OVERCOME-ก้าวข้ามความแปรปรวน

[Nevercry.boy]

คุณกำลังท้อถอยอยู่หรือเปล่า? ตลาดหุ้นทุก ๆ วันประกอบไปด้วย จิตใจมากมายวิ่งวนอยู่ในวังวนของความโลภและความกลัวสะท้อนออกมาเป็นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งกดดันสภาวะจิตใจของเราทั้งหุ้นขึ้นและหุ้นลง

หลากหลายความคิดเห็นในบอร์ดหุ้น

เฮ้อ-พึ่งขายไปหุ้นวิ่งขึ้นพรวด ๆ
..ปีที่แล้วถือไว้เป็นเต่า พอผมขายปั๊ป เต่าถอดกระดองวิ่งเลยพี่
เอ๊ะ ผมก็เห็นอยู่ดี ๆ ว่าหุ้นขึ้น พอผมเข้าปั๊บ มันลง
คัท คัท คัท ไม่เอาแล้วตลาดหุ้น

และล่าสุดที่ได้ยินมา "ผมไม่มีดวงครับ"

มิสเตอร์มาร์เก๊ต ตัวละครในนิทานของเบนแกรม สะท้อนถึงตัวตนของตลาดหุ้นว่าจริง ๆ แล้วเป็นคนค่อนข้างไร้เหตุผล บางคนไปต่อเติมถึงขั้นว่า มิสเตอร์มาร์เก๊ตของเบนแกรมเป็นโรคไบโพลาร์ บางวันก็อารมณ์ดีเกินจริงไล่ซื้อหุ้นทุก ๆ ราคาที่พอใจ แต่ในขณะที่บางวันเป็นโรคซึมเศร้าขายทุกราคาที่เห็น ตลาดหุ้นจึงเต็มไปด้วยความ "ผันผวน" เป็นความปกติ

ความปกติคือความผันผวน และความผันผวนคือความปกติ ถ้าตลาดหุ้นไม่ผันผวนคือผิดปกติ

หากคุณเป็นนักลงทุนแล้วคุณต้องก้าวข้ามความผันผวนของตลาดหุ้นให้ได้ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เราจะทำอย่างไร? มาฟังความคิดเห็นอันทรงคุณค่าของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ กัน

I never attempt to make money on the stock market. I buy on the assumption that they could close the market the next day and not reopen it for five years. As far as you are concerned, the stock market does not exist. Ignore it. Much success can be attributed to inactivity. Most investors cannot resist the temptation to constantly buy and sell.

ผมแต่งเติมแบบบ้าน ๆ ให้ฟัง (เวอร์ชันเด็กผู้ชายไม่ร้องไห้)

ตลาดหุ้นจะขึ้นลงเป็นวัฎจักรยังไง ช่างหัวมัน
ใครจะเดย์เทรด ซื้อขายหุ้นแล้วได้กำไรอะไร เป็นวรรคเป็นเวร ไม่เชื่อ
ผมไม่เคยพยายามหาเงินจากตลาดหุ้น
ถ้าจะซื้อหุ้นก็ไม่เคยสนแม้แต่ตลาดจะปิดไปอีกห้าปีถ้าพอใจวันนี้ก็จะซื้อวันนี้
ตลาดหุ้นอะไรมันไม่เคยมีอยู่จริง

ค้นหาธุรกิจแข็งแกร่ง ก้าวข้ามความผันผวนของตลาด ก้าวข้ามความแปรปรวนของจิตใจตนเอง

ธุรกิจที่แข็งแกร่งจะเติบโตไปพร้อมกับคนที่มีจิตใจแข็งแกร่ง

เป็นนักลงทุนที่ไม่แพ้ใจตนเอง

[AAA]

ขอบคุณครับ
กว่าจะถึงขั้นก้าวข้ามความผันผวนของตลาด ก้าวข้ามความแปรปรวนของจิตใจตนเอง
วีไอมือใหม่ ( เม่ากลับใจ ) ยังก้าวข้ามการค้นหาธุรกิจแข็งแกร่งไม่พ้นเลยครับ
ขอเวลาหาธุรกิจที่แข็งแกร่งจะเติบโตไปในอีก 5 ปีข้างหน้าก่อน
แล้วจะกลับมา ก้าวข้ามความผันผวนของตลาด
ก้าวข้ามความแปรปรวนของจิตใจตนเองไปแบบคุณหมอครับ

[ลูกหิน]

ขอบคุณมากครับ

[vim]

ขอบคุณครับพี่ ช่วงนี้กลัวยับยั้งชั่งใจไม่อยู่

[Akkapun]

ขอบคุณครับพี่

[ดำ]

คุณพิชัย จาวลา เจ้าของทฤษฎีผลประโยชน์ ได้บอกไว้ว่า ตลาดจะพยายามล่อหลอกนักลงทุน/นักเก็งกำไรด้วยราคาที่เคลื่อนไหวไปมา + ข่าวดีข่าวร้ายที่เป็นเหตุผลสนับสนุนในระยะสั้นๆ

แต่ตลาดทำอะไรนักลงทุนแนววีไอไม่ได้ เพราะวีไอไม่สนใจราคาที่เปลี่ยนแปลงในทุกๆ วันครับ

[nuk]

ขอบคุณมากครับ โดนจริงๆ
พอขายปุ๊ป วิ่งขึ้นไปเป็นเด้งๆเลยครับ

[ปลูกหุ้นกินผล]

ขอบคุณครับ ^_^

เมื่อเลือกกิจการที่แข็งแกร่งและเติบโตได้แล้วก็อยู่กับกิจการนั้นให้นานที่สุด เป็นหลักการที่เหมือนจะง่ายแต่ปฎิบัติยากมากนะครับ เช่น เมื่อเลือกกิจการที่แข็งแกร่งและเติบโตได้แล้ว เราจะอยู่กับกิจการหรือหุ้นตัวนี้ได้ไหมเมื่อผลตอบแทนเพิ่มจาก 0%-50%-100%-200%-n% เราจะอดทนต่อสิ่งยั่วเย้านี้ได้มากเพียงไร หรือเราจะขายกิจการที่ดีนี้เมื่อได้ผลตอบแทน 50%-100% ครับ

กำลังพยายามก้าวข้ามสิ่งยั่วเย้านี้ครับ

[kongkiti]

ขอบคุณพี่ NB สำหรับ บทความอันเฉียบคมครับ ชาบูๆ

ขอ Share เพิ่ม
ผมพึ่งไปอบรมมา อาจารย์สอนสมการ E+R = O
(ลองเทียบกับตลาดหุ้นไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก)

E = Event
- หุ้น SUPAR มันยอดมาก พุ่งยังกะจรวด
- หุ้น XYZ เปลี่ยนโมเดลธุรกิจ น่าสนใจจัง
- หุ้น DIMAT มาได้ยังไง??
- บริษัทไหนทำโรงไฟฟ้า ราคาขึ้นแน่ๆ (ว่าแต่...เอ มันขึ้นมาเยอะรึยังนะ?, คุ้นๆ ว่าปี่ที่แล้วก็มี Solar, Digital TV, bla, bla...)
- ตัวนู๊น ก็ซิลลิ่ง ตัวนั้นก็ซิลลิ่ง สนุกกว่าปีที่แล้วอีก (...เอ วันพรุ่งนี้ หุ้นเราจะ ลิ่ง ไม่ลิ่ง นะ ลุ้นๆๆ)
- ตลาด SET PE 14 ดูราคาไม่แพงเท่าไหร่นะ เมื่อเทียบ ตลาด Mai PE 80 เท่า ฮา...

R = Response
- เลือกที่จะเล่นตามเกมตลาด
- เลือกที่จะลงทุนต่อไปตามเกมของเรา
- เลือกที่จะไม่เล่น

O = Outcome
- ผลลัพธ์ ออกมา ก็ตามที่เรา Response นั่นแหล่ะ
คงต้อง(ทำใจ) ยอมรับในหนทางที่ได้เลือกไป
- กลัวอย่างเดียว คือ ทำอะไรลงไป โดยไม่รู้ตัว ว่าทำอะไรลงไป...

โดยสรุป คือ อีเวน เอ้ย...อีเว้นท์ มันเกิดขึ้นแล้ว แต่ผลลัพธ์ อยู่ที่เรา Response อย่างไร...เราเลือกได้เสมอ