Dull Investor ?
-
- Verified User
- โพสต์: 1266
- ผู้ติดตาม: 0
Dull Investor ?
โพสต์ที่ 1
ถือหุ้น 100 % ตลอด + 30% เมื่อต้นปี กลายเป็นลบเกือบ 30% อาจมีปรับ
พอร์ตบ้าง แต่ก็อยู่ในหุ้นทั้งหมด เงินออมที่เหลือใช้แต่ละเดือน เก็บไว้ได้
เต็มที่ไม่เกิน 2 เดือน เอามาซื้อหุ้นหมด ปันผลที่ได้ ซื้อหุ้นหมด ติดตาม
ข่าวเศรษฐกิจบ้าง ติดตามผลประกอบการ ดื้อ ไม่สนเทคนิค ปัจจุบันยัง
ดื้ออยู่ สนใจการขึ้นลงของ Dow เล็กน้อย แต่สนใจราคาน้ำมัน ค่าเงิน
สินค้า demand ของ บ.เรา มาก ดูราคาหุ้นประจำ ประมาณ ผลตอบแทน
จากเงินปันผลล่วงหน้าสองสามปี กับราคาหุ้นปัจจุบันบ่อยๆ ขอทำแบบนี้ต่อ
ไปอีก 4-5 ปี ถ้าแพ้ ก็ยอมรับ ว่าเป็น Dull investor
พอร์ตบ้าง แต่ก็อยู่ในหุ้นทั้งหมด เงินออมที่เหลือใช้แต่ละเดือน เก็บไว้ได้
เต็มที่ไม่เกิน 2 เดือน เอามาซื้อหุ้นหมด ปันผลที่ได้ ซื้อหุ้นหมด ติดตาม
ข่าวเศรษฐกิจบ้าง ติดตามผลประกอบการ ดื้อ ไม่สนเทคนิค ปัจจุบันยัง
ดื้ออยู่ สนใจการขึ้นลงของ Dow เล็กน้อย แต่สนใจราคาน้ำมัน ค่าเงิน
สินค้า demand ของ บ.เรา มาก ดูราคาหุ้นประจำ ประมาณ ผลตอบแทน
จากเงินปันผลล่วงหน้าสองสามปี กับราคาหุ้นปัจจุบันบ่อยๆ ขอทำแบบนี้ต่อ
ไปอีก 4-5 ปี ถ้าแพ้ ก็ยอมรับ ว่าเป็น Dull investor
ความรู้คู่เปรียบด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 1808
- ผู้ติดตาม: 0
Dull Investor ?
โพสต์ที่ 2
สู้ๆครับ ผมว่าพี่ไม่แพ้หรอกครับ ถ้าเลือกหุ้นได้ถูกตัว
ผมก็ลงหุ้น 100% เทคนิคก็ดูไม่เป็น :lol:
ผมก็ลงหุ้น 100% เทคนิคก็ดูไม่เป็น :lol:
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
Dull Investor ?
โพสต์ที่ 9
ผมว่าแต่ละคนติดนิสัยว่า เราเคยได้กินแบบไหน เราก็จะยึดแบบเดิมๆ
ผมเคยคิดเมื่อตอนSETลงมาประมาณ400ปลายๆ500ต้นๆว่า กลยุทธ์ของผมเหมาะสมดีแล้วหรือ ทำไมไม่ปรับตัวขายก่อน(ตอนนั้นมั่นใจเกินครึ่งว่าลงต่อแน่ๆ) และกลยุทธ์การลงทุนควรจะมีแยกเป็นตลาดกระทิงและหมี
จุดแข็งแนวVIน่าจะเป็นตลาดกระทิง และจุดอ่อนแนวVIน่าจะเป็นตลาดหมี ส่วนคนเล่นรอบ ขาลงเขาจะเจ็บตัวน้อยกว่ามากๆ ยิ่งเฉพาะวิธีเด่นศรีที่เคยดังในอดีตน่าจะดีกว่า
แต่ในที่สุดผมก็ได้ตัดสินใจไม่ทำอะไรกับพอร์ตที่ตนเองถือ ความดื้อด้านอยากลองของผมคงเป็นเพราะ
-คิดว่าถึงSETจะลงมาเหลือ300จุดผมก็ไม่เดือดร้อน เพราะมีธุรกิจส่วนตัวที่สามารถเลี้ยงชีพได้อยู่โดยไม่เดือดร้อน
-ผมไม่สามารถเดาได้ว่าจุดต่ำสุดจะอยู่ที่เท่าไหร่
-อยากทดสอบลองผ่านวิกฤตที่เขากลัวๆกัน แล้วอีกสักปีมาดูว่าหุ้นที่ตนเองถือจะเป็นอย่างไร
-กลยุทธ์ที่ผ่านมา5ปีคือเต็มร้อยตลอดเวลา มันสร้างผลตอบแทนที่จุดสูงสุดที่ประมาณ10เท่า และถึงแม้นตอนนี้จะเหลือประมาณ6-7เท่า อย่างที่บอกว่าคนเคยกินอาหารอยู่ที่ไหน ก็จะไปหาอยู่ที่เดิม
-และที่สำคัญที่สุด หุ้นในพอร์ตส่วนมากจะเป็นหุ้นที่ไม่ค่อยมีสภาพคล่อง ถ้าผมคิดจะเล่นรอบกับหุ้นบางตัว สภาพตลาดแบบนี้ขายครึ่งปียังไม่หมดเลยครับ 555 คงจะไม่มีโอกาสได้เล่นรอบ
ผมเคยคิดเมื่อตอนSETลงมาประมาณ400ปลายๆ500ต้นๆว่า กลยุทธ์ของผมเหมาะสมดีแล้วหรือ ทำไมไม่ปรับตัวขายก่อน(ตอนนั้นมั่นใจเกินครึ่งว่าลงต่อแน่ๆ) และกลยุทธ์การลงทุนควรจะมีแยกเป็นตลาดกระทิงและหมี
จุดแข็งแนวVIน่าจะเป็นตลาดกระทิง และจุดอ่อนแนวVIน่าจะเป็นตลาดหมี ส่วนคนเล่นรอบ ขาลงเขาจะเจ็บตัวน้อยกว่ามากๆ ยิ่งเฉพาะวิธีเด่นศรีที่เคยดังในอดีตน่าจะดีกว่า
แต่ในที่สุดผมก็ได้ตัดสินใจไม่ทำอะไรกับพอร์ตที่ตนเองถือ ความดื้อด้านอยากลองของผมคงเป็นเพราะ
-คิดว่าถึงSETจะลงมาเหลือ300จุดผมก็ไม่เดือดร้อน เพราะมีธุรกิจส่วนตัวที่สามารถเลี้ยงชีพได้อยู่โดยไม่เดือดร้อน
-ผมไม่สามารถเดาได้ว่าจุดต่ำสุดจะอยู่ที่เท่าไหร่
-อยากทดสอบลองผ่านวิกฤตที่เขากลัวๆกัน แล้วอีกสักปีมาดูว่าหุ้นที่ตนเองถือจะเป็นอย่างไร
-กลยุทธ์ที่ผ่านมา5ปีคือเต็มร้อยตลอดเวลา มันสร้างผลตอบแทนที่จุดสูงสุดที่ประมาณ10เท่า และถึงแม้นตอนนี้จะเหลือประมาณ6-7เท่า อย่างที่บอกว่าคนเคยกินอาหารอยู่ที่ไหน ก็จะไปหาอยู่ที่เดิม
-และที่สำคัญที่สุด หุ้นในพอร์ตส่วนมากจะเป็นหุ้นที่ไม่ค่อยมีสภาพคล่อง ถ้าผมคิดจะเล่นรอบกับหุ้นบางตัว สภาพตลาดแบบนี้ขายครึ่งปียังไม่หมดเลยครับ 555 คงจะไม่มีโอกาสได้เล่นรอบ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
Dull Investor ?
โพสต์ที่ 10
ดิฉันคิดว่า ข้อนี้แหละ ที่เป็นจุดแข็ง ทำให้พี่นริศ ตัดสินใจถือหุ้นเต็มพอร์ทได้ โดยไม่ทำอะไรเลย-คิดว่าถึงSETจะลงมาเหลือ300จุดผมก็ไม่เดือดร้อน เพราะมีธุรกิจส่วนตัวที่สามารถเลี้ยงชีพได้อยู่โดยไม่เดือดร้อน
จุดอ่อน จุดแข็ง ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
เป็นการสำคัญที่ต้องประเมินตัวเอง อย่างยุติธรรมที่สุด ด้วยสายตาที่รู้จักและเข้าใจตัวเองดีที่สุด ก็คือจากมุมมองของแต่ละคนเอง
เราพร้อมที่จะจนลง หรือเราพร้อมที่จะรวยน้อยลง
ความหมายใกล้เคียง แต่แตกต่างสิ้นดีในผลลัพท์สุดท้าย
ชอบความเห็นของเฮียป๋าพอใจ(ในอีกกระทู้นึง) ที่ว่า..
อย่าดูถูกเงินล้านเชียวนา...
เห็นมะ มุมมองของแต่ละคน ไม่เท่ากันจริงๆ
- HI.ผมเอง
- Verified User
- โพสต์: 811
- ผู้ติดตาม: 0
Dull Investor ?
โพสต์ที่ 11
เต็มพอร์ท ตลอด ของคนที่ถือหุ้นหลายๆตัวที่ประกอบกันเป็นพอร์ตที่ต่างกัน น่าจะทำให้ได้ผลไม่เหมือนกันนะครับ
พอร์ทที่สภาพคล่องต่ำแถมมีปันผลสม่ำเสมอ น่าจะติดลบน้อยกว่า และผู้ถือไม่ค่อยอยากขาย(เพราะมีปันผลค้ำอยู่ ถึงปีถัดมากำไรอาจตกลงทำให้ได้ปันผลน้อยลงก้อตาม)(ผมว่าพอร์ทผมน่าจะมีสองตัวเดียวกันกับคุณนริศ เดาเอานะครับ และพอร์ทผมก้อเป็นแบบนี้ด้วยและยังเต็มพอร์ทอยู่)
พอร์ทที่ถือ หุ้นสภาพคล่องปานกลางถึงสูง ปันผลไม่ค่อยมีหรือมีแต่ก้อไม่ค่อยสม่ำเสมอ น่าลงใกล้เคียงตลาด คือ 50 กว่า%หากยังไม่ขาย
พอร์ทที่ถือหุ้นที่เป็นหุ้นโตเร็วpeสูงเกิน20 ยิ่งมีหลายตัวและไม่มีตัวแข็งแกร่งมาอยู่ประกอบด้วย น่าจะติดลบ กว่า 70% เดาเอานะครับ เพราะสภาพคล่องปานกลางถึงสูงแถมกองทุนชอบถือหุ้นแบบนี้โดยเฉพาะกองต่างประเทศ
หากใครถือเต็มพอร์ทแบบสาม เนี่ย ถ้าไม่ขายเลยตอนนี้คงอ่วมพอดูแต่จะมีการเด้งสลับให้เจ็บใจเล่นตอนขายไม่ทันหรือยังลังเล แถมขายแล้วไม่แน่ใจว่าจะได้ซือกลับทันหรือเปล่าอีก
ถือเต็มพอร์ทแบบต่างกัน คงตอบต่างกันเพราะรู้สึกต่างกันมั๊งครับ
พอร์ทที่สภาพคล่องต่ำแถมมีปันผลสม่ำเสมอ น่าจะติดลบน้อยกว่า และผู้ถือไม่ค่อยอยากขาย(เพราะมีปันผลค้ำอยู่ ถึงปีถัดมากำไรอาจตกลงทำให้ได้ปันผลน้อยลงก้อตาม)(ผมว่าพอร์ทผมน่าจะมีสองตัวเดียวกันกับคุณนริศ เดาเอานะครับ และพอร์ทผมก้อเป็นแบบนี้ด้วยและยังเต็มพอร์ทอยู่)
พอร์ทที่ถือ หุ้นสภาพคล่องปานกลางถึงสูง ปันผลไม่ค่อยมีหรือมีแต่ก้อไม่ค่อยสม่ำเสมอ น่าลงใกล้เคียงตลาด คือ 50 กว่า%หากยังไม่ขาย
พอร์ทที่ถือหุ้นที่เป็นหุ้นโตเร็วpeสูงเกิน20 ยิ่งมีหลายตัวและไม่มีตัวแข็งแกร่งมาอยู่ประกอบด้วย น่าจะติดลบ กว่า 70% เดาเอานะครับ เพราะสภาพคล่องปานกลางถึงสูงแถมกองทุนชอบถือหุ้นแบบนี้โดยเฉพาะกองต่างประเทศ
หากใครถือเต็มพอร์ทแบบสาม เนี่ย ถ้าไม่ขายเลยตอนนี้คงอ่วมพอดูแต่จะมีการเด้งสลับให้เจ็บใจเล่นตอนขายไม่ทันหรือยังลังเล แถมขายแล้วไม่แน่ใจว่าจะได้ซือกลับทันหรือเปล่าอีก
ถือเต็มพอร์ทแบบต่างกัน คงตอบต่างกันเพราะรู้สึกต่างกันมั๊งครับ
- Juninho
- Verified User
- โพสต์: 1050
- ผู้ติดตาม: 0
Dull Investor ?
โพสต์ที่ 13
ถือหุ้นเต็มพอร์ทตลอดเวลา ดีอย่างเสียอย่าง
หุ้นขาขึ้น รับกำไรเต็ม ๆ
แต่พอเป็นขาลง ก็รับเละเช่นเดียวกัน
เวลาช่วงนี้ คนถือหุ้นเต็มพอร์ทคงยิ้มกันไม่ค่อยออก
แต่ถ้าคุณรอคอยจนเป็นตลาดกระทิงได้เมื่อไร พอร์ทคงกลับมาได้อย่าง
สมภาคภูมิ (แต่อาจจะมีส่วนหนึ่งตายไปก่อนแล้ว)
เพราะฉะนั้น จงอย่าอยู่ในความประมาท
หุ้นขาขึ้น รับกำไรเต็ม ๆ
แต่พอเป็นขาลง ก็รับเละเช่นเดียวกัน
เวลาช่วงนี้ คนถือหุ้นเต็มพอร์ทคงยิ้มกันไม่ค่อยออก
แต่ถ้าคุณรอคอยจนเป็นตลาดกระทิงได้เมื่อไร พอร์ทคงกลับมาได้อย่าง
สมภาคภูมิ (แต่อาจจะมีส่วนหนึ่งตายไปก่อนแล้ว)
เพราะฉะนั้น จงอย่าอยู่ในความประมาท
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
But you must try, try and try
- tummeng
- Verified User
- โพสต์: 3665
- ผู้ติดตาม: 0
Dull Investor ?
โพสต์ที่ 14
มาร่วมทางด้วยคนครับ
เต็มพอร์ตมาเกือบตลอดชีวิตการลงทุน 5-6 ปีเหมือนกันครับ ปีนี้ปีเดียวโดนคืนไปเกือบ 50 % ใครจะไปคิด
แต่บริษัทเราลงทุนผลการดำเนินงานก็ยังดีอยู่ ปีหน้าอาจจะแย่ลงบ้าง แต่คงจะพอรอดตัวไปได้
โชคดีที่ยังมีธุรกิจส่วนตัวที่พอเลี้ยงครอบครัวได้ก็เลยยังพอน่าจะถูไถไปได้
แต่คงจะยังคง concept เดิมเงินออมก็คงเอากลับมาลงทุนต่อ ปันผลก็คงเอากลับมาลงต่อ
5 ปีเจอกันครับ :lol:
เต็มพอร์ตมาเกือบตลอดชีวิตการลงทุน 5-6 ปีเหมือนกันครับ ปีนี้ปีเดียวโดนคืนไปเกือบ 50 % ใครจะไปคิด
แต่บริษัทเราลงทุนผลการดำเนินงานก็ยังดีอยู่ ปีหน้าอาจจะแย่ลงบ้าง แต่คงจะพอรอดตัวไปได้
โชคดีที่ยังมีธุรกิจส่วนตัวที่พอเลี้ยงครอบครัวได้ก็เลยยังพอน่าจะถูไถไปได้
แต่คงจะยังคง concept เดิมเงินออมก็คงเอากลับมาลงทุนต่อ ปันผลก็คงเอากลับมาลงต่อ
5 ปีเจอกันครับ :lol: