ลงทุนมากี่ปี่ครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ลงทุนมากี่ปีครับ

โพลจบเมื่อ เสาร์ ม.ค. 26, 2008 8:03 pm

ไม่ถึงปี
25
17%
1-2 ปี
28
19%
2-3 ปี
20
14%
3-4 ปี
27
19%
4-5 ปี
15
10%
5-10 ปี
29
20%
 
โหวตทั้งหมด: 144

akekarat
Verified User
โพสต์: 1746
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 31

โพสต์

ประมาณ 6 ปีเหมือนกันครับ เริ่มตั้งแต่ไปงาน Investor Fair เมื่อปี 44 กลางปีมั๊ง แล้วพอกันยาก็เจอตึกเวิลด์เทรดถล่ม แล้วก็เริ่มเล่นหลังจากนั้นเลย ประมาณ สองสามร้อยจุดได้ สมัยนั้น
mEtOO
Verified User
โพสต์: 41
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 32

โพสต์

ผมเริ่มพร้อมคุณ akekarat ครับ เปิดพอร์ตที่งาน investor fair นั่นแหละครับ ผ่าน 911 มาเหมือนกัน
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 33

โพสต์

เหมือนคุณ metoo กับคุณ akekarat เลยครับ :)
It's earnings that count
deweykung
Verified User
โพสต์: 28
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 34

โพสต์

ถ้านับตั้งแต่ ซื้อหุ้นตัวแรกก็ยังไม่ถึงปีครับ หาประสปการณ์อยู่ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
leaderinshadow
Verified User
โพสต์: 1765
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 35

โพสต์

ปีนี้ ครบ 5 ขวบครับ  :D

2 ปีแรก ลองผิดลองถูก ขาดทุนบานๆๆๆๆๆๆๆๆ  :lol:

2 ปีต่อมา เริ่มมาถูกทาง แล้วก็ถอนทุนคืนจนหมด  :)

ตอนนี้ คือช่วงเวลาแห่งเก็บเกี่ยว   :P
leksmile
Verified User
โพสต์: 2126
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 36

โพสต์

ไม่มีเกิน 10 ปี เลยไม่รู้จะโหวตช่องไหน
shinnozuke
Verified User
โพสต์: 341
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 37

โพสต์

เดือนหน้าก็จะครบ 1 ปีแล้วครับ        :cheers:
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 38

โพสต์

อิอิ คุณ leksmile อีกคน ที่เกินสิบปี ข้าน้อยขอคาราวะ
CupJok
Verified User
โพสต์: 465
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 39

โพสต์

4 ปีครับเริ่มตอนเรียนปีสอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Alastor
Verified User
โพสต์: 2590
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 40

โพสต์

เกือบจะ 4 ปีแล้วครับ เริ่มมาเป็น VI เลยเหมือนคุณ Eyore แต่เข้า TVI ซัก 6 เดือนหลังจากเริ่ม โชคดีได้เพื่อนชวนมา  :D
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
orrashon22
Verified User
โพสต์: 24
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 41

โพสต์

รู้จักว่ามีตลาดหุ้นมาตั้งแต่สมัยประถม (สมัยสงครามอ่าวเปอร์เซีย ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)จากที่คุณพ่อ เล่นหุ้น แต่ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก เพราะว่าคุณแม่จะพูดเสมอว่าไม่ดี แต่ประมาณ 5 เดือนก่อนเพื่อนได้แนะนำให้รู้จักเวบนี้ค่ะ ทำให้รู้ว่าจริง ๆ การเล่นหุ้น ต่างกับ การลงทุนในหุ้น ตอนนี้มีปอดเล็กจิ๋ว เป็นของตัวเองอยู่ค่ะ กำลังค่อย ๆ ตกแต่งดูแล เพื่อที่จะให้เป็นปอดใหญ่ ๆ ต่อไป :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
alexx
Verified User
โพสต์: 332
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 42

โพสต์

เข้ามาใช้สิทธิ ครับ พี่เจ๋ง  :lol:
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 43

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

รู้จักว่ามีตลาดหุ้นมาตั้งแต่สมัยประถม (สมัยสงครามอ่าวเปอร์เซีย ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)จากที่คุณพ่อ เล่นหุ้น แต่ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก เพราะว่าคุณแม่จะพูดเสมอว่าไม่ดี แต่ประมาณ 5 เดือนก่อนเพื่อนได้แนะนำให้รู้จักเวบนี้ค่ะ ทำให้รู้ว่าจริง ๆ การเล่นหุ้น ต่างกับ การลงทุนในหุ้น ตอนนี้มีปอดเล็กจิ๋ว เป็นของตัวเองอยู่ค่ะ กำลังค่อย ๆ ตกแต่งดูแล เพื่อที่จะให้เป็นปอดใหญ่ ๆ ต่อไป 
ประถม 1 อายุ 6 ขวบ ตอนปี 2532 ปัจจุบันก็อายุ 24

ประถม 6 อายุ 12 ตอนปี 2532 ปัจจุบันก็อายุ 30

น้อง orrashon22 ก็ต้องมีอายุอยู่ระหว่าง 24 - 30

อืม ทำเราแก่เร็วขึ้นจัง ยังจำได้เลย ว่าหลังอ่าวเปอร์เซีย 1 ปี ก็เข้าเล่นหุ้นเหมือนกัน

กลายเป็นรุ่นเพื่อนคุณพ่อ ไปซะงั้น
wr
Verified User
โพสต์: 149
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 44

โพสต์

หัดเล่นตั้งแต่เพลงรุ้งตัวอ้วนดัง
เริ่มด้วยกองทุนสินภิญโญ 4 มั้งครับ
จนยุคชาติชาย ชวลิต ก็ยังเล่นหุ้น
ทุ่มเข้าไปช่วงดัชนีร่วงจาก 1700 มาเหลือ 6-7 ร้อย
ที่ไหนได้ มันพาดำดิ่งต่อลงไปถึง 200 กว่าจุด
เลยหันมาลงทุน แทน เล่น (ตีแตกของดร.บันดาลใจ)
หอบกำไรจากช่วงมันดีดกลับไปลงทุนอสังหา (คิโยซากิแล้วทีนี้)
หอบกำไรอสังหาไปเปิดธุรกิจ เจ๊ง 2 รุ่ง 2 เหนื่อยจัง
ตอนนี้กลับมาเรียนรู้จากที่นี่เพื่อลงทุนหุ้นเป็นการสันทนาการต่อไปตลอดกาล
babooloo1981
Verified User
โพสต์: 40
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 45

โพสต์

ไม่ถึงปีคร๊าบ
beammy
Verified User
โพสต์: 3345
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 46

โพสต์

ปีนี้ปีที่ 5 จ๊ะ  :8)  ...
โค
Verified User
โพสต์: 188
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 47

โพสต์

ยังไม่ถึงปีเลยครับ หนักไปทางลงอย่าอื่นซะมากกว่า  :lol:  หวัดดีพี่ เจ๋งครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
pavilion
Verified User
โพสต์: 1766
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 48

โพสต์

เริ่มเล่นหุ้นครั้งแรกเมื่อประมาณ 3 ปีกว่าก็กะว่าจะเล่นแบบลงทุน เล่นไปเล่นมาใจตัวเองทนไม่ไหวอยากรู้ว่าถ้าเก็งกำไรเป็นยังไงก็เลยลองเล่นเก็งกำไรได้
ประมาณครึ่งปีก็เท่าทุนไม่ได้ไม่เสียตังค์แต่เสียสุขภาพจิตก็เลยหันมาในแนวทาง VI เต็มตัว
noppakung
Verified User
โพสต์: 61
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 49

โพสต์

เริ่มลงทุนมาประมาณ 6 เดือนครับ  ช่วงนี้ SET ลง capital gain ก็ไม่เท่าไหร่  แต่ dividen ชื่นใจกว่าฝากแบงค์มากมายนัก
ศึกษาเริ่องหุ้นมานาน  พอเริ่มทำงานเก็บตังค์ก็ลงทุนเลยครับ  ได้เวบนี้แหละครับเป็นที่พึ่ง  อ่านมาตลอดแต่ไม่เคยโพสต์  ขอบคุณพี่ๆทุกคนมากครับ
Pu
Verified User
โพสต์: 393
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 50

โพสต์

ประมาณ 8 ปีครับ :lol:
Glaxo
Verified User
โพสต์: 311
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 51

โพสต์

ก่อน 911 ประมาณ 3 เดือนครับ
หลังจากซื้อหนังสือตีแตกที่วางอยู่ล่างสุดแถมเอาสันหนังสือออกอีกที่ SE-ED
นับว่าเป็นบุญจริงๆ
Sittipan.tvi
Verified User
โพสต์: 193
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 52

โพสต์

ลงทุนมาได้ 6 วันแล้วครับ แต่ได้ศึกษาแนวทางvi จากรายการ money talk daily และ เวปthaivi มา 6 เดือนแล้วครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
soloman
Verified User
โพสต์: 131
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 53

โพสต์

ผมน่าจะสัก 1 กว่าเกือบจา สองแล้วครับ
The power of Imagine
pornchal
Verified User
โพสต์: 1070
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 54

โพสต์

เริ่มซื้อหุ้นตั้งแต่ปี 2532-2539 ครับ กี่ปีแล้วนี่ ไม่ได้ซื้อตั้งแต่ ปี 2540-2546 เริ่มอีกที ปี 2547 ถึงปัจจุบันครับ
นานมากจริง ๆ
NooLek
Verified User
โพสต์: 23
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 55

โพสต์

[quote="noppakung"]ได้เวบนี้แหละครับเป็นที่พึ่ง
makhorse
Verified User
โพสต์: 29
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 56

โพสต์

ลงทุนมาตั้งแต่ปี 2528 สมัย SET อยู่ที่ 150 กว่าๆ ซื้อหุ้นตัวแรกคือ TFB (KBANK ปัจจุบัน) ที่ราคา 220 มีปันผลประมาณ 7% ที่ซื้อเพราะปันผล รู้สึกตอนนั้นจะเท่ากับดอกเบี้ยเงินฝากแบงค์ และคิดเองว่าเป็นบริษัทที่มั่นคงไม่เจ๊งดูจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (ล่ำซำ)ต่อมาไม่นานปรากฎว่าที่คิดนะถูกต้องคือกิจการไม่เจ๊งแต่นักลงทุนอย่างเราเจ๊งเพราะราคาลงไปที่ 180 บาท เลยทำตามหนังสือที่อ่านมาคือ Cut loss  แล้วมาซื้อหุ้นกองทุนสินภิณโญ3 แถวๆ 16 บาท ผลคืออีกแล้วครับท่านเจ๊ง ต่อมาประมาณกลางปี 2529 อ่านบทความของ ดร ไพบูลย์ในหนังสือพิมพ์ ดร ว่าหุ้นน่าลงทุนแล้ว เพราะตั้งแตปี 2528 ถึง 2529 ดอกเบี้ยได้ลดลงมาตลอดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จากบทความนั้น ก็ซื้อหุ้นอีก แต่ตัวไหนจำไม่ได้แล้ว จากนั้นไม่ถึงเดือนมหกรรมบันเทิงครั้งยิ่งใหญ่ก็ได้เริ่มขึ้น SET วิ่งจาก 130กว่าๆ ไป 470 ม้วนเดียวจบเมื่อไปเจอ Black monday ระหว่างทางขึ้นนั้น ผมก็ซื้อๆขายๆแต่มีหุ้นที่ถือไว้คือphatra, Suc, Uaf (ร่วมเสริมกิจ ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว) , Nfs ผมจำได้แต่ราคา NFS คือขึ้นมาจาก 30 กว่า ไปที่ 500 กว่าๆในช่วงเวลานั้น ส่นตัวอื่นก็ขึ้นในระดับที่น้อยกว่า NFS ไม่มากโดยเฉพาะพวกสิ่งทอ AFC UT รวมทั้ง SUC ตอนนั้นผมซื้อหุ้นประมาณ 7-80,000บาท ได้กลับมาทั้งหมด ล้านเศษๆในช่วง 1 ปี พอเจอ Black Monday หุ้นเราก็ลงจาก 470 มาที่ 250  NFS ลงจาก 500 มาที่ 100ต้นๆ ทุกคนบอกว่าเศรษฐกิจเรายังดี ดร มารวยเป็นผจก ตลาดก็ออกมาบอกว่าเศรษฐกิจเรายังดี อย่าตกใจ แล้วในที่สุดก็เป็นจริงคือหุ้นเราตีกลับจาก 240-250 ไปที่เดิมคือ 470 NFS ก็วิ่งจาก 100ต้นๆไปที่ 500กว่าที่เดิม ตอนนั้นผมก็ไม่รู้อะไรเลยรู้แต่ว่ากิจการทำอะไรแค่นี้ ไม่รู้ว่ากำไรเป็นไง แนวโน้มธุรกิจเป็นไง รู้อย่างเดียวกรูซื้อแล้วถือไปมันลงมาเดี่ยวก็ขึ้นไปแล้วพยายามอย่าขาย ในระหว่างนั้นก็ได้ไปอ่านตำราที่ห้องสมุดตลาดหลักทรัพย์ได้ไปอบรมการวิเคราะห์หุ้นที่ตลาดเป็นผู้จัด ยังได้รับใบประกาศการผ่านการอบรมจาก ดร มารวยเลย ตอนนั้นรู้สึกว่าจะเด็กที่สุดในผู้ที่เข้าอบรม ในช่วงที่อ่านตำราในห้องสมุดตลาดส่วนใหญ่จะเป็นตำรานอกเปิดดิกแทบจะคำต่อคำ แต่ที่ชอบคือ Technical analysis ของ Magee ก็เลยไปหาที่ Asia book แต่หาเจอของ John Murphy (Technical analysis of the futures market) หลังจากอ่านจบหมดหลายๆรอบ ก็มานั่งเขียนกราฟหุ้นเองด้วยมือ บางทีพวกกราฟก็ใช้ได้ดี แค่บางทีเท่านั้น ทีไหนก็ไม่รู้จะรู้เมื่อผ่านไปแล้ว
ต้องขอตัวไปทำธุระก่อน เขียนมาตั้งยาวเป็นแค่ประสบการณ์ที่ผ่านมากับตัว
makhorse
Verified User
โพสต์: 29
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 57

โพสต์

หลังจากนั้นก็นั่งเขียนกราฟด้วยมือ แล้วซื้อขายตามกราฟโดยเขียนเฉพาะกราฟดัชนีและหุ้นตัวใหญ่อีก 10กว่าตัวเพราะเขียนทั้งหมดไม่ไหวเวลาตลาดปิดก็ต้องรอจนกว่าหัวม่วง(สรุปราคาซื้อขายประจำวัน)จะออกประมาณบ่ายสองบ่ายสาม ถึงนำเอาราคามาเขียนกราฟ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เศรษฐกิจเราชะลอตัวประมาณปี 2531 ตอนนั้นก็ได้นิดเสียหน่อย มองจากตอนนี้ย้อนไปที่เสียดายคือตอนที่ราคาลงแล้วเราดันไปขายทิ้ง เพราะตอนที่ซื้ออีกทีราคาก็สูงกว่าที่เราขายไปทั้งนั้น ช่วงนั้นเองก็เริ่มสงสัยในการเทรด(การซื้อๆขายๆระยะสั้น) เพราะถ้าได้ก็ได้หน่อยถ้าเสียก็เสียนิด(อาศัย Cut loss ไว) แต่ผมกะจะฟาดทั้งนิดทั้งหน่อย ทำไปทำมาก็เสมอตัว ประจวบกับได้เวลาไปเรียนต่อเมืองนอกเลยพักเรื่องหาวิธีลงทุนที่ได้เยอะๆไว้แต่ถึงแม้ไปเรียนต่อก็ยังติดตามหุ้นไทยตลอดระยะเวลาก่อนไปก็คิดว่าซื้อหุ้นที่ดีทิ้งไว้ หุ้นตัวนั้นก็คือ IFCT ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เรียนจนจบโท หุ้นที่ดีนี่ก็ไม่ไปไหนขณะที่ตัวอื่นขึ้นกันวินาศสันตโร ช่วงนั้นปี 2532-2534 ระหว่างที่เรียนอยู่เมืองนอกก็ได้มีโอกาสได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนหลายๆเล่มแต่มีที่ชอบมากอยู่ 3 เล่ม  The intelligent investor (Benjamin Graham) , How to make money in stocks (William O'neil), Reminiscences of a stock operator (Edwin Lefevre ) - เรื่องนี่เค้าว่าเป็นเรื่องจริงของ Jesse Livermore (The greatest speculator) แต่สุดท้ายตัว Jesse เองก็หมดตัวและยิ่งตัวตายในโรงแรมเล็กๆ  บทที่ชอบของหนังสือทั้ง 3เล่มนี้คือ The investor and market fluctuations , Margin of safety (มาจาก The intelligent investor) , CANSLIM เฉพาะตัว C & N (current earning up & Stock price new high & new product) จากหนังสือของ O'neil  สำหรับ Jesse ชอบที่เค้าว่า Buy only leader not leggard และ It's always my sitting that make me big money not my thinking - ปัจจุบันนี้เข้าใจความหมายของประโยคนี้เข้าไปในกระดูกเลย. โชคดีที่ผมเก็บใบคอนเฟิร์มไว้หมดเลยช่วงนั้นหลังจากเรียนจบกลับมาเลยเอาที่เราเคยซื้อขายทั้งหมดมานั่งวิเคราะห์ดู ความผิดพลาดทั้งหมดก็จะวนอยู่ใน5-6ข้อ ของบทความในหนังสือ ตอนช่วงที่ได้มาก็วนอยู่ในข้อที่เราทำถูกแต่ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าต้องทำยังไงจะเรียกว่าโชคดีก็ได้ถ้าผมมาเริ่มซื้อขายหุ้นก่อน  Black Monday สัก1-2เดือนก็คงเจ๊งเรียบอาจเลิกไปแล้วก็ได้  ย้อนกลับไปตอนที่เรียนอยู่ก็ได้มีโอกาสไปฝึกการใช้โปรแกรม Computrac (เป็นโปรแกรม Technical analysis) ในการวิเคราะห์หุ้นพอเรียนจบกลับมาเมืองไทยก็ไปสมัครงานในบริษัทนายหน้าตอนที่เค้ารับเค้าให้เลือกว่าจะเป็นมาร์หรือนักวิเคราะห์ ผมเลือกเป็นมาร์เพราะผมชอบการซื้อขายหุ้นและอยากจะรู้ว่าคนที่ลงทุนแล้วได้กำไรเค้ามีวิธีอย่างไร การเป็นมาร์ทำให้มีโอกาสเจอมากกว่า แค่โอกาสแต่เจอหรือป่าวไม่รู้
MindTrick
Verified User
โพสต์: 1289
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 58

โพสต์

[quote="makhorse"]ลงทุนมาตั้งแต่ปี 2528 สมัย SET อยู่ที่ 150 กว่าๆ ซื้อหุ้นตัวแรกคือ TFB (KBANK ปัจจุบัน) ที่ราคา 220 มีปันผลประมาณ 7% ที่ซื้อเพราะปันผล รู้สึกตอนนั้นจะเท่ากับดอกเบี้ยเงินฝากแบงค์ และคิดเองว่าเป็นบริษัทที่มั่นคงไม่เจ๊งดูจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (ล่ำซำ)ต่อมาไม่นานปรากฎว่าที่คิดนะถูกต้องคือกิจการไม่เจ๊งแต่นักลงทุนอย่างเราเจ๊งเพราะราคาลงไปที่ 180 บาท เลยทำตามหนังสือที่อ่านมาคือ Cut loss
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
ภาพประจำตัวสมาชิก
picatos
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3227
ผู้ติดตาม: 4

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 59

โพสต์

รอฟังด้วยครับ...  :)
บัวพ้นน้ำ
Verified User
โพสต์: 8
ผู้ติดตาม: 0

ลงทุนมากี่ปี่ครับ

โพสต์ที่ 60

โพสต์

ลงทุนมา 2 ปี แล้วครับ  ขาดทุนส่วนใหญ่เพราะ blue ship แต่ กำไรมาก ๆ ที่ หุ้น VI แบบ Growth stock มากกว่า  ก็เลยคิดจะลงทุนแต่ small and medium growth VI stock น่าจะตอบแทนได้ดีกว่าเยอะ :doi:
Life is charity