ได้บทเรียนอะไรจากMarket Crashกันบ้างครับ
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4526
- ผู้ติดตาม: 0
ได้บทเรียนอะไรจากMarket Crashกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 1
ใหนๆตลาดหุ้นก็Crashแล้ว (สําหรับผมเรียกว่าCrashแล้วหละครับ) หากเราthink positive มาทบทวน เรียนรู้ ว่า วิธีการที่เราใช้ลงทุนนั้นได้ผลมากแค่ใหนไม่ใช่แค่ กําไร แต่เรือเราสามารถฝ่าภายุได้หรือไม่นั่นต่างหาก
ณ วันนี้ 5กันยายน2551
ตลาดตกจากสุดสูงสุดแถวๆ 887 จุดเหลือ 645 จุด หรือตกลง=27%
จากเหตุการณ์นี้ ผมมั่นใจในระดับ1ว่าVIใช้ได้ครับ เพราะอย่างน้อย Port เราก็ลบน้อยกว่าตลาดพอสมควร
บทเรียนที่ผมพอจะเข้าใจจากCrash คือ
1 สิ่งที่แน่นอนคือสิ่งที่ไม่แน่นอน เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ในตลาดหุ้น
ม๊อบ บุก ยึด ทําเนียบ หรือ ประกาศ พรก ฉุกเฉิน subprime มีปัจจัยควบคุมไม่ได้มากมายกระทบตลาดหุ้น
2 หากSentiment ตลาดไม่ดี ประกาศงบกําไรดี หุ้นก็ขึ้นไม่มาก ขึ้นแล้วก็ลง
3 หุ้นที่พื้นฐานแน่น กําไรโตเช่น cpall ( ตยเฉยๆนะ) ราคามักจะลงน้อยกว่าตลาดเยอะ
4 อย่าใช้Margin มากเกินไป เพราะหากCrashอย่างที่ผ่านมาแล้วTSFCหรือBrokeประกาศระงับวงเงิน เราต้องมาจ่ายดอกเบี้ยต่างหาก หากผิดชําระอาจ
force sell ได้แม้หุ้นคุณจะยังไม่โดน Call Marginก็ตาม
5 การเมืองบ้านเรามีผลต่อ ตลท มากโขข
6 ซื้อหุ้นเมื่อมี Margin of Safety ช่วยลดความรุนแรงจากการขาดทุนได้ไม่มากก็น้อย
7 ในวิกฤติย่อมมีโอกาศแน่ๆ ตอนนี้หุ้นดีๆราคาไม่แพงมีอยู่มากมาย จ่ายปันผลแน่นอน cashflowเยอะ
คร่าวๆแค่แหละแล้ว พี่ๆ มีอะไรมาshareกันบ้างหละครับ
ณ วันนี้ 5กันยายน2551
ตลาดตกจากสุดสูงสุดแถวๆ 887 จุดเหลือ 645 จุด หรือตกลง=27%
จากเหตุการณ์นี้ ผมมั่นใจในระดับ1ว่าVIใช้ได้ครับ เพราะอย่างน้อย Port เราก็ลบน้อยกว่าตลาดพอสมควร
บทเรียนที่ผมพอจะเข้าใจจากCrash คือ
1 สิ่งที่แน่นอนคือสิ่งที่ไม่แน่นอน เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ในตลาดหุ้น
ม๊อบ บุก ยึด ทําเนียบ หรือ ประกาศ พรก ฉุกเฉิน subprime มีปัจจัยควบคุมไม่ได้มากมายกระทบตลาดหุ้น
2 หากSentiment ตลาดไม่ดี ประกาศงบกําไรดี หุ้นก็ขึ้นไม่มาก ขึ้นแล้วก็ลง
3 หุ้นที่พื้นฐานแน่น กําไรโตเช่น cpall ( ตยเฉยๆนะ) ราคามักจะลงน้อยกว่าตลาดเยอะ
4 อย่าใช้Margin มากเกินไป เพราะหากCrashอย่างที่ผ่านมาแล้วTSFCหรือBrokeประกาศระงับวงเงิน เราต้องมาจ่ายดอกเบี้ยต่างหาก หากผิดชําระอาจ
force sell ได้แม้หุ้นคุณจะยังไม่โดน Call Marginก็ตาม
5 การเมืองบ้านเรามีผลต่อ ตลท มากโขข
6 ซื้อหุ้นเมื่อมี Margin of Safety ช่วยลดความรุนแรงจากการขาดทุนได้ไม่มากก็น้อย
7 ในวิกฤติย่อมมีโอกาศแน่ๆ ตอนนี้หุ้นดีๆราคาไม่แพงมีอยู่มากมาย จ่ายปันผลแน่นอน cashflowเยอะ
คร่าวๆแค่แหละแล้ว พี่ๆ มีอะไรมาshareกันบ้างหละครับ
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4526
- ผู้ติดตาม: 0
ได้บทเรียนอะไรจากMarket Crashกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 2
กฏข้อที่1 ของBuffetคือ
1 อย่าขาดทุน
2 อย่าลืมข้อที่1
พูดง่ายทําไม่ง่ายจริงๆ แต่มันเตือนสติให้เราไม่ลืมคิดที่จะปกป้องตนเองจากเกม ล่าส่วนเกินทุน แทนที่จะล่าอย่างเดียว เพราะคนอื่นก็กําลังล่าเราอยู่เช่นกัน
1 อย่าขาดทุน
2 อย่าลืมข้อที่1
พูดง่ายทําไม่ง่ายจริงๆ แต่มันเตือนสติให้เราไม่ลืมคิดที่จะปกป้องตนเองจากเกม ล่าส่วนเกินทุน แทนที่จะล่าอย่างเดียว เพราะคนอื่นก็กําลังล่าเราอยู่เช่นกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
ได้บทเรียนอะไรจากMarket Crashกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 4
ได้ซื้อหุ้นตัวเดิมในราคาที่ต่ำกว่าเดิม :D ตอนนี้นี้ที่บ้านมีช้อนเต็มบ้านแล้วครับ
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
- mario
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 720
- ผู้ติดตาม: 0
ได้บทเรียนอะไรจากMarket Crashกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 6
Investing is not about big returns ,
it's about safety of principal
and satisfactory returns.
เป็นคติที่ผมชอบมาก เตือนไม่ให้โลภ ไม่เสี่ยงเกินไป พยายามรักษาเงินต้น หลีกเลี่ยงการขาดทุน รักษาผลตอบแทนทบต้นไปเรื่ิอยๆ
it's about safety of principal
and satisfactory returns.
เป็นคติที่ผมชอบมาก เตือนไม่ให้โลภ ไม่เสี่ยงเกินไป พยายามรักษาเงินต้น หลีกเลี่ยงการขาดทุน รักษาผลตอบแทนทบต้นไปเรื่ิอยๆ
The basic ideas of investing are to look at stocks as business,
use the market's fluctuations to your advantage,
and seek a margin of safety.
Investing is not about big returns ,it's about safety of principal and satisfactory returns.
use the market's fluctuations to your advantage,
and seek a margin of safety.
Investing is not about big returns ,it's about safety of principal and satisfactory returns.
- SunShine@Night
- Verified User
- โพสต์: 2196
- ผู้ติดตาม: 0
ได้บทเรียนอะไรจากMarket Crashกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 7
ถึงหุ้นจะตก ก็อย่าให้จิตตกครับ 

VI ฝึกหัด สำนักปีเตอร์ ลินช์
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี
หวังผลต่อแทนทบต้นมากกว่า 15% ต่อปี

- kornjackrit
- Verified User
- โพสต์: 1524
- ผู้ติดตาม: 0
ได้บทเรียนอะไรจากMarket Crashกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 8
เป็นคำเตือนที่โดนครับ !!!mario เขียน:Investing is not about big returns ,
it's about safety of principal
and satisfactory returns.
เป็นคติที่ผมชอบมาก เตือนไม่ให้โลภ ไม่เสี่ยงเกินไป พยายามรักษาเงินต้น หลีกเลี่ยงการขาดทุน รักษาผลตอบแทนทบต้นไปเรื่ิอยๆ
ขอบคุณสำหรับการเผยแพร่นะครับ
ผมได้บทเรียนที่สำคัญอย่างนึงก็คือ
ถึงแม้โดยส่วนตัวผมจะลงทุนระยะยาว
แต่การมองอนาคตระยะสั้นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
เพราะในระยะสั้นถ้าตลาดมีแนวโน้มไม่ดี
เช่น นักลงทุนต่างชาติเทขาย(บังเอิญตัวที่ผมติดดอยเป็นหุ้นขนาดใหญ่)
เศรษฐกิจตกต่ำ ฯลฯ
ราคาหุ้นที่เราจะลงทุนนั้นก็อาจจะ
ปรับตัวลดลงทำให้เราสามารถซื่อได้ที่ราคาถูกกว่าราคาที่คิดจะซื้อ
ก่อนหน้านั้นนั่นก็คือทำให้เราได้กำไรมากขึ้นในอนาคต 5-10 ปี
และลดการขาดทุน(ทางบัญชี)ในระยะสั้น ได้พอสมควร

When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
- Juninho
- Verified User
- โพสต์: 1050
- ผู้ติดตาม: 0
ได้บทเรียนอะไรจากMarket Crashกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 10
1. ได้รู้ว่า การลงทุนแบบ focus แม้ตอนที่ตลาดขาขึ้นจะได้ผลตอบแทนสูง แต่ตอนขาลง เราก็เจ็บกว่าคนที่
ลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง เช่นกัน
เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ผมจะ ถือหุ้นมากตัวกว่าเดิมในพอร์ต
2. เห็นข้อเสีย ของการเล่น margin ได้ชัดเจนมากขึ้น
3. ได้เจอประสบการณ์ ที่สนุก ๆ กับชีวิตการลงทุน
ซึ่งชีวิตของคนเล่นหุ้นจะต้องเจอ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
กับการที่เซต ปรับตัวลงไปมากกว่า 25 เปอร์เซนต์
แล้วได้มาทบทวนการลงทุนของตนเอง
ทบทวนสภาพจิตใจของตนเอง
4. ได้รู้ว่า ตลาดหุ้นมันไม่ได้ง่ายเลย และอย่ามองโลกในแง่ดีเกินไป
5. ได้รู้ว่า "เก่งเทียมฟ้าหรือว่าโชคช่วย" (แอบแนะนำหนังสือดี)
ลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง เช่นกัน
เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ผมจะ ถือหุ้นมากตัวกว่าเดิมในพอร์ต
2. เห็นข้อเสีย ของการเล่น margin ได้ชัดเจนมากขึ้น
3. ได้เจอประสบการณ์ ที่สนุก ๆ กับชีวิตการลงทุน
ซึ่งชีวิตของคนเล่นหุ้นจะต้องเจอ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
กับการที่เซต ปรับตัวลงไปมากกว่า 25 เปอร์เซนต์
แล้วได้มาทบทวนการลงทุนของตนเอง
ทบทวนสภาพจิตใจของตนเอง
4. ได้รู้ว่า ตลาดหุ้นมันไม่ได้ง่ายเลย และอย่ามองโลกในแง่ดีเกินไป
5. ได้รู้ว่า "เก่งเทียมฟ้าหรือว่าโชคช่วย" (แอบแนะนำหนังสือดี)
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
But you must try, try and try
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 0
ได้บทเรียนอะไรจากMarket Crashกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 11
ได้รู้ซึ้งถึงผลลัพธ์ของ
ความอดทนในการรอคอยโอกาสอย่างที่ปาจารย์บัฟเฟตบอกไงครับ
หลายคนมักจะซื้อหุ้นเต็มพอร์ทตลอด พอตลาดเป็นแบบนี้เลยไม่มีเงินซื้อเพิ่ม อิอิ
ความอดทนในการรอคอยโอกาสอย่างที่ปาจารย์บัฟเฟตบอกไงครับ
หลายคนมักจะซื้อหุ้นเต็มพอร์ทตลอด พอตลาดเป็นแบบนี้เลยไม่มีเงินซื้อเพิ่ม อิอิ
-
- Verified User
- โพสต์: 1822
- ผู้ติดตาม: 0
ได้บทเรียนอะไรจากMarket Crashกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 13
เพิ่มอีก ทำให้เห็นว่า หุ้น pe สูง จะตกกระหน่ำแรงมากกว่าหุ้น pe ต่ำ
สังเกตเห็นหุ้นบางตัวราคาเริ่มนิ่ง แต่บางตัวซึ่ง pe สูง ซัก 30 ได้ หล่นมาเหลือ 20 แล้ว เดาว่าจะลงอีก เมือ่เทียบกับหุ้นตัวอื่น
ฝรั่งขายช่วงนี้ ทั้งการเมือง เงินเฟ้อ ซึ่งประเด็นเงินเฟ้อนี่น่าสน เพราะมันจะทำให้ราคาหุ้นลดลงมาสะท้อนผลตอบแทนที่ต้องสูงขึ้นจนคุ้มค่ากับการลงทุน
สังเกตเห็นหุ้นบางตัวราคาเริ่มนิ่ง แต่บางตัวซึ่ง pe สูง ซัก 30 ได้ หล่นมาเหลือ 20 แล้ว เดาว่าจะลงอีก เมือ่เทียบกับหุ้นตัวอื่น
ฝรั่งขายช่วงนี้ ทั้งการเมือง เงินเฟ้อ ซึ่งประเด็นเงินเฟ้อนี่น่าสน เพราะมันจะทำให้ราคาหุ้นลดลงมาสะท้อนผลตอบแทนที่ต้องสูงขึ้นจนคุ้มค่ากับการลงทุน
- Linzhi
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1464
- ผู้ติดตาม: 1
ได้บทเรียนอะไรจากMarket Crashกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 14
1 การลงทุน ควรมีรายได้จากอย่างอื่นด้วย จะเป็นทฤษฏีอะไรก็ได้เช่น Rich dad บอกว่าต้องมีธุรกิจ หุ้น แล้วก็อสังหา
2 การลงทุนไม่ต้องดูกราฟก็ได้ แต่ดูไ้ด้จะดีกว่า เพราะคนลงทุนด้วยกราฟเยอะจริง ๆ
3 Defensive stock คืิอเงินสดในรูปหุ้นยามตลาดตกต่ำ ไม่เป็นความจริงเสมอไป
4 ตลาดหุ้นเหมือนการใช้ชีวิตที่ไม่ควรประมาททุกลมหายใจ
5 ทุกครั้งมักมองไม่ออกว่าจะเป็นอะไรเหตุการณ์ระยะสั้น ๆ หรือระยะยาว ๆ จะมองออกหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว (ครั้งนี้ก็ไม่เว้น !!??) :lol:
2 การลงทุนไม่ต้องดูกราฟก็ได้ แต่ดูไ้ด้จะดีกว่า เพราะคนลงทุนด้วยกราฟเยอะจริง ๆ
3 Defensive stock คืิอเงินสดในรูปหุ้นยามตลาดตกต่ำ ไม่เป็นความจริงเสมอไป
4 ตลาดหุ้นเหมือนการใช้ชีวิตที่ไม่ควรประมาททุกลมหายใจ
5 ทุกครั้งมักมองไม่ออกว่าจะเป็นอะไรเหตุการณ์ระยะสั้น ๆ หรือระยะยาว ๆ จะมองออกหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว (ครั้งนี้ก็ไม่เว้น !!??) :lol:
- Alastor
- Verified User
- โพสต์: 2590
- ผู้ติดตาม: 0
ได้บทเรียนอะไรจากMarket Crashกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 16
เห็นด้วยครับ ผมไม่ค่อยห่วง port เท่าไหร่เพราะผลการดำเนินงานของทุกบริษัทอยู่ในระดับดี หรือ ดีกว่าที่คิด :8) น่าเป็นห่วงประเทศชาติมากกว่าmario เขียน:Investing is not about big returns ,
it's about safety of principal
and satisfactory returns.
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4526
- ผู้ติดตาม: 0
ได้บทเรียนอะไรจากMarket Crashกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 17
สําหรับผมแล้ว ขาขึ้นนั้น ไม่ยากเพราะใครๆก็กําไร ในเมื่อตลาดขึ้นหุ้นส่วนมากขึ้น หุ้นundervalueก็ขึ้นตามเพราะมี คนเยี่ยงVI หาอยู่ พอหุ้นเริ่มปรับตัว
Technicเริ่ม uptrend พวกtechnicก็เข้าตามๆด้วย นักเก็งกําไร
จึงวัดฝีมือไรไม่ได้มาก แต่ ตลาด หมี ขาลงเนี่ย วัดจริง ไม่ว่าstyleใหนขอให้ขาดทุนน้อยที่สุดเป็นพอ
The Bull walks up the stairs ,while the Bear climbs up the window.
อีกบทเรียนที่คิดได้ เวลากําไรหุ้นอย่าสุรุ่ยสุร่ายมากนัก เพราะ
ไม่รู้หมีจะมาตะปบเมื่อใหร่
ผมมีเพื่อนหลายstyleทั้งเป็นนักเก็งกําไร ปีนี้ยังกําไร20-30% techinicก็กําไร
แต่vi กําไร5% ถึง ขาดทุน 20%ก็มี
วิธีการจึงไม่ใช่คําตอบ ว่าจะได้ผลดีที่สุด แต่ ความถนัด ความชํานาญและประสบการณ์ ต่างหาก
ทางใครก็ทางมัน
Technicเริ่ม uptrend พวกtechnicก็เข้าตามๆด้วย นักเก็งกําไร
จึงวัดฝีมือไรไม่ได้มาก แต่ ตลาด หมี ขาลงเนี่ย วัดจริง ไม่ว่าstyleใหนขอให้ขาดทุนน้อยที่สุดเป็นพอ
The Bull walks up the stairs ,while the Bear climbs up the window.
อีกบทเรียนที่คิดได้ เวลากําไรหุ้นอย่าสุรุ่ยสุร่ายมากนัก เพราะ
ไม่รู้หมีจะมาตะปบเมื่อใหร่
ผมมีเพื่อนหลายstyleทั้งเป็นนักเก็งกําไร ปีนี้ยังกําไร20-30% techinicก็กําไร
แต่vi กําไร5% ถึง ขาดทุน 20%ก็มี
วิธีการจึงไม่ใช่คําตอบ ว่าจะได้ผลดีที่สุด แต่ ความถนัด ความชํานาญและประสบการณ์ ต่างหาก
ทางใครก็ทางมัน
- tum_H
- Verified User
- โพสต์: 1857
- ผู้ติดตาม: 0
ได้บทเรียนอะไรจากMarket Crashกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 18
ที่สำคัญ ตอนนี้มีหลายๆตัวที่มี MOSRocker เขียน:สําหรับผมแล้ว ขาขึ้นนั้น ไม่ยากเพราะใครๆก็กําไร ในเมื่อตลาดขึ้นหุ้นส่วนมากขึ้น หุ้นundervalueก็ขึ้นตามเพราะมี คนเยี่ยงVI หาอยู่ พอหุ้นเริ่มปรับตัว
Technicเริ่ม uptrend พวกtechnicก็เข้าตามๆด้วย นักเก็งกําไร
จึงวัดฝีมือไรไม่ได้มาก แต่ ตลาด หมี ขาลงเนี่ย วัดจริง ไม่ว่าstyleใหนขอให้ขาดทุนน้อยที่สุดเป็นพอ
แต่เสียอยู่อย่างเดียวคือ ไม่มีตังค์ซื้อเพิ่ม

ชาตินี้เป็นที่สุดแล้ว บัดนี้ไม่มีความเกิดอีก
-
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
ได้บทเรียนอะไรจากMarket Crashกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 19
มีคติที่เห็นบ่อยๆ(มาหลายเดือน)
...เมื่อมีดยังไม่หล่นถึงพื้น อย่านำมือไปรับมีด เดี๋ยวบาดมือครับ
....ว่าแต่ว่า โดนไปกี่แผลแล้วเนี่ย :D
...เมื่อมีดยังไม่หล่นถึงพื้น อย่านำมือไปรับมีด เดี๋ยวบาดมือครับ
....ว่าแต่ว่า โดนไปกี่แผลแล้วเนี่ย :D
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
- kin
- Verified User
- โพสต์: 668
- ผู้ติดตาม: 0
ได้บทเรียนอะไรจากMarket Crashกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 20
สมมติเรารู้ว่าค่าตั๋วหนังใบละ 100 บาท อยากดูหนังมากแต่คิดว่าแพงจึงตัดสินใจไม่ดู
แต่บังเอิญวันนั้นเดินผ่านหน้าโรงเห็นว่าเค้าลดราคา 20% เหลือ 80 บาท เราคิดว่าถูกมาก โอกาสแบบนี้มีไม่บ่อยจึงตัดสินใจซื้อตั๋วทันที จากนั้นก็ยิ้มดีใจว่าได้ดูหนังราคาถูกสมใจ และกลับบ้านอย่างมีความสุข ไปเล่าให้ใครๆฟังว่าได้ดูหนังมา ราคาถูกมั่กๆ
อีกสิบวันต่อมา เราเดินผ่านหน้าโรงอีกครั้ง เห็นเค้าลดราคาอีก แต่คราวนี้ลดเหลือเพียง 50 บาท (เค้าบอกว่าจะลดอีกไม่กี่วันนี้เท่านั้น) !!
อยากถามเพื่อนๆครับ ว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพื่อนๆจะทำอย่างไร ซื้ออีกมั้ย และรู้สึกอย่างไรที่เมื่อสิบวันก่อนเราซื้อตั๋วที่ราคาถึง 80 บาท
ไม่รู้ว่าเปรียบเทียบอย่างนี้แล้วจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นหรือไม่นะครับ แหะๆๆ
แต่บังเอิญวันนั้นเดินผ่านหน้าโรงเห็นว่าเค้าลดราคา 20% เหลือ 80 บาท เราคิดว่าถูกมาก โอกาสแบบนี้มีไม่บ่อยจึงตัดสินใจซื้อตั๋วทันที จากนั้นก็ยิ้มดีใจว่าได้ดูหนังราคาถูกสมใจ และกลับบ้านอย่างมีความสุข ไปเล่าให้ใครๆฟังว่าได้ดูหนังมา ราคาถูกมั่กๆ
อีกสิบวันต่อมา เราเดินผ่านหน้าโรงอีกครั้ง เห็นเค้าลดราคาอีก แต่คราวนี้ลดเหลือเพียง 50 บาท (เค้าบอกว่าจะลดอีกไม่กี่วันนี้เท่านั้น) !!
อยากถามเพื่อนๆครับ ว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพื่อนๆจะทำอย่างไร ซื้ออีกมั้ย และรู้สึกอย่างไรที่เมื่อสิบวันก่อนเราซื้อตั๋วที่ราคาถึง 80 บาท
ไม่รู้ว่าเปรียบเทียบอย่างนี้แล้วจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นหรือไม่นะครับ แหะๆๆ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ได้บทเรียนอะไรจากMarket Crashกันบ้างครับ
โพสต์ที่ 21
ซื้ออีกไหม คงตอบว่าไม่ เพราะเป็นเรื่องเดิมเคยดูมาแล้วkin เขียน:อยากถามเพื่อนๆครับ ว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพื่อนๆจะทำอย่างไร ซื้ออีกมั้ย และรู้สึกอย่างไรที่เมื่อสิบวันก่อนเราซื้อตั๋วที่ราคาถึง 80 บาท
แต่ถ้าจะถามไหมว่า เดือนก่อนราคาน้ำมันลิตรละ 35 บาท ปัจจุบันลดเหลือลิตรละ 30 บาท เราดีใจหรือว่าเสียใจ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี