อากาศร้อนมาก ขอเชิญเพื่อนๆดื่มชาเขียวกันก่อน

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
VIB007
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2035
ผู้ติดตาม: 0

อากาศร้อนมาก ขอเชิญเพื่อนๆดื่มชาเขียวกันก่อน

โพสต์ที่ 61

โพสต์

ขอบคุณทุกท่านที่ให้ข้อมูลและคำแนะนำครับ

ไม่ค่อยได้ไปเยาวราชสักเท่าไหร่
ถ้าไปจะตรงแน๋วไปที่ร้านที่บอกแน่นอน

ตอนนี้คงต้องอาศัย "ชาเขียวบันชา"ห่อละร้อย (ชงมาสามเดือนแล้วยังไม่หมดเลย ถูกมากๆ ถูกกว่าโออิชิขวดละ 20 บาทมากๆ)
และ"ชาใบหม่อน" ของไทยไปพลางๆก่อน

คุณติงติงบอกเรื่องชาจีนไปแล้ว
ผมขอบอกเรื่อง ชาเขียวญี่ปุ่นมั่ง เท่าที่ความรู้อันจำกัดจะบอกได้นะครับ

ชาเขียวญี่ปุ่นมีสองแบบครับ
หนึ่ง เซนชา เป็นชาใบ
สอง บันชา เป็นชาก้านใบ

ทางแมคโครไบโอติค แนะนำให้ทาน บันชา ครับ
เพราะมี คาเฟอีนน้อยกว่า

มีความรู้เท่านี้หละเรื่อง ชาเขียว
Chlorophyle
Verified User
โพสต์: 93
ผู้ติดตาม: 0

อากาศร้อนมาก ขอเชิญเพื่อนๆดื่มชาเขียวกันก่อน

โพสต์ที่ 62

โพสต์

พอดีไปอ่านเจอมาครับ.... (จริงเท็จประการใดไม่ทราบนะครับ)

ความมหัศจรรย์ของชาเขียว
มีสุภาษิตจีนโบราณกล่าวไว้ว่า "ขาดอาหารสามวันยังดีเสียกว่า ขาดชาเพียงวันเดียว" นั่นเป็นเพราะชาวจีน รู้เรื่องประโยชน์ทางยา ของชา โดยเฉพาะชาเขียว มาตั้งแต่ครั้งโบราณ โดยชาวจีนจะใช้ชาเขียว รักษาตั้งแต่โรคปวดศีรษะ ไปจนถึงโรคซึมเศร้า ซึ่งในหนังสือเรื่อง ไขความลับธรรมชาติ สู่สุขภาพที่ดีกว่า ของ นาดีน เทย์เลอร์ ได้กล่าวว่า ในประเทศจีนมีการ ใช้ชาเขียวเป็นยา เป็นเวลานานอย่างน้อย 4,000 ปีมาแล้ว
สำหรับในบ้านเราเอง ชาเขียวเริ่มเป็นที่รู้จักในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังๆ ที่คนไทยหันมา ใส่ใจในเรื่อง การดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ส่งผลให้มีผู้นิยมดื่มชาเขียวมากขึ้นไปด้วย เพราะมีการพูดถึง ประโยชน์ของ ชาเขียวกันมากมาย ...จึงขอนำบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ความมหัศจรรย์ของชาเขียว มาฝากกันครับ เพราะเชื่อว่าชาว TVI คนคงจะนิยมดื่มชา(เขียว)
ปัจจุบัน การวิจัยทาง วิทยาศาสตร์ทั้งในโลกตะวันตกและตะวันออก พบว่า การดื่มชาเขียวมีผลอย่างชัดเจนต่อ สุขภาพ เช่น ในปี ค.ศ.1994 วารสารของ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาที่แสดงว่า การดื่มชาเขียวช่วยลด อัตราการเสี่ยงของ โรคมะเร็งหลอดอาหารในหมู่ชาวจีน ทั้งหญิงชายได้ถึงเกือบ 60% และเมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยปูร์ดู สรุปว่า สารประกอบในชาเขียว ช่วยยับยั้งอัตราการเติบโตของเซลมะเร็งได้ นอกจากนั้น ยังมีการวิจัยที่แสดงว่า การดื่มชาเขียวช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอลโดยรวมได้ และยังช่วยปรับอัตรา LDL ให้เป็น HDL
ชาเขียวมีดีตรงไหน
ความลับของชาเขียวอยู่ที่ปริมาณสาร Catechin Polyphenol โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Epigallocatechin Gallate (EGCG) ที่มีอยู่มากในตัวชา EGCG เป็นสารต้านพิษ และยังช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลมะเร็งด้วยการฆ่าเซลล์มะ เร็งโดยไม่ทำลาย เนื้อเยื่อส่วนดี นอกจากนั้น ยังช่วยลดระดับ LDL คลอเรสเตอรอล และยับยั้งการก่อตัว แบบผิดปกติ ของก้อนเลือด ซึ่งเป็นเหตุของอาการหัวใจวาย และลมชัก มักมีการเปรียบเทียบประโยชน์ที่ได้จากการดื่มชา กับประโยชน์ที่ได้จากการดื่มไวน์ โดยนักวิจัยได้สงสัย มานานแล้วว่า ทำไมชาวฝรั่งเศสจึงมีอัตราการ ป่วยด้วยโรคหัวใจน้อยกว่า ชาวอเมริกันทั้งที่ บริโภคอาหาร ที่มีไขมันสูง คำตอบก็คือ เป็นเพราะไวน์แดง ซึ่งมีสาร Resveratrol ที่เป็น Polyphenol ที่ลดอันตรายจาก การสูบบุหรี่ และการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง โดยในปี ค.ศ.1997 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคนซัส ได้สรุปว่า EGCG นั้นแรงเท่าๆ กับ Resveratrol ถึงเกือบ 2 เท่า ซึ่งเป็นการอธิบายว่า ทำไมชาวญี่ปุ่น จึงมีอัตราการเสี่ยงโรคหัว ใจค่อนข้างต่ำ แม้ว่ากว่า 75% จะสูบบุหรี่ก็ตาม แล้วทำไมชาจีนอื่นๆ จึงไม่ดีเท่าชาเขียว ทั้งๆ ที่ชาเขียว ชาอูลอง และชาดำต่างก็มาจากใบของต้น Camellia Sinensis แต่การที่ชาเขียวมีประโยชน์มากกว่า ก็เนื่องมาจากกระบวนการแปรรูป โดยใบชาเขียว จะถูกนำมาอบไอน้ำ ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้สารประกอบ EGCG เข้ารวมตัวกับออกซิเจน ในทางตรงข้าม ใบชาอูลองและชาดำกลับเกิดจากการนำใบชาไปหมัก ซึ่งทำให้ EGCG ถูกเปลี่ยนเป็นสารประกอบชนิดอื่น ซึ่งแทบไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน หรือต่อสู้โรคใด ๆ เลย สาร EGCG นี้ในทางเคมีจัดเป็นสาร Polyphenol ชนิดหนึ่งที่มีการวิจัยกันอย่างกว้างขวาง และจากผลการวิจัยหลายครั้งก็พบว่า สาร EGCG ดังกล่าวนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ได้แก่
1. มีส่วนช่วยในกระบวนการกำจัดไขมันโคเรสเตอรอลในหลอดเลือด ซึ่งทำให้ลดภาวะความเสี่ยงต่อ โรคความดันโลหิตสูง จากการอุดตันของไขมัน ในหลอดเลือด
2. ช่วยในการขับสารพิษ และสารอนุมูลอิสระจึงส่งผลในการป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็งและโรคความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
3. ช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เนื่องจากมีผลในการกระตุ้นการทำงานระดับเซลล์
และนอกจากสรรพคุณดังกล่าวจากสาร EGCG ที่มีอยู่ในชาเขียวแล้ว ชาเขียวยังให้สารอื่นๆ อีกมากมาย เช่น สารคลอโรฟิลล์ ซึ่งมีประโยชน์ต่อ กระบวนการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และขับสารพิษตกค้างออกจากร่างกายของเรา และจะทำงานร่วมกับสาร EGCG ในการช่วยทำให้ ร่างกายของเรา รู้สึกสดชื่น และลดความเสี่ยงจากอันตราย ของสารพิษและอนุมูลอิสระ นอกจากนั้น ชาเขียวยังมีวิตามิน (Vitamins) เกลือแร่ (Minerals) และสารอาหารจากพืช ที่มีความสำคัญต่อร่างกายอีกมากมาย ประโยชน์อื่นๆ
มีหลักฐานใหม่ๆ ที่แสดงว่า ชาเขียวสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ โดยในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1999 วารสาร The American Journal of Clinical Nutrition ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษา ของนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยเจนีวา ในสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งพบว่าผู้ที่ดื่มทั้งสารสกัดคาเฟอีน และชาเขียวมีการเผาไหม้ แคลลอรี่มากกว่า คนที่ได้คาเฟอีนอย่างเดียว นอกจากนี้ ชาเขียวยังช่วยป้องกันฟันผุได้ด้วย ความสามารถในการทำลาย แบคทีเรียของชาเขียว สามารถป้องกันอาหารเป็นพิษได้ และยังช่วยฆ่าแบคทีเรีย ที่ก่อให้เกิดคราบพลัค ในช่องปาก ในขณะเดียวกัน ปัจจุบันเริ่มมีผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ถนอมผิวที่มีส่วนผสมของชาเขียว ไม่ว่าจะเป็น น้ำยาดับกลิ่นตัว หรือครีมบำรุงผิว ออกมาจำหน่ายะ
คุณควรดื่มชาเขียวมากเท่าไร
คำตอบมีมากพอๆ กับจำนวนการวิจัยเรื่องคุณสมบัติของชาเขียว เช่น นิตยสาร Herbs for Health อ้างตัวอย่างรายงานจากญี่ปุ่นว่าคนที่ดื่มชา เขียว 10 แก้วต่อวัน จะปลอดโรคมะเร็งนานกว่าคนที่ดื่มชาเขียวน้อยกว่า 3 แก้วต่อวัน ถึง 3 ปี (มี Polyphenol ประมาณ 240-320 มก. ในชาเขียว 3 แก้ว) ขณะเดียวกัน การศึกษาของมหาวิทยาลัย Cleveland's Western Reserve สรุปว่า การดื่มชาเขียวสี่แก้ว หรือมากกว่านั้นจะช่วยป้องกันโรคปวดข้อ หรือลดอาการปวด ในกรณีของคนที่ป่วยอยู่แล้ว ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่สถาบันวิจัยมะเร็ง Saitama พบว่า การเกิด โรคมะเร็งเต้านม หรือการขยายตัวของโรคนั้น จะน้อยลงในผู้หญิง ที่มีประวัติดื่มชาเขียว 5 ถ้วย หรือมากกว่านั้นต่อ 1 วัน ส่วนทางด้านมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ได้มีการศึกษา เรื่องคุณสมบัติการป้องกันมะเร็งของชาเขียว พบว่า คนเราสามารถได้รับปริมาณ Polyphenols ในปริมาณที่ต้องการได้โดยดื่มชาเขียวเพียง 2 ถ้วยต่อวัน แต่บริษัทผู้ค้าชาเขียวชนþþิดแคปซูลกลับกล่าวว่า หากต้องการให้ได้ ประโยชน์สูงสุดแล้วล่ะก็ จะต้องดื่มชาเขียวถึงวันละ 10 ถ้วยเลยทีเดียว แต่ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไรก็ตาม การดื่มชาเพียง 4-5 ถ้วยต่อวันดูจะปลอดภัยที่สุด และถ้าคุณจริงจังกับการดื่มชาเขียวมากก็อาจจะดื่มได้มากกว่านั้น แต่จะได้ประโยชน์มากน้อยขึ้นอย่างไรนั้น ก็คงต้องรอ ผลการวิจัยอื่นๆ ต่อไป
ชาเขียวมีผลร้ายบ้างหรือไม่ จนถึงปัจจุบัน ผลด้านลบที่พบจากการดื่มชาเขียว คือ อาการนอนไม่หลับอันเนื่องมาจากคาเฟอีน อย่าง ไรก็ตาม ชาเขียวยังมีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟ คือ ประมาณ 30-60 มก. ต่อชา 6-8 ออนซ์ เมื่อเทียบกับจำนวนคาเฟอีนกว่า 100 มก. ที่พบในกาแฟ 8 ออนซ์ นอกจากชาเขียวแล้ว ปัจจุบันยังมี ชาจากเมล็ดกัวราน่าสกัด (Guarana Tea) ซึ่งกำลังเป็นที่รู้จักในฐานะ ที่ช่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ช่วยให้อาการภูมิแพ้ หรือไมเกรนดีขึ้น โดยสารสกัดจากเมล็ดกัวราน่านั้น นิยมใช้เป็นประโยชน์ในคนเรามานานแล้ว โดยเฉพาะในแถบประเทศแอฟฟริกา และอเมริกาใต้ โดยเน้นในเรื่องของ การให้ผลในการกระตุ้นให้ร่างกาย รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า นอกจากนี้ ยังให้ผลในการช่วยขับสารพิษตกค้างในร่างกาย ทั้งในระบบทางเดินอาหาร และในระบบไหลเวียนโลหิตอีกด้วย และสำหรับผู้ที่ติดกาแฟกับบุหรี่ เค้าบอกกันว่าถ้าได้กินชาจากเมล็ดกัวราน่าสกัดแล้ว อาจทำให้ลืมกาแฟ กับบุหรี่ไปเลยก็ได้ เพื่อนๆ คงจะได้ทราบกันแล้วนะครับว่า การดื่มชาชงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นชาเขียว หรือชาที่สกัดจากเมล็ดกัวราน่านั้น จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ของเราอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ที่มีสารพิษหรืออนุมูลอิสระในร่างกายมากๆ อย่างเช่น ผู้ที่อยู่ในโปรแกรมการกำจัดไขมัน หรือลดน้ำหนัก หรือในผู้ที่มีภาวะ ความเครียด จากการทำงานสูง เพราะสารสำคัญจากชาจะช่วยในการกำจัดสารพิษตกค้างต่างๆ และช่วยในการปรับให้ ร่างกายของเราสามารถ กลับคืนสู่สมดุลเดิม ได้อย่างรวดเร็ว และส่งผลทำให้เราพร้อมที่ทำงานหนักหรือเข้าสู่โปรแกรมเฉพาะต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่มีอันตรายใดๆ ต่อร่างกายครับ รู้อย่างนี้แล้วก็คงทำให้เพื่อนๆ ดื่มชาเขียวกันได้อย่างสบายใจนะครับ
ข้อมูลจาก : http://www.thaihealth.info