เพื่อนๆคิดอย่างไรบ้างกับ BigC ครับ

[Jeng]

อยากให้ช่วยวิจารณ์กันหน่อย

[Solo]

ผมว่า คงจะเลี้ยงราคาไว้แถว 18--18.30 บาท จนกว่าจะ XD

แล้ว ไปตั้งแนวรับที่ 17 -16 บาท ครับ


แล้ว พี่ Jeng อย่าลืม สรุป มุมมองของเฮีย นะครับ อิอิ

[มือใหม่]

เห็นมันราคาไม่ค่อยขึ้นเลย

คิดว่า การแข่งขัน ปัจจุบันมีสูงนะ โดยเฉพาะคู่แข่งอย่าง lotus ลดแหลกเลยครับ

ค่าใช้จ่าย ก่อตั้งแต่ล่ะสาขา ใช้เงินเยอะพอควร
คิดว่า wg น่าเล่นกว่า bigc นะ

[Solo]

ผมชื่นชม bigc รวมทั้ง makro ที่ยังมี ธรรมาภิบาลให้แก่นักลงทุน ที่มีผลตอบแทนที่ดี ให้แก่ นักลงทุนครับ

ส่วนราคาตลาด จะวิ่งหรือไม่วิ่ง เป็นอีกประเด็นครับ

หุ้นที่ดีดี แต่ไม่วิ่งขึ้น ก็เคยเจอมาแล้วในอดีต ครับ เช่น Ayud ในอดีต ห้าหกปีก่อน
เตร่ แถว 90-100 บาทบวกลบตลอด ตอนพาร์ สิบบาทครับ ทั้งทั้งที่จ่ายปันผลดีมากมาก

แต่พอราคาตลาดสูงขึ้น กลับจ่ายน้อยลง เช่น Grammy, P-fcb งงเลยครับ

[tycoon]

BIGC ไม่น่ลงทุนครับ เพราะ ธุรกิจหรือยอดขาย จะโตได้ด้วยการตัดราคา ทำให้ Profit Margin ตก และผมไม่เห็นความแตกต่างของสินค้าในห้าง BigC Macro, Lotus, TOP ผมจะซื้อของที่ราคาถูกที่สุดเป็นหลัก

Consumer, Commodity Market ตอนนี้หินขึ้นมาก ดูอย่างลีเวอร์ ไตรมาสที่แล้วกำไรหดลง

[harry]

กำไรขั้นต้นต่ำ แล้วอัตราการหมุนเวียนสินค้าสูงมากป่าวครับ แล้วเทียบกับโลตัส คาร์ฟูร์แล้วเหนือกว่าหรือป่าวครับ แล้วการขยายสาขาเพิ่มต้องกู้เงินหรือกระแสเงินสดพอครับ อยากทราบครับพี่

[yoyosun]

ผมก็เห็นด้วยว่าการขายของ bigc lotus makro บางอย่างจะแพงมากจริงครับ แต่สงสัยมัยครับว่า ทำไมคนยังเดินและซื้อของกันเต็มไปหมด ผมว่าการซื้อของบางอย่างของคนส่วนใหญ่ต้องการความสะดวกสบาย ความสุขในการเดิน ห้างเล็กๆที่ขายของถูกกว่าถึงไม่ค่อยมีคนเดินครับ ผมว่าbigc ก็ยังมีจุดขายอยู่นะครับ บางที่ก็มีรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ด้วย

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ผมก็เห็นด้วยว่าการขายของ bigc lotus makro บางอย่างจะแพงมากจริงครับ แต่สงสัยมัยครับว่า ทำไมคนยังเดินและซื้อของกันเต็มไปหมด ผมว่าการซื้อของบางอย่างของคนส่วนใหญ่ต้องการความสะดวกสบาย ความสุขในการเดิน ห้างเล็กๆที่ขายของถูกกว่าถึงไม่ค่อยมีคนเดินครับ ผมว่าbigc ก็ยังมีจุดขายอยู่นะครับ บางที่ก็มีรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ด้วย

ขอเสริม harry นิดหนึ่งตรงคำว่า ผมว่า bigC ยังมีจุดขาย

อืม

bigC ขายได้ปีที่แล้ว 47000 ล้านบาท อีก 3 พันล้านบาท bigC จะขายได้ 5 หมื่นล้านบาท

พูดให้ชัดเจน คือ bigC ขายได้เกือบ 50 % ของ 1 แสนล้านบาทแล้วนะครับ

ในอนาคต เมื่อ bigC ขายได้ 1 แสนล้านบาท พี่ว่า เราหลายๆ คนอาจจะเริ่มเข้าใจ ว่า อืม ธุรกิจแบบนี้ ทำไม มันโตเอา โตเอา

Wall Mart ทำไม โตเอา โตเอา

สมัยก่อน บอก Wall Mart โต พี่ก็โดนแซว อิอิ ว่า เทียบกับ Wall Mart ไม่ได้

อืม

ถ้าไม่มี Wall Mart เราจะรู้ได้อย่างไร ว่า ธุรกิจแบบนี้ ยอดขาย อภิมหาศาลได้ ถ้าจำไม่ผิด Wall Mart ขายได้ปีละ 10 ล้านล้านบาท

หมายเหตุ ผมไม่ได้หมายความว่า bigC จะดีแบบ Wall Mart หรือ bigC จะดีกว่า lotus carrefour

แต่ผมอยากจะให้ดูตรงยอดขาย 4 หมื่น 7 พันล้านบาท โอ bigC เขาทำได้อย่างไร

[วันพีส]

ผมขอออกความเห็นบางครับ

ผมว่ากลยุทธ์ ค้าขายของ BigC โลตัส คาร์ฟูร มีข้อหนึ่งที่คิดว่า เหมือนกันครับ

กดราคาสินค้าเบอร์1 หรือ 2 จาก ซัพพลาย แล้วนำส่วนลดที่ได้นี้มาเป็นกำไร
เช่น นึกถึง สบู่ผมว่าต้องมีชื่อ ลักซ์ ,ผงซักฟอกมีชื่อ แฟ้บหรือบรีส น้ำอัดลมมีน้ำดำ(โค๊กหรือเป๊ปซี่) เป็นตัวชูโรง สินค้าเหล่านี้ราคาก็จะถูกกดให้ถูกกว่าความจริง เพื่อแลกกับผลประโยชน์ ของสินค้าเบอร์รองลงไป ของแต่ละซัพพลาย แล้ว BigC โลตัส คาร์ฟูร์ เมื่อราคาสินค้าเบอร์หลักถูก ผมว่าพี่ๆและทุกท่าน(ผมก็เป็นครับ)ก็จะมุ่งสู่สินค้าเบอร์หลักเหล่านี้โดยลืมมอง สินค้าอื่นๆที่มีอยู่ในรถเข็น ขณะที่คิดเงิน ซึ่งสินค้าอื่นไม่ได้ถูกกว่ากันเลย แพงด้วยซ้ำไป บางอย่าง เช่น ผักสด ผสไม้ ฯ อันเนี่ยผมว่าเป็นส่วนทำให้ อย่าง ลีเวอร์,สหพัฒน์ กำไร ลดลง

ไม่พึ่ง BigC โลตัส คาร์ฟูร ซัพพลายเขาจะอยู่ได้อย่างไร ขาดรายย่อยก็กำไรน้อยและต้องได้ปริมาณมากๆ ถึงอยู่ได้

ผมว่าเหตุข้างต้น เป็นข้อหนึ่ง ที่ยังไง แมคโคร ก็ยังอยู่ได้ครับ

กำไรขั้นต้นต่ำ แล้วอัตราการหมุนเวียนสินค้าสูงมากป่าวครับ แล้วเทียบกับโลตัส คาร์ฟูร์แล้วเหนือกว่าหรือป่าวครับ แล้วการขยายสาขาเพิ่มต้องกู้เงินหรือกระแสเงินสดพอครับ อยากทราบครับพี่

ผมว่า BigC ยังสู้อัตราการขยายตัวของ โลตัส คาร์ฟูร์ ไม่ได้ ครับ ถ้าจำได้ไม่ผิด เงิน BigC ที่ใช้ลงทุนน่าจะเป็นเงินคนไทย กลุ่ม เซนทรัล+โรบินสัน มากกว่า ขณะที่เงินส่วนใหญ่ของ คาร์ฟูร์ เป็นดอร์ล่าร์ เข้ามาลงทุน โลตัส ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เป็นเงิน ปอนด์ เข้ามาลงทุน

[คนขายของ]

พอดีทำงานกับตลาดทางนี้พอดี แต่มีรายละเอียดส่วนย่อยที่ไม่สามารถบอกได้ แต่เอาคร่าวๆนะครับว่า BIGC ผมถือว่าเป็นสุดยอด defensive stock ในดวงใจผม เนื่องจากตอนนี้หากใครคิดจะเปิด superstore คงต้องใช้เงินมากกว่า พวกที่มีอยู่หลายเท่า กิจการพวกนี้จะมาดูแต่ profit margin อย่างเดียวไม่ได้ คงต้องดู Inventory turn และ cashflow statement ประกอบการพิจารณา Walmart มี Revenue มากที่สุดใน US แต่มีกำไรน้อย จาก Revenue 260,000 millions USD มีกำไรแค่ 9000 millions. หรือประมาณ 3% เอง แต่ลองไปดู cash ของเขาก่อนซิครับ พวกนี้ซื้อของเครดิต 60 วัน แต่ขายได้เงินสดๆ

BIGC นั้นถึงยอดขายสู้ LOTUS ไม่ได้ สาขาน้อยกว่า แต่ BIGC ก็มี Operating Expense ในการ run store ที่น้อยกว่า LOTUS สาเหตุคงไม่สามารถอธิบายได้มากในที่สาธารณะ BIGC มีพันธมิตรอย่าง CPN ทำให้มีการขยายควบคู่ไปกับ Central ซึ่งเมื่อเปิดใกล้กันก็จะเป็น แม่เหล็กดึงคนได้อย่างดี เช่น ที่ พระราม 2, บางนา, ราชดำริ

ทาง CASINO major shareholderที่ทำธุรกิจคล้าย TESCO ที่อังกฤษ แต่ CASINO อยู่ฝรั่งเศส เห็นว่าจะใช้ Brand BIGC ในการลุยตลาดย่านนี้เช่นกัน

ผมเชื่อว่า หลังจาก BIGC เริ่มชะลอการขยายสาขา (ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับ TESCO LOTUS ซึ่งจะขยายสาขาลดลงเมื่อครบ 50 สาขา) ก็จะเริ่มหันมาเพิ่มประสิทธิภาพกับสาขาที่มีอยู่ ทำให้หนี้ใหม่ไม่เพิ่มขึ้นมาก และอาจนำเงินสด ส่วนที่เหลือมาชำระหนี้ และเมื่อหนี้ลดลง เข้าข่าย D/E ratio ที่ปลอดภัย ผมว่า BIGC คงจะกลายเป็นหุ้นไข่ทองคำในไม่ช้า

ผมไม่มี BIGC เลยแม้แต่น้อย แต่ก็เล็งอยู่เมื่อราคามี margin of safety พอสมควรครับแต่วันนี้เล่นลบกันขนาดนี้อาจจะเหลียวไปดู Growth Stock ที่ราคา Super Under Value ก่อนครับ

[มือใหม่]

เคยมีข่าวอยู่ว่า lotus ขายสินค้าบางรายการถูกกว่าต้นทุนของสินค้านั้น(พวกน้ำปลา น้ำมันพืช น้ำตาล) เพื่อเป็นยุทธวิธีในการดึงลูกค้าให้มา shopping แบบหนึ่ง

ไม่รู้ว่ากลยุทธในลักษณะแบบนี้ กระทรวงพาณิชย์ออกมาดูแลบ้างหรือเปล่า

ถ้าให้ผมเทียบนะครับ (อย่าว่ากันนะ เป็นแค่ความคิดเห็น) lotus ขายของถูกกว่า bigc และ bigc จะโต้กลับก็คงใช้วิธีตัดราคาสินค้า

ถ้าธุรกิจยัง แข่งขันในลักษณะตัดราคาแบบนี้ บาดเจ็บทั้งคู่หรือใครทุนหนากว่าก็ชนะไป

[CK]

คุณมือใหม่

การตัดราคาขายให้ต่ำกว่าทุนในบางรายการเป็นไปได้ครับ แต่
ไม่ใช่จะถึงขั้นทำให้ขาดทุนจริงๆ

เทคนิคนี้เป็นเทคนิคการตลาดที่ใช้กันมาช้านานแล้ว คือเอา
สินค้าชูโรงตัวสองตัวมาตัดขายในราคาสุดถูกเพื่อดึงลูกค้า และ
มีการจำกัดโควต้าต่อคน และสินค้ามีจำนวนจำกัด

ส่วนต่างของราคาปกติกับราคาที่ขาย คูณด้วยจำนวนสินค้าทั้ง
หมดสามารถบันทึกเป็น "Marketing Expense" ซึ่งก็คือค่าใช้
จ่ายในการเรียกลูกค้าเข้าร้าน ซึ่งถูกว่าการลงโฆษณาในโทรทัศน์
ช่วง prime time เป็นไหนๆ

ในการคำนวณ gross profit margin ของร้านค้า ไม่จำเป็นต้องเอา
สินค้าตัวนั้นมารวมด้วยซ้ำครับ บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในกิจกรรมส่ง-
เสริมการขายไปเลย

ส่วนลูกค้าเอง คงไปเดินเข้าไปช๊อปปิ้งแล้วซื้ออย่างเดียวอยู่แล้ว
ครับ ก็ต้องซื้ออย่างอื่นด้วย (ส่วนมาก)

เพราะฉะนั้นที่คุณมือใหม่ว่าจะตัดราคากันจนเจ๊งนี่เป็นไปไม่ได้ครับ
BigC และ Lotus ไม่ได้ทำธุรกิจแบบร้านค้าห้องแถวที่ไม่ได้คำนวณ
ต้นทุนแบบเป็นระบบแบบนี้

[chatchai]

BIGC ก็ใช้เงินนอกครับ CASINO เป็นผ้ประกอบการจากฝรั่งเศสครับ

[มือใหม่]

ความคิดเห็นคุณ ck เห็นด้วยครับ