เผอิญอ่านหนังสือของดร.นิเวศน์ ดร.บอกว่าเขาไม่พยากรการเติบโตของธุรกิจในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร เขาแค่คิดง่ายๆว่า ถ้าปีที่ผ่านมาโตเท่าไหร่ ปีนี้ก็น่าจะโตเท่าเดิม
ดังนั้นปีที่แล้วตลาดหลักทรัพย์ของไทยโต100% ปีนี้โตเท่าเดิม ก็ควรจะโต100%เช่นกัน
สำหรับ เป็นพวกconservative ผมขอโตแค่50% ก็พอ
:lol:
กระทู้นี้ขอแซว ดร.นิเวศน์หน่อยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
กระทู้นี้ขอแซว ดร.นิเวศน์หน่อยครับ
โพสต์ที่ 2
"ปี" ที่ผ่านมาของดร.นิเวศน์อาจจะเป็น "หลายๆปี" ที่ผ่านมาก็ได้ครับ
เพราะภาษาไทย ไม่มีพหุพจน์
ถ้าเอาค่าเฉลี่ยการเติบโต "หลายๆ" ปีที่ผ่านมา ก็คนละเรื่องครับ แล้วก็
การเติบโตของธุรกิจ ไม่เหมือนกับการเติบโตของสินทรัพย์ในตลาดหลัก
ทรัพย์นะครับ
ถ้าวัดอัตราการเติบโตของธุรกิจจริงๆ ไม่นับรายการพิเศษ มีไม่กี่บริษัท
หรอกครับที่โตเกิน 100% ในปีที่ผ่านมา ยิ่งเฉลี่ย 10 ปี ผมไม่คิดว่ามี
บริษัทไหนหรอกครับที่โตเกิน 50% ต่อปี
เพราะภาษาไทย ไม่มีพหุพจน์
ถ้าเอาค่าเฉลี่ยการเติบโต "หลายๆ" ปีที่ผ่านมา ก็คนละเรื่องครับ แล้วก็
การเติบโตของธุรกิจ ไม่เหมือนกับการเติบโตของสินทรัพย์ในตลาดหลัก
ทรัพย์นะครับ
ถ้าวัดอัตราการเติบโตของธุรกิจจริงๆ ไม่นับรายการพิเศษ มีไม่กี่บริษัท
หรอกครับที่โตเกิน 100% ในปีที่ผ่านมา ยิ่งเฉลี่ย 10 ปี ผมไม่คิดว่ามี
บริษัทไหนหรอกครับที่โตเกิน 50% ต่อปี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6447
- ผู้ติดตาม: 0
กระทู้นี้ขอแซว ดร.นิเวศน์หน่อยครับ
โพสต์ที่ 3
ปกติเราเปรียบเทียบอัตราการเจริญเติบโตของกิจการ
กับอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษกิจของประเทศที่เรียกว่า GDP
หรือ Gross Domestic Product ผลิตผลมวลรวมประชาชาติ
คงไม่ได้เปรียบเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ครับ
ผมคิดว่ากิจการที่มีอัตราการเจริญเติบโตในระยะยาว
สูงกว่า GDP สักหน่อย ก็น่าจะยอมรับได้แล้วครับ
เรื่องที่ท่านใช้ตัวเลขในอดีต เพื่อหาราคาที่เหมาะสม
ก็เป็นหลักอนุรักษ์นิยมแค่นั้นเองครับ แต่ท่านเข้าใจเรื่องอัตราการเจริญเติบโตของกิจการแน่นอนครับ ไม่อย่างนั้นท่านคงไม่ลงทุนใน Stanly ตอนที่ราคาต่ำๆครับ
บางครั้งการเขียนหนังสือให้ครอบคลุมทุกอย่าง ผมคิดว่าไม่ง่ายนะครับ
ยิ่งบางครั้งเวลาเปลี่ยนไป พื้นฐานทางธุรกิจของกิจการก็เปลี่ยนไป
ผู้อ่านคงต้องใช้ดุลยพิณิจด้วยตัวเองด้วยครับ
กับอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษกิจของประเทศที่เรียกว่า GDP
หรือ Gross Domestic Product ผลิตผลมวลรวมประชาชาติ
คงไม่ได้เปรียบเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ครับ
ผมคิดว่ากิจการที่มีอัตราการเจริญเติบโตในระยะยาว
สูงกว่า GDP สักหน่อย ก็น่าจะยอมรับได้แล้วครับ
เรื่องที่ท่านใช้ตัวเลขในอดีต เพื่อหาราคาที่เหมาะสม
ก็เป็นหลักอนุรักษ์นิยมแค่นั้นเองครับ แต่ท่านเข้าใจเรื่องอัตราการเจริญเติบโตของกิจการแน่นอนครับ ไม่อย่างนั้นท่านคงไม่ลงทุนใน Stanly ตอนที่ราคาต่ำๆครับ
บางครั้งการเขียนหนังสือให้ครอบคลุมทุกอย่าง ผมคิดว่าไม่ง่ายนะครับ
ยิ่งบางครั้งเวลาเปลี่ยนไป พื้นฐานทางธุรกิจของกิจการก็เปลี่ยนไป
ผู้อ่านคงต้องใช้ดุลยพิณิจด้วยตัวเองด้วยครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว