เอาไงดีครับ กับ หุ้นไทยรักไทย TRT

[BigBoat]

มาคล้ายๆกับUECเลย ตบด้วยวอลุ่มให้มึน
ให้หลัง3เดือน ย่องเบาแบบเงียบๆ

[Jeng]

โปรดติดตามตอนต่อไป

เห็น ipo หลายๆตัวแล้วเสียว

ชอบย่องลงไปเรือยๆ ๆ

แถม ไตรมาสต่อมา หลังจากเข้าตลาด ประกาส ขาดทุนโครม

อืม

หวังว่าเจ้านี้จะไม่เป็นนะ

มีคนที่มีชื่อเสียงหลายคน เป็นกรรมการ

[naris]

เดี๋ยวอีกไม่กี่วันคงประกาศงบแล้วพี่เจ๋ง

คงรู้กัน

[phobenius]

วันก่อนไปฟัง คุณพงพันธ์ จากกิมเอ็งเชียร์มา
ไม่รู้ว่าจะดีจิงอะป่าวอะ
กิมเอ็งเชียร์เนี่ย ชอบเกิดการผกผันแฮะ

[Basic]

เอามาฝากครับ
TRT: ผู้นำอุตสาหกรรมผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าในประเทศ -ซื้อ

ประเด็นสำคัญ
ท แนะนำ "ซื้อ" โดยให้ราคาเป้าหมายปี 49 ที่ 8.80 บาทจาก Norm PER ที่ 8.8
เท่า
ท TRT
เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้ารายเดียวในประเทศที่ผลิตได้ทั้งหม้อแปลงไฟฟ้ากำลังและหม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่าย โดยครองส่วนแบ่ง 20%
ของตลาดในประเทศ
ท
ลูกค้าหลักเป็นผู้ดำเนินการธุรกิจไฟฟ้าในภาครัฐบาลซึ่งมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจมายาวนานส่งผลต่อรายได้ที่เข้ามาแน่นอน
ท
ความต้องการใช้หม้อแปลงไฟฟ้าของประเทศเติบโตตามความต้องการใช้ไฟฟ้าโดยประเมินว่าขนาดหม้อแปลงไฟฟ้ารวม 120,000 MVA จะเป็นที่ต้องการระหว่างปี
2550-2558
ท คาดการณ์รายได้ว่าจะเติบโตถึง 30% ในปี 2549 จากการที่มีงานส่งมอบแน่นอน
โดย ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์บริษัทฯมีมูลค่างานที่จะรับรู้รายได้ในปีนี้รวม
955 ล้านบาทหรือ 70% ของประมาณการยอดขายปีนี้
ท ความเสี่ยงหลักมาจากราคาวัตถุดิบที่ผันผวน
แต่บริษัทฯก็สามารถส่งผ่านผลกระทบไปให้ผู้ซื้อได้ดี ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 21% ในปี 2546
เป็น 25% ในปี 2548

บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้

[chansaiw]

เห็นว่าสัดส่วนส่งออกต่อในประเทศนี่ 80-90 : 10

ในประเทศก็ต้องแข่งกับบริษัทในประเทศเพราะลูกค้าใหญ่ของเค้าคือรัฐวิสาหกิจทั้งหลาย
ก็ต้องผ่านทางการประมูลอีก

ไม่ชอบเลยแฮะ พวกประมูลเนี่ย

[terati20]

ผมขอ share  ความรู้ด้วยนิดนึงครับ

หม้อแปลงไฟฟ้า มีความจำเป็นในระบบไฟฟ้า มากครับ เพื่อแปลงไฟจาก แรงดันสูง เป็น ต่ำ หรือ ทางตรงข้ามก็ได้  
วัตถุดิบที่ใช้ เป็น
1. ทองแดง ส่วนใหญ่ประมาณ 60-70%
2.เหล็กชนิดพิเศษ  15-30% เหล็กตัวนี้แพงมากๆ เป็นเหล็กเฉพาะ
ต้องนำเข้าอย่างเดียวจาก เยอรมัน ญี่ปุ่น รัสเซีย
3. น้ำมัน เเละ เหล็ก ตัวถัง      10-15%
4.เป็นอุปกรณ์ประกอบตัวถัง

ต้นทุนจึงไม่แน่นอน แต่ราคาขายคงที่ ขึ้นอยู่กับการประมูลเป็นส่วนใหญ่
ลูกค้ารายใหญ่คือ การไฟฟ้า

จะเรียกว่า เป็น Commodity  กลายก็ได้ ไม่มี Brand royalty  ครับ

ยอดขายขึ้นอยู่กับ ความเจริญทางเศรษฐกิจ ถ้า ความต้องการใช้ไฟ สูง
ก็ยังขายได้้

น่าจะเป็น  Cyclical stock ตัวหนึ่ง

ผู้บริหาร เก่งมากครับ ทางเทคนิค customer service ดีมาก (พาผมไปเลี้ยงบ่อยๆ) :lol:  :lol:  :lol:
รู้ลึกรู้จริงปัจุบันเป็นคนไทยเพียงเจ้าเดียวที่ทำ
หม้อแปลง 115 KV  และ 230 KV ได้

[Viewtiful Investor]

มี ABB เป็นคู่แข่งซะด้วย

ABB เป็น International Company ที่ใหญ่มากๆ อย่างนี้จะสู้ด้าน technology ไหวหรือเปล่านะ

อยากให้ ABB(Thailand) เข้าตลาดจัง จะได้ทดแทนคุณ

[ROGER]

เทียบ ยูนิมิตรไม่ได้หรอก  ฐานะทางการเงิน ถิรไทยนี่  ต้องบอกว่า ถ้าปีไหนไม่กำไร  เตรียมเข้า ไอซียูได้เลย  

หนี้เก่าเกือบ 400 ล้าน ทำมาหากินกี่ปีถึงจะจ่ายหมด  นี่มาหาเงินไปใช้เจ้าหนี้ได้ 80 ล้าน  เจ้าหนี้ก็ไม่ลดหนี้เก่าให้  แถมยังมาสร้างฝันว่าจะจ่ายปันผลให้อีก  ถ้าเจ้าหนี้ยอม  เพราะบริษัทเริ่มกำไร  ผมกลัวว่าเจ้าหนี้เค้าจะไม่ยอมนะสิ

ในแง่ชื่อเสียงของหม้อแปลงถิรไทย  ในอดีตเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว  ในงานของเอกชน  ผมในฐานะที่ซื้อบ่อยๆๆ   ขอบอกว่า  เป็นยี่ห้อที่ถือเป็นระดับล่าง  คือไม่ได้รับความนิยม หรือยอมรับของผู้ออกแบบชั้นนำ  บอกได้เลยว่าผมไม่เคยซื้อหม้อแปลงยี่ห้อถิรไทย  ส่วนงานราชการนั้น มาร์จินก็ต่าเหลือเกิน

ทางเคจีไอ ให้หุ้นจองมา  ผมดูงบแล้วมันไม่น่ารอด เลยไม่ขอจอง  ไว้ใกล้ๆๆ 3 บาท อาจจะซื้อเก็งกำไร

ในความเห็นผม ผมว่าไม่เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว

[สุมาอี้]

ช่วงนี้ชาว TVI ขุดคุ้ยหุ้นกันหนักขนาดนี้ ตลาดหุ้นไทยจะไม่ efficient ยังไงไหว

อยากให้ ABB(Thailand) เข้าตลาดจัง จะได้ทดแทนคุณ

เคยไปฝึกงานมาหรือไงครับ พี่ฝึกงานที่นี่

[Boring Stock Lover]

[quote="terati20"]
รู้ลึกรู้จริงปัจุบันเป็นคนไทยเพียงเจ้าเดียวที่ทำ
หม้อแปลง 115 KV

[ลูกอิสาน]

หม้อแปลงมี 2 แบบครับ

-หม้อแปลงระบบจำหน่าย -ขนาดเล็ก
-หม้อแปลงระบบกำลัง- ขนาดใหญ่

เอกรัฐทำเฉพาะระบบจำหน่ายครับ จำได้เลาๆว่าในอดีตเคยรวมทุนกับต่างชาติผลิตหม้อแปลงระบบกำลัง แต่เข้าใจว่าเจ๊งไปแล้วครับ  แต่ส่วนใหญ่ผมก็เจอหม้อของเอกรัฐมากกว่าของถิรไทย


เรื่องหนี้หากไม่มีการปันผล ไม่ลงทุนหนักและกำไรเหมือนปี 48
จะใช้เวลา 2.6 ปีในการจ่ายหนี้ 410 ล้านครับ

ปีที่แล้วควรจะมีกำไร 94 ล้าน ไม่ใช่ 77 ล้าน เพราะมีการตั้งสำรองให้อนุรักษ์นิยม ปีนี้น่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทหรือ 1 บ/หุ้น ที่ราคา 5.4 บาท ก็ไม่แพงครับ ใครสนใจลองอ่านรายละเอียดในหนังสือชี้ชวนครับ

[ลูกอิสาน]

หม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่าย- เป็นหม้อแปลงที่ใช้แปลงไฟในขั้นตอนการจำหน่ายให้ตามบ้านเรือน ปัจจุบันมีผู้ผลิตประมาณ 21 ราย มี 10 รายที่มีเทคโนโลยีเอง ส่วนที่เหลือเป็นรายเล็กๆ  ถิรไทยมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 12-15% อยู่อันดับ 3 ส่วนอันดับหนึ่งคือเอกรัฐ  แม้หม้อแปลงชนิดนี้จะมีคู่แข่งมาก แต่ก็พอมีกำไร เพราะผลิตตามออร์เดอร์ครับ โดยเช็คต้นทุนก่อนเสนอราคา

หม้อแปลงไฟฟ้าระบบกำลัง - เป็นหม้อแปลงที่ใช้แปลงไฟจากระบบสายส่งแรงสูง ส่วนใหญ่จะใช้ในสถานีจ่ายไฟฟ้า หรือโรงงานขนาดใหญ่  เหตุผลนี้ทำให้เราไม่เห็นหม้อแปลงไฟฟ้าของถิรไทยบ่อยๆครับ

คู่แข่งในประเทศมี 3 ราย trt มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 30 % การแข่งขันน้อยกว่า เพราะต้องใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน โดย TRT ซื้อโนฮาวจากออสเตรีย แนวโน้มการแข่งขันจากผู้เล่นรายใหม่น้อย เพราะปัจจุบันการขอไลเซนต์การผลิตทำได้ยาก เพราะผู้ผลิตต่างประเทศควบรวมจนเหลือน้อยราย การสร้างโรงงานต้องลงทุนสูงถึง 4-5 ร้อยล้าน ไม่เหมือนหม้อแปลงระบบจำหน่ายที่ลงทุนแค่ 30 ล้านก็ตั้งได้แล้ว


ในอดีต trt ต้องมีหนี้จำนวนมาก และกำไรทำได้ค่อนข้างน้อย เพราะตั้งโรงงานเสร็จหลังวิกฤติเศรษกิจ ทำให้ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน และไม่มีคำสั่งซื้อ ส่วนมาร์จินที่ทำได้ต่ำ ส่วนหนึ่งเพราะดอกเบี้ยจ่ายสูง และอยู่ในช่วงการใช้กลยุทธ์ราคาสำหรับหม้อแปลงระบบกำลัง เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาด เมื่อลูกค้ามีความเชื่อถือ ก็สามารถเพิ่มราคาให้มีกำไรปกติ

[Boring Stock Lover]

ขอบคุณครับ

ไม่รู้ว่าใน TOR มีการกำหนดให้เป็นของผลิตในไทยหรือเปล่า ถ้าไม่มีสินค้าพวกนี้น่าจะแข่งกับต่างประเทศเป็นหลัก

[yoyo]

1. ทองแดง ส่วนใหญ่ประมาณ 60-70%

ราคาทองแดงแบบนี้จะเอาอยู่มั๊ยครับ

[ลูกอิสาน]

ต้นทุนวัตถุดิบของหม้อแปลงเป็น 60-65% ของราคาขายครับ ประกอบด้วยรายการดังนี้

เหล็กซิลิคอน - 30% เป็นเหล็กที่ผสมซิลิคอน
ลวดทองแดงพันฉนวน - 20%
ตัวถังหม้อแปลง - 12%
น้ำมันหม้อแปลง - 8 %

วัตถุดิบทั้งหมด ราคาสูงขึ้นมากในปีที่แล้ว
แต่มาร์จินขั้นต้นที่ทำได้ก็ยังปกติครับ

2546 - 21%
2547 - 24%
2548 - 25%

วิธีลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบ สามารถอ่านได้ในหนังสือชี้ชวนครับ

**พวกหม้อแปลงไฟฟ้าจะมีวัตถุดิบพวกลวด ในแง่ต้นทุนวัตถุดิบมีมากไหม
      ก็มากหากเทียบกับธุรกิจอื่น เป็นต้นทุนที่มีวัตถุดิบค่อนข้างสูง ประมาณ 60-65 % ของราคาขาย แต่หากวัตถุดิบรวมค่าการผลิตแล้วอยู่ที่ 72-75 % ของราคาขาย

**เราได้รับผลกระทบจากวัตถุดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน
       ไม่มี เพราะเราทำตามคำสั่งซื้อเราปรับราคาได้ตามต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว ในแง่การตั้งราคาเราเช็คต้นทุนก่อนตั้งราคาขาย

**เรามีตั้งสำรองวัตถุดิบไว้มากไหม
         มีไม่มาก

**เก็บสต็อกไว้นานไหม
          เราทำตามคำสั่งซื้อ เพราะฉะนั้นวัตถุดิบจะสั่งเป็นงานๆ ไป ไม่มีผลต่อการปรับราคาขึ้น

นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย หรือ TRT เปิดเผยว่า พอใจกับระดับราคาเปิดการซื้อขาย แม้ว่าราคาจะปรับตัวต่ำกว่าราคาจองหลังจากที่เปิดการซื้อขาย ทั้งนี้ประเมินสาเหตุที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลง เนื่องจากปัจจัยภายนอกหลายอย่าง อย่างไรก็ดียังเชื่อว่าหลังจากนี้ 1-2 วันราคาจะปรับตัวขึ้นตอบรับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทในที่สุด อีกทั้งมั่นใจว่าผลประกอบการของบริษัทจะยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้
         โดยปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,350-1,400 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตประมาณ 30% จากปี 48 ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ 1,100 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิปีนี้คาดว่าจะมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการเติบโตเท่ากับรายได้ อีกทั้งบริษัทจะพยายามรักษาการเติบโตของอัตรากำไรสุทธิในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนประมาณ 7-8% หรือมากกว่า เนื่องจากบริษัทมีการขยายตัวของยอดขายเพิ่ม ขณะที่ต้นทุนขายคงที่ โดยขณะนี้บริษัทมีงานในมืออยู่ 1,285 ล้านบาท โดยปีนี้จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ประมาณ  95%

ปีที่ผ่านมายอดขายประมาณ 1,100 ล้าน กำไรประมาณ 97 ล้าน
ปีนี้ยอดขายประมาณ 1,350 ล้าน  กำไรก็ไม่ควรจะต่ำกว่าปีที่ผ่านมาครับ
TRT มีหุ้นประมาณ 101 ล้านหุ้น

[Thaworn]

ผมเคยฝึกงานบริษัทหม้อแปลงแห่งหนึ่งมาก่อน อยู่ฝ่าย QC ผมว่ากำไรก็ค่อนข้างใช้ได้ เพราะได้คุยกับผู้บริหาร
   หม้อแปลงก่อนส่งจะมีการทดสอบหลายอย่าง ผมเคยเทสหม้อแปลงจนขดลวดทองแดงช๊อตก็ไม่กี่ตัว ก็ต้องให้ฝ่ายซ่อมบำรุงรื้อลวดทองแดงออกทิ้งแล้วพันใหม่ คิดเป็น cost ถือว่าน้อยมากๆ ปัญหานี้มักเกิดจากความมักง่ายของฝ่ายพันขดลวดซึ่งเกิดไม่บ่อย ปัญหาอย่างอื่นผมก็ไม่ค่อยเจอ ชุดทดสอบหม้อแปลงทั้งหมดถ้าบริษัททำขึ้นเองนี่ประหยัดเงินได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
   ธุรกิจหม้อแปลงจะผลิตตามออเดอร์ลูกค้าสั่งอย่างเดียว โดยตกลงทำสัญญากันล่วงหน้าครับ (พอดีผมซี้กับผู้บริหาร 2 ท่าน เลยได้ช่วยงานเอกสาร ทั้งเอกสารการออกแบบ สัญญาต่างๆ ) การลดต้นทุนวัตถุดิบจะออกแบบโดยคำนวณแล้วให้เวลาทดสอบมีค่าใกล้ๆจุดที่ยอมรับได้ เช่น 5% ทั้งๆที่บริษัทสามารถทำให้ได้ดีถึง 1 % เช่น ทดสอบการทนต่อกระแสฟ้าผ่า ทดสอบการลัดวงจร อ้อ ชิ้นส่วนบางอย่าง เช่น ลูกถ้วนฉนวนไฟฟ้า น้ำมัน จะสั่งจาก supplier ทำสัญญากันล่วงหน้าเหมือนกัน
   ข้อมูลส่วนใหญ่ก็แบบที่พี่ลูกอีสานว่าแหละครับ ปริมาณทองแดงที่ใช้ต่อลูกนี่มันอยู่ที่การออกแบบและลักษณะเฉพาะของหม้อแปลงที่ลูกค้าต้องการครับไม่ได้ตายตัวทุกแบบ

[Sexy Doom Doom]

เท่าที่อ่านมาทั้งหมด
ผมว่าในเรื่องต้นทุน ยอดขาย และmarginคงไม่มีปัญหา
ปัญหาหลักคือเรื่องหนี้ที่มาจากการปรับโครงสร้าง
ถ้าclearตรงนี้ได้ คงจะเป็นหุ้นที่ดีตัวหนึ่งครับ

[ลูกอิสาน]

หนี้เงินกู้ระยะสั้น+ระยะยาว-เงินสดที่มี เท่ากับ 410 ล้าน
ได้เงิน iPO ประมาณ 170 ล้าน แบ่งคืนหนี้ 85 ล้าน
คงเหลือหนี้ 325 ล้าน


กำไรปีที่แล้ว 97 ล้าน
บวกค่าเสื่อม 44 ล้าน
งบลงทุนทุกๆปี 14 ล้าน
คงเหลือ 44-14 = 30 ล้าน
กระแสเงินสด 127 ล้าน

ระยะเวลาคืนหนี้  325/127= 2.5-2.6 ปี

แต่ต้องไม่จ่ายปันผลนะครับ ผู้บริหารออกข่าวว่าจะจ่ายแล้ว ไม่รู้จะรีบจ่ายไปทำไม สงสัยจะห่วงราคาหุ้น


ส่วนหนึ่งของเงิน IPO จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน



ปัจจัยบวกคือรายจ่ายดอกเบี้ยจะลดลง
ปัจจัยลบคือจะเริ่มเสียภาษีประมาณไตรมาส 2 เพราะขาดทุนสะสมยกมาหมดแล้ว

[ROGER]

ระวังการคาดการณ์ยอดขายของโบรคเกอร์หรือ ของบริษัทให้ดีนะครับ  ถ้าไม่มีการลงทุนใหม่ๆๆ เกิดขึ้น ยอดขายอาจหงายหลังก็ได้  

หม้อแปลงลูกหนึ่ง ใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 20 ปี  มาร์จินที่ถิรไทยได้นี้  ผมว่าในแง่นักลงทุนต้องพิจารณาดูว่าคุ้มค่าหรือไม่  พวกสินค้าคงทนอื่นๆๆ  เช่นกระเบื้อง โถส้วม 10 ปี เราก็อยากเปลี่ยนกันแล้ว  แต่หม้อแปลงนี่ ไม่เห็นมีใครอยากเปลี่ยนเลย ถ้ามันไม่ไหม้  ต่อให้ไหม้ก็นำไปซ่อมได้  

และหากบริษัทต้องจ่ายภาษี  กำไรที่คาดว่าจะได้ 100 ล้านขึ้นก็คงไม่ถึง  ดังนั้น หนี้ระยะยาวต่างๆๆๆ 2.6 ปีคงจ่ายไม่หมด

และหลังจากที่บริษัทเข้าตลาด  สิ่งที่เกิดขึ้นประจำคือ เงินเดือนผู้บริหารขึ้นพรวดๆๆๆ  ค่าตอบแทนต่างๆๆขึ้นพราดๆๆๆ  รายจ่ายอื่นๆๆ ตามมาแบบคาดไม่ถึง  ดังนั้น  ถ้าเราเลือกได้  ก็หาพวกหนี้น้อยๆๆๆ จะดีกว่าครับ

[BigBoat]

อ่านความเห็นหลายท่าน
ท่านลูกอีสาน คงติดตามเรื่องนี้พอสมควร ให้ได้จากรายละเอียดที่post
งั้นคุณลูกอีสานว่ายังไงดีครับ กับราคาปัจจุบัน
น่าซื้อไหมครับ

[ลูกอิสาน]

อ่านความเห็นหลายท่าน
ท่านลูกอีสาน คงติดตามเรื่องนี้พอสมควร ให้ได้จากรายละเอียดที่post
งั้นคุณลูกอีสานว่ายังไงดีครับ กับราคาปัจจุบัน
น่าซื้อไหมครับ

ผมเดาว่าปีนี้ trt น่าจะทำกำไรได้ไม่น้อยกว่า 1 บ/หุ้น
ดังนั้นราคาตลาด 5.4 บาท คิดเป็น P/E ได้ 5.4 เท่า
ถ้าวัดจาก P/E ก็ต้องบวกว่าถูกครับ

ตัวเลขที่นำมาเป็นการคาดเดาจากสมมุติฐานดังนี้ครับ

ปัจจัยด้านบวก

- การขยายกำลังการผลิตในส่วนหม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง จาก 200 MVA เป็น 300 MVA

- ปีนี้ TRT มีงานที่จะรับรู้รายได้จำนวนมาก บางส่วนเป็นงานที่เลื่อนมาจากปี 48

- การขยายตลาดไปต่างประเทศ โดยเฉพาะหม้อแปลงระบบไฟฟ้ากำลัง ซึ่งมีคู่แข่งน้อยรายในภูมิภาคนี่ ตลาดที่สำคัญคือ เวียดนาม เขมร พม่า  โดยเฉพาะเวียดนาม มีคำสั่งซื้อจำนวนมาก ปัจจุบันรายได้จากต่างประเทศเฉลี่ยประมาณ 30% (นำเข้าวัตถุดิบ 30 % เป็นการ hadge ค่าเงินไปในตัว) ในอนาคตคาดว่ารายได้จากต่างประเทศจะมีสัดส่วนมากขึ้น

- การใช้หม้อแปลงขยายตัวตามการใช้ไฟฟ้าของประเทศ ทุกๆ 1 เมกกะวัตที่ใช้ไฟเพิ่ม จะใช้หม้อแปลง 6 เมกกะโวลต์แอมแปร์ และ 18 ปีที่ผ่านมายอดใช้ไฟฟ้าของประเทศติดลบ 2 ปีคือปี 41-42 หลังวิกฤตเศรษกิจ (ปีเดียวกับที่โรงงานใหม่ของ TRT สร้างเสร็จ สาเหตุนี้ทำให้ต้องปรับโครงสร้างหนี้)

- การทดแทนหม้อแปลงเก่า ที่หมดอายุใช้งาน เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ผมไม่มีตัวเลขตลาดทดแทน แต่จำได้ว่ามีสัดส่วนค่อนข้างมาก

- 1-2 ปีนี้มีโรงงานปิโตรเคมี และอาคารสูงเกิดขึ้นมาก  และ TRT ก็มีหม้อแปลงพิเศษที่จะขายในกลุ่มนี้ เช่น หม้อแปลงแบบ cast resin ที่ใช้ในตึกสูง หม้อแปลงพิเศษตามการใช้งาน จากโรงงานปิโตรเคมีต่างๆ



ปัจจัยด้านลบ

- TRT มีขาดทุนสะสมที่จะลดหย่อนกำไรได้อีกประมาณ 50 ล้าน ทำให้ไตรมาส 2 อาจจะเริ่มเสียภาษีบางส่วน

- ราคาทองแดงที่เพิ่มขึ้นมาก ไม่แน่ใจว่าจะมีผลต่อมาร์จินหรือเปล่า

- หนี้จำนวนค่อนข้างมาก ทำให้ต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ชดเชยได้จากการนำเงิน ipo คืนหนี้ 85 ล้าน

[ลูกอิสาน]

ถ้าให้พิจารณาถึงคุณภาพหุ้น TRT ผมให้แค่เกรด C+ เท่านั้นครับ
โดยเฉพาะเรื่องหนี้ที่ค่อนข้างสูง ดังที่คุณ Roger ตั้งข้อสังเกตุไว้
แต่ด้วยอัตราส่วน P/E ที่ค่อนข้างต่ำ ผมคิดว่าก็พอชดเชยกันได้
ปกติแล้วหุ้นที่ P/E ต่ำ มักเป็นหุ้นที่อนาคตกำไรมีแนวโน้มลดลง
แต่สำหรับตัวนี้ ผมคิดว่าเค้าน่าจะทำกำไรเพิ่มขึ้นได้ไม่มากก็น้อย

ส่วนความเสี่ยงเรื่องงานประมูลที่มีความไม่แน่นอน ผมมองว่าเป็นปกติของธุรกิจนี้ครับ ตลาดหม้อแปลงในประเทศมีมูลค่า 5,300 ล้านในปี 2549  โดยที่ผ่านมา TRT มีส่วนแบ่งเฉลี่ยประมาณ 20% ดังนั้นก็ถือว่าเป็นรายใหญ่ และมีสายสัมพันธ์ที่ดีพอสมควร และในอนาคตก็เชื่อว่าจะเป็นอย่างนั้น


ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว ท่านใดสนใจลองหาข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ

และต้องจำไว้ว่าเงินอยู่ในกระเป๋าท่านเอง ถ้ามันจะหายหรือจะเพิ่ม ก็เพราะตัวท่านเองนะครับ :

[terati20]

พี่ลูกอีสานรู้ลึก รู้จริงครับ
ถ้า TRT ได้งานจาก ที่ทำงานผมเมื่อไหร่แล้วจะมาเล่ากันฟัง

[ลูกอิสาน]

ดูจะผิดท่าซะแล้ว
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และบริษัทย่อยไตรมาสที่1(F45-2)
                         บริษัทถิรไทย จำกัด (มหาชน)

                                                         สอบทาน
                                                     (หน่วย : พันบาท)
                                            สิ้นสุดวันที่  31 มีนาคม
                                               ไตรมาสที่ 1
              ปี                            2549              2548

     กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                    (979)          29,948
     กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)          (0.01)          0.69



หลักทรัพย์ TRT  
 หัวข้อข่าว ชี้แจงสาเหตุการเปลี่ยนแปลงของงบกำไรขาดทุนมากกว่าร้อยละ 20  
 วันที่/เวลา 15 พ.ค. 2549 09:37:10  
 
 
 
    เรื่อง ชี้แจงสาเหตุการเปลี่ยนแปลงของงบกำไรขาดทุนมากกว่าร้อยละ 20 เทียบกับงวดเดียวกัน
  ของปีก่อนหน้า
  เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
  สำเนา เรียน เลขาธิการ สำนักงาน ก.ล.ต.
 
  ตามที่บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) ได้นำส่งงบการเงินรายไตรมาส สำหรับไตรมาสที่
  1 สิ้นสุด ณ. วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2549 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 15
  พฤษภาคม พ.ศ. 2549 แล้วนั้น
 
  บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงถึงสาเหตุที่ทำให้ผลการดำเนินงานตามงบกำไรขาดทุนของบริษัทฯ มีผลขาดทุน
  สุทธิในไตรมาสที่ 1 เท่ากับ 978,675 บาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงมากกว่าร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับไตร
  มาสเดียวกันของปีที่ผ่านมาดังต่อไปนี้
 
  1. รายได้รวมลดลงจาก 332 ล้านบาทเป็น 280 ล้านบาท หรือคิดเป็นการลดลง 15.6% ซึ่งมี
  สาเหตุมาจากการส่งมอบล่าช้า เนื่องจากสถานที่ในการติดตั้งหม้อแปลงของลูกค้าไม่พร้อมทำให้มีการ
  เลื่อนการรับมอบหม้อแปลง และเรือสำหรับขนส่งหม้อแปลงสำหรับลูกค้าต่างประเทศมีการเลื่อน
  กำหนดไปส่งมอบในไตรมาสที่ 2
 
  2. อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 21.6% เป็น 18.6% เนื่องจากรายได้ของลูกค้าต่างประเทศซึ่งมี
  อัตรากำไรขั้นต้นต่ำเพิ่มขึ้นจาก 11.5 ล้านบาท เป็น 128.1 ล้านบาท ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นของ
  ลูกค้าต่างประเทศมีค่าต่ำนั้นมีสาเหตุมาจากการดำเนินกลยุทธ์ด้านการตลาดด้านราคาของบริษัทฯใน
  การเปิดตลาดต่างประเทศ
 
  3. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นจาก 36.6 ล้านบาท เป็น 45.8 ล้านบาท หรือคิด
  เป็นการเพิ่มขึ้น 25.1% โดยมีสาเหตุหลักสองประการคือ ค่าใช้จ่ายในการส่งออกเพิ่มขึ้นจาก
  0.64 ล้านบาทเป็น 7.42 ล้านบาทตามการเพิ่มขึ้นของยอดขายต่างประเทศ และค่าใช้จ่ายด้าน
  บุคลากรที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของธุรกิจ
 
  4. ผลจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 2.4 ล้านบาท เทียบกับ ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร
  จากอัตราแลกเปลี่ยน 1.7 ล้านบาท
 
  จึงเรียนมาเพื่อทราบและกรุณาดำเนินการเผยแพร่แก่นักลงทุนทราบต่อไป
 
                          ขอแสดงความนับถือ
 
 
                          (นายอุปกรม ทวีโภค)
                    รองกรรมการผู้จัดการ (การเงินและการตลาด)

[terati20]

เจอลูกค้าการไฟฟ้าก็อย่างงี้แหละ ของเสร็จแล้วแต่ยังไม่รับเนื่องจากไม่มีที่เก็บ และสถานีจ่ายไฟยังสร้างไม่เสร็จ  


:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

โปรดติดตามตอนต่อไป 

เห็น ipo หลายๆตัวแล้วเสียว 

ชอบย่องลงไปเรือยๆ ๆ 

แถม ไตรมาสต่อมา หลังจากเข้าตลาด ประกาส ขาดทุนโครม 

อืม 

หวังว่าเจ้านี้จะไม่เป็นนะ 

มีคนที่มีชื่อเสียงหลายคน เป็นกรรมการ

[ลูกอิสาน]

ยังคาใจครับคุณ terati20
ยอดขายก็ไม่ขี้เหร่
แต่ไหงกลับขาดทุนไปได้
ดีนะครับ ที่ยังไม่พาใครไปซวย

ต้องรอดูไตรมาสหน้าครับ ว่าจะกลับมาได้หรือเปล่า