ว๊า ตอนที่ตกหนัก ๆ ไม่ได้ซื้อ
รอก่อนดีกว่า
สลับตัวดีมั๊ย ตัวที่เราถือไม่ขึ้นเลย ขึ้นแต่บิ๊กแค็ป
งั้น ขาย เลย ขาย ก่อน ล็อกกำไรไว้ นี่ก็กำลังจะเปิดสภาอีกแล้ว
เล่นรอบบางส่วนดิ บางส่วนถือยาว
........................................

.........................................
หนังสือจิตวิทยาลงทุนก็มักจะพูดเรื่องพวกนี้นะครับ คนเป็นสัตว์สังคม แปล๊กแปลกพอเห็นหุ้นเขียวก็ทนไม่ค่อยจะไหวอยากซื้อกัน แต่ก็กล้า ๆ กลัว ๆ แต่พอหุ้นลงแด๊ง แดง ขายก็ต้องขาดทุนความกล้ากลับฮึกเหิม คัทเป็นคัท ตายเป็นตาย เอาอีกแล้วพอมันขึ้นมาอีก เอาไงดี โดดเข้าเลย โดดเข้า เอ๊า ลงอีกแล้ว เฮ้อ เหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจนะครับ ข้อแรกอย่าทำกำไรหาย ข้อสองอย่าลืมข้อแรก ก็จบเห่กันหมด
..........................................
มันเป็นหลักการทำงานของฮอร์โมนครับ ฮอร์โมนของ นลท. มักจะพลุ่งพล่านเสมอ โดยเฉพาะเมื่อเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันกับตลาดหรือหุ้นที่เราถืออยู่ เราจะบังคับตัวเองว่าต้องทำอะไรสักอย่าง แดงแดง เขียวเขียว แต่นั่นเป็นกระแสนะครับ เพราะในตลาดหุ้นแล้วการตัดสินใจอยู่เฉย ๆ ก็เป็นการตัดสินใจเหมือนกัน ไม่ได้มีแค่ซื้อกับขายครับ ฝึกได้ครับ ผมเองก็พยายามอยู่เช่นกัน
วันนี้วันเข้าพรรษาครับ มาลดฮอร์โมนกัน สำหรับ นลท. แล้วก็ขอให้ มีเมตตาอยู่ในจิต เยือกเย็นไม่ต้องฉลาด ตลาดไม่มีอะไร แค่เล่นไปตามบท จุดจบก็แค่ตาย สุดท้ายก็เสมอ พอร์ตใหญ่แค่ไหนก็ไม่มีใครใช้หมด แท้จริงแล้วจิตเดิมแท้เดียวกันมันมีอิสระของมันมาแต่ต้น เพียงแต่ นลท. เอากรอบไปใส่มันเองว่าชั้นต้องมีเท่านั้นเท่านี้จึงจะพอจึงจะใหญ่ จึงจะมีหน้ามีตา ฮอร์โมนนี่มันเป็นตัวเดียวกับกิเลสรึเปล่าหนอ อยากมี อยากเป็น อยากได้
ลดฮอร์โมนกันเถอะ เอากรงออกซะ นั่นแหละคือ "อิสระภาพทางการเงิน" ที่แท้จริง
ปล. ที่เขียนมานี่เพื่อสอนตัวคนเขียนเองล้วน ๆ เลยครับ