|0 คอมเมนต์
เมื่อวันศุกร์ 24/7/58 ได้มีโอกาสไปประชุมหุ้น TIW ว่าจะปรับปรุงธุรกิจกันอย่างไร ก็เข้าใจว่า
1. เขาต้องพยายามทำการตลาดให้ดีกว่าเก่า ตอนนี้กำลังหาคนมีความสามารถในด้านนี้มาช่วยอยู่ในจุดปกพร่องเดิม เช่น มีผู้ขายในแต่ละเขต 2-3 รายจะเพิ่มเป็น 10 ราย แต่ก่อนขายเงินสดตอนนี้ปรับเป็นขายเครดิต เป็นต้น
2. กำลังพิจารณาหาผลิตภัณท์ให้เพิ่มขึ้น เพราะกำลังผลิตยังเหลือเฟืออยู่
3.พยายามลดต้นทุนเปรียบเทียบราคาสินค้ากับผุู้ผลิตรายอื่น ปกติซื้อจากมิตซุยอยู่ งานนี้คงไม่ง่ายเพราะความสัมพันธ์ของ ดร ประสิทธิ์มีอยู่กับ มิตซุยยังเหนียวแน่นอยู่
4.ยังใช้ตรายี่ห้อเดิมและยอมจ่ายค่าเครื่องหมายการค้าเหมือนเดิม สัญญาละ10 ปี ค่าตอบแทนต่อสัญญา 1 ล้านบาท
5.ตอนนี้ผลิตอยู่ที่ 25000 ตันต่อปี กำลังผลิตสามารถทำได้ 60000 ตันต่อปี
6.ดร ประสิทฺธิ์แจ้งว่า ภายใน 2 ปีข้างหน้าจะเห็นความแตกต่างชัดเจนขึ้น
7.คู่แข่งเริ่มลดลง เพราะสินค้าสำเร็จรูปจากจีนมาตีตลาดอยู่ แต่อนาคตรัฐบาลกำลังพิจารณาเก็บภาษี surcharge สำหรับผลิตภัณท์ประเทศนี้อยู่
ที่สำคัญ ดร ประสิทธิ์ มาซื้อธุรกิจนี้เพราะมีความสัมพันธ์กับประธานบริษัทนี้มานานหลายปี และทางมิตซุยต้องการเลิกธุรกิจปลายน้ำแบบนี้และกิจการที่ขาดทุนออก เป็นโอกาสที่ ดร ประสิทธิ์ได้มาเป้นเจ้าของแทน ท่านก็ยังแปลกใจว่าทำไมคนทำ tender น้อยกว่าที่คาดมาก การจะเอาหุ้น tiw ออกจากตลาด ยังไม่แนวคิดไม่ยอมบอก เหมือนกันการที่จะเอาหุ้นของท่านมาควบรวมเพื่อเป็นการ back door listing ก็ไม่บอกเหมือนกัน เลยดูความคิดของท่านไม่ออกครับ
แต่โดยสรุปเรื่องธรรมาภิบาลก็คงเป็นคนดีและคนเก่งระดับหนึ่ง ท่านเป็นอาจารย์สอนที่ NIDA ด้วย และได้เอา อาจารย์ของท่านที่ NIDA มาช่วยเป็นกรรมการด้วย ก็แสดงว่า ท่านคงมาทำให้บริษัทฯ ดีขึ้นค่อนข้างแน่
ผมพยายามดูความคิดของท่านเรื่องการมีบริษัท มีเงินส่วนเกินเหลือมาก ตามที่ท่านบอกจะปันผลออกมาให้ระหว่างกาล 20-25 บาท ต่อหุ้น ขณะนี้บริษัท มีเงินสดและเทียบเท่า ตามงบล่าสุดอยู่ที่ 384 ล้าน จ่ายปันผลรอบนี้ 12 ล้าน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (ปีละ 41 ล้านบาท) ก็แสดงว่าขณะนี้มีเงินเหลือประมาณแถว น่าจะ 350 ล้าน ถ้าปันผลอีก 25 บาทหรือเอาเงินออกอีก 150 ล้านบาท ก็ยังเหลือเงินอีก แถว 200 ล้่านบาท ก็ลองติดตามดูกันต่อไปว่า ท่านจะเอาเงินเงิน 200 ล้่านบาทมาสร้างกำไรให้่บริษัทได้อย่างไร......ผมคงถือไปเรื่อย ๆ เพราะราคาปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็นอยู่

หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่