ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ReRedrum
Verified User
โพสต์: 198
ผู้ติดตาม: 0

ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

โพสต์ที่ 1

โพสต์

คงต้องขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้เก่งกล้าสามารถอะไร หรือมีประสบการณ์มากมายอะไรนะครับ เพราะอายุ จริงก็พึ่ง 24 ปี และอายุการลงทุนก็แค่ 2 ปี แต่ได้รับโอกาสไปอัดรายการ Money Talk ของท่านอาจารย์ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ในฐานะตัวแทนอบรมไทยวีไอรุ่นที่ 4 ด้วยความที่พึ่งเคยอัดรายการครั้งแรกในชีวิต แถมยังเป็นรายการโปรดอีกต่างหาก ก็เลยตื่นทั้งกล้องและพิธีกร ทำให้พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องไปซักงั้น หลังจากกลับมานั่งๆนอนๆคิดอยู่คืนหนึ่ง ก็สรุปว่าจะของแชร์เรื่องราวผ่านตัวหนังสือจะดีกว่า

จุดเริ่มต้นของเรื่องราวการก้าวเข้ามาบนเส้นทางที่เรียกว่า VI (Value Investor): กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว (จริงๆก็ไม่ได้นานมากประมาณ 2 ปีครึ่ง) ตลอดเวลา 22 ปีที่ผ่านมาผมไม่เคยสนใจเกี่ยวกับการลงทุนเลย แต่ในชีวิตคนเราก็มีจุดเปลี่ยนอยู่มากมาย ซึ่งของผมก็เป็นการที่เพื่อนคนหนึ่งได้หยิบเอาหนังสือเล่มหนึ่งให้ผมอ่าน หนังสือที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด "Rich Dad Poor Dad" คือชื่อของหนังสือเล่มนั้น Passive Income และ Financial Freedom คือแนวคิดที่การจุดประกายให้ผมเริ่มสนใจเกี่ยวกับการลงทุน ซึ่งมันทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวตอนที่อยู่ ม. 6 เคยมีรุ่นน้องที่โรงเรียนถามผมว่า ระหว่าง "ทำในสิ่งที่รัก กับรักในสิ่งที่ทำจะเลือกอย่างไหน?" ผมก็ตอบไปว่า "ก็ต้องทำในสิ่งที่เรารักสิ เพราะมีไม่กี่คนหรอกที่จะสามารถรักในงานที่เค้าทำอยู่ได้ ถ้าไม่ได้เริ่มจากการทำงานที่เขารัก" แล้วรุ่นน้องคนนั้นก็ถามต่อว่า "แต่ถ้าเราเลือกทำในสิ่งที่เรารักแต่มันเป็นงานที่ไม่ค่อยจะทำเงินละจะทำยังไง?" ซึ่งคำถามนี้ผมจำได้ว่าผมไม่สามารถตอบรุ่นน้องคนนั้นได้ แค่หลังจากได้ศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับ Passive Income และ Financial Freedom ผมก็บอกกับตัวเองว่านี่ละคำตอบของคำถามนั้น สำหรับผม Financial Freedom ไม่ใช่การที่เรามีเงินมากพอจนเราสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงาน แต่เป็นการที่เรามีเงินมากพอจนเราไม่ต้องคิดมากเรื่องเงิน คือเราสามารถทำงานที่เรารัก ทำงานกับคนที่เราอยากที่จะทำงานด้วย โดยไม่ต้องแคร์เรื่องเงินเดือน หลังจากนั้นผมก็มาศึกษาหาดูว่าเราสามารถสามารถสร้าง Passive Income จากที่ใดได้บ้าง ซึ่งในตอนนั้นผมก็ได้อ่านหนังสืออีกเล่มที่พาผมเข้าสู่เส้นทางการลงทุน หนังสือเล่มนั้นก็คือ “The Classic Guild Learn to Earn” หลังจากอ่านหนังสือศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนอยู่ซักพัก(ประมาณครึ่งปี) ก็ได้มีโอกาสได้เริ่มลงทุนลงจริงๆในตลาดหุ้น ผ่านโครงการ KS Young Turk Investor 3.3 ของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นการเรียนผ่าน Facebook หลังจากที่กระโดดเข้ามาในตลาดหุ้น ช่วงแรกๆผมก็ลงทุนแบบมั่วไปซักประมาณ 1 อาทิตย์ ซึ่งใน 1 อาทิตย์นั้นไม่เป็นอันเรียนเลย เพราะว่าค่อยแต่นั่ง check ดูราคาหุ้นตลอด ก็เลยมานั่งคุยกับตัวเองว่ามันไม่สนุกแล้วนะถ้ายังเล่นหุ้นแบบนี้ ก็เลยไปหยิบเอาหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนเก่าๆมานั่งอ่านซ้ำ แล้วก็เลยลองลงทุนแบบเน้นคุณค่าดู ปรากฏว่า หลังจากลงทุนแนวเน้นคุณค่าไปได้ซักพักก็รู้ว่า “นี่ละการลงทุนที่เราตามหา” เพราะผมสนุกกับกระบวนการของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ผมสนุกกับการวิเคราะห์บริษัท การอ่านงบการเงิน และการติดตามเรื่องราวของบริษัท นับจากวันนั้นผมก็ยึดแนวการลงทุนแนวนี้มาตลอด พยายามศึกษาหาความรู้มาโดยตลอด จนได้มีโอกาสเข้าร่วมอบรมหลักสูตรการลงทุนเน้นคุณค่าของสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า(ประเทศไทย) ซึ่งผมคงไม่ต้องบรรยายว่าหลักสูตรนี่ดียังไง เพราะตอนเปิดจองภายใน 1 วินาที ก็เต็มแล้ว

หลักสูตรนี่ให้อะไรกับผมบ้าง: สำหรับผมสิ่งที่ได้จากหลักสูตรนี่หลักๆก็คงเป็น หลักการ และทัศนคติของการลงทุนเน้นคุณค่า หลักสูตรนี่ได้สร้างแก่นหรือแกนการลงทุนให้กับผม มันก็เหมือนกับ นักเดินทางได้เข็มทิศ แต่เข็มทิศนี่ไม่ได้ชี้ไปที่ทิศเหนือ แต่มันชี้ไปที่สิ่งที่เราปรารถนา (เหมือนกับเข็มทิศของกัปตันแจ็ค ในเรื่อง Pirates of the Caribbean) จริงๆ สำหรับวิธีการในการลงทุนเราก็สามารถศึกษาได้จากหนังสือต่างๆหรือหลักสูตรสัมนาอื่น แต่ในหลักสูตรนี่จะพิเศษกว่าหลักสูตรอื่นตรงที่ มีการหยิบยกเอาตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงมาเป็น case study ท่านอาจารย์ต่างๆก็สอนจากปรสบการณ์ ซึ่งไม่สามารถหาเรียนได้จากที่ไหน ท้ายที่สุดก็เป็นการให้ ผู้เข้าอบรมได้ทำ course work ได้ใช้ความรู้ที่ได้อบรมมาใช้ในการวิเคราะห์หุ้นจริงๆ แล้วก็ออกมา present ให้บรรดาอาจารย์และผู้ร่วมอบรมฟัง สำหรับผมแล้วผมคิดว่าส่วนนี้มีประโยชน์กับผมมากที่สุด เพราะเราจะได้รู้ตัวว่าการวิเคราะห์ของเรายังขาดอะไรไปบ้าง ยังมีอะไรที่ต้องดูเพิ่มเติมบ้าง ได้เรียนรู้ว่าบรรดาคนเก่งๆ เซียนๆ เค้าคิด เค้าทำยังไง ในการวิเคราะห์หุ้นตัวหนึ่ง

ตัวอย่างของทัศนคติที่เปลี่ยนไปหลังหลักสูตรนี้: ผมได้ปรับเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าหุ้น แต่ก่อนเวลาจะประเมินมูลค่าของหุ้นตัวหนึ่งๆ ผมมักจะพยายามหาวิธีที่สามารถประเมินมูลค่าที่แท้จริงได้ใกล้เคียงมากที่สุด พยายามหาวิธี หรือหา model ที่ดีที่สุดที่สามารถใช้ในการประเมินหุ้นได้ทุกตัว แต่จริงๆแล้ววิธีการประเมินมูลค่า มันเป็นเพียงแค่เครื่องมือ มันไม่มี model ที่ดีที่สุดที่สามารถใช้ได้กับหุ้นทุกตัว model หนึ่งๆอาจจะเหมาะสมสำหรับหุ้นประเภทหนึ่ง แต่อาจจะไม่เหมาะสมกับหุ้นอีกประเภทหนึ่ง การประเมินมูลค่าที่แท้จริง จริงๆแล้วเป็นการสร้างมูลค่าที่น่าจะเป็นภายในใจเรา เป็นการสร้างความเชื่อมั่นในใจเราว่า มูลค่าของบริษัทน่าจะมีค่าประมาณนี้ โดยวิธีการต่างๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีใครสามารถหามูลค่าที่แท้จริงของบริษัทออกมาได้ เพราะว่า บริษัทนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา (แต่เปลี่ยนแปลงน้อยกว่าราคาหุ้นเยอะ) นั้นถ้าให้นักลงทุนสองคนใช้ model ในการประเมินมูลค่าเดียวกัน ก็จะได้มูลค่าที่แท้จริงของบริษัทที่แตกต่างกันออกมา มูลค่าที่แท้จริงของบริษัทนั้นไม่ใช้จุด แต่เป็นช่วงของมูลค่า ดังนั้นเราจึงต้องมีอีกแนวคิดหนึ่งมาช่วย นั้นก็คือ Margin of Safety หรือ ส่วนเผื่อความปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงจากการที่มูลค่าของบริษัทนั้นมีค่าเป็นช่วง เป็นส่วนเผื่อสำหรับความไม่แน่นอนและความผิดพลาดในการประเมินมูลค่าบริษัทของเรา ทัศนคติเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าและ Margin of Safety เป็นแนวคิดที่สำคัญมาก แต่นักลงทุนมือใหม่ (รวมถึงผมด้วย) มักจะละเลยไม่ใส่ใจ เลยทำให้ไม่สามารถอยู่นิ่งๆในตลาดหุ้นได้ เพราะถ้าเราสามารถสร้างมูลค่าที่แท้ของบริษัทในใจเราได้ และเราเชื่อมั่นในมูลค่านั้น ราคาหุ้นจะไม่มีความหมายสำหรับเราเลย ราคาจะกลายเป็นเพียงตัวอ้างอิง เป็น Reference เพื่อจะบอกถึงผลตอบแทนและความเสี่ยงเมื่อเราซื้อหุ้นนั้น

นี่เป็นข้อคิดส่วนตัวของผมหลังจากที่ลงทุนมาได้ประมาณ 2 ปี ที่อยากจะฝากถึง พี่ๆเพื่อนๆ นักลงทุน

“อย่าลงทุนในหุ้น เพียงหวังที่จะรวย เพราะคุณจะจนลง จงลงทุนของหุ้น เพราะคุณรักและสนุกกับการลงทุน การลงทุนในหุ้นนั้น ไม่ใช่แค่ ซื้อ ถือ แล้วก็ขาย มันมีอะไรที่มากกว่านั้น(ซึ่งก็ขึ้นอยูเกับแต่ละคน)”

สุดท้ายนี้ผมก็ขอขอบคุณ สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) ที่จัดหลักสูตรที่ดีๆนี้
ขอบคุณท่านอาจารย์ไพบูลย์ ที่มอบโอกาสที่แสนพิเศษในการไปอัดรายการ Money Talk และท่านอาจารย์นิเวศน์ ผู้ที่วางรากฐานการลงทุนเน้นคุณค่าในประเทศไทย และทำให้ผมค้นพบกิจกรรมที่แสนสนุก และยังสามารถทำเงินได้อีกด้วย



ปล. จริงๆแล้วผมยังมีอะไรที่จะเล่าที่จะแชร์อีกเยอะไว้วันหลังจะมาเล่าให้ฟังนะครับ

N.Pittayaporn
"ผมไม่ได้ลงทุนในหุ้นเพียงเพราะว่าผมต้องการเงินมากมาย
แต่มันเป็นความสนุกในการค้นหาบริษัทชั้นเยี่ยม
เฝ้าดูมันเติบโต และทำเงินให้เรา"

"เบื้องหลังของด้านหลัง ก็คือ ด้านหน้า"
ภาพประจำตัวสมาชิก
SI Freedom
Verified User
โพสต์: 161
ผู้ติดตาม: 0

Re: ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

โพสต์ที่ 2

โพสต์

แนวคิดเริ่มต้นดีครับ
ปล. ชื่อ login แอบน่ากลัวนะครับ :twisted:
เพราะแสวงหา..มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ..มิใช่เพราะโอกาส
เพราะสามารถ..มิใช่เพราะโชคช่วย ดังนี้แล้ว ลิขิตฟ้า หรือจะสู้ มานะตน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Linzhi
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1464
ผู้ติดตาม: 1

Re: ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

โพสต์ที่ 3

โพสต์

คิดถึงว่าผมก็เริ่มต้นอายุอานามประมาณนี้ เท่าที่อ่านดู ก้าวเล็ก ๆ ของน้อง ReRedrum น่าจะไปเร็วเลยทีเดียว

ขอให้ประสบความสำเร็จในระยะยาวนะครับ
ก้าวช้า ๆ และเชื่อในปาฎิหารย์ของหุ้นเปลี่ยนชีวิต
There is no secret ingredient. It's just you.
ReRedrum
Verified User
โพสต์: 198
ผู้ติดตาม: 0

Re: ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

โพสต์ที่ 4

โพสต์

Linzhi เขียน:คิดถึงว่าผมก็เริ่มต้นอายุอานามประมาณนี้ เท่าที่อ่านดู ก้าวเล็ก ๆ ของน้อง ReRedrum น่าจะไปเร็วเลยทีเดียว

ขอให้ประสบความสำเร็จในระยะยาวนะครับ
ขอบคุณมากครับ พี่ Linzhi จริงๆแล้วผมไม่ค่อยชอบกก้าวเร็วๆเท่าไร เพราะผมชอบที่จะก้าวไปอย่างช้าๆ สนุกไปกับกระบวนการ โดยที่ผลลัพธ์ยังน่าพอใจอยู่

มันก็เหมือนกับการเดินขึ้นเขา บางคนก็ชอบที่จะไปถึงยอดเขาอย่างรวดเร็ว (อาจจะเป็นเพราะเขามีเวลาไม่มาก) ส่วนบางคนก็อาจจะชอบที่จะเดินไปเรื่อยๆ ชมนกชมไม้ ชื่นชมบรรยายกาศรอบๆ ถึงแม้สองวิธีการจะต่างกัน แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนกันคือ ถึงยอดเขาเหมือนกัน ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับความชอบ จุดมุ่งหมาย และข้อจำกัดของแต่ละคน
"ผมไม่ได้ลงทุนในหุ้นเพียงเพราะว่าผมต้องการเงินมากมาย
แต่มันเป็นความสนุกในการค้นหาบริษัทชั้นเยี่ยม
เฝ้าดูมันเติบโต และทำเงินให้เรา"

"เบื้องหลังของด้านหลัง ก็คือ ด้านหน้า"
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

โพสต์ที่ 5

โพสต์

มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ อยากบอกว่าการลงทุนแนววีไอ
เปลี่ยนชีวิตใครมาหลายคนแล้ว (ขอบคุณคำนี้ของคุณ Linzhi ด้วยค่ะ)

ขอให้มีความมุ่งมั่น และศรัทธา
ความสำเร็จตามอัตภาพของเรารออยู่ค่ะ :wink:
ภาพประจำตัวสมาชิก
vim
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2748
ผู้ติดตาม: 0

Re: ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ขอบคุณครับที่มาแชร์ให้ฟัง ผมเองก็ได้แรงบันดาลใจมาจาก Rich Dad Poor Dad เช่นกัน ถ้าว่างๆแล้วมาแชร์ให้ฟังต่ออีกนะครับ
Vi IMrovised
ReRedrum
Verified User
โพสต์: 198
ผู้ติดตาม: 0

Re: ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

โพสต์ที่ 7

โพสต์

วันนี้จะขอแชร์เกี่ยวกับข้อผิดพลาดในการลงทุนของผมก็แล้วกันครับ
ซึ่งของผิดพลาดข้อนี้ยังแก้ไม่หายเสียที ทำได้มากทีสุดก็คือคอยเตือนตัวเองอยู่เสมอๆ

ข้อผิดพลาดนั้นก็คือ "ความมั่นใจในตัวเองจนเกินไป (Overconfidence)"

จริงๆแล้วสาเหตุของ Overconfidence นั่นเกิดได้หลากหลายสาเหตุมากๆ โดยส่วนตัวสำหรับผมแล้ว สาเหตุหลักๆจะเกิดจาก "ภาพลวงความรู้" กับ "ภาพลวงจากความสำเร็จ"

"ภาพลวงความรู้" นั้นเป็นแนวโน้มที่คนเราจะรู้สึกว่าตัวเองมีทักษะที่สูงขึ้น, เก่งขึ้น หรือสามารถวิเคราะห์และคาดการณ์แนวโน้มต่างๆได้ดีขึ้นเนื่องจากมีข้อมูลมากขึ้น จนสามารถสรุปอะไรออกมาก็ได้ ถึงแม้มันจะดูไร้เหตุผลแค่ไหนก็ตาม
ต้องขอบคุณอินเตอร์เน็ตที่ทำให้ทุกวันนี้เราอยู่ในภาวะความรู้ท่วมหัว เราสามารถหาข้อมูลของบริษัทต่างๆได้อย่างมากมายมหาศาล จนเราคิดว่าไม่เสียเปรียบนักลงทุนคนอื่นๆ หรือบ้างครั้งอาจจะคิดว่ามีแต้มต่ออีกต่างหาก ซึ่งจริงๆแล้วการที่เรามีข้อมูลที่มากมายนั้นไม่สำคัญเท่า การที่เราสามารถตีความข้อมูลที่มีอยู่ได้หรือเปล่า

ในตอนที่เริ่มลงทุนใหม่ๆ ผมเคยลงทุนในหุ้นปิโตรเคมีตัว ด้วยความที่เรียนจบวิศวกรรมเคมีมา พวกผลิตภัณฑ์เคมีต่างๆก็เคยเห็นมาก็มากแล้ว กระบวนการผลิตก็พอจะรู้จักอยู่ ก็เลยคิดเองเออเองว่า เราน่าจะลงทุนในหุ้นปิโตรเคมีได้ ประกอบกับหลังจากที่ซื้อไปแล้วราคาหุ้นก็ขึ้นด้วย เลยยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้นไปอีกว่า หุ้นปิโตรที่ใครว่ายากนักยากหนาสำหรับเราแล้วก็จิ๊บๆ :mrgreen: ซึ่งในตอนนั้นไม่ได้ก็ไม่ได้ศึกษาและติดตามเกี่ยวกับค่า สเปรด ที่เป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนในหุ้นปิโตรเคมี หลังจากที่ยิ้มกับราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นได้ไปนานราคามันก็เริ่มไหลลง ในตอนแรกก็พยายามบอกตัวเองว่าเป็นแค่แรงเหวี่ยงของตลอดเท่านั้น เดี่ยวราคามันก็กลับขึ้นมาได้เอง แต่ยิ่งถือราคามันยิ่งสะวันเตี้ยลง เตี้ยลงทุกๆวัน จนในที่สุดก็ต้องติดสินใจขายไป ยังโชคดีที่ตอนที่ขายไม่ขาดทุน ในตลอดหลังก็มีพวกบทวิเคราะห์และข้อมูลต่างๆออกมาบอกว่าที่ราคามันลงเป็นเพราะค่า สเปรดลดลงและมีแนวโน้มที่จะลดลงมากกว่านี้อีก

จากความผิดพลาดในครั้งนี้ผมก็ได้ทัศนคติเกี่ยวกับการลงทุนมาเช่น "การที่เรารู้ กับการที่เราเข้าใจ มันคนละเรื่องกัน", "การมีข้อมูลมหาศาลนั้นไม่สำคัญเท่าการที่เราสามารถวิเคราะห์และตีความข้อมูลที่มีอยู่ได้ดีแค่ไหน" และ "การที่หุ้นที่เราซื้อมีราคาเพิ่มขึ้น (ในระยะสั้น) มันไม่ได้บอกว่าเราวิเคราะห์ได้ถูกต้อง มันบอกเพียงแค่ว่ามีคน (Mr. Market) ยิ่งดีที่จะซื้อหุ้นในราคาที่สูงกว่าเราก็แค่นั้น"
"ผมไม่ได้ลงทุนในหุ้นเพียงเพราะว่าผมต้องการเงินมากมาย
แต่มันเป็นความสนุกในการค้นหาบริษัทชั้นเยี่ยม
เฝ้าดูมันเติบโต และทำเงินให้เรา"

"เบื้องหลังของด้านหลัง ก็คือ ด้านหน้า"
moosamchun2
Verified User
โพสต์: 28
ผู้ติดตาม: 0

Re: ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

โพสต์ที่ 8

โพสต์

มีโอกาสนั่งทานข้าวโต๊ะเดียวกันตอนเที่ยงสองครั้ง น้อง Reredrum คุยสนุก พูดชัดเจนตรงประเด็น ตอน วิเคราะห์หุ้นให้ฟัง

ผมกำลังฝึกหัด ขอเป็นผู้ติดตาม และคำชี้แนะด้วยนะครับ
ศิษย์สำนักรุ่น 4.
superboy
Verified User
โพสต์: 1049
ผู้ติดตาม: 0

Re: ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ตั้งหลักได้เร็ว อนาคตไกลแน่นอนครับ
อย่าหลุดแนวที่ตัวเองถนัด สู้สู้
ReRedrum
Verified User
โพสต์: 198
ผู้ติดตาม: 0

Re: ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

โพสต์ที่ 10

โพสต์

"ภาพลวงจากความสำเร็จ"

"ภาพลวงจากความสำเร็จ" เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของอาการ Overconfidence ที่ส่วนตัวผมถือว่าอันตรายมาก
และยิ่งอันตรายมากๆ สำหรับคนที่เพิ่งเข้ามาลงทุนประมาณ 2 ถึง 3 ปี ที่ผ่านมานี้ เพราะตลาดอยู่ในช่วงขาขี้น (กระทิง)
ทำให้ไม่ว่าจะเข้าไปลงทุนตัวไหนหุ้นก็ขึ้นหมด (ส่วนใหญ่นะครับ) นักลงทุนได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ จะเกิดกระแสออกจากงานประจำแล้วมานั่งเล่นหุ้นเพียงอย่างเดียวขึ้นมามากมาย กลุ่มคนที่ไม่เคยลงทุนในหุ้น พอเห็นคนรู้จักที่เล่นหุ้นอยู่ แล้วได้กำไรเป็นกอบเป็นกำไร ก็คันไม้คันมืออยากลองเล่นดูบาง ซึ่งประสบการณ์แบบนี้ผมก็เคยประสบมาด้วยตนเอง

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผมได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยม โดยปกติร้อยวันพันปีมันไม่เคยโทรมาหา เพราะส่วนมากจะคุยกันใน Facebook หลังจากคุยถามสาระทุกสุกดิบกันพอเป็นพิธี มันก็เริ่มเข้าเรื่อง โดยบอกผมว่า ตอนนี้ มีเงินเย็นอยู่ก้อนหนึ่ง อยากเล่นหุ้น แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง ก็เลยโทรมาถามผม ผมก็เลยบอกว่าในเอาเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนซื้อหนังสือมาอ่านก่อนจะดีกว่า แต่พอหลังจากช่วงที่ดัชนีลงแรงๆ เพื่อนคนนี้ก็ไม่เคยคุยเรื่องลงทุนกับผมอีกเลย

หลังจากบ่นมาซักพัก ก็ขอเข้าเรื่องต่อดีกว่า เนื้อหาข้างล่างนี้ ผมเอามาจากหนังสือ จิตวิทยาการการลงทุน ที่พี่ Web ได้แปลไว้

"ความสำเร็จในอดีตเป็นตัวก่อให้เกิดความมั่นใจในตัวเองสูงจนเกินขนาด หากการตัดสินใจลงทุนหนึ่งๆออกมาดี นักลงทุนจะมองว่ามันเกิดจากทักษะและความสามารถ ในทางกลับกัน หากการตัดสินใจลงทุนให้ผลลัพธ์แย่ๆออกมา พวกเขาจะมองไปว่ามันเกิดจากโชคร้าย ยิ่งพวกเขาประสบความสำเร็จมากครั้งขึ้นเท่าไร พวกเขาก็จะยิ่งมองว่า ความสำเร็จเหล่านั้นเกิดจากความสามารถของพวกเขาเองมากขึ้นเท่านั้น แม้ว่าจริงๆแล้วบางครั้งมันจะเป็นเรื่องของโชคก็ตาม"

ในช่วงที่เป็นตลาดกระทิง นักลงทุนจำนวนมากจะรู้สึกว่าตัวเองนั้นเก่งขึ้น เพราะในช่วงที่ผ่านมาทำผลตอบแทนได้สูงมาก เลยคิดว่าตัวเองนั้นเก่งแล้ว เซียนแล้ว คิดว่าผลตอบแทนที่ทำได้นี้ จะสามารถทำได้ไปเรื่อยๆ (คนเรามีแนวโน้มที่จะเชื่อว่าเหตุการณ์หนึ่งๆที่เกิดซ้ำๆในระดับหนึ่ง จะเกิดต่อไปเรื่อยๆ) ทำให้เกิด Overconfidence มากขึ้น จนลืมมองภาพใหญ่ว่า ตลาดหุ้นนั้นโดยเฉลี่ยจะให้ผลตอบแทนประมาณ 10% ต่อปีเท่านั้น พอคนเรา Overconfidence มากขึ้น ก็มักจะทำอะไรที่เสี่ยงๆมากขึ้น เช่น ลงทุนในหุ้นที่ตัวเองรู้จักไม่ดีพอ ทำการวิเคราะห์หุ้นอย่างลวกๆเพราะไอ้ตัวที่ผ่านมาก็ทำง่ายๆแบบนี้แล้วก็ได้กำไรมาพอสมควร หรือแม้แต่การเล่น Margin แต่พอตลาดเปลี่ยนไปเป็นตลาดหมี ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านีกลงทุนที่ทำอะไรเสี่ยงๆอย่างนี้จะเป็นยังไง

ทั้งหมดที่ร่ายยาวมากมาย ถ้าสรุปสั้นๆ ก็คือ อาการ Overconfidence นั้นสามารถเกิดได้กับนักลงทุนทุกคน ซึ่งเราไม่สามารถห้ามมันได้ ดังนั้นสิ่งที่เราสามารถทำได้ก็คือ การคอยเตือนตัวเองว่า อย่าลงระเริงไปกับความสำเร็จ คอยสำรวจตัวเองดูว่าตอนนี้เราเหลิงไปหรือเปล่า และต้องเผื่อใจไว้สำหรับความผิดพลาด รู้จักยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง อย่าไปโทษว่าเป็นเพราะโชคร้าย ผิดพลาดแล้วไม่ใช่แค่แก่ไข แต่ต้องรู้ด้วยว่า เราผิดพลาดตรงไหน จากนั้นก็จดมันเอาไว้ จำไว้อย่าได้ลืม เพื่อที่ในอนาคตจะได้ไม่ผิดพลาดซ้ำเดิมอีก
"ผมไม่ได้ลงทุนในหุ้นเพียงเพราะว่าผมต้องการเงินมากมาย
แต่มันเป็นความสนุกในการค้นหาบริษัทชั้นเยี่ยม
เฝ้าดูมันเติบโต และทำเงินให้เรา"

"เบื้องหลังของด้านหลัง ก็คือ ด้านหน้า"
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4626
ผู้ติดตาม: 0

Re: ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

โพสต์ที่ 11

โพสต์

คุณ ReRedRum อายุ 24 แต่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่มากครับ ไม่น่าเชื่อ อ่านแล้วรู้สึกดี

ฝากสนับสนุนแนวคิดนี้นะครับ ความสำเร็จเป็น "เพื่อนกิน" มันมาอยู่กับเราแล้วมันก็ไป เราก็หลงไหลได้ปลื้มไปกับมัน หากเราไม่รู้จักพิจารณา

ว่าแต่ว่าวันที่ไปออกทีวีมี link เป็น วีดีโอ ให้พี่ดูย้อนหลังมั๊ยครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
harikung
Verified User
โพสต์: 2232
ผู้ติดตาม: 0

Re: ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ดีนะที่ปีที่แล้วผมทำผลตอบแทนได้ไม่น่าประทับใจ ทุกวันนี้เลยไม่ได้มีอาการover confidenceหรือติดิยู่ในภาพลวงของความสำเร็จ :mrgreen:
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
NAIVE
Verified User
โพสต์: 145
ผู้ติดตาม: 0

Re: ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

โพสต์ที่ 13

โพสต์

Nevercry.boy เขียน:คุณ ReRedRum อายุ 24 แต่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่มากครับ ไม่น่าเชื่อ อ่านแล้วรู้สึกดี

ฝากสนับสนุนแนวคิดนี้นะครับ ความสำเร็จเป็น "เพื่อนกิน" มันมาอยู่กับเราแล้วมันก็ไป เราก็หลงไหลได้ปลื้มไปกับมัน หากเราไม่รู้จักพิจารณา

ว่าแต่ว่าวันที่ไปออกทีวีมี link เป็น วีดีโอ ให้พี่ดูย้อนหลังมั๊ยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=_6SvI0mdNwk

:mrgreen:
ภาพประจำตัวสมาชิก
romee
Verified User
โพสต์: 1850
ผู้ติดตาม: 0

Re: ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ผมชอบวิธีเล่าเรื่อง และตอนพรีเซนหุ้นมากครับ

หุ้นที่ไม่มีอะไรเลย แต่การนำเสนอ มุมมองในการวิเคราะห์ ทำให้คุณ ReRedRum ชนะใจผู้เข้าอบรมจริงๆ :mrgreen:
You only live once, but if you do it right, once is enough.
theenuch
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1735
ผู้ติดตาม: 0

Re: ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

โพสต์ที่ 15

โพสต์

"น้องกล้า"...เยี่ยมเลยค่ะ :wink:

[youtube]_6SvI0mdNwk[/youtube]
AleAle
Verified User
โพสต์: 2135
ผู้ติดตาม: 0

Re: ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

โพสต์ที่ 16

โพสต์

romee เขียน:ผมชอบวิธีเล่าเรื่อง และตอนพรีเซนหุ้นมากครับ

หุ้นที่ไม่มีอะไรเลย แต่การนำเสนอ มุมมองในการวิเคราะห์ ทำให้คุณ ReRedRum ชนะใจผู้เข้าอบรมจริงๆ :mrgreen:
ได้ present หุ้นอะไรเหรอครับ :)
ReRedrum
Verified User
โพสต์: 198
ผู้ติดตาม: 0

Re: ก้าวเล็กๆบนเส้นทาง VI (บันทึกกันลืม)

โพสต์ที่ 17

โพสต์

AleAle เขียน:
romee เขียน:ผมชอบวิธีเล่าเรื่อง และตอนพรีเซนหุ้นมากครับ

หุ้นที่ไม่มีอะไรเลย แต่การนำเสนอ มุมมองในการวิเคราะห์ ทำให้คุณ ReRedRum ชนะใจผู้เข้าอบรมจริงๆ :mrgreen:
ได้ present หุ้นอะไรเหรอครับ :)
VNG ครับ
"ผมไม่ได้ลงทุนในหุ้นเพียงเพราะว่าผมต้องการเงินมากมาย
แต่มันเป็นความสนุกในการค้นหาบริษัทชั้นเยี่ยม
เฝ้าดูมันเติบโต และทำเงินให้เรา"

"เบื้องหลังของด้านหลัง ก็คือ ด้านหน้า"
โพสต์โพสต์