ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
-
- Verified User
- โพสต์: 99
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 1
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
เช่น หุ้น A กี่ %
B กี่ %
และที่จัดสัดส่วนแบบนี้ เพราะอะไร
(ณ สถานการณ์ตอนนี้นะครับ)
หรือถ้าท่านลงทุนอย่างอื่น อยากทราบว่าลงอะไร แบ่งเป็นสัดส่วนอย่างไร
เพราะอะไรครับ
เช่น หุ้น A กี่ %
B กี่ %
และที่จัดสัดส่วนแบบนี้ เพราะอะไร
(ณ สถานการณ์ตอนนี้นะครับ)
หรือถ้าท่านลงทุนอย่างอื่น อยากทราบว่าลงอะไร แบ่งเป็นสัดส่วนอย่างไร
เพราะอะไรครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 99
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 2
เพิ่มเติมครับ ที่ถามเนื่องจากอยากได้ทรรศนะจากหลายๆท่าน
ณ ตอนนี้หุ้นตกลงมาเยอะ ซึ่งเหมาะสมกับการลงทุนระยะยาว
จึงอยากจะทราบว่าท่านๆคิดว่าหุ้นตัวใดที่แข็งแกร่งพอที่จะผ่านสภาพนี้ไปได้
และทะยานในระยะยาว
ส่วนตัวเคยพลาดไปแล้วจากการขาย CPALL ไปก่อน (กะว่ารอให้เศรษฐกิจดีกว่านี้แล้วค่อยซื้อก็ยังไม่สาย แต่ที่ไหนได้...) รีบขายไปหน่อยอาจเพราะเคยเจ็บมา(ไม่ยอมขายตัดขาดทุน)
ตอนนี้ Moniter CPAL HMPRO IT SCB KBANK BANPU PTT อยู่ครับ
ขอเปลี่ยนคำถามเป็นช่วยวิเคราะห็ หรือไกด์ไลน์ หุ้นเหล่านี้ให้ด้วยครับ
ณ ตอนนี้หุ้นตกลงมาเยอะ ซึ่งเหมาะสมกับการลงทุนระยะยาว
จึงอยากจะทราบว่าท่านๆคิดว่าหุ้นตัวใดที่แข็งแกร่งพอที่จะผ่านสภาพนี้ไปได้
และทะยานในระยะยาว
ส่วนตัวเคยพลาดไปแล้วจากการขาย CPALL ไปก่อน (กะว่ารอให้เศรษฐกิจดีกว่านี้แล้วค่อยซื้อก็ยังไม่สาย แต่ที่ไหนได้...) รีบขายไปหน่อยอาจเพราะเคยเจ็บมา(ไม่ยอมขายตัดขาดทุน)
ตอนนี้ Moniter CPAL HMPRO IT SCB KBANK BANPU PTT อยู่ครับ
ขอเปลี่ยนคำถามเป็นช่วยวิเคราะห็ หรือไกด์ไลน์ หุ้นเหล่านี้ให้ด้วยครับ
- kornjackrit
- Verified User
- โพสต์: 1524
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 4
ส่วนตัวไม่ชอบ BANPU นะครับตอนนี้ Moniter CPAL HMPRO IT SCB KBANK BANPU PTT อยู่ครับ
ตัวอื่นผมชอบหมด
แต่ถ้าจะลงทุนต้ิองดูอีกที
บางตัวเหมาะเก็งกำไรเป็นรอบมากกว่า
ลองดูในร้อยคนร้อยหุ้นอย่างที่คุณ Belffet แนะนำครับ
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
- hagrid
- Verified User
- โพสต์: 566
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 5
ผมว่าตอนนี้ หลายๆ คน ก็ลงทุนเกือบ 100%
อยู่แล้วครับ สังเกตุจากเพื่อนๆ หลายคนไม่มีเงินสด
จะซื้อหุ้นแล้ว หลังจากซื้อถั่วเฉลี่ยขาลงมาเยอะ เพราะทน
เห็นหุ้นราคาถูกๆ ไม่ไหว
ส่วนตัว ผมลงทุน 50 เปอร์เซ็นในหุ้น 50 เปอร์เซ็นต์ใน
สินทรัพย์อื่นๆ และพยายามรักษาสัดส่วนนี้ไว้อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อต้นเดือนที่แล้ว ไปดูปรากฎว่าสัดส่วนหุ้นลดลงไปเยอะ
เพราะมูลค่าหุ้นลดลง ผมเลยต้องขายการลงทุนอื่นมาลงทุนหุ้น
ผมว่าสิ่งที่ยากคือ การพยายามรักษาสัดส่วนเพราะต้อง
ฝืนความรู้สึกหลายๆ อย่าง เช่น ต้องขายสินทรัพย์ที่มั่นคง
มาซื้อหุ้นในตอนที่ผันผวนสูง
ส่วนสไตด์การลงทุนผมก็ไม่ชำนาญการลงทุน
ในหุ้นน้อยๆ ตัว ถนัดลงทุนทรัพย์สินหลายๆ ประเภท
หุ้นหลายๆ กลุ่ม กลุ่มหนึ่งก็เลือกหลายตัว ที่ผ่านมาจึงเจ็บตัว
จากการลงทุนไม่มาก แต่อีกด้าน กำไรก็ไม่หวือหวา เมื่อก่อน
เคยคิดอิจฉาหลายคนในนี้ที่ลงทุนแบบ Focus และได้ผลตอบ
แทนปีหนึ่งๆ เป็น 100% (เช่น คุณ yoyo คุณ naris คุณ Blueblood)
แต่เมื่อวิเคราะห์ตัวเองพบว่าไม่ค่อยถนัดกับการลงทุนดังกล่าว
ปจบ.เลยพอใจกับผลตอบแทนที่ได้
อยู่แล้วครับ สังเกตุจากเพื่อนๆ หลายคนไม่มีเงินสด
จะซื้อหุ้นแล้ว หลังจากซื้อถั่วเฉลี่ยขาลงมาเยอะ เพราะทน
เห็นหุ้นราคาถูกๆ ไม่ไหว
ส่วนตัว ผมลงทุน 50 เปอร์เซ็นในหุ้น 50 เปอร์เซ็นต์ใน
สินทรัพย์อื่นๆ และพยายามรักษาสัดส่วนนี้ไว้อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อต้นเดือนที่แล้ว ไปดูปรากฎว่าสัดส่วนหุ้นลดลงไปเยอะ
เพราะมูลค่าหุ้นลดลง ผมเลยต้องขายการลงทุนอื่นมาลงทุนหุ้น
ผมว่าสิ่งที่ยากคือ การพยายามรักษาสัดส่วนเพราะต้อง
ฝืนความรู้สึกหลายๆ อย่าง เช่น ต้องขายสินทรัพย์ที่มั่นคง
มาซื้อหุ้นในตอนที่ผันผวนสูง
ส่วนสไตด์การลงทุนผมก็ไม่ชำนาญการลงทุน
ในหุ้นน้อยๆ ตัว ถนัดลงทุนทรัพย์สินหลายๆ ประเภท
หุ้นหลายๆ กลุ่ม กลุ่มหนึ่งก็เลือกหลายตัว ที่ผ่านมาจึงเจ็บตัว
จากการลงทุนไม่มาก แต่อีกด้าน กำไรก็ไม่หวือหวา เมื่อก่อน
เคยคิดอิจฉาหลายคนในนี้ที่ลงทุนแบบ Focus และได้ผลตอบ
แทนปีหนึ่งๆ เป็น 100% (เช่น คุณ yoyo คุณ naris คุณ Blueblood)
แต่เมื่อวิเคราะห์ตัวเองพบว่าไม่ค่อยถนัดกับการลงทุนดังกล่าว
ปจบ.เลยพอใจกับผลตอบแทนที่ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 413
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 6
ทุกตัวที่ว่ามาก้อโอเคแหละครับ แต่ไม่ใช่ทุกราคาที่จะซื้อได้ แค่นั้นเอง ส่วนราคาไหนเหมาะสมก็คงต้องศึกษารายละเอียดกันต่อไป ...สู้ๆครับ
ว่าแต่เจ้าของกระทู้เป็นเพื่อนกับ เฮีย bacara ที่มี200ล้านรึป่าวครับ...เห็นตั้งกระทู้คล้ายๆกัน :lol:
ว่าแต่เจ้าของกระทู้เป็นเพื่อนกับ เฮีย bacara ที่มี200ล้านรึป่าวครับ...เห็นตั้งกระทู้คล้ายๆกัน :lol:
Even Sir Isaac Newton loss in stock market
"You can't predict the future, because the future depends on how you react to it."
ซื้อหุ้นเมื่อคนส่วนใหญ่หมดศรัทธาในหุ้นและเทขายอยู่ นั่นคือเวลาตี5ในการจ่ายตลาด....จาก สอง ว. ผู้ยิ่งใหญ่
"You can't predict the future, because the future depends on how you react to it."
ซื้อหุ้นเมื่อคนส่วนใหญ่หมดศรัทธาในหุ้นและเทขายอยู่ นั่นคือเวลาตี5ในการจ่ายตลาด....จาก สอง ว. ผู้ยิ่งใหญ่
-
- Verified User
- โพสต์: 215
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 7
ที่วางแผนไว้ผมซื้อมากกว่า 1 ล้านอยู่บ้างนะครับ (ต้องบอกไว้ก่อนเพราะ
มันมีผลต่อการแบ่งสัดส่วนการลงทุน)
แต่จากคำถามก็ขอแชร์ ไอเดียว่า
ผมจะซื้อ Growth Stock ทั้งหมด
หุ้น A 30% (มีแนวโน้มปันผลได้บ้าง) เหตุผลเพราะต้องการกระแสเงินสด เข้ามาในชีวิต ถ้าหุ้นไม่ขึ้นเลย 4 ปี
หุ้น B 30% (คงดีดกลับเร็วกว่า แต่อดีตปันผลขี้เหนียวมาก)
และจะซื้อก่อน 60% เพื่อประกันว่าจะไม่ตกรถ เพราะเราไม่เก่งพอ
ที่จะรู้ bottom ของตลาด
และอีก 40% ที่เหลือ รอซื้อราวกลางปีหน้า
ถ้าโชคดี port ระยะยาวก็จะให้ผลตอบแทนระดับที่ใฝ่ฝัน
ตอนนี้เกือบได้ซื้อในราคาเป้าหมายแล้วครับ
มันมีผลต่อการแบ่งสัดส่วนการลงทุน)
แต่จากคำถามก็ขอแชร์ ไอเดียว่า
ผมจะซื้อ Growth Stock ทั้งหมด
หุ้น A 30% (มีแนวโน้มปันผลได้บ้าง) เหตุผลเพราะต้องการกระแสเงินสด เข้ามาในชีวิต ถ้าหุ้นไม่ขึ้นเลย 4 ปี
หุ้น B 30% (คงดีดกลับเร็วกว่า แต่อดีตปันผลขี้เหนียวมาก)
และจะซื้อก่อน 60% เพื่อประกันว่าจะไม่ตกรถ เพราะเราไม่เก่งพอ
ที่จะรู้ bottom ของตลาด
และอีก 40% ที่เหลือ รอซื้อราวกลางปีหน้า
ถ้าโชคดี port ระยะยาวก็จะให้ผลตอบแทนระดับที่ใฝ่ฝัน
ตอนนี้เกือบได้ซื้อในราคาเป้าหมายแล้วครับ
- kornjackrit
- Verified User
- โพสต์: 1524
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 8
ผมเห็นด้วยกับคุณ Hagrid นะครับhagrid เขียน:ส่วนสไตด์การลงทุนผมก็ไม่ชำนาญการลงทุน
ในหุ้นน้อยๆ ตัว ถนัดลงทุนทรัพย์สินหลายๆ ประเภท
หุ้นหลายๆ กลุ่ม กลุ่มหนึ่งก็เลือกหลายตัว ที่ผ่านมาจึงเจ็บตัว
จากการลงทุนไม่มาก แต่อีกด้าน กำไรก็ไม่หวือหวา เมื่อก่อน
เคยคิดอิจฉาหลายคนในนี้ที่ลงทุนแบบ Focus และได้ผลตอบ
แทนปีหนึ่งๆ เป็น 100% (เช่น คุณ yoyo คุณ naris คุณ Blueblood)
แต่เมื่อวิเคราะห์ตัวเองพบว่าไม่ค่อยถนัดกับการลงทุนดังกล่าว
นักลงทุนท่านใหม่หลายท่าน รวมทั้งตัวผมเอง
ตอนแรกๆที่เข้ามาลงทุน จากการอ่านหนังสือ
และศึกษาการลงทุนแนวคุณค่า หรือ VI
มักจะพยายามทำตามเซียน
ในเรื่องรูปแบบการลงทุนแบบ Focus
จริงๆแล้วผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับการลงทุนลักษณะนี้
แต่ปัญหาสำหรับนักลงทุนมือใหม่ ก็คือ การขาดประสบการณ์
และ อารมณ์ที่ยังไม่ค่อยมั่นคงในการลงทุน
การลงทุนแบบ Focus จึงอาจจะประสบความสำเร็จ
ได้อยากสำหรับนักลงทุนมือใหม่
อย่างไรก็ตามการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงในระดับนึง(กระจายทั้ง ในเรื่องของประเภททรัพย์สิน และ จำนวนหุ้น)
น่าจะช่วยให้นักลงทุนมือใหม่ได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจ
และยังช่วยลดความเสี่ยงของการขาดประสบการณ์ในการลงทุนลงได้
( ประสบการณ์จากการลงทุนจะได้รับดีที่สุดจากการลงทุนเองจริงๆ
หลังจากศึกษาบริษัทที่จะลงทุนเป็นอย่างดี
โดย่อาจจะไม่ต้องลงทุนแบบ Focus ในหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง
หรือ สองตัว 100 % ของพอร์ตการลงทุน )
ขออภัยที่อาจจะจำข้อความที่ถูกต้องไม่ได้ทั้งหมด
ท่าน ดร.นิเวศน์ เคยกล่าวไว้ว่า " ผมยินดีที่จะแลกเปลี่ยนถ้าให้ผมกลับไป
มีอายุประมาณ 30 ต้นๆ(แต่ความรุ้และประสบการณ์เท่ากับที่ท่านมี
ณ ปัจจุบัน) แล้วมีเงินเริ่มต้น ไม่กี่ล้านบาท"
ผมจึงคิดเห็นว่า ประสบการณ์และความรู้มีความสำคัญยิ่งต่อการ
ประสบความสำเร็จในการลงทุน ปัจจัยอื่นอย่าง เงินต้น
กลับเป็นปัจจัยรองๆลงมา
บัฟเฟ็ตเองก็เคยกล่าวถึงเรื่องการกระจายความเสี่ยงไว้น่าสนใจ
เหมือนกันครับ
ต้องขออภัยอีกเข่นเดิมถ้าคำพูดอาจจะไม่เหมือนทั้งหมด
เนื่องจากผมใช้วิธีจำเอาใจความสำคัญคราวๆครับ
" ถ้าคุณไม่มีเวลาศึกษาหาความรู้เรื่องการลงทุนจริงๆ แต่พอจะรู้่และเข้าใจ
ว่าตลาดหลักทรัพยฺ์ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจในระยะยาว ผมแนะนำว่าคุณควรจะไปซื้อกองทุนดัชนี "
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
-
- Verified User
- โพสต์: 337
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 9
ลงในหุ้นที่อนาคตจะขึ้น.... :lol: :lol:ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
เช่น หุ้น A กี่ %
B กี่ %
และที่จัดสัดส่วนแบบนี้ เพราะอะไร
(ณ สถานการณ์ตอนนี้นะครับ)
หรือถ้าท่านลงทุนอย่างอื่น อยากทราบว่าลงอะไร แบ่งเป็นสัดส่วนอย่างไร
เพราะอะไรครับ
ล้อเล่น
ถ้าเป็นผมตอนนี้เงินสด80-100 หุ้น0-20
cpall ก็ดีนะครับ ผลกระทบน่าจะน้อย (ผมไม่ได้ถือตัวนี้นะ)
ผมมองว่ายังลงได้อีก
ผมมองไม่เห็นเลยว่าเศรษฐกิจโดยรวมมันจะดีได้ยังไง
คนโดนปลดเยอะแยะ.....
ตอนนี้ Moniter CPAL HMPRO IT SCB KBANK BANPU PTT อยู่ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1808
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 10
ลงทุนแบบ 100% แล้ว FOCUS ไม่กี่ตัว
สำหรับมือใหม่อย่างผมกับหลายๆท่าน
ก็ยากจริงๆนะตามที่เฮีย kornjackrit ว่า
บางทีก็รีบซื้อ กลัวมันขึ้น
บางทีก็อั้นใจไว้ไม่ขายตอนราคาขึ้นไปกำไร 15 - 20 %
แต่แล้วมันก็ตกลงมาให้เก็บใหม่ แล้วก็มาเสียดาย :twisted:
ต้องคุมอารมณ์ คุมนิ้วมือตอนดูจอ อย่าวู่วาม :lol:
ยังต้องศึกษาอีกเยอะเลย :oops:
แต่ผมตั้งใจไว้ละว่าจะถือหุ้นในพอร์ตอย่างน้อย 2 -3 ปี
ตามหลักการที่ยึดมั่น
ราคาหุ้นระยะยาวจะสะท้อนตามผลประกอบการของบริษัท
ปล. ผมมีแต่หุ้น GROWTH ครับ เพราะทุนน้อยยังหวังปันผลเยอะๆไม่ได้
แต่อย่างท่านเจ้าของกะทู้ ผมว่าลองแบ่งสัดส่วนหุ้น GROWTH กับ ปันผลดูครับ
บางตัวผมว่าตอนนี้ก็ให้ทั้งปันผลที่ดีแล้วก็ยัง GROWTH ในตัวอีกด้วยครับ
สำหรับมือใหม่อย่างผมกับหลายๆท่าน
ก็ยากจริงๆนะตามที่เฮีย kornjackrit ว่า
บางทีก็รีบซื้อ กลัวมันขึ้น
บางทีก็อั้นใจไว้ไม่ขายตอนราคาขึ้นไปกำไร 15 - 20 %
แต่แล้วมันก็ตกลงมาให้เก็บใหม่ แล้วก็มาเสียดาย :twisted:
ต้องคุมอารมณ์ คุมนิ้วมือตอนดูจอ อย่าวู่วาม :lol:
ยังต้องศึกษาอีกเยอะเลย :oops:
แต่ผมตั้งใจไว้ละว่าจะถือหุ้นในพอร์ตอย่างน้อย 2 -3 ปี
ตามหลักการที่ยึดมั่น
ราคาหุ้นระยะยาวจะสะท้อนตามผลประกอบการของบริษัท
ปล. ผมมีแต่หุ้น GROWTH ครับ เพราะทุนน้อยยังหวังปันผลเยอะๆไม่ได้
แต่อย่างท่านเจ้าของกะทู้ ผมว่าลองแบ่งสัดส่วนหุ้น GROWTH กับ ปันผลดูครับ
บางตัวผมว่าตอนนี้ก็ให้ทั้งปันผลที่ดีแล้วก็ยัง GROWTH ในตัวอีกด้วยครับ
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
- King_Krimson
- Verified User
- โพสต์: 171
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 11
อย่าถามเลยครับแบบนี้ ลองศึกษาด้วยตัวเองดีกว่าไหมครับ
"Ther Pursuit of Liberty"
"You can only depend on yourself. The cavalry ain't coming."
"You can only depend on yourself. The cavalry ain't coming."
-
- Verified User
- โพสต์: 99
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 12
ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ครับ ผมเริ่มลงทุนช่วงกลางปีที่หุ้นมันลงมา 20% ซึ่งตอนนั้นมั่นใจเต็มที่ จึงลงทุนตามหลัก VI เท่าที่เข้าใจ พอขาดทุนนี่ยิ่งทำให้เข้าใจลึกซึ้งขึ้น ยิ่งกว่าอ่านตำรา แต่ส่วนใหญ่ก็ยังถืออยู่ไม่ได้ขาย ดีที่ผมลงทุนไปเพียง 20% เพราะ อยากลงเพื่อศึกษา โดยที่หวังผลตอบแทนด้วย
ผมเพิ่งได้อ่านกระทู้เก่า baca.... ทำให้ได้เรียนรู้อีกครั้งว่าผมผิดพลาดในการตั้งคำถามถึงได้ขอสิทธิ์เปลี่ยนคำถามไปแล้วนะครับ
ทีนี้อยากจะถามเพิ่งเติมถึงแนวโน้มในอนาคตอีก 5 ปีของกลุ่ม Bank และกลุ่มพลังงานครับ ว่าแต่ละท่านเห็นกันอย่างไรบ้างครับ แชร์มุมมองกัน
ผมเพิ่งได้อ่านกระทู้เก่า baca.... ทำให้ได้เรียนรู้อีกครั้งว่าผมผิดพลาดในการตั้งคำถามถึงได้ขอสิทธิ์เปลี่ยนคำถามไปแล้วนะครับ
ทีนี้อยากจะถามเพิ่งเติมถึงแนวโน้มในอนาคตอีก 5 ปีของกลุ่ม Bank และกลุ่มพลังงานครับ ว่าแต่ละท่านเห็นกันอย่างไรบ้างครับ แชร์มุมมองกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 99
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 13
- ผมเริ่มด้วยการอ่านหนังสือของ ดร.นิเวศน์ ครับ
- ตามมาด้วยการอ่าน 56_1 ในตัวที่สนใจง
- วิเคราะห์หุ้นจากโปรแกรม EPS (อันนี้ต้องขอบคุณผู้อุปการคุณอย่างสุดซึ่งครับ)
- ?? ที่ผมติดคือเรื่องการวิเคราะห์งบการเงิน มีหนังสือเล่มไหน หรือกระทู้ไหนที่พอจะแนะนำเพิ่มเติมบ้างครับ ตอนนี้ซื้อรู้บัญชีมีประโยชน์ มาอ่าน แต่ยังไม่ค่อยตรงกับเรื่องการลงทุนนักน่ะครับ
- ตามมาด้วยการอ่าน 56_1 ในตัวที่สนใจง
- วิเคราะห์หุ้นจากโปรแกรม EPS (อันนี้ต้องขอบคุณผู้อุปการคุณอย่างสุดซึ่งครับ)
- ?? ที่ผมติดคือเรื่องการวิเคราะห์งบการเงิน มีหนังสือเล่มไหน หรือกระทู้ไหนที่พอจะแนะนำเพิ่มเติมบ้างครับ ตอนนี้ซื้อรู้บัญชีมีประโยชน์ มาอ่าน แต่ยังไม่ค่อยตรงกับเรื่องการลงทุนนักน่ะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 99
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 14
การซื้อกลุ่ม bank นั้นในหนังสือตีแตก บอกว่าเหมือนซื้อทั้งบริษัทที่ดีและไม่ดีรวมกัน สู้เราเลือกซื้อเฉพาะบริษัทที่ดีจะดีกว่า
แต่เคยฟังมาประมาณเดือน ตค นะครับ ว่า ดร. กลับมาแนะนำหุ้น bank ในตอนนี้ ซึ่งผมยังฟังไม่จบเลยว่าท่านแนะนำเนื่องจากอะไร
ส่วนตัวคิดว่า bank ตอนนี้มามีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งมาก ยิ่งเทียบกับตะวันตกตอนนี้แล้ว บวกกับราคาที่ตกลงมามาก ทำให้กลุ่มนี้น่าสนใจ พี่ๆช่วยชี้แนะข้อดี ข้อเสียของกลุ่มนี้ด้วยครับ
แต่เคยฟังมาประมาณเดือน ตค นะครับ ว่า ดร. กลับมาแนะนำหุ้น bank ในตอนนี้ ซึ่งผมยังฟังไม่จบเลยว่าท่านแนะนำเนื่องจากอะไร
ส่วนตัวคิดว่า bank ตอนนี้มามีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งมาก ยิ่งเทียบกับตะวันตกตอนนี้แล้ว บวกกับราคาที่ตกลงมามาก ทำให้กลุ่มนี้น่าสนใจ พี่ๆช่วยชี้แนะข้อดี ข้อเสียของกลุ่มนี้ด้วยครับ
- hagrid
- Verified User
- โพสต์: 566
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 15
ข้อเสียของธนาคาร
1. ผมว่าข้อนี้เป็นข้อเสียที่สำคัญที่สุดของหุ้นกลุ่มธนาคาร คือ หนี้สินต่อ
ทุนอยู่ในระดับที่สูงมากเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ เนื่องจากการทำธุรกิจของ
ธนาคารคือการไปกู้เงินมาปล่อยกู้ต่อ(กู้ประชาชน มาปล่อยกู้ธุรกิจ) ทำให้
โอกาสที่จะล้มมีสูง เช่น หนี้สินต่อทุน 10: 1 รับฝากเงินมา 10 เอามาปล่อยกู้
ถ้าเกิดบริหารผิดพลาด หรือ เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ขาดฝันเกิดขึ้น
มีหนี้เสียสัก 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนของทุนจะติดลบทันที เหมือนอย่าง
ที่สถาบันการเงินในอเมริกาที่ล้มไป (ของอเมริกา หนี้สินต่อทุน
รู้สึกจะเกิน 20 :1 )
2. เหมือนกับทึ่ ดร.นิเวศน์ว่าไว้นะครับ ต้องเหมาเข่งซื้อทั้งของดีและของ
ไม่ดี ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจแย่ น่าจะได้ของไม่ดีมากกว่า
3. (ส่วนตัวผมว่า) งบธนาคารและสถาบันการเงินอ่านยากมาก ถึงยากที่สุด
ลองเข้าไปศึกษาดูนะครับคุณ mandy แล้วจะรู้ว่าน่าปวดหัว ยิ่งถ้าต้อง
พยากรณ์กำไรของไตรมาสถัดไป หรือปีถัดไป ผมว่าแทบจะทำไม่ได้เลย
ส่วนข้อดี
1. ผมว่าตอนนี้ธนาคารบ้านเราหลังจากผ่านประสบการณ์ปี 40 มาแล้ว
ก็ระมัดระวังตัวในการให้สินเชื่อในระดับที่ดีมาก ยิ่งถ้าผ่านวิกฤตอีกรอบ
ธนาคารใหญ่ๆ ที่ยังเหลืออยู่น่าจะแข็งแกร่งสุดๆ
2. ปจบ.ส่วนต่างของ ดบ.เงินฝาก กับ ดบ.เงินกู้อยู่ในระดับที่สูงมาก
ผมว่าธนาคารเอาเปรียบผู้ฝากมากไปหน่อย แต่ก็ถือเป็นของดีสำหรับ
ผู้ลงทุนในกิจการธนาคาร เพราะทำให้การบริหารง่าย และมีกำไรสูง
เพราะกินส่วนต่างเยอะ
1. ผมว่าข้อนี้เป็นข้อเสียที่สำคัญที่สุดของหุ้นกลุ่มธนาคาร คือ หนี้สินต่อ
ทุนอยู่ในระดับที่สูงมากเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ เนื่องจากการทำธุรกิจของ
ธนาคารคือการไปกู้เงินมาปล่อยกู้ต่อ(กู้ประชาชน มาปล่อยกู้ธุรกิจ) ทำให้
โอกาสที่จะล้มมีสูง เช่น หนี้สินต่อทุน 10: 1 รับฝากเงินมา 10 เอามาปล่อยกู้
ถ้าเกิดบริหารผิดพลาด หรือ เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ขาดฝันเกิดขึ้น
มีหนี้เสียสัก 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนของทุนจะติดลบทันที เหมือนอย่าง
ที่สถาบันการเงินในอเมริกาที่ล้มไป (ของอเมริกา หนี้สินต่อทุน
รู้สึกจะเกิน 20 :1 )
2. เหมือนกับทึ่ ดร.นิเวศน์ว่าไว้นะครับ ต้องเหมาเข่งซื้อทั้งของดีและของ
ไม่ดี ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจแย่ น่าจะได้ของไม่ดีมากกว่า
3. (ส่วนตัวผมว่า) งบธนาคารและสถาบันการเงินอ่านยากมาก ถึงยากที่สุด
ลองเข้าไปศึกษาดูนะครับคุณ mandy แล้วจะรู้ว่าน่าปวดหัว ยิ่งถ้าต้อง
พยากรณ์กำไรของไตรมาสถัดไป หรือปีถัดไป ผมว่าแทบจะทำไม่ได้เลย
ส่วนข้อดี
1. ผมว่าตอนนี้ธนาคารบ้านเราหลังจากผ่านประสบการณ์ปี 40 มาแล้ว
ก็ระมัดระวังตัวในการให้สินเชื่อในระดับที่ดีมาก ยิ่งถ้าผ่านวิกฤตอีกรอบ
ธนาคารใหญ่ๆ ที่ยังเหลืออยู่น่าจะแข็งแกร่งสุดๆ
2. ปจบ.ส่วนต่างของ ดบ.เงินฝาก กับ ดบ.เงินกู้อยู่ในระดับที่สูงมาก
ผมว่าธนาคารเอาเปรียบผู้ฝากมากไปหน่อย แต่ก็ถือเป็นของดีสำหรับ
ผู้ลงทุนในกิจการธนาคาร เพราะทำให้การบริหารง่าย และมีกำไรสูง
เพราะกินส่วนต่างเยอะ
-
- Verified User
- โพสต์: 100
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 16
ธนาคารถึงจะดีอย่างไร ส่วนตัวผมก็ไม่สนใจ เพราะเข้าใจ และทำงบ และตัวเลขไม่เก่งเท่าผู้บริหารธนาคาร นอกจากนั้นผมมักเห็น การปล่อยสินเชื่อให้กับบริษัทฯ หลายๆ แห่งที่มีความสนิทกับผู้บริหาร แบบที่ว่า ถ้าเป็นผม ๆ ไม่ให้กู้แน่ ถ้าไม่มีนอกมีใน (เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ขออภัยหากขัดใจใคร)
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 17
ตอบคุณmandy
เห็นหุ้นที่เลือกมีสามกลุ่ม
-พลังงาน
-แบงค์
-ค้าปลีก
จากดูที่เลือก ท่านเลือกแต่หุ้นอันดับ1-2ในแต่ละสาย ไม่ว่าจะPTT BANPU SCB KBANK(อันดับ1-2ในเชิงประสิทธิภาพ) และ CPALL HMPRO IT ทุกตัวอันดับ1ในแต่ละสายของตน 7ตัวนี้ผมรู้จัก คำนวนพื้นฐานประมาณกำไรได้พอคร่าวๆ3ตัว คำนวนไม่ได้เลยอีก4ตัว
ถ้าในมุมมองVIจริงๆอย่างน้อยๆต้องไม่ซื้อถ้าเราไม่รู้คร่าวๆว่ามันถูกหรือแพง เช่นแบงค์ก็เหมือนคุณhagridได้พูดไว้ข้างต้น ถ้าอนาคตNPLสูงขึ้นBVก็จะต่ำลงมาก ค่าต่างๆที่เราเคยนำมาคำนวนมันเปลี่ยนไปหมด ส่วนพลังงานก็ต้องพึ่งพิงจากราคาถ่านหินและน้ำมันในอนาคตว่าจะขึ้นหรือลง
ถ้าคุณmandyคาดการณ์ว่าNPLไม่น่าจะเกิดมากเท่ากับความตื่นตระหนกที่คนขายหุ้นแบงค์ที่มันลงมา หรือคาดว่าราคาน้ำมันและถ่านหินต่ำสุดแล้ว และคำนวนผลกำไรของPTT BANPU ได้ว่าคุ้มค่าที่จะถือ
แต่ถ้าเป็นแนวVS ใช้จิตวิทยาร่วม เล่นรอบเป็นระยะก็อีกเรื่องครับ ถือตัวไหนก็ได้ที่คิดว่ามันจะขึ้น พอขึ้นแล้วก็ขายมารอรับใหม่ :lol: ไม่ต้องไปดูงบแบบVI แต่ต้อง cut loss ให้เป็นนะครับ
ปล.ตอบคุณhagridว่าผมเป็นคนที่ชอบกระจายพอร์ตครับ เฉลี่ยปีนี้ทั้งปีก็มากกว่า10ตัวอยู่เกือบตลอก และมีกฎว่าตัวใดตัวหนึ่งต้องไม่มากกว่า33%ครับ :lol: กลัวตายเหมือนกัน
เห็นหุ้นที่เลือกมีสามกลุ่ม
-พลังงาน
-แบงค์
-ค้าปลีก
จากดูที่เลือก ท่านเลือกแต่หุ้นอันดับ1-2ในแต่ละสาย ไม่ว่าจะPTT BANPU SCB KBANK(อันดับ1-2ในเชิงประสิทธิภาพ) และ CPALL HMPRO IT ทุกตัวอันดับ1ในแต่ละสายของตน 7ตัวนี้ผมรู้จัก คำนวนพื้นฐานประมาณกำไรได้พอคร่าวๆ3ตัว คำนวนไม่ได้เลยอีก4ตัว
ถ้าในมุมมองVIจริงๆอย่างน้อยๆต้องไม่ซื้อถ้าเราไม่รู้คร่าวๆว่ามันถูกหรือแพง เช่นแบงค์ก็เหมือนคุณhagridได้พูดไว้ข้างต้น ถ้าอนาคตNPLสูงขึ้นBVก็จะต่ำลงมาก ค่าต่างๆที่เราเคยนำมาคำนวนมันเปลี่ยนไปหมด ส่วนพลังงานก็ต้องพึ่งพิงจากราคาถ่านหินและน้ำมันในอนาคตว่าจะขึ้นหรือลง
ถ้าคุณmandyคาดการณ์ว่าNPLไม่น่าจะเกิดมากเท่ากับความตื่นตระหนกที่คนขายหุ้นแบงค์ที่มันลงมา หรือคาดว่าราคาน้ำมันและถ่านหินต่ำสุดแล้ว และคำนวนผลกำไรของPTT BANPU ได้ว่าคุ้มค่าที่จะถือ
แต่ถ้าเป็นแนวVS ใช้จิตวิทยาร่วม เล่นรอบเป็นระยะก็อีกเรื่องครับ ถือตัวไหนก็ได้ที่คิดว่ามันจะขึ้น พอขึ้นแล้วก็ขายมารอรับใหม่ :lol: ไม่ต้องไปดูงบแบบVI แต่ต้อง cut loss ให้เป็นนะครับ
ปล.ตอบคุณhagridว่าผมเป็นคนที่ชอบกระจายพอร์ตครับ เฉลี่ยปีนี้ทั้งปีก็มากกว่า10ตัวอยู่เกือบตลอก และมีกฎว่าตัวใดตัวหนึ่งต้องไม่มากกว่า33%ครับ :lol: กลัวตายเหมือนกัน
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 2
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 18
เป็นน้องใหม่ของเวปค่ะ (ดู ๆ ผู้หญิงน้อยนะคะ)
ติดตามเข้ามาแอบอ่านได้ 5 เดือน กว่า ๆ แล้ว
อ่านหนังสือของ ดร.นิเวศน์ และท่านอื่น ๆ ที่ได้มีคนแนะนำไว้ เท่าที่จะหาได้
อ่าน ๆ ๆ แล้วก็อ่าน บางครั้งก็เอาเครื่องคิดเลขมาจิ้ม ๆ ๆ ๆ
เพื่อทดลองหามูลค่าหุ้น ตามหนังสือ วัดมูลค่าหุ้นฯ ของคุณสุมาอี้
จนเพื่อน ๆ ที่ทำงาน ว่า บ้าหุ้น (ก็คงจะจริงแหละ)
จากเมื่อก่อนไม่เคยคิดว่าจะเข้ามาใกล้หรือยุ่งเกี่ยวกะหุ้นเลย
(เพราะเมื่อเข้าทำงาน ช่วงปี 40 หัวหน้างาน แทบหมดเนื้อหมดตัวจากหุ้น
เมื่อเริ่มจะซื้อหุ้น โทรไปปรึกษาท่าน เพราะท่านเกษียณแล้ว
ท่านบอก อย่าเลย อย่าเข้าไปเล่นหุ้นเลย เอาฝากแบงค์ไว้ดีแล้ว)
เราก็เลยเริ่มหาข้อมูล เราไม่คิดจะเล่นหุ้น แต่คิดจะลงทุนค่ะ
มาคิดดู ฝากแบงค์ไว้ ดอกเบี้ยติ๊ดหนึ่ง
เงินเราก็ประมาณหัวข้อกระทู้ และเป็นเงินเย็นประมาณน้ำแข้ง
อีกซัก 20 กว่าปี ถ้าไม่ตายเสียก่อน คงได้เอามาใช้
ตอนนี้เริ่มเฉลี่ยซื้อแล้ว 2 เดือน ต.ค. กะ พ.ย. 20%
อยู่ในช่วง set ประมาณ 390 กว่า ๆ กะ 400 นิด ๆ
ซื้อ se-ed ไป 10 % ได้ปันผลมา 1 ครั้ง ดีใจมาก ๆ
พอเห็นราคาหุ้นขึ้น ก็เฉย ๆ แต่พอหุ้นเริ่มลดลงมาใกล้ ๆ ราคาที่ซื้อไว้
เราดันขายค่ะ (ช่วงปิดสนามบิน) แต่มันดันเด้งขึ้นไป แล้วก็ไม่กลับมาถึงราคาที่เราเคยซื้อคราวก่อน ถ้าไม่กลับมานะ จะไม่ซื้อแล้ว โกรธตัวเองมาก ๆ
(เฮ้อ! แล้วจะเป็น vi ได้ไหมเนี่ย)
อีก10% ซื้อหุ้นอสังหาฯ ตัวเดียวเลย
หลังซื้อราคาลดลงไปเหมือนกัน แต่ทำใจได้ ไม่ขาย
เดือนนี้อยากซื้อตัวนี้เพิ่ม แต่ช่วง 3 -4 วันก่อนนี้ ติดจรวดขึ้นไป มาก ๆ
ซื้อไม่ลงเลยค่ะ รอ ๆ ดูอยู่ อาจกลับลงมา ใกล้ถึงที่เคยซื้อแล้ว
คิดจะทยอยซื้อทุกเดือน แต่ถ้าเดือนไหน ตกมาก ๆ อาจซื้อเยอะขึ้น
แต่ถ้าราคาพุ่งพรวด ๆ คงรอ ๆ ไปก่อน พยายามหาความรู้เพิ่มไปเรื่อย ๆ
เราอาจจะยึดติดกับราคาที่เคยซื้อเอาไว้มากไปหรือเปล่า
จะซื้อตอนนี้ ก็กลัวมันคงลดลงมาอีก จะเสียดาย น่าจะรอซักหน่อย
จะไม่ซื้อ ก็กลัวจะขึ้น ๆ ไป แล้วเราก็จะไม่ยอมซื้ออีก
หรือว่าเมื่อเห็นว่าราคาเหมาะสม มีส่วนลดจากมูลค่าที่เราได้คิดเอาไว้
ก็ซื้อ ๆ แล้วหลับตา อย่าไปดูอีก เอาปันผลไปเรื่อย ๆ ก่อน
ที่คิดไว้ ว่าจะซื้อ ซัก 4 ตัว ต่างหมวดกัน ก็พอ
หวังว่าซัก 10 ปี ได้ซัก 1 เท่า ก็ยังดี
ติดตามเข้ามาแอบอ่านได้ 5 เดือน กว่า ๆ แล้ว
อ่านหนังสือของ ดร.นิเวศน์ และท่านอื่น ๆ ที่ได้มีคนแนะนำไว้ เท่าที่จะหาได้
อ่าน ๆ ๆ แล้วก็อ่าน บางครั้งก็เอาเครื่องคิดเลขมาจิ้ม ๆ ๆ ๆ
เพื่อทดลองหามูลค่าหุ้น ตามหนังสือ วัดมูลค่าหุ้นฯ ของคุณสุมาอี้
จนเพื่อน ๆ ที่ทำงาน ว่า บ้าหุ้น (ก็คงจะจริงแหละ)
จากเมื่อก่อนไม่เคยคิดว่าจะเข้ามาใกล้หรือยุ่งเกี่ยวกะหุ้นเลย
(เพราะเมื่อเข้าทำงาน ช่วงปี 40 หัวหน้างาน แทบหมดเนื้อหมดตัวจากหุ้น
เมื่อเริ่มจะซื้อหุ้น โทรไปปรึกษาท่าน เพราะท่านเกษียณแล้ว
ท่านบอก อย่าเลย อย่าเข้าไปเล่นหุ้นเลย เอาฝากแบงค์ไว้ดีแล้ว)
เราก็เลยเริ่มหาข้อมูล เราไม่คิดจะเล่นหุ้น แต่คิดจะลงทุนค่ะ
มาคิดดู ฝากแบงค์ไว้ ดอกเบี้ยติ๊ดหนึ่ง
เงินเราก็ประมาณหัวข้อกระทู้ และเป็นเงินเย็นประมาณน้ำแข้ง
อีกซัก 20 กว่าปี ถ้าไม่ตายเสียก่อน คงได้เอามาใช้
ตอนนี้เริ่มเฉลี่ยซื้อแล้ว 2 เดือน ต.ค. กะ พ.ย. 20%
อยู่ในช่วง set ประมาณ 390 กว่า ๆ กะ 400 นิด ๆ
ซื้อ se-ed ไป 10 % ได้ปันผลมา 1 ครั้ง ดีใจมาก ๆ
พอเห็นราคาหุ้นขึ้น ก็เฉย ๆ แต่พอหุ้นเริ่มลดลงมาใกล้ ๆ ราคาที่ซื้อไว้
เราดันขายค่ะ (ช่วงปิดสนามบิน) แต่มันดันเด้งขึ้นไป แล้วก็ไม่กลับมาถึงราคาที่เราเคยซื้อคราวก่อน ถ้าไม่กลับมานะ จะไม่ซื้อแล้ว โกรธตัวเองมาก ๆ
(เฮ้อ! แล้วจะเป็น vi ได้ไหมเนี่ย)
อีก10% ซื้อหุ้นอสังหาฯ ตัวเดียวเลย
หลังซื้อราคาลดลงไปเหมือนกัน แต่ทำใจได้ ไม่ขาย
เดือนนี้อยากซื้อตัวนี้เพิ่ม แต่ช่วง 3 -4 วันก่อนนี้ ติดจรวดขึ้นไป มาก ๆ
ซื้อไม่ลงเลยค่ะ รอ ๆ ดูอยู่ อาจกลับลงมา ใกล้ถึงที่เคยซื้อแล้ว
คิดจะทยอยซื้อทุกเดือน แต่ถ้าเดือนไหน ตกมาก ๆ อาจซื้อเยอะขึ้น
แต่ถ้าราคาพุ่งพรวด ๆ คงรอ ๆ ไปก่อน พยายามหาความรู้เพิ่มไปเรื่อย ๆ
เราอาจจะยึดติดกับราคาที่เคยซื้อเอาไว้มากไปหรือเปล่า
จะซื้อตอนนี้ ก็กลัวมันคงลดลงมาอีก จะเสียดาย น่าจะรอซักหน่อย
จะไม่ซื้อ ก็กลัวจะขึ้น ๆ ไป แล้วเราก็จะไม่ยอมซื้ออีก
หรือว่าเมื่อเห็นว่าราคาเหมาะสม มีส่วนลดจากมูลค่าที่เราได้คิดเอาไว้
ก็ซื้อ ๆ แล้วหลับตา อย่าไปดูอีก เอาปันผลไปเรื่อย ๆ ก่อน
ที่คิดไว้ ว่าจะซื้อ ซัก 4 ตัว ต่างหมวดกัน ก็พอ
หวังว่าซัก 10 ปี ได้ซัก 1 เท่า ก็ยังดี
- Alastor
- Verified User
- โพสต์: 2590
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 19
งบของพวก สถาบันการเงิน จะมีความแตกต่างในส่วนของ OCF จากบริษัททั่วไปครับ ทำให้คนที่ไม่ชินอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง วิธีสำคัญคือต้องคิด Comprehensive Income โดยรวมพวกการเปลี่ยนแปลงใน Availble-for-Sale securities เข้าไปด้วย จะเห็นกำไรที่แท้จริง
แล้วก็ต้องดู port สินเชื่อว่ามีการปล่อยกู้ในกลุ่มธุรกิจที่มีอนาคตดีหรือไม่ ถ้าลูกหนี้ดีเจ้าหนี้ก็ดีตามไปด้วยครับเพราะได้เงินคืน NPL ต่ำ
แล้วก็ต้องดู port สินเชื่อว่ามีการปล่อยกู้ในกลุ่มธุรกิจที่มีอนาคตดีหรือไม่ ถ้าลูกหนี้ดีเจ้าหนี้ก็ดีตามไปด้วยครับเพราะได้เงินคืน NPL ต่ำ
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 20
บอกไม่ได้
เพราะ แต่ละคนไม่เหมือนกัน
ทั้งความรู้ สภาพจิตใจ ความสามารถในการควบคุมอารมณ์
ที่สำคัญที่สุดในการลงทุน
คือ หลักสิบข้อในกาลามสูตร ในข้อที่ว่า
"อย่าเชื่อเพราะสิ่งที่บอกต่อกันมา" <---อันนี้หูเบา
"อย่าเชื่อเพราะเป็นอาจารย์ของเรา"<---อันนี้ต้องพิสูจน์
"อย่าเชื่อเพราะคิดเหมือนเรา"<---อันนี้เดี๋ยวความคิดมันหลอกเอา
เพราะ แต่ละคนไม่เหมือนกัน
ทั้งความรู้ สภาพจิตใจ ความสามารถในการควบคุมอารมณ์
ที่สำคัญที่สุดในการลงทุน
คือ หลักสิบข้อในกาลามสูตร ในข้อที่ว่า
"อย่าเชื่อเพราะสิ่งที่บอกต่อกันมา" <---อันนี้หูเบา
"อย่าเชื่อเพราะเป็นอาจารย์ของเรา"<---อันนี้ต้องพิสูจน์
"อย่าเชื่อเพราะคิดเหมือนเรา"<---อันนี้เดี๋ยวความคิดมันหลอกเอา
-
- Verified User
- โพสต์: 1254
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าท่านมีเงิน 1 ล้าน แล้วจะลงทุนหุ้น 100% ท่านจะลงตัวใด
โพสต์ที่ 21
ลงทุนหุ้นที่อยู่ในขอบเขตความเข้าใจครับ
เมื่อศก.โลกถดถอยเพื่อความปลอดภัยมากขึ้นในการลงทุนเลือกหุ้นดีที่มีเงินสดหรือสินทรัพย์ในความต้องการของตลาดมากๆก็ดีครับ และเมื่อคิดออกมาเป็นเงินสดต่อหุ้นแล้วให้มีส่วนลดที่มีนัยสำคัญในการลงทุน(ถูกๆๆๆครับ )อย่างที่ปีเตอร์ ลินซ์กล่าวครับ
เมื่อศก.โลกถดถอยเพื่อความปลอดภัยมากขึ้นในการลงทุนเลือกหุ้นดีที่มีเงินสดหรือสินทรัพย์ในความต้องการของตลาดมากๆก็ดีครับ และเมื่อคิดออกมาเป็นเงินสดต่อหุ้นแล้วให้มีส่วนลดที่มีนัยสำคัญในการลงทุน(ถูกๆๆๆครับ )อย่างที่ปีเตอร์ ลินซ์กล่าวครับ