การเก็บภาษีจากกำไร Capital Gain
-
- Verified User
- โพสต์: 1976
- ผู้ติดตาม: 0
การเก็บภาษีจากกำไร Capital Gain
โพสต์ที่ 1
ผมคิดว่า การเก็บภาษี ตรงนี้ น่าจะช่วยส่งเสริมให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากและเสถียรมากยิ่งขึ้น
ถึงแม้ว่าอาจเป็นผลลบต่อการดึงดูดเงินทุนต่างชาติ แต่อย่างไรก็ตามผมคิดว่าน่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นในระยะยาว
คนอื่นคิดอย่างไรบ้างครับ
ถึงแม้ว่าอาจเป็นผลลบต่อการดึงดูดเงินทุนต่างชาติ แต่อย่างไรก็ตามผมคิดว่าน่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นในระยะยาว
คนอื่นคิดอย่างไรบ้างครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1976
- ผู้ติดตาม: 0
การเก็บภาษีจากกำไร Capital Gain
โพสต์ที่ 2
ผมเล็งเห็นว่า
สัดส่วนนักลงทุนรายย่อย หรือไม่ก็สถาบันก็แล้วแต่ มีการลงทุนที่เรียกว่าค่อนข้างสั้น และตลาดเราก็คล้ายว่าต้องพึ่งเม็ดเงินต่างชาติ
การเก็บภาษี อาจจะ ช่วยให้การลงทุนของนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน เปลี่ยนเป็นระยะยาว มากขึ้น ทำให้เราไม่จำเป็นต้องพึ่งเม็ดเงินต่างชาติ
สัดส่วนนักลงทุนรายย่อย หรือไม่ก็สถาบันก็แล้วแต่ มีการลงทุนที่เรียกว่าค่อนข้างสั้น และตลาดเราก็คล้ายว่าต้องพึ่งเม็ดเงินต่างชาติ
การเก็บภาษี อาจจะ ช่วยให้การลงทุนของนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน เปลี่ยนเป็นระยะยาว มากขึ้น ทำให้เราไม่จำเป็นต้องพึ่งเม็ดเงินต่างชาติ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
การเก็บภาษีจากกำไร Capital Gain
โพสต์ที่ 4
ดีไม่ดีไม่รู้แต่ตลาดจะต้องมี big crash ก่อนหนึ่งที ถ้านโยบายนี้ออกมาจริงๆ เพราะ effect expected future cash flows ของหุ้นทุกตัวในตลาด
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
การเก็บภาษีจากกำไร Capital Gain
โพสต์ที่ 5
ขอแก้ไขใหม่ :lol:สุมาอี้ เขียน:ดีไม่ดีไม่รู้แต่ตลาดจะต้องมี big crash ก่อนหนึ่งที ถ้านโยบายนี้ออกมาจริงๆ เพราะกระทบ expected future cash flows ของผลตอบแทนของนักลงทุนของหุ้นทุกตัวในตลาด
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
การเก็บภาษีจากกำไร Capital Gain
โพสต์ที่ 7
เห็นว่าญี่ปุ่นก็กำลังฮึ่มๆ เรื่องนี้อยู่ Nikkei ร่วงกระจาย
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
การเก็บภาษีจากกำไร Capital Gain
โพสต์ที่ 9
เมื่อต้นอาทิตย์ละมั่งที่ลบไป 2% กว่า เรื่องนี้
ออกมาโยนหินถามทางทีก็ระเบิดลงที
ออกมาโยนหินถามทางทีก็ระเบิดลงที
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4244
- ผู้ติดตาม: 0
การเก็บภาษีจากกำไร Capital Gain
โพสต์ที่ 12
ถ้ามีการเก็บภาษี Capital gain จริง พวกนักเก็งกำไรระยะสั้นคงจะหมดไปจากตลาดหุ้นเยอะเลยทีเดียว
ซึ่งก็จะทำให้ตลาดห้นนั้นสภาพคล่องหายไป
โบรกเกอร์ต่างๆก็จะหายไปเรื่อยๆ
นักวิเคราะห์ก็จะไม่มีรายได้
บทวิเคราะห์ก็จะหายไปอีก
สรุปผมว่าอย่าไปยุ่งกับภาษีตัวนี้เลย ไปเก็บตัวอื่นแทนเหอะ
คนลงทุนระยะยาวยังไงก็ต้องการคนลงทุนระยะสั้นมาช่วยให้เขาสามารถออกจากหุ้นตัวนั้นได้
เมื่อเขาคิดว่าหุ้นตัวนั้นถึงคุณค่าของมันแล้ว
ซึ่งก็จะทำให้ตลาดห้นนั้นสภาพคล่องหายไป
โบรกเกอร์ต่างๆก็จะหายไปเรื่อยๆ
นักวิเคราะห์ก็จะไม่มีรายได้
บทวิเคราะห์ก็จะหายไปอีก
สรุปผมว่าอย่าไปยุ่งกับภาษีตัวนี้เลย ไปเก็บตัวอื่นแทนเหอะ
คนลงทุนระยะยาวยังไงก็ต้องการคนลงทุนระยะสั้นมาช่วยให้เขาสามารถออกจากหุ้นตัวนั้นได้
เมื่อเขาคิดว่าหุ้นตัวนั้นถึงคุณค่าของมันแล้ว
_________
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
การเก็บภาษีจากกำไร Capital Gain
โพสต์ที่ 15
หลายวันก่อน ฟังนักวิชาการท่านหนึ่งบอกว่า
รัฐสามารถยกเลิกการเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ทั้งหมด
เพียงแค่ปรับภาษีีมูลค่าเพิ่มขึ้น 0.5-1% และ ปรับปรุงประสิทธิภาพการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มให้ดี กลับจะได้เงินมากกว่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกมาก
กรณีการซื้อขายหุ้น มีค่าใช้จ่ายมากหลายทาง
1. คอมมิชชั่น 0.21-0.25%
2. vat 7% ของค่าคอมมิชชั่น
3. ภาษีเงินปันผล 10%
ถ้าเก็บภาษีกำไรจากการซื้อขายด้วย จะเป็นภาษีตัวที่ 4
ในสายตาของผม ถ้าจะเก็บก็ได้
แต่การเก็บต้องเหมารายปี คือ นับรวมยอดกำไร ขาดทุน หักลบกัน
สิ้นปีค่อยมาคิดภาษี จึงจะยุติธรรม
ถ้าจะเก็ยภาษีทุกครั้งที่ขายแล้วกำไร
ส่วนขายขาดทุนไม่มีการชดเชย อย่างนี้ไม่ยุติรรม
รัฐสามารถยกเลิกการเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ทั้งหมด
เพียงแค่ปรับภาษีีมูลค่าเพิ่มขึ้น 0.5-1% และ ปรับปรุงประสิทธิภาพการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มให้ดี กลับจะได้เงินมากกว่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกมาก
กรณีการซื้อขายหุ้น มีค่าใช้จ่ายมากหลายทาง
1. คอมมิชชั่น 0.21-0.25%
2. vat 7% ของค่าคอมมิชชั่น
3. ภาษีเงินปันผล 10%
ถ้าเก็บภาษีกำไรจากการซื้อขายด้วย จะเป็นภาษีตัวที่ 4
ในสายตาของผม ถ้าจะเก็บก็ได้
แต่การเก็บต้องเหมารายปี คือ นับรวมยอดกำไร ขาดทุน หักลบกัน
สิ้นปีค่อยมาคิดภาษี จึงจะยุติธรรม
ถ้าจะเก็ยภาษีทุกครั้งที่ขายแล้วกำไร
ส่วนขายขาดทุนไม่มีการชดเชย อย่างนี้ไม่ยุติรรม
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
การเก็บภาษีจากกำไร Capital Gain
โพสต์ที่ 16
การเก็บภาษีกำไรจากการซื้อขายหุ้น
มีเป้าหมาย 2 อย่าง
1.รัฐต้องการรายได้เพิ่ม
2.ไม่ต้องการให้มีการเก็งกำไรมากเกินไป
ผมว่า ไม่ได้ผลทั้ง 2 อย่าง
สมมติใน 1 ปี การขายหุ้นแล้วกำไร เกิดขึ้นจากมูลค่าหุ้น 100,000ล้านบาท
ตีซะว่ากำไร 10% คือกำไร 10,000 ล้านบาท เก็บภาษีจากกำไร 10% จะได้ภาษีปีละ 1,000 ล้านบาท
ลองคิดเล่นๆต่อ
สมมติปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย วันละ 12,000 ล้าน มี 2 ทาง คือ ผู้ซื้อและผู้ขาย
คิดเป็นวันละ 24,000 ล้านบาท ปีละ 200 วัน ปีละ 5,000,000 ล้านบาท
ค่าคอมประมาณ 11,000 ล้าน
สำหรับ ระบบปัจจุบัน ได้ภาษี vat ประมาณ 750-800 ล้านบาท ต่อปี
ถ้ารัฐต้องการเงินเพิ่มสัก 1,000 ล้านบาทต่อปี
ทำได้โดยเก็บภาษีจากค่าคอมมิชชันเพิ่ม จาก 7% เป็นสัก 15%
สมมติการซื้อขายหุ้น มูลค่า 100,000
เดิมจ่าย 100,224.7
ของใหม่จ่าย 100,241.5
จะเห็นว่า จ่ายเพิ่มไม่มาก แต่รัฐเก็บภาษีได้เพิ่มมากพอควร
สรุปประเด็นที่ 1 ถ้าต้องการเงินเพิ่ม
แทนที่จะเก็บภาษีกำไรจากการซื้อขาย ยังมีทางเลือกคือ ขึ้นภาษีค่าคอม จาก 7% เป็น 15-20%
มีเป้าหมาย 2 อย่าง
1.รัฐต้องการรายได้เพิ่ม
2.ไม่ต้องการให้มีการเก็งกำไรมากเกินไป
ผมว่า ไม่ได้ผลทั้ง 2 อย่าง
สมมติใน 1 ปี การขายหุ้นแล้วกำไร เกิดขึ้นจากมูลค่าหุ้น 100,000ล้านบาท
ตีซะว่ากำไร 10% คือกำไร 10,000 ล้านบาท เก็บภาษีจากกำไร 10% จะได้ภาษีปีละ 1,000 ล้านบาท
ลองคิดเล่นๆต่อ
สมมติปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย วันละ 12,000 ล้าน มี 2 ทาง คือ ผู้ซื้อและผู้ขาย
คิดเป็นวันละ 24,000 ล้านบาท ปีละ 200 วัน ปีละ 5,000,000 ล้านบาท
ค่าคอมประมาณ 11,000 ล้าน
สำหรับ ระบบปัจจุบัน ได้ภาษี vat ประมาณ 750-800 ล้านบาท ต่อปี
ถ้ารัฐต้องการเงินเพิ่มสัก 1,000 ล้านบาทต่อปี
ทำได้โดยเก็บภาษีจากค่าคอมมิชชันเพิ่ม จาก 7% เป็นสัก 15%
สมมติการซื้อขายหุ้น มูลค่า 100,000
เดิมจ่าย 100,224.7
ของใหม่จ่าย 100,241.5
จะเห็นว่า จ่ายเพิ่มไม่มาก แต่รัฐเก็บภาษีได้เพิ่มมากพอควร
สรุปประเด็นที่ 1 ถ้าต้องการเงินเพิ่ม
แทนที่จะเก็บภาษีกำไรจากการซื้อขาย ยังมีทางเลือกคือ ขึ้นภาษีค่าคอม จาก 7% เป็น 15-20%
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 0
การเก็บภาษีจากกำไร Capital Gain
โพสต์ที่ 17
อเมริกากับไทยผมว่าต่างกันเยอะครับ ...
คนไทยส่วนน้อยที่เป็นคนเล่นหุ้น ... รัฐต้องการให้คนมาเล่นหุ้นเยอะขึ้น .. อย่างน้อยก็ผ่านกองทุนรวม เลยต้องชักจูงด้วยเรื่องภาษี ขืนเก็บภาษีจริงๆคนเล่นจะยิ่งน้อยลง
ในขณะที่คนอเมริกาเล่นหุ้นกันเกือบทั้งประเทศ (รวมที่เล่นผ่านกองทุน) ดังนั้นเมื่อมีคนต้องการเล่นหุ้นมาก มีภาษีเพิ่มเข้ามา คนส่วนหนึ่งหายไป ... แต่ก็ยังมีมากพออยู่ดี เลยไม่เดือดร้อนมาก
คนไทยส่วนน้อยที่เป็นคนเล่นหุ้น ... รัฐต้องการให้คนมาเล่นหุ้นเยอะขึ้น .. อย่างน้อยก็ผ่านกองทุนรวม เลยต้องชักจูงด้วยเรื่องภาษี ขืนเก็บภาษีจริงๆคนเล่นจะยิ่งน้อยลง
ในขณะที่คนอเมริกาเล่นหุ้นกันเกือบทั้งประเทศ (รวมที่เล่นผ่านกองทุน) ดังนั้นเมื่อมีคนต้องการเล่นหุ้นมาก มีภาษีเพิ่มเข้ามา คนส่วนหนึ่งหายไป ... แต่ก็ยังมีมากพออยู่ดี เลยไม่เดือดร้อนมาก
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- Verified User
- โพสต์: 312
- ผู้ติดตาม: 0
การเก็บภาษีจากกำไร Capital Gain
โพสต์ที่ 18
สาเหตุที่คนลงทุนสั้นหรือเก็งกำไรน่าจะมาจากภาพพจน์ของตัวธุรกิจไม่ใช่หรือ แทนที่จะจัดการกับคนลงทุนน่าจะไปจัดการกับตัวธุรกิจ ทำยังไงให้ธุรกิจแข็งแกร่งให้ผลตอบแทนมั่นคงระยะยาว จัดการผู้บริหารที่ขี้โกงทั้งหลาย ถ้าความั่นคงใกล้เคียงเงินฝากคนลงทุนสั้นน่าจะน้อยลง หุ้นบางตัวที่ผลการดำเนินงานดีๆก็ไม่ค่อยมีคนเก็งมีแต่คนเก็บ
การทำอะไรแบบเดิมๆเป็นเวลานานๆทำให้ชีวิตเสียหาย
-
- ผู้ติดตาม: 0
การเก็บภาษีจากกำไร Capital Gain
โพสต์ที่ 19
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ เชียร์ๆๆๆmetro เขียน:ผมว่าถ้าจะทำทั้งที ต้องมีด้านขาดทุนด้วนะครับ เราจะต้องเอาส่วนที่ขาดทุนไปลดหย่อนภาษีได้ด้วยนะครับ ..
-
- Verified User
- โพสต์: 1647
- ผู้ติดตาม: 0
การเก็บภาษีจากกำไร Capital Gain
โพสต์ที่ 21
หลายวันก่อน ฟังนักวิชาการท่านหนึ่งบอกว่า
รัฐสามารถยกเลิกการเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ทั้งหมด
เพียงแค่ปรับภาษีีมูลค่าเพิ่มขึ้น 0.5-1% และ ปรับปรุงประสิทธิภาพการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มให้ดี กลับจะได้เงินมากกว่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกมาก
ดีครับ จะดีมากๆเลย
ผมทำธุรกิจ ก็จ่ายเงินเดือนตัวเองแพงๆซะจะได้ไม่ต้องจ่ายภาษีธุรกิจ ภาษีมูลค่าเพิ่มก็ผลักภาระให้คนมาซื้อของซะ
- nanakorn
- Verified User
- โพสต์: 636
- ผู้ติดตาม: 0
การเก็บภาษีจากกำไร Capital Gain
โพสต์ที่ 22
การเก็บภาษี Capital Gain ส่วนหนึ่งจะเป็นการเก็บภาษีซ้ำซ้อน เพราะราคาของหุ้นที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากสองส่วนคือ 1. ผลกำไร (E) ที่สะสมมาเรื่อยๆ และ 2. การให้ราคา (PE) โดยส่วนของผลกำไรมีการคิดภาษีไปแล้ว ไม่ควรมีการคิดซ้ำครับ ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น
1. มูลค่าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากกำไร (ไม่ควรคิดภาษี Capital Gain):
มีคนลงทุนตั้งบริษัทด้วยต้นทุน 100 บาท ทำไปหนึ่งปี ได้กำไร 10 บาท จ่ายภาษีนิติบุคคลไป 30% คือ 3 บาท เหลือ 7 บาท บริษัทกลายเป็นมีมูลค่า 107 บาท ขายให้เพื่อนแบบราคาเท่ามูลค่า 107 บาท ได้กำไรจากการขาย 7 บาท กำไรนี้คือ Capital Gain ถ้านำมาเสียภาษีส่วนบุคคลอีกสมมุติว่า 20% เท่ากับ 1.4 บาท จะเหลือสุดท้าย เป็นเงิน 5.6 บาท สรุปกำไร 10 บาท รัฐเอาไป 4.4 บาท คือ 44%
2. มูลค่าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการให้ราคา (ควรคิดภาษี Capital Gain):
มีคนลงทุนตั้งบริษัทด้วยต้นทุน 100 บาท ยังไม่ได้ทำอะไร ก็มีคนมาขอซื้อที่ 110 บาท ขายไปได้กำไร 10 บาท 10 บาทนี้ยังไม่เคยถูกคิดภาษีอะไรเลย สมควรที่จะต้องคิดภาษี
ในความเป็นจริง สองส่วนนี้จะปนกันและแยกไม่ออก แต่ถ้าเป็นการลงทุนระยะยาว ส่วนที่สอง (PE) น่าที่จะมีสัดส่วนที่น้อย ในทางกลับกัน ถ้าเป็นการลงทุนในระยะสั้นส่วนที่สอง (PE) น่าที่จะมีสัดส่วนที่มาก ดังนั้น ถ้าจะเก็บภาษี Capital Gain ควรจะต้องเก็บในอัตราที่ลดลงเรื่อยๆ ตามระยะเวลาการถือครองหุ้น ครับ นอกจากนี้ ในกรณีที่ขาดทุน จะต้องสามารถนำไปแสดงเป็นค่าใช้จ่ายได้
1. มูลค่าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากกำไร (ไม่ควรคิดภาษี Capital Gain):
มีคนลงทุนตั้งบริษัทด้วยต้นทุน 100 บาท ทำไปหนึ่งปี ได้กำไร 10 บาท จ่ายภาษีนิติบุคคลไป 30% คือ 3 บาท เหลือ 7 บาท บริษัทกลายเป็นมีมูลค่า 107 บาท ขายให้เพื่อนแบบราคาเท่ามูลค่า 107 บาท ได้กำไรจากการขาย 7 บาท กำไรนี้คือ Capital Gain ถ้านำมาเสียภาษีส่วนบุคคลอีกสมมุติว่า 20% เท่ากับ 1.4 บาท จะเหลือสุดท้าย เป็นเงิน 5.6 บาท สรุปกำไร 10 บาท รัฐเอาไป 4.4 บาท คือ 44%
2. มูลค่าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการให้ราคา (ควรคิดภาษี Capital Gain):
มีคนลงทุนตั้งบริษัทด้วยต้นทุน 100 บาท ยังไม่ได้ทำอะไร ก็มีคนมาขอซื้อที่ 110 บาท ขายไปได้กำไร 10 บาท 10 บาทนี้ยังไม่เคยถูกคิดภาษีอะไรเลย สมควรที่จะต้องคิดภาษี
ในความเป็นจริง สองส่วนนี้จะปนกันและแยกไม่ออก แต่ถ้าเป็นการลงทุนระยะยาว ส่วนที่สอง (PE) น่าที่จะมีสัดส่วนที่น้อย ในทางกลับกัน ถ้าเป็นการลงทุนในระยะสั้นส่วนที่สอง (PE) น่าที่จะมีสัดส่วนที่มาก ดังนั้น ถ้าจะเก็บภาษี Capital Gain ควรจะต้องเก็บในอัตราที่ลดลงเรื่อยๆ ตามระยะเวลาการถือครองหุ้น ครับ นอกจากนี้ ในกรณีที่ขาดทุน จะต้องสามารถนำไปแสดงเป็นค่าใช้จ่ายได้
Everything I do, I do it for you.
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
การเก็บภาษีจากกำไร Capital Gain
โพสต์ที่ 25
ที่แน่ๆ สภาพคล่องจะหายไปแน่นอน ในระยะอาจจะนานพอดู
ปกติ ตลาดบ้านเราเล็กมากอยู่แล้ว ฝาหรั่งเข้ามานิดๆหน่อยๆ เศษๆเงินของเขา ตลาดเราก็ ขึ้นปี๊ด ๆ...หรั่งออกก็ รูดปร๊าด ๆ...
ดิฉันว่า วีไอ ไม่วีไอ ลึกๆจริงๆ ก็ย่อมชอบตลาด ที่เหวี่ยงตัวสูง
เพราะ โอกาส มีเยอะกว่า
แต่ถ้าจะส่งเสริม การลงทุนระยะยาวจริงๆ ต้องเก็บแบบ กำหนดขั้นระยะเวลาด้วย
ถ้าเก็บ ภาษี% ของผลต่างกำไรจากการขายหุ้น อัตราเดียวกันหมด ก็ไม่ได้โน้มน้าว ให้ใครถือสั้นหรือยาว
และถ้าให้แฟร์ จะต้องมีกรณี เรียกเครดิตคืน ที่ขาดทุนจะว่าไง ค่อนข้างซับซ้อนเหมือนกัน
ดีไม่ดี ไม่แน่ใจค่ะ แต่ที่แน่ๆ เบื้องต้นเลย ลงเละเทะ บ้านเรายิ่งเหวี่ยงสูงด้วย เละตุ้มเป๊ะ คงเป็นคำตอบของ ภาพในระยะสั้นถึงกลาง เป็นอย่างน้อย
ตลาดบ้านเรานี่ ดิฉันว่า ถ้า กำหนดมาตรการ ตรวจจับ นอมินี่ ในตลาด กะ เก็บภาษีกำไรขายหุ้น ออกมา พร้อมๆ หรือ ไล่ๆ กันล่ะก็ ....เละ
:lol:
ปกติ ตลาดบ้านเราเล็กมากอยู่แล้ว ฝาหรั่งเข้ามานิดๆหน่อยๆ เศษๆเงินของเขา ตลาดเราก็ ขึ้นปี๊ด ๆ...หรั่งออกก็ รูดปร๊าด ๆ...
ดิฉันว่า วีไอ ไม่วีไอ ลึกๆจริงๆ ก็ย่อมชอบตลาด ที่เหวี่ยงตัวสูง
เพราะ โอกาส มีเยอะกว่า
แต่ถ้าจะส่งเสริม การลงทุนระยะยาวจริงๆ ต้องเก็บแบบ กำหนดขั้นระยะเวลาด้วย
ถ้าเก็บ ภาษี% ของผลต่างกำไรจากการขายหุ้น อัตราเดียวกันหมด ก็ไม่ได้โน้มน้าว ให้ใครถือสั้นหรือยาว
และถ้าให้แฟร์ จะต้องมีกรณี เรียกเครดิตคืน ที่ขาดทุนจะว่าไง ค่อนข้างซับซ้อนเหมือนกัน
ดีไม่ดี ไม่แน่ใจค่ะ แต่ที่แน่ๆ เบื้องต้นเลย ลงเละเทะ บ้านเรายิ่งเหวี่ยงสูงด้วย เละตุ้มเป๊ะ คงเป็นคำตอบของ ภาพในระยะสั้นถึงกลาง เป็นอย่างน้อย
ตลาดบ้านเรานี่ ดิฉันว่า ถ้า กำหนดมาตรการ ตรวจจับ นอมินี่ ในตลาด กะ เก็บภาษีกำไรขายหุ้น ออกมา พร้อมๆ หรือ ไล่ๆ กันล่ะก็ ....เละ
:lol: