GRAMMY

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
Invisible hand
ผู้ติดตาม: 0

GRAMMY

โพสต์ที่ 31

โพสต์

ผมคิดว่ากรณีของ Grammy เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจมากครับ

ผมชอบ Grammy ในแง่ของการเป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมที่สูงมาก มีทรัพย์สินที่ไม่อยู่ในสินทรัพย์ในงบดุลคือลิขสิทธิ์เพลงและความนิยมในตัวศิลปิน ซึ่ง Grammy เองสามารถดึงออกมาใช้ประโยชน์ได้ไปอีกนานในรูปแบบของการทำ album รวมเพลง การทำคลื่นวิทยุที่สามารถนำเพลงเก่าๆ มาเปิดสลับ การ download ringtone หรือการจัดคอนเสริต เป็นต้น รวมทั้งการเป็นค่ายเพลงอันดับหนึ่งของเมืองไทย ซึ่งการทำค่ายเพลงให้อยู่รอดในปัจจุบันถือว่ายากมาก จึงจัดว่าเป็นธุรกิจที่มี barrier to entry สูงมาก


แต่ประเด็นเดียวที่ได้ทำลายมูลค่าของ grammy ในระยะยาวและมูลค่าของบริษัทเพลงทั่วโลกคือการละเมิดลิขสิทธิในรูปแบบต่างๆ ที่ผมคิดว่าคงจะไม่มีวันทำให้หมดไปได้และนับวันจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอนตราบใดที่เทคโนโลยีด้าน internet รวมถึงจำนวนผู้เข้าถึง interntet และการ write cd ยังพัฒนาไปเรื่อยๆ อัลบั้มที่ไม่โดนปัญหานี้มากน่าจะเป็นอัลบั้มที่มีเพลงที่ฟังได้ทั้ง album ( ไม่ใช่ห่วยทุกเพลงจนไม่ต้อง repeat เพลงไหนเลยนะครับ ) เช่น อัลบั้มแฟนจ๋า หรืออัลบั้มบางชุดของ แอน ธิติมา หรืออัลบั้มที่ target group ไม่น่าจะเป็นกลุ่มที่ชอบ write cd เช่น เพลงลูกทุ่ง หรือโลโซ หรือ crash แต่ปัจจุบัน album ส่วนใหญ่ของ grammy จะเพราะอยู่ 1-2 เพลง ซึ่งเกิดจากปัญหาตามที่จะได้เล่าต่อไปครับ

ผมคิดว่าสิ่งที่ grammy ต้องทำ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะมาชดเชยรายได้จากธุรกิจเพลงที่ลดลงได้มากน้อยเพียงใด คือการนำ content คือ เพลง ไปใช้ประโยชน์ในการหารายได้รูปแบบอื่นๆ นอกเหนือจากการขาย cd หรือ tape ให้มากที่สุด และสิ่งที่ทำอยู่คือธุรกิจสื่อ คือ วิทยุ และโทรทัศน์ การ download ringtone หรือการจัดเก็บลิขสิทธิ์คาราโอเกะ รวมทั้งการจัดคอนเสิร์ต เพราะผมมองอีกหน่อยเมื่อการละเมิดลิขสิทธิจะเข้าขั้นรุนแรง เพลงจะเป็นแค่วัตถุดิบที่ไม่สามารถขายเป็นรายได้ได้มากนัก แต่จะต้องถูกนำไปแปรรูปเพื่อขายเป็นรายได้ในรูปแบบอื่นๆ ดังนั้นธุรกิจที่จะมีความสำคัญมากๆ สำหรับ grammy ในระยะยาวคือธุรกิจ media โดยมี content เป็นแค่วัตถุดิบ ดังนั้น เราจะเห็นว่าคลื่นวิทยุของ grammy จะไม่เน้นการ promote เพลง แต่จะเน้นการหารายได้มากกว่า ซึ่งเราจะเห็นได้จาก greenwave ที่มี rating สูงสุด จะไม่เน้นเปิดเพลงใหม่ๆ นัก แต่จะเน้นการเปิดเพลงเพราะๆ เพื่อรักษาความนิยม

สำหรับการแตกค่ายเพลงออกไปมากๆ นั้น มีทั้งผลดีและผลเสีย ผลดีนั้นเป็นตามที่ความเห็นข้างบนว่าไว้ ซึ่งเป็นความเห็นที่ดีมาก และคิดว่าคงต้องมีความจำเป็นในการแตกค่ายเพลงจริงๆ แต่ข้อเสียที่ผมมองเห็นก็คือ การแย่ง resource ในองค์กรกัน เช่น นักแต่งเพลง หรือ resource ในการประชาสัมพันธ์ คือ งบประมาณ จึงทำให้บางอัลบั้มไม่ได้รับการโปรโมตเท่าที่ควร ยิ่งปัจจุบันธุรกิจสื่อของ grammy เน้นกำไรไม่เน้นโปรโมทเพลง จึงเป็นการซ้ำเติมปัญหา ศิลปินบางคนที่เคยมีนักแต่งเพลงดีๆ มาแต่งให้หลายเพลงในอัลบั้ม แต่ปัจจุบันอาจจะมีสัก 1-2 เพลงที่ดีจริงๆ ในอัลบั้ม ทำให้ขายไม่ดีไป ยิ่งปัจจุบันการ write cd ระบาด อัลบั้มไหนเพราะ 1-2 เพลงจะเสร็จเลย

ส่วนเรื่องธุรกิจไต้หวัน ผมคงไม่วิจารณ์มากเพราะทุกคนคงมองคล้ายๆ กัน

ธุรกิจหนัง ผมคิดว่า grammy เริ่มมาถูกทางในกรณีของหนังเรื่อง แฟนฉัน เพราะแต่ก่อนหนังของ grammy นั้นจะยึดติดกับผู้กำกับไม่กี่คน และจะเน้นคุณภาพของหนังมากกว่า plot เรื่อง ไม่แน่ใจว่า grammy มีธุรกิจรองคือขายกล่องรึเปล่า ซึ่งยังไงหนังไทยก็มีคุณภาพการกำกับภาพศิลป์ แสงเสียง สู้หนังต่างประเทศไม่ได้อยู่แล้วซึ่ง grammy เองไม่รู้จะเน้นพวกนี้ไปทำไม ยิ่งเน้นต้นทุนยิ่งสูงและยิ่งขาดทุน ผมคิดว่าคนไทยดูหนังไทยนั้นจะเน้นทึ่ plot เรื่องมากกว่า แม้ว่าหนังไทยประเภทหนังตลาดเช่น หนังตลก หรือหนังผี ซึ่งดูจะไม่มีสาระนัก จะมีแนวโน้มทำเงิน แต่ก็ไม่ใช่ว่าหนังที่มีสาระและมี plot เรื่องที่ดีจะไม่ทำเงิน ผมหวังว่า grammy หลังจากที่ ลองผิดลองถูกมานานมาก คงจะพอเห็นแนวทางแล้วว่าการที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจหนัง ควรจะทำอะไร แม้ว่าจะไม่กำไรทุกเรื่อง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะขาดทุนเกือบทุกเรื่องเหมือนที่ผ่านมา อย่างเรื่องคืนไร้เงา ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าคิดยังไงตอนที่เลือกเรื่องนี้มาสร้างครับ


หุ้น grammy คงเป็นหุ้นที่ผมชอบมากเหมือนกันครับหากไม่มีเรื่องละเมิดลิขสิทธิ แต่อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าธุรกิจสื่อจะต้องเป็นธุรกิจที่หล่อเลี้ยงชีวิตของ grammy ในอนาคตครับ การแยก gmmm ออกมาผมคิดว่าผู้บริหารน่าจะมีความคิดอะไรบางอย่างครับ แต่ผมคิดว่าส่วนที่ดีของ grammy น่าจะอยู่ใน gmmm มากกว่า แต่ยังไง grammy ก็ยังได้ประโยชน์ส่วนใหญ่จาก gmmm เพราะถือหุ้นอยู่ 80% แต่ก็คงต้องเป็นเรื่องที่ดูต่อไปยาวๆ เหมือนกันครับผมก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ผมคิดและเล่ามานั้นถูกรึเปล่า

หากผู้บริหาร grammy มาอ่านกระทู้นี้ซึ่งโอกาสคงมีไม่มากนักสิ่งที่ผมอยากให้ลองศึกษาดูก็คือการซื้อค่ายเพลงเก่าๆ ที่ปิดตัวไปแล้ว เพื่อเป็นการซื้อลิขสิทธิ์เพลงเก่าๆ ที่ยังมีอายุไม่ถึง 20 ปี ที่หลายๆ เพลงมีคุณค่าหรือที่เรียกว่าเพลงร่วมสมัย แล้วนำมาหารายได้โดยวิธีต่างๆ เช่นการให้ศิลปินในค่ายมา cover ใหม่ หรือไม่ต้องร้องใหม่แต่นำมารวม album ก็ได้ จากหนังเรื่องแฟนฉัน ผมคิดว่ามีคนไม่น้อยที่ยังอยากฟังเพลงร่วมสมัยเก่าๆ ไม่น้อยเลยครับ

จริงๆ ผมก็เข้ามาแอบอ่านที่นี่ซักพักแล้วล่ะครับ พออ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกประทับใจในการแสดงความคิดเห็นของเพื่อนๆ แต่ละคนมากครับ เป็นห้องที่น่าอยู่และน่าชื่นชมมากแห่งนึงเลยครับ ถ้าไม่รังเกียจจะขอเข้ามาอ่านบ่อยๆ และแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ
วอเรน บุฟเฟต์
Verified User
โพสต์: 38
ผู้ติดตาม: 0

GRAMMY

โพสต์ที่ 32

โพสต์

ผมมองว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของ GMMM คือการประมูลสถานีวิทยุและโทรทัศน์ การนำบริษัทนี้แยกตัวเข้าตลาด เพื่อสะสมเม็ดเงินไว้เมื่อวันนั้นมาถึง ซึ่งถ้าทำได้อย่างตั้งใจ GMMM จะกลายเป็นพยัคฆ์ติดปีกทีเดียว แต่ก้ออีกแหละครับ เงื่อนไขของการได้มาของสถานีวิทยุและโทรทัศน์นั้นมีอะไรบ้าง ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้เพราะแค่ กสช. ซึ่งจะเป็นผู้คุ้มกฏตัวจริง ถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้ผุดได้เกิดด้วยซ้ำ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6447
ผู้ติดตาม: 0

GRAMMY

โพสต์ที่ 33

โพสต์

รู้สึกเป็นเกียรติเช่นกันครับ ที่คุณ Invisible hand แวะเข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นครับ

หากมีคนดีๆ เช่นคุณ Invisible hand ที่ให้เพื่อให้ ไม่หวังผลตอบแทน ไม่มีผลประโยชน์ เป็นสิ่งที่น่ายกย่องครับ ขอเรียกว่า "ยอดคน" ล้านคนมีหนึ่งแค่นั้นเอง.. :D

GMM GMMM ผมไม่ได้ลงทุนครับ รวมถึงกลุ่มประกัน ธนาคาร ไม่ใช่ว่าไม่มีหุ้นดีนะครับ แต่ความรู้ไม่ถึงจริงๆ เพราะอ่านงบดุลแล้วเข้าใจยาก ไม่เหมือนพวก manufacturing ีครับ อ่านง่าย เข้าใจง่าย...

รวมทั้งผลประกอบการคาดการณ์ยากครับ อย่างทั้ง GMM GMMM ผลประกอบการณ์เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ไม่รู้ว่าต่อไปจะลดลงเป็นเท่าตัวหรือเปล่า
อย่างนี้ไม่น่าจะเหมาะกับคนที่ไม่เข้าใจธุรกิจอย่างผมครับ ขอลงทุนในธุรกิจที่เข้าใจ ที่เราถนัดดีกว่าครับ... :roll:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
นักดูดาว
Verified User
โพสต์: 2513
ผู้ติดตาม: 0

GRAMMY

โพสต์ที่ 34

โพสต์

ยินดีต้อนครับคุณ Invisible Hand ครับ :)
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14783
ผู้ติดตาม: 0

GRAMMY

โพสต์ที่ 35

โพสต์

>>> invisible hand <<<

โค้ด: เลือกทั้งหมด

จริงๆ ผมก็เข้ามาแอบอ่านที่นี่ซักพักแล้วล่ะครับ พออ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกประทับใจในการแสดงความคิดเห็นของเพื่อนๆ แต่ละคนมากครับ เป็นห้องที่น่าอยู่และน่าชื่นชมมากแห่งนึงเลยครับ ถ้าไม่รังเกียจจะขอเข้ามาอ่านบ่อยๆ และแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ
ขอบต้อนรับด้วยความจริงใจ ครับ

สังคมที่นี่ เป็นสังคมเล็กๆ ที่มีความอบอุ่น และเราตั้งใจจะเกาะกลุ่มกันไปแบบนี้ อีกนานเท่านานครับ

คุณมือที่มองไม่เห็น
koikoi2
ผู้ติดตาม: 0

GRAMMY

โพสต์ที่ 36

โพสต์

ขอแสดงความคิดเห็นครับ

8) ในความคิดเห็นของผม ผมเปรียบเทียบGrammyคือบริษัทที่ทำ(หรือขาย)software ให้กับบริษัทในเครือนำไปใช้ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้น ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนเช่น concertของวง micro(ลิขสิทธิ์เพลงเป็นของGrammy)ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ ก็จัดโดย A TIME(บริษัทในเครือGmmm)ในเวลาเดียวกันทางGrammy ก็ได้ออกalbum ของmicroเป็นที่เรียบร้อย หรือศิลปินที่ออกเทปกับGrammy ก็มีโอกาสที่Exact(บริษัทในเครือGmmm)จะนำไปเป็นนักแสดงนำด้วย หรือเพลงที่ใช้เปิดในรายการวิทยุ(บริษัทในเครือGmmm)ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพลงของGrammyอยู่แล้ว ถึงแม้จะเป็นเพลงที่เก่าแต่ยังไม่ได้ด้อยคุณค่าลงไป
:shock: ส่วนเรื่องการแยกตัวผมมีความเห็นว่า ในอนาคต ผลงานของGmmm อาจจะมาจากภายนอกโดยไม่จำเป็นต้องผูกอยู่กับsoftwareของGrammyก็ได้

ขอบคุณครับ
koikoi2
ผู้ติดตาม: 0

GRAMMY

โพสต์ที่ 37

โพสต์

copy ข้อมูลมาฝากครับ
รายชื่อศิลปินที่มียอดจำหน่ายสูงสุด 10 อันดับแรก

2545
ชื่อศิลปิน............................สัดส่วน
1.ธงชัย แมคอินไตย์.............13.10%
2.พลพล............................3.89%
3.โลโซ..............................3.69%
4.รวมเพลง Project................3.15%
5.อัสนี & วสันต์.....................3.02%
6.ศิริพร อำไพพงษ์.................2.91%
7.2002 ราตรี........................2.91%
8.ปาล์มมี่............................2.58%
9.ไมค์ ภิรมย์พร....................2.57%
10.น้องพลับ .......................2.49%
ภาพประจำตัวสมาชิก
moo
Verified User
โพสต์: 1150
ผู้ติดตาม: 0

GRAMMY

โพสต์ที่ 38

โพสต์

เรียนเชิญคุณ Invisible hand ชี้แนะบ่อยๆนะครับ
TVI ได้มุมมองที่ดีๆมีคุณภาพเพิ่มขึ้น
เป็นประโยชน์อย่างยิ่งครับ
ขอบคุณครับ
koikoi2
ผู้ติดตาม: 0

GRAMMY

โพสต์ที่ 39

โพสต์

GRAMMY
สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน
บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)

สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน (หน่วย : พันบาท)

-----------------------ไตรมาสที่ 3-------------------------งวด 9 เดือน

------------ปี-------------2546--------2545-----------2546----------2545

กำไร(ขาดทุน)สุทธิ
------------------------131,547-----160,428------459,488------445,668
กำไร(ขาดทุน)สุทธิต่อหุ้น(บาท)
---------------------------0.27---------0.33------------0.94----------0.90



หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุประกอบงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์
koikoi2
ผู้ติดตาม: 0

GRAMMY

โพสต์ที่ 40

โพสต์

14-Nov-03 13:41:19 Headline : GRAMMY :แบบรายงานการเปิดเผยการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน (ฉบับแก้ไข)
---------------------------------------------
(Form TS-7)
(ฉบับแก้ไข)

แบบรายงานการเปิดเผยการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน
บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2546

ข้าพเจ้าบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 4 / 2546เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2546 เกี่ยวกับการอนุมัติการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. จำนวนหุ้นที่จะจำหน่ายคืน 10,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 2% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

2. วิธีการในการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน
(/) ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
( ) เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไป

กำหนดระยะเวลาในการขายหุ้นที่ซื้อคืนตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2546 ถึงวันที่ 2 ตุลาคม 2548 (ภายหลัง 6 เดือน นับแต่การซื้อหุ้นคืนเสร็จสิ้นแต่ต้องไม่เกิน 3 ปี)
หมายเหตุ บริษัทต้องเปิดเผยโครงการขายหุ้นที่ซื้อคืนล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 14 วัน ก่อนวันเริ่มขายหุ้นที่ซื้อคืน

3. หลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาที่จะจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน
บริษัทจะใช้หลักเกณฑ์การจำหน่ายหุ้นตามราคาตลาด หรือแล้วแต่จะตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
ทั้งนี้จะต้องไม่ต่ำกว่า 85% ของราคาปิดเฉลี่ย 5 วันทำการซื้อขายล่าสุด


บริษัทขอรับรองว่าสารสนเทศในแบบรายงานนี้ถูกต้องและครบถ้วนทุกประการ



(นางสาวอัญชลี จิวะรังสินี)
กรรมการ
Stock Broker
Verified User
โพสต์: 2509
ผู้ติดตาม: 0

GRAMMY

โพสต์ที่ 41

โพสต์

Jeng เขียน:>>> invisible hand <<<

โค้ด: เลือกทั้งหมด

จริงๆ ผมก็เข้ามาแอบอ่านที่นี่ซักพักแล้วล่ะครับ พออ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกประทับใจในการแสดงความคิดเห็นของเพื่อนๆ แต่ละคนมากครับ เป็นห้องที่น่าอยู่และน่าชื่นชมมากแห่งนึงเลยครับ ถ้าไม่รังเกียจจะขอเข้ามาอ่านบ่อยๆ และแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ
ขอบต้อนรับด้วยความจริงใจ ครับ

สังคมที่นี่ เป็นสังคมเล็กๆ ที่มีความอบอุ่น และเราตั้งใจจะเกาะกลุ่มกันไปแบบนี้ อีกนานเท่านานครับ

คุณมือที่มองไม่เห็น
มาต้อนรับท่าน Invisible hand ด้วยคนครับ ไม่ทราบว่าจะให้เกียรติลงทะเบียนเป็นสมาชิกที่นี่ด้วยหรือไม่ ท่าน genie ขอแรงมาช่วยเชิญในฐานะเจ้าบ้านทีครับ

ผมก็ตามอ่านผลงานของท่าน Invisible hand ที่ Value Bull เช่นกันครับ
เต้ย
Verified User
โพสต์: 13
ผู้ติดตาม: 0

update ข้อมูล GARMMY

โพสต์ที่ 42

โพสต์

สวัสดีครับ ผมขอ update ข้อมูลเกี่ยวกับGRAMMY เพิ่มเติมอีกนิดหน่อย ดังนี้

1.GMM Picture กับหนังใหม่เรื่อง Beautiful Boxer
ผมได้ทราบจากเพื่อนที่ทำงานด้าน Post-Production ว่าหนังมี 2 เวอร์ชั่นอีกแล้ว คือเวอร์ชั่นฉายในประเทศและต่างประเทศ ที่ฉายในเมืองไทยจะสั้นกว่า
เหตุผลนั้นยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นเนื่องจากความยาวของหนัง (โรงในเมืองไทยไม่happyกับหนังที่ยาวเกินไปเพราะจะทำให้ทำรอบได้น้อย) หรือเป็นเพราะการถือวิสาสะตัดสินระดับสติปัญญาของคนดูในประเทศ ว่ามีน้อยเกินไปจึงควรจะทำให้มันสั้นๆง่ายๆ (ดังที่ได้ทำมาแล้วกับ One Night Husband)
เท่าที่ทราบงบเรื่องนี้บานไปประมาณ 70 ล้านแล้ว (ข่าววงใน จากหนังสือพิมพ์เห็นบอกว่า 40?) แต่อย่างไรก็ดีคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะขาดทุนเพราะหวังที่ตลาดต่างประเทศกันมาก(ชื่อหนังภาษาไทยยังไม่มีเลย)
แต่โดยรวมผมยังมีความคิดเห็นเป็นบวกกับ GMM Picture อยู่จากหนังเรื่องนี้ก็จะเห็นได้ว่ามีการเฟ้นหาบุคคลากรกันอย่างดี เช่นผู้กำกับเอกชัย เอื้อครองธรรม มีCredit ระดับนานาชาติจากการทำละครเวที (ซึ่งคุณบุษบา ดาวเรื่อง[ผู้ทีมาแทนคุณอภิรักษ์ซึ่งหันไปกินส้มและทำให้หุ้นGAMMYราคาตกกระฉูดในช่วงนั้น] เป็นคนติดต่อทาบทามหลังจากได้ชมละครเวทีของเขา) (ที่มาBIOSCOPE ฉบับที่24 พ.ย. 2546) นี่เป็นโอกาสดีที่จะพิสูจน์ถึงความสามารถและวิสัยทรรศน์ของผู้บริหารแกรมมี่ ขณะที่คู่แข่งแสดงวิสัยทรรศน์(ผมว่าไร้สมองมากว่า)ด้วยการไปดึงผู้กับกับฮ่องกง มาทำหนังเรื่อง"สวนสนุกผี" ซึ่งคงคิดอะไรไม่เป็นแล้วนอกจากทำหนังผี
เพิ่มเติมอีกนิดหน่อย วันนี้เพิ่งเห็นโฆษณาในทีวีมีโลโกของ 20th Century Fox ขึ้นมาด้วย สงสัยว่าจะได้เป็นผู้จัดจำหน่ายหนังเรื่องนี้ในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะอเมริกา? ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากเพราะการที่หนังไทยจะมีตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ขนาดนี้ ไม่เคยมีมาก่อน (สุริโยทัย ฉบับอินเตอร์นั้นจัดจำหน่ายโดย sony picture classic ) จึงนับว่าทางแกรมมี่มีการเตรียมการอย่างดีและมี connection ไม่น้อยและทีเดียว... จบข่าว

2 GMMM กับ Madame Figaro
ผมเคยเห็นในบางกระทู้เขียนว่าการออกหนังสือหัวใหม่เล่มนี้ใช้การดึงทีมงานจาก Image มาใช้ ผลคิดว่าไม่น่าจะใช่ จากข้อมูลที่ทราบ บก.ของ Figaro คือ คุณลายคราม เลิศวิทยาประสิทธิ์ ซึ่งเป็น บก.เก่าของหนังสือ Cosmoฯ นั่นเอง แต่มีปัญหากันจึงออกมามาทำ Figaro โดยตั้ง บ.GMM-interpublication ซึ่งถือหุ้นโดยคุณลายคราม 30% และ GMMM 70% (ที่มา OPEN เล่ม 36 เดือน10 2003)
ประเด็นคือจะเห็นกันอยู่ว่าการแข่งขันของนิตสารผู้หญิงนั้นบ้าระห่ำมาก แต่FIGARO น่าจะมีอนาคตพอสมควร เนื่องจาก 1.ทีมงานมีประสบการณ์(ดังที่กล่าวข้างต้น) 2.เรื่องโฆษณา อย่างที่ทราบกันว่าวงการหนังสือบ้านเรานั้นรายได้หลักมากจากโฆษณาไม่ใช่ยอดขาย จากชื่อเสียงของบก.เองและความกว้างขวางของGARMMY ทำให้โฆษณาเข้าเป็นจำนวนมาก (เท่าที่ผมดูจากฉบับแรกๆมีโฆษณาเยอะอย่างกับหนังสือออกมาได้เป็นปีแล้ว) ซึ่งจะทำให้หนังสือสามารถยืนระยะเพื่อพิสูจน์ตนเองได้อย่างแน่นอน
3.GMMM กับการประมูลสัญญาสถานีต่างๆ
จากข่าวการสรรหา ปปช.ที่ผ่านมา ที่ฝ่ายการเมืองได้เข้าไปครอบงำองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญอย่างหน้าด้านๆแล้วนั้น ทำให้ผมมั่นใจมากว่า การ"จัดสรรคลื่นความถี่...(โดย)...คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนในระดับชาติและระดับท้องถิ่น..."ตามมาตรา 40 ในรัฐธรรมนูญนั้น จะต้องไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นแน่ คงเป็นเพียงแต่ย้ายการผูกขาดคลื่อความถี่จากทหารมาเป็นการผูกขาดของกลุ่มทุนเท่านั้น ดังนั้น GMMM และอากู๋ ซึ่งมีบทบาทอย่างแข็งขันในกระบวนการนี้จึงน่าจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มๆ
ข้อคิดเห็นทั้งหมดนี้มีอคติอีกแล้วนะครับ โปรดอ่านโดยใช้วิจารณญาณ
วอเรน บุฟเฟต์
Verified User
โพสต์: 38
ผู้ติดตาม: 0

GRAMMY

โพสต์ที่ 43

โพสต์

แกรมมี่ พยายามขายหนัง บิวตี้ฟูลบ็อกเซอร์ ในตลาดต่างประเทศมาเกือบปีแล้ว แต่จนบัดนี้ก็ยังหาไม่ได้ ไว้รอดูหนังก่อนน่าจะให้คำตอบได้พอสมควรว่าทำไม ส่วนเรื่องปะหัว ฟอกซ์ เป็นเพราะเหตุผลบางประการ ฟอกซ์ ไม่ได้ซื้อหนังเรื่องนี้อย่างที่เข้าใจ ดังนั้นอนาคตหนังเรื่องนี้จึงยังน่าห่วงทั้งในประเทศและต่างประเทศ..

ส่วนเรื่อง GMMM กับ กสช. ยังอีกนานนะครับ เพราะทุกวันนี้กรรมการสรรหายังไม่ลงตัวเลย ดังนั้นตัว กสช. จึงยังต้องใช้เวลาอีกเป็นปี การด่วนสรุปว่าแกรมมี่จะได้ประโยชน์อาจจะยังเร็วเกินไปนะครับ
เต้ย
Verified User
โพสต์: 13
ผู้ติดตาม: 0

GRAMMY

โพสต์ที่ 44

โพสต์

ขอบคุณครับ พอจะเล่าละเอียดอีกหน่อยได้มั๊ยอะครับ
พูดอย่างนี้มันหลอกให้อยาก(รู้) แล้วจากไปนี่หน่า อิอิ