พอร์ตเล็ก กับ หุ้นปันผล
-
- Verified User
- โพสต์: 1246
- ผู้ติดตาม: 0
พอร์ตเล็ก กับ หุ้นปันผล
โพสต์ที่ 1
บางคนบอกว่าอายุน้อยๆ ให้ลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงหน่อย เช่นหุ้น
แล้วพอร์ตเล็กๆแต่เลือกเน้นแต่เป็นหุ้นปันผลคิดว่าดีไหมครับ หรือคิดว่าควรกระจายไปหุ้นเติบโต(เสี่ยงสูงกว่า)ด้วย
จากที่ทดลองมาด้วยตัวเอง หุ้นประเภทนี้ขึ้นลงไม่หวือหวา ได้ปันผลระดับที่พอใจ แต่รู้สึกพอร์ตโตช้าลงมาก(หรืออาจจะเลือกผิดตัวซื้อผิดจังหวะ)
คิดว่าการลงทุนซื้อเฉลี่ยไปเรื่อยๆ(คล้ายๆ DCA) ควรจะมีสัดส่วนหุ้นในพอร์ตระหว่าง หุ้นเติบโต(เสี่ยงมากกว่า):หุ้นปันผล(เสี่ยงน้อย)ประมาณเท่าไหร่ดีครับ
ปล.ทุกวันนี้พอร์ตกว่า 80% เป็นหุ้นปันผล เคยได้ยินพี่ๆบางคนพูดว่าหุ้นประเภทนี้ถือแล้วสบายใจ แต่ไม่รวยหรอก(คงหมายถึงไม่มีโอกาสจะมี growth สูงๆไปกว่านี้แล้ว)
แล้วพอร์ตเล็กๆแต่เลือกเน้นแต่เป็นหุ้นปันผลคิดว่าดีไหมครับ หรือคิดว่าควรกระจายไปหุ้นเติบโต(เสี่ยงสูงกว่า)ด้วย
จากที่ทดลองมาด้วยตัวเอง หุ้นประเภทนี้ขึ้นลงไม่หวือหวา ได้ปันผลระดับที่พอใจ แต่รู้สึกพอร์ตโตช้าลงมาก(หรืออาจจะเลือกผิดตัวซื้อผิดจังหวะ)
คิดว่าการลงทุนซื้อเฉลี่ยไปเรื่อยๆ(คล้ายๆ DCA) ควรจะมีสัดส่วนหุ้นในพอร์ตระหว่าง หุ้นเติบโต(เสี่ยงมากกว่า):หุ้นปันผล(เสี่ยงน้อย)ประมาณเท่าไหร่ดีครับ
ปล.ทุกวันนี้พอร์ตกว่า 80% เป็นหุ้นปันผล เคยได้ยินพี่ๆบางคนพูดว่าหุ้นประเภทนี้ถือแล้วสบายใจ แต่ไม่รวยหรอก(คงหมายถึงไม่มีโอกาสจะมี growth สูงๆไปกว่านี้แล้ว)
ร้อยลี้ ต้องมีก้าวแรก....
-
- Verified User
- โพสต์: 258
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตเล็ก กับ หุ้นปันผล
โพสต์ที่ 2
ขอนิยามหุ้นปันผลด้วยครับ
ถ้าให้เดา คงหมายถึงหุ้นที่มีการปันผลออกมาสม่ำเสมอ
จริงๆ แล้วหุ้นที่มีเงินสดทุกตัวปันผลได้หมดนะครับ
ไปกู้เงินมาปันผลก็มีนะครับ
แล้วการปันผลมันมาจากกำไรที่บริษัททำได้ในแต่ละปี
หากปีไหนทำกำไรได้ไม่ดี ปันผลก็น้อย ปีไหนดี กำไรดี ปันผลมากหน่อย
แต่เราควรจะเอาจำนวนเงินปันผลมาเทียบกับราคาหุ้นที่เราซื้อด้วยนะครับ
เพื่อคำนวณผลตอบแทนที่ได้รับ
ถ้าให้เดา คงหมายถึงหุ้นที่มีการปันผลออกมาสม่ำเสมอ
จริงๆ แล้วหุ้นที่มีเงินสดทุกตัวปันผลได้หมดนะครับ
ไปกู้เงินมาปันผลก็มีนะครับ
แล้วการปันผลมันมาจากกำไรที่บริษัททำได้ในแต่ละปี
หากปีไหนทำกำไรได้ไม่ดี ปันผลก็น้อย ปีไหนดี กำไรดี ปันผลมากหน่อย
แต่เราควรจะเอาจำนวนเงินปันผลมาเทียบกับราคาหุ้นที่เราซื้อด้วยนะครับ
เพื่อคำนวณผลตอบแทนที่ได้รับ
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4626
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตเล็ก กับ หุ้นปันผล
โพสต์ที่ 3
พี่มิ่ง ต่อเลยครับพี่
ผมขอแทรกนิดนะพี่ ผมกระจายหุ้นบ้างแต่ไม่เยอะ
ตอนซื้อเล็งสองอย่าง
1 เล็งข่าวที่จะทำให้กำไรโตครับพี่
2 สมมติซวย ข้อ 1 ก็ทำอยู่แต่นานกว่าที่คิดก็ได้ปันผลสมน้ำสมเนื้อ
.....
ปูเสื่อฟังพี่มิ่งต่อครับ
ผมขอแทรกนิดนะพี่ ผมกระจายหุ้นบ้างแต่ไม่เยอะ
ตอนซื้อเล็งสองอย่าง
1 เล็งข่าวที่จะทำให้กำไรโตครับพี่
2 สมมติซวย ข้อ 1 ก็ทำอยู่แต่นานกว่าที่คิดก็ได้ปันผลสมน้ำสมเนื้อ
.....
ปูเสื่อฟังพี่มิ่งต่อครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตเล็ก กับ หุ้นปันผล
โพสต์ที่ 4
ขอเสริม หุ้นปันผล นั้นต้องตรวจสอบด้วยว่า ธุรกิจที่กิจการนั้นเป็นช่วงไหนของกิจการ
เป็นช่วงที่กิจการเติบโตเต็มที่แล้วหรือ กำลังเข้าสู่ยุคถดถอย
โดยที่กิจการนั้น ปันผลออกมา นั้นส่วนที่เหลือก็เก็บไว้ในตัวบริษัท เพื่อนำไปลงทุนต่อ
มันคือ Payout ratio
ถ้าหาก กิจการกำลังอยู่ในขาลง แล้วปันผลมาก เหมือนเดิม แสดงว่า กิจการนั้นๆส่งสัญญาณออกมาว่าเป็นเรื่องชั่วคราวหรือเปล่า
เดี๋ยวมันก็ผ่านไป แต่นักลงทุนต้องเข้าไปตรวจสอบแล้วว่า จ่ายออกมามากขนาดนั้น แล้วกิจการเดินต่อไปได้หรือเปล่า
เงินสดที่เหลือสามารถดำเนินการกิจการ หรือ ต้องกู้มาเพื่อจ่ายปันผล ก็ต้องตรวจสอบด้วย
Port เล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญ ว่าลงทุนในหุ้นปันผล แล้วผลตอบแทนไม่ดี
เนื่องจาก ผลตอบแทนจากการลงทุนมีจากสองส่วน(ตามทฤษฏีการลงทุน) คือ
1. ส่วนต่างของราคาซื้อกับราคาขาย (ซื้อถูก ขายแพง)
2. ปันผลที่ได้รับจากกำไรสุทธิ(กำไรสุทธิคือกำไรหลังหักภาษี ดอกเบี้ย และต่างๆๆแล้ว)
เมื่อกิจการเติบโต ก็มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น จ่ายปันผลได้มากขึ้น ถ้าจ่ายปันผลน้อยลง ก็ลงไปดูว่า ROE กับ ROA นั้น ยังเติบโตหรือเปล่า
แล้วทำไม กิจการใน US ประกาศจ่ายปันผลครั้งแรก นักลงทุน VI ถึงไม่ชอบ
เนื่องจาก แสดงว่ากิจการนั้น หมดมุขในการนำเงินไปลงทุน ทำให้เกิดดอกผลงอกเงย เพื่อให้ ROE กับ ROA ใหญ่ขึ้นได้
ให้เงินคืนแก่ ผู้ลงทุนที่เป็นเจ้าของบริษัทไปกิจการอื่นๆที่ได้กำไรดีกว่า
เป็นช่วงที่กิจการเติบโตเต็มที่แล้วหรือ กำลังเข้าสู่ยุคถดถอย
โดยที่กิจการนั้น ปันผลออกมา นั้นส่วนที่เหลือก็เก็บไว้ในตัวบริษัท เพื่อนำไปลงทุนต่อ
มันคือ Payout ratio
ถ้าหาก กิจการกำลังอยู่ในขาลง แล้วปันผลมาก เหมือนเดิม แสดงว่า กิจการนั้นๆส่งสัญญาณออกมาว่าเป็นเรื่องชั่วคราวหรือเปล่า
เดี๋ยวมันก็ผ่านไป แต่นักลงทุนต้องเข้าไปตรวจสอบแล้วว่า จ่ายออกมามากขนาดนั้น แล้วกิจการเดินต่อไปได้หรือเปล่า
เงินสดที่เหลือสามารถดำเนินการกิจการ หรือ ต้องกู้มาเพื่อจ่ายปันผล ก็ต้องตรวจสอบด้วย
Port เล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญ ว่าลงทุนในหุ้นปันผล แล้วผลตอบแทนไม่ดี
เนื่องจาก ผลตอบแทนจากการลงทุนมีจากสองส่วน(ตามทฤษฏีการลงทุน) คือ
1. ส่วนต่างของราคาซื้อกับราคาขาย (ซื้อถูก ขายแพง)
2. ปันผลที่ได้รับจากกำไรสุทธิ(กำไรสุทธิคือกำไรหลังหักภาษี ดอกเบี้ย และต่างๆๆแล้ว)
เมื่อกิจการเติบโต ก็มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น จ่ายปันผลได้มากขึ้น ถ้าจ่ายปันผลน้อยลง ก็ลงไปดูว่า ROE กับ ROA นั้น ยังเติบโตหรือเปล่า
แล้วทำไม กิจการใน US ประกาศจ่ายปันผลครั้งแรก นักลงทุน VI ถึงไม่ชอบ
เนื่องจาก แสดงว่ากิจการนั้น หมดมุขในการนำเงินไปลงทุน ทำให้เกิดดอกผลงอกเงย เพื่อให้ ROE กับ ROA ใหญ่ขึ้นได้
ให้เงินคืนแก่ ผู้ลงทุนที่เป็นเจ้าของบริษัทไปกิจการอื่นๆที่ได้กำไรดีกว่า
- PrasertsakK
- Verified User
- โพสต์: 286
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตเล็ก กับ หุ้นปันผล
โพสต์ที่ 8
ในส่วนตัว ผมว่าเมื่อหุ้นยังพอร์ทเล็กอยู่ เป็นช่วงที่สำหรับการหาวิธีการลงทุนที่เหมาะกับตัวเองและที่สำคัญคือเราควรจะทบทวนแล้ววิเคระห์ด้วยว่าวิธีการลงทุนที่สมเหตุสมผลด้วย ไม่ใช่มุ่งแต่หาวิธีที่ได้ผลตอบแทนสูง ๆ ครับ
เนื่องด้วย การลงทุนในระยะแรก ๆ ที่ไม่มีประสพการณ์ เรามักจะลงทุนค่อนข้างเสี่ยง (เราไม่รู้ว่าที่เราคิดว่ามันไม่เสี่ยงทั้งที่จริง ๆ มันเสี่ยงมาก) และผลตอบแทนก็มักจะได้มากผิดปกติหรือขาดทุนมาก ซึ่งหลายคนพอเห็นว่าวิธีนี้ได้กำไรเยอะ ก็มักจะจำวิธีการที่เสี่ยงไปใช้ แล้วเมื่อเราเติมเงินเข้าไปมาก ๆ หรือพอร์ทใหญ่แล้ว แต่เรายังใช้วิธีเดิม ๆ ในที่สุดเราก็จะขาดทุนหนัก
ผมจึงคิดว่า เมื่อพอร์ทยังเล็ก เราควรจะลงทุนในหลากหลายแบบ หุ้นเติบโต หุ้นปั่นผล หุ้นแข็งแกรง และไม่ควรลงทุนหุ้นที่เสี่ยงมากนัก เพื่อสร้างนิสัยการลงทุนที่ดีก่อน เมื่อเรามีวิชาอันแข็งกล้าแล้ว จะเริ่มขยับไปลองวิชาอื่น ๆ ที่ได้ผลตอบแทนสูง ก็แล้วแต่จะเลือกละครับ
เข้ามาที่คำถามละครับ นอกเรื่องไปเยอะ
พอร์ตเล็กๆแต่เลือกเน้นแต่เป็นหุ้นปันผลคิดว่าดีไหม?
คิดว่าไม่ได้แย่อะไรนะครับแต่สำคัญคือเราต้องห้ามซื้อแพง เช่น ผลตอบแทน 4-5% ต่อปี ผมว่ามันไม่คุ้มค่าครับ (เราต้องรู้ความเสี่ยงอย่างหนึ่งของหุ้นปั่นผลก่อน คือ เวลาได้ผลตอบแทนมักจะได้ไม่สูง แต่ปัญหาคือ ถ้าเกิดวิกฤตแล้วหุ้นตกแรง ๆ ราคาก็จะสามารถลงได้แรงเหมือนกันครับ)
ส่วนการซื้อแบบ DCA ผมไม่คิดว่าเหมาะกับหุ้นปั่นผลนะครับ เพราะว่า ราคาหุ้นของกลุ่มนี้มักจะอยู่นิ่ง ๆ ไม่ไปไหน ก็เราซื้อแบบ DCA กับไม่ค่อยได้รับประโยชน์อะไรมากนัก (ผมคิดว่า DCA มักจะเหมาะกับหุ้นแข็งแกร่ง หรือ ซื้อ index ไปเลยมากกว่าครับ)
ควรจะมีสัดส่วนหุ้นในพอร์ตระหว่าง หุ้นเติบโต(เสี่ยงมากกว่า):หุ้นปันผล(เสี่ยงน้อย)ประมาณเท่าไหร่ดีครับ ?
ผมคิดว่าเราไม่ควรกะเกรณ์อะไรพวกนี้ครับ เพราะว่า ปกติแล้วหุ้นที่เติบโต ถ้าเราซื้อถูกตัว ราคาจะมีการปรับขึ้นมากกว่า หุ้นปันผล(ที่เราก็ซื้อถูกตัวเหมือนกัน) นั้นคือ ส่วนส่วนในพอร์ตมักจะเปลี่ยนไป ลองคิดดูว่า ถ้าตอนนี้เราซื้อหุ้นปันผล 80% และ หุ้นเติบโต 20% แล้วเราซื้อถูกตัว เมื่อเวลาผ่านไป สัดส่วนหุ้นกลายเป็นปั่นผล 70% หุ้นเติบโต 30% แล้วจะเราจะขายดอกไม้สวย ๆ ไปซื้อต้นหญ้าเขียว ๆ คิดว่าเป็นกลยุทธที่ดีหรือเปล่าครับ
ผมคิดว่า การหาความรู้ ศึกษาหุ้นอย่างลึกซึ้ง ศึกษาหุ้นหลาย ๆ ประเภท แล้วกระจายซื้อในทุกประเภทพอประมาณ น่าจะสร้างผลตอบแทนได้อย่างพอสมน้ำสมเนื้อครับ (มันอาจจะทำให้เราไม่ร่ำรวย แต่ผมคิดว่ามันทำให้เราไม่เจ๊งหุ้นแน่นอนครับ)
เนื่องด้วย การลงทุนในระยะแรก ๆ ที่ไม่มีประสพการณ์ เรามักจะลงทุนค่อนข้างเสี่ยง (เราไม่รู้ว่าที่เราคิดว่ามันไม่เสี่ยงทั้งที่จริง ๆ มันเสี่ยงมาก) และผลตอบแทนก็มักจะได้มากผิดปกติหรือขาดทุนมาก ซึ่งหลายคนพอเห็นว่าวิธีนี้ได้กำไรเยอะ ก็มักจะจำวิธีการที่เสี่ยงไปใช้ แล้วเมื่อเราเติมเงินเข้าไปมาก ๆ หรือพอร์ทใหญ่แล้ว แต่เรายังใช้วิธีเดิม ๆ ในที่สุดเราก็จะขาดทุนหนัก
ผมจึงคิดว่า เมื่อพอร์ทยังเล็ก เราควรจะลงทุนในหลากหลายแบบ หุ้นเติบโต หุ้นปั่นผล หุ้นแข็งแกรง และไม่ควรลงทุนหุ้นที่เสี่ยงมากนัก เพื่อสร้างนิสัยการลงทุนที่ดีก่อน เมื่อเรามีวิชาอันแข็งกล้าแล้ว จะเริ่มขยับไปลองวิชาอื่น ๆ ที่ได้ผลตอบแทนสูง ก็แล้วแต่จะเลือกละครับ
เข้ามาที่คำถามละครับ นอกเรื่องไปเยอะ
พอร์ตเล็กๆแต่เลือกเน้นแต่เป็นหุ้นปันผลคิดว่าดีไหม?
คิดว่าไม่ได้แย่อะไรนะครับแต่สำคัญคือเราต้องห้ามซื้อแพง เช่น ผลตอบแทน 4-5% ต่อปี ผมว่ามันไม่คุ้มค่าครับ (เราต้องรู้ความเสี่ยงอย่างหนึ่งของหุ้นปั่นผลก่อน คือ เวลาได้ผลตอบแทนมักจะได้ไม่สูง แต่ปัญหาคือ ถ้าเกิดวิกฤตแล้วหุ้นตกแรง ๆ ราคาก็จะสามารถลงได้แรงเหมือนกันครับ)
ส่วนการซื้อแบบ DCA ผมไม่คิดว่าเหมาะกับหุ้นปั่นผลนะครับ เพราะว่า ราคาหุ้นของกลุ่มนี้มักจะอยู่นิ่ง ๆ ไม่ไปไหน ก็เราซื้อแบบ DCA กับไม่ค่อยได้รับประโยชน์อะไรมากนัก (ผมคิดว่า DCA มักจะเหมาะกับหุ้นแข็งแกร่ง หรือ ซื้อ index ไปเลยมากกว่าครับ)
ควรจะมีสัดส่วนหุ้นในพอร์ตระหว่าง หุ้นเติบโต(เสี่ยงมากกว่า):หุ้นปันผล(เสี่ยงน้อย)ประมาณเท่าไหร่ดีครับ ?
ผมคิดว่าเราไม่ควรกะเกรณ์อะไรพวกนี้ครับ เพราะว่า ปกติแล้วหุ้นที่เติบโต ถ้าเราซื้อถูกตัว ราคาจะมีการปรับขึ้นมากกว่า หุ้นปันผล(ที่เราก็ซื้อถูกตัวเหมือนกัน) นั้นคือ ส่วนส่วนในพอร์ตมักจะเปลี่ยนไป ลองคิดดูว่า ถ้าตอนนี้เราซื้อหุ้นปันผล 80% และ หุ้นเติบโต 20% แล้วเราซื้อถูกตัว เมื่อเวลาผ่านไป สัดส่วนหุ้นกลายเป็นปั่นผล 70% หุ้นเติบโต 30% แล้วจะเราจะขายดอกไม้สวย ๆ ไปซื้อต้นหญ้าเขียว ๆ คิดว่าเป็นกลยุทธที่ดีหรือเปล่าครับ
ผมคิดว่า การหาความรู้ ศึกษาหุ้นอย่างลึกซึ้ง ศึกษาหุ้นหลาย ๆ ประเภท แล้วกระจายซื้อในทุกประเภทพอประมาณ น่าจะสร้างผลตอบแทนได้อย่างพอสมน้ำสมเนื้อครับ (มันอาจจะทำให้เราไม่ร่ำรวย แต่ผมคิดว่ามันทำให้เราไม่เจ๊งหุ้นแน่นอนครับ)
http://prasertsakk.blogspot.com/
การลงทุน ความมั่งคั่ง ความสุข มิตรภาพ
การลงทุน ความมั่งคั่ง ความสุข มิตรภาพ
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตเล็ก กับ หุ้นปันผล
โพสต์ที่ 10
ผมฟังคลิป พี่สุมาอี้ พี่เค้าว่า จริงๆ เห็น ลินช์ เป็นเจ้าพ่อหุ้นgrowth
แต่ในพอร์ท มีหุ้นgrowth ไม่เกิน 40%
ถามผม ส่วนตัวคงต้องบอกว่าควรมี หุ้นปันผล บ้าง
แต่ สัดส่วนเท่าไหร่ คงต้องแล้วแต่ส่วนบุคคล มั้งคับ
ปล คนตอบเห็นมีแต่ พอร์ทใหญ่ กันนิคับ555
แต่ในพอร์ท มีหุ้นgrowth ไม่เกิน 40%
ถามผม ส่วนตัวคงต้องบอกว่าควรมี หุ้นปันผล บ้าง
แต่ สัดส่วนเท่าไหร่ คงต้องแล้วแต่ส่วนบุคคล มั้งคับ
ปล คนตอบเห็นมีแต่ พอร์ทใหญ่ กันนิคับ555
show me money.