สงสัยหุ้น value ยังไง
-
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยหุ้น value ยังไง
โพสต์ที่ 1
ขอเรียนถามเพื่อนๆพี่ชาวviครับว่า หุ้นอย่าง advanc, scc, ptt ที่มักจะขึ้นลงมากๆ trade volume สูง เทียบกับหุ้นอย่าง aprint, se-ed, choti,tf ซึ่งราคาไม่ค่อยกระดิกเลย มันมีความเหมือนหรือต่างกันยังไงหรือครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยหุ้น value ยังไง
โพสต์ที่ 2
คุณCornerมาบ่อยๆน่าจะregisterเลยนะครับ
หุ้นในกลุ่มแรกที่คุณกล่าวมาจะเป็นหุ้นที่มีขนาดมูลค่าตลาดสูง(Market Capitalized) และมีสภาพคล่องสูงเป็นที่หมายปองของเหล่ากองทุนและขาใหญ่ทั้งหลายจนอาจเรียกได้ว่าเป็นหุ้นBlue chipก็ว่าได้ ส่วนกลุ่มหลังเป็นหุ้นทั่วๆไปmarket cap.ต่ำ สภาพคล่องต่ำ ซื้อยากขายยาก กองทุนและขาใหญ่ไม่ค่อยชอบ ไม่ค่อยมีใครสนใจ ซื้อไว้ก็มักรอเก็บปันผล แต่ถ้ามันเป็นบริษัทที่ดี มันก็มักจะมีมูลค่าแฝงอยู่บวกกับที่ไม่คล่อยมีใครสนใจ ราคาจึงไม่ค่อยไปไหน แต่ลองเผลอซิ ราคาเพิ่มไปแล้วทุกที
หุ้นทั้งสองกลุ่มที่คุณยกมาเป็นหุ้นที่มี Valueได้ทั้งคู่ แต่หุ้นกลุ่มแรกมักจะสท้อนมูลค่าของมันได้ง่ายกว่าเพราะมีผู้ให้ความสนใจมันมาก ส่วนกลุ่มที่สองไม่มีคนสนมากมักมีมูลค่าแฝงอยู่ได้มากครับ
หุ้นในกลุ่มแรกที่คุณกล่าวมาจะเป็นหุ้นที่มีขนาดมูลค่าตลาดสูง(Market Capitalized) และมีสภาพคล่องสูงเป็นที่หมายปองของเหล่ากองทุนและขาใหญ่ทั้งหลายจนอาจเรียกได้ว่าเป็นหุ้นBlue chipก็ว่าได้ ส่วนกลุ่มหลังเป็นหุ้นทั่วๆไปmarket cap.ต่ำ สภาพคล่องต่ำ ซื้อยากขายยาก กองทุนและขาใหญ่ไม่ค่อยชอบ ไม่ค่อยมีใครสนใจ ซื้อไว้ก็มักรอเก็บปันผล แต่ถ้ามันเป็นบริษัทที่ดี มันก็มักจะมีมูลค่าแฝงอยู่บวกกับที่ไม่คล่อยมีใครสนใจ ราคาจึงไม่ค่อยไปไหน แต่ลองเผลอซิ ราคาเพิ่มไปแล้วทุกที
หุ้นทั้งสองกลุ่มที่คุณยกมาเป็นหุ้นที่มี Valueได้ทั้งคู่ แต่หุ้นกลุ่มแรกมักจะสท้อนมูลค่าของมันได้ง่ายกว่าเพราะมีผู้ให้ความสนใจมันมาก ส่วนกลุ่มที่สองไม่มีคนสนมากมักมีมูลค่าแฝงอยู่ได้มากครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยหุ้น value ยังไง
โพสต์ที่ 4
เสริมต่อจากคุณ Mon Money หน่อยนึงครับ
เวลาซื้อหุ้น Big Cap จะง่ายกว่าเยอะ และมีข้อมูลมากกว่าครับ การจะขาย (exit barrier) ก็ค่อนข้างต่ำ คือสำหรับคนที่มีเงินเยอะๆ จะสามารถขายได้ทันที เวลาไหนก็ได้
ส่วนหุ้น Small Cap หาข้อมูลยากกว่าครับ เพราะโบรคไม่ค่อยเชียร์ เวลาซื้อก็ต้องใช้ความอดทนสูง เวลาขายนี่คิดหนักเลยครับ โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีหุ้นอยู่มาก อาจจะไม่มีคนซื้อเอาดื้อๆเลย ส่วนหุ้นดีๆ ก็มีแต่คนซื้อไม่มีคนขาย ก็ซื้อไม่ได้อีก
ถ้าคุณ Corner คิดว่าอาจจะมีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนจากการขายหุ้น ให้พยายามเลือกหุ้นที่มี liquidity หน่อยครับ แต่ถ้าเป็นเงินเย็น ซื้อหุ้นดีๆที่ liquidity ต่ำจะได้ผลตอบแทนมากกว่า (โดยปกติ)
เวลาซื้อหุ้น Big Cap จะง่ายกว่าเยอะ และมีข้อมูลมากกว่าครับ การจะขาย (exit barrier) ก็ค่อนข้างต่ำ คือสำหรับคนที่มีเงินเยอะๆ จะสามารถขายได้ทันที เวลาไหนก็ได้
ส่วนหุ้น Small Cap หาข้อมูลยากกว่าครับ เพราะโบรคไม่ค่อยเชียร์ เวลาซื้อก็ต้องใช้ความอดทนสูง เวลาขายนี่คิดหนักเลยครับ โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีหุ้นอยู่มาก อาจจะไม่มีคนซื้อเอาดื้อๆเลย ส่วนหุ้นดีๆ ก็มีแต่คนซื้อไม่มีคนขาย ก็ซื้อไม่ได้อีก
ถ้าคุณ Corner คิดว่าอาจจะมีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนจากการขายหุ้น ให้พยายามเลือกหุ้นที่มี liquidity หน่อยครับ แต่ถ้าเป็นเงินเย็น ซื้อหุ้นดีๆที่ liquidity ต่ำจะได้ผลตอบแทนมากกว่า (โดยปกติ)
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยหุ้น value ยังไง
โพสต์ที่ 6
ทำนองนั้นแหละครับ
Market Cap = Price x No. of Shares outstanding
ตัวแปรมันมีอยู่สองตัว คือราคากับ จำนวนหุ้น มันไม่ได้บอกอะไรอีกเลยจากนั้น แต่สิ่งที่คุณต้องไปปวดหัวต่อนั้นคือ ราคานี่มันมีMargin of safety เท่าไรต่างหาก
Market Cap = Price x No. of Shares outstanding
ตัวแปรมันมีอยู่สองตัว คือราคากับ จำนวนหุ้น มันไม่ได้บอกอะไรอีกเลยจากนั้น แต่สิ่งที่คุณต้องไปปวดหัวต่อนั้นคือ ราคานี่มันมีMargin of safety เท่าไรต่างหาก
-
- Verified User
- โพสต์: 920
- ผู้ติดตาม: 0
สงสัยหุ้น value ยังไง
โพสต์ที่ 7
ผมว่าที่คุณมนพูดว่า หุ้นทั้งสองกลุ่มที่คุณยกมาเป็นหุ้นที่มี Valueได้ทั้งคู่ แต่หุ้นกลุ่มแรกมักจะสท้อนมูลค่าของมันได้ง่ายกว่าเพราะมีผู้ให้ความสนใจมันมาก ส่วนกลุ่มที่สองไม่มีคนสนมากมักมีมูลค่าแฝงอยู่ได้มากครับ เป็นข้อคิดที่ดีครับ แต่ขอขยายนิดนึงครับว่าผมคิดว่าโอกาสที่เราจะหาหุ้นที่มี Value และมีส่วนลดของราคา ในกลุ่มที่สองมีโอกาสมากว่าหุ้นกลุ่มแรก โดยส่วนลดนั้นได้มาจากการที่หุ้นนั้นซื้อขายยากนั่นเองเหมือนกับซื้อรถมือสองสีดำมักจะถูกกว่าซื้อรถมือสองสีบรอนซ์หรือสีทอง หรือเวลาที่ร้านทองรับซื้อเพชรคืนกับรับซื้อทองคืนก็จะหักเปอร์เซนต์ไม่เท่ากัน แต่เท่าที่ทราบในระยะยาวทั้งราคาเพชร และทองก็ขึ้นเรื่อยๆ โดยราคาทองอาจจะแกว่งมากกว่าบ้างเนื่องจากซื้อขายง่าย เลือกเอาครับจะซื้อเพชร หรือซื้อทอง แต่ที่ผมว่ายากที่สุดคือดูอย่างไรว่าเป็นเพชรแท้หรือทองแท้ นอกจากหุ้นตระกูลชิน