CHOTI

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
ภาวินีTSWK
Verified User
โพสต์: 13
ผู้ติดตาม: 0

CHOTI

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ขอความเห็นธุรกิจเกี่ยวกับการส่งออกกุ้งแช่แข็งของ CHOTI
ภาพประจำตัวสมาชิก
MO101
Verified User
โพสต์: 3226
ผู้ติดตาม: 0

CHOTI

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ตอนนี้ อเมริกา ฟ้องเรื่องการทุ่มตลาด
ส่วนทาง EU ก็ขึ้นภาษี โดยทาง EU ขึ้นภาษีประเทศไทย
แต่ไม่ขึ้น ภาษีของ มาเลย

ราคาห้นตอนนี้ต่ำกว่า book

เสี่ยงมาก ต้องเอากำไรมาก ขอให้โชคดี
Solo
Verified User
โพสต์: 627
ผู้ติดตาม: 0

CHOTI

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ราคาต่ำมาก

ไม่มีสภาพคล่อง เคยเป็น หุ้น ที่ แพงมากในอดีต

ถ้าแก้ปัญหาได้ตก ก็ ขึ้น ได้ มากมากเลยครับ ถ้า รายใหญ่ พร้อมกัน ลุยขึ้นไป
ควรลงทุนอย่างรอบคอบ ในหุ้นดีและราคาไม่แพง ครับ
doctor_KOB
Verified User
โพสต์: 36
ผู้ติดตาม: 0

ปล่อยมันทิ้งไป .......หุ้นตอนนี้ ตัวนี้ เน่าแล้ว

โพสต์ที่ 4

โพสต์

สืบเนื่องจาก กุ้ง จาก ปีก่อนๆ ส่งออก รวม 5 - 6 หมื่นตัน ปัจจุบัน 3 พันตัน ตลกไหมละ แล้ว กลุ่มทุน ที่ถือหุ้น choti ก็ ส่งออก แค่ส่วนหนึ่ง แต่ดัน ส่งแต่กุ้ง รอ ให้ มันฟื้นอีก สงสัย เป็น สิบปี ได้ไหม ......

ขาด วอลุ่ม แต่ หาก คิดเก็บ ฝากแบงค์ ดีกว่า นะ เพราะปันผล รับรองได้เลย ว่า ยากส์ .......ฝากแบงค์ ยังได้มากกว่า นะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Golden Stock
Verified User
โพสต์: 615
ผู้ติดตาม: 0

CHOTI

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เห็นด้วยกับคุณ doctor_KOB ปัจจัยภายนอกมีแต่สร้างภัยคุกคามให้แก่บริษัท ไม่ว่าจะเป็นการกีดกันทางการค้า การแข่งขันในตลาดโลก ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน การเมืองระหว่างประเทศ ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า ซึ่งมีมากกว่าโอกาส ซึ่งมีน้อยมาก

ผลประกอบการที่ออกมาแย่ในช่วงสองปี อีกทั้งไม่มีการจ่ายเงินปันผล ผมสงสัยว่าทำไมราคาหุ้นยังยืนอยู่ได้ในระดับนี้ ตามความเห็นผมว่าราคาไม่น่าจะออกมาสูงอย่างนี้
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

CHOTI

โพสต์ที่ 6

โพสต์

จากแนวโน้มธรกิจที่ไม่มีอนาคตแล้ว ในส่วนงบการเงินของบริษัทนั้น

ผมว่าบริษัทดำเนินธรกิจผิดพลาดพอสมควรครับ ในขณะที่ในปี 2544 Q แรก บริษัทยังมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงมาก คือ มีเงินสดจำนวน 92.23 ล้านบาท แต่มีหนี้เพียง 22.09 ล้านบาท มีฐานะเป็นเงินสดสทธิ

แต่หลังจากนั้นบริษัทก็มีการเพิ่มจำนวนสินค้าคงคลังมากขึ้นเรื่อยๆ จาก 491.43 ล้านบาทใน Q 1 ของปี 2544 เป็น 753.82 ล้านบาท ในงบปัจจบัน ทั้งๆทียอดขายลดลง ทำให้บริษัทต้องก้ยืมเงินมาลงทนในสินค้าคงคลัง หนี้เพิ่มจาก 22.09 ล้านบาท ใน Q 1 ของปี 2544 เป็น 337.42 ล้านบาทในงบปัจจบัน

แต่ฐานะทางการเงินของบริษัทก็ไม่ถึงกับแย่มากครับ เพราะมีหนี้เทียบกับส่วนผ้ถือห้นไม่มากนัก แต่ถ้าเทียบกับเงินสดจากการดำเนินงานคงจะแย่ครับ ทางแก้ปัญหาของบริษัทก็คงต้องเริ่มจากลดสินค้าคงคลังเพื่อลดหนี้ครับ แต่คงต้องรับผลขาดทนจากราคาลดลงของราคาก้งจากตอนซื้อครับ
ภาวินีTSWK
Verified User
โพสต์: 13
ผู้ติดตาม: 0

CHOTI

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เราขอบอกก่อนว่าเราไม่มีหุ้นตัวนี้แต่ก็สนใจตามหนังสือเล่มหนึ่งที่เคยเชียร์ ก็เลยลองนำมาศึกษาดู ธุรกิจส่งออกอาหารทะเลนี้โดยเฉพาะบริษัทที่ส่งออกในสัดส่วนที่มาก(ขายในประเทศในสัดส่วนที่0%-น้อยมาก)โดนผลกระทบในเรื่องค่าเงิน คู่แข่งตลาด ความผันผวนของประเทศคู่ค้า และต้นทุนด้านการผลิตที่ไม่ตำเท่าประเทศของคู่แข่งและปัญหาแรงงานที่ดูแนวโน้มจะหนักไปข้างหน้า(ราคายางที่ยังยืนอยู่ในระดับที่สูงนั้นดึงคนออกจากอุตสาหกรรมที่มีผลประกอบการตำได้มาก เพราะสินค้าขายไม่ได้ งานเลิกเร็วคนงานได้ค่าแรงไม่พอใช้ก็ไปกรีดยางหรือไปทำงานในธุรกิจอื่นที่มีงานมากมีOT) การปรับเพิ่มขึ้นของค่าแรงอยู่เรื่อยๆ การระบาดของโรคกุ้งเป็นระยะ การตกตำของราคากุ้ง การผูกขาดในเรื่องอาหารกุ้งโดยบริษัทที่มีconnectionกับกลุ่มการเมืองทำให้คนเลี้ยงลังเลที่จะเลี้ยงต่อหรือหันไปทำอย่างอื่นแทน และเกมส์การตลาดของผู้บริหาร หน่วยซื้อ หน่วยขายและหน่วยผลิตรวมถึงR&Dที่อาจจะต้องผันปรับตัวเองอย่างมากเพื่อให้ทันกับกระแสที่เปลี่ยนตามความต้องการของตลาด และที่สาหัสอีกเรื่องคือการกีดกันทางการค้าของประเทศคู่ค้า แต่CHOTIค้ากับญี่ปุ่น65-75% ซึ่งเท่าที่ศึกษาก็ยังไม่พบการกีดกันมากเหมือนทางusa australiaและeu คำถามที่เราอยากทราบความเห็นของทุกท่านก็คือท่านคิดว่าในสถานการ์ณอะไรบ้างที่จะทำให้ธุรกิจประเภทนี้จะฟื้นได้และท่านคิดว่ารัฐจะมีวิธีการใดบ้างที่จะสนับสนุนธุรกิจนี้ และจากข้อมูลของคุณฉัตรชัยว่ามีการkeep stockในไตรมาส3นั้น เราดูราคากุ้งในช่วงนั้นก็พบว่าราคาของมันตกไปอยู่ตำกว่าทุนของการเลี้ยงก็อาจจะเป็นผลที่ทำให้มีการตัดสินใจซื้อเก็บไว้มากแต่ราคาตำมากๆ
30 ฟ้าลิขิต 70ต้องฝ่าฟัน
บุคคลทั่วไป
ผู้ติดตาม: 0

CHOTI

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ภาวินีTSWK เขียน:เราขอบอกก่อนว่าเราไม่มีหุ้นตัวนี้แต่ก็สนใจตามหนังสือเล่มหนึ่งที่เคยเชียร์ ก็เลยลองนำมาศึกษาดู ธุรกิจส่งออกอาหารทะเลนี้โดยเฉพาะบริษัทที่ส่งออกในสัดส่วนที่มาก(ขายในประเทศในสัดส่วนที่0%-น้อยมาก)โดนผลกระทบในเรื่องค่าเงิน คู่แข่งตลาด ค่าเงินที่แข็งขึ้น ความผันผวนของประเทศคู่ค้า และต้นทุนด้านการผลิตที่ไม่ตำเท่าประเทศของคู่แข่งและปัญหาแรงงานที่ดูแนวโน้มจะหนักไปข้างหน้า(ราคายางที่ยังยืนอยู่ในระดับที่สูงนั้นดึงคนออกจากอุตสาหกรรมที่มีผลประกอบการตำได้มาก เพราะสินค้าขายไม่ได้ งานเลิกเร็วคนงานได้ค่าแรงไม่พอใช้ก็ไปกรีดยางหรือไปทำงานในธุรกิจอื่นที่มีงานมากมีOT) การปรับเพิ่มขึ้นของค่าแรงอยู่เรื่อยๆ การระบาดของโรคกุ้งเป็นระยะ การตกตำของราคากุ้ง การผูกขาดในเรื่องอาหารกุ้งโดยบริษัทที่มีconnectionกับกลุ่มการเมืองทำให้คนเลี้ยงลังเลที่จะเลี้ยงต่อหรือหันไปทำอย่างอื่นแทน และเกมส์การตลาดของผู้บริหาร หน่วยซื้อ หน่วยขายและหน่วยผลิตรวมถึงR&Dที่อาจจะต้องผันปรับตัวเองอย่างมากเพื่อให้ทันกับกระแสที่เปลี่ยนตามความต้องการของตลาด และที่สาหัสอีกเรื่องคือการกีดกันทางการค้าของประเทศคู่ค้า แต่CHOTIค้ากับญี่ปุ่น65-75% ซึ่งเท่าที่ศึกษาก็ยังไม่พบการกีดกันมากเหมือนทางusa australiaและeu คำถามที่เราอยากทราบความเห็นของทุกท่านก็คือท่านคิดว่าในสถานการ์ณอะไรบ้างที่จะทำให้ธุรกิจประเภทนี้จะฟื้นได้และท่านคิดว่ารัฐจะมีวิธีการใดบ้างที่จะสนับสนุนธุรกิจนี้ และจากข้อมูลของคุณฉัตรชัยว่ามีการkeep stockในไตรมาส3นั้น เราดูราคากุ้งในช่วงนั้นก็พบว่าราคาของมันตกไปอยู่ตำกว่าทุนของการเลี้ยงก็อาจจะเป็นผลที่ทำให้มีการตัดสินใจซื้อเก็บไว้มากแต่ราคาตำมากๆ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11443
ผู้ติดตาม: 0

CHOTI

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ไม่ใช่ว่าเพิ่งซื้อเก็บ Stock ใน Q3 นะครับ ที่จริงแล้วบริษัทมียอดสินค้าคงคลังเพิ่มสงขึ้นมาโดยตลอด ผมเข้าใจว่าอาจจะซื้อเท่าเดิม แต่เนื่องจากขายออกได้น้อยกว่าเดิม จึงต้องเก็บไว้ในห้องเย็นแทนนะครับ ผมว่าต้นทนน่าจะสงกว่าราคาตลาดตอนนี้พอสมควร อีกทั้งต้องบวกค่าเก็บรักษาอีกครับ ถ้าขายออกมาเมื่อไรก็คงต้องรับร้ผลขาดทนอีกนะครับ
ล็อคหัวข้อ