GM, Ford May Face Bankruptcy on Slowdown, S&P Says

[chatchai]

GM, Ford May Face Bankruptcy on Slowdown, S&P Says

Oct. 10 (Bloomberg) -- General Motors Corp., Ford Motor Co. and Chrysler LLC may be forced into bankruptcy by slowing economies and dwindling U.S. auto sales, Standard & Poor's analyst Robert Schulz said today.

``Macro factors could overwhelm them at some point'' even with the three biggest U.S. automakers committed to turnarounds, Schulz said in a Bloomberg Television interview. S&P said yesterday it may cut GM and Ford debt deeper into junk on forecasts for 2009 auto demand falling to the lowest since 1992.

GM, Ford and Chrysler are under pressure as the worsening global credit crisis makes it harder for buyers to get loans and dealers to finance their operations. U.S. industrywide sales tumbled 27 percent in September, the most in 17 years.

With all three companies working to boost cash, any bankruptcy filing would be a last resort, not a ``strategic'' decision, said Schulz, who is based in New York.

``We don't see that as something they would choose,'' he said.

S&P said yesterday that its debt ratings for GM and Ford, already at six steps below investment grade at B-, may be lowered again because the automakers face a ``serious challenge'' in 2009.

That prospect helped send GM to a 58-year low yesterday in New York trading, at $4.76, while Ford reached $2.08 a share, its lowest since 1982. In early trading today, GM slid to $4.60 and Ford slipped to $2.03. Chrysler is closely held.

GM will fall further, Barclays Capital analyst Brian Johnson said in a report today, cutting his stock price for the Detroit-based automaker to $4.

Cash Needs

``With auto sales stalled in the U.S. and beginning to contract in the rest of the world, we believe GM's cash needs are increasing,'' wrote Johnson, who is based in Chicago. ``Moreover, the downside risk of greater decline in worldwide auto sales driving greater cash needs is increasing.''

GM and Dearborn, Michigan-based Ford lost a combined $24.1 billion last quarter. GM last posted an annual profit in 2004, while Ford hasn't had a full-year profit since 2005.

``Bankruptcy is not an option GM is considering,'' spokeswoman Renee Rashid-Merem said yesterday. ``It would not be in the interests of our employees, stockholders, suppliers or customers.''

The automaker said it still expects to add $15 billion in liquidity by the end of next year, including speeding up plans to cut $10 billion in costs.

Ford's Liquidity

Ford said yesterday it is reviewing its liquidity and will give an update when third-quarter results are released. The second-largest U.S. automaker borrowed $23.4 billion in 2006 so it could absorb the cost of shutting factories and cutting jobs while it develops new models.

Auto-market conditions are worsening, researcher J.D. Power & Associates said yesterday, estimating that U.S. industrywide sales will fall to 13.6 million this year and 13.2 million in 2009. Last year's total was 16.1 million.

Global demand in 2009 may ``experience an outright collapse,'' according to J.D. Power, which is based in Westlake Village, California.

GM's 8.375 percent note due July 2033 fell 3.5 cents to 24.5 cents on the dollar yesterday, yielding 34 percent, according to Trace, the bond-price reporting system of the Financial Industry Regulatory Authority.

Ford's 7.45 percent note due July 2031 declined 0.4 cent to 34 cents on the dollar, yielding 22 percent.

http://www.bloomberg.com/apps/news?pid= ... refer=home

[oilpaint]

 ชิก ชิกๆ

จากฺBIG Bank  มา BIG Industrial  

เศร้าจัย !

[raruen]

1.
ขอเรียนถามพี่ฉัตรชัยว่า
พี่คิดว่า เหตุการณ์แบบนี้มันจะลามไปถึงไหนครับ
ใช้เวลาประมาณเท่าใดครับ


2.
ตอนนี้ เท่าที่ผมมีข้อมูล
ผมอยู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เท่าที่คุยกับผู้ออกแบบ และผู้รับเหมาเสาเข็ม พบว่า ยังมีงานเต็มมือกันอยู่เลย ซึ่งเต็มมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ตอนนี้ก็ยังเยอะอยู่ ไม่กี่วันมานี้ pylon ก็ยังประกาศโครงการใหม่อีกหลายอัน
ดูว่า ภายในประเทศ ยังมีการลงทุนในภาคเอกชนอยู่พอสมควร

แต่ปัจจัยภายนอกที่มีแต่ข่าวร้าย ก็กดดันตลาดมากกว่า
เข้าใจว่า ด้วยทุนขนาดใหญ่จากต่างชาติที่ถือหุ้นไทยอยู่ ในตลาด จำเป็นต้องย้ายเงินสดกลับอเมริกา เพื่อประคองธุรกิจหลักให้อยู่รอด จึงขายที่ทุกราคามาหลายวัน

ผมสรุปเอาเองง่ายๆว่า ภายในไทยยังดีอยู่ หมายถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดของบริษัทจดทะเบียน
แต่ที่หุ้นลงเอาๆ เพราะปัจจัยภายนอก จากต่างประเทศ ผสมโรงกับการเมืองไทยอีก ก็เลยไหลลงๆ


3.
จากการวิเคราะห์ของผมในข้อ 2 คิดว่า การขายแรงๆจะหยุดเมื่อฝรั่งขายจนหมด ตอนนี้หลายๆสำนักก็เริ่มว่ากันอย่างนี้
แต่ตัวเลขที่แต่ละสำนักให้ ว่าสี่ปีที่ผ่านมา ฝรั่ง net buy อยู่ A แสนล้าน ตั้งแต่ต้นปีขายมาแล้ว B แสนล้าน ตอนนี้เหลืออยู่ C แสนล้าน

บางคนบอกว่า C = 25% บางคนว่าเหลืออีก 90%
อันนี้ ใครมีข้อมูลอยากขอแชร์ข้อมูลหน่อยน่ะครับ

ทฤษฎีของผมคือ ถ้า C = 0 เมื่อไร แปลว่าน่าจะ bottom


4.
จากที่คิดว่า ความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดยังดีอยู่ --> เงินปันผลยังดีอยู่ จึงคิดว่าพอทนถือกินปันผลได้สักปีนึง ก็ทำใจได้อยู่บางส่วน
แต่ที่ตะหงิดๆอยู่ คือ ปีนึงจะกลับมาอยู่ที่เดิมได้มั้ย?

อย่างไรก็ดี เครียดกับการลงทุนแล้ว อย่าลืมดูแลคนรอบข้างด้วยนะครับ
ขอให้ทุกท่านมีกำลังใจที่ดีครับ

[chatchai]

เหตุการณ์ครั้งนี้  คงอยู่นอกเหนือความสามารถของผมได้ที่จะชี้ชัดว่าปัญหาจะจบเมื่อไร  จบอย่างไร

ผมว่าปัญหาครั้งนี้  เกิดจากสภาวะเงินดอลล่าร์ท่วมโลก  สิ่งที่ตามมาก็คือต้องหาแหล่งลงทุน  ทำให้ราคาสินทรัพย์ต่างๆพองเป็นลูกโป่งใบใหญ่  ไม่ว่าจะเป็น  ราคาอสังหาริมทรัพย์  หุ้น  โภคภัณฑ์

เมื่อเกิดความเสียหาย  ก็เท่ากับว่า  เงินดอลล่าร์หายไปจำนวนมาก  และโลกใหม่ก็คงอยู่ในสภาพเงินไม่คล่องเหมือนเดิมแล้ว

แต่ผลกระทบต่อบริษัทในไทยบางบริษัทคงมีไม่มากนัก  เพราะปัญหาอยู่ไกลจากเรา  รวมทั้งบริษัททั้งหลายยังคงอยู่ในความระมัดระวัง  สังเกตจากหนี้ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับสมัยปี 40  การขยายการลงทุนก็ทำด้วยความระมัดระวัง

และที่ผมไม่เข้าใจซักทีก็คือ  นักลงทุนมีชื่อระดับโลกทุกท่านออกมาพูดว่าวิกฤตครั้งนี้ใหญ่หลวงมาก  แต่ทำไม ตัวเลขการคาดการณ์ GDP ของสหรัฐในปีนี้  และปีหน้า ยังคงไม่ลบ  รวมทั้ง GDP ของโลกด้วย

ตัวเลขการนำเข้า  และการส่งออกของสหรัฐ  เดือน ส.ค. ก็ไม่ได้ตกต่ำอะไรเลย

แต่ยังไงเราก็ต้องตั้งอยู่บนความไม่ประมาท  ต้องเฝ้าติดตามดูอย่างใกล้ชิดครับ

[raruen]

นั่นสิครับ
สับสนจริงๆ

แต่ปู่บัฟซื้อเอาๆนะครับ

[chatchai]

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=35631

[haruti]

สิ่งหนึ่งที่นักเศษฐศาสตร์ ไม่ค่อยคาดเดา คือ เวลา สิ่งที่เกิดกับโลกในวันนี้ เพราะ ความสามารถ ของเทคโนโลยี ที่สะท้อนภาพได้รวดเร็ว ส่วนจะมีผลมากเกินไปหรือ น้อยเกินไป แม้นแต่fed บอกว่า ผลโดยตรงที่จะเกิดจริงๆ อย่างน้อย 6 เดือน แต่ความสามารถของ ตลาดเงินและตลาดทุน มันบอกได้ทันที ภายในไม่กี่ชั่วโมง
เพราะฉะนั้น ผลที่เกิดในวันนี้ มันทำให้เรามีเวลาเตรียมตัวจะรับมือสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงๆครับ

[raruen]

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=35631

ขอบคุณครับพี่