พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออกมาลง

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
miracle57
Verified User
โพสต์: 15
ผู้ติดตาม: 0

พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออกมาลง

โพสต์ที่ 1

โพสต์

นักลงทุนแนวเน้นคุณค่าหลายคนประสบความสำเร็จในการลงทุนกระทั่งมีอิสระภาพทางการเงิน ส่วนใหญ่ตกผลึกทางความคิดในระดับสามารถมีทักษะการลงทุนที่ดีที่ค่อนข้างจะมั่นคงยั่งยืนในระดับปันผลเลี้ยงตัวเองได้ หลายคนออกจากงานประจำ และมาใช้เวลาเป็นนักลงทุนเน้นคุณค่าเต็มตัว เลี้ยงชีพได้ด้วยปันผลต่อปี และลงทุนตามแนวเดิมมาตลอดจนถึงปัจจุบัน

เคยอ่าน ดร.นิเวศน์ พูดไว้ว่าจะออกจากงานประจำอย่างน้อยควรจะมีพอร์ตมากกว่า 200 เท่าของค่าครองชีพตนต่อเดือน ส่วนตัวคิดว่า 200 เท่าแบบที่อาจารย์บอกอาจจะเสี่ยงไปนิด ถ้าคิดจากปันผลเฉลี่ยแบบอนุรักษ์นิยมใกล้เคียงตลาดประมาณ 3% ถ้าต้องการเงินใช้เดือนละ 20,000 ก็ต้องมีพอร์ต 6 ล้าน ปันผล 3% แค่ประมาณ 180,000 ตกแค่เดือนละ 15000 สภาพตลาดหุ้นขณะนี้นับว่าความเสี่ยงสูงหากออกจากงาน

คราวนี้จึงอยากจะถามเพื่อนๆจากประสบการณ์ตรงครับว่า คนที่รู้สึกได้ว่าท่านมีอิสระภาพทางการเงินแล้ว ท่านมีพอร์ตประมาณเท่าไร แล้ววันที่ท่านออกจากงานมาลงทุนเต็มตัว ท่านมีปันผลต่อปีประมาณเท่าไรครับ ถ้าจะแจ้งข้อมูลอื่นเช่นสถานภาพว่าเลี้ยงตัวคนเดียว หรือต้องดูแลพ่อแม่ทุกเดือน หรือมีภรรยาและลูกด้วย ก็ได้นะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Tibular
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 522
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 2

โพสต์

อย่างต่ำ ยี่สิบล้านครับ
ปันผลต่อปี นับเอาว่าได้ประมาณ 4-5% ต่อปี ก็ตกแปดแสนถึงล้านนึงต่อปี
ถึงจะสบายเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยค่าครองชีพสมัยนี้ครับ
My House
Verified User
โพสต์: 1311
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 3

โพสต์

Tibular เขียน:อย่างต่ำ ยี่สิบล้านครับ
ปันผลต่อปี นับเอาว่าได้ประมาณ 4-5% ต่อปี ก็ตกแปดแสนถึงล้านนึงต่อปี
ถึงจะสบายเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยค่าครองชีพสมัยนี้ครับ
เห็นด้วยครับ 20ล้านอย่างต่ำ ถ้าเอาชัวร์ก็ 30ล้าน+ครับ อย่างครอบครัวผมที่จดค่าใช้จ่ายก็ปีละ 8แสนถึง1ล้านครับ ถ้าพอร์ท 20ล้าน เงินปันผลที่ได้มาจะไม่มี reinvest เลย คือได้ปันผลมาใช้หมด ก็ต้องไปหวัง cap gain ให้พอร์ทโต เกิดจังหวะลงทุนผิดพลาดหรือตลาดตกมาก แล้วช่วงนั้นมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินเกินจากที่เคยใช้จะชอตเอาได้ เผื่อขาดเผื่อเหลือไว้บ้างนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
newbie_12
Verified User
โพสต์: 2904
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ถ้ายังถือหุ้นอยู่ อย่าลืมหักลบเผื่อหุ้นตกหนักเพราะตลาด crash ด้วยนะครับ

เช่น เป้า 20 ล้าน ก็ต้องมี port 40 ล้าน เผื่อเจอแบบ supprime port ลบ 50 เปอร์ ก็ยังเหลือ 20 ล้านพอดี
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง

----------------------------
somkull
Verified User
โพสต์: 343
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ผมคิดเห็นว่าถ้าออกจากงานแล้วค่าใช้จ่ายลดลง
เป้าหมายอาจต่ำลงได้ครับ
Green
Verified User
โพสต์: 2606
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ผมว่า เราประมาณ ค่าใช้จ่ายของครอบครัว แบบเต็มที่ดู เช่น ค่าเรียนลูก ค่ารักษาพยาบาลพ่อแม่ ค่าท่องเที่ยว ต่อให้ตอนนี้เราโสด อยู่ก็ตาม เพราะถ้าไปคิดแบบโสดๆ อีกหน่อยอยากมีครอบครัว เรื่องค่าใช้จ่ายตรงนี้จะได้ ไม่ต้องเครียดมาก

เช่น สมมติมีลูกสองคน สมัยนี้อยากให้ลูกเรียน โรงเรียน สองภาษา ปีนึงพาครอบครัวไปเที่ยว ญี่ปุ่น ซักครั้งนึง บวกค่ายาค่าหมอ หากพ่อแม่ป่วยอยู่ ค่าดูแลรักษาค่าเสื่อม รถยนต์ ค่าประกัน อะไรพวกนี้ ผมว่า เดือนๆนึง ค่าใช้จ่ายก็ต้องเป็น เกือบแสน อยู่เหมือนกัน

ถ้าเอาให้ปลอดภัย เวลาออกจากงาน แล้วไม่ควรไป รบกวนเงินที่ลงทุนให้หุ้น ใช้แต่เงินปันผลอย่างเดียว โดยใช้เงินปันผลแค่ไม่เกินครึ่งนึง อีกครึ่งนึงเอาไปลงทุนต่อ หรือ เอาไว้เผื่อเป็น Buffer ถ้าหากกำไรบริษัทเราไม่ดีในช่วงวิกฤติ

คำนวนดูแล้ว ช่วงหุ้นแบบนี้ มีเงินปันผล ซัก 2.5 % ถ้ามี 100 ล้าน ได้ปันผลปีละ 2.5 ล้าน ใช้ได้ไม่เงิน 1.25 ล้าน คือประมาณ เดือนละแสน พอดี

คิดได้ดังนี้ จึงต้องทำงานและลงทุนต่อไป รัว รัว อีกหลายปี 555
chowbe76
Verified User
โพสต์: 1980
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 7

โพสต์

Green เขียน:ผมว่า เราประมาณ ค่าใช้จ่ายของครอบครัว แบบเต็มที่ดู เช่น ค่าเรียนลูก ค่ารักษาพยาบาลพ่อแม่ ค่าท่องเที่ยว ต่อให้ตอนนี้เราโสด อยู่ก็ตาม เพราะถ้าไปคิดแบบโสดๆ อีกหน่อยอยากมีครอบครัว เรื่องค่าใช้จ่ายตรงนี้จะได้ ไม่ต้องเครียดมาก

เช่น สมมติมีลูกสองคน สมัยนี้อยากให้ลูกเรียน โรงเรียน สองภาษา ปีนึงพาครอบครัวไปเที่ยว ญี่ปุ่น ซักครั้งนึง บวกค่ายาค่าหมอ หากพ่อแม่ป่วยอยู่ ค่าดูแลรักษาค่าเสื่อม รถยนต์ ค่าประกัน อะไรพวกนี้ ผมว่า เดือนๆนึง ค่าใช้จ่ายก็ต้องเป็น เกือบแสน อยู่เหมือนกัน

ถ้าเอาให้ปลอดภัย เวลาออกจากงาน แล้วไม่ควรไป รบกวนเงินที่ลงทุนให้หุ้น ใช้แต่เงินปันผลอย่างเดียว โดยใช้เงินปันผลแค่ไม่เกินครึ่งนึง อีกครึ่งนึงเอาไปลงทุนต่อ หรือ เอาไว้เผื่อเป็น Buffer ถ้าหากกำไรบริษัทเราไม่ดีในช่วงวิกฤติ

คำนวนดูแล้ว ช่วงหุ้นแบบนี้ มีเงินปันผล ซัก 2.5 % ถ้ามี 100 ล้าน ได้ปันผลปีละ 2.5 ล้าน ใช้ได้ไม่เงิน 1.25 ล้าน คือประมาณ เดือนละแสน พอดี

คิดได้ดังนี้ จึงต้องทำงานและลงทุนต่อไป รัว รัว อีกหลายปี 555
ถ้าออกจากงานแล้ว ค่าใช้จ่ายสองอันนี้น่าจะลดลงนะครับ
ลูกไม่ต้องเรียนภาษาก็ได้ สอนเอง เรียนพิเศษก็ไม่ต้องครับ สอนเองในบางวิชาได้
ค่ารถยนต์ ถ้าไม่ต้องทำงาน ผมคิดไม่ออกจริงๆว่าจะใช้รถทำอะไรในแต่ละวันนอกจากไปเที่ยวอ่ะครับ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
My House
Verified User
โพสต์: 1311
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 8

โพสต์

chowbe76 เขียน:
Green เขียน:ผมว่า เราประมาณ ค่าใช้จ่ายของครอบครัว แบบเต็มที่ดู เช่น ค่าเรียนลูก ค่ารักษาพยาบาลพ่อแม่ ค่าท่องเที่ยว ต่อให้ตอนนี้เราโสด อยู่ก็ตาม เพราะถ้าไปคิดแบบโสดๆ อีกหน่อยอยากมีครอบครัว เรื่องค่าใช้จ่ายตรงนี้จะได้ ไม่ต้องเครียดมาก

เช่น สมมติมีลูกสองคน สมัยนี้อยากให้ลูกเรียน โรงเรียน สองภาษา ปีนึงพาครอบครัวไปเที่ยว ญี่ปุ่น ซักครั้งนึง บวกค่ายาค่าหมอ หากพ่อแม่ป่วยอยู่ ค่าดูแลรักษาค่าเสื่อม รถยนต์ ค่าประกัน อะไรพวกนี้ ผมว่า เดือนๆนึง ค่าใช้จ่ายก็ต้องเป็น เกือบแสน อยู่เหมือนกัน

ถ้าเอาให้ปลอดภัย เวลาออกจากงาน แล้วไม่ควรไป รบกวนเงินที่ลงทุนให้หุ้น ใช้แต่เงินปันผลอย่างเดียว โดยใช้เงินปันผลแค่ไม่เกินครึ่งนึง อีกครึ่งนึงเอาไปลงทุนต่อ หรือ เอาไว้เผื่อเป็น Buffer ถ้าหากกำไรบริษัทเราไม่ดีในช่วงวิกฤติ

คำนวนดูแล้ว ช่วงหุ้นแบบนี้ มีเงินปันผล ซัก 2.5 % ถ้ามี 100 ล้าน ได้ปันผลปีละ 2.5 ล้าน ใช้ได้ไม่เงิน 1.25 ล้าน คือประมาณ เดือนละแสน พอดี

คิดได้ดังนี้ จึงต้องทำงานและลงทุนต่อไป รัว รัว อีกหลายปี 555
ถ้าออกจากงานแล้ว ค่าใช้จ่ายสองอันนี้น่าจะลดลงนะครับ
ลูกไม่ต้องเรียนภาษาก็ได้ สอนเอง เรียนพิเศษก็ไม่ต้องครับ สอนเองในบางวิชาได้
ค่ารถยนต์ ถ้าไม่ต้องทำงาน ผมคิดไม่ออกจริงๆว่าจะใช้รถทำอะไรในแต่ละวันนอกจากไปเที่ยวอ่ะครับ
ตรงนี้ถามผมได้นะครับ ประสบการณ์ตรง แม้ผมจะยังไม่ได้ออกจากงานแต่ผมลดวันทำงานลงเหลือ 4วันต่อสัปดาห์ 3 วันที่เหลือพาลูกไปเรียนและพาแฟนไปเที่ยว ค่าใช้จ่ายส่วนนี้เลยไม่ได้ลดลงเลยครับ แต่ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล ผมเห็นว่าควรคิดค่าใช้จ่ายแบบเต็มที่ดูตามที่คุณ Green บอกไว้จะปลอดภัยที่สุดแล้วครับ
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ผมสงสัยอยู่เรื่องหนึ่ง เวลาเราพูดถึงอิสรภาพทางการเงิน เรามักจะอ้างอิงถึงเงินต้นและหวังว่าจะเอา "เงินปันผล" มาเป็นค่าใช้จ่าย

ที่ผมสงสัยก็คือ ถ้าเราอยู่ในจุดนั้นจริง ๆ เราจะถือหุ้นเพียงเพื่อหวังเงินปันผลกันหรือไม่ หรือยังคงหวังกำไรจากราคาหุ้น เพราะทุกวันนี้ เวลาเลือกหุ้นนั้นหลายคนไม่ค่อยสนใจเงินปันผลด้วยซ้ำ บางคนมองว่าหุ้นปันผลสูง เป็นหุ้นไม่เติบโตอีกต่างหาก
"Become a risk taker, not a risk maker"
otakung
Verified User
โพสต์: 928
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 10

โพสต์

leky เขียน:ผมสงสัยอยู่เรื่องหนึ่ง เวลาเราพูดถึงอิสรภาพทางการเงิน เรามักจะอ้างอิงถึงเงินต้นและหวังว่าจะเอา "เงินปันผล" มาเป็นค่าใช้จ่าย

ที่ผมสงสัยก็คือ ถ้าเราอยู่ในจุดนั้นจริง ๆ เราจะถือหุ้นเพียงเพื่อหวังเงินปันผลกันหรือไม่ หรือยังคงหวังกำไรจากราคาหุ้น เพราะทุกวันนี้ เวลาเลือกหุ้นนั้นหลายคนไม่ค่อยสนใจเงินปันผลด้วยซ้ำ บางคนมองว่าหุ้นปันผลสูง เป็นหุ้นไม่เติบโตอีกต่างหาก
คิดคล้าย ๆ กันเลยครับ เพื่อนผมหลายคนเคยพูดว่าถ้าพอร์ตโตจนเท่านั้นเท่านี้แล้วจะเลิกเสี่ยงมาถือหุ้นกินปันผลพอ ผมเลยสงสัยว่าถ้าเราสามารถทำให้พอร์ตโตจากทุนกี่แสนกี่ล้านก็ว่าไป จนได้ถึง 40 ล้านแล้วเนี่ย ใครจะหยุดแล้วเปลี่ยนมาถือหุ้นกินปันผลบ้าง ถ้าถึงจุดนั้นได้จริง ๆ ผมเชื่อว่าคน ๆ นั้นก็คงจะมั่นใจในสไตล์การลงทุนของตัวเองมากพอสมควร แล้วก็อาจจะคิดว่าถ้าเราทำแบบเดิมพอร์ตก็จะโตได้มากกว่านั้นอีกมากในอนาคต แล้วก็ลงทุนแบบเดิมต่อไปเรื่อย ๆ...
Green
Verified User
โพสต์: 2606
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ผมคิดว่าไม่ว่าไงก็ ไม่ควรเปลี่ยนสไตล์ มาถือหุ้นปันผลอย่างเดียวนะครับ ทำแบบเดิมนั้นแหละ
คือในพอร์ตมันจะมีหุ้นที่จ่ายปันผลมากน้อยต่างกัน
ถ้าพอร์ตใหญ่ๆ ปันผลที่จะได้มา มันจะ Cover ค่าใช้จ่ายเอง Cover มากยิ่งเยอะยิ่งดี จนมีเหลือให้ไปลงทุนต่อ

บางทีเราดูแค่พอร์ต ว่าโตขนาดนั้นขนาดนี้ นึกว่ามันมากแล้ว จริงๆแล้ว พอร์ตมันใหญ่ไม่พอ หรือ เรา cut conner โดยไปถือหุ้นปันผลเยอะที่ดันไม่โต แล้วบอกว่านี้ไงพอมีพอกินแล้ว

เหลือดีกว่าขาด ปลอดภัยไว้ก่อน

ใครจะอยู่ๆ ออกจากทำงานเลย ต้องคิดว่า เครื่องทำเงินสด หมดไปตัวนึง หรือ พอร์ตเราหายไปก้อนนึง
แต่ถ้าเราไม่มี เครื่องทำเงินสด ที่ว่านี้แล้ว เงินสด มันยังวิ่งเข้าหาเราได้เรื่อยๆ โดยเราไม่ลำบาก มาก
อันนี้ ก็ถึงจุดที่น่าจะเป็นอิสระ
crt2000th
Verified User
โพสต์: 276
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 12

โพสต์

สำหรับคนที่คิดว่าออกจากงานแล้วค่าใช้จ่ายจะลดลง ผมคิดว่าเป็นไปได้ยากมากครับ เนื่องจาก เวลาเราจะเพิ่มขึ้นมหาศาล คนเราก็อยู่บ้านเฉยๆไม่ไปไหนไม่ได้ พอออกข้างนอก ก็จะมีแต่ค่าใช้จ่ายครับ ตั้งแต่ ค่ารถ ค่ากิน ช๊อปปิ้ง อื่นๆอีก อยู่ว่างมากเกินก็ไป ตปท อีก ดังนั้น เมื่อออกจากงานแล้วจากประสบการณ์ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นมากครับ

สำหรับคนที่คิดจากออกจากงานนะครับ ความเห็นผมนะครับ
โสด ===> 20 ล้าน ขึ้นไป
แต่งงาน ===> คูณ 2 ไปครับ 40 ล้าน เพราะเราคงต้องดูแลคู่ของเรา เหมือนดูแลตัวเอง
มีลูก ===>ผมยังไม่มีลูกเคยเดาค่าใช้จ่ายไม่ถูก แต่คิดว่า 50 ล้าน น่าจะเอาอยู่
มีลูกเพิ่มอีกคน===>บวกไปอีกคนละ 10 ล้าน
ภาพประจำตัวสมาชิก
neuhiran
Verified User
โพสต์: 815
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 13

โพสต์

miracle57 เขียน:นักลงทุนแนวเน้นคุณค่าหลายคนประสบความสำเร็จในการลงทุนกระทั่งมีอิสระภาพทางการเงิน ส่วนใหญ่ตกผลึกทางความคิดในระดับสามารถมีทักษะการลงทุนที่ดีที่ค่อนข้างจะมั่นคงยั่งยืนในระดับปันผลเลี้ยงตัวเองได้ หลายคนออกจากงานประจำ และมาใช้เวลาเป็นนักลงทุนเน้นคุณค่าเต็มตัว เลี้ยงชีพได้ด้วยปันผลต่อปี และลงทุนตามแนวเดิมมาตลอดจนถึงปัจจุบัน

เคยอ่าน ดร.นิเวศน์ พูดไว้ว่าจะออกจากงานประจำอย่างน้อยควรจะมีพอร์ตมากกว่า 200 เท่าของค่าครองชีพตนต่อเดือน ส่วนตัวคิดว่า 200 เท่าแบบที่อาจารย์บอกอาจจะเสี่ยงไปนิด ถ้าคิดจากปันผลเฉลี่ยแบบอนุรักษ์นิยมใกล้เคียงตลาดประมาณ 3% ถ้าต้องการเงินใช้เดือนละ 20,000 ก็ต้องมีพอร์ต 6 ล้าน ปันผล 3% แค่ประมาณ 180,000 ตกแค่เดือนละ 15000 สภาพตลาดหุ้นขณะนี้นับว่าความเสี่ยงสูงหากออกจากงาน

คราวนี้จึงอยากจะถามเพื่อนๆจากประสบการณ์ตรงครับว่า คนที่รู้สึกได้ว่าท่านมีอิสระภาพทางการเงินแล้ว ท่านมีพอร์ตประมาณเท่าไร แล้ววันที่ท่านออกจากงานมาลงทุนเต็มตัว ท่านมีปันผลต่อปีประมาณเท่าไรครับ ถ้าจะแจ้งข้อมูลอื่นเช่นสถานภาพว่าเลี้ยงตัวคนเดียว หรือต้องดูแลพ่อแม่ทุกเดือน หรือมีภรรยาและลูกด้วย ก็ได้นะครับ

อย่าออกมาเลยครับ มีรายได้หลายๆทางดีกว่ามีรายได้ทางเดียว ตอนนี้การลงทุนในหุ้นมันดูดี
แต่สุดท้ายมันก็จะมีช่วงที่แย่ๆ สลับกันไป-มา แล้วช่วงที่แย่ๆ เราจะทำอย่างไร (ปันผลไม่พอใช้)

แล้วชีวิตคนเรานี่นะ รายจ่ายมันมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ในทุกๆเรื่อง (คุณลองคิดย้อนหลังดูก็ได้)
อย่าประมาทเลยครับ
และการลงทุนแบบเต็มเวลา ก็ไม่ได้รับประกันว่า ผลตอบแทนจะได้ดีกว่า ตอนที่ทำงานไปด้วยลงทุนไปด้วย
มาลงทุนเต็มเวลา อาจจะเก็งกำไรมากยิ่งขึ้น เทรดหุ้นบ่อยขึ้น อาจจะเสี่ยงมากยิ่งขึ้นก็ได้


แต่ถ้าพอร์ทของเรามีปันผล ออกมาซัก อย่างน้อย 10-20 เท่าของรายได้จากงานประจำ และไม่มีหนี้สิน ถ้าเป็นอย่างนี้ คิดจะหยุดงานประจำ อันนี้ผมคิดว่าเหมาะสมนะครับ

หลักคิดของผมอาจจะดูสุดโต่งไปสำหรับบางท่านนะครับ แต่หลักคิดนี้จะทำให้เราอยู่รอด :D
visitboon
Verified User
โพสต์: 18
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 14

โพสต์

เห็นด้วยว่าออกจากงานแล้วค่าใช้จ่ายไม่ลดเพราะเวลาว่างมากขึ้น. ไปกินข้าวนอกบ้านบวกไปเที่ยวบ่อยขึ้น. ยกเว้นว่าอยู่บ้านตลอดครับ
อาจมีค่าใช้จ่ายด้านรถยนต์ที่ลดลง
Nutth147
Verified User
โพสต์: 241
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ผมว่าเราต้องหาคำตอบให้ได้ก่อนครับว่า "จุดพอ" ของเราอยู่ที่ตรงไหน

หมายความว่าเป็นจุดพอจริงๆ ไม่ใช้พอเพราะโดนปัจจัยอื่นบังคับ
เป็นจุดพอ ที่หากเราใช้จ่ายไปมากกว่านี้ ก็ไม่ได้มีความสุขมากขึ้นอีกแล้ว

ถ้าเรารู้จุดนี้อย่างแน่นอน เราก็นำกลับมาคำนวนจุดพอของทรัพย์สินลงทุนได้ครับ
( จะบวกส่วนต่าง MOS ก็ได้ตามใจ )

ปล เพราะคนที่ชอบอาศัยอยู่ในเมือง ก็ย่อมมีจุดพอ ต่างจากคุณโจน จันได ซึ่งปลูกอาหารและสร้างบ้านได้ด้วยตัวเอง

แนวคิดจากหนังสือ "จะเลือกเงินหรือว่าชีวิต"
ความจนนั้นเกิดได้จากสองสาเหตุ คือ จนเพราะไม่มี กับ จนเพราะไม่พอ
ความรวยก็ประกอบด้วยองค์สอง คือ รวยเพราะมีมาก และ รวยเพราะพอเพียง
ภาพประจำตัวสมาชิก
koh
Verified User
โพสต์: 273
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 16

โพสต์

otakung เขียน:
leky เขียน:ผมสงสัยอยู่เรื่องหนึ่ง เวลาเราพูดถึงอิสรภาพทางการเงิน เรามักจะอ้างอิงถึงเงินต้นและหวังว่าจะเอา "เงินปันผล" มาเป็นค่าใช้จ่าย

ที่ผมสงสัยก็คือ ถ้าเราอยู่ในจุดนั้นจริง ๆ เราจะถือหุ้นเพียงเพื่อหวังเงินปันผลกันหรือไม่ หรือยังคงหวังกำไรจากราคาหุ้น เพราะทุกวันนี้ เวลาเลือกหุ้นนั้นหลายคนไม่ค่อยสนใจเงินปันผลด้วยซ้ำ บางคนมองว่าหุ้นปันผลสูง เป็นหุ้นไม่เติบโตอีกต่างหาก
คิดคล้าย ๆ กันเลยครับ เพื่อนผมหลายคนเคยพูดว่าถ้าพอร์ตโตจนเท่านั้นเท่านี้แล้วจะเลิกเสี่ยงมาถือหุ้นกินปันผลพอ ผมเลยสงสัยว่าถ้าเราสามารถทำให้พอร์ตโตจากทุนกี่แสนกี่ล้านก็ว่าไป จนได้ถึง 40 ล้านแล้วเนี่ย ใครจะหยุดแล้วเปลี่ยนมาถือหุ้นกินปันผลบ้าง ถ้าถึงจุดนั้นได้จริง ๆ ผมเชื่อว่าคน ๆ นั้นก็คงจะมั่นใจในสไตล์การลงทุนของตัวเองมากพอสมควร แล้วก็อาจจะคิดว่าถ้าเราทำแบบเดิมพอร์ตก็จะโตได้มากกว่านั้นอีกมากในอนาคต แล้วก็ลงทุนแบบเดิมต่อไปเรื่อย ๆ...
ขนาดของพอร์ตที่ ใหญ่ขึ้นอาจทำให้ไม่สามารถใช้วิธีการลงทุนแบบเดิมๆได้นะครับ.
harikung
Verified User
โพสต์: 2232
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 17

โพสต์

เรื่องแบบนี้ผมคิดว่าต่างกรรมต่างวาระกันไป เมื่อก่อนยอมรับว่าเคยสนใจว่าคนอื่นๆเค้าคิดยังไง เท่าไหร่ถึงเรียกว่าอิสรภาพทางการเงิน(ถึงแม้ว่าตัวผมโชคดีไม่ต้องได้ทำงานประจำแบบคนอื่นเค้า) แต่ปัจจุบันผมเลิกสนใจแล้วล่ะครับเพราะผมคิดว่าเมื่อเราลงทุุนไปเรื่อยๆจนถึงจุดนึงเราจะรู้เองว่าจุดไหนที่เราพอจะเรียกได้ว่ามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว(ส่วนตัวผมเรียกว่าเลยจุดกลับมาจน) ซึ่งของใครจะเป็นเท่าไหร่ก้อขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อม การดำเนินชีวิตของแต่ละท่านเอง ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปถามคนอื่นแล้วเอามาเป็นเกณฑ์วัดอะไร อย่างถ้าไปถามบางคนก้ออาจจะบอกว่า10ล้าน ท่านก้ออาจจะรู้สึกมีกำลังใจว่าคงอีกไม่ไกลสินะ แต่ถ้าดันไปเจอบางท่านบอก300ล้าน ท่านจะเสียกำลังใจมั้ย ผมเลยคิดว่าตั้งหน้าตั้งตาลงทุนไปเรื่อยๆแล้วสุดท้ายเราจะรู้สึกได้เองครับเท่าไหร่สำหรับเราที่เรียกว่ามีอิสรภาพทางการเงิน
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
leky
Verified User
โพสต์: 1803
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 18

โพสต์

harikung เขียน:เรื่องแบบนี้ผมคิดว่าต่างกรรมต่างวาระกันไป เมื่อก่อนยอมรับว่าเคยสนใจว่าคนอื่นๆเค้าคิดยังไง เท่าไหร่ถึงเรียกว่าอิสรภาพทางการเงิน(ถึงแม้ว่าตัวผมโชคดีไม่ต้องได้ทำงานประจำแบบคนอื่นเค้า) แต่ปัจจุบันผมเลิกสนใจแล้วล่ะครับเพราะผมคิดว่าเมื่อเราลงทุุนไปเรื่อยๆจนถึงจุดนึงเราจะรู้เองว่าจุดไหนที่เราพอจะเรียกได้ว่ามีอิสรภาพทางการเงินแล้ว(ส่วนตัวผมเรียกว่าเลยจุดกลับมาจน) ซึ่งของใครจะเป็นเท่าไหร่ก้อขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อม การดำเนินชีวิตของแต่ละท่านเอง ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปถามคนอื่นแล้วเอามาเป็นเกณฑ์วัดอะไร อย่างถ้าไปถามบางคนก้ออาจจะบอกว่า10ล้าน ท่านก้ออาจจะรู้สึกมีกำลังใจว่าคงอีกไม่ไกลสินะ แต่ถ้าดันไปเจอบางท่านบอก300ล้าน ท่านจะเสียกำลังใจมั้ย ผมเลยคิดว่าตั้งหน้าตั้งตาลงทุนไปเรื่อยๆแล้วสุดท้ายเราจะรู้สึกได้เองครับเท่าไหร่สำหรับเราที่เรียกว่ามีอิสรภาพทางการเงิน
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

1) ผมเองยอมรับว่าไม่แน่ใจว่าคนที่ออกมาเป็นนลท.อาชีพ จะได้เปรียบคนที่ยังทำงานประจำ จริงอยู่เราอาจจะมีเวลาไป visit บ.ได้ หรือมีเวลานั่งดู op day ได้ ไปประชุม AGM ได้ แต่มันถึงขนาดจะต้องออกมาเพื่อทำสิ่งเหล่านี้เลยหรือไม่ ผมว่าดีไม่ดีบางครั้งการห่าง ๆ จอหุ้นบ้าง ผลตอบแทนอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะไม่ต้องโดนกระตุ้นจากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น

2) ประเมินตัวเองก่อนครับ ว่าต้องการ cover ค่าใช้จ่ายแค่ไหน หลัก ๆ ที่ผมเองเคยคิดไว้ เช่น

- ค่ารักษาพยาบาล อันนี้ตัวใหญ่ เพราะมันจะไปรวมทั้งพ่อแม่ขอตัวเองและแฟน ตัวเราเอง แฟน ลูก ฯลฯ บอกให้เลยว่าถ้าเงินเก็บไม่ได้มากจริง ๆ ถ้า worse case แบบต้องการนอนรพ.เอกชนแล้ว กรณีที่แย่ที่สุดเช่น ต้องนอน ICU นาน ๆ นี่ ค่าใช้จ่ายตก "วันละ" หลายหมื่น บางครั้งเงินแค่ 1 ล้านบาทสามารถโดนตรงนี้กินหมดได้อย่างสบาย ยังไม่นับว่าเกรดของรพ.ที่เลือกแบบ 5 ดาว 4 ดาว หรือ 3 ดาว ยิ่งดาวเยอะ เงินท่านหายเร็วแน่นอน แต่ถ้าใครมีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ เช่น ประกันชีวิต ก็ต้องเข้าใจว่าถ้าไม่ใช่แบบพรีเมี่ยม cover แบบสุด ๆ ซึ่งก็ต้องจ่ายค่าเบี้ยแพง มันก็ช่วยแบ่งเบาได้ในระดับหนึ่ง แต่อย่าลืมว่าส่วนใหญ่มันก็ได้ไม่เกินอายุ 70 นะครับ ขึ้นอยู่กับกรมธรรม์ ส่วน golden card สิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทย ก็บลาบลา ถ้าสบายใจที่จะใช้ก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็น่าจะยังมีโรคบางอย่างที่ไม่ได้ cover เช่นเดียวกับประกันสังคม แต่ในกรณีของประกันสังคมก็มีกำหนดอายุการใช้เช่นกัน ในความเห็นส่วนตัว สิทธิที่น่าจะยังเวิร์คอยู่คือ สวัสดิการข้าราชการ เพราะ cover ทั้งพ่อแม่ ตัวเอง แฟน ลูกที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ใครมีสิทธิ์ตรงนี้ถ้าคิดจะลาออก ขอให้คิดให้ดีครับ เพราะเป็นสิทธิ์ที่ถึงจะโดนริดรอนไปบ้าง แต่ก็ได้ตลอดชีพ ผมว่าดีกว่าประกันแบบพรีเมี่ยมเสียอีก เพราะเท่าที่เห็นบางครั้งตัวประกันเองก็มีปัญหาในการเคลม

- เงินผ่อน บ้าน รถยนต์ อันนี้ถ้าเราไม่มีมันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร อยู่ที่ความอยากได้อยากมีของเราเอง ถ้ารายได้น้อยก็อย่าไปคิดการใหญ่ อันหนี้นั้น แป๊บเดียวเค้าก็ทวง เป็นลูกหนี้ถึงจะเล็กน้อยยังไงเค้าก็ถือไพ่เหนือกว่าอยู่ดี ขนาดรถยนต์ เราดาวน์หรือผ่อนไปตั้งเยอะ ยังดูเหมือนเค้าจะมีสิทธิ์เหนือกว่าเราด้วยซ้ำ ประเด็นเงินผ่อน ผมคิดว่าขึ้นอยู่กับตัวเอง

- การศึกษาของลูก เช่นกัน ของที่จำเป็นก็ต้องจ่าย แต่อย่าไปถึงกับตามกระแส เช่น เงินไม่ถึงแต่อยากส่งลูกเรียนอินเตอร์หลายคน สุดท้ายความกดดันจะเกิดกับตัวท่านเอง บางครั้งการศึกษาที่มีราคาแพงเกินไป อาจจะไม่ได้มีผลลัพธ์ที่ดีที่สุด บางรร.ค่าใช้จ่ายไม่ได้อยู่ที่แค่ค่าเทอม เพราะมันจะมีค่าใช้จ่ายทางสังคม เรียน summer ในต่างประเทศ คิดให้ดี ๆ ก่อนจะเลือก ไม่งั้้นคนเก่งในประเทศนี้คงต้องจบต่างประเทศกันหมด ผมว่าเอาแต่พอเหมาะที่กำลังจะจ่ายไหว ของดีมีคุณภาพยังมีอยู่ อย่าตามกระแสจนเกินไป

- เงินค่าสันทนาการ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความอยากของเราเช่นกัน เที่ยวในประเทศไทย ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง อเมริกา ยุโรป ค่าใช้จ่ายต่างกัน ถ้าคิดว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็น ค่าใช้จ่ายตรงนี้ก็ไม่เกิด

จริง ๆ ตัวเลขมันเป็นสิ่งที่เราคิดขึ้นมาเองทั้งนั้นครับ แม้แต่ว่าจะอ้างเรื่องเงินปันผล แต่เอาเข้าจริง ผมว่าไม่มีใครกล้าถือหุ้นเงินปันผลสูงอย่างเดียว หรือเอาเงินไปลงทุนในตราสารหนี้หรอกครับ ทุกอย่างมีความเสี่ยง ทำให้เรากลัวได้หมด ถ้าจะบอกว่าขอแค่เงินปันผลจะเท่าไหร่ก็ได้ ถ้าตีว่า SET ให้เงินปันผลประมาณปีละ 3% แต่ท่านอย่าลืมว่า หลายบ.ของท่านไม่จ่ายเงินปันผล บางบ.จ่ายเป็นหุ้นอีกต่างหาก ยังไม่นับว่าบางปีผลตอบแทนไม่ดี บางปีก็พอประมาณ

ในความเห็นของผมนั้น คนที่จะออกจากงานมานั่งลงทุนที่บ้านอย่างเดียว น่าจะเป็นคนไม่กี่ประเภทครับ เช่น เงินเดือนเทียบกับเวลาที่ต้องทำงานประจำนั้นไม่คุ้มเป็นอย่างมาก เช่น ต้องเลิกงาน 3-4 ทุ่ม แต่ได้รายได้นิดเดียวหรือไม่คุ้มกับเวลาที่เสียไป ยิ่งมีปัญหาด้านสุขภาพหรือเวลาให้กับคนในครอบครัวด้วยแล้วยิ่งเหมาะสมมากขึ้น

ส่วนพวกที่รายได้สูง งานไม่หนักจนเกินไป พอมีเวลาให้ครอบครัว หยุดไปเที่ยวได้ ผมว่ายังไงก็ไม่คุ้มครับ ยกเว้นแต่เพียงว่าพอร์ตคุณจะใหญ่ระดับ 9-10 หลักขึ้นไป ซึ่งแน่นอนครับ มันจะ cover ค่าใช้จ่ายที่ผมบอกไปข้างบนทั้งหมดแน่นอนครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"
ภาพประจำตัวสมาชิก
picatos
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3227
ผู้ติดตาม: 4

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 19

โพสต์

miracle57 เขียน:คราวนี้จึงอยากจะถามเพื่อนๆจากประสบการณ์ตรงครับว่า คนที่รู้สึกได้ว่าท่านมีอิสระภาพทางการเงินแล้ว ท่านมีพอร์ตประมาณเท่าไร แล้ววันที่ท่านออกจากงานมาลงทุนเต็มตัว ท่านมีปันผลต่อปีประมาณเท่าไรครับ ถ้าจะแจ้งข้อมูลอื่นเช่นสถานภาพว่าเลี้ยงตัวคนเดียว หรือต้องดูแลพ่อแม่ทุกเดือน หรือมีภรรยาและลูกด้วย ก็ได้นะครับ
ของผมตอนเริ่มลงทุนตั้งเป้าว่า 20 ล้านบาท ผมจะออกจากงานประจำครับ

ผมคิดว่าผมน่าจะได้ผลตอบแทนอย่างต่ำ 10% ต่อปี กรณี Worst Case น่าจะทำได้สัก 5% เลยคิดว่า 5% ของพอร์ตน่าจะพอใช้จ่าย สำหรับผมกับภรรยา โดยที่ตั้งใจกันว่าจะไม่มีลูก แถมพ่อแม่ท่านก็มีของท่านเพียงพอ ไม่ได้มีภาระอะไรต้องดูแลท่านเป็นพิเศษ

5% ของ 20 ล้านนี่ ใช้ได้เดือนละ 8 หมื่นกว่าบาท สำหรับผมกับภรรยา ผมว่าสบายๆ ในมาตรฐานของชนชั้นกลางครับ

ส่วนเรื่องปันผล ผมไม่คิดครับ เพราะ การที่เราไปติดกับคำว่าปันผลมันจะเป็นกับดักทางความคิด ปิดโอกาส จำกัดขอบเขตในการลงทุนของเรา ของผมจะวัดเป็นผลตอบแทนที่ทำได้ต่อปี โดยไม่สนใจว่าจะมีปันผล หรือไม่มี

พอถึงเป้ากว่าจะเคลียร์อะไรต่างๆ ได้เรียบร้อยจนออกมาได้จริงๆ ก็ต้องใช้เวลาไปอีกเกือบ 2 ปี ระหว่างนั้นพอร์ตก็โตขึ้นในระดับที่เกษียณได้สบายๆ ไม่ต้องห่วงอะไรมาก

ออกมาแล้วก็ดีครับ ได้ใช้ชีวิตที่เป็นสาระอย่างแท้จริงของการได้เกิดเป็นมนุษย์ที่ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ใช้เวลาไปกับการเรียนรู้กายใจตัวเอง ได้ศึกษาและทำความเข้าใจธรรมชาติของจิตในระดับที่ละเอียดๆ โดยไม่ต้องไปพะวงอะไรกับการที่ต้องหาเงินมาเลี้ยงชีพ

การมีอิสรภาพทางการเงินทำให้ผมไม่จำเป็นต้องไปเสียเวลากับสังคม กับคน เพียงเพื่อเราจะได้มีมากกว่านี้ เราจะได้มากกว่านี้ ทำให้มีอิสรภาพในการที่จะเลือกที่จะอยู่ห่างไกลความวุ่นวาย เลือกที่จะใช้เวลาอย่างที่เราอยากใช้จริงๆ ที่จุดที่เราจำเป็นต้องหาเงินเลี้ยงชีพอยู่ไม่สามารถเลือกได้

หากการมีอิสรภาพทางการเงินและเกษียณออกมาลงทุนเต็มตัว แล้วเราได้ทำอะไรที่เป็นสาระสำคัญจริงๆ ของชีวิต ผมว่าดีครับ แต่ถ้าออกมาแล้วกลับกลายเป็นว่ายิ่งต้องมัวเมาไปกับการต้องการให้ได้มากยิ่งกว่านี้ มีให้ได้มากยิ่งกว่านี้ วันเวลาของชีวิตแต่ละวัน แต่ละนาที หมดไปกับการยิ่งต้องหาให้มากขึ้นไปอีก ผมว่าบางทีแล้วการที่เราทำงานประจำ อาจจะทำให้เราสามารถพบความสงบสุขของจิตใจที่มากกว่าการออกมาลงทุนเต็มตัว
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
sci
Verified User
โพสต์: 678
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 20

โพสต์

อยู่บ้านนอกครับ : 8 ล้าน ซื้อบ้านแต่งบ้าน 2 ล้านกว่า เคลียร์หนี้รถ หนี้ต่างๆ เหลือ ประมาณ 5 ล้าน

ปันผลประมาณ 1 แสนกว่า

วันๆใช้ไม่ถึง 200 บาทครับ ค่าใช้จ่ายอื่นๆก็ตาม อัตภาพ

กิจวัตร ก็ปลูกต้นไม้ ออกกำลัง อ่านข่าว สัมมนาตลาดหลักทรัพย์ ดู opp day

สิ่งที่ได้ สุขภาพดีขึ้นขึ้นครับ ไม่ค่อยป่วยได้พักผ่อนมากขึ้น ความคิดเป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเอง

แต่เรื่องการใช้จ่ายเงินก้อนใหญ่ก็ต้องคิดและระวังมากขึ้นครับ

พอทโตแค่ประมาณ 10 % เพราะต้องเอามาใช้จ่าย

หรือถ้าอยากให้โตกว่านี้ก็ต้องไปหางานทำเพิ่ม

ไม่รู้ว่าอิสระรึเปล่าครับ อยากแชร์ประสบการณ์
ภาพประจำตัวสมาชิก
todto
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 201
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 21

โพสต์

พอดีผมใช้สูตรเดียวกับอาจารย์ครับ จะขอลองอธิบายแนวความคิดเบื้องหลังสูตรนี้แล้วกันนะครับ

เหตุผลที่ต้องเอา 200 มาคูณ ค่าใช้จ่ายรายเดือน นะครับ จริงๆแล้วสูตรที่ผมเอามาใช้ต้องเอา 200-400 ไปคูณ แล้วแต่สภาวะตลาดครับ

การเอา 200 คูณ มันเสมือนกับการคิดว่าตลาดให้ปันผล 6% ครับ
แต่ถ้าใช้ 400 คูณ ก็เสมือนกะบว่าตลาด(หรือหุ้นในพอร์ต) ให้ปันผล 3% ครับ

ผมกะคร่าวๆว่าพอร์ตน่าจะมีปันผลเฉลี่ย 3-6% แล้วแต่สภาวะตลาดครับ ช่วงนี้ตลาดดีหน่อยก็ใช้ 3% หรือ เอา 400 ไปคูณนั้นเองครับ

สมมุติมี port 1 ล้านบาท ได้ปันผล 6% ก็จะได้ปันผล 60,000 บาทต่อปี หรือ 5,000 บาทต่อเดือนนั้นเอง

ถ้าเรามีค่าใช้จ่ายต่อเดือน 5,000 บาท ก็เอา 200 ไปคูณ ก็จะได้ มูลค่าพอร์ต 1 ล้านพอดีครับ

ในทางกลับกัน ถ้า ได้ปันผล 3% มีเงิน 1 ล้าน จะได้ปันผล 3 หมื่นบาทต่อปี หรือ 2,500 บาทต่อเดือน ซึ่งก็คือการเอา 2,500 x 400 = 1 ล้านครับ

ถ้าจะ ให้ปลอดภัยไปอีก ก็เอา เงินเดือนไปคูณ แทนที่จะเอาค่าใช้จ่ายครับ
chowbe76
Verified User
โพสต์: 1980
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 22

โพสต์

todto เขียน:พอดีผมใช้สูตรเดียวกับอาจารย์ครับ จะขอลองอธิบายแนวความคิดเบื้องหลังสูตรนี้แล้วกันนะครับ

เหตุผลที่ต้องเอา 200 มาคูณ ค่าใช้จ่ายรายเดือน นะครับ จริงๆแล้วสูตรที่ผมเอามาใช้ต้องเอา 200-400 ไปคูณ แล้วแต่สภาวะตลาดครับ

การเอา 200 คูณ มันเสมือนกับการคิดว่าตลาดให้ปันผล 6% ครับ
แต่ถ้าใช้ 400 คูณ ก็เสมือนกะบว่าตลาด(หรือหุ้นในพอร์ต) ให้ปันผล 3% ครับ

ผมกะคร่าวๆว่าพอร์ตน่าจะมีปันผลเฉลี่ย 3-6% แล้วแต่สภาวะตลาดครับ ช่วงนี้ตลาดดีหน่อยก็ใช้ 3% หรือ เอา 400 ไปคูณนั้นเองครับ

สมมุติมี port 1 ล้านบาท ได้ปันผล 6% ก็จะได้ปันผล 60,000 บาทต่อปี หรือ 5,000 บาทต่อเดือนนั้นเอง

ถ้าเรามีค่าใช้จ่ายต่อเดือน 5,000 บาท ก็เอา 200 ไปคูณ ก็จะได้ มูลค่าพอร์ต 1 ล้านพอดีครับ

ในทางกลับกัน ถ้า ได้ปันผล 3% มีเงิน 1 ล้าน จะได้ปันผล 3 หมื่นบาทต่อปี หรือ 2,500 บาทต่อเดือน ซึ่งก็คือการเอา 2,500 x 400 = 1 ล้านครับ

ถ้าจะ ให้ปลอดภัยไปอีก ก็เอา เงินเดือนไปคูณ แทนที่จะเอาค่าใช้จ่ายครับ
เอาเงินเดือนไปคูณ น่าจะปลอดภัยน้อยกว่าครับ เพราะตอนนี้เงินเดือนน้อยกว่าค่าใช้จ่าย ฮ่าๆๆ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
ภาพประจำตัวสมาชิก
todsapon
Verified User
โพสต์: 1137
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ณ ตอนนี้ 20 ล้าน อีกสี่สิบปีข้างหน้าล่ะ ก๋วยเตี๋ยวข้างทาง ของโปรดผม ชามเท่าไร
ผลตอบแทน 15% ต่อปีก็พอ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Rocker
Verified User
โพสต์: 4526
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ตอบสั้นๆง่ายๆครับ ไม่สูตรสำเร็จ พวก200 เท่ารายจ่ายนั่น ทฤษฎี ครับ ขึ้นกับ Life Style ที่เราอยากมี โดย ห้ามตามกระแสสังคม หรือ ใครนะ เอาของเราเท่านั้น

จำไว้นะครับ Key คือ คุม Expenses ครับ หากเรา Fix Expenses ได้ หรือ รายจ่ายเพิ่มต่อปีน้อยกว่ารายได้Passive ที่เพิ่มขึ้น เราก็อยู่สบาย ดังนั้น มันไม่มีสูตรสำเร็จ เพราะ รายจ่ายแต่ละคน Life Style ต่างกัน ครับ ขอสรุปแนวทางดันนี้ครับ

1) รายได้จากPassive Income จากทุก Assets หุ้น อสังหา ธุรกิต ควรรวมกัน =>2 เท่า ของค่าใช้จ่าย ครับ เพราะ ใช้ครึ่ง เก็บลงทุนต่อ อีกครึ่ง ครับ อีกเหตุผล เผื่อ Asset เจอ Crisis มูลค่า ลดลง50% รายได้จาก Assets ก็ยางเลี้ยงเราได้

2) ตอบแบบกำปั้นทุบดิน ถ้าโสด ไม่มีภาระ ผ่อน บ้าน รถ 20-25 ล้าน ถ้ามีครอบครัว Conservative ก็ ควร= > 50 ล้าน Yield4-5% ก็น่าพออยู่ได้

แต่ถ้า ใจรักอยาก ออกงานประจำ เป็นอีกประเด็นไม่ต้องรอ อิสรภาพทางการเงินก็ได้ ออกมาทำงานส่วนตัวที่รักชอบ อาจจะมีความสุข กว่า ทำงานประจำ และ ลงทุนอย่างเดียว ออก มาลงทุน Port 3-4 ล้าน ก็พอได้แต่ ต้อง ทำงาน Freelance ธุรกิจส่วนตัว ควบคู่ไปด้วย โดย รายได้หลักยัง มาจากงาน Freelance ที่สร้างรายได้ ไม่ใช่ ฟรี ลัล
ล้า ไปวันๆนะ ครับ แล้วนำเงินที่เหลือ มาลงทุน ทบต้นเข้าไป

น่าจะพอเป็นแนวทางได้นะครับ

ถ้าเรามีวิชา ความสามารถ เราสามารถเริ่มทำธุรกิจ หรือ ด้าน บริการ ได้ครับ ซึ่งใช้ทุนตำ่มาก สุดท้ายอยากฝากไว้ว่า ทำอะไรก็ตาม ประสบการณ์ ความรู้ Connection สำคัญ มากกว่า ทุน ที่มีครับ เพราะ ถ้าปัจจัย ข้างต้น ครบ เงินมันงอกได้ ครับ

ขอให้โชคดี ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 25

โพสต์

อิสระภาพทางการเงิน แปลว่า อะไร เอาคำนี้ก่อน
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
musicman
Verified User
โพสต์: 66
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ของผม ถ้ามีพอร์ตสัก10ล้านก็คงพอครับ เพราะถ้าปันผลสัก5% ก็คงอยู่ได้สบายๆแต่ผมก็ยังคงออกไปเล่นดนตรีตามปกติ เช้าออกไปวิ่งเพื่อสุขภาพ บ่ายอ่านหนังสือ ฟังเพลง เย็นเล่นกีฬาก่อนออกไปทำงานเล่นดนตรี และงานส่วนตัวก็ยังเดินเครื่องต่อไปก็คงอยู่ได้แบบพอดีๆ เพราะไม่มีหนี้สินแล้ว ต้นปีผ่อนบ้านหมดแล้วครับ ต้องขอบคุณเว็บ thaivi และพี่ๆที่ให้ความรู้เช่นกันครับ
ดนตรีนั้นคือชีวิต
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 27

โพสต์

ถามคำถามเดียวกับพี่ Nevercry.boy เลยครับ
Nevercry.boy เขียน:อิสระภาพทางการเงิน แปลว่า อะไร เอาคำนี้ก่อน
เราต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนคับว่า "อิสรภาพทางการเงิน" เรามองมันที่ตรงไหน
- มีรายได้มากกว่ารายจ่ายประจำ??
- มีเงินเก็บ 10-20 ล้าน??
- มีเงินให้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยได้??
- มีเงินเลี้ยงดูครอบครัว ลูกหลานได้ตลอดไป??
- หรือแค่มี "อิสระทาง ความคิด ที่ไม่มีเรื่องของตัวเงินมาตีกรอบจำกัดทางเลือกของเรา"??

สิ่งที่คนส่วนใหญ่เริ่มต้นผิด คือ อยากมีอิสรภาพทางการเงิน แล้วถามว่าต้องมีเงินเท่าไร??
ซึ่งจริงๆแล้วต้องถามคำถามแรกว่า "เราอยากได้อะไรในชีวิต เป้าหมายชีวิตเราคืออะไร"
แล้วค่อยมาดูว่าเงินเท่าไรที่ตอบโจทย์นั้นครับ เพราะไม่อย่างนั้นเรามัวแต่หาเงินไว้มากๆ
ตั้งเป้าไว้สูงๆๆๆ พอถึงเป้าหมายแล้วย้อนกลับมาดูเราอาจจะสูญเสียบางสิ่งที่เราต้องการ
จริงๆในชีวิตไประหว่างทางก็ได้ครับ.....

จาก คนที่เคยตั้งโจทย์ผิดมาก่อนขอรับ...^^)
chamnan028
Verified User
โพสต์: 365
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 28

โพสต์

ส่วนตัวผม เห็นคล้าย ๆ กันกับพี่ ๆ นะครับ

ปัจจุบันมีครอบครัว มีลูก 1 คน

คิดไว้ว่าพอร์ตน่าจะซัก 40-50 ลบ. เพื่อที่จะมีอิสระภาพได้

แต่คงไม่ต้องออกจากงานประจำ เพียงแต่เราสามารถทำงานน้อยลงได้ ไม่ต้องเร่งมาก


จากปัจจุบันทำงาน 12 ชม/วัน จะได้เหลือ 8 ชม/วันได้
ส-อา จะได้พักแบบเต็ม ๆ


มีเวลาทำอย่างอื่นบ้าง ดูแลสุขภาพตัวเองบ้าง ให้เวลากับครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ...

คิด ๆ เอาไว้คร่าว ๆ แบบนี้ครับ
zanac
Verified User
โพสต์: 84
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 29

โพสต์

เรื่องอิสระภาพทางการเงินผมว่าแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอกครับ แล้วแต่ต้องการจะใช้ชีวิตแบบไหนตอนไม่ทำงานมากกว่าครับ แต่ถ้านับการลงทุนเป็นงานผมว่าทุกคนก็ทำกันตลอดไปนั่นแหละครับ มี 1 ล้านความคิดอีกอย่าง 10 ล้านอีกอย่าง 100 ล้านอีกอย่าง 1,000 ล้านไม่รู้เพราะไม่เคย หามาให้น้อยกว่าใช้ไม่ว่าด้วยวิธีใดคุณก็เป็นอิสระภาพทางการเงินได้ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4740
ผู้ติดตาม: 0

Re: พอร์ตเท่าไรเรียกมีอิสระภาพทางการเงิน ปันผลต่อปีเท่าไรออก

โพสต์ที่ 30

โพสต์

20+ for a couple
40+ for a couple + 2 kids
60+ for a couple + 2 kids + parents
100+ for a couple + 2 kids + 2x parents
200+ for a couple + 2 kids + 2x parents + live oversea

by the way, it depends on how you live a life.
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
โพสต์โพสต์