ลงทุนในหุ้น กับ เลี้ยงลูก อย่างไหนยากกว่ากัน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้น กับ เลี้ยงลูก อย่างไหนยากกว่ากัน
โพสต์ที่ 1
เห็นพี่ๆ เพื่อนๆ ในเวบ มีลูกกันหลายคน เลยอยากสอบถามความเห็นว่าการลงทุนในหุ้นกับการเลี้ยงลูก งานอย่างไหนยากกว่ากันครับ
สำหรับผมงานเลี้ยงลูกนี้ทั้งยากและเหนื่อยกว่าการลงทุนเยอะเลย เพราะการเลี้ยงลูกนี้ต้องคอยเฝ้าดูแลตลอดเลยนะครับ ยิ่งเวลาลูกไม่สบายนี้เหนื่อยทั้งกายและใจเลยครับ ไม่เหมือนกับหุ้น ลงทุนแล้วไม่ต้องดูแลมาก คอยดูตอนงบการเงินออก ไม่ต้องคอยเฝ้าตลอดเวลา
เพื่อนๆ พี่ๆ ที่มีลูกแล้วเห็นด้วยกับผมไหมครับ
สำหรับผมงานเลี้ยงลูกนี้ทั้งยากและเหนื่อยกว่าการลงทุนเยอะเลย เพราะการเลี้ยงลูกนี้ต้องคอยเฝ้าดูแลตลอดเลยนะครับ ยิ่งเวลาลูกไม่สบายนี้เหนื่อยทั้งกายและใจเลยครับ ไม่เหมือนกับหุ้น ลงทุนแล้วไม่ต้องดูแลมาก คอยดูตอนงบการเงินออก ไม่ต้องคอยเฝ้าตลอดเวลา
เพื่อนๆ พี่ๆ ที่มีลูกแล้วเห็นด้วยกับผมไหมครับ
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้น กับ เลี้ยงลูก อย่างไหนยากกว่ากัน
โพสต์ที่ 2
ผมว่าเลี้ยงลูกยาก กว่าเล่นหุ้นครับ
คิดถึงตัวเราสมัยเด็ก คุณพ่อคุณแม่ก็คงลำบากเหมือนเราเลี้ยงลูกตอนนี้
เป็นห่วงปัจจุบันให้เขา
และยังไปห่วงอนาคตให้เขา
แบบ...ซื้อประกันชีวิต-ประกันสุขภาพให้ลูก
ฝากเงินให้เพื่อว่า โตขึ้นเรียนระดับมหาลัยจะได้มีทุน
ลูกนี่ ขี้งอน เอาแต่ใจ
ต้องเตรียมการทุกอย่าง อาหาร ยา เครื่องนุ่งห่มฯ
ไม่เหมือนหุ้น ไม่ต้องคอยเอาใจ ไม่ขี้งอนครับ
รอรับปันผลอย่างเดียว
ขึ้นก็ดีใจเออมันขึ้น
ลงก็คอยดูมาถึงที่ที่เราต้องการซื้อหรือยัง
แถมยังได้คุยเรื่องๆราวต่างๆ
ผมมีเพื่อนเล่นหุ้นอยู่ที่นี่ 10กว่าคน
แต่ก็เป็นนักเก็งกำไรซะ90%
พอหุ้นลงติดต่อกันหลายวัน
เริ่มอยากถือหุ้นลงทุนบ้างล่ะ
เหมือนใบไม้ต้องลม โอนไปก็เอนมา
คิดถึงตัวเราสมัยเด็ก คุณพ่อคุณแม่ก็คงลำบากเหมือนเราเลี้ยงลูกตอนนี้
เป็นห่วงปัจจุบันให้เขา
และยังไปห่วงอนาคตให้เขา
แบบ...ซื้อประกันชีวิต-ประกันสุขภาพให้ลูก
ฝากเงินให้เพื่อว่า โตขึ้นเรียนระดับมหาลัยจะได้มีทุน
ลูกนี่ ขี้งอน เอาแต่ใจ
ต้องเตรียมการทุกอย่าง อาหาร ยา เครื่องนุ่งห่มฯ
ไม่เหมือนหุ้น ไม่ต้องคอยเอาใจ ไม่ขี้งอนครับ
รอรับปันผลอย่างเดียว
ขึ้นก็ดีใจเออมันขึ้น
ลงก็คอยดูมาถึงที่ที่เราต้องการซื้อหรือยัง
แถมยังได้คุยเรื่องๆราวต่างๆ
ผมมีเพื่อนเล่นหุ้นอยู่ที่นี่ 10กว่าคน
แต่ก็เป็นนักเก็งกำไรซะ90%
พอหุ้นลงติดต่อกันหลายวัน
เริ่มอยากถือหุ้นลงทุนบ้างล่ะ
เหมือนใบไม้ต้องลม โอนไปก็เอนมา
ฝันถึง วัน ฟ้าสวย...... อยากร่ำรวย-ด้วยเล่นหุ้น
ฝัน เป็น นักลงทุน..... ลุ้นความหวัง-ความตั้งใจ
ฝัน เป็น นักลงทุน..... ลุ้นความหวัง-ความตั้งใจ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14783
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้น กับ เลี้ยงลูก อย่างไหนยากกว่ากัน
โพสต์ที่ 4
ผมว่า ที่เลี้ยงกันยาก คงไม่ยากหรอกครับ แต่ความรักนี่แหละทำให้เราพยายามให้สิ่งที่ดีที่สุด แต่ไม่มีอะไรดีที่สุด
และความรักนี่แหละ ทำให้เราเป็นทุกข์ ถ้าอะไรๆไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคาดหวังไว้
สำหรับผมแล้ว ไม่ยากครับ รู้สึกสบายๆ อาจจะเป็นเพราะไม่ได้เป็นแม่ เราเป็นพ่อ ก็เลยไม่ได้ผูกพันขนาดนั้น
วันๆก็เล่นกันทุกวันเลย
เมื่อวานก็พาไปขี่ช้างที่อยุธยา ลูกคนเล็ก 2 ขวบกว่าๆ บอกว่า
ทำไมช้างเดินแบบนี้หล่ะ ทำไมช้างเดินแบบนี้หละ แจ๊คกี้กลัวตก
อย่าว่าแต่ลูกผมกลัวตก ผมยังกลัวเลย
วันนี้ก็พาลูกคนโตไปวิ่งสวนหลวง ร.9 ก่อนไปฟังบรรยายพิเศษเรื่องหุ้น จากเสี่ย....
เอาเป็นว่าสำหรับผมแล้ว เลี่ยงลูกง่ายกว่า เลี้ยงหุ้น เพราะลูกเรายังเล็ก ยังอยู่ในหูในตา
แต่เมื่อไรเป็นวัยรุ่น สงสัยเลี้ยงยากกว่าเลี้ยงหุ้นแน่นอน
และความรักนี่แหละ ทำให้เราเป็นทุกข์ ถ้าอะไรๆไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคาดหวังไว้
สำหรับผมแล้ว ไม่ยากครับ รู้สึกสบายๆ อาจจะเป็นเพราะไม่ได้เป็นแม่ เราเป็นพ่อ ก็เลยไม่ได้ผูกพันขนาดนั้น
วันๆก็เล่นกันทุกวันเลย
เมื่อวานก็พาไปขี่ช้างที่อยุธยา ลูกคนเล็ก 2 ขวบกว่าๆ บอกว่า
ทำไมช้างเดินแบบนี้หล่ะ ทำไมช้างเดินแบบนี้หละ แจ๊คกี้กลัวตก
อย่าว่าแต่ลูกผมกลัวตก ผมยังกลัวเลย
วันนี้ก็พาลูกคนโตไปวิ่งสวนหลวง ร.9 ก่อนไปฟังบรรยายพิเศษเรื่องหุ้น จากเสี่ย....
เอาเป็นว่าสำหรับผมแล้ว เลี่ยงลูกง่ายกว่า เลี้ยงหุ้น เพราะลูกเรายังเล็ก ยังอยู่ในหูในตา
แต่เมื่อไรเป็นวัยรุ่น สงสัยเลี้ยงยากกว่าเลี้ยงหุ้นแน่นอน
- champ
- Verified User
- โพสต์: 1280
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้น กับ เลี้ยงลูก อย่างไหนยากกว่ากัน
โพสต์ที่ 5
ณ ตอนนี้ ผมเลี้ยงหุ้นยากกว่าลูกครับ
เพราะลูกผมมีคนช่วยเลี้ยงเยอะไปหมด
เพราะเป็นหลานคนแรกของทั้ง 2 ด้าน
เลยไม่เหนื่อย
แต่ค่อนข้างอึดอัดเหมือนกัน
เพราะรู้สึกจะตามใจกันเหลือเกิน โตมาสงสัยจะดื้อสุดๆ ครับ
แต่ก็มองเหมือนพี่ปรัชญานะครับ
ว่าต้องคอยมองหาอะไรไว้ให้เขาในอนาคต
ทำให้ทำอะไรก็ต้องคิดหน้าคิดหลังดีๆ
ถ้าพลาดไปลูกเราจะเป็นอย่างไร
ปีหน้าลูกผมก็จะเข้า อ.1
นี่ผมต้องเตรียมตัวไปจอง ร.ร แล้ว
เพราะแถวที่ผมอยู่มี ร.ร. คริสต์ อยู่ที่เดียว
ไม่ใช่ผมบ้าฝรั่งนะครับ
แต่คิดแล้วว่าอยากให้ลูกมีภาษาติดตัวครับ
เพราะลูกผมมีคนช่วยเลี้ยงเยอะไปหมด
เพราะเป็นหลานคนแรกของทั้ง 2 ด้าน
เลยไม่เหนื่อย
แต่ค่อนข้างอึดอัดเหมือนกัน
เพราะรู้สึกจะตามใจกันเหลือเกิน โตมาสงสัยจะดื้อสุดๆ ครับ
แต่ก็มองเหมือนพี่ปรัชญานะครับ
ว่าต้องคอยมองหาอะไรไว้ให้เขาในอนาคต
ทำให้ทำอะไรก็ต้องคิดหน้าคิดหลังดีๆ
ถ้าพลาดไปลูกเราจะเป็นอย่างไร
ปีหน้าลูกผมก็จะเข้า อ.1
นี่ผมต้องเตรียมตัวไปจอง ร.ร แล้ว
เพราะแถวที่ผมอยู่มี ร.ร. คริสต์ อยู่ที่เดียว
ไม่ใช่ผมบ้าฝรั่งนะครับ
แต่คิดแล้วว่าอยากให้ลูกมีภาษาติดตัวครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้น กับ เลี้ยงลูก อย่างไหนยากกว่ากัน
โพสต์ที่ 6
คุณ Champ ครับ เด็กๆนี่ให้เรียนแบบเตรียมความพร้อมก็ดีนะครับ อย่างโรงเรียนลูกผมนี่ อ.1 จะไม่เน้นวิชาการเลย แต่จะให้อิสระเด็กในการเรียนรู้เรื่องราวต่างๆในชีวิตประจำวันมากกว่าการเรียน เขียนหนังสือครับ การเขียนหนังสือสวยหรือไม่สวยไม่ใช่เรื่องใหญ่โตครับ การอ่านออกหรือเขียนหนังสือได้ก่อนก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญครับ ความคิดริเริ่มนี่ซิสำคัญกว่า และการเรียนด้วยความสนุกจะทำให้เด็กรักการเรียนครับ อย่างเช่น จะให้เด็กๆยกมือเสนอเรื่องที่เด็กสนใจเรียน แล้วลงคะแนน ถ้าเรียนเรื่องทำอาหาร ก็จะให้กุ๊กจริงๆมาพูดให้เด็กฟัง มีการพาเด็กๆไปที่ห้องครัซจริงๆ ได้เห็นสภาพการทำงานจริงๆ และมีการให้เด็กทำอาหารง่ายๆด้วย คุณเชื่อไหมถ้าวันไหนลูกผมไม่สบายไม่ได้ไปโรงเรียน แกจะร้องไห้อยากไปโรงเรียนครับ แค่นี้ผมก็ปลื้มแล้วครับ วิชาการเรียนตอนโตหน่อยก็ยังไม่สาย แต่อย่าไปปิดกั้นความคิดของเด็ก อย่าไปยัดเยียดความรู้ให้แกจนแกเครียด และพาลเกลียดการเรียนแต่เด็กครับ
- champ
- Verified User
- โพสต์: 1280
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้น กับ เลี้ยงลูก อย่างไหนยากกว่ากัน
โพสต์ที่ 7
คุณ chatchai ครับ
ที่พูดมาผมเข้าใจครับว่าไม่น่าไปยัดเยียดวิชาการตั้งแต่เด็ก
ที่ผมให้เข้าโรงเรียนคริสต์ก็เพียงแค่ว่าให้ปูพื้นเรื่องภาษามาหน่อยแค่นั้นเองครับ
ไม่ใช่ว่าอยากให้ลูกเรียดหรอกครับ
แต่ผมไม่ทราบว่าลูกผมจะเหมือนชาวบ้านหรือเปล่านะครับ
เช้าไม่อยากไปโรงเรียน แต่พอถึงโรงเรียนคุณครูเดินมารับ
แทบกระโดดเลย เราไปส่งเห็นแล้วยังงเลย
เมื่อกี้ยังงอแงอยู่เลย ไม่อยากมาอย่างเดียว
พอเจอครูปุ๊บ วิ่งหนีเข้าไปเลย
ครูให้บ๊ายบายยังไม่ยอมเลยครับ
ลีลาเยอะครับ ลูกชายผม
ที่พูดมาผมเข้าใจครับว่าไม่น่าไปยัดเยียดวิชาการตั้งแต่เด็ก
ที่ผมให้เข้าโรงเรียนคริสต์ก็เพียงแค่ว่าให้ปูพื้นเรื่องภาษามาหน่อยแค่นั้นเองครับ
ไม่ใช่ว่าอยากให้ลูกเรียดหรอกครับ
แต่ผมไม่ทราบว่าลูกผมจะเหมือนชาวบ้านหรือเปล่านะครับ
เช้าไม่อยากไปโรงเรียน แต่พอถึงโรงเรียนคุณครูเดินมารับ
แทบกระโดดเลย เราไปส่งเห็นแล้วยังงเลย
เมื่อกี้ยังงอแงอยู่เลย ไม่อยากมาอย่างเดียว
พอเจอครูปุ๊บ วิ่งหนีเข้าไปเลย
ครูให้บ๊ายบายยังไม่ยอมเลยครับ
ลีลาเยอะครับ ลูกชายผม
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1011
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้น กับ เลี้ยงลูก อย่างไหนยากกว่ากัน
โพสต์ที่ 8
เลี้ยงลูกครับ เป็นคำตอบสุดท้าย
สำหรับลูก ผมเชื่อว่าคงมีเรื่องให้เราเป็นห่วงเป็นใย
ตั้งแต่ก่อนคลอด หลังคลอด เริ่มเรียน (รวมทั้งหาโรงเรียน)
คบเพื่อน เอนทรานซ์ ทำงาน คู่ครอง มีหลาน ....
ถ้าเป็นหุ้นหากไม่ดีจริง ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้
สำหรับลูกคงจะทำไม่ได้ เพราะฉนั้นต้องเอาใจใส่กันหน่อยครับ
ขอเป็นกำลังใจให้คุณพ่อ คุณแม่ในห้องนี้ทุกคนครับ
สำหรับลูก ผมเชื่อว่าคงมีเรื่องให้เราเป็นห่วงเป็นใย
ตั้งแต่ก่อนคลอด หลังคลอด เริ่มเรียน (รวมทั้งหาโรงเรียน)
คบเพื่อน เอนทรานซ์ ทำงาน คู่ครอง มีหลาน ....
ถ้าเป็นหุ้นหากไม่ดีจริง ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้
สำหรับลูกคงจะทำไม่ได้ เพราะฉนั้นต้องเอาใจใส่กันหน่อยครับ
ขอเป็นกำลังใจให้คุณพ่อ คุณแม่ในห้องนี้ทุกคนครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้น กับ เลี้ยงลูก อย่างไหนยากกว่ากัน
โพสต์ที่ 9
ชอบหัวข้อกระทู้นี้จังค่ะ
หลายสาเหตุนะคะ
1- ตัวเองมีประสบการณ์ตรงถึง 3 คนทั้งชายและหญิง ฉะนั้นก็จะ " in"
กับตรงนี้มาก
2- ผู้ชายห้องนี้น่ารักมาก ๆ คือดูเป็น family man ทั้งนั้นเพราะดูแลลูก ๆ โดยไม่คิดว่าเป็นภาระของคุณผู้หญิงแต่ฝ่ายเดียว
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า ความยากและความง่ายของเรื่องทั้งสองคือ การลงทุนและการเลี้ยงลูกมีเหมือนกัน
ความยากของการลงทุนแบบ VI คือ ต้องใจเย็นและอดทนรอให้มันงอกเงยในอนาคต โดยไม่ด่วนขายเพราะข่าว หรือ เกรงเงินจะหาย เหมือนการเลี้ยงลูกที่ต้องอดทนฟังเสียงร้องเพื่ออยากได้ของเล่น (ที่แพง และฟุ่มเฟือย ไร้สาระ) ต้องใจเย็นพอที่จะค่อย ๆ ดัดนิสัย ( ธรรมชาติของมนุษย์) ให้รู้สิ่งที่ถูกและควร อย่าต้องให้ลูก ๆ มาว่าทีหลังว่า " พ่อแม่รังแกฉัน " อย่างที่คุณมนพูดในกระทู้หนึ่ง
นี่คือ ความยากที่เหมือนกันนะคะ
ส่วนที่ว่าความยากที่ไม่เหมือนก็คือ การลงทุนแบบ VI ต้องมองให้ทะลุใสแล้วค่อยเลือกมาครอบครอง ส่วนลูกนั้น เลือกไม่ได้ มันมีความเกี่ยวพันกับกรรมของเรา และกรรมของเขาที่ต้องมาเจอกัน ที่พูดนี่ก็ไม่ได้ให้หมายความว่า ให้โทษฟ้าดิน แต่ต้องยอมรับว่า พอถึงจุด ๆ หนึ่งแล้ว เรื่องกรรมก็เป็นสิ่งที่เรายอมรับเหมือนกัน ต่อให้เลี้ยงลูกมาดี แสน ดี แต่ลูก ๆ จะรักดีหรือไม่ อันนี้ไม่รู้ได้ อนาคตบอกกันไม่ได้ ตัวแปรมีเยอะค่ะ ( อิฉันมีลูกแฝด เกิดห่างกันแค่ 3 นาที ยังมีนิสัยไม่เหมือนกันเล้ย คุณขา !! ) อีกอย่างหากลูกเป็นอย่างไร เราก็ทิ้งไม่ได้ แต่หุ้นตัวไหน มีความประพฤติไม่ดี เราก็สามารถทิ้งได้โดยไม่รู้สึกอะไร
ความยากที่ไม่เหมือนอีกอย่างคือ VI นั้น เลือกแล้วไม่ต้องดูแลมากนัก ส่วนลูกนั้นพอได้มาแล้ว ต้องดูแลระหว่างทางตั้งแต่ต้นจน มีใครคนหนึ่ง จบ ( ไม่เขาก็เรา )
ขอแถมอีกนิดหนึ่งคือ การลงทุนและการเลี้ยงลูกมีความเหมือนตรงที่ เราจะมีความสุขบนทุกข์ตลอดเวลาอย่างเต็มใจ ยอมอดนอน ยอมเช็ดฉี่ เช็ดอึ แต่สุขใจที่ได้เห็นเขายิ้ม เขาประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกันการลงทุนที่ทนเห็นราคาแกว่างขึ้น ๆ ลง ๆ ได้อย่างสบายใจเพราะ เราได้เลือกเฟ้นแล้ว จึงมองดูได้อย่างสุขไจ
ไม่ทราบเพื่อน ๆ เห็นด้วยหรือเปล่า :lol:
หลายสาเหตุนะคะ
1- ตัวเองมีประสบการณ์ตรงถึง 3 คนทั้งชายและหญิง ฉะนั้นก็จะ " in"
กับตรงนี้มาก
2- ผู้ชายห้องนี้น่ารักมาก ๆ คือดูเป็น family man ทั้งนั้นเพราะดูแลลูก ๆ โดยไม่คิดว่าเป็นภาระของคุณผู้หญิงแต่ฝ่ายเดียว
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า ความยากและความง่ายของเรื่องทั้งสองคือ การลงทุนและการเลี้ยงลูกมีเหมือนกัน
ความยากของการลงทุนแบบ VI คือ ต้องใจเย็นและอดทนรอให้มันงอกเงยในอนาคต โดยไม่ด่วนขายเพราะข่าว หรือ เกรงเงินจะหาย เหมือนการเลี้ยงลูกที่ต้องอดทนฟังเสียงร้องเพื่ออยากได้ของเล่น (ที่แพง และฟุ่มเฟือย ไร้สาระ) ต้องใจเย็นพอที่จะค่อย ๆ ดัดนิสัย ( ธรรมชาติของมนุษย์) ให้รู้สิ่งที่ถูกและควร อย่าต้องให้ลูก ๆ มาว่าทีหลังว่า " พ่อแม่รังแกฉัน " อย่างที่คุณมนพูดในกระทู้หนึ่ง
นี่คือ ความยากที่เหมือนกันนะคะ
ส่วนที่ว่าความยากที่ไม่เหมือนก็คือ การลงทุนแบบ VI ต้องมองให้ทะลุใสแล้วค่อยเลือกมาครอบครอง ส่วนลูกนั้น เลือกไม่ได้ มันมีความเกี่ยวพันกับกรรมของเรา และกรรมของเขาที่ต้องมาเจอกัน ที่พูดนี่ก็ไม่ได้ให้หมายความว่า ให้โทษฟ้าดิน แต่ต้องยอมรับว่า พอถึงจุด ๆ หนึ่งแล้ว เรื่องกรรมก็เป็นสิ่งที่เรายอมรับเหมือนกัน ต่อให้เลี้ยงลูกมาดี แสน ดี แต่ลูก ๆ จะรักดีหรือไม่ อันนี้ไม่รู้ได้ อนาคตบอกกันไม่ได้ ตัวแปรมีเยอะค่ะ ( อิฉันมีลูกแฝด เกิดห่างกันแค่ 3 นาที ยังมีนิสัยไม่เหมือนกันเล้ย คุณขา !! ) อีกอย่างหากลูกเป็นอย่างไร เราก็ทิ้งไม่ได้ แต่หุ้นตัวไหน มีความประพฤติไม่ดี เราก็สามารถทิ้งได้โดยไม่รู้สึกอะไร
ความยากที่ไม่เหมือนอีกอย่างคือ VI นั้น เลือกแล้วไม่ต้องดูแลมากนัก ส่วนลูกนั้นพอได้มาแล้ว ต้องดูแลระหว่างทางตั้งแต่ต้นจน มีใครคนหนึ่ง จบ ( ไม่เขาก็เรา )
ขอแถมอีกนิดหนึ่งคือ การลงทุนและการเลี้ยงลูกมีความเหมือนตรงที่ เราจะมีความสุขบนทุกข์ตลอดเวลาอย่างเต็มใจ ยอมอดนอน ยอมเช็ดฉี่ เช็ดอึ แต่สุขใจที่ได้เห็นเขายิ้ม เขาประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกันการลงทุนที่ทนเห็นราคาแกว่างขึ้น ๆ ลง ๆ ได้อย่างสบายใจเพราะ เราได้เลือกเฟ้นแล้ว จึงมองดูได้อย่างสุขไจ
ไม่ทราบเพื่อน ๆ เห็นด้วยหรือเปล่า :lol:
Tough Time Never Last
But
Tough People Do
But
Tough People Do
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้น กับ เลี้ยงลูก อย่างไหนยากกว่ากัน
โพสต์ที่ 12
คุณ ลินดา ไม่เห็นโพสท์เลย ไม่รู้เดี๋ยวนี้เลิกลงทุนแล้วเหรอครับ
เห็นความคิดเข้าถึงหลักทั้งเลี้ยงลูก และเลี้ยงหุ้น เลยนะครับ
มีหุ้น ไม่ชอบเมื่อไหร่ก็เปลี่ยนได้ครับ ส.บ.ม.ย.ห
แต่...มีลูกเหมือนมีเมีย มีแล้วมีเลย เปลี่ยนไม่ได้คร๊าบ :lol:
เห็นความคิดเข้าถึงหลักทั้งเลี้ยงลูก และเลี้ยงหุ้น เลยนะครับ
มีหุ้น ไม่ชอบเมื่อไหร่ก็เปลี่ยนได้ครับ ส.บ.ม.ย.ห
แต่...มีลูกเหมือนมีเมีย มีแล้วมีเลย เปลี่ยนไม่ได้คร๊าบ :lol:
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- ครรชิต ไพศาล
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4623
- ผู้ติดตาม: 1
ลงทุนในหุ้น กับ เลี้ยงลูก อย่างไหนยากกว่ากัน
โพสต์ที่ 14
แต่เลี้ยงลูก เราเลี้ยงด้วยความสุข เพราะเป็นรักแท้ รักที่จะให้
แต่เลี้ยงหุ้น เราเลี้ยงด้วยความกังวล เพราะเป็นรักเทียม รักที่จะเอา
แต่เลี้ยงหุ้น เราเลี้ยงด้วยความกังวล เพราะเป็นรักเทียม รักที่จะเอา
ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบใจไม่มี นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้น กับ เลี้ยงลูก อย่างไหนยากกว่ากัน
โพสต์ที่ 15
ครรชิต ไพศาล เขียน:แต่เลี้ยงลูก เราเลี้ยงด้วยความสุข เพราะเป็นรักแท้ รักที่จะให้
แต่เลี้ยงหุ้น เราเลี้ยงด้วยความกังวล เพราะเป็นรักเทียม รักที่จะเอา
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 1150
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้น กับ เลี้ยงลูก อย่างไหนยากกว่ากัน
โพสต์ที่ 16
เลี้ยงลูกยากกว่าครับ เอาแค่ลูกเข้า ป1 ก็เครียดกว่าเล่นหุ้นเยอะ
พี่ฉัตรชัย ครับ โรงเรียนวิชาการไม่ได้เครียด อย่างที่บอกกันหรอกครับ
ลูกผมเรียนโรงเรียนที่เขาว่าเป็นวิชาการ ก็ไม่เห็นเครียดอะไร มีความสุขดี
เพราะเขาก็มีเรียน ศิลปะ ดนตรี คอมพิวเตอร์ กีฬา เหมือนที่อื่นๆ แล้วก็
เขาจะมีวิธี มีขั้นตอนในการสอนนะครับ ไม่ใช่มาถึงเขียน กไก่ เลย
เลิกเรียน เล่นกับเพื่อนจน 5 โมง กว่าถึงจะกลับบ้าน เด็กเตรียมความพร้อมก็ดีเพราะถึงเวลาก็ทำได้เหมือนกัน แต่อยู่ทีพ่อแม่มากว่า บางคนซีเรียสเรื่องการอ่านเขียนของลูก แต่ส่งไปโรงเรียนเตรียมความพร้อม พอเห็นเด็กข้างบ้านทำได้หมดแต่ลูกทำไม่ได้ ก็ประสาทกิน หรือ บางคนอยากให้ลูกค่อยๆไปวิ่งเล่นมีความสุข แต่ดันไปเรียนโรงเรียนวิชาการ พอลูกเรียนมากขึ้น ก็กลัวลูกเครียด ประสาทกินอีก เพราะเคยเห็นพ่อแม่ทั้งสองแบบมาแล้ว
พี่ฉัตรชัย ครับ โรงเรียนวิชาการไม่ได้เครียด อย่างที่บอกกันหรอกครับ
ลูกผมเรียนโรงเรียนที่เขาว่าเป็นวิชาการ ก็ไม่เห็นเครียดอะไร มีความสุขดี
เพราะเขาก็มีเรียน ศิลปะ ดนตรี คอมพิวเตอร์ กีฬา เหมือนที่อื่นๆ แล้วก็
เขาจะมีวิธี มีขั้นตอนในการสอนนะครับ ไม่ใช่มาถึงเขียน กไก่ เลย
เลิกเรียน เล่นกับเพื่อนจน 5 โมง กว่าถึงจะกลับบ้าน เด็กเตรียมความพร้อมก็ดีเพราะถึงเวลาก็ทำได้เหมือนกัน แต่อยู่ทีพ่อแม่มากว่า บางคนซีเรียสเรื่องการอ่านเขียนของลูก แต่ส่งไปโรงเรียนเตรียมความพร้อม พอเห็นเด็กข้างบ้านทำได้หมดแต่ลูกทำไม่ได้ ก็ประสาทกิน หรือ บางคนอยากให้ลูกค่อยๆไปวิ่งเล่นมีความสุข แต่ดันไปเรียนโรงเรียนวิชาการ พอลูกเรียนมากขึ้น ก็กลัวลูกเครียด ประสาทกินอีก เพราะเคยเห็นพ่อแม่ทั้งสองแบบมาแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้น กับ เลี้ยงลูก อย่างไหนยากกว่ากัน
โพสต์ที่ 17
ถ้ามองในแง่ ผลตอบแทน
การเล่นหุ้น ถ้าไม่กู้เงินมาเล่น อย่างมากก็หมดตัวเป็น 0 ไปขอข้าววัดกิน
แต่ถ้าเป็นการเลี้ยงลูก แล้ว ลูก เป็นคนไม่ดี
อาจจะถึงขั้น เป็นหนี้ ใช้หนี้แทนลูก ที่สร้างหนี้ให้พ่อแม่
ได้รับ ความเจ็บช้ำ ทุกข์ตรม เศร้าใจ มากกว่า เสียหุ้นหมดตัว
การเล่นหุ้น ถ้าไม่กู้เงินมาเล่น อย่างมากก็หมดตัวเป็น 0 ไปขอข้าววัดกิน
แต่ถ้าเป็นการเลี้ยงลูก แล้ว ลูก เป็นคนไม่ดี
อาจจะถึงขั้น เป็นหนี้ ใช้หนี้แทนลูก ที่สร้างหนี้ให้พ่อแม่
ได้รับ ความเจ็บช้ำ ทุกข์ตรม เศร้าใจ มากกว่า เสียหุ้นหมดตัว
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11443
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้น กับ เลี้ยงลูก อย่างไหนยากกว่ากัน
โพสต์ที่ 18
ถ้าเป็นไม่เครียดก็คงดีกับเด็กครับtt เขียน:พี่ฉัตรชัย ครับ โรงเรียนวิชาการไม่ได้เครียด อย่างที่บอกกันหรอกครับ
ลูกผมเรียนโรงเรียนที่เขาว่าเป็นวิชาการ ก็ไม่เห็นเครียดอะไร มีความสุขดี
เพราะเขาก็มีเรียน ศิลปะ ดนตรี คอมพิวเตอร์ กีฬา เหมือนที่อื่นๆ แล้วก็
เขาจะมีวิธี มีขั้นตอนในการสอนนะครับ ไม่ใช่มาถึงเขียน กไก่ เลย
โรงเรียนสมัยนี้อาจจะสอนแบบให้เด็กสนุกๆก็ได้นะ
สมัยผมเรียน ตื่นเช้าไม่อยากไปโรงเรียนเลย เกลียดเย็นวันอาทิตย์ที่สุด
แต่ลูกคนโตผม (ตอนนี้เรียน ป.2) วันไหนไม่ได้ไปโรงเรียน แกจะร้องไห้
เวลาเรียนก็จะมีกิจกรรมเสริมตลอด อย่างเรียนเกี่ยวกับบุคคลสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย ก็จะมีการแสดงเป็นละครเล็กๆ ให้นักเรียนชั้นเดียวกันแต่ห้องอื่นดู เด็กๆก็สนุกสนานมาก
-
- Verified User
- โพสต์: 15
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้น กับ เลี้ยงลูก อย่างไหนยากกว่ากัน
โพสต์ที่ 19
เลี้ยงลูกน่าจะ ง่ายกว่าเลี้ยงหุ้นนะคะ เพราะเราเลี้ยงดูเอาใจใส่ลูกมาแต่เล็กย่อมรู้จักลูกดีกว่าหุ้นแน่นอน แต่การลงทุนในหุ้นกังวลใจน้อยกว่าดูแลลูกมาก เพราะถ้าลงทุนในหุ้นพลาดสุดท้ายก็แค่หมด แต่ถ้าเลี้ยงลูกพลาด...ไม่อยากคิด
- Amigo
- Verified User
- โพสต์: 3
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้น กับ เลี้ยงลูก อย่างไหนยากกว่ากัน
โพสต์ที่ 20
เลี้ยงลูกยากกว่าครับ
เพราะ
หุ้นมีตัวเลขในการประเมิณว่าเราทำได้ดีแค่ไหน
แต่การเลี้ยงลูกไม่มีอะไรมาประเมิณว่าอะไรถูกหรือผิด
เพราะ
หุ้นมีตัวเลขในการประเมิณว่าเราทำได้ดีแค่ไหน
แต่การเลี้ยงลูกไม่มีอะไรมาประเมิณว่าอะไรถูกหรือผิด
มิตรภาพอันยาวนาน แม้ต้องพบวันที่จากกัน ความเป็น " เ พื่ อ น " ยังคงไว้ แม้จากกันไกล..ใจยังเหมือนเดิม