สิ่งที่ นักลงทุนระยะยาว ควรทำมีอะไรบ้างครับ

[FarmSabuy]

สามารถแนะนำ และแชร์ไอเดียกันเข้ามาได้นะครับ

1.อดทนที่จะลงทุนผ่านกาลเวลาที่ยาวนาน เป็นสิบๆปี ผ่านเศรษฐกิจดีร้าย มรสุมในประเทศต่างประเทศ

2. เชื่อมั่นกับการบ้านที่เราทำดีแล้ว ไม่ว่าจะคิดลดกระแสเงินสด ดูงบการเงิน อ่าน56-1 ดูบัญชีต่างๆ ดูผู้บริหารศึกษาคู่แข่ง ถือยาวๆและต้องติดตามอยู่เรื่อยๆ

3.กระจายการลงทุน ในกิจการที่เราเชื่อมั่น ศักยภาพที่เค้าเป็นผู้นำ หรือกำลังจะค่อยๆเติบโตขึ้นมาในอนาคต สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ง่าย มีในพอร์ตอย่างน้อย 4-5 บริษัท เพื่อลดความเสี่ยง โดยบริษัทที่เข้าไปลงทุน อยู่คนละอุตสาหกรรมกัน ไม่ได้แข่งกันเอง

4.ดู Opp day ฟังคำถาม-ตอบจนจบ คิดวิเคราะห์ และประเมินกับผลงานที่ผ่านมา อดีต-ปัจจุบัน ใกล้เคียงกับที่ผู้บริหารออกมาพูดหรือไม่

5.คิดในมุมของผู้บริหาร ถ้าจะให้กิจการเติบโตทุกๆปีต้องทำอย่างไร คิดในมุมคู่แข่ง ถ้าเค้าแข่งกับบริษัทเราอยู่เค้าจะสร้างยอดขายชนะเราได้อย่างไร

รบกวนพี่ๆแนะนำความเห็นกันเข้ามาได้นะครับ
ขอบคุณครับ

[SawScofield]

ขอเสริมซัก 4 ข้อครับ

1. ต่อม curiosity ทำงานโดยธรรมชาติ : ช่างสังเกต ช่างซักช่างถามช่างสงสัย scuttlebutt จนเป็นนิสัย หลายครั้งเราจะเห็นพฤติกรรมและความเปลี่ยนแปลงก่อนคนในตลาดแน่นอนครับ

2. จมูกในการสืบค้นและ crosscheck ข้อมูล : คือข้อแรกอาจจะเป็นข้อมูลปฐมภูมิ แต่หลายครั้งเราก็ต้องการ confirm ข้อมูลนั้นด้วย research / slide ต่างๆจากบริษัทจดทะเบียน คู่แข่ง / สัมภาษณ์ผู้บริหาร / กิจการในต่างประเทศที่อาจจะเป็นต้นแบบได้ / กระทั่งบางครั้ง keyword ในการ search ยังอาจจะทำให้ได้ข้อมูลที่ต่างมุมกัน

3. ความสามารถในการปะติดปะต่อเชื่อมโยง : ทุกสิ่งที่เราได้มาจากความมุมานะ อดทน อุตสาหะ ขยันหมั่นเพียรหาความรู้ แต่ถ้าเราไม่ต่อจิ๊กซอว์ ก็จะไม่มีทางเห็นภาพรวมของสิ่งที่เราอุตส่าห์รวบรวมมาเลยครับ นอกจากนี้ ยังนึกไม่ออกด้วยว่าภาพที่เหลือที่ยังต่อไม่ครบหรือยังไม่กิดขึ้น เราควรจะเห็นอะไรบ้าง เรียกว่าเหนื่อยไม่คุ้มที่ลงแรงไปก็ว่าได้

4. สุดท้าย จิตวิทยาในการลงทุน : อันนี้ก็สำคัญครับ ต่อให้คุณมีคุณสมบัติอื่นๆ ครบ อย่างที่นักลงทุนอันยอดเยี่ยมจะพึงมี แต่ขาดจิตวิทยาในการลงทุน ไม่เข้าใจมวลชน take action แบบแห่ตาม ตื่นตระหนก ไปเป็นคนสุดท้ายทั้งที่ควรไปคนแรกๆ หรือลุกเป็นคนแรกๆทั้งที่ยังไม่ถึง 1 ใน 10 ของการแสดงอันยิ่งใหญ่ ขายหมู ซื้อควาย ขาดทุนแล้วเด้งกลับมาก็ขาย กำไรแล้วลงกลับมาก็ดันถือจนขาดทุนหนัก ซื้อที่ All tome high ขายที่ All time low รวมๆแล้วคือ เก่งแต่ในตำรา apply จริงๆในหน้างานไม่ได้ (ในเชิงจิตวิทยา) ก็มิอาจถึงฝั่งฝัน หรือซื้อกองทุนอาจจะเหมาะกว่าอะไรแบบนั้นครับ

ปล อีกซักข้อแล้วกันครับ กตัญญูรู้คุณ ทั้งบุพการี และเพื่อนฝูง/ผู้ที่ชี้แนะทุกท่าน ไม่ปฏิเสธว่าบางคนเก่งได้ด้วยตัวเอง แต่ศิษย์ดีน่าจะต้องมีครูด้วยครับ

ประมาณนี้ครับ รอท่านต่อไปมาเสริมครับ

[FarmSabuy]

ขอเสริมซัก 4 ข้อครับ

1. ต่อม curiosity ทำงานโดยธรรมชาติ : ช่างสังเกต ช่างซักช่างถามช่างสงสัย scuttlebutt จนเป็นนิสัย หลายครั้งเราจะเห็นพฤติกรรมและความเปลี่ยนแปลงก่อนคนในตลาดแน่นอนครับ

2. จมูกในการสืบค้นและ crosscheck ข้อมูล : คือข้อแรกอาจจะเป็นข้อมูลปฐมภูมิ แต่หลายครั้งเราก็ต้องการ confirm ข้อมูลนั้นด้วย research / slide ต่างๆจากบริษัทจดทะเบียน คู่แข่ง / สัมภาษณ์ผู้บริหาร / กิจการในต่างประเทศที่อาจจะเป็นต้นแบบได้ / กระทั่งบางครั้ง keyword ในการ search ยังอาจจะทำให้ได้ข้อมูลที่ต่างมุมกัน

3. ความสามารถในการปะติดปะต่อเชื่อมโยง : ทุกสิ่งที่เราได้มาจากความมุมานะ อดทน อุตสาหะ ขยันหมั่นเพียรหาความรู้ แต่ถ้าเราไม่ต่อจิ๊กซอว์ ก็จะไม่มีทางเห็นภาพรวมของสิ่งที่เราอุตส่าห์รวบรวมมาเลยครับ นอกจากนี้ ยังนึกไม่ออกด้วยว่าภาพที่เหลือที่ยังต่อไม่ครบหรือยังไม่กิดขึ้น เราควรจะเห็นอะไรบ้าง เรียกว่าเหนื่อยไม่คุ้มที่ลงแรงไปก็ว่าได้

4. สุดท้าย จิตวิทยาในการลงทุน : อันนี้ก็สำคัญครับ ต่อให้คุณมีคุณสมบัติอื่นๆ ครบ อย่างที่นักลงทุนอันยอดเยี่ยมจะพึงมี แต่ขาดจิตวิทยาในการลงทุน ไม่เข้าใจมวลชน take action แบบแห่ตาม ตื่นตระหนก ไปเป็นคนสุดท้ายทั้งที่ควรไปคนแรกๆ หรือลุกเป็นคนแรกๆทั้งที่ยังไม่ถึง 1 ใน 10 ของการแสดงอันยิ่งใหญ่ ขายหมู ซื้อควาย ขาดทุนแล้วเด้งกลับมาก็ขาย กำไรแล้วลงกลับมาก็ดันถือจนขาดทุนหนัก ซื้อที่ All tome high ขายที่ All time low รวมๆแล้วคือ เก่งแต่ในตำรา apply จริงๆในหน้างานไม่ได้ (ในเชิงจิตวิทยา) ก็มิอาจถึงฝั่งฝัน หรือซื้อกองทุนอาจจะเหมาะกว่าอะไรแบบนั้นครับ

ปล อีกซักข้อแล้วกันครับ กตัญญูรู้คุณ ทั้งบุพการี และเพื่อนฝูง/ผู้ที่ชี้แนะทุกท่าน ไม่ปฏิเสธว่าบางคนเก่งได้ด้วยตัวเอง แต่ศิษย์ดีน่าจะต้องมีครูด้วยครับ

ประมาณนี้ครับ รอท่านต่อไปมาเสริมครับ

ขอบคุณมากๆครับ ผมจะนำไปปฏิบัติตามนะครับ

[SawScofield]

ขอบคุณมากๆครับ ผมจะนำไปปฏิบัติตามนะครับ

มิกล้าครับๆ 555+ ถือว่าแชร์กันสนุกๆครับ พอได้นึกๆแล้วเขียนอะไรแบบนี้ มันเหมือนได้ทบทวนตัวเองด้วยน่ะครับ ขอบคุณเช่นกันครับ

[tono106]

เล่าสู่กันฟังเพิ่มเติม
- อ่านหนังสือการลงทุนครับ -*- อ่านไปปรับการใช้ไปเรื่อยๆ
- ลงทุนกับตัวเอง มีสรุปงาน THAIVI ของพี่ชาย มาฝากครับ
https://board.thaivi.org/viewtopic.php? ... 3#p1869853

[FarmSabuy]

เล่าสู่กันฟังเพิ่มเติม
- อ่านหนังสือการลงทุนครับ -*- อ่านไปปรับการใช้ไปเรื่อยๆ
- ลงทุนกับตัวเอง มีสรุปงาน THAIVI ของพี่ชาย มาฝากครับ
https://board.thaivi.org/viewtopic.php? ... 3#p1869853

ขอบคุณมากครับ

[Toro149]

ทำสมาธิให้จิตใจสงบครับ เพราะตอนที่หุ้นขึ้นหรือลงเยอะๆ จิตใจเราจะแกว่งได้ง่าย
อาจจะทำอะไรไง่ๆ อย่างขายหุ้น/ถัวเพิ่ม โดยไม่ได้ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน
มันจะเสียหายได้มากแบบเราคาดไม่ถึงเลยครับ
ที่สำคัญที่สุด มันจะทำให้เราเสียกำลังใจได้มากเลย

[FarmSabuy]

ทำสมาธิให้จิตใจสงบครับ เพราะตอนที่หุ้นขึ้นหรือลงเยอะๆ จิตใจเราจะแกว่งได้ง่าย
อาจจะทำอะไรไง่ๆ อย่างขายหุ้น/ถัวเพิ่ม โดยไม่ได้ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน
มันจะเสียหายได้มากแบบเราคาดไม่ถึงเลยครับ
ที่สำคัญที่สุด มันจะทำให้เราเสียกำลังใจได้มากเลย

ขอบคุณนะครับที่แนะนำเข้ามาครับ

[AnieLee]

เพิ่มเติมส่วนที่ยังไม่มีคนโพสครับ

วางแผนการซื้อ/การขายล่วงหน้า หากไม่มีการวางแผน พอตลาดสวิงมากๆ ไม่ว่าขึ้นหรือลง เราอาจทำอะไรโง่ๆ หรือตื่นตระหนก จนมีการซื้อ/ขายออกไปอย่างไม่มีเหตุผลก็เป็นได้ แต่ถ้าเรามีแผนการวางไว้อยู่แล้ว หากเกิดอะไรขึ้น ก็ทำตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด เพราะมันเป็น Guideline ในการ take action (อย่างน้อย ก็เป็นแผนที่ได้ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดีแล้ว)

[FarmSabuy]

เพิ่มเติมส่วนที่ยังไม่มีคนโพสครับ

วางแผนการซื้อ/การขายล่วงหน้า หากไม่มีการวางแผน พอตลาดสวิงมากๆ ไม่ว่าขึ้นหรือลง เราอาจทำอะไรโง่ๆ หรือตื่นตระหนก จนมีการซื้อ/ขายออกไปอย่างไม่มีเหตุผลก็เป็นได้ แต่ถ้าเรามีแผนการวางไว้อยู่แล้ว หากเกิดอะไรขึ้น ก็ทำตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด เพราะมันเป็น Guideline ในการ take action (อย่างน้อย ก็เป็นแผนที่ได้ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดีแล้ว)

ขอบคุณมากๆเลยครับ

[miracle]

สิ่งที่นักลงทุนระยะยาวต้องมี
1. ความอดทน อันนี้ต้องมีครับ เพราะว่า กิจการที่ลงทุน อาจจะ เจอกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด คือ เป็นหุ้นที่ถูกเมินไปเป็น 10 ปีๆก็ได้ แล้วค่อยเติบโต จากหุ้นที่ไม่มีใครมองเป็นหุ้นที่ถูกหวยก็ได้
นักลงทุนระยะยาวต้องอดทน ให้ได้ ซึ่งหลายคนประสบความสำเร็จจากจุดนี้แหละ
2. ไม่ต้องดูราคาหุ้นทุกวัน คือ ซื้อแล้ว ฝังดินเอาไว้ 10 ปีมาเปิดดูให้ไห ว่าไห เป็นเช่นไร
ถ้าดูหุ้นทุกวัน คือ สิ่งกระตุ้นนั้นเอง
3. อ่านเหตุการณ์ ณ วันนี้แล้ว มองทะลุไปได้อีก 10 ปี ว่ากิจการนี้อยู่หรือตาย แล้วจุดตายของกิจการคืออะไร
สิ่งหนึ่งที่กิจการส่วนใหญ่ตายคือกระแสเงินสด นั้นเอง แต่สิ่งที่ทำให้กระแสเงินสดมีปัญหาคือ โครงสร้างของงบดุล
คือ Asset คือ Use of fund คือ เงินที่ได้มาไปลงทุนที่ไหน ส่วน หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้นคือ Source of fund โครงสร้างของเงินทุน ซึ่งบริษัท มีสัดส่วนของพวกนี้ที่เหมาะสม อยู่จุดๆหนึ่ง ต้องตรวจสอบคุณภาพของมัน
4. ฟังมากๆ จากคนรอบข้าง แต่ต้องคิดว่า สะท้อนมาในงบการเงินอย่างไร
บางที่เจอ VI แบบ VSOP หรือ แบบ เทคนิคคอน ก็ได้ ต้องระวังไว้ ซึ่งไม่ค่อยมีใครถือเป็น 10 ปี หรือถือจนออกนอกตลาดตามออกไป อันนี้เป็นที่สังเกตไว้ ซึ่งกิจการที่ดี ออกนอกตลาดก็ยังคงดีอยู่ ยังคงสามารถสร้างกระแสเงินสดในรูปของเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอเหมือน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อันนี้สำคัญมาก
5. ทุกคนอยากรวย ดังนั้น ตัวเองเป็นที่พึ่งของตัวเองอย่างมากที่สุด
เป็นเหาฉลาม หรือ ว่ายทวนน้ำ หรือ จับปลาเอง ออกเรือเอง แบบไหนดีกว่ากัน
6. หาความรู้เติมเสมอ เพราะทุกกิจการนั้น พัฒนาไปทางด้านไหน R&D นั้นสำคัญ แต่ทว่า มันด้านไหน
หากเป็นด้านเดิมที่บริษัทเชี่ยวชาญ สุดท้ายคือ ระเบิดออกมาในอีก 20-30ปี หรือนานกว่านั้น ก็ได้ ที่มีผลิตภัณฑ์ทดแทนได้
หรือ อาจจะเป็น 100 ปี ก็ได้ ที่กิจการยังคงทำแบบเดิมๆ ไม่เปลี่ยนแปลง อยู่รอดทำแบบเดิมมาโดยตลอด 100 ปีก็ได้
(ในประเทศไทย มีองค์กร 100 ปีที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หลายบริษัทที่ให้ศึกษา ว่ากิจการเหล่านั้น ณ วันนี้กับ 100 ปีที่ผ่านมาธุรกิจเปลี่ยนแปลงไหม จากภายในอุตสาหกรรม หรือ ภายนอกอุตสาหกรรมที่ทำให้เปลี่ยนแปลง ลองไปศึกษา)
7. สิ่งที่สำคัญ คือเงินต้องฝังไห สูญเงินทั้งก้อนได้ ไม่ต้องคิดว่าเงินนี้หายไปแล้ว ชีวิตอยู่ไม่ได้ (ข้อนี้สำคัญที่สุด)
เมื่อสิ่งนี้บอกว่า ฝังไหแล้วไม่มีปัญหา แสดงว่า ส่วนที่งอกเงยนั้น คือ ต้องเป็นอนันต์ซิ หรือโดนปลวกกินเงินในไหหมด หรือ
โลหะโดนย่อยสลายไปหมดแล้ว คิดกันเอาเอง ละกัน
8. ผลตอบแทนที่คาดหวังว่า ต้องการเท่าไร ถ้าหากต้องการ 100% แสดงว่าคุณต้องทำงานมากกว่า 100%
ถ้าหากต้องการ 10% แสดงว่าคุณทำงานมากกว่า 10% เท่านั้น
9. สิ่งสุดท้ายที่ฝากไว้คือ ลงทุนต้องนอนให้หลับ ไม่ใช่นอนหลับแบบเท้าก่ายหน้า หรือ ลูกปืนมาจ่อหัว แล้วยิงปัง แล้วฝากให้คนอื่นจัดการต่อ
อันนี้ฝากไว้ว่า จบ ณ รุ่นนี้ หรือ จบรุ่นอื่น แต่สุดท้ายคือ ไม่มีรุ่นไหนที่จบเรื่อง แต่เป็นการส่งไม้ต่อเท่านั้นเอง
ว่าปัญหาเดิมๆ ก็วังวนเดิม อ้างแบบเดิมๆ จนสุดท้าย Architecture ถาม Neo ว่า ต้องการช่วย ทรินิตี้ หรือ Reset แล้วเริ่มใหม่
The one มีมากกว่า 1 เสมอ ดังนั้น คุณไม่ใช่ The one คนแรก และคนสุดท้าย ที่จัดการเรื่องนั้นๆได้ นั้นเอง
จนหาทางว่า เราจะเป็น หนึ่งในบรรดา the one ได้อย่างไร เพราะ The one แต่คนละ แตกต่างกัน จงหาวิธีของตัวเองให้เจอนั้นเอง

ส่งท้าย
เงินในกระเป๋าของเรา เราเป็นเจ้าของเงิน แต่เมื่อเงินออกจากกระเป๋าเราไปแล้ว เงินเป็นเจ้าของเรา

[FarmSabuy]

สิ่งที่นักลงทุนระยะยาวต้องมี
1. ความอดทน อันนี้ต้องมีครับ เพราะว่า กิจการที่ลงทุน อาจจะ เจอกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด คือ เป็นหุ้นที่ถูกเมินไปเป็น 10 ปีๆก็ได้ แล้วค่อยเติบโต จากหุ้นที่ไม่มีใครมองเป็นหุ้นที่ถูกหวยก็ได้
นักลงทุนระยะยาวต้องอดทน ให้ได้ ซึ่งหลายคนประสบความสำเร็จจากจุดนี้แหละ
2. ไม่ต้องดูราคาหุ้นทุกวัน คือ ซื้อแล้ว ฝังดินเอาไว้ 10 ปีมาเปิดดูให้ไห ว่าไห เป็นเช่นไร
ถ้าดูหุ้นทุกวัน คือ สิ่งกระตุ้นนั้นเอง
3. อ่านเหตุการณ์ ณ วันนี้แล้ว มองทะลุไปได้อีก 10 ปี ว่ากิจการนี้อยู่หรือตาย แล้วจุดตายของกิจการคืออะไร
สิ่งหนึ่งที่กิจการส่วนใหญ่ตายคือกระแสเงินสด นั้นเอง แต่สิ่งที่ทำให้กระแสเงินสดมีปัญหาคือ โครงสร้างของงบดุล
คือ Asset คือ Use of fund คือ เงินที่ได้มาไปลงทุนที่ไหน ส่วน หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้นคือ Source of fund โครงสร้างของเงินทุน ซึ่งบริษัท มีสัดส่วนของพวกนี้ที่เหมาะสม อยู่จุดๆหนึ่ง ต้องตรวจสอบคุณภาพของมัน
4. ฟังมากๆ จากคนรอบข้าง แต่ต้องคิดว่า สะท้อนมาในงบการเงินอย่างไร
บางที่เจอ VI แบบ VSOP หรือ แบบ เทคนิคคอน ก็ได้ ต้องระวังไว้ ซึ่งไม่ค่อยมีใครถือเป็น 10 ปี หรือถือจนออกนอกตลาดตามออกไป อันนี้เป็นที่สังเกตไว้ ซึ่งกิจการที่ดี ออกนอกตลาดก็ยังคงดีอยู่ ยังคงสามารถสร้างกระแสเงินสดในรูปของเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอเหมือน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อันนี้สำคัญมาก
5. ทุกคนอยากรวย ดังนั้น ตัวเองเป็นที่พึ่งของตัวเองอย่างมากที่สุด
เป็นเหาฉลาม หรือ ว่ายทวนน้ำ หรือ จับปลาเอง ออกเรือเอง แบบไหนดีกว่ากัน
6. หาความรู้เติมเสมอ เพราะทุกกิจการนั้น พัฒนาไปทางด้านไหน R&D นั้นสำคัญ แต่ทว่า มันด้านไหน
หากเป็นด้านเดิมที่บริษัทเชี่ยวชาญ สุดท้ายคือ ระเบิดออกมาในอีก 20-30ปี หรือนานกว่านั้น ก็ได้ ที่มีผลิตภัณฑ์ทดแทนได้
หรือ อาจจะเป็น 100 ปี ก็ได้ ที่กิจการยังคงทำแบบเดิมๆ ไม่เปลี่ยนแปลง อยู่รอดทำแบบเดิมมาโดยตลอด 100 ปีก็ได้
(ในประเทศไทย มีองค์กร 100 ปีที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หลายบริษัทที่ให้ศึกษา ว่ากิจการเหล่านั้น ณ วันนี้กับ 100 ปีที่ผ่านมาธุรกิจเปลี่ยนแปลงไหม จากภายในอุตสาหกรรม หรือ ภายนอกอุตสาหกรรมที่ทำให้เปลี่ยนแปลง ลองไปศึกษา)
7. สิ่งที่สำคัญ คือเงินต้องฝังไห สูญเงินทั้งก้อนได้ ไม่ต้องคิดว่าเงินนี้หายไปแล้ว ชีวิตอยู่ไม่ได้ (ข้อนี้สำคัญที่สุด)
เมื่อสิ่งนี้บอกว่า ฝังไหแล้วไม่มีปัญหา แสดงว่า ส่วนที่งอกเงยนั้น คือ ต้องเป็นอนันต์ซิ หรือโดนปลวกกินเงินในไหหมด หรือ
โลหะโดนย่อยสลายไปหมดแล้ว คิดกันเอาเอง ละกัน
8. ผลตอบแทนที่คาดหวังว่า ต้องการเท่าไร ถ้าหากต้องการ 100% แสดงว่าคุณต้องทำงานมากกว่า 100%
ถ้าหากต้องการ 10% แสดงว่าคุณทำงานมากกว่า 10% เท่านั้น
9. สิ่งสุดท้ายที่ฝากไว้คือ ลงทุนต้องนอนให้หลับ ไม่ใช่นอนหลับแบบเท้าก่ายหน้า หรือ ลูกปืนมาจ่อหัว แล้วยิงปัง แล้วฝากให้คนอื่นจัดการต่อ
อันนี้ฝากไว้ว่า จบ ณ รุ่นนี้ หรือ จบรุ่นอื่น แต่สุดท้ายคือ ไม่มีรุ่นไหนที่จบเรื่อง แต่เป็นการส่งไม้ต่อเท่านั้นเอง
ว่าปัญหาเดิมๆ ก็วังวนเดิม อ้างแบบเดิมๆ จนสุดท้าย Architecture ถาม Neo ว่า ต้องการช่วย ทรินิตี้ หรือ Reset แล้วเริ่มใหม่
The one มีมากกว่า 1 เสมอ ดังนั้น คุณไม่ใช่ The one คนแรก และคนสุดท้าย ที่จัดการเรื่องนั้นๆได้ นั้นเอง
จนหาทางว่า เราจะเป็น หนึ่งในบรรดา the one ได้อย่างไร เพราะ The one แต่คนละ แตกต่างกัน จงหาวิธีของตัวเองให้เจอนั้นเอง

ส่งท้าย
เงินในกระเป๋าของเรา เราเป็นเจ้าของเงิน แต่เมื่อเงินออกจากกระเป๋าเราไปแล้ว เงินเป็นเจ้าของเรา

ขอบคุณมากๆครับ เป็นคำแนะนำที่ดีครับ

[picatos]

1) คิดให้ยาวๆ

2) ดูราคาให้น้อยๆ

3) เลือกเสพข้อมูลที่มีคุณภาพ

4) ฟัง/อ่าน ข้อ 3 ให้มากๆ

5) พูด/คุย กับ เพื่อนนักลงทุน ให้น้อยๆ

6) ถาม/ถก กับ ผู้เชี่ยวชาญในเนื้อหาของกิจการ ให้มากๆ

7) คิด วิเคราะห์ วางแผน และเขียนมันออกมา

8) ปฏิบัติการตามแผน อย่างมีสติ และมีเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม

9) review ตัวเอง กระบวนการ และผลลัพธ์ เป็นระยะๆ

10) กระบวนการสำคัญกว่าผลลัพธ์ ความผิดพลาด ความล้มเหลว คือ สิ่งที่น่าเฉลิมฉลอง เพราะ เรายังมีสิ่งที่พัฒนาได้อีก ให้รู้จักกลัวบ้างเวลาทำถูก ให้รู้จักดีใจให้เป็นบ้างเวลาทำผิด

11) รู้จักที่จะยินดี และมีความสุข กับนักลงทุนคนอื่นโดยเฉพาะคนที่เราไม่ชอบ เวลาเค้าประสบความสำเร็จบ้าง

12) มีความสุขให้ได้กับการลงทุน เพราะ ถ้าเราลองลงทุนมาหลายปีแล้ว ไม่มีความสุข ไม่ได้ได้นำมาซึ่งความสุข หรือมีความสุขในชีวิตน้อยลงๆ บางทีแล้ว มันอาจจะไม่ใช่ทางของเรา บางทีแล้ว เราอาจจะเหมาะกับอะไรอย่างอื่นมากกว่า

13) อย่ากลัวที่จะเลิกลงทุน เพราะ การลงทุนไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต มันเป็นแค่ทางเลือกหนึ่งในการหาเงิน บางทีชีวิตของคุณอาจจะดีขึ้นกว่านี้อีกมาก หากเลิกลงทุน

[picatos]

อยากเพิ่มรายละเอียด ข้อ 7 นิดนึงว่า...

หลังจากที่เขียนแผนออกมาเสร็จ ควรเอาแผนอันนี้ไปให้นักลงทุนระยะยาวที่เราเคารพดู ว่า แผนอันนี้เป็นการลงทุนระยะยาว หรือ เป็นการเทรดหุ้นระยะสั้นกันแน่ ถ้าแผนของคุณยังเป็นแผน Trade หุ้น คุณควรกลับไปศึกษาใหม่ วิเคราะห์ใหม่ วางแผนใหม่ จนกว่าจะได้แผนที่รู้สึกและยืนยันได้ว่า เป็นแผนการลงทุนระยะยาว

และในการให้ดู ให้สนใจแค่ว่า มันคือแผนการลงทุนระยะยาวจริงๆ หรือเปล่า เอาแค่นั้น ไม่ต้องไปสนใจเนื้อหา ว่าแผนดีหรือไม่มี เค้าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เพราะ บางทีคุณอาจจะถูกเค้าอาจจะผิดก็ได้

หมายเหตุ
ถ้าไม่มีนักลงทุนระยะยาวที่คุณเคารพ และเค้าให้ความอนุเคราะห์กับคุณ การอาจจะเอาไปให้ คนที่เป็นนักธุรกิจที่คุณเคารพที่ไม่ได้เป็นนักลงทุนดูก็ได้

แค่ต้องการฟันธงว่า นี่คือมุมมองระยะยาวในเชิงธุรกิจ ไม่ใช่ว่ามันคือการหวังจะทำกำไรระยะสั้นจากราคา

[FarmSabuy]

1) คิดให้ยาวๆ

2) ดูราคาให้น้อยๆ

3) เลือกเสพข้อมูลที่มีคุณภาพ

4) ฟัง/อ่าน ข้อ 3 ให้มากๆ

5) พูด/คุย กับ เพื่อนนักลงทุน ให้น้อยๆ

6) ถาม/ถก กับ ผู้เชี่ยวชาญในเนื้อหาของกิจการ ให้มากๆ

7) คิด วิเคราะห์ วางแผน และเขียนมันออกมา

8) ปฏิบัติการตามแผน อย่างมีสติ และมีเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม

9) review ตัวเอง กระบวนการ และผลลัพธ์ เป็นระยะๆ

10) กระบวนการสำคัญกว่าผลลัพธ์ ความผิดพลาด ความล้มเหลว คือ สิ่งที่น่าเฉลิมฉลอง เพราะ เรายังมีสิ่งที่พัฒนาได้อีก ให้รู้จักกลัวบ้างเวลาทำถูก ให้รู้จักดีใจให้เป็นบ้างเวลาทำผิด

11) รู้จักที่จะยินดี และมีความสุข กับนักลงทุนคนอื่นโดยเฉพาะคนที่เราไม่ชอบ เวลาเค้าประสบความสำเร็จบ้าง

12) มีความสุขให้ได้กับการลงทุน เพราะ ถ้าเราลองลงทุนมาหลายปีแล้ว ไม่มีความสุข ไม่ได้ได้นำมาซึ่งความสุข หรือมีความสุขในชีวิตน้อยลงๆ บางทีแล้ว มันอาจจะไม่ใช่ทางของเรา บางทีแล้ว เราอาจจะเหมาะกับอะไรอย่างอื่นมากกว่า

13) อย่ากลัวที่จะเลิกลงทุน เพราะ การลงทุนไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต มันเป็นแค่ทางเลือกหนึ่งในการหาเงิน บางทีชีวิตของคุณอาจจะดีขึ้นกว่านี้อีกมาก หากเลิกลงทุน

ขอบคุณมากๆ ครับพี่ตี่ อาทิตย์ที่แล้ว ผมได้ดู Youtube เมื่อ 8 ปีก่อน พี่สอนเรื่อง ประเมินมูลค่าหุ้น ความรู้เรื่องการลงทุน และ การลงทุนกับการปฏิบัติธรรม ได้ความรู้และหลักคิดนำมาปฏิบัติจริงได้ครับ

[FarmSabuy]

จากข้อ 7 ที่พี่ตี่ เพิ่มครับว่า

-ควรเอาแผนอันนี้ไปให้นักลงทุนระยะยาวที่เราเคารพดู

-คนที่เป็นนักธุรกิจที่เคารพ

ตอนนี้ยังไม่มี 2 ข้อบนครับ แต่ผมกำลังศึกษาอ่านหนังสือหาความรู้ให้มากๆครับ เพื่อจะมีคำถามในการวิเคราะห์ประเมินกิจการได้ครับ

หวังว่าวันนึงที่ความรู้พร้อมจะได้เจอ พูดคุยแผนการลงทุน และอยู่ในกลุ่มนักลงทุนระยะยาวที่มีคุณภาพกับพี่ๆหลายคนที่เข้ามา ตอบให้คำแนะนำดีๆแบบนี้นะครับ

ขอบคุณพี่ทุกๆคนมากครับ

[GENTECH]

ขอแจมบ้างครับ

ส่วนตัวจะคอยสังเกตตัวเองตลอดเวลาว่าสิ่งที่ทำมัน ผิด หรือ ถูก
ผิดก็ถอย ถูกก็ทำต่อ หรือเพิ่มเข้าไป

ทำบ่อย ๆ เป็นนิสัย จะเพิ่มถูกเข้าไปมากกว่าผิดครับ

ผิดถูกขอภัยล่วงหน้านะครับ

[FarmSabuy]

ขอแจมบ้างครับ

ส่วนตัวจะคอยสังเกตตัวเองตลอดเวลาว่าสิ่งที่ทำมัน ผิด หรือ ถูก
ผิดก็ถอย ถูกก็ทำต่อ หรือเพิ่มเข้าไป

ทำบ่อย ๆ เป็นนิสัย จะเพิ่มถูกเข้าไปมากกว่าผิดครับ

ผิดถูกขอภัยล่วงหน้านะครับ

ขอบคุณมากครับที่แนะนำเข้ามา

[yoko]

มีอีกข้อหนื่งที่ผมคิดว่าสำคัญมากคือการมีวินัยในการขาย
ตยเช่นปู่บัฟขายหุ้นเทศโก้
ปู่บัฟขายหุ้นสายการบิน

[FarmSabuy]

มีอีกข้อหนื่งที่ผมคิดว่าสำคัญมากคือการมีวินัยในการขาย
ตยเช่นปู่บัฟขายหุ้นเทศโก้
ปู่บัฟขายหุ้นสายการบิน

ขายไปทำกำไรกับตัวอื่นที่ตัวเดิมให้ผลตอบแทนได้ไม่เท่าตัวใหม่ที่วิเคราะห์ไว้ใช่มั้ยครับ หรือ ตัวเดิมที่เราถือสถานการณ์เริ่มไม่ค่อยดี ใช่มั้ยครับ

ขอบคุณมากครับ สำหรับคำแนะนำครับ

[Tibular]

ให้ความสำคัญกับ "Margin of Safety" ให้มากที่สุด

เพราะไม่ว่าเราจะซื้อหุ้นกี่ตัวในพอร์ตก็ตาม หรือลงทุนระยะยาวขนาดไหน
"Margin of Safety" จะทำให้เราไม่ซื้อหุ้นที่แพงมา และกันไม่ให้เราทำอะไรโง่ๆ

[FarmSabuy]

ให้ความสำคัญกับ "Margin of Safety" ให้มากที่สุด

เพราะไม่ว่าเราจะซื้อหุ้นกี่ตัวในพอร์ตก็ตาม หรือลงทุนระยะยาวขนาดไหน
"Margin of Safety" จะทำให้เราไม่ซื้อหุ้นที่แพงมา และกันไม่ให้เราทำอะไรโง่ๆ

โดยผ่านการประเมินมูลค่าหุ้นที่แท้จริงใช่มั้ยคับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

[ส.สลึง]

หนึ่ง ทานอาหารให้ครบห้าหมู่

สอง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

สาม พักผ่อนให้เพียงพอ

สี่ ไปตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี

ห้า ใช้เงินบ้างนะ