สัปดาห์นี้LTF-RMFลุยซื้อหุ้น เล็งเก็บกลุ่มไฟฟ้า-โรงกลั่น
บลจ.เผยเงินกองทุน LTF-RMF กว่า 1 หมื่นล้านบาทจ่อไล่ซื้อหุ้นในตลาดส่งท้ายปี
หลังนักลงทุนแห่ซื้อหน่วยในเดือนธันวาคมเพื่อขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษี เผยหุ้นกลุ่มไฟฟ้า-
ธนาคารพาณิชย์-โรงกลั่น น่าสนใจ เพราะจะกลายเป็นดาวเด่นแทน PTT ที่โดนมรสุมเล่นงาน
เชียร์ซื้อ KBANK BAY PTTEP TOP RRC
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดกองทุนรวม บริษัทหลัก
ทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)ไอเอ็นจี จำกัด กล่าวว่า ในช่วงเดือนธันวาคมนี้คาดว่าจะมีเม็ดเงิน
ใหม่ไหลเข้ามาซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF)ทั้งอุตสาหกรรมประมาณ 1 หมื่น
ล้านบาท โดยเม็ดเงินจำนวนนี้บลจ.จะทยอยนำไปซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้
เป็นต้นไปจนถึงต้นปีหน้า
ขณะเดียวกันจะมีเม็ดเงินใหม่ไหลเข้ามาซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ
(RMF) ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 3-4 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามไม่สามารถระบุ
ได้ว่าในจำนวนดังกล่าวจะไหลเข้ามาซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มากน้อยเพียงใด เนื่องจากกอง
ทุน RMF มีทั้งลงทุนในตราสารหนี้ รวมทั้งตราสารทางการเงินต่างๆ
ในช่วงเดือนธันวาคมจะเป็นช่วงที่นักลงทุนประเมินได้แล้วว่าทั้งปีมีรายได้เท่าไหร่
หลังจากนั้นก็จะเข้ามาซื้อหน่วยกองทุน LTF และ RMF เพื่อนำเงินลงทุนเหล่านี้ไปขอลดหย่อน
ภาษีจำนวน 15% แต่ไม่เกิน 3 แสนบาท ซึ่งจะเห็นว่าที่ผ่านมากองทุน LTF ได้รับความสนใจจาก
นักลงทุนจำนวนมากโดยมูลค่าของกองทุนโตขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน นายจุมพล กล่าว
ด้านนายประภาส ตันพิบูลศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.อยุธยา จำกัด กล่าว
ว่า ปกตินักลงทุนจะเข้ามาซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน LTF ในช่วงเดือนธันวาคมมากที่สุด คิด
เป็น 60% ของเม็ดเงินที่เข้ามาลงทุนทั้งปี โดยในปีนี้คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนใน LTF
ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะเข้ามาซื้อในเดือนธันวาคมถึง 7 พันล้านบาท ซึ่งเม็ด
เงินดังกล่าวก็จะทยอยเข้าลงทุนในตลาดหุ้นต่อไป
สำหรับกองทุน RMF คาดว่าจะมีเข้ามาซื้อหน่วยช่วงนี้ประมาณ 4-5 พันล้านบาท ซึ่ง
คาดว่าในจำนวนนี้บลจ.จะนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 50% หรือ 2-2.5 พันล้านบาท
และหุ้นประมาณ 2-2.5 พันล้านบาท และเมื่อรวมกับเม็ดเงินลงทุนใน LTF ทำให้คาดว่าจะมีเงิน
เข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นช่วงปลายปีนี้อย่างน้อยประมาณ 9 พันล้านบาท
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้บริษัทได้หันไปลงทุนในหุ้นสถาบันการเงิน หุ้นที่เกี่ยว
ข้องกับการอุปโภค-บริโภค เช่น กลุ่มโมเดิร์นเทรด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีหุ้นอสังหาริมทรัพย์
ตลอดจนหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการตัดสินในคดี PTT
ด้านแหล่งข่าวผู้บริหารกองทุน กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้แนะนำให้ลงทุนใน
หุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากในกรณีของ PTT โดยหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์
หุ้นโรงกลั่น และไฟฟ้า ซึ่งน่าจะขึ้นมามีบทบาทโดดเด่นแทนหุ้นในกลุ่ม PTT
ด้านนักวิเคราะห์ บล.นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ศาลมีคำตัดสินกรณีของ
PTT ออกมาแล้ว ถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อภาวการณ์ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นบล.นครหลวง
ไทยจึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนให้เข้าซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน และหุ้นขนาดใหญ่ เช่น PTTEP
TOP RRC KBANK BAY SCC LH QH รวมถึง TDEX
นายวรุฒม์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลัก
ทรัพย์(บล.)โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้จะยังถูกกดดันจากเรื่องการ
โอนท่อก๊าซและค่าใช้จ่ายของ PTT อยู่ แต่คาดว่าดัชนีจะสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ต่อ เนื่องจากนัก
ลงทุนได้คลายความวิตกจากเรื่องที่ PTT ต้องถูกถอดออกจากตลาดไปแล้ว จึงน่าจะเริ่มมีแรงซื้อ
กลับเข้ามาได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามแนะนำให้ติดตามประเด็น PTT อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นสาเหตุสำคัญ
ที่จะมีน้ำหนักต่อการเคลื่อนไหวของตลาด ในช่วงสัปดาห์หน้า และปัจจัยภายนอกอย่างดัชนีตลาด
หุ้นต่างประเทศทั้งดัชนีดาวโจนส์และดัชนีภูมิภาคเอเชียที่หากปรับเพิ่มขึ้นก็จะเป็นประเด็นช่วง
สนับสนุนดัชนีได้
ส่วนกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ทยอยเข้าซื้อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ประเมินว่าจะมีผล
การดำเนินงานในปีหน้าเติบโตแบบโดดเด่น หรือหุ้นกลุ่มพลังงานที่ยังได้รับผลประโยชน์จากราคา
น้ำมันดิบตลาดโลกที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยประเมินแนวรับ 828 จุด แนวต้าน 855 จุด
ที่มา : น.ส.พ. กระแสหุ้น
สัปดาห์นี้LTF-RMFลุยซื้อหุ้น เล็งเก็บกลุ่มไฟฟ้า-โรงกลั่น
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
สัปดาห์นี้LTF-RMFลุยซื้อหุ้น เล็งเก็บกลุ่มไฟฟ้า-โรงกลั่น
โพสต์ที่ 2
โค้ด: เลือกทั้งหมด
นายวรุฒม์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลัก
ทรัพย์(บล.)โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้จะยังถูกกดดันจากเรื่องการ
โอนท่อก๊าซและค่าใช้จ่ายของ PTT อยู่ แต่คาดว่าดัชนีจะสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ต่อ เนื่องจากนัก
ลงทุนได้คลายความวิตกจากเรื่องที่ PTT ต้องถูกถอดออกจากตลาดไปแล้ว จึงน่าจะเริ่มมีแรงซื้อ
กลับเข้ามาได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตามแนะนำให้ติดตามประเด็น PTT อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นสาเหตุสำคัญ
ที่จะมีน้ำหนักต่อการเคลื่อนไหวของตลาด ในช่วงสัปดาห์หน้า และปัจจัยภายนอกอย่างดัชนีตลาด
หุ้นต่างประเทศทั้งดัชนีดาวโจนส์และดัชนีภูมิภาคเอเชียที่หากปรับเพิ่มขึ้นก็จะเป็นประเด็นช่วง
สนับสนุนดัชนีได้
ส่วนกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ทยอยเข้าซื้อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ประเมินว่าจะมีผล
การดำเนินงานในปีหน้าเติบโตแบบโดดเด่น หรือหุ้นกลุ่มพลังงานที่ยังได้รับผลประโยชน์จากราคา
น้ำมันดิบตลาดโลกที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยประเมินแนวรับ 828 จุด แนวต้าน 855 จุด