หุ้นยิ่งลง ปันผลยิ่งเพิ่ม??
-
- Verified User
- โพสต์: 19
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นยิ่งลง ปันผลยิ่งเพิ่ม??
โพสต์ที่ 1
หุ้นX ณ ราคา 2.22บาท สมมุติปันผล 7%
ถ้าหุ้นมันลงไปอีก เหลือราคาหุ้นละ 2บาท ปันผลที่ได้ก็จะเพิ่มมากกว่า7% ใช่ไหมครับ
- หุ้นยิ่งราคาลง ปันผลต่อหุ้นก็ยิ่งเพิ่มใช่ไหมครับ??
(คือผมงงว่า ณ ราคาหุ้นตอนนี้ ปันผลก็ได้มากแล้ว แต่ทำไมมันยังมีที่ท่าลงไปได้อีก เลยทำให้ผม ไม่แน่ใจว่าผมคิดถูกหรือเปล่า)
ขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ
ถ้าหุ้นมันลงไปอีก เหลือราคาหุ้นละ 2บาท ปันผลที่ได้ก็จะเพิ่มมากกว่า7% ใช่ไหมครับ
- หุ้นยิ่งราคาลง ปันผลต่อหุ้นก็ยิ่งเพิ่มใช่ไหมครับ??
(คือผมงงว่า ณ ราคาหุ้นตอนนี้ ปันผลก็ได้มากแล้ว แต่ทำไมมันยังมีที่ท่าลงไปได้อีก เลยทำให้ผม ไม่แน่ใจว่าผมคิดถูกหรือเปล่า)
ขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 3345
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นยิ่งลง ปันผลยิ่งเพิ่ม??
โพสต์ที่ 2
ถ้าแนวโน้มว่า เงินปันผลเท่าเดิม หรือมากกว่า
Yield ของเงินปันผล ย่อมสูงขึ้น เมื่อราคาหุ้นลดลงครับ
ตัวอย่าง
หุ้น a ราคา 10 บาท ปีที่แล้วจ่ายปันผล 0.80 บาท คิดเป็น 8%
ปีนี้ หุ้น a ราคา 5 บาท กำไรในปีนี้มากกว่าปีที่แล้ว (น่าจะจ่ายปันผลได้เท่าเดิม หรือมากขึ้น) สมมติจ่ายปันผลเท่าเดิม 0.80 บาท คิดเป็น 16% ครับ
ผมชอบจริงๆ แบบนี้ :8)
Yield ของเงินปันผล ย่อมสูงขึ้น เมื่อราคาหุ้นลดลงครับ
ตัวอย่าง
หุ้น a ราคา 10 บาท ปีที่แล้วจ่ายปันผล 0.80 บาท คิดเป็น 8%
ปีนี้ หุ้น a ราคา 5 บาท กำไรในปีนี้มากกว่าปีที่แล้ว (น่าจะจ่ายปันผลได้เท่าเดิม หรือมากขึ้น) สมมติจ่ายปันผลเท่าเดิม 0.80 บาท คิดเป็น 16% ครับ
ผมชอบจริงๆ แบบนี้ :8)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 33
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นยิ่งลง ปันผลยิ่งเพิ่ม??
โพสต์ที่ 4
คุณ mikado อย่าลืมนะครับว่า ปันผลต่อหุ้นตอนนี้ เป็นการเอาปันผลในอดีต มาคิดกับราคาปัจจุับัน ไม่ได้สะท้อนถึงปันผลต่อหุ้นในอนาคตแต่อย่างใด
ดูปันผลต่อหุ้นอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูผลประกอบการปัจจุบันที่คุณ Beamy พูดด้วย การจ่ายปันผล บริษัทไม่มีพันธะที่จะต้องจ่ายปันผลเท่าไหร่ ถ้าราคาลงไป 2 เท่า แต่ปันผลในอีกเดือนข้างหน้าลดลงไป 2 เท่า ปันผลต่อหุ้นก็เท่าเดิมครับ
ดูปันผลต่อหุ้นอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูผลประกอบการปัจจุบันที่คุณ Beamy พูดด้วย การจ่ายปันผล บริษัทไม่มีพันธะที่จะต้องจ่ายปันผลเท่าไหร่ ถ้าราคาลงไป 2 เท่า แต่ปันผลในอีกเดือนข้างหน้าลดลงไป 2 เท่า ปันผลต่อหุ้นก็เท่าเดิมครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 19
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นยิ่งลง ปันผลยิ่งเพิ่ม??
โพสต์ที่ 6
ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ คุณ noppann
จากรูปนี้
หุ้นตัวนี้
ถ้าดูจาก3ไตรมาสที่ผ่านมา กำไรต่อหุ้น 0.47บาท
ถ้าสมมุติว่าไตรมาสสุดท้าย กำไรไม่แย่กว่าเดิมมาก
นโยบายปันผล50เปอเซ็นของกำไร (0.47 หาร 2)
สรุปนั่นคือ จะจ่ายปันผลประมาณ 0.23 ต่อหุ้นใช่ไหมครับ
จากรูปนี้
หุ้นตัวนี้
ถ้าดูจาก3ไตรมาสที่ผ่านมา กำไรต่อหุ้น 0.47บาท
ถ้าสมมุติว่าไตรมาสสุดท้าย กำไรไม่แย่กว่าเดิมมาก
นโยบายปันผล50เปอเซ็นของกำไร (0.47 หาร 2)
สรุปนั่นคือ จะจ่ายปันผลประมาณ 0.23 ต่อหุ้นใช่ไหมครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 332
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นยิ่งลง ปันผลยิ่งเพิ่ม??
โพสต์ที่ 7
ลองไปดูนโยบายเงินปันผลอีกทีนะครับ ตัวนี้ปันผล "ไม่เกินร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ" ครับ เพราะฉะนั้นถ้าคิดว่าทั้งปี กรณีกำไรต่อหุ้น 0.47 บาท (สมมติ Q4 ไม่มีกำไร) บริษัทนี้ก็จะปันผลไม่เกิน 0.23 บาท ครับmikado เขียน:ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ คุณ noppann
จากรูปนี้
หุ้นตัวนี้
ถ้าดูจาก3ไตรมาสที่ผ่านมา กำไรต่อหุ้น 0.47บาท
ถ้าสมมุติว่าไตรมาสสุดท้าย กำไรไม่แย่กว่าเดิมมาก
นโยบายปันผล50เปอเซ็นของกำไร (0.47 หาร 2)
สรุปนั่นคือ จะจ่ายปันผลประมาณ 0.23 ต่อหุ้นใช่ไหมครับ
อีกอย่างนึงที่ต้องพิจารณาก็อย่างที่พี่ Noppann เตือนครับ ปีนี้อาจจะได้ปันผลดี แต่ปีหน้าปันผลอาจจะเหลือแค่ครึ่งเดียวของปีนี้ก็เป็นไปได้ครับ คงพอจะเป็นประโยชน์ต่อพี่ mikado นะครับ
Life is beautiful + Financial freedom within 2015 by investment stock & real estate
- Coca-Cola
- Verified User
- โพสต์: 326
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นยิ่งลง ปันผลยิ่งเพิ่ม??
โพสต์ที่ 10
จากคำถามของเจ้าของกระทู้ ต้องคิดด้วยนะครับ ว่าเหตุใดหุ้นถึงได้ลดราคาลง ซึ่งเหตุการณ์ใหญ่ ณ ปัจจุบัน ที่กดราคาหุ้นลงนั้น ก็เป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกถล่มทลาย ศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก ---- อเมริกา เกิดภาวะถดถอย
เศรษฐกิจภายในประเทศเราโดยเฉพาะการส่งออก หรือรับจ้างผลิต ก็ลดปริมาณตามกลไกเศรษฐกิจของโลก และทุกสายธุรกิจมันก็เชื่อมกันทั้งนั้น ไม่ทางผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ก็ต้องเป็นผู้ใช้
ยกตัวอย่างง่ายๆ
1. ผมทำงานอยู่บริษัทส่งออกอาหารทะเลแช่เยือกแข็ง โดยสัดส่วนการส่งไปยังอเมริกาอยู่ที่ 30 เปอร์เซ็นต์
2. แต่ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ ทำให้คนของอเมริกาลดการบริโภคลง และดันงดการสั่งออเดอร์ของบริษัทผมสิ้นเชิง
3. งานในบริษัทลดลง พนักงานบางส่วนโดน Lay Off แต่ผมยังอยู่ และไม่มี OT. เช่นก่อน แถมโบนัสที่เคยได้ 3 เดือน ดันเหลือ 1 เดือน และได้รับคำสัญญาว่า ช.ม.OFree จะมากกว่าที่เคยจัดให้ใน OT. และโบนัสปปีหน้า.. ขอคิดดูก่อน
4. ผมยืนอยู่หน้าบ้าน ยื่นกุญแจรถให้เจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ ส่งสายตาอ้อนวอนอีกครั้ง(แต่ไม่เป็นผล)
5. แฟนบอกอยากได้บ้านใหม่เพราะกำลังจะคลอดลูก แต่ผมไล่ให้ไปคุยกับ "ต้นไม้ และ ก้อนหิน" ที่หลังบ้าน
6. ผมยังคงไปทำงาน และเริ่มหัดนวดไหล่ให้เจ้านาย
7. มากกว่านั้น หาหนังสือเกี่ยวกับกาแฟมาอ่านเพื่อ ฝึกการชงกาแฟให้อร่อยขึ้น(ภายหลังจากเมื่อไม่นานนี้ อยู่ดีๆ แม่บ้านออฟฟิศก็สาบสูญ-- หายไปในอากาศ) ...
จากเหตุการณ์ตัวอย่างข้างต้นดังนั้นแล้ว การที่คาดหวังว่าหุ้นตัวดังกล่าว จะยังปันผลเท่าเดิม ก็อาจจะต้องพิจารณาใหม่ แต่ยังไงก็แล้วแต่ โลกจะเป็นอย่างไร ก็ต้อง POSITIVE THINKING นะครับ :D :D
เศรษฐกิจภายในประเทศเราโดยเฉพาะการส่งออก หรือรับจ้างผลิต ก็ลดปริมาณตามกลไกเศรษฐกิจของโลก และทุกสายธุรกิจมันก็เชื่อมกันทั้งนั้น ไม่ทางผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ก็ต้องเป็นผู้ใช้
ยกตัวอย่างง่ายๆ
1. ผมทำงานอยู่บริษัทส่งออกอาหารทะเลแช่เยือกแข็ง โดยสัดส่วนการส่งไปยังอเมริกาอยู่ที่ 30 เปอร์เซ็นต์
2. แต่ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ ทำให้คนของอเมริกาลดการบริโภคลง และดันงดการสั่งออเดอร์ของบริษัทผมสิ้นเชิง
3. งานในบริษัทลดลง พนักงานบางส่วนโดน Lay Off แต่ผมยังอยู่ และไม่มี OT. เช่นก่อน แถมโบนัสที่เคยได้ 3 เดือน ดันเหลือ 1 เดือน และได้รับคำสัญญาว่า ช.ม.OFree จะมากกว่าที่เคยจัดให้ใน OT. และโบนัสปปีหน้า.. ขอคิดดูก่อน
4. ผมยืนอยู่หน้าบ้าน ยื่นกุญแจรถให้เจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ ส่งสายตาอ้อนวอนอีกครั้ง(แต่ไม่เป็นผล)
5. แฟนบอกอยากได้บ้านใหม่เพราะกำลังจะคลอดลูก แต่ผมไล่ให้ไปคุยกับ "ต้นไม้ และ ก้อนหิน" ที่หลังบ้าน
6. ผมยังคงไปทำงาน และเริ่มหัดนวดไหล่ให้เจ้านาย
7. มากกว่านั้น หาหนังสือเกี่ยวกับกาแฟมาอ่านเพื่อ ฝึกการชงกาแฟให้อร่อยขึ้น(ภายหลังจากเมื่อไม่นานนี้ อยู่ดีๆ แม่บ้านออฟฟิศก็สาบสูญ-- หายไปในอากาศ) ...
จากเหตุการณ์ตัวอย่างข้างต้นดังนั้นแล้ว การที่คาดหวังว่าหุ้นตัวดังกล่าว จะยังปันผลเท่าเดิม ก็อาจจะต้องพิจารณาใหม่ แต่ยังไงก็แล้วแต่ โลกจะเป็นอย่างไร ก็ต้อง POSITIVE THINKING นะครับ :D :D
CI(Celebrity Investment) <----- oh! My GOD ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้