ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 31

โพสต์

ขอบคุณ คุณ "canuseeme" ครับ...^^)
ผมตั้งใจจะไม่ให้มองไปที่จำนวนเงินในพอร์ทของผมนะครับ
เอ๊ะ!...หรือว่ารู้กันหมดแล้วหว่า 555+...*0*!!)
ภาพประจำตัวสมาชิก
vim
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2748
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 32

โพสต์

แนะนำว่าลอง plot ผลตอบแทน เทียบกับดัชนี SET และ SET TRI ดูครับ จะได้เห้นว่าผลตอบแทนเราดีหรือไม่ดียังไงเมื่อเทียบกับตลาด
Vi IMrovised
miracle
Verified User
โพสต์: 18134
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 33

โพสต์

ผมว่า คุณ Plant เข้าสร้างการลงทุนที่มีเป้าหมายเหมือนในตำราทางด้านการเงินคือ เน้นกระจายความเสี่ยงหลายบริษัท
แต่ผมไม่แน่ใจว่ากระจายไปทุกอุตสาหกรรมหรือเปล่า
แต่แนวทางที่สำคัญคือ เน้นที่ลงทุนน้อยตัว และเราเข้าใจกิจการในตัวที่เราเลือกลงน้อยๆตัวเหล่านั้น
ไม่ว่าแนวทางการลงทุนแบบไหน ก็ย่อมตอบโจทย์คนที่สร้าง Port การลงทุนของเขาเอง ว่าต้องการอะไร

น้อยตัวก็ย่อมมีความเสี่ยงเพิ่มมากว่าลงทุนหลายตัว ในเรื่องกระจายความเสี่ยง ทั้งในด้านความผันผวนและขาดทุน
แต่ในเมื่อความเสี่ยงมันมากขึ้น แล้วไซร้ ผลตอบแทนมันก็มากตาม อันนี้ตามตำราที่ใช้งานกัน
ความผันผวนแทนด้วยตัว ซิกม่า
ส่วนผลตอบแทนแทนด้วยตัวผลตอบแทนเฉลี่ยที่ Port การลงทุนนั้นสามารถทำได้

ดังนั้นจึงไม่มีอะไรถูกหรือผิดในเรื่องของการนำเอาไปใช้ปฏิบัติครับ
มันคือ ศาสตร์และศิลปะในการลงทุน

ศาสตร์คือความรู้ความเข้าใจในการลงทุน
ศิลปะคือการปรุงรสการลงทุนให้เหมาะกับความรู้ของเราที่มี
:)
:)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 34

โพสต์

ขออนุญาติเตือนเบา ๆ ครับ

การนำพอร์ตมาโชว์ ในบอร์ดสาธารณะ มีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 35

โพสต์

miracle เขียน:ผมว่า คุณ Plant เข้าสร้างการลงทุนที่มีเป้าหมายเหมือนในตำราทางด้านการเงินคือ เน้นกระจายความเสี่ยงหลายบริษัท
แต่ผมไม่แน่ใจว่ากระจายไปทุกอุตสาหกรรมหรือเปล่า
แต่แนวทางที่สำคัญคือ เน้นที่ลงทุนน้อยตัว และเราเข้าใจกิจการในตัวที่เราเลือกลงน้อยๆตัวเหล่านั้น
ไม่ว่าแนวทางการลงทุนแบบไหน ก็ย่อมตอบโจทย์คนที่สร้าง Port การลงทุนของเขาเอง ว่าต้องการอะไร

น้อยตัวก็ย่อมมีความเสี่ยงเพิ่มมากว่าลงทุนหลายตัว ในเรื่องกระจายความเสี่ยง ทั้งในด้านความผันผวนและขาดทุน
แต่ในเมื่อความเสี่ยงมันมากขึ้น แล้วไซร้ ผลตอบแทนมันก็มากตาม อันนี้ตามตำราที่ใช้งานกัน
ความผันผวนแทนด้วยตัว ซิกม่า
ส่วนผลตอบแทนแทนด้วยตัวผลตอบแทนเฉลี่ยที่ Port การลงทุนนั้นสามารถทำได้

ดังนั้นจึงไม่มีอะไรถูกหรือผิดในเรื่องของการนำเอาไปใช้ปฏิบัติครับ
มันคือ ศาสตร์และศิลปะในการลงทุน

ศาสตร์คือความรู้ความเข้าใจในการลงทุน
ศิลปะคือการปรุงรสการลงทุนให้เหมาะกับความรู้ของเราที่มี
:)
ขอบคุณ คุณ "miracel" ที่เข้าใจผมครับ...T-T)

.....^^)
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 36

โพสต์

vim เขียน:แนะนำว่าลอง plot ผลตอบแทน เทียบกับดัชนี SET และ SET TRI ดูครับ จะได้เห้นว่าผลตอบแทนเราดีหรือไม่ดียังไงเมื่อเทียบกับตลาด
ดังที่คุณ "miracel" บอกไว้ครับ ผมมีเป้าหมายของ Port และตัว Benchmark
(ใช้ศัพท์ซะหน่อยจะได้ดูดี หุหุ) ที่เป็นของตัวเองไว้เปรียบเทียบครับ
ซึ่งผลจากการประเมินอยู่ในเกณฑ์ที่ผมพอใจเป็นอย่างมากครับ

แต่ในอนาคต ตัวเปรียบเทียบก็คงต้องเป็นดัชนีของตลาด ในแบบที่คุณ "Vim"
แนะนำมาแน่นอนครับ ขอบคุณมากๆครับ...^^)
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 37

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:ขออนุญาติเตือนเบา ๆ ครับ

การนำพอร์ตมาโชว์ ในบอร์ดสาธารณะ มีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ
ผมกำลังคิดถึงในแง่มุมนี้อยู่เหมือนกันครับ พี่ NB ....^^)
ภาพประจำตัวสมาชิก
vim
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2748
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 38

โพสต์

Plant เขียน:ขอบคุณ คุณ "canuseeme" ครับ...^^)
ผมตั้งใจจะไม่ให้มองไปที่จำนวนเงินในพอร์ทของผมนะครับ
เอ๊ะ!...หรือว่ารู้กันหมดแล้วหว่า 555+...*0*!!)
ทำเบลอส่วน unrealized gain ที่เป็นตัวเงินด้วยก็ดีนะครับ เพราะไม่อย่างนั้นพอรู้ตัวเงินและพอรู้เป็น % แล้ว จะสามารถคำนวนกลับมาเป็นขนาดของพอร์ทได้
Vi IMrovised
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 39

โพสต์

vim เขียน:ทำเบลอส่วน unrealized gain ที่เป็นตัวเงินด้วยก็ดีนะครับ เพราะไม่อย่างนั้นพอรู้ตัวเงินและพอรู้เป็น % แล้ว จะสามารถคำนวนกลับมาเป็นขนาดของพอร์ทได้
จริงด้วยครับ ตอนแรกผมลืมคิดไป ขอบคุณ คุณ "Vim" มากๆครับ...^^)
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 40

โพสต์

หลังจากกลับไปคิด ทบทวน วิเคราะห์ เกาหัว เกาหู เกาคาง(จะเกาทำไมเนี่ย!!)
ดูแล้ว เห็นว่าผมน่าจะสรุปประเด็นที่ต้องการจะเสนอได้ไม่ตรงเท่าไร ผมจึงขอสรุปแบบ
รวบยอดทั้งหมดใหม่อีกครั้งนะครับ

รูปที่ 1,2,3,4,5
SET 1,565 / 1,468 / 1,553 / 1,606 / 1,545

แสดงให้เห็นถึงตลาดที่วิ่งขึ้น อนาคตที่สดใส แล้วทำให้เราเกิดความโลภ วาดฝัน
ถึงกระทิงที่จะวิ่งขึ้นไปอย่างไม่หยุดยั้ง 55 GO!! (เอ๊ะ! ซาวคุ้นๆ) ทำให้เราเริ่มที่จะ
เสี่ยงมากขึ้น ยอมซื้อหุ้นในราคาที่มี Mos น้อยลง เพราะคิดว่าตลาดยังวิ่งไปได้อีกไกล

สังเกตุได้จากหุ้นที่ผมซื้อมา 300 หุ้น ในรูปที่ 2 ซื้อเข้ามาโดยประเมินราคาหุ้น
ไว้ที่ 26 บาท ซึ่ง Mos บางเฉียบ และในรูปที่ 4 กับ 5 ที่กล้าซื้อหุ้นในลำดับที่ 3
ของพอร์ท โดย Mos แทบไม่มีเหลือแล้ว (ประเมินราคาไว้ที่ 11 บาท) ทำให้เข้าใจ
ตัวเองว่าพอตลาดดูดี ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัวมีแต่ข่าวดี ความคาดหวังที่ดีเกินไป
ทำให้ตัวเราเองขาดความระมัดระวังและกล้าที่จะเสี่ยงซื้อหุ้นโดยที่ไม่เผื่อ Mos ไว้เลย
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 41

โพสต์

รูปที่ 6,7,8
set 1,452 / 1,354 / 1,266

แสดงให้เห็นถึงการตกลงอย่างรวดเร็วของตลาดที่วิ่งขึ้นมาทีละ 10-20 จุดที่ต้องใช้เวลา
สะสมอยู่หลายๆเดือน แต่บทจะลงๆทีละ 60-70 จุด ใช้เวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์ก็สามารถ
ลงมาต่ำเท่ากับตอนที่ก่อนจะวิ่งขึ้นไปได้แล้ว ซึ่งทำให้ผมเห็นความสำคัญของการเลือก
หุ้นที่ดี แข็งแกร่งและมี Mos ที่มากพอที่จะถือผ่านวิกฤตต่างๆไปให้ได้ ซึ่งบทเรียนใน
ช่วงนี้ผมต้องยอมตัด Cut Loss หุ้นออกไปในตัวที่ประเมินมาไม่ดีพอ และคิดว่าไม่สามารถ
จะผ่านวิกฤตไปได้(ซึ่งในปัจจุบันกลายเป็นธุรกิจตะวันตกดินอยู่ครับ เฮ้อ! โล่งอก รอดไปเรา)

และเลือกถือและซื้อเพิ่มในหุ้นที่วิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนแล้ว ว่าสามารถถือต่อไปได้ แต่ต้อง
ปรับลดCost ของตัวเองลงมาโดยการซื้อถัวเฉลี่ยหุ้นตัวเดิมครับ
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 42

โพสต์

รูปที่ 9,10,11,12
set 1,349 / 1,230 / 1,469 / 1,533

ช่วงนี้ผมอยากแสดงให้เห็นถึงหลักการของ VI ที่เราควรจะกล้าซื้อหุ้นที่เราประเมิน
มาว่าดีแล้ว มีความมั่นใจที่จะถือและมี Mos ที่มากพอ เมื่อราคามันตกลงมา เมื่อเรา
ถือมันผ่านวิกฤตไปได้ ราคาจะกลับมา ดังเช่นในรูป หุ้นในลำดับที่ 2 กับ 3 ของพอร์ท
ผมกล้าที่จะซื้อถัวเฉลี่ยเพิ่มเข้าไปถึงแม้จะติดลบอยู่ถึง 20-30% และถือมาจนสามารถ
จะกลับมาเป็นบวกได้ในที่สุด ซึ่งทุกๆอย่างต้องมีแผนการและเหตุผลรองรับในการเข้าซื้อ
ในราคาและจำนวนต่างๆนะครับ ไม่ใช่นึกจะซื้อเฉลี่ยก็ซื้อเลยโดยไม่ดูว่าซื้อแล้วได้ผลยังไง
แบบนั้นก็จะยิ่งเสี่ยงและพอร์ทจะยิ่งแดงสวยงามมากขึ้นไปอีก 555+....^^)
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้
ภาพประจำตัวสมาชิก
canuseeme
Verified User
โพสต์: 302
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 43

โพสต์

ยังงี้นะครับ ผมขอเสนอ
คือ ท่านต้องการบันทึก แบบสาธารณะ
เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดนะครับ
ไม่ต้องเบลอชื่อหุ้น ที่เหลือเบลอให้หมด ยกเว้น บรรทัดสุดท้าย ว่า กำไรหรือขาดทุนกี่เปอร์เซนต์
น่าจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อตัวท่านเอง และ ท่านผู้ชม มากสุด :roll: :roll: :roll:
ปัญญาไม่มีในผู้ไม่พิจารณา

There is no fate but what we make

https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
ภาพประจำตัวสมาชิก
canuseeme
Verified User
โพสต์: 302
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 44

โพสต์

canuseeme เขียน:ยังงี้นะครับ ผมขอเสนอ
คือ ท่านต้องการบันทึก แบบสาธารณะ
เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดนะครับ
ไม่ต้องเบลอชื่อหุ้น ที่เหลือเบลอให้หมด ยกเว้น บรรทัดสุดท้าย ว่า กำไรหรือขาดทุนกี่เปอร์เซนต์
น่าจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อตัวท่านเอง และ ท่านผู้ชม มากสุด :roll: :roll: :roll:
และก็ แสดงสัดส่วน ของการถือหุ้นในพอร์ท ด้วย ยิ่งดีครับ
:mrgreen:
ปัญญาไม่มีในผู้ไม่พิจารณา

There is no fate but what we make

https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 45

โพสต์

ที่ผมต้องโพสพอร์ตให้เห็น เพื่อจะได้ให้เห็นผลกระทบจริงๆที่ตลาดส่งผล
ต่อหุ้นในพอร์ทครับ โดยเฉพาะตอนที่ set ลงหนักๆเวลาที่เราบอกว่ามันลง
ได้เป็น 100 จุดในวันเดียวเลยนะ!!! คนเรามักจะนึกไม่ออกและไม่รู้สึกถึง
ความน่ากลัวนั้นเลยครับ ผมจึงเอาพอร์ตที่แดงจริงๆ ติดลบจริงๆมาให้เห็น
เพื่อให้รู้สึกได้เลยว่าการซื้อหุ้นในช่วงที่ตลาดกำลังบูม แล้วอยู่ดีๆมันล่วง
ลงมา มันมีความน่ากลัวขนาดไหน(หรือผมคิดไปเองคนเดียวหว่า...T-T)

และผมต้องขอบคุณ พี่ๆ เพื่อนๆ ที่ให้ความห่วงใย เป็นห่วง และความหวังดี
ที่แนะนำผมในเรื่องของการปรับพอร์ตโดยเน้นโฟกัสในหุ้นที่ไม่มากตัว
พอที่เราจะติดตามได้ และไม่ซื้อขายบ่อยๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นครับ
ต้องขอ อธิบายว่า ผมลองมองย้อนกลับไป เหมือนมันเป็นการที่ตนเองค่อยๆ
พัฒนาในการเลือกซื้อหุ้นครับ เริ่มแรกผมเลือกหุ้นที่ให้ปันผลที่ดี เป็นธุรกิจที่
แข็งแกร่ง ก่อตั้งมาอย่างยาวนาน แต่ทำให้พลาดเรื่องการเติบโตของยอดขาย
และกำไร และเรื่องการมองไปที่คุณสมบัติของผู้บริหาร แต่ ณ ตอนนี้ผมกำลัง
ศึกษาเรื่องพวกนี้เพิ่มเติมอยู่ครับ และคิดว่าในอนาคตจะเน้นโฟกัสในหุ้นที่ดี
และเรามั่นใจ บวกกับสร้างผลตอบแทนได้ดีขึ้นแน่นอนครับ(ต้องขอโทษที่มา
เขียนสรุปช้า เพราะกำลังเดินทางจากโรงงานกลับมาบ้านครับ)

อ้อ และเพื่อตอบแทนและขอบคุณ คุณ "miracle" ครับ ผมถือหุ้นอยู่ 9 ตัวครับ
อีกตัวเป็นวอแรนท์ที่ได้ปันผลมาครับ ผมถือหุ้นอสังหา 1 ตัว โรงพยาบาล 1 ตัว
อาหารและของกิน 2 ตัว และกลุ่มอุตสาหกรรม โรงงาน 5 ตัว ครับ
ผมไม่ได้กระจายไปทุกกลุ่มนะครับ แค่นี้ก็ตามข่าวเหนื่อยแล้วครับ 555+....^^)
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 46

โพสต์

canuseeme เขียน:
canuseeme เขียน:ยังงี้นะครับ ผมขอเสนอ
คือ ท่านต้องการบันทึก แบบสาธารณะ
เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดนะครับ
ไม่ต้องเบลอชื่อหุ้น ที่เหลือเบลอให้หมด ยกเว้น บรรทัดสุดท้าย ว่า กำไรหรือขาดทุนกี่เปอร์เซนต์
น่าจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อตัวท่านเอง และ ท่านผู้ชม มากสุด :roll: :roll: :roll:
และก็ แสดงสัดส่วน ของการถือหุ้นในพอร์ท ด้วย ยิ่งดีครับ
:mrgreen:
เอาแบบนั้นเลยเหรอครับ แบบนั้นนี่มันผิดกฎของ TVI เต็มๆเลยหละครับ
แค่นี้นี่ผมก็คิดว่าผมยืนอยู่บนขอบเหวลึกแล้วนะครับนี่ 555+...^^)

ปล. pm มาคุยกันนี่อีกเรื่องนึงนะครับ เพราะถือว่ารู้กันแค่ 2 คน อุ๊บ!!!....
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 47

โพสต์

คุณ Plant ขยันมากครับ

ผมลงทุนแนว VI ขนาดถือแค่ 5 ตัว วิเคราะห์ธุรกิจเหนื่อยเลย ><
chaitorn
Verified User
โพสต์: 2545
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 48

โพสต์

comment ผม

1. หากกระจาย Port ลงทุนมากตัว เราสามารถหา benchmark กับ ดัชนีหุ้นต่าง ๆ ได้ ว่า Port ของเราทำได้ดีกว่าดัชนีหรือไม่ เหมือนที่ ดร.VIM ให้ข้อเสนอแนะไว้ ผมเห็นด้วย

2. การดูความเสี่ยงของ Port การลงทุน ผมชอบดูว่า เมื่อเกิด worse case ขึ้น หุ้นใน Port ลงไปกี่ % และเมื่อตลาด Recover กลับมา upside มันขึ้นไปกี่ %

สิ่งที่ผมอยากเห็นก็คือ เวลาเจอ Downside risk ให้มันลงได้ต่ำ ๆ แต่เวลามันกลับขึ้นไปเป็น Upside ให้มันขึ้นไปสูงกว่าตอนมัน Downside เป็นต้น เช่น ลงไป ขาดทุน 17000 บาทตอนต่ำสุด แต่หากขึ้นไปได้เพียง 17000 บาทสูงสุด คุณภาพของ Port ค่อนข้างต้องระวัง เพราะ downside กับ upside มันใกล้กัน แต่หากลงไป ขาดทุน 17000 บาท แต่พอมันขยับขึ้นไป มันขึ้นไปสูงได้ 68000 บาท หรือ 4 เท่าของขาลงเป็นต้น อันนี้ผมใช้ทฤษฎี convexity ของการลงทุนตราสารหนี้มาช่วยครับ ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ อัตราผลตอบแทนทบต้นจะขึ้นไปได้มากไม่ว่าจะเราจะอยู่ในภาวะตลาดแบบใด เพราะลง จะเสียน้อย แต่เวลาขึ้นจะได้มากเป็นต้น อันนี้ผมได้จาก ดันโด 555 มาเป็นแนวทางครับ การประเมินอาจไม่จำเป็นต้องประเมินเป็นรายวัน อาจประเมินทีละไตรมาส 6 เดือน หรือ 1 ปี ก็ได้ เพราะหากเราไม่ลงทุนอะไรในระยะเวลาที่สั้นเกินไปครับ

3. ไม่มีทฤษฎีใดที่บอกว่ากระจายการลงทุนมากผลตอบแทนจะต่ำการลงทุนน้อยตัว ยกตัวอย่าง Port อาจารย์ปีเตอร์ลินซ์ มีการกระจายหุ้นใน Port จำนวนมาก แต่ก็มีอัตราผลตอบแทนทบต้นที่สูง ๆ มาก พอกับ Port ของ ปู่บัฟเฟท ที่มีการกระจายหุ้นน้อยตัว เพราะเน้น Focus หุ้นแต่ละตัวที่สำคัญในสัดส่วนการลงทุนที่ค่อนข้างมากเป็นส่วนใหญ่ และถือครองหุ้นค่อนข้างนาน

ประเด็นสำคัญผมคิดว่า อยู่ที่ Circle of competence มากกว่า เนื้อหาการลงทุน เหนือกว่า แบบแผนที่จำกัดการลงทุน ความยืดหยุ่นการลงทุนของเราจะอยู่ว่าเราเข้าใจธุรกิจที่เราลงทุนมากน้อยเพียงใด

ไม่ว่ารูปแบบใด ๆ ก็ตาม เราควรมีการวางแผนการหาผลตอบแทนของหุ้นตามประเภทของหุ้นต่าง ๆ ว่าควรซื้อเมื่อใด ควรถือยาวเท่าไรด้วยเหตุผลอะไร เพื่อให้ผลตอบแทนเป็นไปตามคาดหวัง และหากไม่เป็นไปตามที่คาด เรามีแผน Exit อย่างไรครับ เป็นต้น

จะลงทุนแบบใด ก็ให้เข้าใจว่าเราลงทุนมาถูกทางหรือไม่ รู้ได้อย่างไร ประเมินได้อย่างไรว่าถูกทางแล้วโดยไม่ Bias และสุดท้ายลงทุนแต่ละครั้งเรามีความสุขในการลงทุนแบบนั้น ๆ ที่ได้เห็นธูรกิจที่เราลงทุนเติบโต จ่ายปันผลให้กับเรา และ Port ของเราเติบโตตามความคาดหวังมากน้อยเพียงใดครับ พยายามวัดความก้าวหน้ากับตัวเราเองว่าเราได้พัฒนาการลงทุนมากน้อยเพียงใดครับ และเรามีความสุขยิ่ง ๆ จากการลงทุนทุกปีหรือไม่ ต้องสร้างความสมดุลย์ของเป้าหมายการลงทุน กับ ความสุขทุก ๆ การลงทุนที่เราได้รับครับ
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 49

โพสต์

Saran เขียน:คุณ Plant ขยันมากครับ

ผมลงทุนแนว VI ขนาดถือแค่ 5 ตัว วิเคราะห์ธุรกิจเหนื่อยเลย ><
ขอบคุณครับ คุณ "Saran" จริงๆแล้วมันค่อยๆเพิ่มความรู้ในธุรกิจอื่นๆเพิ่มขึ้นหนะครับ
แต่ตอนนี้ก็เหนื่อยเหมือนกันครับเวลางบออกแล้วต้องมานั่งใส่งบใน Excel
เพื่อวิเคราะห์ในแต่ละไตรมาส...T-T)

.....^^)
Plant
Verified User
โพสต์: 667
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 50

โพสต์

chaitorn เขียน:comment ผม

1. หากกระจาย Port ลงทุนมากตัว เราสามารถหา benchmark กับ ดัชนีหุ้นต่าง ๆ ได้ ว่า Port ของเราทำได้ดีกว่าดัชนีหรือไม่ เหมือนที่ ดร.VIM ให้ข้อเสนอแนะไว้ ผมเห็นด้วย

2. การดูความเสี่ยงของ Port การลงทุน ผมชอบดูว่า เมื่อเกิด worse case ขึ้น หุ้นใน Port ลงไปกี่ % และเมื่อตลาด Recover กลับมา upside มันขึ้นไปกี่ %

สิ่งที่ผมอยากเห็นก็คือ เวลาเจอ Downside risk ให้มันลงได้ต่ำ ๆ แต่เวลามันกลับขึ้นไปเป็น Upside ให้มันขึ้นไปสูงกว่าตอนมัน Downside เป็นต้น เช่น ลงไป ขาดทุน 17000 บาทตอนต่ำสุด แต่หากขึ้นไปได้เพียง 17000 บาทสูงสุด คุณภาพของ Port ค่อนข้างต้องระวัง เพราะ downside กับ upside มันใกล้กัน แต่หากลงไป ขาดทุน 17000 บาท แต่พอมันขยับขึ้นไป มันขึ้นไปสูงได้ 68000 บาท หรือ 4 เท่าของขาลงเป็นต้น อันนี้ผมใช้ทฤษฎี convexity ของการลงทุนตราสารหนี้มาช่วยครับ ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ อัตราผลตอบแทนทบต้นจะขึ้นไปได้มากไม่ว่าจะเราจะอยู่ในภาวะตลาดแบบใด เพราะลง จะเสียน้อย แต่เวลาขึ้นจะได้มากเป็นต้น อันนี้ผมได้จาก ดันโด 555 มาเป็นแนวทางครับ การประเมินอาจไม่จำเป็นต้องประเมินเป็นรายวัน อาจประเมินทีละไตรมาส 6 เดือน หรือ 1 ปี ก็ได้ เพราะหากเราไม่ลงทุนอะไรในระยะเวลาที่สั้นเกินไปครับ

3. ไม่มีทฤษฎีใดที่บอกว่ากระจายการลงทุนมากผลตอบแทนจะต่ำการลงทุนน้อยตัว ยกตัวอย่าง Port อาจารย์ปีเตอร์ลินซ์ มีการกระจายหุ้นใน Port จำนวนมาก แต่ก็มีอัตราผลตอบแทนทบต้นที่สูง ๆ มาก พอกับ Port ของ ปู่บัฟเฟท ที่มีการกระจายหุ้นน้อยตัว เพราะเน้น Focus หุ้นแต่ละตัวที่สำคัญในสัดส่วนการลงทุนที่ค่อนข้างมากเป็นส่วนใหญ่ และถือครองหุ้นค่อนข้างนาน

ประเด็นสำคัญผมคิดว่า อยู่ที่ Circle of competence มากกว่า เนื้อหาการลงทุน เหนือกว่า แบบแผนที่จำกัดการลงทุน ความยืดหยุ่นการลงทุนของเราจะอยู่ว่าเราเข้าใจธุรกิจที่เราลงทุนมากน้อยเพียงใด

ไม่ว่ารูปแบบใด ๆ ก็ตาม เราควรมีการวางแผนการหาผลตอบแทนของหุ้นตามประเภทของหุ้นต่าง ๆ ว่าควรซื้อเมื่อใด ควรถือยาวเท่าไรด้วยเหตุผลอะไร เพื่อให้ผลตอบแทนเป็นไปตามคาดหวัง และหากไม่เป็นไปตามที่คาด เรามีแผน Exit อย่างไรครับ เป็นต้น

จะลงทุนแบบใด ก็ให้เข้าใจว่าเราลงทุนมาถูกทางหรือไม่ รู้ได้อย่างไร ประเมินได้อย่างไรว่าถูกทางแล้วโดยไม่ Bias และสุดท้ายลงทุนแต่ละครั้งเรามีความสุขในการลงทุนแบบนั้น ๆ ที่ได้เห็นธูรกิจที่เราลงทุนเติบโต จ่ายปันผลให้กับเรา และ Port ของเราเติบโตตามความคาดหวังมากน้อยเพียงใดครับ พยายามวัดความก้าวหน้ากับตัวเราเองว่าเราได้พัฒนาการลงทุนมากน้อยเพียงใดครับ และเรามีความสุขยิ่ง ๆ จากการลงทุนทุกปีหรือไม่ ต้องสร้างความสมดุลย์ของเป้าหมายการลงทุน กับ ความสุขทุก ๆ การลงทุนที่เราได้รับครับ
ขอบคุณ คุณ "chaitorn" มากๆเลยครับ ได้แนวทางเพิ่มขึ้นอีกมากเลยครับ...^^)
iamtherang
Verified User
โพสต์: 337
ผู้ติดตาม: 0

Re: ขออนุญาติสรุปผลการลงทุนในปีที่ผ่านมานะครับ...^^)

โพสต์ที่ 51

โพสต์

ไม่แน่ใจว่า คุณ plant เป็นลูกค้าของ บล.บัวหลวง รึเปล่าครับ อยากขอดูผลตอบแทนเทียบกับตลาด ตรง bualuang itracker
และประวัติการซื้อขายครับ ไม่ต้องเปิดเผยชื่อหุ้น กำไรขาดทุนที่เป็นตัวเงิน volume นะครับ 555
ไม่ทราบว่าเป็นการรบกวนมากไปรึเปล่าครับ :oops: