อยากขอแรงเหล่ากูรูในที่นี้ ร่วมกันวิจารณ์ ทางออกของ tpi

[Stock Broker]

อย่างที่ทราบกันว่า ตอนนี้ ทั้งฝ่ายท่านประชัย และฝ่ายท่านผู้บริหารแผน (+เจ้าหนี้) ได้เสนอทางออกมาซึ่งมีแนวทางต่างกันมาก

อยากให้ท่านผู้มีความรู้ในเรื่องการเงิน มาร่วมกันให้ความเห็นเพื่อเป็นวิทยาทานและข้อมูลประกอบการลงทุนในหุ้นตัวนี้แก่รายย่อยตาดำๆ (แต่ชอบของร้อน) ด้วยครับ

ดูจากโวลุ่มซื้อขายของหุ้นตัวนี้ในช่วงที่ผ่านมา ผมเชื่อว่ามีรายย่อยเข้าไปแจมเป็นจำนวนมาก แต่ทำไมไม่ค่อยมีกระทู้โผล่ในห้องนี้เท่าไร (หรือกลัวโดนเหล่า vi ดุก็ไม่ทราบ)

ผมว่าเคสนี้มีการปรับโครงสร้างการเงินที่น่าเรียนรู้นะครับ

[บุคคลทั่วไป]

TPI ON STAKE SALES

Let's restructue our dept first

Company not ruling out future partial sell-off to Thai firms but says no talks yet

TPI, the country's biggest defaulter, said yesterday it could sell stakes to companies such as PTT and Siam Cement once it restructures its dept.

[Jeng]

ขอถามผู้รู้เรื่อง TPI ทำไมไม่เพิ่มทุน ทำไมต้องเสนอลดทุน ในเมื่อบริษัทต่างๆ ขอเพิ่มทุนกันเป็นแถว

อย่าง BBL ก็เพิ่มทุนไปตั้ง 3 หมื่นกว่าล้าน

TPI เห็นบอกว่ามีหนี้ 86000 ล้านบาท

ก็เพิ่มทุนซิ ผลคือ ทำให้ กิจการไปได้ มีเงินมาจ่ายหนี้ และสัดส่วน หนี้สินต่อทุนจะดีขึ้น

ขอบคุณมากครับ

[ayethebing]

เพิ่มทุนได้ก้อดีครับ แต่เพิ่มทุนได้เหรอเปล่า เป็นผมผมไม่ซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่เอาไปจ่ายหนี้หรอก

ถ้าจะให้ดีก้อให้เจ้าหนี้แปลงหนี้เป็นทุนดีกว่า แต่ก้อไม่รู้ว่าเจ้าหนี้จะยอมเหรอเปล่า

ถ้าให้ดีก้อต้องลดทุนก่อน ขายสินทรัพย์บางส่วนออก แล้วเอาไปจ่ายหนี้แล้วค่อยเพิ่มทุน ราคาหุ้นเพิ่มทุนก้ออาจจะเหมาะสมกับสถานะการเงินของบริษัท

[CK]

เพิ่มทุนนั้นไม่ยาก ที่ยากคือราคาที่จะเพิ่ทุนครับพี่

ถ้าราคาแพง (จำนวนหุ้นเพิ่มน้อย) ก็ขายไม่หมด เพราะ return จะไม่ค่อยดี
แถมต้องลงทุนเยอะอีกแต่ได้หุ้นนิดเดียว

ถ้าราคาถูก (แต่จำนวนหุ้นมาก) ผู้ถือหุ้นเดิมก็ไม่ยอม เพราะจะถูกเจือจาง
มาก เผลอๆอาจจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยไปเลย

ถ้าหา "ราคาเหมาะสม" ไม่ได้ ก็เพิ่มทุนไม่ได้ครับ ถ้าประกาศเพิ่มทุนแล้ว
ขายไม่หมด อาจจะวายวอดได้ครับ

[บุคคลทั่วไป]

ถ้าลดทุนแล้วประชัยไม่ได้เป็นเจ้าของอีกต่อไปแล้ว อย่างนี้เสี่ยประชัยจะยอมหรือครับ ถ้าว่ากันเรื่องเส้นสายผมว่าประชัยเค้าแน่นครับ ขนาดนายกช่วงนี้ยุ่งนักหนา ยังหาเวลาพบได้ มันต้องมี sth wrong ครับ ผมว่ามันไม่ค่อยโปร่งใสเลย ผมว่าที่ประชัยว่าคนอื่นทุบหุ้น แต่ตอนนี้ข่าวโดยรวมก็เป็นไปตามแนวทางการลดทุนนะครับ ดังนั้นคนที่ปั่นให้หุ้นอยู่ในปัจจุบันได้ คือ นายประชัยครับ แค่ลมปากก็สามารถพารายใหญ่รายเล็กออกมาเก็งกำไรกันได้แล้วครับ เงินไม่เข้าใครออกใครครับ โดยส่วนตัวเห็นว่าใครยังเล่นตัวนี้อยู่ควรจะต้องหาเหตุผลมาสนับสนุนตัวนี้มากๆหน่อย เพราะถ้าข่าวร้ายมันเป็นจริงจะได้ไม่คุ้มเสียนะครับ (ขอเตือนครับ) ไม่ได้ชี้นำให้ซื้อหรือขายแต่ขอให้ระวังและยึดเหตุผลให้มากๆครับ

[Sin]

เรื่องนี้มองได้ 2 ทางครับ เพิ่มทุนก็เป็นประโยชน์แก่ลูกหนี้ ถ้าลดทุนเจ้าหนี้ก็ได้ประโยชน์ เจ้าหนี้ต้องการเตะประชัยออก แล้วแต่คนจะมองเหลี่ยมไหน ไม่มีใครยอมใคร ฝุ่นมันยังตลบอยู่เลย มีข่าวได้ทุกวัน เรื่องนี้มันยาวพอจบคงเขียนได้เป็นมหากาพย์

[นะ]

ลือลดทุนทีพีไอ "ประชัย" เดือดพล่าน




นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย (TPI) เปิดแถลงข่าวชี้แจงว่า TPI เป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง โดยไม่จำเป็นต้องลดทุนให้เหลือ 1 สตางค์ หรือให้เป็นศูนย์ เพราะจากการจัดทำประมาณการงบการเงินและสถานะบริษัทหลังปรับโครงสร้างหนี้แล้วพบว่า TPI จะมีมูลค่าหุ้นเท่ากับ 20 บาท และเมื่อ รวมกับสินทรัพย์อื่นๆ เช่น การถือหุ้นใน TPIPL, ที่ดิน, ท่าเรือ และอื่นๆ รวมกันจะทำให้ TPI มีมูลค่าหุ้นเท่ากับ 30 บาท

ส่วนข่าวลือการลดทุนได้สอบถามไปยัง ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รมว. คลัง แล้วได้ทราบว่า รมว.คลังไม่ได้เป็นผู้แถลงข่าวยอมรับแผนฟื้นฟู TPI ที่เสนอโดยคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ TPI หรือ 5 อรหันต์ ซึ่งข่าวนี้เกิดจากที่ปรึกษาของผู้บริหารแผนเจตนาปล่อยข่าวทุบหุ้น ทำให้ราคาหุ้น TPI ปรับลงจาก 22 บาท เหลือ 11 บาท และยังมีเจตนาทำให้หุ้นเหลือ 1 สตางค์ หรือต่ำกว่านั้น ด้วยการระงับการสั่งซื้อน้ำมันดิบที่ใช้ในการกลั่น ทำให้ TPI มีรายได้ลดลง หากเป็นเช่นนี้ส่วนผู้ถือหุ้น TPI จะติดลบ อันจะเป็นเหตุผลให้ ผู้บริหารแผนฯยุบ TPI ในลำดับต่อไป ซึ่งการปล่อยข่าวถือเป็นความผิดอาญา ก.ล.ต.ควรเข้าไปตรวจสอบพฤติกรรมนี้ นายประชัยกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เข้าไปคุยกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับความเห็นใจ โดยได้ส่งกระทรวงการ คลังเข้ามาช่วยจัดการทรัพย์สิน แทนบริษัทเอฟเฟ็คทีฟ แพลนเนอร์ อดีตผู้บริหารแผนฟื้นฟูที่เป็นร่างทรงของเจ้าหนี้ และขอให้นายบุญคลี ปลั่งศิริ เข้ามาเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีพีไอ เพื่อดูแลการให้ความเห็นชอบต่อการ ดำเนินการใดๆของ 5 อรหันต์ แต่ในที่สุด นายบุญคลีกลับกลายเป็นร่างทรงของเจ้าหนี้เสียเอง เพราะสนิทกับนายชาติศิริ โสภณพนิช ผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ ทำให้ตนหนีเสือปะจระเข้ และหมดความไว้วางใจในตัวนายบุญคลี ซึ่งกระทรวงการคลังควรเปลี่ยน คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟู TPI รวมทั้งควรพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการที่คณะผู้บริหารทีพีไอเสนอ เพื่อให้ทราบสถานะที่แท้จริง ซึ่งตามแผนนี้เจ้าหนี้ไม่ได้เสียอะไร แต่หากคลังเห็นชอบแผนฟื้นฟูของผู้บริหารชุดนี้ คงต้องขอความยุติธรรมของศาลล้มละลาย ในการประชุมเจ้าหนี้ เพื่อโหวตรับแผน โดยตนจะ ใช้เวทีดังกล่าวในการเสนอแผนทั้งหมด ซึ่งถือเป็นแผนที่เป็นประโยชน์ของทุกฝ่าย.

[BPT]

นี่เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมคิดว่าปัญหาใหญ่ก็คือคุณประชัยกับแบงค์กรุงเทพนั้นเกลียดกันชนิดไม่เผาผีกันแล้ว เพราะนิสัยของคุณประชัยนั้นก็เป็นที่ทราบกันดีกว่า หาคนที่จะรองรับอารมณ์ของแกได้ยาก ยิ่งแกไปลุยกับคุณชาตรี-ชาติศิริ ซึ่งก็เป็นเจ้าสัวใหญ่ไม่เป็นที่สองรองใคร เลยกลายเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี ไม่มีใครยอมใคร ดังนั้น ที่แบงค์กรุงเทพต้องการไม่ใช่แค่ปรับโครงสร้างหนี้อย่างเดียว แต่ต้องปรับคุณประชัยออกไปจากการบริหารด้วย ไม่ว่าวิธีใดก็ตาม ส่วนเรื่องการบริหารบริษัททีพีไอนั้น แบงค์กรุงเทพคงคิดว่าสามารถบริหารได้ คุณชาติศิริเองก็จบมาด้านปิโตรเคมีด้วย ทำให้มีความรู้ในธุรกิจนี้เป็นอย่างดี ยิ่งตอนนี้ธุรกิจปิโตรเคมีเป็นขาขึ้นด้วย แทบไม่มีอะไรน่าห่วง ความจริงรัฐบาล CEO อุตส่าห์เข้ามาเป็นตัวกลางโดยการตั้ง 5 อรหันต์มาเป็นผู้บริหารแผนแล้ว แต่พอคุณประชัยระแวงว่ากลุ่มชินจะเข้ามาเป็นตาอยู่คว้าพุงปลาไปกิน ก็ออกมาโวยวาย แฉกันไปกันมาอีก ทั้งคุณบุญคลี ทั้งคุณศิริ ก็เลยหน้านิ่วคิ้วขมวด คราวนี้ก็เลยกลายเป็นคุณประชัยเปิดศึก 2 ด้าน เพราะถ้าผมเป็นผู้บริหารแผน ผมก็คงจะเริ่มเหม็นขี้หน้าคุณประชัยแล้วละ แล้วก็คงเริ่มหันมาหอมขี้หน้าแบงก์กรุงเทพดีกว่า ความจริงถ้าคุณประชัยยอมงอเหมือนคุณสวัสดิ์ NSM ละก้อ เรื่องคงจะจบง่ายกว่านี้ คือยอมถือหุ้นน้อยลงหน่อย และเก็บตัวเงียบ โลว์โพรไฟล์ ไม่สร้างศัตรูเพิ่ม ต้องทำใจว่าตัวเองจะไม่ได้ถือหุ้นใหญ่ในทีพีไออีกต่อไปแล้ว แต่หาทางต่อรองเพื่อเอา TPIPL ออกไปบริหารเองจะดีกว่า แต่นี่สร้างศัตรูไปจนทั่ว เขาก็เลยต้องตัดหญ้าถอนโคน ผมคิดว่าโอกาสถูกลดทุนมีค่อนข้างสูง เพียงแต่ว่าตอนนี้ที่รัฐบาลกำลังหาวิธีคือ ทำอย่างไรไม่ให้รายย่อยเดือดร้อน และแน่นอนคุณประชัยก็รู้ดีว่านี่คือตัวประกันชั้นดี ดังนั้น ด้านคุณประชัยก็ต้องทำทุกวิถีทางให้รายย่อยเข้ามือถือหุ้นทีพีไอให้เยอะที่สุด เพื่อจะให้รัฐบาลพะว้าพะวัง จะลงดาบก็กลัวโดนรายย่อยโวยวาย รัฐบาลก็ออกมาเตือนแบบอ้อมๆหลายๆครั้งแล้ว ทั้งในรูปการห้ามมาร์จิน ห้ามเนทเซท การเตือนการปั่นหุ้น การพูดถึงหุ้นรีแฮบ หุ้นที่มีพีอีเกินร้อยเท่า ผมคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นการไล่รายย่อยให้ออกไปให้มากที่สุด ส่วนที่เหลือก็คงจะต้องเจ็บตัวไป เพียงแต่รัฐบาลอาจมีมาตรการบรรเทาทุกข์ให้บ้าง แบบฟาร์มเลี้ยงไก่ไงครับ ถ้าใครยอมฆ่าไก่เองจะได้ชดเชย 40 บาท+แม่ไก่ ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ถูกลดทุนอาจจะได้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน แต่ถัวออกมาแล้ว เชื่อว่าไม่มีกำไรหรอก เหมือนกับเจ้าของฟาร์มไก่ ที่ไม่ได้กำไรจากมาตรการชดเชยหรอก เพียงแต่ลดการเจ็บตัวลงหน่อยเท่านั้นเอง ดังนั้นในความเห็นผม หุ้นมีตั้ง 400 กว่าตัว ไม่เล่นทีพีไอ จะเป็นอะไรไป ถ้าเล่นต้องการผลตอบแทนสักเท่าไร ตอนนี้ 11-12 บาท กะว่ามันจะไปสักเท่าไรครับ ถ้าหวังแค่ 15-16 บาทละก้อ ซื้อตัวอื่นๆก็มีโอกาสได้เหมือนกัน แล้วจะไปเสี่ยงกับเรื่องเสียวๆแบบนี้ทำไม

ขอย้ำอีกครั้ง นี่เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่มีอินไซด์ ไม่มีพวก ไม่ได้อยู่ฝ่ายใด และไม่ได้ถือหุ้นทีพีไอด้วย จะพูดว่าทั้งหมดเดาเอาเองก็ได้ จะมองว่าเป็นจินตนาการ เพ้อฝันไปเองก็ตามใจ โปรดใช้วิจารณญานของท่านเอง

[บุคคลทั่วไป]

โอ...คุณ BPT :lol: :lol: .....มุมมองน่าสนใจมากครับ
ถูกใจผมจริงๆ ผมก็มองคล้ายๆ กับคุณ BPT ครับ

คุณชาตศิริ แกคงมองๆ TPI ไว้เหมือนกัน เพราะแกจบปิโตรเคมีมา
เอาไว้รวมกับปิโตรเคมีของกลุ่มธนาคารกรุงเทพ

บางครั้งรายย่อยรู้ทั้งรู้ ว่าหุ้นตัวไหนมาเบื้องหลัง
ก็ยังเข้าไป พอติดหุ้นก็มาขอคำปลอบใจ
หรือไม่ก็ร้องกระเซอ โทษ กลต ไปโน่น
เป็นอย่างนี้จริงๆ ...เฮ้อ

[CK]

ทำไมบำรุงราษฎร์ถูกห้ามซื้อขายหลายปี แต่ TPI ยังซื้อขายได้อยู่ครับ?

ไม่ทราบว่าตลาดใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการแขวนครับ?

ไม่ได้ถามกวนนะครับ อยากทราบจริงๆ