ภาพรวมอุตสาหกรรมโรงพยาบาลปี 2560

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
amornkowa
Verified User
โพสต์: 2195
ผู้ติดตาม: 0

ภาพรวมอุตสาหกรรมโรงพยาบาลปี 2560

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ภาพรวมอุตสาหกรรมโรงพยาบาลปี 2560

ก่อนอื่นมาดูที่โครงสร้างการให้บริการสุขภาพในประเทศไทย

Health service infrastructure

1. Government health services
2. Private medical sector
3. Non profit health services รพ เปิดให้บริการไม่มุ่งหวังผลกำไร แต่มีการเก็บเงินคนไข้
เช่น รพ กรุงเทพคริสเตียน รพ หัวเฉียว รพ เซนต์หลุยส์

ส่วนที่ 1 Government health servicesและ 2 Private medical sectorแบ่งออกเป็น

Cash & Insurance ซึ่งแบ่งได้เป็น Premium , Mid-tier

Managed care schemes (สวัสดิการภาครัฐ) ( ข้อมูลปีล่าสุด คือ ปี 56)
แบ่งเป็น

1.ประกันสังคม คิดเป็น 74.4% รพเอกชน เข้าร่วม 36 แห่ง
2.บัตรทอง 30 บาท คิดเป็น 15.4% รพเอกชน เข้าร่วม 36 แห่ง
3.สวัสดิการข้าราชการ หรือ ข้าราชการบำนาญรัฐวิสาหกิจ คิดเป็น 8.6% รพ เอกชนเข้าร่วม 216 แห่ง

จุดสังเกตว่า รพ เอกชน เข้าร่วมโครงการประกันสังคม มากกว่า บัตรทอง เพราะได้ค่าเหมาจ่ายสูงกว่า

ค่าใช้จ่ายดูแลสุขภาพในปี 47-56
ส่วนภาครัฐ โต 13% ต่อปี
ภาคเอกชน ประกันสุขภาพ โต 11.3% ต่อปีก สอดคล้องกับประชากรที่มีประกันสุขภาพโต 12.7% ต่อปี
และเบี้ยประกันสุขภาพ CAGR 13.4% ต่อปี

ปัจจัยบวกต่อธุรกิจ รพ

1. การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างประชากรและอายุเฉลี่ยที่สูงขึ้น
2. การเพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้มีรายได้ระดับปานกลาง
3. การขยายตัวของชุมชนเมือง
4. จำนวนผู้ป่วยเข้ารับการรักษามากขึ้น
5. การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยต่างชาติ

ปัจจัยเสี่ยงต่อธุรกิจ รพ

1. ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ทำให้ผู้มีรายได้ปานกลางอาจเลือกใช้สิทธิ์รักษาพยาบาลจากภาครัฐแทน
2. การขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ ไทยมีแพทย์ 4 คน ต่อประชากร 10,000 คน เทียบกับสิงคโปร์ 19 คน
3. แนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรง มีโรงพยาบาลจะเข้าตลาดหลักทรัพย์อีกหลายแห่ง

วิธีการรับรู้รายได้

1.สำหรับประกันสังคมมีการจ่ายผลตอบแทนให้กับโรงพยาบาล แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ

1. Fixed payment
2. Statistics
2.1 IPD AdjRW>=2 , AdjRW<2
2.2 OPD เฉพาะ 26 โรคร้ายแรง
3. Per Special Medical Service

ประกันสังคมปรับเรื่องการจ่ายผลประโยชน์ให้กับโรงพยาบาลมากขึ้น มีผล 1 กค 17

รายการที่ปรับมี 4 ข้อ คือ

1. เหมาจ่ายรายหัว Fixed paymentเพิ่มจาก 1,460 บาท เป็น 1,500 บาท ต่อ คน ต่อปี
โรงพยาบาลที่สามารถยกระดับการรักษาโรคยากเป็น HA Level II จะได้เพิ่มอีก คนละ 40 บาทต่อปี
ถ้าเพิ่มเป็นHA Level III จะได้เพิ่มอีก คนละ 80 บาทต่อปี
( HA เป็นมาตรฐานของโรงพยาบาลไทย )

2. การบันทึกโรคยากซับซ้อนสูงจะได้เพิ่มขึ้นอีกถ้าเป็นเคสIPD
Adj มากกว่าหรือเท่ากับ 2 เป็นโรคซับซ้อน จะได้เฉลี่ย 10,000 บาทต่อ RW
Adj น้อยกว่า 2 หรือ เป็นเคส OPD 26 โรคร้ายแรง จะได้เฉลี่ย 432 บาท ต่อคนต่อปี

3. สำหรับการใช้เครื่องมือพิเศษ จะคิดจากรายได้หารด้วยจำนวนผู้ใช้บริการจริง

4.case บางอันค่ารักษาเกิน 1ล้านบาท ส่วนที่เกินเบิกได้ 80% ซึ่งช่วย รพ ได้มาก แต่เคสที่เจอะไม่ค่อยเยอะ

2. วิธีรับรู้รายได้สำหรับผู้ป่วยเงินสด

รายได้ผู้ป่วย OPD=Number of OPD visits per day * revenue per visit
รายได้ผู้ป่วย IPD=Average daily census * revenue per admission

สุดท้ายขอขอบคุณ หทัยชนก มูลวงศ์ นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ บล Phillip ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
vim
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2748
ผู้ติดตาม: 0

Re: ภาพรวมอุตสาหกรรมโรงพยาบาลปี 2560

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณครับ
Vi IMrovised
วัวทะโมน
Verified User
โพสต์: 222
ผู้ติดตาม: 0

Re: ภาพรวมอุตสาหกรรมโรงพยาบาลปี 2560

โพสต์ที่ 3

โพสต์

อย่าลืมประเด็นความเสี่ยงเรื่องการฟ้องร้องค่าชดเชยความเสียหายทางการแพทย์ด้วยนะครับ ไม่แน่ใจว่าแต่ละที่บริหารความเสี่ยงอย่างไร แต่สำหรับ รพ.เล็กๆ เจอเข้าไปซัก case ก็หน้ามืดละครับ แต่กว่าจะจ่ายกันจริงก็นานอยู่ จะบอกว่า Medical error มันมีมากเสียจนคนที่ไม่ได้อยู่ในระบบบริการอาจไม่รู้ บางทีเราก็เจอแม้กระทั่ง รพ.ที่เราเองก็รู้สึกว่าเป็นระดับต้นๆของประเทศ(เอกชน) ทำไมถึงพลาดได้ขนาดนี้
amornkowa
Verified User
โพสต์: 2195
ผู้ติดตาม: 0

Re: ภาพรวมอุตสาหกรรมโรงพยาบาลปี 2560

โพสต์ที่ 4

โพสต์

https://www.facebook.com/permalink.php? ... 4232617862

Slideประกอบสัมมนาครับ
โพสต์โพสต์