CARBAO
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
CARBAO
โพสต์ที่ 1
*"คาราบาวกรุ๊ป"ยื่นไฟลิ่งปลาย มิ.ย.หวังเข้าเทรดตลาด SET ราว ต.ค.-พ.ย.57
Source - IQ Biz (Th)
Thursday, May 15, 2014 16:28
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ค. 57)--นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ได้ในช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้ และหวังว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ได้ในช่วงเดือน ต.ค-พ.ค.57 โดยแต่งตั้งให้ บล.กสิกรไทย และบล.ซีไอเอ็มบีไทย เป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท มีแผนจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทันจำนวน 250 ล้านหุ้นแก่นักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 25% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนราว 1,800 ล้านบาทในการขยายกิจการและขยายกำลังการผลิต โดยปัจจุบันบริษัทฯมีกำลังการผลิตเครื่องดื่มบำรุงกำลังราว 600 ล้านขวด/ปี รวมถึงจะนำไปใช้ในการชำระหนี้ของสถาบันการเงินต่างๆ
อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจจะได้รับความสนใจแก่นักลงทุนเนื่องจากคาราบาวแดงและสตาร์ท พลัส ซิงค์ เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างดี โดยบริษัทมีสถานะเป็นบริษัทโฮลดิ้ง (Holding company) ซึ่งมีบริษัทย่อย 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด, บริษัท ตะวันแดง ดีซีเอ็ม จำกัด และ บริษัท เอเชีย แปซิฟิก กลาส จำกัด
บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 57 เติบโตราว 15-20% หรือ 8,000 ล้านบาท จากปีก่อนทำรายได้ราว 7,000 ล้านบาท และคาดว่ากำไรจะเติบโตมาเป็น 1,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 600 ล้านบาท เนื่องจากเครื่องดื่มคาราวบาวแดงทำยอดขายได้ดีต่อเนื่อง และล่าสุดวางตลาดเครื่องดื่มสตาร์ท พลัส ซิงค์ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว 5 ล้านขวด/เดือน
สำหรับผลิตภัณฑ์ สตาร์ พลัส ซิงค์ จะเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ทำงานกลางแดด นักกีฬา และกลุ่มคนที่ออกกำลังกายได้มีการทางเลือกใหม่ที่การเลือกเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดย 1 ขวดจะมีแร่ธาตุสังกะสี(Zinc) เทียบเท่า 40% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน คุณประโยชน์หลัก คือช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตให้กับร่างกาย ช่วยทำให้ผิวพรราณดี มีน้ำมีนวล ทำให้อ่อนวัย รักษาสิว และเรื่องเพศ
นายเสถียร กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าเครื่องดื่ม สตาร์ พลัส ซิงค์ จะสร้างความตื่นตัวให้แก่ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ โดยในปี 56 มีมูลค่าการตลาดรวมประมาณ 6 พันล้านบาท ซึ่ง สตาร์ พลัส ซิงค์ ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งการตลาดในปีแรกประมาณ 10%
--อินโฟเควสท์ โดย สุวิมล ภูมิคำ/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--
Source - IQ Biz (Th)
Thursday, May 15, 2014 16:28
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ค. 57)--นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ได้ในช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้ และหวังว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ได้ในช่วงเดือน ต.ค-พ.ค.57 โดยแต่งตั้งให้ บล.กสิกรไทย และบล.ซีไอเอ็มบีไทย เป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท มีแผนจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทันจำนวน 250 ล้านหุ้นแก่นักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 25% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนราว 1,800 ล้านบาทในการขยายกิจการและขยายกำลังการผลิต โดยปัจจุบันบริษัทฯมีกำลังการผลิตเครื่องดื่มบำรุงกำลังราว 600 ล้านขวด/ปี รวมถึงจะนำไปใช้ในการชำระหนี้ของสถาบันการเงินต่างๆ
อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจจะได้รับความสนใจแก่นักลงทุนเนื่องจากคาราบาวแดงและสตาร์ท พลัส ซิงค์ เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมอย่างดี โดยบริษัทมีสถานะเป็นบริษัทโฮลดิ้ง (Holding company) ซึ่งมีบริษัทย่อย 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด, บริษัท ตะวันแดง ดีซีเอ็ม จำกัด และ บริษัท เอเชีย แปซิฟิก กลาส จำกัด
บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 57 เติบโตราว 15-20% หรือ 8,000 ล้านบาท จากปีก่อนทำรายได้ราว 7,000 ล้านบาท และคาดว่ากำไรจะเติบโตมาเป็น 1,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 600 ล้านบาท เนื่องจากเครื่องดื่มคาราวบาวแดงทำยอดขายได้ดีต่อเนื่อง และล่าสุดวางตลาดเครื่องดื่มสตาร์ท พลัส ซิงค์ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว 5 ล้านขวด/เดือน
สำหรับผลิตภัณฑ์ สตาร์ พลัส ซิงค์ จะเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ทำงานกลางแดด นักกีฬา และกลุ่มคนที่ออกกำลังกายได้มีการทางเลือกใหม่ที่การเลือกเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดย 1 ขวดจะมีแร่ธาตุสังกะสี(Zinc) เทียบเท่า 40% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน คุณประโยชน์หลัก คือช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตให้กับร่างกาย ช่วยทำให้ผิวพรราณดี มีน้ำมีนวล ทำให้อ่อนวัย รักษาสิว และเรื่องเพศ
นายเสถียร กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าเครื่องดื่ม สตาร์ พลัส ซิงค์ จะสร้างความตื่นตัวให้แก่ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่ โดยในปี 56 มีมูลค่าการตลาดรวมประมาณ 6 พันล้านบาท ซึ่ง สตาร์ พลัส ซิงค์ ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งการตลาดในปีแรกประมาณ 10%
--อินโฟเควสท์ โดย สุวิมล ภูมิคำ/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--
-
- Verified User
- โพสต์: 14
- ผู้ติดตาม: 0
Re: CARBAO
โพสต์ที่ 3
ยอดขายเยอะจังครับ
ถามนิดครับ บริษัทนี้ น้าแอ๊ดเป็นคนคิดริเริ่มและก่อตั้งขึ้นมา หรือว่ามีนายทุนมาเซ็นสัญญาโดยให้คาราบาวเป็นพรีเซนเตอร์ (และอาจจะถือหุ้น) ด้วย อ่ะครับ?
ถามนิดครับ บริษัทนี้ น้าแอ๊ดเป็นคนคิดริเริ่มและก่อตั้งขึ้นมา หรือว่ามีนายทุนมาเซ็นสัญญาโดยให้คาราบาวเป็นพรีเซนเตอร์ (และอาจจะถือหุ้น) ด้วย อ่ะครับ?
-
- Verified User
- โพสต์: 40089
- ผู้ติดตาม: 1
Re: CARBAO
โพสต์ที่ 4
บาวแดงปั้นหมื่นล.เข้าตลาดหุ้น
Source - โพสต์ ทูเดย์ (Th)
Friday, May 16, 2014 03:13
โพสต์ทูเดย์บาวแดง กรุ๊ป จัดทัพ 4 บริษัทครบทั้งต้นน้ำยันปลายน้ำ ทุ่ม 8,000 ล้าน 2 ปี โกย 1 หมื่นล้าน
นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการบริษัท คาราบาว กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดงเปิดเผยว่า จากนโยบายของบริษัทที่วางเป้าหมายขึ้นเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มชั้นนำระดับภูมิภาคอาเซียน บริษัทจึงเดินหน้าขยายกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มนอกเหนือจากเครื่องดื่มชูกำลังพร้อมกับการสร้างระบบการจัดจำหน่ายและสร้างโรงงานผลิตขวดแก้ว ครอบคลุมทั้งกระบวนการผลิตต้นน้ำถึงปลายน้ำ
ทั้งนี้ ในอีก 5 ปีข้างหน้า กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดงต้องขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มซีแอลเอ็มวี หรือในกัมพูชา ลาว พม่าและเวียดนาม จากปัจจุบันรั้งอันดับ 1 ที่กัมพูชา ด้วยยอดขายเดือนละ 10 ล้านกระป๋อง ซึ่งทำให้มีศักยภาพในการตั้งโรงงานผลิตในกัมพูชาเพื่อลดต้นทุนการขนส่งโดยคาดว่าจะเริ่มตั้งโรงงานในกัมพูชาได้ปีหน้า
ขณะที่บริษัทเตรียมนำคาราบาว กรุ๊ป ซึ่งจัดตั้งเมื่อปีปลาย2556 เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อระดมทุนสำหรับขยายธุรกิจใหม่ และขยายกำลังการผลิตโรงงานขวดแก้วรองรับกับแผนการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะยื่นไฟลิ่งปลายเดือน มิ.ย. หรือต้นเดือน ก.ค. และจะเปิดซื้อขายเดือน พ.ย. หรือ ธ.ค. หากสถานการณ์การเมืองไม่รุนแรง ซึ่งจะขายหุ้นราว25% ของทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาทหรือมูลค่า 250 ล้านบาท ขณะที่มาร์เก็ตแคปคาดว่าจะอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดโครงสร้างธุรกิจในคาราบาวแดง กรุ๊ป เป็น 3 บริษัทในเครือได้แก่ 1.บริษัท คาราบาวตะวันแดง ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มคาราบาวแดงและเครื่องดื่มใหม่ๆที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต นอกเหนือจากเครื่องดื่มชูกำลังรวมทั้งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทเครื่องดื่มรายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมทุนกับคาราบาวตะวันแดง คาดว่าจะเรียบร้อยประมาณปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ซึ่งการร่วมทุนดังกล่าวบริษัทจะนำโนว์ฮาวของญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญเครื่องดื่มมาพัฒนาสินค้าใหม่ๆ
สำหรับบริษัทที่ 2.ตะวันแดง ดีซีเอ็ม เป็นผู้กระจายสินค้า ซึ่งบริษัทได้ปรับระบบการจัดจำหน่าย เพิ่มผู้จัดจำหน่ายสินค้ารายย่อย จากปัจจุบันมีราว 1,300 ราย และผู้จัดจำหน่ายสินค้าหลัก 50 ราย เพราะหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจยุคนี้ ต้นทุนการบริหารจัดการต้องไม่สูง ซึ่งนอกจากการกระจายสินค้าในเครือแล้วยังรับจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าให้กับบริษัทภายนอกด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มจากต่างประเทศที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย และจะให้บริษัทเป็นผู้กระจายสินค้าให้ และ 3.บริษัท เอเชีย แปซิฟิค กลาส ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ขวดแก้ว ส่วนบริษัท คาราบาวแดง กรุ๊ป จะเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่เข้าถือหุ้นในบริษัทในเครือ
นายเสถียร กล่าวว่า เงินลงทุนรวมเกือบ8,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนโรงงานขวดแก้วเฟสแรก 1,800 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มได้ในไตรมาส 3 โดยมีกำลังการผลิต 600 ล้านขวดต่อปี จากนั้นจะลงทุนอีก 1,500 ล้านบาท ขยายเฟส 2 ในปีหน้า เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 1,200 ล้านขวดต่อปี และใช้เงินลงทุน 2,500 ล้านบาทในการซื้ออาคาร 393 สีลม สำหรับใช้เป็นสำนักงานใหญ่แห่งใหม่เมื่อปลายปี2556 ที่ผ่านมา
ด้านภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า3.5 หมื่นล้านบาทก่อนหน้านี้คาดว่าจะเติบโต 6-8% แต่ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาพบว่าตลาดรวมติดลบ 2-2.5% ดังนั้นจึงไม่สามารถคาดการณ์ว่าทั้งปีตลาดจะเติบโตได้มากหรือน้อยขณะที่คาราบาวแดงมีส่วนแบ่ง 25-26% ส่วนเอ็ม 150 ยังเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 45%
"ผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ ตั้งเป้ายอดขาย 8,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 20%จากยอดขาย 7,200 ล้านบาทในปี 2556 แต่จากสภาพตลาดที่เติบโตติดลบ จึงคาดว่าจะเติบโตได้เพียง 15% อย่างไรก็ตามแม้ว่ายอดขายอาจพลาดเป้าหมาย แต่บริษัทตั้งเป้าต้องได้ผลกำไรตามเป้าหมายหรือ 1,000 ล้านบาทในปีนี้ และจากแผนขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มรายได้เป็น 1 หมื่นล้านบาทในอีก2 ปีนับจากนี้แบ่งเป็นรายได้ต่างประเทศสัดส่วน 35% และภายในประเทศ 65%" นายเสถียร กล่าว
ขณะเดียวกัน ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 100 ล้านบาท เปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่สตาร์ทพลัส ซิงค์ เพื่อบุกตลาดเกลือแร่มูลค่า6,000-7,000 ล้านบาท ตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 10% ในปีแรก หรือมีรายได้ 600 ล้านบาท และ 5 ปีขึ้นเป็นผู้นำตลาด ด้วยส่วนแบ่งกว่า 30%จากปัจจุบันตลาดมีสปอนเซอร์เป็นผู้นำแชร์83% เอ็มสปอร์ต 12.7% และเกเตอเรด3.5% มูลค่า 6,000 ล้านบาท
บรรยายใต้ภาพ
เสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท คาราบาว กรุ๊ป พร้อมทีมงานเปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่ สตาร์ท พลัส ซิงค์ เมื่อ15 พ.ค. 2557--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
Source - โพสต์ ทูเดย์ (Th)
Friday, May 16, 2014 03:13
โพสต์ทูเดย์บาวแดง กรุ๊ป จัดทัพ 4 บริษัทครบทั้งต้นน้ำยันปลายน้ำ ทุ่ม 8,000 ล้าน 2 ปี โกย 1 หมื่นล้าน
นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการบริษัท คาราบาว กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดงเปิดเผยว่า จากนโยบายของบริษัทที่วางเป้าหมายขึ้นเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มชั้นนำระดับภูมิภาคอาเซียน บริษัทจึงเดินหน้าขยายกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มนอกเหนือจากเครื่องดื่มชูกำลังพร้อมกับการสร้างระบบการจัดจำหน่ายและสร้างโรงงานผลิตขวดแก้ว ครอบคลุมทั้งกระบวนการผลิตต้นน้ำถึงปลายน้ำ
ทั้งนี้ ในอีก 5 ปีข้างหน้า กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดงต้องขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มซีแอลเอ็มวี หรือในกัมพูชา ลาว พม่าและเวียดนาม จากปัจจุบันรั้งอันดับ 1 ที่กัมพูชา ด้วยยอดขายเดือนละ 10 ล้านกระป๋อง ซึ่งทำให้มีศักยภาพในการตั้งโรงงานผลิตในกัมพูชาเพื่อลดต้นทุนการขนส่งโดยคาดว่าจะเริ่มตั้งโรงงานในกัมพูชาได้ปีหน้า
ขณะที่บริษัทเตรียมนำคาราบาว กรุ๊ป ซึ่งจัดตั้งเมื่อปีปลาย2556 เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อระดมทุนสำหรับขยายธุรกิจใหม่ และขยายกำลังการผลิตโรงงานขวดแก้วรองรับกับแผนการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะยื่นไฟลิ่งปลายเดือน มิ.ย. หรือต้นเดือน ก.ค. และจะเปิดซื้อขายเดือน พ.ย. หรือ ธ.ค. หากสถานการณ์การเมืองไม่รุนแรง ซึ่งจะขายหุ้นราว25% ของทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาทหรือมูลค่า 250 ล้านบาท ขณะที่มาร์เก็ตแคปคาดว่าจะอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดโครงสร้างธุรกิจในคาราบาวแดง กรุ๊ป เป็น 3 บริษัทในเครือได้แก่ 1.บริษัท คาราบาวตะวันแดง ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มคาราบาวแดงและเครื่องดื่มใหม่ๆที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต นอกเหนือจากเครื่องดื่มชูกำลังรวมทั้งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทเครื่องดื่มรายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมทุนกับคาราบาวตะวันแดง คาดว่าจะเรียบร้อยประมาณปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ซึ่งการร่วมทุนดังกล่าวบริษัทจะนำโนว์ฮาวของญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญเครื่องดื่มมาพัฒนาสินค้าใหม่ๆ
สำหรับบริษัทที่ 2.ตะวันแดง ดีซีเอ็ม เป็นผู้กระจายสินค้า ซึ่งบริษัทได้ปรับระบบการจัดจำหน่าย เพิ่มผู้จัดจำหน่ายสินค้ารายย่อย จากปัจจุบันมีราว 1,300 ราย และผู้จัดจำหน่ายสินค้าหลัก 50 ราย เพราะหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจยุคนี้ ต้นทุนการบริหารจัดการต้องไม่สูง ซึ่งนอกจากการกระจายสินค้าในเครือแล้วยังรับจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าให้กับบริษัทภายนอกด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มจากต่างประเทศที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย และจะให้บริษัทเป็นผู้กระจายสินค้าให้ และ 3.บริษัท เอเชีย แปซิฟิค กลาส ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ขวดแก้ว ส่วนบริษัท คาราบาวแดง กรุ๊ป จะเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่เข้าถือหุ้นในบริษัทในเครือ
นายเสถียร กล่าวว่า เงินลงทุนรวมเกือบ8,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนโรงงานขวดแก้วเฟสแรก 1,800 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มได้ในไตรมาส 3 โดยมีกำลังการผลิต 600 ล้านขวดต่อปี จากนั้นจะลงทุนอีก 1,500 ล้านบาท ขยายเฟส 2 ในปีหน้า เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 1,200 ล้านขวดต่อปี และใช้เงินลงทุน 2,500 ล้านบาทในการซื้ออาคาร 393 สีลม สำหรับใช้เป็นสำนักงานใหญ่แห่งใหม่เมื่อปลายปี2556 ที่ผ่านมา
ด้านภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่า3.5 หมื่นล้านบาทก่อนหน้านี้คาดว่าจะเติบโต 6-8% แต่ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาพบว่าตลาดรวมติดลบ 2-2.5% ดังนั้นจึงไม่สามารถคาดการณ์ว่าทั้งปีตลาดจะเติบโตได้มากหรือน้อยขณะที่คาราบาวแดงมีส่วนแบ่ง 25-26% ส่วนเอ็ม 150 ยังเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 45%
"ผลประกอบการของบริษัทในปีนี้ ตั้งเป้ายอดขาย 8,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 20%จากยอดขาย 7,200 ล้านบาทในปี 2556 แต่จากสภาพตลาดที่เติบโตติดลบ จึงคาดว่าจะเติบโตได้เพียง 15% อย่างไรก็ตามแม้ว่ายอดขายอาจพลาดเป้าหมาย แต่บริษัทตั้งเป้าต้องได้ผลกำไรตามเป้าหมายหรือ 1,000 ล้านบาทในปีนี้ และจากแผนขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มรายได้เป็น 1 หมื่นล้านบาทในอีก2 ปีนับจากนี้แบ่งเป็นรายได้ต่างประเทศสัดส่วน 35% และภายในประเทศ 65%" นายเสถียร กล่าว
ขณะเดียวกัน ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 100 ล้านบาท เปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่สตาร์ทพลัส ซิงค์ เพื่อบุกตลาดเกลือแร่มูลค่า6,000-7,000 ล้านบาท ตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 10% ในปีแรก หรือมีรายได้ 600 ล้านบาท และ 5 ปีขึ้นเป็นผู้นำตลาด ด้วยส่วนแบ่งกว่า 30%จากปัจจุบันตลาดมีสปอนเซอร์เป็นผู้นำแชร์83% เอ็มสปอร์ต 12.7% และเกเตอเรด3.5% มูลค่า 6,000 ล้านบาท
บรรยายใต้ภาพ
เสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท คาราบาว กรุ๊ป พร้อมทีมงานเปิดตัวเครื่องดื่มเกลือแร่ สตาร์ท พลัส ซิงค์ เมื่อ15 พ.ค. 2557--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
-
- Verified User
- โพสต์: 168
- ผู้ติดตาม: 0
Re: CARBAO
โพสต์ที่ 5
คาราบาวแดง (อังกฤษ: Carabao dang) ยี่ห้อเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อหนึ่ง เปิดตัวครั้งแรกในปลายปี พ.ศ. 2545 โดยใช้ชื่อและพรีเซ็นเตอร์ของคาราบาว วงดนตรีเพื่อชีวิตชื่อดังของประเทศไทยเป็นจุดขาย คาราบาวแดงเกิดมาจากการร่วมทุนของยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว กับบริษัทโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เจ้าของและผู้บริหารโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง ถนนพระราม 3 ในสัดส่วน 70%-30% ในชื่อของ บริษัทคาราบาวแดง โดยใช้งบลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท
คาราบาวแดง เริ่มเผยแพร่โฆษณาเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2545 ทางช่อง 7 ในเวลา 18.30 น. มีสโลแกนว่า "เชิดชูนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่" โดยโฆษณาที่ใช้เปิดตัวนั้นเป็นเรื่องราวของวีรกรรมวีรชนชาวไทยในอดีต ได้สร้างความฮือฮาจนเป็นกระแสพูดถึงกันในวงสังคม เนื่องจากใช้ทุนสร้างสูง และมีคุณภาพเทียบเท่ากับภาพยนตร์เรื่องหนึ่งทีเดียว พร้อมกันนั้นคาราบาวก็ได้ออกอัลบั้มชุดใหม่คือชุด "นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่" ออกมาพร้อมกันด้วย แต่ขณะเดียวกันก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบด้วย เนื่องมาจากภาพลักษณ์ของคาราบาวเองที่เป็นวงดนตรีเพื่อชีวิตแต่ในครั้งนี้กลับทำตัวเป็นนายทุนเสียเอง เป็นการสมควรหรือไม่ อีกทั้งยังมีแง่มุมในการสมควรหรือไม่ที่ใช้วีรกรรมของวีรชนชาวไทยในอดีตมาใช้โฆษณา เช่น ชาวบ้านบางระจัน, ท้าวสุรนารี หรือ ยุทธนาวีเกาะช้าง เป็นต้น
นอกจากนี้ คาราบาวแดง ยังได้ออกผลิตภัณฑ์ คาราบาว 'XO เป็นคาราบาวแดงที่มีรสชาติคล้ายคลึงกับวิสกี้
คาราบาวแดง เริ่มเผยแพร่โฆษณาเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2545 ทางช่อง 7 ในเวลา 18.30 น. มีสโลแกนว่า "เชิดชูนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่" โดยโฆษณาที่ใช้เปิดตัวนั้นเป็นเรื่องราวของวีรกรรมวีรชนชาวไทยในอดีต ได้สร้างความฮือฮาจนเป็นกระแสพูดถึงกันในวงสังคม เนื่องจากใช้ทุนสร้างสูง และมีคุณภาพเทียบเท่ากับภาพยนตร์เรื่องหนึ่งทีเดียว พร้อมกันนั้นคาราบาวก็ได้ออกอัลบั้มชุดใหม่คือชุด "นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่" ออกมาพร้อมกันด้วย แต่ขณะเดียวกันก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบด้วย เนื่องมาจากภาพลักษณ์ของคาราบาวเองที่เป็นวงดนตรีเพื่อชีวิตแต่ในครั้งนี้กลับทำตัวเป็นนายทุนเสียเอง เป็นการสมควรหรือไม่ อีกทั้งยังมีแง่มุมในการสมควรหรือไม่ที่ใช้วีรกรรมของวีรชนชาวไทยในอดีตมาใช้โฆษณา เช่น ชาวบ้านบางระจัน, ท้าวสุรนารี หรือ ยุทธนาวีเกาะช้าง เป็นต้น
นอกจากนี้ คาราบาวแดง ยังได้ออกผลิตภัณฑ์ คาราบาว 'XO เป็นคาราบาวแดงที่มีรสชาติคล้ายคลึงกับวิสกี้