
(ผมนึกอยู่ในใจเหมือนกันว่า ในประเทศไทยเราก็กำลังพยายามแก้กฏหมายรองรับ
รถประหยัดพลังงาน ประเภทรถไฟฟ้ากันอยู่
ถ้าไม่เช่นนั้นจะนำออกมาวิ่งบนถนนไม่ได้
ทั้งๆที่ตอนนี้ก็มีการผลิตออกมาขายได้แล้ว

และไม่นานนี้ก็ยังจะมีโครงการลดภาษีสำหรับรถยนต์
ที่ใช้พลังงานทางเลือกอื่นที่สามารถประหยัดน้ำมันได้ นอกจากนี้ก็มีการรณงค์ให้ใช้ แก็สโซฮอล์บ้าง ไบโอดีเซลบ้าง)

ในด้านการผลิตพลังงานไฟฟ้า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมาก
ทำให้ธุรกิจการผลิตพลังงานทางเลือกมากขึ้น

และหลายๆโครงการ ก็พยายามพัฒนาระบบพลังงาน
ที่มีความสะอาดมากกว่าการใช้น้ำมัน

ระบบเซลแสงอาทิตย์ ก็มีการค้นคิดหาทางเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า
ให้มากกว่า 20-25%

และมีหลายๆประเทศก็กำลังสร้างโรงกำเนิดไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์กัน
นอกจากนี้
บริษัทที่ทำธุรกิจเรื่องเซลแสงอาทิตย์
ก็มองเริ่มมองเห็นอนาคตอันสดใสขึ้น
(ในไทยเราก็เพิ่งมีการเปิดโรงไฟฟ้าเซลแสงอาทิตย์ไปไม่นานนี้

ในด้าน สังคม ทำให้ผู้คนเริ่มตระหนัก
และหันมาสนใจข้อมูลอย่างจริงจังว่า
เราทั้งโลกจะมีน้ำมันใช้ไปอีกเพียง 30 ปีเท่านั้น
จากนั้นจะทำอย่างไร และทำให้หลายๆคน
เริ่มหันมาประหยัดพลังงานมากขึ้น
(ในไทยเราก็มีโครงการขับรถไม่เกิน 90 กม./ชั่วโมง

มีการรณรงค์ให้ประหยัดพลังงานอีกหลายๆโครงการ
ซึ่งโครงการเหล่านี้จะไม่ถูกปฏิบัติอย่างเต็มที่ในยุคน้ำมันถูก)
เขาพูดอีกหลายๆด้าน ท่านผู้อ่านทั้งหลายลองนำไปคิดดูนะครับ

ผมได้เขาถามเข้าประเด็นว่า
แล้วสาเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำมันขึ้นมาขนาดนี้คืออะไรกันแน่
ผมเคยประเมิณว่า หลังจากโอเปคเพิ่มกำลังการผลิตแล้ว
ราคาน้ำมันควรจะเริ่มลดลง

และการเก็งกำไรราคาน้ำมันน่าจะเริ่มหยุดกันได้แล้ว
เพราะราคาเริ่มสูงมากเกินไปแล้ว

มันอาจทำให้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำไปทั่วโลกก็ได้
หากยังเป็นเช่นนี้อยู่ต่อไป เขาเลยพูดต่อดังนี้ครับ

เรื่องนี้เขาก็เคยปรึกษาท่านผู้เฒ่าอยู่เหมือนกัน
พอจะสรุปได้ว่า ตอนนี้หลายๆคน ประเมิณว่า

การที่ราคาน้ำมันขึ้นมาสูงขนาดนี้ เพราะอย่างไรก็ตาม
โอเปคคงผลิตน้ำมันไปได้ไม่มากกว่านี้นัก
และความกังวลเรื่องการก่อการร้าย

ซึ่งก็มีส่วนถูกอยู่มาก แต่หลายๆคนก็ลืมไปว่า
ประเทศที่ได้ผลประโยชน์จากการค้าน้ำมันมากที่สุด ก็คือ อเมริกา
สาเหตุที่สำคัญอีกประการที่ทำให้ราคาน้ำมันขึ้นมาสูงมากขนาดนี้
ก็คือ เรื่องการเมืองภายในอเมริกาเอง

คุณรู้ไหมว่า นายบุช ทำธุรกิจอะไร
(ผมตอบเขาทันทีว่า น้ำมัน)

แล้วเมื่อใดต้องมีการเลือกตั้งที่อเมริกา
ก็ประมาณ พฤษศจิกายน
คุณพอคิดอะไรออกบ้างไหม

(มาถึงคำถามนี้ ผมนึกถึงประเด็นสำคัญที่ขาดหายไป
ในการประเมิณราคาน้ำมันทันที และตอบเขาไปทันที)

สิ่งนั้นก็คือ ทุนรอนในการเลือกตั้ง

เขาหัวเราะแล้วพูดต่อ นั่นแหละที่คุณน่าจะเข้าใจ
ในคำถามที่คุณได้ตั้งไว้เองแล้ว

คุณคิดว่าใช่ไหม ผมเลยแย้งเขาไปว่า

โดยปกติแล้ว ทุนรอนในการเลือกตั้งของนักการเมืองทั้งหลาย
มักมาจากตลาดทุนไม่ใช่หรือ

เขาตอบว่า ถ้าเป็นนักการเมืองคนอื่นก็ใช่

แต่หากเป็นคนที่มีธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมัน

เขาไม่จำเป็นต้องใช้ตลาดทุน เพราะสิ่งที่เขาถนัดที่สุดก็คือ

การทำกำไรจากน้ำมัน

(ผมก็ถึงบางอ้อสิครับ เหมือนเส้นผมบังภูเขาจริงๆ)
ผมจึงสวนกลับว่า

ถ้าอย่างนั้น ราคาน้ำมันก็จะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
และหลังเลือกตั้งราคาน้ำมันก็น่าจะกลับสู่ภาวะปกติ

เขาตอบว่า มันขึ้นอยู่กับว่า ใครชนะเลือกตั้ง
และเรื่องของการทำกำไรจากการค้าน้ำมัน
ต้องมีการปล่อยให้ราคาขึ้นลงเหมือนตลาดหุ้นเช่นกัน
คุณอาจเห็นราคาขึ้นๆลงๆผันผวนไปจนเลือกตั้งเรียบร้อย

และหากนายบุชชนะ

ราคาก็จะถูกโมเมนตัมของการก่อการร้ายเป็นตัวกำหนดแทน

ซึ่งหากผู้ก่อการร้ายต้องการใช้น้ำมันบ่อนทำลายเศรษฐกิจอเมริกา
ตามที่นักวิเคราะห์หลายๆคนออกมาแสดงความเห็น

ผมจะคิดว่า กลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ไม่มีสมองจริงๆ
เพราะมันไม่ได้ทำให้ อเมริกาพินาศเป็นรายแรก
แต่จะทำให้อเมริกาพินาศเป็นรายสุดท้ายต่างหาก

แต่หากนายเคอรี่ชนะ ราคาอาจยังคงสูงอยู่อีกระยะ
ทั้งจากการเข้าสู่หน้าหนาว
และจากการถอนทุนที่ใช้ในการเลือกตั้งคืน
ซึ่งทำได้ไม่นานนักเพราะอำนาจเริ่มหมดลงแล้ว
เพื่อเป็นทุนรอนไปดำเนินการเรื่องอื่นๆต่อ

จากนั้นถ้านายเคอรี่ทำได้ตามที่เขาพูด
ราคาก็อาจกลับสู่สภาวะปกติได้

แต่หลังจากนั้นอีกสองสามปี ประเด็นเรื่องจีนกับไต้หวัน
อาจเป็นตัวแปรใหม่ที่จะกำหนดราคาน้ำมันก็ได้

คำถามในประเด็นนี้ ช่วยเปิดมุมมองของผมอีกมุมหนึ่ง
และหากเป็นจริงตามที่เขาคาดคะเน

ก็จะยิ่งทำให้ผมเกลียดนายบุชมากขึ้นอีกมาก

แต่เรื่องของอนาคตต้องรอดูให้รู้แน่เมื่อเวลามาถึง
และถ้าหากเขาคาดคะเนถูก
ผมคงต้องหาโอกาสมาพูดคุยกับเขาอีกในอนาคต

สิ่งที่สรุปได้ก็คือ ขนาดโอเปคเอง
ก็ยังไม่ใช่ผู้มีอำนาจกำหนดราคาน้ำมันอย่างแท้จริงหรือ

และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เศรษฐกิจโลกจะทนไหวไหม

แต่หากราคาน้ำมันเริ่มลดลงหลังเลือกตั้งในอเมริกา
แล้วดีเซลเราจะต้องตรึงต่อไปอีกหรือ

ถ้าต้องตริงต่อ สิ้นปีจะพอไหม ยิ่งคิดยิ่งต้องติดตามอย่างกระชั้นชิดจริงๆครับ 5555

จากคุณ : ชอบอ่าน - [ 7 ส.ค. 47 02:24:08 A:203.118.106.111 X: ]
ผมรู้น้อย แต่จะค่อยๆ ทำความเข้าใจครับ
Oilman
ผู้ติดตาม: 0

ขอความเห็นพี่ปรัชญา เกี่ยวกับสถานะการณ์ ครึ่งปีหลังครับ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ใช่ครับต้องเอาบุชลงจากบัลลังด้วยครับ เพราะมีเอี่ยวกับธุรกิจน้ำมัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
วันพีส
Verified User
โพสต์: 77
ผู้ติดตาม: 0

ขอความเห็นพี่ปรัชญา เกี่ยวกับสถานะการณ์ ครึ่งปีหลังครับ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

เนื้อหาข้างบนเยอะขอออกความเห็นข้างล่างนี้แล้วกันครับ

- ถ้า คิดถึง น้ำมันเพียงปัจจัยเดียว

กลุ่มประกันภัย เข้าท่าดีไหมครับ
กลุ่มประกันภัย น่าจะได้รับผลกระทบน้อยและอาจได้ผลบวก
จากการเข้าไปรับประกันความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับโรงกลั่นน้ำมัน
เพราะการรับความเสี่ยงระดับนี้โดยส่วนมากแล้วบริษัทประกัน
จะกระจายความเสี่ยงต่อไปยังบริษัทอื่นๆ

เคมีภัณฑ์ที่เป็นอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องจากน้ำมันก็น่าจะดีขึ้น

กลุ่มพาณิชย์ก็น่าจะดี เพราะเมื่อน้ำมันขึ้นก็ผลักภาระให้ผู้บริโภค
บริษัทก็ได้รับกำไรเนื้อๆอยู่ดี

บันเทิงก็น่าจะดีถ้าคนไม่ออกไปไหนกันดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ เรตติ้งดีๆ
โฆษณาก็เข้า

สื่อสารผมก็ว่าไม่เกี่ยวกับน้ำมัน น้ำมันยิ่งแพงคนก็หันมาพูดคุย
โทรศัพท์กันมากขึ้น

โรงพยาบาลแบบที่พี่ปรัชญาพูดผมก็ว่าดี คนป่วยยังไงก็ต้องรักษา
คงเกี่ยงค่ารักษาไม่ได้ด้วยเรื่องน้ำมันแพงและโรงพยาบาลที่อยู่ใน
ตลาดหลักทรัพย์ ก็รวมตัวกันเข้มแข็งมากขึ้นแล้ว และหลายแห่งก็รักษา
คนต่างประเทศมากกว่าคนไทย รายได้เข้ามาเยอะๆอย่างนี้ดีแน่

กระทบโดยตรงอสังหาฯ ผมว่าได้รับเยอะ จากค่าน้ำมันแฝงที่อยู่ในระหว่าง
การก่อสร้าง ทั้งค่าถมดินที่สูงขึ้นเพราะน้ำมั้น ค่าวัสดุแพงขึ้น ฯลฯ

กลุ่มเกษตร ผมว่าก็ไม่ค่อยกำไร ปกติหลายบริษัทก็กำไรไม่ค่อยสม่ำเสมอ
น้ำมันแพงราคาสินค้าขึ้นไม่ได้ ยิ่งไปกันใหญ่เลย
ผมรู้น้อย แต่จะค่อยๆ ทำความเข้าใจครับ
ล็อคหัวข้อ