วันนี้ขอคุยมีสาระหน่อยครับ Technology Change Effect
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้ขอคุยมีสาระหน่อยครับ Technology Change Effect
โพสต์ที่ 1
ขอคุยเรื่อง Technology Change Effect ครับ
ทุกรอบที่โลกหมุนไป นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย นักประดิษฐ์ ก็ได้คิด ได้ทำอะไรใหม่ๆออกมา หวังจะให้โลกเรามีความสะดวกสบายมากขึ้น เรียกรวมๆว่า "เทคโนโลยี"
เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ผู้คนนิยมชมชอบกันเป็นส่วนมาก แต่เป็นสิ่งที่ Value Investor ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะความเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีนั้น มีต้นทุนแอบแฝงเสมอ นั่นก็คือค่าความล้าสมัยของสินค้าและบริการเดิมๆครับ
บริษัทที่เป็นผู้ผลิต หรือผู้จำหน่ายเทคโนโลยี มักจะได้รับผลกระทบดังต่อไปนี้เสมอ
1. สินค้าไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป เนื่องจากล้าสมัย มูลค่าตลาดของสินค้าคงคลังตกลงอย่างรวดเร็ว
2. เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต ไม่สามารถผลิตสินค้าใหม่ๆได้ ต้องตัดจ่ายมูลค่าของเครื่องจักร
3. ส่วนแบ่งตลาดที่เคยครอบครองอยู่ ถูกคู่แข่งรายใหม่แย่งไปอย่างรวดเร็ว หากขยับตามเทคโนโลยีไม่ทัน
ตัวอย่างคลาสสิกที่เล่ากันสืบมาในอดีต ก็คือเรื่องในธุรกิจอิเลกทรอนิกส์ หลอดสูญญากาศที่กินไฟและร้อนมาก ถูกแทนที่ด้วยชิ้นส่วนเล็กๆ มีสามขา เรียกว่าทรานซิสเตอร์ วันที่ทรานซิสเตอร์ถูกนำมาใช้แทนหลอดนั้น โรงงานผลิตหลอดแทบจะล้มละลายเลยทีเดียว เครื่องจักรใหม่ๆที่ถูกติดตั้งไปไม่นานก็กลายเป็นขยะไร้ค่า.... โชคยังดีที่บทเรียนเรื่องหลอดนั้น ทำให้ผู้ผลิตทรานซิสเตอร์หาเกราะกำบังหลบภัย Technology Change Effect จาก วงจรรวม (IC) ได้ ไม่มากก็น้อย การเกิดขึ้นมาของ IC นั้นก็ไม่ได้ทำให้ทรานซิสเตอร์สูญพันธุ์ทันทีเหมือนหลอด.
ในตลาดหุ้นเมืองไทย มีหุ้นหลายตัวที่ประสบกับ Technology Change Effect ครับ ที่เห็นฝ่ามรสุมมาได้หมาดๆก็คือ CVD ที่ปิดโรงงานผลิตวิดิโอเทป ไปและทำกำไรในยุคของ VCD ผมไม่แน่ใจว่า VCD จะอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่ เพราะ DVD นั้นเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น เครื่องเล่นก็ถูกลงเรื่อยๆ
หุ้นอีกตัวที่โดน Technology Change Effect อย่างแรง ก็คือ MLINK เนื่องจากโทรศัพท์มือถือได้เปลี่ยนจาก โทรศัพท์ธรรมดาเป็นอุปกรณ์ความบันเทิงพกพา ต้องมีจอสี มีกล้องถ่ายรูป เล่นจาวาได้ ผลประกอบการณ์ปีนี้ ดูไม่ได้เลยครับ
หากเพื่อนๆจะลงทุนหุ้นในกลุ่ม "เทคโนโลยี" ต้องมั่นใจนะครับ ว่าบริษัทจะสามารถป้องกันตัวจากการเปลี่ยนแปลงได้... ถ้าจะให้ดี เลือกหุ้นที่ใช้ความเปลี่ยนแปลงให้เป็นประโยชน์จะดีกว่า หุ้นไหนมีการขยายฐานลูกค้าด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือมีการลดต้นทุนด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นหุ้นที่ควรพิจารณาครับ
ทุกรอบที่โลกหมุนไป นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย นักประดิษฐ์ ก็ได้คิด ได้ทำอะไรใหม่ๆออกมา หวังจะให้โลกเรามีความสะดวกสบายมากขึ้น เรียกรวมๆว่า "เทคโนโลยี"
เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ผู้คนนิยมชมชอบกันเป็นส่วนมาก แต่เป็นสิ่งที่ Value Investor ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะความเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีนั้น มีต้นทุนแอบแฝงเสมอ นั่นก็คือค่าความล้าสมัยของสินค้าและบริการเดิมๆครับ
บริษัทที่เป็นผู้ผลิต หรือผู้จำหน่ายเทคโนโลยี มักจะได้รับผลกระทบดังต่อไปนี้เสมอ
1. สินค้าไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป เนื่องจากล้าสมัย มูลค่าตลาดของสินค้าคงคลังตกลงอย่างรวดเร็ว
2. เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต ไม่สามารถผลิตสินค้าใหม่ๆได้ ต้องตัดจ่ายมูลค่าของเครื่องจักร
3. ส่วนแบ่งตลาดที่เคยครอบครองอยู่ ถูกคู่แข่งรายใหม่แย่งไปอย่างรวดเร็ว หากขยับตามเทคโนโลยีไม่ทัน
ตัวอย่างคลาสสิกที่เล่ากันสืบมาในอดีต ก็คือเรื่องในธุรกิจอิเลกทรอนิกส์ หลอดสูญญากาศที่กินไฟและร้อนมาก ถูกแทนที่ด้วยชิ้นส่วนเล็กๆ มีสามขา เรียกว่าทรานซิสเตอร์ วันที่ทรานซิสเตอร์ถูกนำมาใช้แทนหลอดนั้น โรงงานผลิตหลอดแทบจะล้มละลายเลยทีเดียว เครื่องจักรใหม่ๆที่ถูกติดตั้งไปไม่นานก็กลายเป็นขยะไร้ค่า.... โชคยังดีที่บทเรียนเรื่องหลอดนั้น ทำให้ผู้ผลิตทรานซิสเตอร์หาเกราะกำบังหลบภัย Technology Change Effect จาก วงจรรวม (IC) ได้ ไม่มากก็น้อย การเกิดขึ้นมาของ IC นั้นก็ไม่ได้ทำให้ทรานซิสเตอร์สูญพันธุ์ทันทีเหมือนหลอด.
ในตลาดหุ้นเมืองไทย มีหุ้นหลายตัวที่ประสบกับ Technology Change Effect ครับ ที่เห็นฝ่ามรสุมมาได้หมาดๆก็คือ CVD ที่ปิดโรงงานผลิตวิดิโอเทป ไปและทำกำไรในยุคของ VCD ผมไม่แน่ใจว่า VCD จะอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่ เพราะ DVD นั้นเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น เครื่องเล่นก็ถูกลงเรื่อยๆ
หุ้นอีกตัวที่โดน Technology Change Effect อย่างแรง ก็คือ MLINK เนื่องจากโทรศัพท์มือถือได้เปลี่ยนจาก โทรศัพท์ธรรมดาเป็นอุปกรณ์ความบันเทิงพกพา ต้องมีจอสี มีกล้องถ่ายรูป เล่นจาวาได้ ผลประกอบการณ์ปีนี้ ดูไม่ได้เลยครับ
หากเพื่อนๆจะลงทุนหุ้นในกลุ่ม "เทคโนโลยี" ต้องมั่นใจนะครับ ว่าบริษัทจะสามารถป้องกันตัวจากการเปลี่ยนแปลงได้... ถ้าจะให้ดี เลือกหุ้นที่ใช้ความเปลี่ยนแปลงให้เป็นประโยชน์จะดีกว่า หุ้นไหนมีการขยายฐานลูกค้าด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือมีการลดต้นทุนด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นหุ้นที่ควรพิจารณาครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้ขอคุยมีสาระหน่อยครับ Technology Change Effect
โพสต์ที่ 2
ที่ ML-47005
13 กุมภาพันธ์ 2547
เรื่อง ชี้แจงผลประกอบการประจำปี 2546 เปลี่ยนแปลงเกินกว่าร้อยละ 20
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่ บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้นำส่งงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ และ
งบการเงินรวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อยที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชี สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31
ธันวาคม 2546 บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อย
เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนดังนี้
1.บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเท่ากับ 4,710.71 ล้านบาท ลดลงจำนวน 668.82 ล้านบาท หรือลดลงใน
อัตราร้อยละ 12.43 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน โดยมีสาเหตุมาจากในไตรมาส 1 และ 2 ของปี 2545
อุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังไม่มีการแข่งขันที่รุนแรงเกิดขึ้น เช่น การปรับลดราคาค่าเครื่อง
โทรศัพท์เคลื่อนที่ การปลดล็อค IMEI รวมทั้งมีผู้ประกอบการที่เป็นคู่แข่งขันรายใหม่เพิ่มขึ้น
2.อัตรากำไรขั้นต้นลดจากร้อยละ 11.22 ของปีก่อน เป็นร้อยละ 3.54 ในปีปัจจุบัน เนื่องจาก
ในไตรมาส3 และ 4 ของปี 2546 เทคโนโลยีของเครื่องโทรศัพท์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เช่น
เปลี่ยนจากจอขาว-ดำ เป็นจอสี มีการเพิ่มอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น กล้องถ่ายรูป อุปกรณ์การรับส่ง ข้อมูล
ข้อความ รูปภาพ และเพิ่มอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง บริษัทจึงมีนโยบายที่จะเร่งระบายสินค้าคงคลัง
และลดราคาจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์
3.บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเท่ากับ 353.45 ล้านบาท ลดลงจำนวน 56.98 ล้านบาท หรือ
ลดลงในอัตราร้อยละ 13.88 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน
4.บริษัทฯ ได้มีการตั้งสำรองการลดราคาของสินค้าเนื่องจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป จำนวน 79.96
ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 79.96 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน
5.ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยสำหรับปี 2546 เท่ากับ ขาดทุนสุทธิ 123.39 ล้านบาท
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
____________________________
(นางสาวผาณิต วงศ์นาถ)
กรรมการบริหาร
13 กุมภาพันธ์ 2547
เรื่อง ชี้แจงผลประกอบการประจำปี 2546 เปลี่ยนแปลงเกินกว่าร้อยละ 20
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่ บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้นำส่งงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ และ
งบการเงินรวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อยที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชี สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31
ธันวาคม 2546 บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อย
เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนดังนี้
1.บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเท่ากับ 4,710.71 ล้านบาท ลดลงจำนวน 668.82 ล้านบาท หรือลดลงใน
อัตราร้อยละ 12.43 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน โดยมีสาเหตุมาจากในไตรมาส 1 และ 2 ของปี 2545
อุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังไม่มีการแข่งขันที่รุนแรงเกิดขึ้น เช่น การปรับลดราคาค่าเครื่อง
โทรศัพท์เคลื่อนที่ การปลดล็อค IMEI รวมทั้งมีผู้ประกอบการที่เป็นคู่แข่งขันรายใหม่เพิ่มขึ้น
2.อัตรากำไรขั้นต้นลดจากร้อยละ 11.22 ของปีก่อน เป็นร้อยละ 3.54 ในปีปัจจุบัน เนื่องจาก
ในไตรมาส3 และ 4 ของปี 2546 เทคโนโลยีของเครื่องโทรศัพท์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เช่น
เปลี่ยนจากจอขาว-ดำ เป็นจอสี มีการเพิ่มอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น กล้องถ่ายรูป อุปกรณ์การรับส่ง ข้อมูล
ข้อความ รูปภาพ และเพิ่มอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง บริษัทจึงมีนโยบายที่จะเร่งระบายสินค้าคงคลัง
และลดราคาจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์
3.บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเท่ากับ 353.45 ล้านบาท ลดลงจำนวน 56.98 ล้านบาท หรือ
ลดลงในอัตราร้อยละ 13.88 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน
4.บริษัทฯ ได้มีการตั้งสำรองการลดราคาของสินค้าเนื่องจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป จำนวน 79.96
ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 79.96 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน
5.ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยสำหรับปี 2546 เท่ากับ ขาดทุนสุทธิ 123.39 ล้านบาท
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
____________________________
(นางสาวผาณิต วงศ์นาถ)
กรรมการบริหาร
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้ขอคุยมีสาระหน่อยครับ Technology Change Effect
โพสต์ที่ 3
หุ้นแบบไหนที่ใช้เทคโนโลยีเป็นประโยชน์? เริ่มกันจากหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ที่ได้ประโยชน์มากจากการเติบโตของเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ไม่เพียงแต่การซื้อขายหุ้นออนไลน์ แต่ความรู้ความเข้าใจในการลงทุน ที่ขยายไปอย่างรวดเร็วโดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทำให้มีนักลงทุนรายย่อยมากขึ้น โวลุ่มการซื้อขายที่สูงเป็นประวัติการณ์ ในปีที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าเป็นอานิสงค์จากอินเตอร์เน็ตไม่น้อยนะครับ
กลุ่มสิ่งพิมพ์ เป็นอีกกลุ่มที่ได้รับประโยชน์ครับ เทคโนโลยีการจัดพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ที่ดีขึ้นทำให้สิ่งพิมพ์นั้นมีต้นทุนถูกลง ..บางหุ้นนั้นขอเติบโตเกาะติดเทคโนโลยีเลยทีเดียว เช่น SE-ED ที่ผลิตหนังสือเกี่ยวกับเทคโนโลยีออกมามากมายเป็นตัวอย่างที่ดีครับ
สุดท้ายนี้ ขอฝากการบ้านให้เพื่อนๆ ช่วยคิดว่า หุ้นไหน ได้ประโยชน์ หรือเสียประโยชน์ จากเทคโนโลยีบ้างนะครับ
กลุ่มสิ่งพิมพ์ เป็นอีกกลุ่มที่ได้รับประโยชน์ครับ เทคโนโลยีการจัดพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ที่ดีขึ้นทำให้สิ่งพิมพ์นั้นมีต้นทุนถูกลง ..บางหุ้นนั้นขอเติบโตเกาะติดเทคโนโลยีเลยทีเดียว เช่น SE-ED ที่ผลิตหนังสือเกี่ยวกับเทคโนโลยีออกมามากมายเป็นตัวอย่างที่ดีครับ
สุดท้ายนี้ ขอฝากการบ้านให้เพื่อนๆ ช่วยคิดว่า หุ้นไหน ได้ประโยชน์ หรือเสียประโยชน์ จากเทคโนโลยีบ้างนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 100
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้ขอคุยมีสาระหน่อยครับ Technology Change Effect
โพสต์ที่ 4
ที่เห็นกันอยู่ตอนนี้ก็มี จอ CRT vs LCD
ยอดขายฟิลม์ + ล้างอัดรูป vs Flash memmory + Ink jet
และที่ใกล้เข้ามาคือ
กระดาษ vs กระดาษอิเล็คโทรนิคhttp://www.eink.com/news/releases/pr69.html
ยอดขายฟิลม์ + ล้างอัดรูป vs Flash memmory + Ink jet
และที่ใกล้เข้ามาคือ
กระดาษ vs กระดาษอิเล็คโทรนิคhttp://www.eink.com/news/releases/pr69.html
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้ขอคุยมีสาระหน่อยครับ Technology Change Effect
โพสต์ที่ 5
อืมเป็นคำถามที่น่าสนใจมากครับ technology change ปัจจุบันมันมีผลมากๆ พอกับ กฎหมายเปลี่ยน สภาพเศรษฐกิจ และ สภาพประชากร แล้ว
อืมนอกจากลุ่มเทคโนโลยีเช่น Advanc Ucom ที่น่าจะกระทบจากเทคโนโลยี 3G แล้ว จะลองไปนึกดูครับ
อืมนอกจากลุ่มเทคโนโลยีเช่น Advanc Ucom ที่น่าจะกระทบจากเทคโนโลยี 3G แล้ว จะลองไปนึกดูครับ
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้ขอคุยมีสาระหน่อยครับ Technology Change Effect
โพสต์ที่ 6
สำหรับผมแล้ว เทคโนเลยี่ ดูเหมือนว่า ไม่ได้แย่อย่างที่คิดครับ
ยกตัวอย่างเช่นกล้องสมัยก่อน ใช้แล้ว ใช้อีก ไม่พังซักที เราก็ไม่มีเหตุผลจะเปลี่ยน เพราะใช้ได้ดีอยู่แล้ว
แต่พอมาเจอกล้องดิจิตอล ในที่สุด ของใหม่ ที่ดีกว่าเดิมมากๆ เช่นของเดิม 4 หมื่นบาท ความละเอียด 3 ล้าน พิกเซล เดี๋ยวนี้ 1 หมื่น 3 ล้านพิกเซล
ถึงจุดๆหนึ่ง ไม่นาน 3 ล้าน พิกเซลจะล้าสมัย
อาจจะเจอ 20 ล้านพิกเซล ในราคา 3 พันบาท
ผลคือ ทุกคนทั้งโลก ยินดีซื้อกล้องใหม่ ในราคา 3 พันบาท
กล้องทั้งโลกที่ต้องเปลี่ยนใหม่ หล้ายร้อยล้านกล้อง ก็จะทำให้ คนที่อยู่ในธุรกิจอยู่ได้ต่อไป
ผมชักไม่แน่ใจว่า ที่วอเรนบอกว่า เทคนโนเลยี่จะทำให้เจ้าของบริษัทขาดทุนชั่วพริบตา เพราะในที่สุด ถ้าเป็นแบบนั้น บริษัทนั้นๆก็สามารถกลับมาทำกำไรได้พริบตาเหมือนกัน
อิอิ
ยกตัวอย่างเช่นกล้องสมัยก่อน ใช้แล้ว ใช้อีก ไม่พังซักที เราก็ไม่มีเหตุผลจะเปลี่ยน เพราะใช้ได้ดีอยู่แล้ว
แต่พอมาเจอกล้องดิจิตอล ในที่สุด ของใหม่ ที่ดีกว่าเดิมมากๆ เช่นของเดิม 4 หมื่นบาท ความละเอียด 3 ล้าน พิกเซล เดี๋ยวนี้ 1 หมื่น 3 ล้านพิกเซล
ถึงจุดๆหนึ่ง ไม่นาน 3 ล้าน พิกเซลจะล้าสมัย
อาจจะเจอ 20 ล้านพิกเซล ในราคา 3 พันบาท
ผลคือ ทุกคนทั้งโลก ยินดีซื้อกล้องใหม่ ในราคา 3 พันบาท
กล้องทั้งโลกที่ต้องเปลี่ยนใหม่ หล้ายร้อยล้านกล้อง ก็จะทำให้ คนที่อยู่ในธุรกิจอยู่ได้ต่อไป
ผมชักไม่แน่ใจว่า ที่วอเรนบอกว่า เทคนโนเลยี่จะทำให้เจ้าของบริษัทขาดทุนชั่วพริบตา เพราะในที่สุด ถ้าเป็นแบบนั้น บริษัทนั้นๆก็สามารถกลับมาทำกำไรได้พริบตาเหมือนกัน
อิอิ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้ขอคุยมีสาระหน่อยครับ Technology Change Effect
โพสต์ที่ 7
บางที บริษัทที่ไม่ได้ดูเหมือนเป็นบริษัทเทคโนโลยี ก็กระทบจากการเปลี่ยนแปลงของโลกที่มาจากเทคโนโลยีได้ บางอันก็อาจไม่ใช่การแข่งขัน 100% แต่ก็กระทบกับยอดขาย
เช่น
พิมพ์ดีด vs. คอมพิวเตอร์ + พรินเตอร์
พัดลม vs. เครื่องปรับอากาศ
ยางลบ vs. น้ำยาลบคำผิด
ส่งจดหมายทางไปรษณีย์ vs. EMAIL
โทรศัพท์บ้าน vs. โทรศัพท์มือถือ
หลอดไฟแบบไส้ vs. หลอดฟลูออเรสเซนต์ vs. หลอดประหยัดไฟ
จอ CRT vs. จอ LCD
เตาอบ vs. เตาอบไมโครเวฟ
เตาถ่าน vs. เตาแก๊ส vs. เตาไฟฟ้า vs. เตาแม่เหล็ก
ฟิมล์ vs. กล้องดิจิตอล
กล้องดิจิตอล vs. มือถือ + กล้องในตัวถ่ายภาพได้
PDA vs. มือถือ + PDA
ม้วนเทป VDO vs. VCD vs. DVD
PC vs LAPTOP (Notebook)
ซื้อขายหุ้นทางมาร์ vs. ซื้อขายหุ้นทางเน็ต
บางอันก็เกิดจากผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค เช่น
ผู้บริโภคสนใจสุขภาพมากขึ้น
Coca Cola vs. ชาเขียว vs. น้ำผลไม้
KFC, McDonal vs. Thai, Japanese Food
โลกเปลี่ยนไปทุกวัน ความเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์ครับ
"Changing is Forever"
นักลงทุน คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ
เช่น
พิมพ์ดีด vs. คอมพิวเตอร์ + พรินเตอร์
พัดลม vs. เครื่องปรับอากาศ
ยางลบ vs. น้ำยาลบคำผิด
ส่งจดหมายทางไปรษณีย์ vs. EMAIL
โทรศัพท์บ้าน vs. โทรศัพท์มือถือ
หลอดไฟแบบไส้ vs. หลอดฟลูออเรสเซนต์ vs. หลอดประหยัดไฟ
จอ CRT vs. จอ LCD
เตาอบ vs. เตาอบไมโครเวฟ
เตาถ่าน vs. เตาแก๊ส vs. เตาไฟฟ้า vs. เตาแม่เหล็ก
ฟิมล์ vs. กล้องดิจิตอล
กล้องดิจิตอล vs. มือถือ + กล้องในตัวถ่ายภาพได้
PDA vs. มือถือ + PDA
ม้วนเทป VDO vs. VCD vs. DVD
PC vs LAPTOP (Notebook)
ซื้อขายหุ้นทางมาร์ vs. ซื้อขายหุ้นทางเน็ต
บางอันก็เกิดจากผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค เช่น
ผู้บริโภคสนใจสุขภาพมากขึ้น
Coca Cola vs. ชาเขียว vs. น้ำผลไม้
KFC, McDonal vs. Thai, Japanese Food
โลกเปลี่ยนไปทุกวัน ความเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์ครับ
"Changing is Forever"
นักลงทุน คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้ขอคุยมีสาระหน่อยครับ Technology Change Effect
โพสต์ที่ 9
เป็นความเห็นที่มีประโยชน์มากครับ
Technology Change Effect ไม่ได้มีแต่ผลกระทบด้านลบอย่างเดียว แต่ก็มีด้านดีด้วย อย่างเช่น มีโรงงานหนึ่งเคยใช้แรงงานคนเป็นหลัก ต่อมามีการคิดค้นประดิษฐ์เครื่องจักรมาใช้ โรงงานที่นำมาใช้ก็จะทำให้เกิดการลดต้นทุนลงอย่างมาก จากค่าแรงงาน ของเสียน้อยลง และผลิตได้ปริมาณมากจนทำให้ต้นทุนคงที่เฉลี่ยลดลง เป็นต้น ตรงนี้ถือเป็นโอกาสของโรงงานที่มองเห็นประโยชน์ของเทคโนโลยี แต่ก็อาจจะมีบางโรงงานที่มองไม่เห็นประโยชน์ (ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร) ก็ไม่เปลี่ยนแปลงใดกับโรงงานของตน โดยอาจจะคิดว่าบริษัททำกำไรได้ดีอยู่แล้ว ไม่อยากยุ่งยาก สุดท้ายก็โรงงานนี้ก็อาจจะหายไปจากอุตสาหกรรมก็ได้
Technology Change Effect ไม่ได้มีแต่ผลกระทบด้านลบอย่างเดียว แต่ก็มีด้านดีด้วย อย่างเช่น มีโรงงานหนึ่งเคยใช้แรงงานคนเป็นหลัก ต่อมามีการคิดค้นประดิษฐ์เครื่องจักรมาใช้ โรงงานที่นำมาใช้ก็จะทำให้เกิดการลดต้นทุนลงอย่างมาก จากค่าแรงงาน ของเสียน้อยลง และผลิตได้ปริมาณมากจนทำให้ต้นทุนคงที่เฉลี่ยลดลง เป็นต้น ตรงนี้ถือเป็นโอกาสของโรงงานที่มองเห็นประโยชน์ของเทคโนโลยี แต่ก็อาจจะมีบางโรงงานที่มองไม่เห็นประโยชน์ (ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร) ก็ไม่เปลี่ยนแปลงใดกับโรงงานของตน โดยอาจจะคิดว่าบริษัททำกำไรได้ดีอยู่แล้ว ไม่อยากยุ่งยาก สุดท้ายก็โรงงานนี้ก็อาจจะหายไปจากอุตสาหกรรมก็ได้
-
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้ขอคุยมีสาระหน่อยครับ Technology Change Effect
โพสต์ที่ 10
ลืมใส่ชื่อครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้ขอคุยมีสาระหน่อยครับ Technology Change Effect
โพสต์ที่ 11
แต่ผมก็เห็นมีคนชอบเล่นหุ้น Mlink กันเสมอนี่ครับ บอกเป็นหุ้นดี หุ้นดี
พอถามว่าดียังไง ก็ตอบว่า ได้โครงการใหม่ ญาตินายกถืออยู่ ดี ดี
พอถามว่าดียังไง ก็ตอบว่า ได้โครงการใหม่ ญาตินายกถืออยู่ ดี ดี
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้ขอคุยมีสาระหน่อยครับ Technology Change Effect
โพสต์ที่ 12
เท่าที่เห็นนะ.. หุ้น IT SVOA DTM น่าจะ "โดน" การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีในด้านลบไม่มากก็น้อย อย่างน้อยที่สุดเวลา Intel ออก CPU ใหม่มา เครื่องคอมพิวเตอร์ในสต๊อกก็ต้องเริ่มหาทางระบายออกมาแล้ว หุ้นอื่นๆยังนึกไม่ออกทั้งแง่บวกและลบครับ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้ขอคุยมีสาระหน่อยครับ Technology Change Effect
โพสต์ที่ 13
คัดท้าย เขียน:บางที บริษัทที่ไม่ได้ดูเหมือนเป็นบริษัทเทคโนโลยี ก็กระทบจากการเปลี่ยนแปลงของโลกที่มาจากเทคโนโลยีได้ บางอันก็อาจไม่ใช่การแข่งขัน 100% แต่ก็กระทบกับยอดขาย
เช่น
พิมพ์ดีด vs. คอมพิวเตอร์ + พรินเตอร์
พัดลม vs. เครื่องปรับอากาศ
ยางลบ vs. น้ำยาลบคำผิด
ส่งจดหมายทางไปรษณีย์ vs. EMAIL
โทรศัพท์บ้าน vs. โทรศัพท์มือถือ
หลอดไฟแบบไส้ vs. หลอดฟลูออเรสเซนต์ vs. หลอดประหยัดไฟ
จอ CRT vs. จอ LCD
เตาอบ vs. เตาอบไมโครเวฟ
เตาถ่าน vs. เตาแก๊ส vs. เตาไฟฟ้า vs. เตาแม่เหล็ก
ฟิมล์ vs. กล้องดิจิตอล
กล้องดิจิตอล vs. มือถือ + กล้องในตัวถ่ายภาพได้
PDA vs. มือถือ + PDA
ม้วนเทป VDO vs. VCD vs. DVD
PC vs LAPTOP (Notebook)
ซื้อขายหุ้นทางมาร์ vs. ซื้อขายหุ้นทางเน็ต
บางอันก็เกิดจากผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค เช่น
ผู้บริโภคสนใจสุขภาพมากขึ้น
Coca Cola vs. ชาเขียว vs. น้ำผลไม้
KFC, McDonal vs. Thai, Japanese Food
โลกเปลี่ยนไปทุกวัน ความเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์ครับ
"Changing is Forever"
นักลงทุน คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ
คัดท้าย ได้ดีจริงๆครับ