อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปครับ..
-
- Verified User
- โพสต์: 459
- ผู้ติดตาม: 0
อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปครับ..
โพสต์ที่ 1
" History repeats itself "
ประโยคนี้ยังคงเป็นอมตะตลอดกาล
วิกฤติทางการเงินมักมี Cycle ประมาณ 7 ปี +- แน่นอนว่าไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่จิงๆ
เลยอยากเชิญชวนพี่ๆ นักลงทุนที่ผ่านประสบการณ์การผ่านวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นการเงิน ปี 2540, Hamburger crisis หรือ วิกฤตสงคราม
มาเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นครับ
อยากให้พี่ ช่วย share
1. สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับ ศก
2. ผลต่อตลาดหุ้น รุนแรง รวดเร็วแค่ไหน
3. การปรับ port รับมือ
4. สำหรับวิกฤติในครั้งต่อไป เราควรมองอะไรเป็น Leading Indicator เพื่อสังเกตการ ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นครับ
อยากเชิญชวนจริงๆ ครับพี่ๆ
เพราะผมเองและพี่ๆ น้องๆ หลายๆคนที่เข้ามาใหม่คงไม่ผ่านมาเป้นแน่แท้
สวัสดีปีใหม่ไทยครับพี่ๆ น้องๆ ทุกๆ คนครับ
ขอให้ทุกคนมีความสุขและประสบความสำเร็จในการลงทุนดั่งหวังครับ
น้องดล
ประโยคนี้ยังคงเป็นอมตะตลอดกาล
วิกฤติทางการเงินมักมี Cycle ประมาณ 7 ปี +- แน่นอนว่าไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่จิงๆ
เลยอยากเชิญชวนพี่ๆ นักลงทุนที่ผ่านประสบการณ์การผ่านวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นการเงิน ปี 2540, Hamburger crisis หรือ วิกฤตสงคราม
มาเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นครับ
อยากให้พี่ ช่วย share
1. สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับ ศก
2. ผลต่อตลาดหุ้น รุนแรง รวดเร็วแค่ไหน
3. การปรับ port รับมือ
4. สำหรับวิกฤติในครั้งต่อไป เราควรมองอะไรเป็น Leading Indicator เพื่อสังเกตการ ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นครับ
อยากเชิญชวนจริงๆ ครับพี่ๆ
เพราะผมเองและพี่ๆ น้องๆ หลายๆคนที่เข้ามาใหม่คงไม่ผ่านมาเป้นแน่แท้
สวัสดีปีใหม่ไทยครับพี่ๆ น้องๆ ทุกๆ คนครับ
ขอให้ทุกคนมีความสุขและประสบความสำเร็จในการลงทุนดั่งหวังครับ
น้องดล
"The Winners .... never Quit, The Quitters .... never Win"
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปคร
โพสต์ที่ 2
ขอให้ความเห็นและคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องจิตใจอย่างเดียวละกันนะครับ
เพราะ ถ้าว่ากันด้วยวิกฤต ศึกษาลึกลงไปในเรื่องวิกฤต จะพบว่า ไม่มี indicator อะไรที่ฟันธงวิกฤตในอนาคตได้อย่างแน่นอน... เรารู้แค่ว่า ณ วันใดวันหนึ่ง วิกฤตต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และเราไม่มีทางชัวร์ได้เลยว่า นี่คือวิกฤตแล้ว นี่คือจุดเริ่มต้นของวิกฤต นี่ถึงท่ามกลางของวิกฤต นี่คือจุดสิ้นสุดของวิกฤต... กว่าจะรู้ว่าวิกฤตเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ก็ต้องให้เวลาผ่านไปสักพัก และบางที ที่เราคิดว่าวิกฤตได้ผ่านไปแล้ว บางทีอาจจะยังเป็นแค่โหมโรงของวิกฤตก็ได้
ดังนั้น ผมว่าแทนที่จะทำนายวิกฤต... เราน่าจะฝึกคุณสมบัติในการที่จะอยู่กับวิกฤต และก้าวข้ามผ่านวิกฤตน่าจะดีกว่า
ผมคิดว่าการผ่านวิกฤตได้ องค์ประกอบที่สำคัญที่สุด คือ จิตใจครับ
คนที่จิตใจเข้มแข็ง พอร์ตเจ๊งไป 99% เหลือแค่ 1% แล้วทุกวันนี้ยังลงทุนต่อ อันนี้เรียกได้ว่าผ่านวิกฤตมาได้
คนที่จิตใจอ่อนแอ พอร์ตเจ๊งไปแค่ 50% บางทีก็ปิดเสื่อ เผ่นแนบ สาบแช่งตลาดหุ้น ว่าเป็นบ่อนพนันอย่างถูกกฎหมาย อันนี้คงจะเรียกว่าผ่านไม่ได้
ในการลงทุน จะมีวันใดวันหนึ่งที่จะเกิดวิกฤตกับพอร์ตเราอย่างแน่นอน จะรุนแรงมาก รุนแรงน้อย จะเป็นวิกฤตระดับหุ้นรายตัว ระดับพอร์ต หรือระดับตลาดโดยรวมก็แล้วแต่ สุดท้ายแล้วเรื่องความเข้มแข็งของจิตใจเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในการผ่านวิกฤต
....
แล้วการทำอย่างไรล่ะ ที่จะทำให้จิตใจเข้มแข็งขึ้น... วิธีฝึกมีเยอะแยะมากมายครับ ตั้งแต่ศึกษาว่าเวลาวิกฤตเกิดอะไรขึ้น ฝึกเอาตัวลงไปอยู่ท่ามกลางปัญหา เพื่อฝึกทักษะในการควบคุมจิตใจ เรียกว่าทำ simulation ตลอดจนฝึกที่จะเจริญสติ ให้เท่าทันความโลภความกลัว มีกำลังใจที่เข้มแข็งในการเอาชนะทุกปัญหา
แต่จุดเริ่มต้นที่สุด คือ เราต้องเห็นความสำคัญก่อนว่า ในการเป็นนักลงทุน คุณสมบัติอันหนึ่ง คือ การฝึกความเข้มแข็งของจิตใจ
เพราะ ถ้าว่ากันด้วยวิกฤต ศึกษาลึกลงไปในเรื่องวิกฤต จะพบว่า ไม่มี indicator อะไรที่ฟันธงวิกฤตในอนาคตได้อย่างแน่นอน... เรารู้แค่ว่า ณ วันใดวันหนึ่ง วิกฤตต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และเราไม่มีทางชัวร์ได้เลยว่า นี่คือวิกฤตแล้ว นี่คือจุดเริ่มต้นของวิกฤต นี่ถึงท่ามกลางของวิกฤต นี่คือจุดสิ้นสุดของวิกฤต... กว่าจะรู้ว่าวิกฤตเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ก็ต้องให้เวลาผ่านไปสักพัก และบางที ที่เราคิดว่าวิกฤตได้ผ่านไปแล้ว บางทีอาจจะยังเป็นแค่โหมโรงของวิกฤตก็ได้
ดังนั้น ผมว่าแทนที่จะทำนายวิกฤต... เราน่าจะฝึกคุณสมบัติในการที่จะอยู่กับวิกฤต และก้าวข้ามผ่านวิกฤตน่าจะดีกว่า
ผมคิดว่าการผ่านวิกฤตได้ องค์ประกอบที่สำคัญที่สุด คือ จิตใจครับ
คนที่จิตใจเข้มแข็ง พอร์ตเจ๊งไป 99% เหลือแค่ 1% แล้วทุกวันนี้ยังลงทุนต่อ อันนี้เรียกได้ว่าผ่านวิกฤตมาได้
คนที่จิตใจอ่อนแอ พอร์ตเจ๊งไปแค่ 50% บางทีก็ปิดเสื่อ เผ่นแนบ สาบแช่งตลาดหุ้น ว่าเป็นบ่อนพนันอย่างถูกกฎหมาย อันนี้คงจะเรียกว่าผ่านไม่ได้
ในการลงทุน จะมีวันใดวันหนึ่งที่จะเกิดวิกฤตกับพอร์ตเราอย่างแน่นอน จะรุนแรงมาก รุนแรงน้อย จะเป็นวิกฤตระดับหุ้นรายตัว ระดับพอร์ต หรือระดับตลาดโดยรวมก็แล้วแต่ สุดท้ายแล้วเรื่องความเข้มแข็งของจิตใจเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในการผ่านวิกฤต
....
แล้วการทำอย่างไรล่ะ ที่จะทำให้จิตใจเข้มแข็งขึ้น... วิธีฝึกมีเยอะแยะมากมายครับ ตั้งแต่ศึกษาว่าเวลาวิกฤตเกิดอะไรขึ้น ฝึกเอาตัวลงไปอยู่ท่ามกลางปัญหา เพื่อฝึกทักษะในการควบคุมจิตใจ เรียกว่าทำ simulation ตลอดจนฝึกที่จะเจริญสติ ให้เท่าทันความโลภความกลัว มีกำลังใจที่เข้มแข็งในการเอาชนะทุกปัญหา
แต่จุดเริ่มต้นที่สุด คือ เราต้องเห็นความสำคัญก่อนว่า ในการเป็นนักลงทุน คุณสมบัติอันหนึ่ง คือ การฝึกความเข้มแข็งของจิตใจ
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
- Verified User
- โพสต์: 459
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปคร
โพสต์ที่ 3
ขอบคุณครับพี่ Picatos
ผมอยากศึกษาวิกฤตครั้งที่ผ่านๆ มาทั่วโลกอะครับ ไม่ทราบว่าพี่พอจะแนะนำหนังสือ หรือ web ไหนที่เขียนดีๆ เข้าใจได้ง่าย ได้มั้ยครับ
จิงๆ ผมเข้าใจว่าหาใน google ก็พอได้ แต่ไม่ค่อยปะติปะต่อ รบกวนแนะนำหน่อยครับพี่
ขอบคุณครับ ^^
ผมอยากศึกษาวิกฤตครั้งที่ผ่านๆ มาทั่วโลกอะครับ ไม่ทราบว่าพี่พอจะแนะนำหนังสือ หรือ web ไหนที่เขียนดีๆ เข้าใจได้ง่าย ได้มั้ยครับ
จิงๆ ผมเข้าใจว่าหาใน google ก็พอได้ แต่ไม่ค่อยปะติปะต่อ รบกวนแนะนำหน่อยครับพี่
ขอบคุณครับ ^^
"The Winners .... never Quit, The Quitters .... never Win"
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปคร
โพสต์ที่ 4
หนังสือเรียนเศรษฐศาสตร์ทั่วไปเลยครับdonnyvi เขียน:ขอบคุณครับพี่ Picatos
ผมอยากศึกษาวิกฤตครั้งที่ผ่านๆ มาทั่วโลกอะครับ ไม่ทราบว่าพี่พอจะแนะนำหนังสือ หรือ web ไหนที่เขียนดีๆ เข้าใจได้ง่าย ได้มั้ยครับ
จิงๆ ผมเข้าใจว่าหาใน google ก็พอได้ แต่ไม่ค่อยปะติปะต่อ รบกวนแนะนำหน่อยครับพี่
ขอบคุณครับ ^^
ถ้าเรียนวิชาที่เกี่ยวเศรษฐฯ การเงิน เราก็จะพูดถึงวิกฤตที่เกิดจากการเงิน ถ้าเรียนวิชาที่เกี่ยวกับเศรษฐฯ มหภาค เราก็จะพูดถึงวิกฤตจากเศรษฐมหภาค ... วิกฤตเศรษฐฯ จุลภาค วิกฤตการค้าระหว่างประเทศ วิกฤตเนื่องจากการเมือง ฯลฯ
เยอะแยะมากมายศึกษาทั้งชีวิตก็ไม่หมดครับ ลองไปซื้อหนังสือเรียนเศรษฐศาสตร์มาอ่านสัก 2-3 เล่ม ไม่ก็เรียนต่อทางด้านเศรษฐศาสตร์เลยครับ จะได้องค์ความรู้ที่รอบด้านหน่อย คือ ผมได้มีโอกาสเรียนโท เศรษฐศาสตร์ ระหว่างประเทศครับ ระหว่างเรียนก็จะได้ศึกษา โมเดลทางเศรษฐศาสตร์ แล้วก็วิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้น มากมาย สนุกดี
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
- Verified User
- โพสต์: 81
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปคร
โพสต์ที่ 5
ผมลองตอบดูนะครับ
อันที่จริง VI นะครับจะซื้อเมื่อราคามี MOS เพียงพอ
ยิ่งสาย Super stock ซื้อทีก็ไม่ต้องปรับพอร์ตอะไรมาก
ถือยาวๆไปได้หลายปี มันก็โตของมันไปเรื่อยๆ
เวลาตลาดหุ้นเป็นกระทิง เราก็ซื้ออะไรไม่ค่อยได้มากหรอกครับ
จะซื้อเยอะๆก็ไม่ค่อยอยากซื้อหรอกเพราะมันก็ไม่ได้ถูกมาก
เงินจะเหลือ ยิ่งหุ้นขึ้นเงินก็จะเหลือเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
พอตอนวิกฤต ตังที่เหลือเยอะแยะ
ก็เอามาซื้อเพิ่มครับ ก็ตัวเดิมๆ
แถมตอนวิกฤตปันผลก็เยอะขึ้นนะครับ
ก็เอามาซื้อตัวเดิมอีก
สรุปถ้ามีวินัยจริงๆเจอวิกฤตนี่ยิ้มเลยครับ
ปล.นี่ความเห็นผมนะครับ
อันที่จริง VI นะครับจะซื้อเมื่อราคามี MOS เพียงพอ
ยิ่งสาย Super stock ซื้อทีก็ไม่ต้องปรับพอร์ตอะไรมาก
ถือยาวๆไปได้หลายปี มันก็โตของมันไปเรื่อยๆ
เวลาตลาดหุ้นเป็นกระทิง เราก็ซื้ออะไรไม่ค่อยได้มากหรอกครับ
จะซื้อเยอะๆก็ไม่ค่อยอยากซื้อหรอกเพราะมันก็ไม่ได้ถูกมาก
เงินจะเหลือ ยิ่งหุ้นขึ้นเงินก็จะเหลือเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
พอตอนวิกฤต ตังที่เหลือเยอะแยะ
ก็เอามาซื้อเพิ่มครับ ก็ตัวเดิมๆ
แถมตอนวิกฤตปันผลก็เยอะขึ้นนะครับ
ก็เอามาซื้อตัวเดิมอีก
สรุปถ้ามีวินัยจริงๆเจอวิกฤตนี่ยิ้มเลยครับ
ปล.นี่ความเห็นผมนะครับ
- Lastpun
- Verified User
- โพสต์: 819
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปคร
โพสต์ที่ 6
บางทีเป็นการยากที่จะคาดเดาวิกฤติ แต่ทว่าถ้าเราตามดูปัจจุบันมีการปรับพอร์ตรับความเสี่ยงบ้างก็คงจะเป็นการรับมือที่ดี เห็นด้วยครับว่าเราไม่รู้ว่าจะวิกฤติจะเริ่มเมื่อไร แต่ยกตัวอย่าง subprime หรือ dot com ผมว่าถ้า Value investor ตามสถานการณ์ก็คงพอจะเห็น sentiment ที่ bullish มากจนถึงจุดที่แอบน่ากลัว ก็อาจจะคิดถึงจุดทีจะลดความเสี่ยงพอร์ตตัวเอง
ในหนังสือเขากล่าวไว้นักลงทุนที่เทพๆ เขาไม่ได้ดูผลตอบแทนที่ดีในปีทีรุ่งโรด แต่เขาจะดูจากผลตอบแทนในปีที่แย่ครับ เพราะนักลงทุนเหล่านี้จะเป็นฝ่ายที่เอาตัวรอดและกลับมาพื้นได้เร็วครับ ในทางกลับกันฝ่ายที่เล่นแบบไม่กลัวปีที่ดีผลตอบแทนนี้สวยงาม แต่ปีที่เลวร้ายผลตอบแทนก็หายวับอย่างน่าใจหายได้ครับ
ในหนังสือเขากล่าวไว้นักลงทุนที่เทพๆ เขาไม่ได้ดูผลตอบแทนที่ดีในปีทีรุ่งโรด แต่เขาจะดูจากผลตอบแทนในปีที่แย่ครับ เพราะนักลงทุนเหล่านี้จะเป็นฝ่ายที่เอาตัวรอดและกลับมาพื้นได้เร็วครับ ในทางกลับกันฝ่ายที่เล่นแบบไม่กลัวปีที่ดีผลตอบแทนนี้สวยงาม แต่ปีที่เลวร้ายผลตอบแทนก็หายวับอย่างน่าใจหายได้ครับ
- Paul Octopus
- Verified User
- โพสต์: 798
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปคร
โพสต์ที่ 8
มีคนกล่าวไว้ว่า ถ้าเราคาดเดาได้มันจะไม่เกิดวิกฤติ ทุกครั้งที่เกิดวิกฤติรู้ก็เมื่อมันเกิดขึ้นไปแล้ว
Disclaimer & Disclosure: The articles posted only represent my personal view. They are by no means a guarantee to the stock performance. Have no plan to change my position to the stock mentioned over the next 72 hrs.
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 2
Re: อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปคร
โพสต์ที่ 10
ขอแนะนำกระทู้ ต่างๆ
ในวันที่ SET - 70 จุด
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=55869
ลองอ่านย้อนหลัง เอา SET index มาประกอบ จะ fin มาก
มีพี่ๆ คนไหนจำความรู้สึกตอนที่เข้ามาตลาดหุ้นครั้งแรก
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=58646
ประวัติแต่ละท่านเด็ดดวงมาก
บทเรียนการปรับฐานครั้งนี้ อยากให้ VI หน้าใหม่ดูเป็นกรณีศึกษา
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=35&t=2001
เคล็ดลับความกล้า
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=35&t=28835
อยู่ในคลังกระทู้คุณค่า...
ในวันที่ SET - 70 จุด
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=55869
ลองอ่านย้อนหลัง เอา SET index มาประกอบ จะ fin มาก
มีพี่ๆ คนไหนจำความรู้สึกตอนที่เข้ามาตลาดหุ้นครั้งแรก
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=58646
ประวัติแต่ละท่านเด็ดดวงมาก
บทเรียนการปรับฐานครั้งนี้ อยากให้ VI หน้าใหม่ดูเป็นกรณีศึกษา
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=35&t=2001
เคล็ดลับความกล้า
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=35&t=28835
อยู่ในคลังกระทู้คุณค่า...
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3227
- ผู้ติดตาม: 4
Re: อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปคร
โพสต์ที่ 11
ผมว่าถ้าอยากจะเข้าใจวิกฤตจริงๆ ควรเรียนโมเดลทางเศรษฐศาสตร์ครับ เพราะ โมเดลทางเศรษฐศาสตร์แต่ละอัน ส่วนใหญ่พัฒนามาจากวิกฤตที่เกิดขึ้น รวมไปถึงเป็นทางออกจากวิกฤตที่เกิดขึ้น
พอองค์ความรู้ทางเศรษฐศาสตร์น้อยเกินไป เวลาอ่าน หรือ ฟัง มันจะจับหลักได้ยาก แต่ถึงจะรู้แล้ว ศึกษาแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะเดาอนาคตได้นะครับ แค่ทำให้ฟังนักเศรษฐศาสตร์พูดได้รู้เรื่องมากขึ้น ไม่หลงไม่กับคำอธิบายต่างๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น
พอองค์ความรู้ทางเศรษฐศาสตร์น้อยเกินไป เวลาอ่าน หรือ ฟัง มันจะจับหลักได้ยาก แต่ถึงจะรู้แล้ว ศึกษาแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะเดาอนาคตได้นะครับ แค่ทำให้ฟังนักเศรษฐศาสตร์พูดได้รู้เรื่องมากขึ้น ไม่หลงไม่กับคำอธิบายต่างๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 2
Re: อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปคร
โพสต์ที่ 12
การคาดเดาอนาคตเป็นเรื่องยากมากครับ ยิ่งถ้าสามารถนำเอาการคาดเดามาใช้ประโยชน์ได้ ยิ่งเป็นเรื่องยากสุดสุดครับ แต่เราสามารถประเมิณได้นะครับ ว่าเราอยู่ในช่วงไหนของวัฎจักรของตลาดหุ้น เพื่อวางแผนการลงทุนอย่างระมัดระวังและเหมาะสมกับสถาณ์การณ์ สิ่งที่เราเช็คได้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดพอร์ทการลงทุนรับวิกฤติ มีเยอะครับเช่น
1.pe หุ้น หรือ ตลาด อยู่ในระดับใดเมื่อเทียบกับอดีีต
2.นักลงทุนเพื่อนเพื่อนเรา กำลังมองโลกแง่ดีขนาดไหน หรือ กำลังมองแง่ร้ายเกินความเป็นจริง นักวิเคราะห์ที่ออกสื่อ มีแง่มุมต่อการลงทุนดีมากน้อยแค่ไหน (หลายครั้งผลตอบแทนที่ดี มักจะสวนกระแสคนส่วนมาก แต่ต้องมีเหตุผลในการลงทุนที่ดีด้วย )
3.ส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนสินทรัพย์แบบหุ้น กับ ตราสารหนี้ต่างต่าง เหมาะสมแค่ไหน
4.การกู้ยืมสินเชื่อมีมากน้อยแค่ไหน และ ผู้ให้กู้อยากให้กู้ หรือ ระมัดระวังในการให้กู้ เป็นต้นครับ
แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่ระมัดระวังอยู่เสมอครับ เพราะเวลาวิกฤติมาจริง มันไม่ให้เราตั้งตัวทันครับ ต้องยอมรับความจริงว่าคงไม่มีนักลงทุนคนไหน คาดการณ์วิกฤติตลาดหุ้นได้ดีกว่านักลงทุนทั่วทั่วไปครับ
ผมแนะนำหนังสือ "แก่นการลงทุนแบบเน้นคุณค่า" ของ howard marks ครับแปลโดยพี่เวปครับ ดีมากมากครับ
1.pe หุ้น หรือ ตลาด อยู่ในระดับใดเมื่อเทียบกับอดีีต
2.นักลงทุนเพื่อนเพื่อนเรา กำลังมองโลกแง่ดีขนาดไหน หรือ กำลังมองแง่ร้ายเกินความเป็นจริง นักวิเคราะห์ที่ออกสื่อ มีแง่มุมต่อการลงทุนดีมากน้อยแค่ไหน (หลายครั้งผลตอบแทนที่ดี มักจะสวนกระแสคนส่วนมาก แต่ต้องมีเหตุผลในการลงทุนที่ดีด้วย )
3.ส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนสินทรัพย์แบบหุ้น กับ ตราสารหนี้ต่างต่าง เหมาะสมแค่ไหน
4.การกู้ยืมสินเชื่อมีมากน้อยแค่ไหน และ ผู้ให้กู้อยากให้กู้ หรือ ระมัดระวังในการให้กู้ เป็นต้นครับ
แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่ระมัดระวังอยู่เสมอครับ เพราะเวลาวิกฤติมาจริง มันไม่ให้เราตั้งตัวทันครับ ต้องยอมรับความจริงว่าคงไม่มีนักลงทุนคนไหน คาดการณ์วิกฤติตลาดหุ้นได้ดีกว่านักลงทุนทั่วทั่วไปครับ
ผมแนะนำหนังสือ "แก่นการลงทุนแบบเน้นคุณค่า" ของ howard marks ครับแปลโดยพี่เวปครับ ดีมากมากครับ
Small Details Make a Big Difference
- pavilion
- Verified User
- โพสต์: 1766
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปคร
โพสต์ที่ 13
ขอตอบแบบไม่ใช่ vi ครับ
1 เศรษฐกิจตกต่ำ รุนแรงมากน้อยขึ้นอยู่กับปัญหาที่เกิดและระยะเวลา
2 แล้วแต่อาจยืดเยื้อหรือเร็วและแรงก็ได้ แต่วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ตกเร็วแรงและฟื้นตัวเร็ว ซึ่งผมมองว่ามันไม่แน่ไม่นอนในเรื่องระยะเวลา
3 ขายหุ้นทิ้งให้หมดและเปิด short sale
4 ให้มองปัญหาที่เกิดกับเศรษฐกิจ ฟองสบู่ หนี้ ถ้าปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขจะเกิดฟองสบู่แตกและตามมาด้วยวิกฤตเศรษฐกิจ
1 เศรษฐกิจตกต่ำ รุนแรงมากน้อยขึ้นอยู่กับปัญหาที่เกิดและระยะเวลา
2 แล้วแต่อาจยืดเยื้อหรือเร็วและแรงก็ได้ แต่วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ตกเร็วแรงและฟื้นตัวเร็ว ซึ่งผมมองว่ามันไม่แน่ไม่นอนในเรื่องระยะเวลา
3 ขายหุ้นทิ้งให้หมดและเปิด short sale
4 ให้มองปัญหาที่เกิดกับเศรษฐกิจ ฟองสบู่ หนี้ ถ้าปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขจะเกิดฟองสบู่แตกและตามมาด้วยวิกฤตเศรษฐกิจ
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปคร
โพสต์ที่ 14
การคาดเดาว่าเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจหรือเปล่านั้น
วิกฤติ มันมาตอนที่เราไม่รู้ตัวเสมอ แต่เมื่อมันเกิดแล้ว เราก็ไม่รู้ตัวจนกระทั่งมันรุนแรง
มันมาโดยไม่เตือนกันก่อน ไม่เหมือนคลื่นที่กระทบฝั่ง แต่มันคือ ซึนามิ ที่พัดเข้าฝั่ง
แต่อย่างไรเสีย ในอดีตก็มีวิกฤติทางเศรษฐกิจ เกิดขึ้น /มีเหตุการณ์ฟองสบู่แตกก็หลายเหตุการณ์ในอดีต
ดังนั้น ศึกษาอดีต แล้วมองย้อนดูปัจจุบัน และส่องไปในอนาคตว่าเป็นเช่นไร
เมื่อรู้เช่นนี้ก็นอนหลับฝันดี
วิกฤติ มันมาตอนที่เราไม่รู้ตัวเสมอ แต่เมื่อมันเกิดแล้ว เราก็ไม่รู้ตัวจนกระทั่งมันรุนแรง
มันมาโดยไม่เตือนกันก่อน ไม่เหมือนคลื่นที่กระทบฝั่ง แต่มันคือ ซึนามิ ที่พัดเข้าฝั่ง
แต่อย่างไรเสีย ในอดีตก็มีวิกฤติทางเศรษฐกิจ เกิดขึ้น /มีเหตุการณ์ฟองสบู่แตกก็หลายเหตุการณ์ในอดีต
ดังนั้น ศึกษาอดีต แล้วมองย้อนดูปัจจุบัน และส่องไปในอนาคตว่าเป็นเช่นไร
เมื่อรู้เช่นนี้ก็นอนหลับฝันดี
-
- Verified User
- โพสต์: 678
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปคร
โพสต์ที่ 15
ถ้าพูดถึง วิกฤต คือ ราคาหุ้นลง ก็เพ่งความสนใจไปที่ราคาเลยครับ
มีประโยชน์อะไรถ้าเกิดวิกฤตต่างๆ แล้วราคาไม่ลง เพราะเหตุผลจะตามมา
สนับสนุนเสมอ
วิธีรับมือ คือไม่มีหนี้ และมีเงินสดเตรียมไว้เสมอ ครับ
มีประโยชน์อะไรถ้าเกิดวิกฤตต่างๆ แล้วราคาไม่ลง เพราะเหตุผลจะตามมา
สนับสนุนเสมอ
วิธีรับมือ คือไม่มีหนี้ และมีเงินสดเตรียมไว้เสมอ ครับ
- Saran
- Verified User
- โพสต์: 2377
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปคร
โพสต์ที่ 16
วิกฤตการเงินในแต่ละครั้ง สิ่งที่กระทบมากที่สุดคือมูลค่าสินทรัพย์ที่เราถืออยู่มันลดลงอย่างน่าตกใจ
ยิ่งเป็นหุ้นนี่มันโชว์เป็นตัวเลขแดงๆให้เราดูทุกวันเลยว่าเงินหายไปแล้วเท่าไร กระทบต่อสภาพหัวจิตหัวใจของเม่าน้อยอย่างผมเป็นที่สุด
ส่วนใหญ่ที่จะโดนหนักหนามากกว่ามูลค่าสินทรัพย์ที่หายไปคือ ปัญหาเรื่องสภาพคล่องของแต่ละคนมากกว่า
โดยเฉพาะคนที่ต้องรับภาระดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ ตรงนี้ผมมองว่าเป็นปัญหาร้ายแรงของนักลงทุนเลยนะ
พอขาดทุนมากๆ เริ่มกดดันตัวเองมาก พยายามจะเร่งสร้างผลตอบแทนเพื่อเอาคืน เริ่มหาวิธีการแปลกๆหวังรวยลัดมาใช้
สุดท้ายทัศนคติที่ผิดกับภาวะที่หน้ามืดตามัว ทำให้การตัดสินใจเลือกลงทุนผิดพลาดในที่สุด (ซื้อหุ้นดอย ถัวหุ้นเน่า ขายหุ้นดี)
ในเมื่อไม่มีใครบอกได้อย่างชัดเจนว่าวิกฤติจะมาเมื่อไร รุนแรงขนาดไหน
ทางที่ดีที่สุดคือการเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ มากกว่าที่จะมานั่งเดาอย่างที่เซียนๆแต่ละท่านแนะนำมา
- หุ้นที่ซื้อ เราเข้าดีตัวธุรกิจดีขนาดไหน มีเหตุผลที่ซื้อหรือขายอย่างไร จดบันทึกไว้และทำตามเหตุผลนั่น
- นึกถึงกรณีที่ worst case ที่สุด ถ้าเกิดจะเป็นอย่างไร มีการวางแผนสร้างเบาะกันชนไว้เพียงพอหรือยัง
- เห็นช้างขี้ แล้วอย่าไปขี้ตามช้าง เซียนที่เก่งๆทำกันได้ เราอาจทำไม่ได้ บรรทัดฐาน ความรู้, EQ การรับความเสี่ยงแต่ละคนมีไม่เหมือนกัน
- ลงทุนในความรู้ ฝึกฝนทักษะควบคุมจิตใจ สำคัญที่สุด
ยิ่งเป็นหุ้นนี่มันโชว์เป็นตัวเลขแดงๆให้เราดูทุกวันเลยว่าเงินหายไปแล้วเท่าไร กระทบต่อสภาพหัวจิตหัวใจของเม่าน้อยอย่างผมเป็นที่สุด
ส่วนใหญ่ที่จะโดนหนักหนามากกว่ามูลค่าสินทรัพย์ที่หายไปคือ ปัญหาเรื่องสภาพคล่องของแต่ละคนมากกว่า
โดยเฉพาะคนที่ต้องรับภาระดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ ตรงนี้ผมมองว่าเป็นปัญหาร้ายแรงของนักลงทุนเลยนะ
พอขาดทุนมากๆ เริ่มกดดันตัวเองมาก พยายามจะเร่งสร้างผลตอบแทนเพื่อเอาคืน เริ่มหาวิธีการแปลกๆหวังรวยลัดมาใช้
สุดท้ายทัศนคติที่ผิดกับภาวะที่หน้ามืดตามัว ทำให้การตัดสินใจเลือกลงทุนผิดพลาดในที่สุด (ซื้อหุ้นดอย ถัวหุ้นเน่า ขายหุ้นดี)
ในเมื่อไม่มีใครบอกได้อย่างชัดเจนว่าวิกฤติจะมาเมื่อไร รุนแรงขนาดไหน
ทางที่ดีที่สุดคือการเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ มากกว่าที่จะมานั่งเดาอย่างที่เซียนๆแต่ละท่านแนะนำมา
- หุ้นที่ซื้อ เราเข้าดีตัวธุรกิจดีขนาดไหน มีเหตุผลที่ซื้อหรือขายอย่างไร จดบันทึกไว้และทำตามเหตุผลนั่น
- นึกถึงกรณีที่ worst case ที่สุด ถ้าเกิดจะเป็นอย่างไร มีการวางแผนสร้างเบาะกันชนไว้เพียงพอหรือยัง
- เห็นช้างขี้ แล้วอย่าไปขี้ตามช้าง เซียนที่เก่งๆทำกันได้ เราอาจทำไม่ได้ บรรทัดฐาน ความรู้, EQ การรับความเสี่ยงแต่ละคนมีไม่เหมือนกัน
- ลงทุนในความรู้ ฝึกฝนทักษะควบคุมจิตใจ สำคัญที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 2545
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปคร
โพสต์ที่ 17
มีผูใหญ่เคยสอนผมไว้คือ
ถ้าเราไม่ได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนและตัดสินใจซื้อทรัพย์สินหรือสร้างหนี้สินที่ไม่จำเป็นต้องทำ
ระวังว่าเวลาเราเดือดร้อนสุด ๆ เราอาจต้องขายทรัพย์สินที่เป็นความจำเป็นของเราออกไป เพราะเป๋นทรัพย์สินสิ่งเดียวที่ยังมีมูลค่าและเป็นที่ต้องการของตลาดออกไปเมื่อคุณต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วนและเหลือทรัพย์สินและหนี้สินที่ไม่จำเป็นอยู่กับเราต่อไป
ภาวะแบบนี้จึงต้องตัดสินและทบทวนอย่างรอบคอบสม่ำเสมอ ก่อนที่เหตุการณ์บางอย่างจะบีบให้เราต้องทำในสิ่งตรงข้ามกับสิ่งที่เราสมควรจะทำก่อนหน้าครับ
อย่าประมาท
ถ้าเราไม่ได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนและตัดสินใจซื้อทรัพย์สินหรือสร้างหนี้สินที่ไม่จำเป็นต้องทำ
ระวังว่าเวลาเราเดือดร้อนสุด ๆ เราอาจต้องขายทรัพย์สินที่เป็นความจำเป็นของเราออกไป เพราะเป๋นทรัพย์สินสิ่งเดียวที่ยังมีมูลค่าและเป็นที่ต้องการของตลาดออกไปเมื่อคุณต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วนและเหลือทรัพย์สินและหนี้สินที่ไม่จำเป็นอยู่กับเราต่อไป
ภาวะแบบนี้จึงต้องตัดสินและทบทวนอย่างรอบคอบสม่ำเสมอ ก่อนที่เหตุการณ์บางอย่างจะบีบให้เราต้องทำในสิ่งตรงข้ามกับสิ่งที่เราสมควรจะทำก่อนหน้าครับ
อย่าประมาท
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
-
- Verified User
- โพสต์: 104
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปคร
โพสต์ที่ 20
ไม่มีใครรู้ว่าวิกฤติจะมาเมื่อไหร่ แต่เราเตรียมความพร้อม
พร้อมเสมอเหมือนวิกฤติอาจจะมาพรุ่งนี้ครับ
เช่น เราอาจจะเริ่มมีการปรับ port โดยเพิ่มเน้น defensive stock มากขึ้น
ถือเงินสดสำหรับใช้จ่ายยามฉุกเฉินล่วงหน้าอาจจะสัก 1-2 ปี(สำหรับบางคนที่ถือหุ้น100% หรือมากกว่า) และคิดเสมอว่า ถ้าราคาล่วงไปเยอะๆเรารับได้ เรายังใช้ชีวิตปรกติ แบบไม่กังวลมากๆได้ เน้นลงทุนสบายใจครับ
แต่ก็ไม่แนะนำให้ปิดจอ แล้วไม่ได้ศึกษาหาหุ้นดีๆต่อไปนะครับ ถ้าเจอตัวที่ดีกว่า upside ตามพื้นฐานเยอะกว่า
ก็พร้อมจะขายไปเข้าตัวใหม่ได้ทุกเมื่อครับ มีความสุขในการลงทุนนะครับ
พร้อมเสมอเหมือนวิกฤติอาจจะมาพรุ่งนี้ครับ
เช่น เราอาจจะเริ่มมีการปรับ port โดยเพิ่มเน้น defensive stock มากขึ้น
ถือเงินสดสำหรับใช้จ่ายยามฉุกเฉินล่วงหน้าอาจจะสัก 1-2 ปี(สำหรับบางคนที่ถือหุ้น100% หรือมากกว่า) และคิดเสมอว่า ถ้าราคาล่วงไปเยอะๆเรารับได้ เรายังใช้ชีวิตปรกติ แบบไม่กังวลมากๆได้ เน้นลงทุนสบายใจครับ
แต่ก็ไม่แนะนำให้ปิดจอ แล้วไม่ได้ศึกษาหาหุ้นดีๆต่อไปนะครับ ถ้าเจอตัวที่ดีกว่า upside ตามพื้นฐานเยอะกว่า
ก็พร้อมจะขายไปเข้าตัวใหม่ได้ทุกเมื่อครับ มีความสุขในการลงทุนนะครับ
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 2
Re: อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปคร
โพสต์ที่ 22
พร้อมรับมือกันรึยังครัช
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- Unstablemind
- Verified User
- โพสต์: 405
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อยากเชิญชวนพี่ๆ มาให้แนวทางในการรับมือวิกฤติครั้งต่อไปคร
โพสต์ที่ 24
ถ้ามีหุ้นก้อคงหนีไม่ทันเอาเงินปันผลไป reinvest ในหุ้นที่ราคาต่ำกว่า intrinsic value ทำงานประจำ กัดฟันออมในหุ้นไปเรื่อยๆอาจจะเอาเงินสดที่มีเหลือทุ่นตัวหนึ่งไปเลยซึ่งวิเคราะห์มาดีๆแล้ว
และอย่าท้อแท้สักวันพอร์ทจะต้องพันล้านให้ได้ตั้งเป้าสูงๆ
และอย่าท้อแท้สักวันพอร์ทจะต้องพันล้านให้ได้ตั้งเป้าสูงๆ
Its all about getting alpha.