อยากมีพี่เลี้ยงเก่ง
-
- Verified User
- โพสต์: 2
- ผู้ติดตาม: 0
อยากมีพี่เลี้ยงเก่ง
โพสต์ที่ 1
ผมเป็นน้องใหม่ครับไม่ทราบข้อมูลอะไรเลยแต่อยากเปิดวิสัยทัศน์ของตัวเองอีกด้านเพราะทางบ้านยากจนมากๆได้ยินแต่เขาบอกมาว่าอย่าเล่นแต่อ่านบทความแล้วน่าเสี่ยงดู เพราะผมไม่มีช่องทางไหนอีกแล้วการศึกษาน้อย จบแค่ ปวส ครับ
ไม่มีความรู้อะไรเลยอยากได้พี่เลี้ยงเก่งๆบอกทางครับ ติดต่อผ่าน E-mail ได้ครับ
- dino
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1281
- ผู้ติดตาม: 0
อยากมีพี่เลี้ยงเก่ง
โพสต์ที่ 2
แหะ แหะ การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจ
ผมไม่อยากให้ใครต้องเสียกะตังค์โดยไม่จำเป็น ฉะนั้นอ่านให้มากๆเข้าไว้ครับ
อย่าเพิ่งรีบเข้าลงทุน ตลาดหุ้นก็เหมือนกับสถานีรถไฟหัวลำโพง ประเดี๋ยวก็มีมาอีกขบวน
ไม่ขึ้นขบวนนี้ เดี๋ยวก็มีขบวนใหม่ สำคัญที่เลือกให้ดีก่อน เดี๋ยวขึ้นผิดขบวนจะได้ไม่เท่าเสียนะครับ
ผมไม่อยากให้ใครต้องเสียกะตังค์โดยไม่จำเป็น ฉะนั้นอ่านให้มากๆเข้าไว้ครับ
อย่าเพิ่งรีบเข้าลงทุน ตลาดหุ้นก็เหมือนกับสถานีรถไฟหัวลำโพง ประเดี๋ยวก็มีมาอีกขบวน
ไม่ขึ้นขบวนนี้ เดี๋ยวก็มีขบวนใหม่ สำคัญที่เลือกให้ดีก่อน เดี๋ยวขึ้นผิดขบวนจะได้ไม่เท่าเสียนะครับ
- samahara
- Verified User
- โพสต์: 136
- ผู้ติดตาม: 0
อยากมีพี่เลี้ยงเก่ง
โพสต์ที่ 4
ขยันอ่านครับ...
อ่านทุกอย่างที่พี่เขาถาม-ตอบกัน อ่านบทความให้หมด เพื่อทำความเข้าใจภาพรวม แล้วค่อยมาลงรายละเอียดย่อยในเรื่องการคำนวณค่าต่างๆ ..ยกเว้นห้อง 110 คน 100 หุ้น ยังไม่จำเป็น..
เรียนรู้จากประสบการณ์ของพี่เขาก่อน แล้วค่อยไปใช้เงินเรียนรู้เอง..
ห้ามรีบร้อนเด็ดขาด...
ปล. ผมก็เพิ่งเริ่มได้ไม่นานเหมือนกันครับ.
อ่านทุกอย่างที่พี่เขาถาม-ตอบกัน อ่านบทความให้หมด เพื่อทำความเข้าใจภาพรวม แล้วค่อยมาลงรายละเอียดย่อยในเรื่องการคำนวณค่าต่างๆ ..ยกเว้นห้อง 110 คน 100 หุ้น ยังไม่จำเป็น..
เรียนรู้จากประสบการณ์ของพี่เขาก่อน แล้วค่อยไปใช้เงินเรียนรู้เอง..
ห้ามรีบร้อนเด็ดขาด...
ปล. ผมก็เพิ่งเริ่มได้ไม่นานเหมือนกันครับ.
บุคคลผู้มีปัญญารู้จักใคร่ครวญ ย่อมตั้งตนได้ด้วยทรัพย์อันเป็นต้นทุน แม้มีประมาณน้อย เหมือนคนก่อไฟกองน้อย ให้เป็นกองใหญ่
-
- Verified User
- โพสต์: 101
- ผู้ติดตาม: 0
อยากมีพี่เลี้ยงเก่ง
โพสต์ที่ 5
จากประสบการณ์ และความรู้อันน้อยนิดของผมนะครับ ผมก็คงคล้ายๆกับคุณครับ ไม่ได้มีความรู้เรื่องการลงทุนมากนัก ภาษาอังกฤษก็เรียกว่าไม่กระดิก ทรัพย์ก็มีไม่มาก จึงไม่ได้หวังที่จะลงทุนเพื่อหวังร่ำรวยอะไรมาก เอาแค่ให้ช่วยครอบครัวได้บ้าง เพราะผมไม่ได้ทำงานประจำอะไร เพราะ มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ได้แต่อยู่บ้านกับพ่อแม่ และก็ช่วยภรรยาเลี้ยงลูกอยู่กับบ้านเวลาที่ภรรยาไปทำงาน
ผมเริ่มต้นก็ลงทุนในตลาดหุ้นเลย เพราะคิดว่าถ้าไม่ได้ลงมือกับตัวเองก็คงยากที่จะเข้าใจ แบบว่าไม่ได้มีความรู้มาก่อนเลย เปิดบัญชีได้ก็เริ่มซื้อขายเลย อาศัยถามมาร์เกตติ้ง เอา ระวังตัวโดยการเริ่มซื้อขายด้วยเงินที่ไม่มาก(แต่มันก็มากสำหรับผมแล้ว) ครังหนึ่งก็ไม่เกิน 50000 บาท กระทั้งทุกวันนี้ก็ยังคงซื้อขายครั้งละไม่เกิน 50000บาทเช่นเดิม เพราะไม่มีความมันใจในการลงทุนเลย และผมก็ไม่ใช่นักลงทุนประเภทซื้อขายรายวันหรือซื้อขายบ่อยๆ ผมอยากจะให้ตัวเองเป็นนักลงทุนหุ้นปันผล หรือเน้นมูลค่า อะไรทำนองนี้(แต่ก็ยากสำหรับผม ที่อยู่ต่างจังหวัด ห้องค้าก็ไม่เคยเข้าเลย ได้แต่ซื้อขายทางโทรศัพท์)
ผมลงทุนในหุ้นมาประมาณ 3ปี โดยประมาณ ทุกวันนี้ยอมรับว่าขาดทุนครับ ขาดทุนอยู่ประมาณ 25%(ไม่คิดปันผล) ผมก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าไม่เป็นไรซื้อประสบการณ์ แต่คงจะดีกว่านี้มากถ้า ซื้อเวลา3 ปีกลับมาได้ ก็คงจะไม่ใจร้อนเช่นนั้น
จากประสบการณ์อันน้อยนิดของผมจึงอยากจะแนะนำคุณดังนี้ครับ
- อ่าน หาความรู้เรื่องการลงทุน ดังที่หลายๆท่านแนะนำ จนคิดว่าตนเองเริ่มมีความมันใจว่า มีความเข้าใจในระดับหนึ่ง ก่อน และอ่าน ฟัง อย่างสม่ำเสมอ
- อาจจะเริ่มลงทุนโดยใช้การลงทุนจำลองก่อนครับ ใน settrade.com หรือจะทำเองก็ได้ แต่ต้องคิดว่าเป็นเงินของคุณจริงๆ นะครับห้ามทำเป็นเล่น โดยใช้วงเงินที่คุณคิดว่าคุณสามารถจะลงทุนได้ เมื่อเวลาผ่านไปคุณจะเห็นครับว่าวิธีการลงทุนของคุณมันจะกำไรมหาศาล หรือขาดทุน หรืออยู่กับที่ และคุณก็จะได้ประสบการณ์ที่สมจริงโดยไม่ต้องเสี่ยง เช่นผมครับ และก็จะเริ่มทราบว่าตนเหมาะสมจะเป็นนักลงทุนแบบไหน จะใช้กลยุทธอะไรที่เหมาะกับสภาพการของคุณ จนมันใจจึงเริ่มลงทุนจริง หรือลงทุนหนักขึ้น
- มีหลายท่านที่กำไรเพราะภาวะตลาด หรือภาวะเศรษฐกิจขาขึ้น เพราะฉนั้นควรตรวจสอบตัวเองว่ากำไร ขาดทุนจากอะไร เพราะมีวินัยหรือใช้กลยุทธ เหมาะสมกับภาวะนั้นจริงๆ จะได้ไม่คิดเข้าข้างตัวเองมากไป
- การลงทุน ลงทุนได้ในหลายอย่างครับ ผมนับว่ายังโชคดีที่ไม่ได้ลงทุนในหุ้นเพียงอย่างเดียว การลงทุนโดยรวมผมยังถือว่ากำไร หุ้นผมขาดทุน แต่ทองที่ออมไว้บ้างราคาเพิ่มขึ้น ที่ดินที่ซื้อไว้บ้างราคาประเมิณเพิ่มขึ้น โดยรวมการลงทุนของผมจึงยังพอจะเป็นค่านมลูกได้ครับ ขอให้เราสนใจมันครับ และประเมิณว่าภาวะนี้ควรจะลงทุนอะไรสัดส่วนเท่าใดครับ และความรู้ที่คุณศึกษาเรื่องการลงทุน หรือเรื่องหุ้นมันจะช่วยคุณได้ในการตัดสินใจ มันจะไม่สูญเปล่า ทำให้คุณเห็นภาพชัดขึ้น ได้อย่างแน่นอนผมยืนยันถ้าคุณศึกษาหาข้อมูลสม่ำเสมอ อะไรก็ลงทุนได้ หุ้น ทอง ที่ดิน กองทุน สินค้าเกษตร หรือจะทำธูกิจส่วนตัวก็ปรับใช้ได้ดีครับ
- เงินน้อยอย่าท้อครับค่อยๆวางแผน เหมือนที่ผมหวังว่าสักวันเงินจะเป็นทาส มารับใช้เราครับ พยายามเอาเงินไปอยู่ให้ถูกที่ถูกเวลาครับก็จะงอกเงยครับ แน่นอนว่าไม่มีใครทำได้ถูกที่ไปซะหมด แต่ที่คุณได้ศึกษา หาข้อมูลเรื่องหุ้นนั้นแหละมันจะช่วยคุณได้
จากประสบการอันน้อยนิดของผมหวังว่าคงมีประโยชน์บ้างนะครับ
ผิดถูกประการใดแนะนำด้วยครับ และขออภัยไว้ณโอกาศนี้ครับ
ผมเริ่มต้นก็ลงทุนในตลาดหุ้นเลย เพราะคิดว่าถ้าไม่ได้ลงมือกับตัวเองก็คงยากที่จะเข้าใจ แบบว่าไม่ได้มีความรู้มาก่อนเลย เปิดบัญชีได้ก็เริ่มซื้อขายเลย อาศัยถามมาร์เกตติ้ง เอา ระวังตัวโดยการเริ่มซื้อขายด้วยเงินที่ไม่มาก(แต่มันก็มากสำหรับผมแล้ว) ครังหนึ่งก็ไม่เกิน 50000 บาท กระทั้งทุกวันนี้ก็ยังคงซื้อขายครั้งละไม่เกิน 50000บาทเช่นเดิม เพราะไม่มีความมันใจในการลงทุนเลย และผมก็ไม่ใช่นักลงทุนประเภทซื้อขายรายวันหรือซื้อขายบ่อยๆ ผมอยากจะให้ตัวเองเป็นนักลงทุนหุ้นปันผล หรือเน้นมูลค่า อะไรทำนองนี้(แต่ก็ยากสำหรับผม ที่อยู่ต่างจังหวัด ห้องค้าก็ไม่เคยเข้าเลย ได้แต่ซื้อขายทางโทรศัพท์)
ผมลงทุนในหุ้นมาประมาณ 3ปี โดยประมาณ ทุกวันนี้ยอมรับว่าขาดทุนครับ ขาดทุนอยู่ประมาณ 25%(ไม่คิดปันผล) ผมก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าไม่เป็นไรซื้อประสบการณ์ แต่คงจะดีกว่านี้มากถ้า ซื้อเวลา3 ปีกลับมาได้ ก็คงจะไม่ใจร้อนเช่นนั้น
จากประสบการณ์อันน้อยนิดของผมจึงอยากจะแนะนำคุณดังนี้ครับ
- อ่าน หาความรู้เรื่องการลงทุน ดังที่หลายๆท่านแนะนำ จนคิดว่าตนเองเริ่มมีความมันใจว่า มีความเข้าใจในระดับหนึ่ง ก่อน และอ่าน ฟัง อย่างสม่ำเสมอ
- อาจจะเริ่มลงทุนโดยใช้การลงทุนจำลองก่อนครับ ใน settrade.com หรือจะทำเองก็ได้ แต่ต้องคิดว่าเป็นเงินของคุณจริงๆ นะครับห้ามทำเป็นเล่น โดยใช้วงเงินที่คุณคิดว่าคุณสามารถจะลงทุนได้ เมื่อเวลาผ่านไปคุณจะเห็นครับว่าวิธีการลงทุนของคุณมันจะกำไรมหาศาล หรือขาดทุน หรืออยู่กับที่ และคุณก็จะได้ประสบการณ์ที่สมจริงโดยไม่ต้องเสี่ยง เช่นผมครับ และก็จะเริ่มทราบว่าตนเหมาะสมจะเป็นนักลงทุนแบบไหน จะใช้กลยุทธอะไรที่เหมาะกับสภาพการของคุณ จนมันใจจึงเริ่มลงทุนจริง หรือลงทุนหนักขึ้น
- มีหลายท่านที่กำไรเพราะภาวะตลาด หรือภาวะเศรษฐกิจขาขึ้น เพราะฉนั้นควรตรวจสอบตัวเองว่ากำไร ขาดทุนจากอะไร เพราะมีวินัยหรือใช้กลยุทธ เหมาะสมกับภาวะนั้นจริงๆ จะได้ไม่คิดเข้าข้างตัวเองมากไป
- การลงทุน ลงทุนได้ในหลายอย่างครับ ผมนับว่ายังโชคดีที่ไม่ได้ลงทุนในหุ้นเพียงอย่างเดียว การลงทุนโดยรวมผมยังถือว่ากำไร หุ้นผมขาดทุน แต่ทองที่ออมไว้บ้างราคาเพิ่มขึ้น ที่ดินที่ซื้อไว้บ้างราคาประเมิณเพิ่มขึ้น โดยรวมการลงทุนของผมจึงยังพอจะเป็นค่านมลูกได้ครับ ขอให้เราสนใจมันครับ และประเมิณว่าภาวะนี้ควรจะลงทุนอะไรสัดส่วนเท่าใดครับ และความรู้ที่คุณศึกษาเรื่องการลงทุน หรือเรื่องหุ้นมันจะช่วยคุณได้ในการตัดสินใจ มันจะไม่สูญเปล่า ทำให้คุณเห็นภาพชัดขึ้น ได้อย่างแน่นอนผมยืนยันถ้าคุณศึกษาหาข้อมูลสม่ำเสมอ อะไรก็ลงทุนได้ หุ้น ทอง ที่ดิน กองทุน สินค้าเกษตร หรือจะทำธูกิจส่วนตัวก็ปรับใช้ได้ดีครับ
- เงินน้อยอย่าท้อครับค่อยๆวางแผน เหมือนที่ผมหวังว่าสักวันเงินจะเป็นทาส มารับใช้เราครับ พยายามเอาเงินไปอยู่ให้ถูกที่ถูกเวลาครับก็จะงอกเงยครับ แน่นอนว่าไม่มีใครทำได้ถูกที่ไปซะหมด แต่ที่คุณได้ศึกษา หาข้อมูลเรื่องหุ้นนั้นแหละมันจะช่วยคุณได้
จากประสบการอันน้อยนิดของผมหวังว่าคงมีประโยชน์บ้างนะครับ
ผิดถูกประการใดแนะนำด้วยครับ และขออภัยไว้ณโอกาศนี้ครับ