ถ้ามีเงินเย็น ลงทุนแบบ Lump sum หรือ ค่อยๆลง ดีกว่ากัน

[sammas]

ผมมีเงินเย็นอยู่ก้อนนึงครับ ซึ่งเป็นส่วนที่กันไว้หลังจากเก็บไว้ใช้สอยยามจำเป็นแล้ว
คิดว่าจะใช้ส่วนนี้มาลงทุน

เท่าที่ผมเข้าใจ การลงทุนในหุ้นนั้นไม่แน่นอน อาจจะดีกว่าที่เราจะค่อยๆลง ค่อยๆเก็บไปเรื่อยๆ

คำถามผมคือ แล้วถ้าเกิดเราจะลงในหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอมาตลอด พวก Defensive stock เช่น APRINT
อ่านจะมี growth ที่ไม่งดงามแต่น่าจะยังดีกว่าเก็บเงินส่วนนี้ไว้ในแบงก์เฉยๆ จะดีไม๊ครับ

หรือว่าพี่ๆยังคงคิดว่าควรจะทยอยลงเหมือนเดิมครับ

ขอบคุณมากๆครับ

สัมมา

[todsapon]

อัดไปเลยดีกว่า แต่ต้องหาจังหวะดี ๆ

[naijan]

ทยอยลงทุนดีกว่าครับ ช่วงเริ่มแรกความรู้สำคัญเหนือจำนวนเงินครับ
-----------------------------------------------------------------------------------
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางเกี่ยวกับการสร้างความมั่งคั่งและการลงทุน วิธีการสอนลูกให้มั่งคั่ง
เชิญได้ที่... http://wealththailand.blogspot.com/

[ส.สลึง]

ธรรมชาติของราคาหุ้น
มันจะผันผวน
แต่ส่วนตัวคิดว่าความผันผวน
ไม่ใช่ความเสี่ยง
แต่เป็นการทำโดยไม่รู้มากกว่า

สำหรับการทยอยลงทุน
จะดีกว่าซื้อไม้เดียวหรือไม่
จากประสบการณ์ของผม
ที่เคยทำมาแล้วทั้ง 2 อย่าง
ผมเองตอบไม่ได้
เพราะคิดว่ามันมีเรื่องอื่นที่สำคัญมากกว่า

นั่นก็คือ margin of safety

[sammas]

ขอบคุณครับทุกๆคน ผมจะพยายามตกผลึกความคิด
และตั้งใจปฏิบัตินะครับ

[picklife]

ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินด้วยปะครับ
ไม่เยอะหาได้ใน1ปี อาจจะแบ่งเป็น3ไม้
ถ้าเยอะมากๆ อาจจะลงหลังหมื่นก่อนและค่อยๆทบเป็นแสน พอมั่นใจเข้าใจแล้วที่เหลือมันตามไปเองต่อให้ใครห้ามก็คงไม่เชื่อปะครับ

[jerry824]

ขึ้นกับความรู้ครับ. ถ้าเปนหน้าใหม่ ก้อค่อยๆลง อย่าเล่นหุ้นปั่น หรือตามกระแส ถ้ามั่นใจชัวร์ก้อลุย

[Belffet]

ลงทุนแบบ "ล่ำซำ" น่าจะรวยดีนะครับ

[marcus147]

ผมก็พึ่งเริ่มเหมือนกันครับ

ขอเสนอว่า มือใหม่อย่างเรา ความจะกระจายความเสี่ยงโดยการแบ่งการลงทุนเป็นส่วนๆดีกว่า
เพราะถ้าลงหุ้นไปเต็มๆ โอกาสเจ้งมีสูงเพราะไม่รู้ ไม่เข้าใจ

ควรจะค่อยๆศึกษาไปพร้อมๆกับลงทุนแบบเล็กน้อย อาจจะจัดแบ่งเป็น
1. ฝากประจำสัก 30% -- ตอนนี้ออมสินมีประจำ 11 เดือน 3.72%
2. ลงทุนในกองทุนรวม 25% อาจจะเป็น LTF ก็ได้ จะได้ลดภาษีด้วย (ถ้าฐานเงินเดือนตก rate 20%-30% ยิ่งคุ้ม)
3. ตราสารหนี้ 25%
4. หุ้น ผมว่าระดับเริ่มต้นอย่างเราๆไม่น่าจะเกิน 30% เราค่อยๆหาความรู้ไป แล้วค่อยเพิ่มอัตราส่วนน่าจะดีกว่า

ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ
แล้วผมก็เป็นมือใหม่เช่นกัน
ใหม่ขนาดที่ยังไม่ได้ไปเปิดพอร์ตเลย
ตอนนี้เข้ามาศึกษาใน web thaivi ทุกวัน

ขอให้โชคดีกับการลงทุนครับ

[PrasertsakK]

จริง ๆ ผมว่าต้องถามตัวเองว่ารับความเสี่ยงมากแค่ไหน และชอบความตื่นเต้นแค่ไหน เพราะว่า หลายคนมีเงินเย็น แต่พอขาดทุนจะรู้สึกแย่มาก ๆ และจะสาปแช่งหุ้นไปเลย
สมมุติเป็นคนที่รับการขาดทุนได้มาก ก็แน่นอนว่าให้ลงหุ้นไปหมดเลยครับ อาจจะกระจายในหุ้นสัก 3-5 ตัว ส่วนจะซื้อแบบไหน จริง ๆ ก็ต้องถามตัวเองอีกเหมือนกัน เช่น ถ้าซื้อทีเดียว วันเดียว (วิถีผู้กล้า) อาจจะถ้าว่าเราดูบริษัทได้ดีแค่ไหน ราคาที่เราซื้อMOS มากพอหรือไม่ ผลตอบแทนพอใจแค่ไหน จากนั้นก็ซื้อไปเลย (จริง ๆ วิธีนี้ผมว่าไม่ค่อยเหมาะกับมือใหม่เ่ท่าไร) หรือ การทะยอยซื้อที่ละเดือน อันนี้ผมว่าก็เป็นการสร้างวินัยที่ดี แต่ห้ามรู้สึกเสียใจว่าทำไมเราซื้อน้อยไปหรือบอกกับตัวเองว่าเห็นไหมบอกแล้วว่ายังแพงอยู่ หรือ เราอาจจะซื้อหุ้นเดือนละตัวก็ได้(หรือกำหนดเวลาอื่น ๆ) โดยพยายามหาหุ้นที่คำนวนแล้วว่าถูกที่สุดในช่วงนั้นแล้วจัดการซื้อและถือยาวเลยก็ได้นะครับ

แต่ถ้าไม่ชอบขาดทุน ผมว่า ต้องกระจายไปอย่างอื่นด้วย เงินฝากประจำ ตราสารหนี้ LTF RMF พอคำนวน Port รวมทั้งปี ได้จะกำไรแบบพอกะได้เหมือนกัน

โชคดีครับ ^ ^

[tono106]

ผมไม่แน่ใจว่า หุ้น APRINT คือหุ้น ?
ถ้าจะลง defensive stock แล้วเป็นพวก low beta ราคาไม่น่าจะรีบหนีเราไปไหน
เพราะน่าจะไม่ค่อยมีคนแย่งเราเล่น (ลองดูเทียบกับปีก่อนๆดูนะครับ)
กรณีนี้รอซื้อเป็นก้อนน่าจะดีกว่า ผมว่าราคาน่าจะลง

ถ้า defensive แบบ high beta ตลาดเดายาก จะซื้อแนวไหนก็แล้วแต่สะดวก
คิดว่า ผมคงทายไม่ถูก
ปกติ ก็ตกรถบ้าง ซื้อไม่ทันได้นิดเดียวบ้าง เป็นประจำ

[RnD-VI]

ขอบคุณที่ช่วยขุดกระทู้มาให้อ่านอ่ะครับ

ผมลองหาข้อมูลรายได้, กำไรและ Market cap มาเป็นข้อมูล เพื่อดูมุมมองตอนตั้งกระทู้ และผลลัพธ์หลังจากการประมูล TV digital จนทำให้ต้องเปลี่ยนเจ้าของ