ถามเกี่ยวกับการซื้อหุ้นปันผลครับ

[petchkaploy]

คือผมบังเอิญอ่านเจอที่ว่าถ้าเราซื้อหุ้นที่ PE ต่ำสุดของตลาด เก็บไว้ 1 ปี แล้วก็เปลี่ยนไปซื้อตัวใหม่ๆที่ PE ต่ำ ทำไปเรื่อยๆจะได้ผลตอบแทนมากกว่าตลาดโดยเฉลี่ย

อยากรู้ว่าพี่ๆ ทีใครลองทำไหมครับ แล้วผลเป็นยังไงครับ

ส่วนตัวผมคิดว่า PE ต่ำอย่างเดียวมันอาจไม่มีคุณภาพพอ ผมก็เลยคิดว่า ถ้าอย่างนี้ เราดูคุณภาพด้วย เช่น ถ้าผมเอาหุ้นที่ PE อยู่ต่ำสุด 20% มาแล้วนำมากรองอีกทีโดย ดูความต่อเนื่องของกำไร + yield ปันผล แล้วซื้อตามนั้นพี่ๆว่าเป็นยังไงครับ

ยกตัวอย่างว่า หุ้น A มี dividend yield ที่ 10% PE ที่ 5 เท่า ผมก็คิดดูว่า OK ที่ราคานี้ ผม ผมได้กำไรจากการซื้อหุ้นที่ 20% ( ส่วนกลับของ PE) แถมยังได้ปันผลอีก 10%

จากนั้นผมก็ไปดูความต่อเนื่องของกำไร + เงินปันผล ถ้ามีความต่อเนื่องดีผมก็ซื้อหุ้นตัวนี้แล้วเก็บเลย เนื่องจากว่าผมพอใจกับผลตอบแทนที่ได้จากการซื้อที่ราคานี้แล้ว ยังไงๆก็ดีกว่าฝากธนาคาร

คือแบบว่าพอใจกับผลตอบแทนที่ราคาใดราคาหนึ่งแล้วก็ซื้อเลย จากนั้นเก็บจนกว่าพื้นฐานจะเปลี่ยน

คือส่วนตัวผมว่าเราไม่มีวันรู้ว่าราคามันจะขึ้นหรือจะลง ในระยะสั้น +กลาง ( 1-5 ปี) แต่ถ้าเราพอใจในผลตอบแทน ณ ราคานั้นๆก็ซื้อเลย

อย่างนี้เข้าเค้าว่าจะเป็น VI ได้ไหมครับ?

อยากได้ความเห็นของพี่ๆในห้องนี้หน่อยครับ

[สุมาอี้]

รู้สึกจะเป็น trading system อันหนึ่งที่ชื่อว่า Dow 10 หรือ Dogs of the Dow

เวิร์คกับไทยหรือไม่สามารถทดสอบได้โดยเอาข้อมูลหุ้นเก่าๆ มาทดสอบครับ เห็นว่ามีบางท่านในเวบนี้ทำวิจัยเรื่องพวกนี้อยู่น่าจะมีเครื่องไม้เครื่องมือพิสูจน์

ควรซื้อหลายๆ ตัวด้วยนะครับ อย่าง Dow เข้าซื้อ 10 ตัวต่ำสุดจากทั้งหมด 30 ตัว ซื้อแค่ตัวเดียวอันตรายไป เพราะวิธีนี้เราไม่ได้วิเคราะห์เชิงคุณภาพเลย เราดูพีอีอย่างเดียว

[petchkaploy]

มีใครศึกษาด้านนี้ไหมครับ อยากรู้ว่ามัน OK ไหมกับบ้านเรา

[ลูกอิสาน]

ส่วนตัวผมคิดว่า PE ต่ำอย่างเดียวมันอาจไม่มีคุณภาพพอ ผมก็เลยคิดว่า ถ้าอย่างนี้ เราดูคุณภาพด้วย เช่น ถ้าผมเอาหุ้นที่ PE อยู่ต่ำสุด 20% มาแล้วนำมากรองอีกทีโดย ดูความต่อเนื่องของกำไร + yield ปันผล แล้วซื้อตามนั้นพี่ๆว่าเป็นยังไงครับ

ยกตัวอย่างว่า หุ้น A มี dividend yield ที่ 10% PE ที่ 5 เท่า ผมก็คิดดูว่า OK ที่ราคานี้ ผม ผมได้กำไรจากการซื้อหุ้นที่ 20% ( ส่วนกลับของ PE) แถมยังได้ปันผลอีก 10%

ถ้าเข้าใจไม่ผิด หุ้นที่พีอี 5 ได้ผลตอบแทน 20% โดยที่ 10% กิจการได้กำไรมาก็จ่ายปันผล อีก 10% สะสมเป็นกำไรในบริษัท ไม่น่าจะคิดรวมกันเป็น 30% นะครับ

วิธีซื้อหุ้นที่พีอีต่ำสุดผมคิดว่าเป็นเรื่องที่อาจจะเสี่ยงนะครับ การคัดครองอีกชั้นโดยดูคุณภาพของกำไรเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก นอกจากดูความต่อเนื่องของกำไร ปันผล แล้วคงต้องดูเรื่องอื่นๆด้วย เช่นความสามารถในการแข่งขัน เพราะกรณีอย่าง cei fancy ก่อนหน้านี้ก็กำไรต่อเนื่องและปันผลก็ดีมาก

[tanate]

ผมเคยใช้ PE กับปันผล ในการเลือกหุ้น แล้ว
ผลออกมาไม่ค่อยดีดังคาด ขนาดถือไว้เกือบ 2 ปี
ราคาลงอย่างเดียวเลย

จึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีใหม่ ซึ่งตอนนี้กำลังจะทดลองอยู่โดยนำ PBV เข้ามาใช้ด้วย ที่เหลือ ก็รอเวลาที่หุ้นเป้าหมายตกลงมาเข้าport ครับ

[worapong]

วีไอมีหลายแนวนะครับ บางคนชอบแบบแกรแฮม คือซื้อหุ้นที่ถูก โดยดูจากข้อมูลเชิงสถิติในอดีต ซึ่งผลการศึกษาบอกว่า หุ้นพีอีต่ำ พีบีวีต่ำ ดิวิเดนสูงๆ และอื่นๆ ในบัญญัติสิบประการของเค้า ในระยะยาวจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด เนื่องจากเค้าไม่ได้เน้นข้อมูลเชิงคุณภาพ เลยต้องซื้อหุ้นหลายๆตัว อย่างน้อยๆ ก็สามสิบตัว เพราะเรื่องราวทางสถิติ ถ้ามีกลุ่มตัวอย่างมากพอจึงจะใช้ได้ และที่แกรแฮมไม่ได้เน้นเรื่องคุณภาพ อาจเป็นเพราะเค้าต้องการให้การลงทุนที่เค้าสอนนั้นเป็นวิธีการที่ง่ายๆ การเน้นเรื่องคุณภาพ และโฟกัสมากๆแบบวอร์เรนจึงไม่ได้ถูกแกรแฮมนำมาสอนหรือบรรจุลงใน intelligent investor
ถ้าถามผมว่าการเลือกหุ้นโดยดูจากพีอีและดิวิเดนยีลนั้นดีไหม ผมคิดว่าน่าจะดีกว่าค่าเฉลี่ยของนักลงทุนทั่วๆไป เพราะนักลงทุนสิบคนจะขาดทุนแปดคน ถ้าเราเลือกหุ้นที่ปันผลสม่ำเสมอได้สักยี่สิบสามสิบตัว อย่างน้อยๆ ในแต่ละปีก็จะมีเงินปันผลมาให้ใช้แล้วครับ ส่วนการที่จะเป็นเซียนนั้น คงต้องถามพี่นริศนะครับว่า ทำอย่างไรจึงจะเลือกถูกห้าในหกตัว ที่จริงน่าจะให้พี่นริศเปิดคอร์สสอนนะครับ ห้าในหกตัวนี่มันสุดยอดเลยนะครับ

[อองตวน]

คุณเจ้าของกระทู้ลองทำเลยครับ แล้วมาบอกผล
หรือไม่ก็ลองหาข้อมูลเหตุการณ์ในอดีตตัวไหนต่ำสุดแล้วสมมติคุณซื้อถือเปลี่ยนไปทุกปี ก็พอจะเป็นแนวได้ครับ

[chanyut_ch]

ความเห็นผมถ้าเราดู PE อย่างเดียวแล้วซื้อหุ้น

ก็คงไม่ต่างกับการเล่นหวยที่มีการเก็บสถิติ 10 ปี
แล้วมาดูว่าออกเลขไหนมากที่สุด
แล้วก็ซื้อเลขนั้นทุกงวด

หุ้นที่มี PE ต่ำมากๆ จะต้องมีอะไรแน่ๆ ที่อาจไม่ค่อยเวิร์คครับ
โอกาสเสี่ยงสูงมากครับ

ดีไม่ดี ซื้อมาแล้วบริษัทพลิกจากกำไรเป็นขาดทุนอย่างหนัก
คงแย่ครับ

แต่ถ้าได้หุ้นดี ก็ยินดีด้วยครับ