การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
-
Blueblood
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ช่วงนี้อยู่ว่าง ๆ อยากลองตั้งเงื่อนไขให้เพื่อนๆช่วยกันหาหุ้นเล่นๆดังนี้ครับ
1. ธุรกิจมีจุดเด่น แข็งแกร่ง และตำแหน่งทางการตลาดที่ดี (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ครับ แต่ขอให้มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เชื่อได้ว่าจะสามารถแข่งขันได้พอครับ)
2. กำไร
ปกติมีแนวโน้มเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 20% เอาแค่ปี 51 กับ 52 สองปีข้างหน้าพอครับ หลังจากนั้นยังไม่ต้องพูดถึงครับ แต่อนาคตปี 51 กับ 52 ต้องชัดพอควรนะครับ
3. p/e ปี 50 ไม่มากกว่า 7 เท่า(ถ้างวดบัญชีไม่ตรงก็เอาใกล้เคียงละกันครับ จริงๆอยากให้ต่ำกว่า 6 ด้วยซ้ำ แต่กลัวไม่เหลือซักหุ้น

)
4. งบการเงินแข็งแกร่งไม่มีแนวโน้มเพิ่มทุนในสองปีข้างหน้า ก่อหนี้เพิ่มได้ไม่มีปัญหา ขออย่าเพิ่มทุนพอ (หรือถ้าจะให้ง่ายข้อนี้ขอให้ sunrise ช่วยเสนอตัวที่สนใจอยู่มาก็ได้ จะได้รู้ว่าต้องตัดตัวไหนทิ้ง

)
สนุกๆนะครับ ผมนั่งหาแล้วเหนื่อยพอควร อยากให้ช่วยกันระดมสมองแล้วค่อยมาช่วยทำการบ้านกันต่อนะครับ
จากประสบการณ์อันน้อยนิด ผมว่าถ้าหาได้หยาบๆตามนี้ยังไงถ้าซื้อไว้โอกาสแพ้น่าจะยากมากๆครับ

It's earnings that count
-
Blueblood
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ป.ล. ขอเหตุผลประกอบด้วยนะครับว่าหุ้นที่เสนอมานั้นเข้าเงื่อนไขข้อไหนยังไงบ้าง

It's earnings that count
-
miracle
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
มีแต่ PE ประมาณ 20+ ได้ไหมครับ

-
lam
- Verified User
- โพสต์: 160
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ติดข้อสามครับ สมัยนี้นักลงทุนวีไอเยอะมาก พีอีแค่เ7คิดว่าหายากส์ แต่ถ้า15และกำไรปกติโตข้นต่ำ30-40%แถมให้สามปี 51 52 53 คิดว่ามี เป็นที่หนึ่งด้วย งบแข็ง ไม่เพิ่มทุนด้วย
-
artvr4
- Verified User
- โพสต์: 767
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
หาก จะกรอง โดยใช้ p/e
ผม มี 2 ตัว TCB draco หนี้ น้อย มาก แทบไม่มหนี้ p/e ไม่ถึง7
ดูแล้ว รายได้น่าจะโต เพราะทั้งสองแห่ง มีการขยายกำลังการผลิต
แต่ ตัว draco ไม่แน่ใจเรื่อง การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ที่อาจจะทำให้ต้องเกิดการลงทุนเพิ่มหรือเปล่า แต่ว่า การแข่งขัน เห็นเค้าเน้นคุณภาพมากกว่า ที่จะตัดราคา
แต่หากจะเอาแบบ p/e ต่ำ มีหนี้ ไม่เยอะ ราคาต่ำ book ตัวนี้เลย MK ตัวแรกที่ผม เลือก ตากสไตล์ พื้นฐานสุดๆ โดยลืมดู การเติบโต เนื่องจากว่าตัวนี้ รายได้เรียกว่า แทบ จะคงเดิม มาหลายปีละ ทำให้ผมติดอยู่น่ะ
นอกนั้นหาไม่ออกเหมือนกัน
หุ้นนี่ เรียนรู้ได้ทั้งชีวิต จริงๆ
-
Blueblood
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
Blueblood เขียน:ช่วงนี้อยู่ว่าง ๆ อยากลองตั้งเงื่อนไขให้เพื่อนๆช่วยกันหาหุ้นเล่นๆดังนี้ครับ
1. ธุรกิจมีจุดเด่น แข็งแกร่ง และตำแหน่งทางการตลาดที่ดี (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ครับ แต่ขอให้มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เชื่อได้ว่าจะสามารถแข่งขันได้พอครับ)
2. กำไร
ปกติมีแนวโน้มเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 20% เอาแค่ปี 51 กับ 52 สองปีข้างหน้าพอครับ หลังจากนั้นยังไม่ต้องพูดถึงครับ แต่อนาคตปี 51 กับ 52 ต้องชัดพอควรนะครับ
3. p/e ปี 50 ไม่มากกว่า 7 เท่า(ถ้างวดบัญชีไม่ตรงก็เอาใกล้เคียงละกันครับ จริงๆอยากให้ต่ำกว่า 6 ด้วยซ้ำ แต่กลัวไม่เหลือซักหุ้น

)
4. งบการเงินแข็งแกร่งไม่มีแนวโน้มเพิ่มทุนในสองปีข้างหน้า ก่อหนี้เพิ่มได้ไม่มีปัญหา ขออย่าเพิ่มทุนพอ (หรือถ้าจะให้ง่ายข้อนี้ขอให้ sunrise ช่วยเสนอตัวที่สนใจอยู่มาก็ได้ จะได้รู้ว่าต้องตัดตัวไหนทิ้ง

)
สนุกๆนะครับ ผมนั่งหาแล้วเหนื่อยพอควร อยากให้ช่วยกันระดมสมองแล้วค่อยมาช่วยทำการบ้านกันต่อนะครับ
จากประสบการณ์อันน้อยนิด ผมว่าถ้าหาได้หยาบๆตามนี้ยังไงถ้าซื้อไว้โอกาสแพ้น่าจะยากมากๆครับ

ข้อ 3 เรื่อง P/E ตัวไหนไม่เกิน 10 อนุโลมก็ได้ครับ จะได้เอาไว้เป็น watch list เผื่อตลาดมีลดแลกแจกแถมอีกครั้ง แต่ข้ออื่นๆขอนะครับ

It's earnings that count
-
noooon010
- Verified User
- โพสต์: 2712
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
Blueblood เขียน:ข้อ 3 เรื่อง P/E ตัวไหนไม่เกิน 10 อนุโลมก็ได้ครับ จะได้เอาไว้เป็น watch list เผื่อตลาดมีลดแลกแจกแถมอีกครั้ง แต่ข้ออื่นๆขอนะครับ

ข้าน้อยขอเสนอ TPAC ครับ
อย่าลืมให้เวลากับครอบครัว และสังคมรอบๆข้างของคุณนะครับ
มีสติ และมีความสุขกับการลงทุนนะครับผม
นักลงทุนที่เก่งที่สุดมิใช่คนที่ซื้อขายไวที่สุด
แต่คือคนที่นำสติกลับมาได้เร็วที่สุด
หลายครั้งส่งคำสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ผลตอบแทนมากกว่าซื้อผ่านnetหากเราขาดสติ
-
chatchai
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ข้อ 1, 3 และ 4 คงพอจะหาได้อย่างมั่นใจ เพราะเป็นข้อมูลในอดีต
แต่ข้อที่สำคัญที่สุด คือ ข้อ 2
ใครจะให้ความมั่นใจได้ว่า กำไรจากการดำเนินงานปรกติจะสามารถเติบโตได้ถึง 20% ในปี 51 และ 52
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
mprandy
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ถ้าเอาตามเกณฑ์ทุกข้อ ผมว่าไม่มีอ่ะ โดยเฉพาะข้อ 2 ที่เราเดาอัตราเติบโตปี 52 ได้ยาก (คือถ้าชัวร์ว่าโตเกิน 20% ทั้งปี 51, 52 ก็จะไม่ผ่านข้อ PER คือราคาหุ้นวิ่งไปก่อนแล้ว)
ถ้าเอาว่าข้อ 2 มีโอกาสสูงว่า 51 จะทำได้ แล้ว 52 น่าจะยังทำได้ (+/-) ที่ผมนึกออกก็จะมี
TR, TCB, DRACO, BAT-3K
ถ้าเพิ่ม PER เป็นไม่เกิน 10 ก็จะมี TPAC
จะไปค้นเพิ่มหาตัวอื่นอีก.. ใครมีอะไรมาแชร์กันได้ครับ
-
Alastor
- Verified User
- โพสต์: 2590
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
1. ธุรกิจมีจุดเด่น แข็งแกร่ง และตำแหน่งทางการตลาดที่ดี (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ครับ แต่ขอให้มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เชื่อได้ว่าจะสามารถแข่งขันได้พอครับ)
2. กำไรปกติมีแนวโน้มเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 20% เอาแค่ปี 51 กับ 52 สองปีข้างหน้าพอครับ หลังจากนั้นยังไม่ต้องพูดถึงครับ แต่อนาคตปี 51 กับ 52 ต้องชัดพอควรนะครับ
3. p/e ปี 50 ไม่มากกว่า 7 เท่า(ถ้างวดบัญชีไม่ตรงก็เอาใกล้เคียงละกันครับ จริงๆอยากให้ต่ำกว่า 6 ด้วยซ้ำ แต่กลัวไม่เหลือซักหุ้น )
4. งบการเงินแข็งแกร่งไม่มีแนวโน้มเพิ่มทุนในสองปีข้างหน้า ก่อหนี้เพิ่มได้ไม่มีปัญหา ขออย่าเพิ่มทุนพอ (หรือถ้าจะให้ง่ายข้อนี้ขอให้ sunrise ช่วยเสนอตัวที่สนใจอยู่มาก็ได้ จะได้รู้ว่าต้องตัดตัวไหนทิ้ง )
เอาของเก่ามาขายละกัน TWFP ครับ
1. ครอง Market Share อันดับ 1 ในตลาดวุ้นเส้น
2. เรื่อง Growth ที่ผ่านมาโตไม่เยอะเพราะตลาดวุ้นเส้นแช่น้ำมานาน(อิ่มตัว) ล่าสุดมีการขยายกำลังการผลิต 50% แต่ยังโรงงานใหม่ยังไม่เปิด
3. PE ก็ 7 นิดๆ
4. DE แค่ 0.4xx Time Interest Earn 14 เท่า Q3 ก็เริ่มจ่ายคืนหนี้แล้ว DE น่าลดลง นอกจากจะมีการลงทุนเพิ่มในโครงการใช้ถ่านหินแทน Gas
อะไรก็ดีเสียอย่างเดียว โทรไปหา IR จะตอบกลับมาว่า "ทุกอย่างอยู่ในงบการเงินหมดแล้ว" -_-' น่าตึ๊บมาก
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
-
แผ่วเบา
- Verified User
- โพสต์: 391
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
อืม.....ไสตล์การหาหุ้นของพี่บลูเป็นอย่างนี้นี่เอง
ตัวผมเองก็เปลี่ยนมาหลายสไตล์
แต่สุดท้าย
ผมก็มาลงที่สไตล์เหมือนกับพี่บลูครับ
ดีใจครับที่มาตรงกันกับคนดัง :lol:
-
สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
มานั่งรอฟังด้วยครับ :lol:
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
Blueblood
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
[quote="chatchai"]ข้อ 1, 3 และ 4
It's earnings that count
-
Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ถ้า กำไร น่าจะเพิ่ม แต่ไม่แน่นอน ต้องติดตามเป็นระยะๆ
ส่วนข้ออื่นๆ เข้าได้หมด นับป่าวครับ?

-
Blueblood
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
[quote="Pn3um0n1a"]ถ้า กำไร น่าจะเพิ่ม แต่ไม่แน่นอน ต้องติดตามเป็นระยะๆ
ส่วนข้ออื่นๆ เข้าได้หมด นับป่าวครับ?
It's earnings that count
-
Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
Blueblood เขียน:
1. ธุรกิจมีจุดเด่น แข็งแกร่ง และตำแหน่งทางการตลาดที่ดี (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ครับ แต่ขอให้มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เชื่อได้ว่าจะสามารถแข่งขันได้พอครับ)
2. กำไร
ปกติมีแนวโน้มเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 20% เอาแค่ปี 51 กับ 52 สองปีข้างหน้าพอครับ หลังจากนั้นยังไม่ต้องพูดถึงครับ แต่อนาคตปี 51 กับ 52 ต้องชัดพอควรนะครับ
3. p/e ปี 50 ไม่มากกว่า 7 เท่า(ถ้างวดบัญชีไม่ตรงก็เอาใกล้เคียงละกันครับ จริงๆอยากให้ต่ำกว่า 6 ด้วยซ้ำ แต่กลัวไม่เหลือซักหุ้น

)
4. งบการเงินแข็งแกร่งไม่มีแนวโน้มเพิ่มทุนในสองปีข้างหน้า ก่อหนี้เพิ่มได้ไม่มีปัญหา ขออย่าเพิ่มทุนพอ (หรือถ้าจะให้ง่ายข้อนี้ขอให้ sunrise ช่วยเสนอตัวที่สนใจอยู่มาก็ได้ จะได้รู้ว่าต้องตัดตัวไหนทิ้ง

)
PTL (ง่ายไปมั้ย)
1. แข็งแกร่ง ยอดขาย อันดับ top 3 ของโลก
มีพลังทางการแข่งขันมากพอ เชื่อว่า ช่วงที่ผ่าน down cycle ของ film ที่ spread ลงไปเหลือ 0.6 นิดๆ ยังรอดมาได้ คงพอการันตีได้พอสมควร
2. แนวโน้มอันนี้อย่างที่บอก ขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ของแต่ละคน ในเรื่องของ spread และต้องคอยติดตามเป็นระยะๆ
แต่ในส่วนการขยายกำลังการผลิต ปรับปรุงสายการผลิต และ เพิ่มผลิตภัณท์ที่เพิ่มมูลค่า น่าจะช่วยให้ margin ดีขึ้น ไม่น้อยไปกว่า 20% ที่ spread เท่าเดิม
3. PE ปี 50/51 ไม่ถึง 7 ค่อนข้างแน่ เผลอๆ จะไม่ถึง 6 หรือ 5นิดๆ
4. เพิ่งกู้ไป เพื่อ เหตุผลจากข้อ 2 และคงยังไม่มีเหตุให้ต้อง ใช้เงินเพิ่มในสองปีนี้ และถึงจำเป็น ก็น่าจะมีกระแสเงินสดเพียงพอ + กู้เพิ่มได้อีก
น่าจะพอถูไถนะครับ
ปล. มีหุ้นน่ะ มาโฆนา เจ๋ยๆ :lol:
-
Blueblood
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
นึกว่าตัวไหนหมอนิว นี่ผมตั้งกระทู้เชียร์หุ้นตัวเองด้วยป่าวเนี่ย

It's earnings that count
-
Blueblood
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
ได้หลายตัวเลยแฮะ เดี๋ยวเข้าไปถกด้วยในร้อยคนร้อยหุ้นนะครับ
TR, TCB, DRACO, TPAC, BAT-3K, TWFP, PTL
เอาอีกครับๆ

It's earnings that count
-
cryptonian_man
- Verified User
- โพสต์: 585
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
มาลงชื่อรอการบ้านครับ
ว่าแต่ขยับเกณฑ์สักนิดดีป่ะครับ ดูมันหายากจริงๆ แล้วไม่แน่ใจว่าถ้าตรงหมดเนี่ยจะมีสภาพคล่องพอจะซื้อได้ซัก 100 หุ้นเปล่าครับ
เขาว่า "หลังจากปากพองจากการดื่มนมร้อน เราจะเป่าโยเกิร์ตให้เย็นก่อนตักเข้าปาก"
แต่ทำไมตรูไม่เข็ด เคาะขวาไวตลอดเนี่ย
-
Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
3K ก็เข้าข่ายนะครับ
story คล้ายกัน กับ PTL มากๆ
1. เป็นผู้นำ ยอดขายสูงสุด (รายใหญ่ในไทย ก็มีแค่ 3K GS)
2. และคล้ายกันอีกคือ ข้อ 2 การันตีได้ยาก
ส่วนตัวผม ให้เป็นรอง เพราะ กำไร เพิ่ม 20% ลำพังจาก ราคาขายเพิ่ม และ เพิ่มกำลังการผลิต ผมว่าหืดขึ้นคอ
ไม่มีผลิตภัณท์ที่เพิ่ม margin ได้ชัดเจนนัก
ราคาขาย จะขึ้นได้อีกสักแค่ไหน ยังเป็นปัญหาคาใจผม
แต่ถ้า ต้นทุนลดมากๆ ละก็ เพิ่มได้เป็นเด้งๆ เหมือน PTL เหมือนกัน
ประเด็นคือว่า ราคาตะกั่ว คาดการณ์ยากจนน่ากลัว
3. PE ต่ำอยู่แล้ว คงไม่มีใครสงสัย
4.ไม่มีการลงทุนใหญ่ๆ ในเร็วๆ นี้แน่นอน แถม DE ต่ำสุดขั้วไม่ถึง 0.5 ไม่มีปัญหาแน่นอน
เปรียบเชิงมวยกันแล้ว คงต้องถือว่าให้แพ้คะเนน เฉียดฉิว สำหรับผม
-
nanchan
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
MCS ดูน่าสนใจไม๊เอ่ย
1.มองแง่ธุรกิจ ก็มีความแข็งแกร่งระดับหนึ่ง ถ้างั้นคงไปขายให้ญี่ปุ่นไม่ได้มั้ง
2.กำไรมีโอกาสโตจากการเข้าไปถือหุ้นที่บริษัทในจีน และการขยายตลาดไปตะวันออกกลางแต่โตปีละ20%อาจจะยากเหมือนกัน แต่backlog มีถึงกลางปี52แล้ว ตอนนี้ก็รอออเดอร์เพิ่ม
3.PEต่ำกว่า6
4.หนี้สินระยะยาว0 ระยะสั้นพอทนได้ โครงการขยายธุรกิจแบบหวาดเสียวยังไม่ได้ยินคงไม่เพิ่มทุนมั้งครับ
ที่รออยู่ก็รอผู้บริหารขายหุ้นให้เหลือ30%
ระหว่างรอก็รับปันผลปีละ8-10%ไปพลางๆก่อน
ปล.มีหุ้นอยู่
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
-
chode
- Verified User
- โพสต์: 590
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
PE ต่ำ แต่ market share เป็นอันดับ1
คงหาที่เติบโตสูงคงจะยากครับคงเกิดตอน 19 ธ.ค. 49 ครั้งเดียว
หาบริษัทที่ PE ที่ต่ำกว่า growth น่าจะหาง่ายกว่านะครับ
บริษัทที่ PE 20 กำไรโต 20 %
กับบริษัทที่ PE 5 กำไรโต 5% นี่ไม่ค่อยต่างกันนะครับ
-
Jeng
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
โค้ด: เลือกทั้งหมด
บริษัทที่ PE 20 กำไรโต 20 %
กับบริษัทที่ PE 5 กำไรโต 5% นี่ไม่ค่อยต่างกันนะครับ
แล้ว PE 20 โต 5 %
กับ PE 5 โต 20 %
ต่างกันหรือไม่ครับ
ผมก็ งง คนที่ชอบซื้อ PE 20 PE 30 โตนิดเดียว ไม่รู้คาดหวังอะไรกัน
-
Pn3um0n1a
- Verified User
- โพสต์: 1935
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
chode เขียน:
บริษัทที่ PE 20 กำไรโต 20 %
กับบริษัทที่ PE 5 กำไรโต 5% นี่ไม่ค่อยต่างกันนะครับ
ต่างกันแน่นอนครับ
ระวังกับดัก PE นะครับ
PE เทียบกับ growth ตรงๆ ไม่ได้ เพราะหน่วยก็ไม่เหมือนกันแล้วครับ
ผมเชื่อว่า พี่ๆ ที่เซียนๆ ไม่มีใครดู PEG แล้วครับ เพราะมันคร่าว จนบอกอะไรไม่ได้เลย
-
Jeng
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
โค้ด: เลือกทั้งหมด
chode wrote:
บริษัทที่ PE 20 กำไรโต 20 %
กับบริษัทที่ PE 5 กำไรโต 5% นี่ไม่ค่อยต่างกันนะครับ
ต่างกันมหาศาลครับ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
1 1.05 1.10 1.16 1.22 1.28 1.34 1.41 1.48 1.55 1.63
5 5.00 5.00 5.00 5.00 5.00 5.00 5.00 5.00 5.00 5.00
5 5.25 5.51 5.79 6.08 6.38 6.70 7.04 7.39 7.76 8.14
1 1.20 1.44 1.73 2.07 2.49 2.99 3.58 4.30 5.16 6.19
20 20.00 20.00 20.00 20.00 20.00 20.00 20.00 20.00 20.00 20.00
20 24.00 28.80 34.56 41.47 49.77 59.72 71.66 86.00 103.20 123.83
-
mprandy
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
chode เขียน:
บริษัทที่ PE 20 กำไรโต 20 %
กับบริษัทที่ PE 5 กำไรโต 5% นี่ไม่ค่อยต่างกันนะครับ
จริง ๆ แล้วถ้าหุ้นที่ PER = 20 และมี Growth 20% เทียบอัตราส่วนแล้วน่าจะพอ ๆ กับหุ้นที่ PER = 5 และมี Growth 5%
แต่ความเป็นจริงมันต่างกันชัดเจนครับ
ถ้าให้เลือกต้องเลือกตัวแรกครับ ไม่เชื่อลองคำนวณดูได้
ป.ล. มีข้อแม้นะว่า Growth นี่ต้องชัวร์ ประเภทขึ้นลงเป็นกราฟ SET นี่ไม่ได้เด็ดขาด
-
mprandy
- Verified User
- โพสต์: 1992
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
อ้าว.. โดนเฮียเจ๋งแซงไปนิดเดียว :lovl: ไวจิง ๆ
-
Blueblood
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
Jeng เขียน:โค้ด: เลือกทั้งหมด
chode wrote:
บริษัทที่ PE 20 กำไรโต 20 %
กับบริษัทที่ PE 5 กำไรโต 5% นี่ไม่ค่อยต่างกันนะครับ
ต่างกันมหาศาลครับ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
1 1.05 1.10 1.16 1.22 1.28 1.34 1.41 1.48 1.55 1.63
5 5.00 5.00 5.00 5.00 5.00 5.00 5.00 5.00 5.00 5.00
5 5.25 5.51 5.79 6.08 6.38 6.70 7.04 7.39 7.76 8.14
1 1.20 1.44 1.73 2.07 2.49 2.99 3.58 4.30 5.16 6.19
20 20.00 20.00 20.00 20.00 20.00 20.00 20.00 20.00 20.00 20.00
20 24.00 28.80 34.56 41.47 49.77 59.72 71.66 86.00 103.20 123.83
เห็นด้วยเลยครับพี่เจ๋ง แล้วคิดดูว่าถ้าเราซื้อหุ้นที่มี growth สม่ำเสมอ(สมมติว่าสม่ำเสมอจริงสัก 5 ปี) ในระดับราคา p/e ต่ำกว่า 7 แล้วอนาคตตลาดเห็นว่าควรจะให้ p/e เพิ่มดูสิครับ
It's earnings that count
-
Blueblood
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
เหมือนกับวิธีกรองหุ้นด้วยเงื่อนไขแบบนี้จะได้หุ้นที่เป็น commodities ซะส่วนใหญ่เลยครับ เพราะหุ้นพวกนี้ตลาดมักจะให้ p/e ต่ำ ถึงแม้ในใจผมจะแย้งว่าบางตัวราคาสินค้ามันยังไม่ได้ราคาขึ้นไรมากมายแต่ทำไมตลาดให้ p/e ต่ำก็ตาม
แต่มันต้องมีสิครับหุ้นที่มี growth แข็งแกร่ง ไม่เพิ่มทุน และราคาถูก ตอน snc 7 บาท ก็เป็นหุ้น growth นะ p/e คาดการณ์ตอนนั้นปี 50 ก็ประมาณ 7 เท่าเหมือนกัน แต่ตัวนี้อาจจะตกไปหน่อยตรงเพิ่มทุน
ตอนนี้หุ้นที่เข้าข่ายที่ผมเห็นชัดๆน่าจะเป็น TR ครับ (ป.ล. มีหุ้นครับ) ตัวอื่นๆที่เพื่อนๆเสนอมาเดี๋ยวขอลองไปทำการบ้านเพิ่มเติมหน่อย
It's earnings that count
-
Luty97
- Verified User
- โพสต์: 1520
- ผู้ติดตาม: 0
|0 คอมเมนต์
เสนอ ubis ละกัน ตัวอื่นคนเสนอไปหมดแล้ว
ติดตรงกำไรโต 20% ต่อปี อาจจะเกินหรือไม่เกิน แต่คิดว่าอย่างไงๆโตเกิน 10% ต่อปีในสองปีนี้แน่ๆ เพราะฐานเล็กและที่จีนน่าจะมีรูมในโตได้อีกมากมาย
ที่สำคัญรอ Henkel effect :lol:
หลักของความสมดุล