พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 31
จะว่าไปก็ต้องบอกว่า จำนวนหุ้นจะถูก dilite ทุกปี ปีละ 240,000 หุ้นครับ ถ้าโครงการนี้ผ่าน
แต่ที่สำคัญคือ มันแปลก ๆ นะ ที่อยู่ ๆ ผู้บริหารสูงสุด จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นบุคคลธรรมดาที่ใหญ่ที่สุด หลังจาก ESOP ใช้สิทธิเสร็จเรียบร้อยแล้ว
แต่ที่สำคัญคือ มันแปลก ๆ นะ ที่อยู่ ๆ ผู้บริหารสูงสุด จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นบุคคลธรรมดาที่ใหญ่ที่สุด หลังจาก ESOP ใช้สิทธิเสร็จเรียบร้อยแล้ว
- tatandchin
- Verified User
- โพสต์: 775
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 32
เห็นด้วยคับว่าไม่ควรให้กันแค่ 2 คนเช่นนี้ คับ ถ้าจะให้ก็ควรให้ให้ทั่วถึงตามสัดส่วนที่เหมาะสมคับถึงจะ fairakekarat เขียน:ตัวเลขอาจจะคลาดเคลื่อนนะครับ เพราะผมพิมพ์ไปคิดไป ไม่ได้เตรียมการอย่างละเอียดอะไร
ถ้า ESOP ครั้งนี้ กระจายแก่ทุกฝ่ายอย่างทั่วถึง ไม่ใช่ได้กันอยู่แค่สองคน ส่วนตัวผมก็คงยอมรับได้
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 33
ผมคิดว่า การออกอีสปที่ยุติธรรมกับทุกฝ่ายที่สุด
คือการตั้งงบสำหรับโบนัสผู้บริหารที่จะได้อีสป
เช่น 12 ล้านบาท
แล้วเอาเงินกำไรสะสม ไปซื้อหุ้นคืน
แล้วเอาหุ้นที่ซื้อคืนได้ ไปให้ผู้บริหารที่ได้อีสป
ให้ฟรีก็ได้ครับ
แต่ควรเป็น performance-based stock option plan
เช่น ผูกกับ FCF ที่บริษัททำได้ในแต่ละปี
ถ้า FCF ลดลงหรือเท่าเดิม ก็ไม่ได้ ESOP
แต่ถ้า FCF เพิ่ม 5% ก็ได้ 50% ของ plan
ถ้าเพิม 10% หรือมากกว่า ก็ได้เต็ม 100%
คือการตั้งงบสำหรับโบนัสผู้บริหารที่จะได้อีสป
เช่น 12 ล้านบาท
แล้วเอาเงินกำไรสะสม ไปซื้อหุ้นคืน
แล้วเอาหุ้นที่ซื้อคืนได้ ไปให้ผู้บริหารที่ได้อีสป
ให้ฟรีก็ได้ครับ
แต่ควรเป็น performance-based stock option plan
เช่น ผูกกับ FCF ที่บริษัททำได้ในแต่ละปี
ถ้า FCF ลดลงหรือเท่าเดิม ก็ไม่ได้ ESOP
แต่ถ้า FCF เพิ่ม 5% ก็ได้ 50% ของ plan
ถ้าเพิม 10% หรือมากกว่า ก็ได้เต็ม 100%
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 34
ถ้าผมได้ไปประชุมผู้ถือหุ้น ผมคงมีคำถามเรื่องนี้ซัก 3 ข้อ
1. พนักงานที่เหลือกว่า 200 คน มีความเห็นอย่างไรกับ ESOP ครั้งนี้
2. ESOP ครั้งนี้ จะช่วยให้องค์กร มี Productivity และ Motivation เพิ่มขึ้น เพื่อการเจริญเติบโตและความแข็งแกร่งแก่บริษัท และผลประโยชน์ผู้ถือหุ้นอย่างไร
3. ผู้ได้รับผลประโยชน์ทั้งสองท่าน มีความเห็นว่า ESOP ครั้งนี้ สมเหตุสมผลหรือไม่
การที่ผู้บริหาร ไม่มีส่วนได้เสียเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ก็มีข้อเสียตรงที่จะไม่เข้าใจมุมมองและไม่เห็นแก่ผลประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นในฐานะเจ้าของบริษัท แต่ในทางกลับกัน การที่ ผู้บริหารกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ (เกือบที่สุด) ก็อาจส่งผลเสียในด้านการแสวงหาผลประโยชน์จากบริษัท และด้านธรรมมาภิบาลได้เช่นกัน ดังที่เกิดกับหุ้นบางตัวเมื่อไม่นานมานี้
สรุป ยังไงผมก็ไม่เห็นด้วยกับ ESOP ครั้งนี้
1. พนักงานที่เหลือกว่า 200 คน มีความเห็นอย่างไรกับ ESOP ครั้งนี้
2. ESOP ครั้งนี้ จะช่วยให้องค์กร มี Productivity และ Motivation เพิ่มขึ้น เพื่อการเจริญเติบโตและความแข็งแกร่งแก่บริษัท และผลประโยชน์ผู้ถือหุ้นอย่างไร
3. ผู้ได้รับผลประโยชน์ทั้งสองท่าน มีความเห็นว่า ESOP ครั้งนี้ สมเหตุสมผลหรือไม่
การที่ผู้บริหาร ไม่มีส่วนได้เสียเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ก็มีข้อเสียตรงที่จะไม่เข้าใจมุมมองและไม่เห็นแก่ผลประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นในฐานะเจ้าของบริษัท แต่ในทางกลับกัน การที่ ผู้บริหารกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ (เกือบที่สุด) ก็อาจส่งผลเสียในด้านการแสวงหาผลประโยชน์จากบริษัท และด้านธรรมมาภิบาลได้เช่นกัน ดังที่เกิดกับหุ้นบางตัวเมื่อไม่นานมานี้
สรุป ยังไงผมก็ไม่เห็นด้วยกับ ESOP ครั้งนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 35
อืมม ใช่akekarat เขียน:
แต่ที่สำคัญคือ มันแปลก ๆ นะ ที่อยู่ ๆ ผู้บริหารสูงสุด จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นบุคคลธรรมดาที่ใหญ่ที่สุด หลังจาก ESOP ใช้สิทธิเสร็จเรียบร้อยแล้ว
แปลความยังไงได้เนี่ย
หรือ บริษัทขาดผู้บริหารท่านนี้ไม่ได้แน่ๆ สำคัญมาก ถ้าแกไม่อยู่บริษัทคงกระเทือนหนัก
หรือเปล่าหว่า :roll: :?: :roll:
-
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 36
คุณ 007-s
เที่ยวไปวิเคราะห์ Swot ตัวอื่น ๆ ตั้งนาน ลืมนึกถึงประเด็นนี้ที่คุณ 007-s พูดถึงจริง ๆ แหะ หรือความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของบริษัทนี้ อยู่ที่กรรมการผู้จัดการ และรองกรรมการผู้จัดการรึเปล่าครับ น่าสนใจครับ แบบนี้ต้องร้องเพลงว่า ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึกครับแปลความยังไงได้เนี่ย
หรือ บริษัทขาดผู้บริหารท่านนี้ไม่ได้แน่ๆ สำคัญมาก ถ้าแกไม่อยู่บริษัทคงกระเทือนหนัก
หรือเปล่าหว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 37
คุณ CK
ว่าแต่ว่า คุณ CK พอทราบไหมครับว่ามีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่ใดที่ให้แบบนี้บางครั้ง ที่ผูกติดเงื่อนไขนี้ครับ น่าสนใจศึกษาว่า เมื่อทำแล้ว ช่วยเพิ่มมูลค่าเพิ่มกับผู้ถือหุ้นหรือไม่ มีบริษัทใดที่ใช้แล้วได้ผลและไม่ได้ผลอย่างไรครับ :D
เห็นด้วยครับว่า ESOP ควรเป็น performance-based stock option planผมคิดว่า การออกอีสปที่ยุติธรรมกับทุกฝ่ายที่สุด
คือการตั้งงบสำหรับโบนัสผู้บริหารที่จะได้อีสป
เช่น 12 ล้านบาท
แล้วเอาเงินกำไรสะสม ไปซื้อหุ้นคืน
แล้วเอาหุ้นที่ซื้อคืนได้ ไปให้ผู้บริหารที่ได้อีสป
ให้ฟรีก็ได้ครับ
แต่ควรเป็น performance-based stock option plan
เช่น ผูกกับ FCF ที่บริษัททำได้ในแต่ละปี
ถ้า FCF ลดลงหรือเท่าเดิม ก็ไม่ได้ ESOP
แต่ถ้า FCF เพิ่ม 5% ก็ได้ 50% ของ plan
ถ้าเพิม 10% หรือมากกว่า ก็ได้เต็ม 100%
ว่าแต่ว่า คุณ CK พอทราบไหมครับว่ามีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่ใดที่ให้แบบนี้บางครั้ง ที่ผูกติดเงื่อนไขนี้ครับ น่าสนใจศึกษาว่า เมื่อทำแล้ว ช่วยเพิ่มมูลค่าเพิ่มกับผู้ถือหุ้นหรือไม่ มีบริษัทใดที่ใช้แล้วได้ผลและไม่ได้ผลอย่างไรครับ :D
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 38
นั่นสิคะ เพราะจำนวนหุ้นที่ให้ ทั้งสองท่านนี้ เป็นจำนวนที่เยอะถ้าวัดเทียบรายบุคคล
ดิฉันเข้าใจว่าก่อนจะออกนโยบายนี้ออกมา เขาย่อมต้องตกลงกะหุ้นใหญ่เดิม เรียบร้อยแล้ว มันก็น่าจะผ่านแน่นอนล่ะ มตินี้
คงไม่ต้องเสียเวลาไปคัดค้านอะไร
(อันนี้เดาประกอบจาก ช่วงก่อนหน้า ที่เกิดแรงขายเยอะติดๆกันหลายวัน ที่เรารายกระจ้อยร่อย ให้ข้อสังเกตุไว้ ในร้อยคนร้อยหุ้น)
ดิฉันเข้าใจว่าก่อนจะออกนโยบายนี้ออกมา เขาย่อมต้องตกลงกะหุ้นใหญ่เดิม เรียบร้อยแล้ว มันก็น่าจะผ่านแน่นอนล่ะ มตินี้
คงไม่ต้องเสียเวลาไปคัดค้านอะไร
(อันนี้เดาประกอบจาก ช่วงก่อนหน้า ที่เกิดแรงขายเยอะติดๆกันหลายวัน ที่เรารายกระจ้อยร่อย ให้ข้อสังเกตุไว้ ในร้อยคนร้อยหุ้น)
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 39
จริงอยู่ที่ต้องใช้เสียงมากถึง 10% หรือ 1.785 ล้านหุ้นเพื่อคัดค้านการออก ESOP007-s เขียน:นั่นสิคะ เพราะจำนวนหุ้นที่ให้ ทั้งสองท่านนี้ เป็นจำนวนที่เยอะถ้าวัดเทียบรายบุคคล
ดิฉันเข้าใจว่าก่อนจะออกนโยบายนี้ออกมา เขาย่อมต้องตกลงกะหุ้นใหญ่เดิม เรียบร้อยแล้ว มันก็น่าจะผ่านแน่นอนล่ะ มตินี้
คงไม่ต้องเสียเวลาไปคัดค้านอะไร
(อันนี้เดาประกอบจาก ช่วงก่อนหน้า ที่เกิดแรงขายเยอะติดๆกันหลายวัน ที่เรารายกระจ้อยร่อย ให้ข้อสังเกตุไว้ ในร้อยคนร้อยหุ้น)
แต่ว่าถ้ามีคะแนนเสียงของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมรวมกันมากกว่า 5% สามารถคัดค้านเป็นการให้สิทธิรายบุคคล ที่มากกว่า 5% ของ ESOP ได้ครับ
ก็ประมาณ 892,500 หุ้น ไม่น่าจะมากเกินไปครับ
แต่ในความเป็นจริงอีกครั้ง เรื่องนี้คงเป็นที่รู้ ๆ กันอยู่แล้ว ผมก็ไม่แน่ใจว่าการเทขายออกมาเมื่อเดือนก่อนเป็นผลมาจากเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า แต่ขนาดประธานกรรมการที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ WG ด้วยห้าแสนกว่าหุ้น เป็นประธานกรรมการออก ESOP ซะเอง มตินี้ก็คงผ่านแหละครับ ผู้ถือหุ้นรายย่อยจะทำอะไรได้?
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 41
[quote="chatchai"][quote="ต.หยวนเปียว"]คุณฉัตรชัยยังไม่ได้ไปเกาะเสม็ดหรือครับ
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 42
แหะๆ ขออภัยครับเพื่อนๆ
อ่านWG เพลินๆ
ไปชวนคุณฉัตรชัยคุยเรื่องลูก ในกระทู้นี้ :lol:
อ่านWG เพลินๆ
ไปชวนคุณฉัตรชัยคุยเรื่องลูก ในกระทู้นี้ :lol:
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- Verified User
- โพสต์: 185
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 44
เคยอ่านพ่อรวย เงินสี่ด้าน แล้วกล่าวถึงมุมมองที่แตกต่างระหว่างกรรมการและผู้ถือหุ้น ได้สัมผัสกันก็ครานี้
ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าในเอกสารการประชุม ที่มากับรายงานของปีที่แล้ว คือในการประชุมประจำปี 47 มีผู้ถือหุ้นเสนอถึงการซื้อหุ้นคืนแต่ถูกกรรมการปฏิเสธนี่ครับว่าไม่มีนโยบายซื้อหุ้นคืนจะมีประโยชน์กับ บ.
แต่ผมคิดว่าถ้าปีไหนบ.กำไรดีขึ้นใช้วิธีเพิ่มค่าตอบแทนให้ผู้บริหารและพนักงานเป็นเงินตามผลงานแล้วให้พวกผู้บริหารและพนักงานมาซื้อหุ้นในตลาดน่าจะบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น
ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าในเอกสารการประชุม ที่มากับรายงานของปีที่แล้ว คือในการประชุมประจำปี 47 มีผู้ถือหุ้นเสนอถึงการซื้อหุ้นคืนแต่ถูกกรรมการปฏิเสธนี่ครับว่าไม่มีนโยบายซื้อหุ้นคืนจะมีประโยชน์กับ บ.
แต่ผมคิดว่าถ้าปีไหนบ.กำไรดีขึ้นใช้วิธีเพิ่มค่าตอบแทนให้ผู้บริหารและพนักงานเป็นเงินตามผลงานแล้วให้พวกผู้บริหารและพนักงานมาซื้อหุ้นในตลาดน่าจะบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น
-
- Verified User
- โพสต์: 2032
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 46
เพื่อน เขียน:
ผมว่าการออก อีสปครั้งนี้ เป็นการสร้างความแตกแยกภายในองค์กรเค้าเองมากกว่าครับ
ผมก็ขอค้านอีกคนครับ
เห็นด้วยกับความคิดว่าน่าจะกระจายหุ้นอีสปให้กว้างกว่านี้ และตั้งราคาใช้สิทธิมีส่วนลดจากราคาปัจจุบันเล็กน้อยก็พอ อาจจะเพิ่มจำนวนอีสปก็ยังได้ถ้าตั้งราคาสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบันด้วยซ้ำ
....
ถ้าเราค้านวิธีการ ให้เค้าเพิ่มจำนวนอีสปได้ แต่ต้องตั้งราคาใช้สิทธิใกล้เคียงราคาตลาดหรือสูงกว่า จะเป็นไปได้มั้ยครับ
ผมเห็นคล้าย กับ พี่เพื่อนนะครับ ไม่รู้ผู้บริหารคนอื่น จะคิดยังไง
เท่าที่ผมดูรายชื่อ ก็มีอีก 4-5 ท่าน ที่ทำงานมาเป็น 10 ปีแล้ว
อย่างนี้ มันเหมือนให้รางวัล ผู้บริหารแค่ 2 คน จากผลงานในอดีตมากกว่า
และไม่ทราบว่า โครงการ ESOP นี้ จะมีอีกหรือเปล่าครับ (อย่างน้อยภายใน 5 ปีนี้) เพราะเห็นระบุว่า ครั้งนี้ ครั้งที่ 1 และยังมีหุ้นเหลืออีก 12.15 ล้านหุ้น
ถ้าผมเป็นกรรมการโครงการนี้ ผมจะเสนอว่า
จะมีโครงการ ESOP 5 ครั้ง ปีละครั้ง ครั้งละ 240,000 หน่วย (ทั้งหมด 1.2 ล้านหน่วย)
ครั้งแรก ปี 50 ให้ 2 ท่าน ท่านแรก 200,000 ท่านที่สอง 40,000
ครั้งที่ 2-5 จะประกาศ จัดสรรแต่ละคราวไป
น่าจะเรียกขวัญ กำลังใจของผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นได้มากกว่านี้ :!:
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 47
พี่เพื่อนครับ กรณีที่จะให้ราคาแปลงสภาพสูงใกล้เคียงตลาด โดยเพิ่มจำนวนหุ้นให้ชดเชยแทนนั้น
ผมว่าปัญหาที่จะเกิดขึ้นก็คือว่า เวลาแปลงสภาพ คือ
1. ผู้บริหารก็จำเป็นต้องใช้เงินสดมาแปลงสภาพจำนวนมาก
2. อีกทั้งจำนวนหุ้นก็จะเพิ่มสูงขึ้นมาก ผลกระทบต่อ EPS ก็จะมากขึ้น
3. เงินสดที่บริษัทได้รับจากการแปลงสภาพก็ไม่มีความจำเป็นของบริษัทครับ
เรื่องการจัดสรรให้แก่กรรมการแค่ 2 ท่านนั้น ผมก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับเพื่อนๆหลายท่านว่า ควรที่จะจัดสรรให้แก่พนักงานระดับบริหารในระดับล่างลงไปด้วย (หรือว่าท่านอื่นไม่อยากรับเป็น ESOP อยากรับเป็นเงินสด)
หวังว่าประชุมผู้ถือหุ้นปีนี้ น่าจะคึกคักมากที่สุดนะครับ ช่วยๆกันไปประชุมมากๆ และซักถามกันเยอะๆครับ
ผมว่าปัญหาที่จะเกิดขึ้นก็คือว่า เวลาแปลงสภาพ คือ
1. ผู้บริหารก็จำเป็นต้องใช้เงินสดมาแปลงสภาพจำนวนมาก
2. อีกทั้งจำนวนหุ้นก็จะเพิ่มสูงขึ้นมาก ผลกระทบต่อ EPS ก็จะมากขึ้น
3. เงินสดที่บริษัทได้รับจากการแปลงสภาพก็ไม่มีความจำเป็นของบริษัทครับ
เรื่องการจัดสรรให้แก่กรรมการแค่ 2 ท่านนั้น ผมก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับเพื่อนๆหลายท่านว่า ควรที่จะจัดสรรให้แก่พนักงานระดับบริหารในระดับล่างลงไปด้วย (หรือว่าท่านอื่นไม่อยากรับเป็น ESOP อยากรับเป็นเงินสด)
หวังว่าประชุมผู้ถือหุ้นปีนี้ น่าจะคึกคักมากที่สุดนะครับ ช่วยๆกันไปประชุมมากๆ และซักถามกันเยอะๆครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1256
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 48
วันนี้มีโอกาสได้คุยกับ อ.นิเวศน์ และท่านอื่นๆอีกหลายคน ที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการออกESOPครั้งนี้ครับ เลยอยากจะออกเสียงคัดค้านหรือแก้ไขเงื่อนไขบางอย่างเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ถือหุ้นมากขึ้นครับ
ขณะนี้รวมรวบหุ้นได้219,000หุ้น
หากพี่ฉัตรชัยร่วมด้วยก็รวมเป็น 624,100หุ้น (3.6%ของหุ้นที่ออก)
ยังขาดอีกแค่ 1,100,900หุ้น :lol: ก็จะมีสิทธิคัดค้านได้ครับ
พี่ฉัตรชัยและท่านอื่นๆมีความเห็นอย่างไรครับ
ขณะนี้รวมรวบหุ้นได้219,000หุ้น
หากพี่ฉัตรชัยร่วมด้วยก็รวมเป็น 624,100หุ้น (3.6%ของหุ้นที่ออก)
ยังขาดอีกแค่ 1,100,900หุ้น :lol: ก็จะมีสิทธิคัดค้านได้ครับ
พี่ฉัตรชัยและท่านอื่นๆมีความเห็นอย่างไรครับ
"Price is what you pay. Value is what you get."
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1256
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 49
อีกประเด็นหนึ่ง เรื่องภาษีเงินได้ครับ
สมมติว่าช่วงที่ผู้บริหารใช้สิทธิแปลงสภาพ ราคาตลาด45บาท ราคาใช้สิทธิ10บาท ส่วนต่าง35บาท จะถือเป็นเงินได้ด้วยครับ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ผู้บริหารที่ใช้สิทธิจำเป็นต้องขายหุ้นเพื่อนำเงินมาจ่ายภาษี ซึ่งอาจทำให้ราคาหุ้นลดลงได้ครับ
สมมติว่าช่วงที่ผู้บริหารใช้สิทธิแปลงสภาพ ราคาตลาด45บาท ราคาใช้สิทธิ10บาท ส่วนต่าง35บาท จะถือเป็นเงินได้ด้วยครับ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ผู้บริหารที่ใช้สิทธิจำเป็นต้องขายหุ้นเพื่อนำเงินมาจ่ายภาษี ซึ่งอาจทำให้ราคาหุ้นลดลงได้ครับ
"Price is what you pay. Value is what you get."
-
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 50
ปีนี้เป็นที่บริษัททั้งหลาย "หิวเงิน" จริงๆครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 51
อีก 24,200 หุ้น จากผมด้วยครับ แจกให้แค่ 2 คน ผมไม่ยอมครับ
I do not sleep. I dream.
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 52
อยากให้อีสปเป็นแบบกระจายทั่วถึงใช่มั้ยครับ เอาแบบ SF ดีมั้ยครับ ให้กรรมการทั้งชุดรวมทั้งกรรมการตรวจสอบด้วย งงจริงๆ :shock:
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1150
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 53
ใกล้ๆ XD,XM จะมีการแย่งหุ้นกัน เพื่อเสียงโหวดมั๊ยนี่เพราะผมว่าจำนวนหุ้นใน web นี้น่าจะเกินล้านหุ้น ถึงผมจะไม่เห็นด้วยเท่าไรแต่ก็รู้สึกว่าเรามาทีหลังมาขอร่วมส่วนแบ่งเขา เขาทำของเขามาตั้งนานแล้ว ก็เลยยังงงๆว่าจะยังไงดี
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 55
ถ้าคิดว่าผู้ถือหุ้นเหมือนมาทีหลัง มาขอส่วนแบ่งอะไรเนี่ย จะเข้าตลาดทุนทำไมคะtt เขียน:ใกล้ๆ XD,XM จะมีการแย่งหุ้นกัน เพื่อเสียงโหวดมั๊ยนี่เพราะผมว่าจำนวนหุ้นใน web นี้น่าจะเกินล้านหุ้น ถึงผมจะไม่เห็นด้วยเท่าไรแต่ก็รู้สึกว่าเรามาทีหลังมาขอร่วมส่วนแบ่งเขา เขาทำของเขามาตั้งนานแล้ว ก็เลยยังงงๆว่าจะยังไงดี
ไม่เห็นด้วยค่ะ
ถ้าคิดเอาแต่ว่า นี่คือบริษัทของผู้บริหาร ก็ให้เอาบริษัทออกจากตลาดไปค่ะ
สำหรับจะใครแย่งหุ้นมั้ย ไม่ต้องแย่งค่ะ
ดิฉันโยนซ้ายให้เลย แต่โดยดี ไม่สู้ค่ะ ขอหมอบ
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 56
Tender Offer ออกไปสิครับ ถ้างั้น เพราะบริษัทที่ทำอะไรไม่คำนึงถึงผู้ถือหุ้นส่วนรวม คงไม่เหมาะกับคำว่า "มหาชน"tt เขียน:ใกล้ๆ XD,XM จะมีการแย่งหุ้นกัน เพื่อเสียงโหวดมั๊ยนี่เพราะผมว่าจำนวนหุ้นใน web นี้น่าจะเกินล้านหุ้น ถึงผมจะไม่เห็นด้วยเท่าไรแต่ก็รู้สึกว่าเรามาทีหลังมาขอร่วมส่วนแบ่งเขา เขาทำของเขามาตั้งนานแล้ว ก็เลยยังงงๆว่าจะยังไงดี
-
- Verified User
- โพสต์: 898
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 57
แรงทิ้งซ้ายเจ๊007ทำเอาหุ้นเป๋ :P
bid please!!
- smart_investor
- Verified User
- โพสต์: 131
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 58
เพื่อน
แต่แปลกดีครับ ผมกลับไม่ค่อยเห็นบริษัทในประเทศไทยทำแบบนั้น ส่วนใหญ่ออก ESOP แต่ละครั้ง ทำอย่างกับ Grand Sales แน่ะเรียกได้ว่าลด แลก แจก แถมทีเดียว อย่างกรณีนี้ก็ให้ส่วนลดถึงเจ็ดสิบกว่าเปอร์เซ็นต์จากราคาตลาดทีเดียว
แต่ก็อย่างว่าครับ ขืนให้ราคาใช้สิทธิสูงกว่าราคาตลาดก็อาจทำให้ผู้บริหารสนใจแต่เรื่องการสร้างราคาหุ้นแทนการพัฒนาบริษัทก็ได้
สำหรับกรณี WG หากไม่เห็นด้วย เราคงต้องรวมพลังผู้ถือหุ้นครับ ผมคิดว่าอย่างน้อยๆ ก็น่าจะได้เกิน 5% นะ เพื่อให้ทางบริษัทเข้าใจความรู้สึกของผู้ถือหุ้นอย่างพวกเรา
เห็นด้วยกับคุณเพื่อนครับว่า ESOP ที่ดีควรจะให้ราคาสูงกว่าราคาตลาดเพื่อเป็นการจูงใจผู้บริหารและพนักงานให้ตั้งใจทำผลงานให้ดีจำได้ว่าสมัย Ticon เค้าให้ราคาใช้สิทธิอีสปไว้สูงกว่าราคาตลาดช่วงนั้นอีก ปรากฎว่าผู้ลงทุนกลับมีความรู้สึกมั่นใจว่าผู้บริหารต้องสร้างผลกำไรได้สูงจนราคาหุ้นขึ้นไปได้สูงกว่าราคาตลาดขณะนั้นอีก แล้วก็เป็นจริง ได้ประโยชน์ทั้งผู้บริหารและผู้ถือหุ้นด้วย
แต่แปลกดีครับ ผมกลับไม่ค่อยเห็นบริษัทในประเทศไทยทำแบบนั้น ส่วนใหญ่ออก ESOP แต่ละครั้ง ทำอย่างกับ Grand Sales แน่ะเรียกได้ว่าลด แลก แจก แถมทีเดียว อย่างกรณีนี้ก็ให้ส่วนลดถึงเจ็ดสิบกว่าเปอร์เซ็นต์จากราคาตลาดทีเดียว
แต่ก็อย่างว่าครับ ขืนให้ราคาใช้สิทธิสูงกว่าราคาตลาดก็อาจทำให้ผู้บริหารสนใจแต่เรื่องการสร้างราคาหุ้นแทนการพัฒนาบริษัทก็ได้
สำหรับกรณี WG หากไม่เห็นด้วย เราคงต้องรวมพลังผู้ถือหุ้นครับ ผมคิดว่าอย่างน้อยๆ ก็น่าจะได้เกิน 5% นะ เพื่อให้ทางบริษัทเข้าใจความรู้สึกของผู้ถือหุ้นอย่างพวกเรา
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 59
ผมมองว่าผลประกอบการต่อจากนี้ของ WG คงจะแสดงผลกำไรได้มากขึ้นกว่าปีผ่าน ๆ มามาก เนื่องจากหลาย ๆ เหตุผลตามนี้
1. การเปลี่ยนผู้บริหารหลักของแอมคอร์ อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านที่ดีขึ้น
2. กองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ลงไปเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว จะเริ่มได้ดอกเบี้ยระดับ MLR
3. ปีที่ผ่านมา บริษัทมีการสำรองค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเงินตอบแทนพนักงานจนเกษียณ (ดูจากงบปี 49) ทำให้รายจ่ายหลาย ๆ อย่าง จะไม่ปรากฏในปี 50 และต่อ ๆ ไปอีก
เมื่อมีโอกาสที่ผลประกอบการจะดีขึ้นแบบกระโดดช่วงกว่าปีที่ผ่านมา และการสำรองค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก็หมดไปแล้ว ต่อไปคงไม่สามารถแสดงผลกำไรได้ต่ำกว่าความเป็นจริงอีกต่อไป เลยถึงเวลาที่จะต้อง ESOP หรือเปล่าครับ?
อีกเรื่องหนึ่ง เหตุผลที่บริษัทคงเพิ่มทุนแทนที่จะซื้อหุ้นคืนจากตลาด เป็นเพราะว่า การเพิ่มทุน จะส่งผลเสียเฉพาะต่อผู้ถือหุ้นโดยตรง ไม่กระทบการบริหารจัดการในบริษัท และในมุมมองของบริษัทและผู้บริหาร การเพิ่มทุน ก็จะได้เงินสดเข้ามาในบริษัท
ถ้าซื้อหุ้นคืน
1. บริษัทสูญเสียเงินสดในบริษัทไปในการซื้อหุ้น
2. เสี่ยงต่อการได้หุ้นในราคาที่สูงเกินความเหมาะสม
ถ้าเพิ่มทุน
1. บริษัทได้เงินสดจากเงินเพิ่มทุน
2. ผลกระทบต่อราคาหุ้น และโดยเฉพาะเงินปันผล จะส่งผลต่อผู้ถือหุ้นเท่านั้น ไม่กระทบกับบริษัท เพราะบริษัทยังคงนโยบายปันผลเท่าเดิม แต่ที่เปลี่ยนแปลงคือ จำนวนปันผลต่อหุ้นเท่านั้น ซึ่งผู้ถือหุ้นรับเต็ม ๆ
เป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย ๆ ครับ แต่รับได้ไม่ค่อยง่าย
1. การเปลี่ยนผู้บริหารหลักของแอมคอร์ อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านที่ดีขึ้น
2. กองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ลงไปเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว จะเริ่มได้ดอกเบี้ยระดับ MLR
3. ปีที่ผ่านมา บริษัทมีการสำรองค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเงินตอบแทนพนักงานจนเกษียณ (ดูจากงบปี 49) ทำให้รายจ่ายหลาย ๆ อย่าง จะไม่ปรากฏในปี 50 และต่อ ๆ ไปอีก
เมื่อมีโอกาสที่ผลประกอบการจะดีขึ้นแบบกระโดดช่วงกว่าปีที่ผ่านมา และการสำรองค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก็หมดไปแล้ว ต่อไปคงไม่สามารถแสดงผลกำไรได้ต่ำกว่าความเป็นจริงอีกต่อไป เลยถึงเวลาที่จะต้อง ESOP หรือเปล่าครับ?
อีกเรื่องหนึ่ง เหตุผลที่บริษัทคงเพิ่มทุนแทนที่จะซื้อหุ้นคืนจากตลาด เป็นเพราะว่า การเพิ่มทุน จะส่งผลเสียเฉพาะต่อผู้ถือหุ้นโดยตรง ไม่กระทบการบริหารจัดการในบริษัท และในมุมมองของบริษัทและผู้บริหาร การเพิ่มทุน ก็จะได้เงินสดเข้ามาในบริษัท
ถ้าซื้อหุ้นคืน
1. บริษัทสูญเสียเงินสดในบริษัทไปในการซื้อหุ้น
2. เสี่ยงต่อการได้หุ้นในราคาที่สูงเกินความเหมาะสม
ถ้าเพิ่มทุน
1. บริษัทได้เงินสดจากเงินเพิ่มทุน
2. ผลกระทบต่อราคาหุ้น และโดยเฉพาะเงินปันผล จะส่งผลต่อผู้ถือหุ้นเท่านั้น ไม่กระทบกับบริษัท เพราะบริษัทยังคงนโยบายปันผลเท่าเดิม แต่ที่เปลี่ยนแปลงคือ จำนวนปันผลต่อหุ้นเท่านั้น ซึ่งผู้ถือหุ้นรับเต็ม ๆ
เป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย ๆ ครับ แต่รับได้ไม่ค่อยง่าย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหม นิทานอีสปของ WG
โพสต์ที่ 60
ผู้ถือหุ้นหลายท่านอาจจะไม่พอใจในการออกอีสป
และนำประเด็นนี้ตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้น
แต่หุ้นจะดีหรือไม่ดี ถือหรือไม่ถือ อย่าลืมดูประเด็นอื่นๆประกอบด้วยนะครับ
ถ้าเป็นไปตามที่คุณเอกรัตน์โพสต์ไว้ คือถ้ามีการให้อีสปเกิน 5% ต่อหนึ่งคน จะต้องไม่มีผู้ถือหุ้นคัดค้านเกิน 890,000 หุ้น ซึ่งเป็นไปได้มากที่จะคัดค้านได้ครับถ้า..
1.ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เช่น ดร.นิเวศน์ พี่ฉัตรชัย โหวตคัดค้าน แต่เรื่องอย่างนี้ต้องเคารพการตัดสินใจของแต่ละท่านนะครับ เพราะบางครั้งหากเราถือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งเป็น wealth หลัก มุมมองหลายด้านอาจจะคิดไม่เหมือนกับผู้ที่ถือหุ้นน้อยๆครับ ผมเคยเจอคนที่ถือหุ้นใหญ่ thip โหวตตรงข้ามกับรายย่อย
2.ผู้ถือหุ้นพยายามไปประชุมกันมากๆ
3.ผู้ถือหุ้นที่ไปประชุมไม่ได้ ทำเรื่องมองฉันทะให้ผู้ที่ไปประชุมเพื่อคัดค้าน ประเด็นนี้ต้องมีคนอาสาเป็นตัวกลางรับมอบฉันทะจากเพื่อนๆครับ
และนำประเด็นนี้ตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้น
แต่หุ้นจะดีหรือไม่ดี ถือหรือไม่ถือ อย่าลืมดูประเด็นอื่นๆประกอบด้วยนะครับ
ถ้าเป็นไปตามที่คุณเอกรัตน์โพสต์ไว้ คือถ้ามีการให้อีสปเกิน 5% ต่อหนึ่งคน จะต้องไม่มีผู้ถือหุ้นคัดค้านเกิน 890,000 หุ้น ซึ่งเป็นไปได้มากที่จะคัดค้านได้ครับถ้า..
1.ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เช่น ดร.นิเวศน์ พี่ฉัตรชัย โหวตคัดค้าน แต่เรื่องอย่างนี้ต้องเคารพการตัดสินใจของแต่ละท่านนะครับ เพราะบางครั้งหากเราถือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งเป็น wealth หลัก มุมมองหลายด้านอาจจะคิดไม่เหมือนกับผู้ที่ถือหุ้นน้อยๆครับ ผมเคยเจอคนที่ถือหุ้นใหญ่ thip โหวตตรงข้ามกับรายย่อย
2.ผู้ถือหุ้นพยายามไปประชุมกันมากๆ
3.ผู้ถือหุ้นที่ไปประชุมไม่ได้ ทำเรื่องมองฉันทะให้ผู้ที่ไปประชุมเพื่อคัดค้าน ประเด็นนี้ต้องมีคนอาสาเป็นตัวกลางรับมอบฉันทะจากเพื่อนๆครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว