คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 90
- ผู้ติดตาม: 0
คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 1
ยังไม่ได้ข้อสรุปนะครับ แต่ถ้าตามข่าวนี้ อยู่อาศัย ไม่เกิน 0.5% พาณิชย์ไม่เกิน 2% ของราคาประเมิน 0.5% ผมว่าพอกัดฟันไหวนะ แต่ 2% ผมว่ามากไป ซื้ออาคารพาณิชย์ปล่อยเช่าได้เต็มปีผมว่าอย่างเก่งก็ yield 4-5% (ไม่มีอะไรการันตีว่าจะเช่าทุกปี) ถ้าหัก 2% นี่ฝากธนาคารอยู่เฉยๆดีกว่าไหม คิดว่าคงกระทบกับหมด อาคารพาณิชย์ หอพัก โรงงาน
http://www.thairath.co.th/content/483602
http://www.thairath.co.th/content/483602
- astro345
- Verified User
- โพสต์: 479
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 2
แย่เลยครับภาระเพิ่มขึ้นอีกนอกเหนือจากค่าส่วนกลาง ค่าประกันภัย อัคคีภัยฯ ค่าฉีดปลวก ปกติภาระการผ่อนส่งที่รวมดอกเบี้ยสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ไม่มีเงินก้อนไปซื้อก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว ถ้าจำไม่ผิดมีลดหย่อน 1 ล้านบาทแรกยกเว้นให้ คร่าวๆก็ 1 ล้านละ 5,000 บาท น่าจะมีลดหย่อนเพิ่มให้สำหรับคนมีภาระจดจำนองหรือไม่ก็เฉพาะหลังที่สองขึ้นไปจึงเก็บภาษี
-
- Verified User
- โพสต์: 90
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 3
เรตอยู่อาศัยผมว่ายังไม่เท่าไหร่นะ แค่ 0.5 % ถ้าบ้านไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองยังพอจ่ายไหวอยู่ แต่อาคารพาณิชย์นี่สิตั้ง 2% ใครเปิดร้านโชว์ห่วย ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยวไม่รอดแน่นอน
-
- Verified User
- โพสต์: 4241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 4
ส่วนตัว เล่าประสบการณ์ให้ฟัง
ตอนผมทำโรงงาน ตั้งอยู่นอกเมืองนะครับ ในเขตชายแดนระหว่างอำเภอสองอำเภอ
(in the middle of no where จริงๆ ไม่มีอะไรนอกจากป่ายางกับบ่อดินลูกรัง)
ต้องจ่ายภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ที่เช่าแต่อาคารสร้างเอง) จ่ายทุกปี
ประเมินจาก จำนวน ตร.ม. ของโรงเรือน โดยมีอัตราในการคิด 3 อัตรา ที่แพง
ที่สุดคืออยู่ติดถนนใหญ่ แล้วถัดเข้าไปกี่เมตร ก็จะเป็นอัตรารองลงไป ถูกสุด
ก็จะเข้าไปจากถนนใหญ่มากที่สุด แต่ขอโทษ กฎหมายโบราณมากๆ ตั้งแต่
พ.ศ.24XX ในตัวเมือง นอกตัวเมือง เจริญแค่ไหน ชนบทแค่ไหน อัตราเดียวกัน
ทั้งประเทศ!!! นี่คือความ "อยุติธรรม"
อีกภาษีหนึ่งที่สะท้อนถึงความโบราณของระบบภาษีคือ ภาษีป้าย คิดอัตราเดียวกัน
ทั้งประเทศ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ชนบท ในเมือง นอกเมือง "ยุติธรรม" ไหม (อัตราภาษี
ขึ้นภาษา และรูปภาพครับ)
แค่ต่างจังหวัดจ่ายค่าน้ำมัน ค่า LPG แพงกว่าคนกรุงฯ เพราะเอาระยะทางจาก กทม.
เป็นหลักในการบวกค่าขนส่ง ทั้งๆ ที่คลังน้ำมันอยู่ใกล้ๆ นี่เอง "ยุติธรรม" กับคนต่าง
จังหวัดไหม
ผมสนับสนุนในเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ (Property Tax นั่นเอง)
เพราะอิงฐานจากราคาประเมิน ที่สะท้อนราคาที่ดิน ที่แตกต่างกันระหว่างในเมือง
กับนอกเมืองครับ เพราะสร้างความยุติธรรมได้มากกว่ากฎหมายเดิม (ทั้งๆ ที่
ยังคิดไม่ออกว่าจะต้องจ่ายเพิ่มจากเดิมมหาศาลแค่ไหน และจะหาเงินที่ไหมมาจ่าย
เพราะที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของที่บ้าน อยู่ในเมืองหาดใหญ่ที่ราคาประเมินสูงที่สุด
อันดับสองของประเทศไทย แต่ผมคิดว่ามันยุติธรรมกับคนที่อยู่นอกเมืองครับ)
ตอนผมทำโรงงาน ตั้งอยู่นอกเมืองนะครับ ในเขตชายแดนระหว่างอำเภอสองอำเภอ
(in the middle of no where จริงๆ ไม่มีอะไรนอกจากป่ายางกับบ่อดินลูกรัง)
ต้องจ่ายภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ที่เช่าแต่อาคารสร้างเอง) จ่ายทุกปี
ประเมินจาก จำนวน ตร.ม. ของโรงเรือน โดยมีอัตราในการคิด 3 อัตรา ที่แพง
ที่สุดคืออยู่ติดถนนใหญ่ แล้วถัดเข้าไปกี่เมตร ก็จะเป็นอัตรารองลงไป ถูกสุด
ก็จะเข้าไปจากถนนใหญ่มากที่สุด แต่ขอโทษ กฎหมายโบราณมากๆ ตั้งแต่
พ.ศ.24XX ในตัวเมือง นอกตัวเมือง เจริญแค่ไหน ชนบทแค่ไหน อัตราเดียวกัน
ทั้งประเทศ!!! นี่คือความ "อยุติธรรม"
อีกภาษีหนึ่งที่สะท้อนถึงความโบราณของระบบภาษีคือ ภาษีป้าย คิดอัตราเดียวกัน
ทั้งประเทศ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ชนบท ในเมือง นอกเมือง "ยุติธรรม" ไหม (อัตราภาษี
ขึ้นภาษา และรูปภาพครับ)
แค่ต่างจังหวัดจ่ายค่าน้ำมัน ค่า LPG แพงกว่าคนกรุงฯ เพราะเอาระยะทางจาก กทม.
เป็นหลักในการบวกค่าขนส่ง ทั้งๆ ที่คลังน้ำมันอยู่ใกล้ๆ นี่เอง "ยุติธรรม" กับคนต่าง
จังหวัดไหม
ผมสนับสนุนในเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ (Property Tax นั่นเอง)
เพราะอิงฐานจากราคาประเมิน ที่สะท้อนราคาที่ดิน ที่แตกต่างกันระหว่างในเมือง
กับนอกเมืองครับ เพราะสร้างความยุติธรรมได้มากกว่ากฎหมายเดิม (ทั้งๆ ที่
ยังคิดไม่ออกว่าจะต้องจ่ายเพิ่มจากเดิมมหาศาลแค่ไหน และจะหาเงินที่ไหมมาจ่าย
เพราะที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของที่บ้าน อยู่ในเมืองหาดใหญ่ที่ราคาประเมินสูงที่สุด
อันดับสองของประเทศไทย แต่ผมคิดว่ามันยุติธรรมกับคนที่อยู่นอกเมืองครับ)
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
-
- Verified User
- โพสต์: 4241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 5
เพิ่มเติม
อาคาร บ้านเรือน ที่ดิน ให้เช่า นี่ปกติถูกเก็บภาษี
โรงเรือนและที่ดิน (กฎหมายเดิมที่จะถูกแทนที่) อยู่แล้วใน
อัตรา 1.5 เดือน หมายความว่าค่าเช่า 12 เดือน เจ้าของ
ได้ 10.5 เดือน ท้องถิ่นได้ 1.5 เดือน คิดเป็น 1.5/12
= 12.5% นะครับ
อันนี้ผมคิดว่า ยังไงซะ รัฐบาล คงไม่ยอมให้จ่ายภาษี
จากค่าเช่า ลดลงแน่นอน เพราะรายได้จะหายไปมหาศาล
เพิ่มอีกอันหนึ่ง ก็คือ บ้านหลังที่สอง สาม สี่ ควรมีอัตรา
ภาษีที่เพิ่มขึ้น จากบ้านหลังที่หนึ่ง
อาคาร บ้านเรือน ที่ดิน ให้เช่า นี่ปกติถูกเก็บภาษี
โรงเรือนและที่ดิน (กฎหมายเดิมที่จะถูกแทนที่) อยู่แล้วใน
อัตรา 1.5 เดือน หมายความว่าค่าเช่า 12 เดือน เจ้าของ
ได้ 10.5 เดือน ท้องถิ่นได้ 1.5 เดือน คิดเป็น 1.5/12
= 12.5% นะครับ
อันนี้ผมคิดว่า ยังไงซะ รัฐบาล คงไม่ยอมให้จ่ายภาษี
จากค่าเช่า ลดลงแน่นอน เพราะรายได้จะหายไปมหาศาล
เพิ่มอีกอันหนึ่ง ก็คือ บ้านหลังที่สอง สาม สี่ ควรมีอัตรา
ภาษีที่เพิ่มขึ้น จากบ้านหลังที่หนึ่ง
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
-
- Verified User
- โพสต์: 3404
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 6
ผมเห็นด้วยนะ ความชัดเจนจะได้เกิดขึ้น ส่วนอัตราที่เหมาะสมก็ต้องพิจารณากันไป กฎหมายมันล้าสมัยมาก ถ้าทำได้ทำให้แก้ไขปัญหาการคอร์รัปชั่นได้ระดับหนึ่ง ทุกวันนี้การประเมินขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่เท่านั้นที่จะทำตัวเลข ???
ในเกมการเงิน อะไรที่ไม่รู้ คือ ความเสี่ยง
-
- Verified User
- โพสต์: 90
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 8
ผมเข้าใจนะครับ ตึกแถวที่ผมให้เช่าอยู่ ผมก็จ่ายภาษีโรงเรือนอยู่ตลอด ทั้งๆที่หลายคนหลบเลี่ยงกันเยอะ แต่ผมคิดว่าอัตราไม่ควรจะมากกว่าภาษีโรงเรือนเดิมนะ ถ้าทำเชิงพาณิชย์ 2% ส่วนตัวว่ามันโหดไปจริงๆ ใจผมคิดว่าน่าจะแบบนี้ อยู่อาศัย 0.25% เกษตร 0.25% เชิงพาณิชย์ 0.5% ที่รกร้างเริ่มที่ 0.5% ทวีคูณทุก 3 ปี สูงสุดที่ 4%syj เขียน:ส่วนตัว เล่าประสบการณ์ให้ฟัง
ตอนผมทำโรงงาน ตั้งอยู่นอกเมืองนะครับ ในเขตชายแดนระหว่างอำเภอสองอำเภอ
(in the middle of no where จริงๆ ไม่มีอะไรนอกจากป่ายางกับบ่อดินลูกรัง)
ต้องจ่ายภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ที่เช่าแต่อาคารสร้างเอง) จ่ายทุกปี
ประเมินจาก จำนวน ตร.ม. ของโรงเรือน โดยมีอัตราในการคิด 3 อัตรา ที่แพง
ที่สุดคืออยู่ติดถนนใหญ่ แล้วถัดเข้าไปกี่เมตร ก็จะเป็นอัตรารองลงไป ถูกสุด
ก็จะเข้าไปจากถนนใหญ่มากที่สุด แต่ขอโทษ กฎหมายโบราณมากๆ ตั้งแต่
พ.ศ.24XX ในตัวเมือง นอกตัวเมือง เจริญแค่ไหน ชนบทแค่ไหน อัตราเดียวกัน
ทั้งประเทศ!!! นี่คือความ "อยุติธรรม"
อีกภาษีหนึ่งที่สะท้อนถึงความโบราณของระบบภาษีคือ ภาษีป้าย คิดอัตราเดียวกัน
ทั้งประเทศ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ชนบท ในเมือง นอกเมือง "ยุติธรรม" ไหม (อัตราภาษี
ขึ้นภาษา และรูปภาพครับ)
แค่ต่างจังหวัดจ่ายค่าน้ำมัน ค่า LPG แพงกว่าคนกรุงฯ เพราะเอาระยะทางจาก กทม.
เป็นหลักในการบวกค่าขนส่ง ทั้งๆ ที่คลังน้ำมันอยู่ใกล้ๆ นี่เอง "ยุติธรรม" กับคนต่าง
จังหวัดไหม
ผมสนับสนุนในเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ (Property Tax นั่นเอง)
เพราะอิงฐานจากราคาประเมิน ที่สะท้อนราคาที่ดิน ที่แตกต่างกันระหว่างในเมือง
กับนอกเมืองครับ เพราะสร้างความยุติธรรมได้มากกว่ากฎหมายเดิม (ทั้งๆ ที่
ยังคิดไม่ออกว่าจะต้องจ่ายเพิ่มจากเดิมมหาศาลแค่ไหน และจะหาเงินที่ไหมมาจ่าย
เพราะที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของที่บ้าน อยู่ในเมืองหาดใหญ่ที่ราคาประเมินสูงที่สุด
อันดับสองของประเทศไทย แต่ผมคิดว่ามันยุติธรรมกับคนที่อยู่นอกเมืองครับ)
-
- Verified User
- โพสต์: 272
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 11
มันคือส่วย มากกว่าภาษี โดยมัวเอาหลักการประเมินทรัพย์สิน
ทางเศรษศาตร์มาเป็นเกรณ์ ทั่งที่ทรัพย์พวกนี้ขึ้นได้ลงก็ได้ในบางครั้ง
การทำแบบนี้ เหมือนเป็นการบังคับว่า ถ้าจะอยู่ตรงนี้ ลื้อต้องจ่ายเท่านี้
ถ้าจ่ายไม่ได้ออกไปอยู่ที่อื่น ที่ไม่ใช่ตรงนี้ อั้วจะเอาคนอื่นที่มีปัญญา
จ่ายมาอยู่แทน ซึ่งหลักเกณ์ทแบบนี้เป็นระบบเศรษฐกิจที่ ส่วนของเอกชน
เขาใช้กันอยู่แล้วผ่านทางผลตอบแทนทางด้านราคา ซึ่งขึ้นอยู่กับเจ้าของ
ทรัพย์นั้นจะตัดสินใจว่าจะอยู่หรือไป ซึ่งรัฐไม่น่าเข้ามาเป็นส่วนแทรกแซง
หรือเร่ง(บางที่ออกแนวบังคับเพราะความสามารถในการจ่ายไม่มี)หรือเรียกเก็บ
ผลประโยชน์ตรงนี้ เพราะดูอย่างไรก็ไม่เป็นธรรมกับเจ้าของทรัพย์ ออกแนว
เป็นค่าส่วยมากกว่าภาษี ส่วนส่วยที่ได้ เอาไปพัฒนาประเทศ ก็อย่างที่เห็น
ผมว่าพัฒนาไปเรื่อยๆ ทำไมรู้สึกว่าอยู่ยากขึ้นทุกวันก็ไม่รู้
ทางเศรษศาตร์มาเป็นเกรณ์ ทั่งที่ทรัพย์พวกนี้ขึ้นได้ลงก็ได้ในบางครั้ง
การทำแบบนี้ เหมือนเป็นการบังคับว่า ถ้าจะอยู่ตรงนี้ ลื้อต้องจ่ายเท่านี้
ถ้าจ่ายไม่ได้ออกไปอยู่ที่อื่น ที่ไม่ใช่ตรงนี้ อั้วจะเอาคนอื่นที่มีปัญญา
จ่ายมาอยู่แทน ซึ่งหลักเกณ์ทแบบนี้เป็นระบบเศรษฐกิจที่ ส่วนของเอกชน
เขาใช้กันอยู่แล้วผ่านทางผลตอบแทนทางด้านราคา ซึ่งขึ้นอยู่กับเจ้าของ
ทรัพย์นั้นจะตัดสินใจว่าจะอยู่หรือไป ซึ่งรัฐไม่น่าเข้ามาเป็นส่วนแทรกแซง
หรือเร่ง(บางที่ออกแนวบังคับเพราะความสามารถในการจ่ายไม่มี)หรือเรียกเก็บ
ผลประโยชน์ตรงนี้ เพราะดูอย่างไรก็ไม่เป็นธรรมกับเจ้าของทรัพย์ ออกแนว
เป็นค่าส่วยมากกว่าภาษี ส่วนส่วยที่ได้ เอาไปพัฒนาประเทศ ก็อย่างที่เห็น
ผมว่าพัฒนาไปเรื่อยๆ ทำไมรู้สึกว่าอยู่ยากขึ้นทุกวันก็ไม่รู้
Way of life is way of brain
-
- Verified User
- โพสต์: 90
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 12
ไม่แน่นะครับ อาจเหมือนหนังเรื่อง in time คือแบ่งไปเลย โซนนี้คนรวยทั้งเมือง ปลอดภัย มีระดับ แต่คุณต้องมีเงินถึงจะอยู่ได้ อีกโซนจนทั้งเมือง มีแต่ปัญหาอาชญากรรมsurapol เขียน:มันคือส่วย มากกว่าภาษี โดยมัวเอาหลักการประเมินทรัพย์สิน
ทางเศรษศาตร์มาเป็นเกรณ์ ทั่งที่ทรัพย์พวกนี้ขึ้นได้ลงก็ได้ในบางครั้ง
การทำแบบนี้ เหมือนเป็นการบังคับว่า ถ้าจะอยู่ตรงนี้ ลื้อต้องจ่ายเท่านี้
ถ้าจ่ายไม่ได้ออกไปอยู่ที่อื่น ที่ไม่ใช่ตรงนี้ อั้วจะเอาคนอื่นที่มีปัญญา
จ่ายมาอยู่แทน ซึ่งหลักเกณ์ทแบบนี้เป็นระบบเศรษฐกิจที่ ส่วนของเอกชน
เขาใช้กันอยู่แล้วผ่านทางผลตอบแทนทางด้านราคา ซึ่งขึ้นอยู่กับเจ้าของ
ทรัพย์นั้นจะตัดสินใจว่าจะอยู่หรือไป ซึ่งรัฐไม่น่าเข้ามาเป็นส่วนแทรกแซง
หรือเร่ง(บางที่ออกแนวบังคับเพราะความสามารถในการจ่ายไม่มี)หรือเรียกเก็บ
ผลประโยชน์ตรงนี้ เพราะดูอย่างไรก็ไม่เป็นธรรมกับเจ้าของทรัพย์ ออกแนว
เป็นค่าส่วยมากกว่าภาษี ส่วนส่วยที่ได้ เอาไปพัฒนาประเทศ ก็อย่างที่เห็น
ผมว่าพัฒนาไปเรื่อยๆ ทำไมรู้สึกว่าอยู่ยากขึ้นทุกวันก็ไม่รู้
- astro345
- Verified User
- โพสต์: 479
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 13
สงสัยถ้าบังคับใช้จริงๆ สินเชื่อสำหรับผู้สูงวัย ที่เรียกว่า Reverse Morgage อย่างใน ตปท. อาจได้รับความนิยม ในบ้านเรา
สินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุ Reverse Mortgage
สังเกตว่าในพักหลังๆ จะมีคนทั่วโลกออกมาเป็นห่วง และพูดถึงมาตรการรองรับการดูแลผู้สูงอายุอย่างจริงจัง เพราะคาดว่าในไม่ช้า โครงสร้างประชากรโลกจะมีสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นมาก เป็นผลจากพฤติกรรมการมีลูกน้อยลง ประกอบกับการมีอายุเฉลี่ยยืนขึ้น ซึ่งประชาชนโดยเฉลี่ยอาจจะใช้ชีวิตหลังเกษียณยาวนานถึง 20 ปีเลยทีเดียว
กรณีของไทย ผู้สูงอายุจะหวังพึ่งเงินงบประมาณรัฐ ด้านสวัสดิการสังคมหรือสาธารณสุขก็คงไม่พอ หวังให้ลูกหลานเลี้ยงดูก็ไม่แน่ใจ เพราะวัฒนธรรมเลี้ยงดูผู้สูงอายุเริ่มเปลี่ยนไป หวังพึ่งเงินสะสมก็ไม่รู้ว่าจะพอใช้จนถึงบั้นปลายชีวิตหรือเปล่า เป็นเรื่องที่น่ากังวลจริงๆ
อันที่จริงแล้ว ยังมีความมั่งคั่ง (Wealth) อย่างหนึ่งที่คนเราสะสมไว้ตั้งแต่วัยทำงาน คือ บ้านที่ผ่อนส่งกันนานถึง 20 - 30 ปี ทำให้เงินเก็บทั้งชีวิตร่อยหรอลงไป แต่จะทำอย่างไร เมื่อถึงคราวจำเป็นในยามแก่ จะสามารถเอาบ้านมาแปลงเป็นเงินเพื่อใช้จ่ายเหมือนทรัพย์สินอย่างอื่นได้ โดยไม่ต้องหวังพึ่งใครและยังสามารถอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นได้
Reverse Mortgage หรือสินเชื่อบ้านแบบย้อนกลับ สามารถตอบโจทย์ข้างต้นได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ ที่เรียกว่า ย้อนกลับ ก็เพราะว่า สวนทางกับสินเชื่อบ้านทั่วไป ที่โดยปกติผู้กู้จะต้องจ่ายชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นงวดๆ ให้กับสถาบันการเงินที่ให้กู้
ในขณะที่ Reverse Mortgage นั้น สถาบันการเงินจะต้องจ่ายเงินให้กับผู้กู้เป็นงวดๆ รวมทั้งอาจจะกันวงเงินจำนวนหนึ่งไว้ สำหรับการเบิกใช้ในยามฉุกเฉินเพิ่มเติม โดยผู้กู้ไม่ต้องชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยคืนจนกว่าจะสิ้นสุดการกู้ยืม จัดเป็น Deferred Payment Loan ประเภทหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขว่าผู้กู้จะต้องอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นเป็นหลักตลอดการกู้ยืม
Reverse Mortgage เป็นสินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุเท่านั้น (อายุ 62ปีขึ้นไปในสหรัฐฯ และอายุ 65 ปีขึ้นไปในเกาหลีใต้) เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีบ้านเป็นของตนเอง แต่ไม่มีกระแสเงินเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และไม่ต้องการขายบ้าน
วงเงินกู้ที่จะได้รับขึ้นอยู่กับอายุของผู้กู้ (ยิ่งอายุมาก ยิ่งได้รับวงเงินมาก) มูลค่าบ้านที่เป็นหลักประกัน และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ส่วนใหญ่การกู้จะสิ้นสุดลง เมื่อผู้กู้เสียชีวิต มีการชำระหนี้คืนทั้งหมด หรือไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นแล้ว
น่าเสียดายว่า Reverse Mortgage ยังไม่มีในประเทศเรา ส่วนใหญ่จะมีในประเทศที่ตลาดสินเชื่อบ้านค่อนข้างก้าวหน้า ในแถบเอเชียเท่าที่เห็น คือ เกาหลีใต้ ที่เริ่มในปี 2550 โดยมีสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐเป็นผู้ให้กู้ มีรัฐบาลค้ำประกันเงินกู้ และคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำ เพราะถือว่าเป็นสวัสดิการสังคมสำหรับผู้สูงอายุในประเทศอย่างหนึ่ง
สำหรับในไทย น่าจะมีการริเริ่มบริการ Reverse Mortgage ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ และลดภาระของรัฐบาลในการดูแลผู้สูงอายุแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนความมั่งคั่งที่คนสะสมไว้ให้มีสภาพคล่องมากขึ้น ทำให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลบวกต่อ GDP และการพัฒนาภาพรวมของที่อยู่อาศัยของประเทศ ทั้งนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์น่าจะเป็นผู้ริเริ่ม เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับภาครัฐ และน่าจะทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภคได้ดีที่สุด
ที่มา :// money.sanook.com/5145
สินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุ Reverse Mortgage
สังเกตว่าในพักหลังๆ จะมีคนทั่วโลกออกมาเป็นห่วง และพูดถึงมาตรการรองรับการดูแลผู้สูงอายุอย่างจริงจัง เพราะคาดว่าในไม่ช้า โครงสร้างประชากรโลกจะมีสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นมาก เป็นผลจากพฤติกรรมการมีลูกน้อยลง ประกอบกับการมีอายุเฉลี่ยยืนขึ้น ซึ่งประชาชนโดยเฉลี่ยอาจจะใช้ชีวิตหลังเกษียณยาวนานถึง 20 ปีเลยทีเดียว
กรณีของไทย ผู้สูงอายุจะหวังพึ่งเงินงบประมาณรัฐ ด้านสวัสดิการสังคมหรือสาธารณสุขก็คงไม่พอ หวังให้ลูกหลานเลี้ยงดูก็ไม่แน่ใจ เพราะวัฒนธรรมเลี้ยงดูผู้สูงอายุเริ่มเปลี่ยนไป หวังพึ่งเงินสะสมก็ไม่รู้ว่าจะพอใช้จนถึงบั้นปลายชีวิตหรือเปล่า เป็นเรื่องที่น่ากังวลจริงๆ
อันที่จริงแล้ว ยังมีความมั่งคั่ง (Wealth) อย่างหนึ่งที่คนเราสะสมไว้ตั้งแต่วัยทำงาน คือ บ้านที่ผ่อนส่งกันนานถึง 20 - 30 ปี ทำให้เงินเก็บทั้งชีวิตร่อยหรอลงไป แต่จะทำอย่างไร เมื่อถึงคราวจำเป็นในยามแก่ จะสามารถเอาบ้านมาแปลงเป็นเงินเพื่อใช้จ่ายเหมือนทรัพย์สินอย่างอื่นได้ โดยไม่ต้องหวังพึ่งใครและยังสามารถอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นได้
Reverse Mortgage หรือสินเชื่อบ้านแบบย้อนกลับ สามารถตอบโจทย์ข้างต้นได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ ที่เรียกว่า ย้อนกลับ ก็เพราะว่า สวนทางกับสินเชื่อบ้านทั่วไป ที่โดยปกติผู้กู้จะต้องจ่ายชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นงวดๆ ให้กับสถาบันการเงินที่ให้กู้
ในขณะที่ Reverse Mortgage นั้น สถาบันการเงินจะต้องจ่ายเงินให้กับผู้กู้เป็นงวดๆ รวมทั้งอาจจะกันวงเงินจำนวนหนึ่งไว้ สำหรับการเบิกใช้ในยามฉุกเฉินเพิ่มเติม โดยผู้กู้ไม่ต้องชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยคืนจนกว่าจะสิ้นสุดการกู้ยืม จัดเป็น Deferred Payment Loan ประเภทหนึ่ง โดยมีเงื่อนไขว่าผู้กู้จะต้องอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นเป็นหลักตลอดการกู้ยืม
Reverse Mortgage เป็นสินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุเท่านั้น (อายุ 62ปีขึ้นไปในสหรัฐฯ และอายุ 65 ปีขึ้นไปในเกาหลีใต้) เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีบ้านเป็นของตนเอง แต่ไม่มีกระแสเงินเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และไม่ต้องการขายบ้าน
วงเงินกู้ที่จะได้รับขึ้นอยู่กับอายุของผู้กู้ (ยิ่งอายุมาก ยิ่งได้รับวงเงินมาก) มูลค่าบ้านที่เป็นหลักประกัน และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ส่วนใหญ่การกู้จะสิ้นสุดลง เมื่อผู้กู้เสียชีวิต มีการชำระหนี้คืนทั้งหมด หรือไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นแล้ว
น่าเสียดายว่า Reverse Mortgage ยังไม่มีในประเทศเรา ส่วนใหญ่จะมีในประเทศที่ตลาดสินเชื่อบ้านค่อนข้างก้าวหน้า ในแถบเอเชียเท่าที่เห็น คือ เกาหลีใต้ ที่เริ่มในปี 2550 โดยมีสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐเป็นผู้ให้กู้ มีรัฐบาลค้ำประกันเงินกู้ และคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำ เพราะถือว่าเป็นสวัสดิการสังคมสำหรับผู้สูงอายุในประเทศอย่างหนึ่ง
สำหรับในไทย น่าจะมีการริเริ่มบริการ Reverse Mortgage ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ และลดภาระของรัฐบาลในการดูแลผู้สูงอายุแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนความมั่งคั่งที่คนสะสมไว้ให้มีสภาพคล่องมากขึ้น ทำให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลบวกต่อ GDP และการพัฒนาภาพรวมของที่อยู่อาศัยของประเทศ ทั้งนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์น่าจะเป็นผู้ริเริ่ม เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับภาครัฐ และน่าจะทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภคได้ดีที่สุด
ที่มา :// money.sanook.com/5145
-
- Verified User
- โพสต์: 508
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 14
ผมมีพื้นที่ให้เช่าแถวปทุมธานีเพื่อทำนา 24 ไร่ ติดถนนกาญจนาภิเษก ค่าเช่า/ปี ถูกมาก ต่อไปหากมีการเก็บภาษีในลักษณะนี้ผมอาจต้องขึ้นค่าเช่า หรือให้ผู้เช่าเอกชนรายอื่นมาเช่า ซึ่งผมไม่อยากทำ ชาวนาลำบากอยู่แล้วทุกวันนี้ เขาจะลำบากเพิ่มขึ้นอีก คิดดูถ้าไม่ทำอย่างนี้ผมจะเอาปัญญาที่ไหนมาจ่ายภาษี แต่ผมบ่นไปก็คงไม่มีใครได้ยิน ....ไม่อยากเขียนแบบนี้เลย แต่ผมอึดอัดมาก ภาษีมรดกอีกอัน ผมกลัวที่ชาวนา ชาวสวน ปริมณฑลจะไม่สามารถรักษาผืนดินที่ปู ย่า ตา ยาย ส่งต่อมาให้ทำมาหากินได้ต่อไป ทุกวันนี้ก็ขายกันเกือบหมดแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 423
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 15
ผมอ่านกฏหมายเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ผมมีเรื่องสดุดดังนี้
1. ราคาประเมิน
2. เก็บภาษีไม่เกิน .25% .5% และ.2% แล้วแต่ชนิดของที่ดิน
จนทที่กำหนดราคาประเมิน และการกำหนดว่าไม่เกินเท่าไหร่ แปลว่าเก็บเท่าไหร่ก็ได้
แต่ไม่เกินที่กำหนด กฏหมายแบบนี้ จนท รวยเละ เพราะชาวบ้านต้องเอาเงินมายัดใส่มือ จนท กฏหมายแบบนี้ คอรัปชั่นประเทศไทยเลยมาก
1. ราคาประเมิน
2. เก็บภาษีไม่เกิน .25% .5% และ.2% แล้วแต่ชนิดของที่ดิน
จนทที่กำหนดราคาประเมิน และการกำหนดว่าไม่เกินเท่าไหร่ แปลว่าเก็บเท่าไหร่ก็ได้
แต่ไม่เกินที่กำหนด กฏหมายแบบนี้ จนท รวยเละ เพราะชาวบ้านต้องเอาเงินมายัดใส่มือ จนท กฏหมายแบบนี้ คอรัปชั่นประเทศไทยเลยมาก
-
- Verified User
- โพสต์: 187
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 16
ไม่เห็นมีคนมาชี้แจงที่มาและวัตถุประสงค์ของกฎหมายฉบับนี้เลย ให้ประชาชนวิจารณ์ไปต่างๆนานา ข้อมูลที่ได้ก็ไม่ละเอียดเลย การประเมิน ประเมินจากอะไร มีข้อยกเว้นใครบ้างซึ่งปกติมันต้องมีอยู่แล้ว ทั้งๆที่มีผลกับประชาชนอย่างมาก ควรต้องมีประชาพิจารณืหรือปล่าว รวบรัดตัดความเอามากๆ
- astro345
- Verified User
- โพสต์: 479
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 17
เห็นด้วยอย่างมากๆ ครับ ว่าการชี้แจงให้กับ ปชช.โดยทั่วไปรับทราบยังน้อยมากๆ และให้ดีควรมีการทำประชาพิจารณ์อย่างน้อยสัก 3 รอบก่อนเริ่มบ้งคับใช้อย่างเป็นทางการI_Jay เขียน:ไม่เห็นมีคนมาชี้แจงที่มาและวัตถุประสงค์ของกฎหมายฉบับนี้เลย ให้ประชาชนวิจารณ์ไปต่างๆนานา ข้อมูลที่ได้ก็ไม่ละเอียดเลย การประเมิน ประเมินจากอะไร มีข้อยกเว้นใครบ้างซึ่งปกติมันต้องมีอยู่แล้ว ทั้งๆที่มีผลกับประชาชนอย่างมาก ควรต้องมีประชาพิจารณืหรือปล่าว รวบรัดตัดความเอามากๆ
- astro345
- Verified User
- โพสต์: 479
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 18
′คลัง′ สั่งถอย ′ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง′ เลื่อนชง ครม. ขอทบทวนอัตราใหม่
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงการคลังได้ทำหนังสือ แจ้งไปยังฝ่ายกฎหมาย กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงยุติธรรม ว่า ขอทบทวนในชั้นนโยบายเกี่ยวกับร่างแก้ไข พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่กำลังดำเนินการอยู่และเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือน มี.ค.นี้
ทั้งนี้ จำเป็นที่จะต้องสอบถามในเชิงนโยบายให้ชัดเจนว่า ต้องการให้แก้ไขกฎหมายนี้เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ในการลดความเหลื่อมล้ำของสังคมตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือไม่ เพราะหลังจากที่ได้เสนอแนวทางการแก้ไขกฎหมายเบื้องต้นออกมา โดยแยกการเก็บกัน ทำให้บ้านอยู่อาศัยต้องเสียภาษีด้วย แต่ได้มีแนวคิดจะยกเว้นภาษีให้บ้านที่มีมูลค่าไม่เกิน 1 ล้านบาท ส่วนอัตราภาษีที่จะเก็บจริงเท่าไรนั้น ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กำลังพิจารณาอยู่
โดยนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในวันที่ 5 มี.ค.นี้ กระทรวงการคลังเตรียมหารือแนวทางการร่างกฎหมาย จัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการปฏิรูปภาษี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยมีนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เป็นประธาน เพื่อหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปอัตราภาษี
นายรังสรรค์ กล่าวว่า อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่นี้อัตราจะลดลง แต่ฐานการจัดเก็บจะสูงขึ้น ในเบื้องต้นกระทรวงการคลังกำหนดเพดานการจัดเก็บภาษี คือ ที่ดินการเกษตรกำหนดเพดานจัดเก็บ 0.25% ที่อยู่อาศัยเพดานจัดเก็บ 0.5% ที่ดินพาณิชยกรรม เพดานจัดเก็บ 2% ส่วนที่ดินรกร้างว่างเปล่ากำหนดอัตราจัดเก็บในขั้นแรกคือ 0.5% หากไม่ทำประโยชน์ จะเพิ่มอีก 1 เท่า ทุก 3 ปี แต่สูงสุดไม่เกิน 2%
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวอีกว่า จะออกกฎหมายลูกประกาศอัตราการจัดเก็บภาษีจริงทุกประเภทใหม่อีกครั้ง เช่น บ้านราคา 1-3 ล้านบาท เก็บภาษีครึ่งหนึ่งของเพดาน หากราคาไม่ถึง 1 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี โดยใช้ประเมินราคาที่ดินเป็นฐานคำนวณภาษี ขณะนี้กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างเร่งประเมินราคาที่ดินทั่วประเทศ คาดว่าจะเสร็จภายในสิ้นปี 2558 "หากไม่มีอะไรผิดพลาด คาดว่ากฎหมายจะประกาศได้ภายใน ปีนี้" นายรังสรรค์ กล่าว
ขณะที่รายงานข่าว ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้จะถูกคัดค้านจาก สมาชิก สนช.หนักกว่ากฎหมายภาษีมรดก
ที่มา:// นสพ.มติชน วันที่ 05 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 09:44:16 น.
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงการคลังได้ทำหนังสือ แจ้งไปยังฝ่ายกฎหมาย กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงยุติธรรม ว่า ขอทบทวนในชั้นนโยบายเกี่ยวกับร่างแก้ไข พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่กำลังดำเนินการอยู่และเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือน มี.ค.นี้
ทั้งนี้ จำเป็นที่จะต้องสอบถามในเชิงนโยบายให้ชัดเจนว่า ต้องการให้แก้ไขกฎหมายนี้เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ในการลดความเหลื่อมล้ำของสังคมตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือไม่ เพราะหลังจากที่ได้เสนอแนวทางการแก้ไขกฎหมายเบื้องต้นออกมา โดยแยกการเก็บกัน ทำให้บ้านอยู่อาศัยต้องเสียภาษีด้วย แต่ได้มีแนวคิดจะยกเว้นภาษีให้บ้านที่มีมูลค่าไม่เกิน 1 ล้านบาท ส่วนอัตราภาษีที่จะเก็บจริงเท่าไรนั้น ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กำลังพิจารณาอยู่
โดยนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในวันที่ 5 มี.ค.นี้ กระทรวงการคลังเตรียมหารือแนวทางการร่างกฎหมาย จัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการปฏิรูปภาษี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยมีนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เป็นประธาน เพื่อหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปอัตราภาษี
นายรังสรรค์ กล่าวว่า อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่นี้อัตราจะลดลง แต่ฐานการจัดเก็บจะสูงขึ้น ในเบื้องต้นกระทรวงการคลังกำหนดเพดานการจัดเก็บภาษี คือ ที่ดินการเกษตรกำหนดเพดานจัดเก็บ 0.25% ที่อยู่อาศัยเพดานจัดเก็บ 0.5% ที่ดินพาณิชยกรรม เพดานจัดเก็บ 2% ส่วนที่ดินรกร้างว่างเปล่ากำหนดอัตราจัดเก็บในขั้นแรกคือ 0.5% หากไม่ทำประโยชน์ จะเพิ่มอีก 1 เท่า ทุก 3 ปี แต่สูงสุดไม่เกิน 2%
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวอีกว่า จะออกกฎหมายลูกประกาศอัตราการจัดเก็บภาษีจริงทุกประเภทใหม่อีกครั้ง เช่น บ้านราคา 1-3 ล้านบาท เก็บภาษีครึ่งหนึ่งของเพดาน หากราคาไม่ถึง 1 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี โดยใช้ประเมินราคาที่ดินเป็นฐานคำนวณภาษี ขณะนี้กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างเร่งประเมินราคาที่ดินทั่วประเทศ คาดว่าจะเสร็จภายในสิ้นปี 2558 "หากไม่มีอะไรผิดพลาด คาดว่ากฎหมายจะประกาศได้ภายใน ปีนี้" นายรังสรรค์ กล่าว
ขณะที่รายงานข่าว ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้จะถูกคัดค้านจาก สมาชิก สนช.หนักกว่ากฎหมายภาษีมรดก
ที่มา:// นสพ.มติชน วันที่ 05 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 09:44:16 น.
-
- Verified User
- โพสต์: 928
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 19
ในข่าวนี้พอมีนิดหน่อยครับastronomer345 เขียน:เห็นด้วยอย่างมากๆ ครับ ว่าการชี้แจงให้กับ ปชช.โดยทั่วไปรับทราบยังน้อยมากๆ และให้ดีควรมีการทำประชาพิจารณ์อย่างน้อยสัก 3 รอบก่อนเริ่มบ้งคับใช้อย่างเป็นทางการI_Jay เขียน:ไม่เห็นมีคนมาชี้แจงที่มาและวัตถุประสงค์ของกฎหมายฉบับนี้เลย ให้ประชาชนวิจารณ์ไปต่างๆนานา ข้อมูลที่ได้ก็ไม่ละเอียดเลย การประเมิน ประเมินจากอะไร มีข้อยกเว้นใครบ้างซึ่งปกติมันต้องมีอยู่แล้ว ทั้งๆที่มีผลกับประชาชนอย่างมาก ควรต้องมีประชาพิจารณืหรือปล่าว รวบรัดตัดความเอามากๆ
นับถอยหลัง!!!ภาษีที่ดิน-บ้าน คลังชง ครม.เคาะ ‘อัตราจัดเก็บ’
http://www.thanonline.com/index.php?opt ... PfNvfmUcXp
คลี่ปม "พร็อพเพอร์ตี้แทกซ์" ดับฝันขอยกเว้น" ค่าส่วนกลาง"
http://www.prachachat.net/news_detail.p ... 1425273864
-
- Verified User
- โพสต์: 4241
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 20
^
ถ้าเป็นแบบนี้ ผมว่าก็ใช้ภาษีโรงเรือนและที่ดิน กับ ภาษีบำรุงท้องที่(ภาษีที่ดินว่างเปล่านั่นแหละ)
เดิมๆ นี่แหละครับ แต่แก้ไขรายละเอียดให้ทันสมัยมากขึ้น และให้อัตราสะท้อนความแตกต่าง
ของมูลค่าที่ดิน (ให้ความยุติธรรมกับคนชนบท คนห่างไกลความเจริญ) และเปลี่ยนแปลงอัตราใหม่
เพราะของเดิมใช้มากกว่าหลายสิบปีแล้ว แต่ยังไงผมก็คิดว่าบ้านเราควรมี Property Tax (ที่จริง
มีอยู่แล้วอันหนึ่งคือ รถยนต์ ที่ต้องจ่ายทุกปี แต่อัตราก็ไม่ยุติธรรมเพราะคิดตาม CC ไม่ใช่ขนาด
และราคารถยนต์)
อีกอันที่ควรปรับปรุงโดยด่วนที่สุด คือภาษีป้าย ป้ายรุ่นใหม่ๆ ที่เป็น LED/LCD จะไปเก็บแบบเดิมๆ
คงไม่ได้ และเรื่องภาษาครับ ถ้ามีภาษาต่างชาติเสียเพิ่มขึ้นมากๆ แต่เรากำลังเข้า AEC ที่จำเป็น
ต้องใช้ภาษาอื่นๆ ด้วย
ถ้าเป็นแบบนี้ ผมว่าก็ใช้ภาษีโรงเรือนและที่ดิน กับ ภาษีบำรุงท้องที่(ภาษีที่ดินว่างเปล่านั่นแหละ)
เดิมๆ นี่แหละครับ แต่แก้ไขรายละเอียดให้ทันสมัยมากขึ้น และให้อัตราสะท้อนความแตกต่าง
ของมูลค่าที่ดิน (ให้ความยุติธรรมกับคนชนบท คนห่างไกลความเจริญ) และเปลี่ยนแปลงอัตราใหม่
เพราะของเดิมใช้มากกว่าหลายสิบปีแล้ว แต่ยังไงผมก็คิดว่าบ้านเราควรมี Property Tax (ที่จริง
มีอยู่แล้วอันหนึ่งคือ รถยนต์ ที่ต้องจ่ายทุกปี แต่อัตราก็ไม่ยุติธรรมเพราะคิดตาม CC ไม่ใช่ขนาด
และราคารถยนต์)
อีกอันที่ควรปรับปรุงโดยด่วนที่สุด คือภาษีป้าย ป้ายรุ่นใหม่ๆ ที่เป็น LED/LCD จะไปเก็บแบบเดิมๆ
คงไม่ได้ และเรื่องภาษาครับ ถ้ามีภาษาต่างชาติเสียเพิ่มขึ้นมากๆ แต่เรากำลังเข้า AEC ที่จำเป็น
ต้องใช้ภาษาอื่นๆ ด้วย
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
-
- Verified User
- โพสต์: 9
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 22
เห็นด้วยครับ น่าจะเป็นบ้านหลังที่สอง หรือไม่ก็ควรเป็นบ้านที่ผ่อนหมดแล้ว หรือน่าจะเป็นบ้านที่ราคา 50 ล้านขึ้นไปจะดีกว่า มาเก้บแบบนี้ คชจ หนักเลยครับastronomer345 เขียน:แย่เลยครับภาระเพิ่มขึ้นอีกนอกเหนือจากค่าส่วนกลาง ค่าประกันภัย อัคคีภัยฯ ค่าฉีดปลวก ปกติภาระการผ่อนส่งที่รวมดอกเบี้ยสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ไม่มีเงินก้อนไปซื้อก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว ถ้าจำไม่ผิดมีลดหย่อน 1 ล้านบาทแรกยกเว้นให้ คร่าวๆก็ 1 ล้านละ 5,000 บาท น่าจะมีลดหย่อนเพิ่มให้สำหรับคนมีภาระจดจำนองหรือไม่ก็เฉพาะหลังที่สองขึ้นไปจึงเก็บภาษี
-
- Verified User
- โพสต์: 69
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 23
ไม่เห็นด้วยครับ ... ไม่อยากเห็นคนไทย ต้องมานั่งคำนวณ ROA ของบ้านและที่ดิน
กันทั้ง ประเทศครับ ...
http://pantip.com/topic/33324455
กันทั้ง ประเทศครับ ...
http://pantip.com/topic/33324455
ความล้มเหลว ให้การเรียนรู้ได้มากกว่า
ความสำเร็จ ...
ความสำเร็จ ...
-
- Verified User
- โพสต์: 18134
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 24
ประเด็นของผมประเด็นเดียว
ตีมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั่วประเทศให้เป็นราคาประเมิน
ได้เมื่อไร เพราะที่เดินแต่ละแปลงแตกต่างกัน
ที่ดินตาบอด กับ ที่ดินติดถนนใหญ่
ที่ดินที่มีเสาไฟฟ้าแรงสูง กับที่ดินที่ไม่มีเสาไฟฟ้าแรงสูง
ที่ดินพื้นที่สีแดง กับ ที่ดินพื้นที่สีเขียว บนถนนเส้นเดียวกัน
ตีมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั่วประเทศให้เป็นราคาประเมิน
ได้เมื่อไร เพราะที่เดินแต่ละแปลงแตกต่างกัน
ที่ดินตาบอด กับ ที่ดินติดถนนใหญ่
ที่ดินที่มีเสาไฟฟ้าแรงสูง กับที่ดินที่ไม่มีเสาไฟฟ้าแรงสูง
ที่ดินพื้นที่สีแดง กับ ที่ดินพื้นที่สีเขียว บนถนนเส้นเดียวกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 928
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 25
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มีลดหย่อนตามเกณฑ์พื้นที่ด้วย ทำไมไม่มีคนพูดถึง พูดแต่มูลค่าบ้านและที่ดิน
http://pantip.com/topic/33300270
http://pantip.com/topic/33300270
-
- Verified User
- โพสต์: 104
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 27
-
- Verified User
- โพสต์: 334
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดยังไงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างครับ
โพสต์ที่ 29
"พิเชษฐ" ค้านเก็บภาษีที่ดิน-บ้าน ชี้เป็นการผลักภาระสู่ประชาชนทุกหย่อมหญ้า ย้ำ เศรษฐีไม่สะเทือนแต่กระทบคนชั้นกลาง นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีตรมช.คลัง อดีตสส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงมาตรการการจัดเก็บภาษีที่ดินและบ้านพักอาศัยว่า....... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1wiupg8