การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
-
patriots
- Verified User
- โพสต์: 7
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ค่ากำไรต่อหุ้น ที่ดร.นิเวศน์ แนะนำว่า
หากต่ำกว่า7ถือว่าโตช้า
ถ้าอยู่ระหว่าง7-15 จะโตปานกลาง
ถ้ามากกว่า15 จะเป็นช่วงที่บริษัทนั้นๆ สามารถเติบโตได้เร็ว
สามารถใช้ตารางนี้ได้ไหมครับ

-
patriots
- Verified User
- โพสต์: 7
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
หรือว่าต้องใช้ กำไรต่อหุ้น ที่เป็นบาท ครับ
ขอบคุณครับ

-
pie450
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ขอติดตามด้วยคน นะคับ มือใหม่อยากรู้
ส่วนตัวคิดว่า น่าจะเป็นอันหลังนะครับ ผมมือใหม่ อยากรู้แยากเห็นไปหมด :oops:
ลงทุนมากน้อยไม่สำคัญ
-
poppo
- Verified User
- โพสต์: 1356
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
อันนี้ดูมาจากใน settrade.com มั้งครับ
ผมว่าท่านหมายถึง การเติบโตของกำไรต่อหุ้นระหว่างปีครับ
พี่ต้องเอากำไรทั้งปี หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมด จะได้กำไรต่อหุ้น (EPS)
EPS 07 - EPS 06/EPS 06*100 %
ก็จะได้เปอร์เซนต์การเติบโตครับ
แต่ถ้าอยากดูกำไรต่อหุ้นเลยก็ต้องเข้า
www.set.or.th ครับ
จงทนอด และอดทน
-
picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
|0 คอมเมนต์
patriots เขียน:ค่ากำไรต่อหุ้น ที่ดร.นิเวศน์ แนะนำว่า
หากต่ำกว่า7ถือว่าโตช้า
ถ้าอยู่ระหว่าง7-15 จะโตปานกลาง
ถ้ามากกว่า15 จะเป็นช่วงที่บริษัทนั้นๆ สามารถเติบโตได้เร็ว
ผมว่าน่าจะหมายถึง P/E มากกว่า
-
Pu
- Verified User
- โพสต์: 393
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
อันแรกมันคือ "กำไรต่อส่วนผู้ถือหุ้น" นี่ครับ น่าจะเป็น ROE
ส่วนกำไรต่อหุ้น ผมก็ว่ามันน่าจะหมายถึง PE นะครับ :)
งั้น ถ้าตอบคำถามก็น่าจะตรงกับอันที่ 2 มากกว่าครับ

-
acdc
- Verified User
- โพสต์: 238
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
picatos เขียน:
ผมว่าน่าจะหมายถึง P/E มากกว่า
ผมเข้าใจว่าตัวเลขนั้นหมายถึงเปอเซนต์ของกำไรที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนนะครับ
-
naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
หมายถึงgrowthครับ ส่วนROEท่านอาจารย์จะเลือกที่มากกว่า12%และถ้า15%ขึ้นยิ่งดีมากครับ แต่การกู้หนี้ยืมสินต้องน้อยหรือไม่มีด้วยครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
kornjackrit
- Verified User
- โพสต์: 1524
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ผมคิดว่าเป็นการเติบโตของกำไรเช่นเดียวกันครับ
มันต้องเป็น E(กำไร)/P(หุ้น) ไม่ใช่หรอครับ
ถ้าเป็น P(หุ้น)/E(กำไร)
อีกอย่างนะครับ
ค่า P/E ก็บอกไม่ได้ว่าหุ้นเติบโตแค่ไหน
บอกได้คราวๆว่าหุ้นตัวนี้ถูกหรือแพง
ในประเด็นที่ว่าถ้าบริษัทได้กำไรเ้ท่านี้จะต้องใช้เวลากี่ปี
ถึงจะได้กำไรเท่ากับราคาหุ้น หรือง่ายๆก้คือระยะเวลาคืนทุน
ยังไงก็ขอให้โชคดีกับการลงทุนครับ

:D :D
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
-
yong5589
- Verified User
- โพสต์: 41
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ค่ากำไรต่อหุ้น ที่ดร.นิเวศน์ แนะนำว่า
หากต่ำกว่า7ถือว่าโตช้า
ถ้าอยู่ระหว่าง7-15 จะโตปานกลาง
ถ้ามากกว่า15 จะเป็นช่วงที่บริษัทนั้นๆ สามารถเติบโตได้เร็ว
"กำไรต่อหุ้น" น่าจะจะเป็น "กำไรต่อส่วนผู้ถือหุ้น" = ROE มากกว่า
ROE หากต่ำกว่า7ถือว่าโตช้า
ROE ถ้าอยู่ระหว่าง7-15 จะโตปานกลาง
ROE ถ้ามากกว่า15 จะเป็นช่วงที่บริษัทนั้นๆ สามารถเติบโตได้เร็ว
ROE ยิ่งมากยิ่งดี แต่ก็ต้องดูค่าอื่นประกอบด้วย
-
yong5589
- Verified User
- โพสต์: 41
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ข้อห้า คุณภาพดูได้จากกำไรต่อส่วนของทุนหรือ ROE นี่คือความสามารถที่บริษัทจะทำกำไรคุ้มค่าเงินทุนที่บริษัทลงไป ธุรกิจที่มี ROE ต่ำหรือต่ำมากนั้น ว่าโดยทางทฤษฎีแล้วไม่ควรทำธุรกิจเลยไม่ต้องพูดถึงว่าจะขยายงาน เพราะทำไปแล้วก็ไม่คุ้มสู้จ่ายเงินทุนคืนเจ้าของไปจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม เวลาดูตัวเลข ROE ควรดูด้วยว่าบริษัทไม่ได้กู้เงินมากที่ทำให้บางครั้ง ROE ดูสูงแต่จริง ๆ แล้วเป็นการเอาเงินคนอื่นมาใช้ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตราย โดยปกติ ROE อย่างต่ำควรจะประมาณ 12-13% ขึ้นไป ถ้าต่ำกว่า 10% ต้องถือว่าคุณภาพแย่