บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอและแนะนำได้ ผลปร
-
- Verified User
- โพสต์: 87
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอและแนะนำได้ ผลปร
โพสต์ที่ 1
จาก
เจ้าของ VS นักลงทุน
โลกในมุมมองของ Value Investor
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 17 มีนาคม 51
บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอและแนะนำได้ ผลประโยชน์ของเราเหมือนกัน และนี่คือสิ่งที่ Value Investor อยากเจอและอยากคบค้าด้วย
ในฐานะของ Value Investor บางทีเราก็ต้องวิเคราะห์เหมือนกันว่าแรงจูงใจของ เจ้าของ คืออะไร ถ้าเขาต้องการรักษาบริษัทไว้เป็นสมบัติหรือกงสีของตระกูลและมองว่านักลงทุนคือ ลูกค้า ที่เอาเงินมาให้เขา เช่า และจ่ายผลตอบแทนเป็นปันผล ผมคิดว่านี่คงไม่ใช่การลงทุนที่ดีนัก ประสบการณ์ของผมกับบริษัทประเภทนี้ ถึงจะไม่เลวร้ายแต่ก็ไม่น่าอภิรมย์ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ เรารู้สึกเสียอารมณ์และความรู้สึก ศักดิ์ศรี ของนักลงทุนทำให้ผมค่อนข้างจะหนีห่างบริษัทเหล่านี้ไปเรื่อย ๆ ทั้งที่บางบริษัทผมรู้สึกว่ามัน ถูกมาก และเย้ายวนใจเวลาเห็นมัน แต่สามัญสำนึกก็จะพยายามบอกกับตัวเองว่า อย่าคบกับคนที่คิดว่าเราเป็นคนชั้นสองในบริษัท ถึงจุดนี้ทำให้ผมนึกถึง เจ้าของ ของบริษัทแห่งหนึ่งที่เสียชีวิตไปแล้วที่การประชุมผู้ถือหุ้นทุกครั้งท่านต้องย้ำกับผู้ถือหุ้นว่า บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอและแนะนำได้ ผลประโยชน์ของเราเหมือนกัน และนี่คือสิ่งที่ Value Investor อยากเจอและอยากคบค้าด้วย
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ท่านมีประสบการณ์ บ. แบบนี้ บ้างหรือเปล่า ทั้ง+และ-
ผมว่า cen เป็น ต.ย.
เจ้าของ VS นักลงทุน
โลกในมุมมองของ Value Investor
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 17 มีนาคม 51
บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอและแนะนำได้ ผลประโยชน์ของเราเหมือนกัน และนี่คือสิ่งที่ Value Investor อยากเจอและอยากคบค้าด้วย
ในฐานะของ Value Investor บางทีเราก็ต้องวิเคราะห์เหมือนกันว่าแรงจูงใจของ เจ้าของ คืออะไร ถ้าเขาต้องการรักษาบริษัทไว้เป็นสมบัติหรือกงสีของตระกูลและมองว่านักลงทุนคือ ลูกค้า ที่เอาเงินมาให้เขา เช่า และจ่ายผลตอบแทนเป็นปันผล ผมคิดว่านี่คงไม่ใช่การลงทุนที่ดีนัก ประสบการณ์ของผมกับบริษัทประเภทนี้ ถึงจะไม่เลวร้ายแต่ก็ไม่น่าอภิรมย์ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ เรารู้สึกเสียอารมณ์และความรู้สึก ศักดิ์ศรี ของนักลงทุนทำให้ผมค่อนข้างจะหนีห่างบริษัทเหล่านี้ไปเรื่อย ๆ ทั้งที่บางบริษัทผมรู้สึกว่ามัน ถูกมาก และเย้ายวนใจเวลาเห็นมัน แต่สามัญสำนึกก็จะพยายามบอกกับตัวเองว่า อย่าคบกับคนที่คิดว่าเราเป็นคนชั้นสองในบริษัท ถึงจุดนี้ทำให้ผมนึกถึง เจ้าของ ของบริษัทแห่งหนึ่งที่เสียชีวิตไปแล้วที่การประชุมผู้ถือหุ้นทุกครั้งท่านต้องย้ำกับผู้ถือหุ้นว่า บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอและแนะนำได้ ผลประโยชน์ของเราเหมือนกัน และนี่คือสิ่งที่ Value Investor อยากเจอและอยากคบค้าด้วย
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ท่านมีประสบการณ์ บ. แบบนี้ บ้างหรือเปล่า ทั้ง+และ-
ผมว่า cen เป็น ต.ย.
-
- Verified User
- โพสต์: 1289
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอและแนะนำได้ ผลปร
โพสต์ที่ 2
cen เป็น ตย. ของ + หรือ - ครับ
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
- krisy
- Verified User
- โพสต์: 736
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอและแนะนำได้ ผลปร
โพสต์ที่ 4
อ่านเมื่อเช้า กำลังนึกอยู่เลยค่ะว่า ผู้บริหารที่ไหนบ้างที่เป็นแบบท่าน ดร.นิเวศน์ กล่าวถึง เพราะแนวกงสีของตระกูลดูไม่ยาก แต่แนวที่เป็นเจ้าของร่วมกันเนี่ย มีที่ไหนบ้างนา
.....Give Everything but not Give Up.....
- poppo
- Verified User
- โพสต์: 1356
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอและแนะนำได้ ผลปร
โพสต์ที่ 5
ทำไมผมอ่านแล้วนึกถึงแต่ WWG (White Wizard Group) เลยนะครับ วันนี้ลงรับบทความเลย 50 ตังค์ :lol:
นี่ถ้าเขาออกข่าว ESOP มหาประลัย แบบนี้เรื่อยๆ จนสลัดเห็บเหานักลงทุนอย่างพวกเราไปหมด จนรวมเสียงกันไม่ได้ โหวตค้านไม่สำเร็จแล้วแจก ESOP พวกเดียวกันเองอีกหลายๆครั้ง สัดส่วนเสียงของเราคงลดลงเรื่อยๆนะครับ
เพื่อนๆว่าไง
ปล ไม่ได้ทุบนะ ผมก็มีหุ้น เยอะด้วย
นี่ถ้าเขาออกข่าว ESOP มหาประลัย แบบนี้เรื่อยๆ จนสลัดเห็บเหานักลงทุนอย่างพวกเราไปหมด จนรวมเสียงกันไม่ได้ โหวตค้านไม่สำเร็จแล้วแจก ESOP พวกเดียวกันเองอีกหลายๆครั้ง สัดส่วนเสียงของเราคงลดลงเรื่อยๆนะครับ
เพื่อนๆว่าไง
ปล ไม่ได้ทุบนะ ผมก็มีหุ้น เยอะด้วย

จงทนอด และอดทน
-
- Verified User
- โพสต์: 87
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอและแนะนำได้ ผลปร
โพสต์ที่ 6
cen เป็น ตย. ของ - ครับ
เจ้าของ ซึ่งมักจะถือหุ้นมากกว่า 50% ของหุ้นทั้งหมด
การเป็นเจ้าของบริษัทแปลว่าพวกเขาสามารถตั้งตนเองเป็นผู้จัดการและเป็นกรรมการในบริษัท นอกจากนั้นเขายังสามารถตั้งเพื่อนฝูงหรือคนที่เคยหรือเกื้อกูลกันมาก่อนเป็นกรรมการและกรรมการ อิสระ ด้วย การเป็นกรรมการนั้น แน่นอน เป็นเรื่องที่มีเกียรติ มีสถานะที่ดีในสังคม มีเงินใช้ และมีความสุข โดยเฉพาะการเป็นกรรมการในบริษัทที่ตนเองเป็นเจ้าของ ดังนั้น ในหลาย ๆ บริษัทที่มีลักษณะดังกล่าวเราจึงมักเห็นว่าบริษัทดูเหมือนจะมีจำนวนกรรมการมากเกินความจำเป็นของธุรกิจ
เขาต้องการรักษาบริษัทไว้เป็นสมบัติหรือกงสีของตระกูลและมองว่านักลงทุนคือ ลูกค้า ที่เอาเงินมาให้เขา เช่า และจ่ายผลตอบแทนเป็นปันผล
เจ้าของ ซึ่งมักจะถือหุ้นมากกว่า 50% ของหุ้นทั้งหมด
การเป็นเจ้าของบริษัทแปลว่าพวกเขาสามารถตั้งตนเองเป็นผู้จัดการและเป็นกรรมการในบริษัท นอกจากนั้นเขายังสามารถตั้งเพื่อนฝูงหรือคนที่เคยหรือเกื้อกูลกันมาก่อนเป็นกรรมการและกรรมการ อิสระ ด้วย การเป็นกรรมการนั้น แน่นอน เป็นเรื่องที่มีเกียรติ มีสถานะที่ดีในสังคม มีเงินใช้ และมีความสุข โดยเฉพาะการเป็นกรรมการในบริษัทที่ตนเองเป็นเจ้าของ ดังนั้น ในหลาย ๆ บริษัทที่มีลักษณะดังกล่าวเราจึงมักเห็นว่าบริษัทดูเหมือนจะมีจำนวนกรรมการมากเกินความจำเป็นของธุรกิจ
เขาต้องการรักษาบริษัทไว้เป็นสมบัติหรือกงสีของตระกูลและมองว่านักลงทุนคือ ลูกค้า ที่เอาเงินมาให้เขา เช่า และจ่ายผลตอบแทนเป็นปันผล
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 460
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอและแนะนำได้ ผลปร
โพสต์ที่ 7
ผมว่าดร.น่าจะหมายถึง WG แหละครับ
การออก ESOP เงื่อนไขเดิมสองปีติดทั้งๆที่ปีที่แล้วไม่ผ่านไปครั้งนึงแล้วนี่มันน่าเกลียดทีเดียว ไม่รู้ทำได้ยังไง ไม่ได้สนใจนักลงทุนเลย
การออก ESOP เงื่อนไขเดิมสองปีติดทั้งๆที่ปีที่แล้วไม่ผ่านไปครั้งนึงแล้วนี่มันน่าเกลียดทีเดียว ไม่รู้ทำได้ยังไง ไม่ได้สนใจนักลงทุนเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 37
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอและแนะนำได้ ผลปร
โพสต์ที่ 8
FE เข้าข่าย :evil: หรือเปล่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 933
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอและแนะนำได้ ผลปร
โพสต์ที่ 10
ผมว่า aprint ไม่น่าเข้าข่ายนะครับ เขาก็ปันผลมากนะครับเทียบกับกำไร
ผมว่า wg น่าจะใช่มากกว่าเงินสดก็เหลือเยอะมากที่จะจ่ายปันผลได้มากกว่านี้
และ wg ดูจะไม่ค่อยสนใจรายย่อยเลย ความคิดเห็นที่เคยเสนอไปในปีที่แล้ว
ไม่เห็นเขาจะสนใจเลย aprint กำไรน้อยกว่าปีที่แล้วยังปันผลเท่าเดิมเลย
ใครมีต้นทุนสูงๆก็ต้องระวังหน่อยกับการที่จะลงทุนระยะยาวกับ wg แสดงความเห็นเฉยๆนะคับ ไม่ได้ทุบหุ้น
ผมว่า wg น่าจะใช่มากกว่าเงินสดก็เหลือเยอะมากที่จะจ่ายปันผลได้มากกว่านี้
และ wg ดูจะไม่ค่อยสนใจรายย่อยเลย ความคิดเห็นที่เคยเสนอไปในปีที่แล้ว
ไม่เห็นเขาจะสนใจเลย aprint กำไรน้อยกว่าปีที่แล้วยังปันผลเท่าเดิมเลย
ใครมีต้นทุนสูงๆก็ต้องระวังหน่อยกับการที่จะลงทุนระยะยาวกับ wg แสดงความเห็นเฉยๆนะคับ ไม่ได้ทุบหุ้น
- BOONPARUEY
- Verified User
- โพสต์: 184
- ผู้ติดตาม: 0
Re: “บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอแล
โพสต์ที่ 13
[quote="aiko"]จาก
เจ้าของ VS นักลงทุน
โลกในมุมมองของ Value Investor
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 17 มีนาคม 51
“บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอและแนะนำได้ ผลประโยชน์ของเราเหมือนกัน” และนี่คือสิ่งที่ Value Investor อยากเจอและอยากคบค้าด้วย
ในฐานะของ Value Investor บางทีเราก็ต้องวิเคราะห์เหมือนกันว่าแรงจูงใจของ “เจ้าของ” คืออะไร ถ้าเขาต้องการรักษาบริษัทไว้เป็นสมบัติหรือกงสีของตระกูลและมองว่านักลงทุนคือ “ลูกค้า” ที่เอาเงินมาให้เขา “เช่า” และจ่ายผลตอบแทนเป็นปันผล ผมคิดว่านี่คงไม่ใช่การลงทุนที่ดีนัก ประสบการณ์ของผมกับบริษัทประเภทนี้ ถึงจะไม่เลวร้ายแต่ก็ไม่น่าอภิรมย์ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ เรารู้สึกเสียอารมณ์และความรู้สึก “ศักดิ์ศรี” ของนักลงทุนทำให้ผมค่อนข้างจะหนีห่างบริษัทเหล่านี้ไปเรื่อย ๆ ทั้งที่บางบริษัทผมรู้สึกว่ามัน “ถูกมาก” และเย้ายวนใจเวลาเห็นมัน แต่สามัญสำนึกก็จะพยายามบอกกับตัวเองว่า “อย่าคบกับคนที่คิดว่าเราเป็นคนชั้นสองในบริษัท” ถึงจุดนี้ทำให้ผมนึกถึง “เจ้าของ” ของบริษัทแห่งหนึ่งที่เสียชีวิตไปแล้วที่การประชุมผู้ถือหุ้นทุกครั้งท่านต้องย้ำกับผู้ถือหุ้นว่า “บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอและแนะนำได้ ผลประโยชน์ของเราเหมือนกัน” และนี่คือสิ่งที่ Value Investor อยากเจอและอยากคบค้าด้วย
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
... :cheers:

เจ้าของ VS นักลงทุน
โลกในมุมมองของ Value Investor
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 17 มีนาคม 51
“บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอและแนะนำได้ ผลประโยชน์ของเราเหมือนกัน” และนี่คือสิ่งที่ Value Investor อยากเจอและอยากคบค้าด้วย
ในฐานะของ Value Investor บางทีเราก็ต้องวิเคราะห์เหมือนกันว่าแรงจูงใจของ “เจ้าของ” คืออะไร ถ้าเขาต้องการรักษาบริษัทไว้เป็นสมบัติหรือกงสีของตระกูลและมองว่านักลงทุนคือ “ลูกค้า” ที่เอาเงินมาให้เขา “เช่า” และจ่ายผลตอบแทนเป็นปันผล ผมคิดว่านี่คงไม่ใช่การลงทุนที่ดีนัก ประสบการณ์ของผมกับบริษัทประเภทนี้ ถึงจะไม่เลวร้ายแต่ก็ไม่น่าอภิรมย์ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ เรารู้สึกเสียอารมณ์และความรู้สึก “ศักดิ์ศรี” ของนักลงทุนทำให้ผมค่อนข้างจะหนีห่างบริษัทเหล่านี้ไปเรื่อย ๆ ทั้งที่บางบริษัทผมรู้สึกว่ามัน “ถูกมาก” และเย้ายวนใจเวลาเห็นมัน แต่สามัญสำนึกก็จะพยายามบอกกับตัวเองว่า “อย่าคบกับคนที่คิดว่าเราเป็นคนชั้นสองในบริษัท” ถึงจุดนี้ทำให้ผมนึกถึง “เจ้าของ” ของบริษัทแห่งหนึ่งที่เสียชีวิตไปแล้วที่การประชุมผู้ถือหุ้นทุกครั้งท่านต้องย้ำกับผู้ถือหุ้นว่า “บริษัทนี้เป็นของพวกเราทุกคน มีอะไรก็พูดเสนอและแนะนำได้ ผลประโยชน์ของเราเหมือนกัน” และนี่คือสิ่งที่ Value Investor อยากเจอและอยากคบค้าด้วย
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
... :cheers:
... " บุญ คือ เสบียงของคนไม่ประมาท " พุทธตรัส ...