ตอนนี้มีเงินสด 100 % ของพอร์ต คิดว่าควรเริ่มซื้อหุ้นได้รึยัง
-
- Verified User
- โพสต์: 171
- ผู้ติดตาม: 0
ตอนนี้มีเงินสด 100 % ของพอร์ต คิดว่าควรเริ่มซื้อหุ้นได้รึยัง
โพสต์ที่ 1
ตอนนี้มีเงินสด 100 % ของพอร์ต คิดว่าควรเริ่มซื้อหุ้นได้รึยัง หรือรอก่อนดี
-
- Verified User
- โพสต์: 1922
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตอนนี้มีเงินสด 100 % ของพอร์ต คิดว่าควรเริ่มซื้อหุ้นได้ร
โพสต์ที่ 4
[quote="VI พันธุ์ทาง"]ตอนนี้มีเงินสด 100 % ของพอร์ต คิดว่าควรเริ่มซื้อหุ้น
ได้รึยัง
ได้รึยัง
-
- Verified User
- โพสต์: 307
- ผู้ติดตาม: 0
ตอนนี้มีเงินสด 100 % ของพอร์ต คิดว่าควรเริ่มซื้อหุ้นได้รึยัง
โพสต์ที่ 7
ถ้าเป็นผมซื้อ 50% ลงเกิน 5% cutloss
"หากท่านคาดการณ์ว่าจะไม่ได้รับประโยชน์เลยแม้แต่น้อยจากการปฏิบัตืการรุก ให้ท่านจงตั้งมั่นอยู่กับที่อย่างสงบ"
"ไม่มีสูตรสำเร็จในชัยชนะ คนทำผิดจะเกิดขึ้นเฉพาะกับฝ่ายที่แพ้เท่านั้น"
- ซุนวู -
"ไม่มีสูตรสำเร็จในชัยชนะ คนทำผิดจะเกิดขึ้นเฉพาะกับฝ่ายที่แพ้เท่านั้น"
- ซุนวู -
- Linzhi
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1464
- ผู้ติดตาม: 1
ตอนนี้มีเงินสด 100 % ของพอร์ต คิดว่าควรเริ่มซื้อหุ้นได้รึยัง
โพสต์ที่ 9
อารมณ์คนเปลี่ยนทุกวันครับ ใครจะคาดเดาตลาดได้
ล่าุสุดจาก e-financethai ครับ
SET Index รูดกว่า 3% หลังปัจจัยลบรอบด้านรุมเร้า ทั้งตลาดหุ้นตปท.เดี้ยง-ราคาน้ำมันดิบลด
กูรูแนะนลท.กลับไปทำบุญเข้าวัดปลอดภัยสุด
กลยุทธ์ แนะนำให้ไป “ทำบุญเข้าวัด” ในวันพรุ่งนี้
ณ เวลา 14.40 น. ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 463.98 จุด ลดลง 14.81 จุด หรือ 3.09% มูลค่าการซื้อขาย 5,701.91 ล้านบาท
ล่าุสุดจาก e-financethai ครับ
SET Index รูดกว่า 3% หลังปัจจัยลบรอบด้านรุมเร้า ทั้งตลาดหุ้นตปท.เดี้ยง-ราคาน้ำมันดิบลด
กูรูแนะนลท.กลับไปทำบุญเข้าวัดปลอดภัยสุด
กลยุทธ์ แนะนำให้ไป “ทำบุญเข้าวัด” ในวันพรุ่งนี้
ณ เวลา 14.40 น. ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 463.98 จุด ลดลง 14.81 จุด หรือ 3.09% มูลค่าการซื้อขาย 5,701.91 ล้านบาท
- Linzhi
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1464
- ผู้ติดตาม: 1
ตอนนี้มีเงินสด 100 % ของพอร์ต คิดว่าควรเริ่มซื้อหุ้นได้รึยัง
โพสต์ที่ 10
ตอบหน่อยเดี๋ยวคุณ VI พันธุ์ทางจะหาว่ากวนไป :lol:
ตลาดตอนนี้ผมว่าเริ่มจัดกระบวนทัพได้แล้ว คือหุ้นไม่ลงเถือกทุกตัว มีตัวยืน
ขึ้นบ้างลงบ้าง เบี้ยเริ่มหัวแตก คงจะเป็นเวลาที่เริ่มปักร่างสร้างฐาน
ยังไงก็ตามโอกาสลงมีต่อครับ ถ้าตลาดเจอข่าวร้ายมาก ๆ โหมมาอีก
โอกาสที่จะยืนตรงนี้ได้ก็มีเหมือนกัน ถ้าตลาดเริ่มซึม ๆ
โอกาสขึ้นมี ถ้าปัญหาภาคการเงินถูกแก้ไขและคนเริ่มเชื่อ
ความน่าจะเป็นแต่ละกรณีก็สุดแล้วแต่คุณจะมอง
ผมเป็นคุณผมคงซื้อบ้างแล้ว
ตลาดตอนนี้ผมว่าเริ่มจัดกระบวนทัพได้แล้ว คือหุ้นไม่ลงเถือกทุกตัว มีตัวยืน
ขึ้นบ้างลงบ้าง เบี้ยเริ่มหัวแตก คงจะเป็นเวลาที่เริ่มปักร่างสร้างฐาน
ยังไงก็ตามโอกาสลงมีต่อครับ ถ้าตลาดเจอข่าวร้ายมาก ๆ โหมมาอีก
โอกาสที่จะยืนตรงนี้ได้ก็มีเหมือนกัน ถ้าตลาดเริ่มซึม ๆ
โอกาสขึ้นมี ถ้าปัญหาภาคการเงินถูกแก้ไขและคนเริ่มเชื่อ
ความน่าจะเป็นแต่ละกรณีก็สุดแล้วแต่คุณจะมอง
ผมเป็นคุณผมคงซื้อบ้างแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
ตอนนี้มีเงินสด 100 % ของพอร์ต คิดว่าควรเริ่มซื้อหุ้นได้รึยัง
โพสต์ที่ 14
จอม เขียน:หลังจากออกจากตลาดไป 4 ปี ผมกลับเข้ามาอีกรอบ
สิ่งที่คุณควรทำตอนนี้น่าจะเหมือนผมครับ
ทำการบ้านให้หนัก รักษาสติและสมาธิให้ดี
โชคดีครับ
ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ
ผมจำคุณจอมได้เพราะโพสต์ข้างล่างนี้ครับ อ่านแล้วเห็นภาพพจน์ดี
ว่าแต่ทำไมเลิกลงทุนไปนานครับ 4 ปีที่ผ่านมาหลายคนกำไรหุ้นตั้งตัวได้เลยครับ..
Posted: Fri Sep 19, 2003 10:22 pm Post subject: From IP:202.59.243.133
--------------------------------------------------------------------------------
ผมเองก็มือใหม่เหมือนกันครับ (ถอดด้ามเลย)
จากวันที่ไปสัมมนาผมเห็นพี่มนพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยชื่อหุ้นตรงๆ วันนั้นผมเข้าใจวัตถุประสงค์ของพี่ว่าอยากให้หาความรู้เอง
แต่แล้วมีวันนึงวันที่มีคนพยายามจะชื่อหุ้นจากผม ผมถึงบางอ้อเลยครับ
ไม่ใช่หวงนะครับ ไม่ใช่กั๊กวิชาด้วย (ไม่มีจะกั๊กครับ ...ไส้กรวง)
ผมรู้สึกด้วยตัวเองนะครับ วินาทีที่จะเอ่ยชื่อหุ้นออกไป สมองสั่งงานหลายรอบครับ ได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็วว่า "ไม่บอกครับ...ผมไม่ใช่นักใบ้หวย"
เหตุผลก็คือหลังจากที่สมองไตร่ตรองแล้ว พบว่า
เมื่อเราบอกชื่อหุ้นไป เค้าซื้อพร้อมเรา ด้วยราคาเท่ากัน ถ้าวันรุ่งขึ้นราคาไหลลง 2 สเต็ป อีกวันไหลลงอีก 3 สเต็ป อีกวันไหลเป็นคนท้องเสีย ซึ่งมันเกิดขึ้นได้อยู่แล้วในตลาดแห่งความโลภ
ณ เวลาที่ราคาไหลลงเหมือนคนกินยาถ่าย ผมซึ่งเป็นคนหาข้อมูล วิเคราะห์พื้นฐานด้วยตัวเอง มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ยิ่งลงยิ่งยิ้ม ยิ่งพยายามหาเงินมาโกยหุ้นเพิ่ม กินอิ่มนอนหลับ สบายใจที่ได้เป็นเจ้าของกิจการดีราคาถูก
ขณะเดียวกันคนที่ได้หุ้นไปจากผม นั่งร้อนรนกินไม่ได้นอนไม่หลับ หลับก็ฝันร้าย สะดุ้งตื่น ฝันว่าไปเที่ยวดอยสุเทพ "โดนต้มเปล่าวะ" "ไอ่นี่หลอกนี่หว่า" "แหม ...ทำกันได้" และท้ายที่สุด "พรุ่งขายดีกว่า ไม่เอาแล้ว หุ้นบ้าไรก็ไม่รู้จัก ดั๊น!!! ไปเชื่อมัน"
ผมก็เลยมีนิสัยไม่บอกชื่อหุ้นเหมือนกันครับ สงสารเค้านะ บาปกรรมเปล่าๆ
หุ้นตัวเดียวกัน ราคาเดียวกัน แต่คนซื้อคนละคน ระดับความรู้และความมั่นใจไม่เท่ากัน มันส่งผลต่างกันแบบฟ้ากับเหวเลยนะครับ
ปล.เงินตั้งล้านแน่ะ อีกกี่ปีก็ไม่รู้กว่าผมจะได้เห็นในพอร์ทตัวเอง
...หวังว่าคงเข้าใจเจตนาของ VI นะครับ ผมเองก็เป็นแค่ VI เกรด F ถ้าทำให้ไม่สบายใจหรือหงุดหงิด ก็ขอโทษด้วยครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- King_Krimson
- Verified User
- โพสต์: 171
- ผู้ติดตาม: 0
ตอนนี้มีเงินสด 100 % ของพอร์ต คิดว่าควรเริ่มซื้อหุ้นได้รึยัง
โพสต์ที่ 15
:lol:
"Ther Pursuit of Liberty"
"You can only depend on yourself. The cavalry ain't coming."
"You can only depend on yourself. The cavalry ain't coming."
-
- Verified User
- โพสต์: 146
- ผู้ติดตาม: 0
ตอนนี้มีเงินสด 100 % ของพอร์ต คิดว่าควรเริ่มซื้อหุ้นได้รึยัง
โพสต์ที่ 17
ไม่มีใครรู้จุดต่ำสุดที่แท้จริงหรอกครับ แต่ถึงจุดต่ำสุดมาถึงเราก้ไม่รู้อยู่ดี สำหรับผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องซื้อที่จุดต่ำสุด (ถ้าทำได้จิงคงรวยกันหมดแล้ว)
ทยอยลงทุนไปเรื่อยๆ ก่อนครับ ต่ำลงก้ซื้อได้มากหน่อย สูงขึ้นก็ไปก่อน เลือกรายตัวราย อุตสาหกรรม ปันผลดี พอลงทุนได้ครับ
ทยอยลงทุนไปเรื่อยๆ ก่อนครับ ต่ำลงก้ซื้อได้มากหน่อย สูงขึ้นก็ไปก่อน เลือกรายตัวราย อุตสาหกรรม ปันผลดี พอลงทุนได้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1266
- ผู้ติดตาม: 0
ตอนนี้มีเงินสด 100 % ของพอร์ต คิดว่าควรเริ่มซื้อหุ้นได้รึยัง
โพสต์ที่ 18
ขอยกเอาสิ่งที่บัฟเฟต์พูด แปลโดยคุณ นินจาเต่า ซึ่งแปลได้เฉียบคมมากๆ มาไว้ที่นี้ด้วย
Absolutely Clearโลกของการเงินการธนาคารกำลังเละ ทั้งในอเมริกาและต่างประเทศ มันเป็นปัญหาที่กำลังรั่วไปถึงเศรษฐกิจโดยรวม รูรั่วที่ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นทะลัก ในระยะสั้นอัตราการว่างงานคงกำลังเพิ่มขึ้น และกิจกรรมทางธุรกิจคงหยุดไปก่อน พาดหัวข่าวก็ยังจะน่ากลัวต่อไปเรื่อยๆ
ดังนั้น.....ผมถึงได้ซื้อหุ้นของตลาดอเมริกา ที่ผมกำลังพูดถึงเป็นบัญชีซื้อขายหุ้นส่วนตัวของผม ที่ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้ซื้ออะไรเลยนอกจากพันธบัตรรัฐบาล (คำอธิบายนี้ไม่ได้รวมหุ้นของ Berkshine ที่ผมถืออยู่ ที่ตอนนี้ได้มอบให้เพื่อการกุศลไปแล้ว) ถ้าตราบใดที่ราคายังน่าสนใจอยู่ ทรัพย์สินรวมทั้งหมดที่ไม่นับ Berskshine จะเป็นหุ้น ในตลาดอเมริกา 100 เปอร์เซ็นต์
ทำไม?
กฎง่ายๆ ที่กำหนดการซื้อของผม :จงหวาดกลัวเมื่อคนอื่นงก(หิวกระหาย) และจงงก (หิวกระหาย)เมื่อคนอื่นหวาดกลัว และที่แน่นอนที่สุดความกลัวกำลังกระจายออกไป เกาะกุมแม้กระทั่งนักลงทุนที่ช่ำชอง เพื่อให้แน่ใจนักลงทุนคิดถูกแล้วที่จะระแวงเมื่อเจอกับกิจการหรือธุรกิจที่มีหนี้สูง และอยู่ในตำแหน่งทางการแข่งขันที่อ่อนแอ แต่การที่จะระแวงถึงความรุ่งเรืองในระยะยาวของบริษัทที่แข็งแกร่งของเราในประเทศไม่เห็นจะเข้าท่าเลย แน่นอนว่ารายได้ของบริษัทต่างๆย่อมจะต้องเจอกับความไม่ราบรื่นบ้างเป็นธรรมดาของการทำธุรกิจที่เคยเป็นมา แต่บริษัทใหญ่ๆส่วนมากจะมีสถิติรายได้ใหม่นับจากนี้ไปอีก 5 ปี 10 ปี 20 ปี
ขอผมทำความเข้าใจเรื่องหนึ่งก่อน ผมไม่สามารถทำนายการขึ้นลงของตลาดหุ้นในระยะสั้นๆได้ ผมไม่รู้แม่แต่นิดเดียวว่าหุ้นจะขึ้นหรือลง ในระยะ 1 เดือนหรือ 1 ปี ข้างหน้า แต่ที่น่าจะเป็นไปได้ก็คือตลาดหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้น พอสมควรทีเดียวก่อนที่ความรู้สึกหรือเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้น ถ้าคุณมัวแต่รอนกโรบิ้น ฤดูใบไม้ผลิตได้ผ่านไปแล้ว
พูดถึงประวัติศาสตร์ กันสักนิดหน่อย ในระหว่างช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ(The Great Depression 192x) ดาวน์ตกต่ำเหลือเพียง 41 จุด July 8, 1932 สภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ลงเรื่อยๆจนกระทั่ง Franklin D. Roosevelt เป็นประธานาธบดีเมื่อ March 1933 ในเวลานั้นตลาดปรับตัวขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดย้อนไปสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนที่อะไรก็ไม่ดีไปเสียหมดสำหรับอเมริกาทั้งในยุโรปและแปซิฟิค ตลาดลงมาต่ำสุดในเดือน April 1942 ก่อนที่โชคชะตาของฝ่ายพันธมิตรจะดีขึ้น อีกครั้ง ตอนปี 1980 เวลาที่จะซื้อหุ้นคือตอนที่ค่าเงินเฝ้อกำลังทะยาน และเศรษฐกิจกำลังทรุด สั้นๆนะ ข่าวร้ายคือเพื่อที่ดีที่สุดของนักลงทุน มันให้โอกาศคุณได้ซื้ออนาคตของอเมริกาที่ราคาลดแล้ว
ในระยะยาวแล้วตลาดหุ้นจะมีแต่ข่าวดี อเมริกาผ่านสงครามโลกมา 2 ครั้ง และปัญหาความขัดแย้งทางทหารที่สิ้นเปลืองอื่นอีก เศรษฐกิจล่มสลายครั้งใหญ่ เศรษฐกิจถดถอยอีกโหลสองโหล ช็อคกับราคาน้ำมัน โรคไข้หวัด การลาออกที่น่าอดสูของประธานาธิบดี ถึงอย่างนั้น ดาวน์ยังไปจาก 66 ไป 11,497 จุด
คุณอาจจะคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่นักลงทุนจะขาดทุนในช่วงทศวรรษที่ตลาดปรับตัวเติบโตอย่างเหลือเชื่อ แต่นักลงทุนบางคนก็ยังขาดทุน คนที่น่าสงสารซื้อหุ้นตอนที่เขารู้สึกดีแล้วก็ขายเมื่อพาดหัวข่าวทำให้เขาไม่สบายใจ
วันนี้คนที่ถือเงินสดหรือรายการที่เทียบเท่าคงรู้สึกสบายใจ ทั้งที่จริงแล้วเขาไม่ควรเลย เขาเลือกสินทรัพย์ที่แย่มากในระยะยาว สิ่งที่แทบจะไม่ให้ผลตอบแทนอะไรเลย และก็มีแต่ลดมูลค่าลงด้วย อันที่จริงนโยบายที่รัฐบาลจะดำเนินการเพื่อจะแก้ปัญหาตอนนี้ จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจึงทำให้มูลค่าที่แท้จริงของบัญชีเงินสดลดลง
หุ้นยังไงก็ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินสดในระยะทศวรรษข้างหน้า อาจจะมากกว่าเยอะด้วย นักลงทุนที่กอดเงินสดไว้กำลังพนันว่าเขาน่าจะคาดเวลาเหมาะๆที่จะทิ้งเงินสด ในระหว่างที่รอความสบายใจจากข่าวดี พวกเขาได้ละทิ้งคำแนะนำของ Wayne Gretzky (นักฮอคกี้) ผมไถลสเก็ตไปในที่ๆ ลูกฮอคกี้กำลังจะไป ไม่ใช่ขยับตัวไปที่ทีมันเคยไปมาแล้ว
ผมไม่ชอบให้ความเห็นเกี่ยวกับตลาดหุ้น และขอย้ำอีกครั้งว่าผมไม่รู้ว่าตลาดจะเป็นอย่างไรในระยะสั้น ถึงอย่างไรก็ตามผมเองก็จะทำตามที่ร้านอาหารที่เปิดในตึกของธนาคารที่กำลังเงียบเหงา เลยลงโฆษณาว่า พูดอะไรไป ก็กล้าใช้เงินทำอย่างนั้นด้วย(Put your mouth where your money was.) วันนี้ทั้งเงินผม และคำพูดผม ทั้งสองอย่างบอกว่า หุ้น
ความรู้คู่เปรียบด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 3345
- ผู้ติดตาม: 0
ตอนนี้มีเงินสด 100 % ของพอร์ต คิดว่าควรเริ่มซื้อหุ้นได้รึยัง
โพสต์ที่ 19
ใครรอเป็นเพื่อนผมบ้าง ยกมือขึ้น :lol:
ลงทุกวันแบบนี้ ข่าวร้ายยังไม่หมดแบบนี้ วิกฤตยังไม่ได้รับการแก้ไขให้เป็นรูปธรรมกว่านี้
อยากทราบว่าทำไมเพื่อนๆ จึงซื้อสวนกันครับ :roll: ...
ลงทุกวันแบบนี้ ข่าวร้ายยังไม่หมดแบบนี้ วิกฤตยังไม่ได้รับการแก้ไขให้เป็นรูปธรรมกว่านี้
อยากทราบว่าทำไมเพื่อนๆ จึงซื้อสวนกันครับ :roll: ...