ขอถามผู้รู้หน่อยนะครับเกี่ยวกับเรื่องค่าเงินเยน,ดอลล่าร์,บาท
-
- Verified User
- โพสต์: 1
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามผู้รู้หน่อยนะครับเกี่ยวกับเรื่องค่าเงินเยน,ดอลล่าร์,บาท
โพสต์ที่ 1
ขอถามตรงๆแบบไม่รู้อะไรเลยนะครับ ท่านใดทราบช่วยอธิบายให้ละเอียดที
คือ ถ้าเราดูว่าค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์จะเห็นว่าเราต้องใช้เงินมากกว่าเพื่อไปแลกได้เพียง 1 usd เป็นเพราะว่าเศรษฐกิจของเขาดีกว่าของเราใช่ไหม? ถ้าใช่แล้วทำไมค่าเงินบาทเมื่อแลกเป็นเงินเยนทำไมแลกเป็นเงินบาทได้มากกว่าละครับ? อย่างนี้แสดงว่าเศรษฐกิจเราดีกว่าญี่ปุ่นหรือครับ?
ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่ แต่หาเหตุผลมาตอบไม่ได้ ท่านใดที่ทราบรบกวนช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อยเถอะครับ ว่ามีปัจจัยอะไรอีกบ้างที่ทำให้ค่าเงินของทั้ง 3 ประเทศเป็นแบบนี้
ขอบคุณครับ
คือ ถ้าเราดูว่าค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์จะเห็นว่าเราต้องใช้เงินมากกว่าเพื่อไปแลกได้เพียง 1 usd เป็นเพราะว่าเศรษฐกิจของเขาดีกว่าของเราใช่ไหม? ถ้าใช่แล้วทำไมค่าเงินบาทเมื่อแลกเป็นเงินเยนทำไมแลกเป็นเงินบาทได้มากกว่าละครับ? อย่างนี้แสดงว่าเศรษฐกิจเราดีกว่าญี่ปุ่นหรือครับ?
ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่ แต่หาเหตุผลมาตอบไม่ได้ ท่านใดที่ทราบรบกวนช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อยเถอะครับ ว่ามีปัจจัยอะไรอีกบ้างที่ทำให้ค่าเงินของทั้ง 3 ประเทศเป็นแบบนี้
ขอบคุณครับ
cantona
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามผู้รู้หน่อยนะครับเกี่ยวกับเรื่องค่าเงินเยน,ดอลล่าร์,บาท
โพสต์ที่ 2
ไม่ใช่แบบนั้นครับ
สมมติ อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน A : B เป็น 1 : 10 นะครับ
การที่ค่าเงิน 1 หน่วยของสกุลเงิน A
แลกได้ 10 หน่วยของสกุล B
ไม่ได้หมายความว่า ประเทศ A มีเศรษฐกิจดีกว่าประเทศ B
และได้ทางกลับกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจของประเทศ B แย่กว่าประเทศ A แต่อย่างใด
มันเป็นแค่หน่วยที่แต่ละประเทศสมมติขึ้นมา เพื่อใช้ในการแทนมูลค่าของสิ่งต่างๆ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ
สมมติว่าราคา Big Mac ที่ประเทศ A ราคา 1 หน่วย
แล้วก็สมมติว่าอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในภาวะที่สมดุลและสินค้ามีราคาเท่ากันทั่วโลก ราคา Big Mac ของประเทศ B ก็น่าจะมีราคา 10 หน่วย
เพราะ 1 หน่วยของ A แลก ได้ 10 หน่วยของ B
แต่ถ้าหากต่อมา ปรากฎว่า A แลก B ได้มากขึ้นกลายเป็น 1: 20
เราเรียกว่าเงิน A แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ B หรือหมายความว่า
เงิน 1 หน่วยเท่าเดิมนั่นแหละ แต่เวลาแลกเงิน B กลับได้มากขึ้นตั้งเท่าตัว
หรืออาจจะเรียกว่า B อ่อนค่าลงก็ได้ครับ (แต่ก่อนเงิน 10 หน่วยเคยแลก A ได้ 1 หน่วย กลับแลกได้แค่ 0.5 หน่วย)
สมมติว่าราคา Big Mac ที่ประเทศ B ยังคงเป็น 10 หน่วย เท่าเดิม
จะสังเกตเห็นว่าเราใช้เงินเพียงแค่ 0.5 A ในการแลกซื้อ Big Mac
หรือเงิน 1 A เท่าเดิมหากเราเอาไปซื้อ Big Mac ที่ประเทศ B เราซื้อได้ 2 ชิ้น
ในทางตรงกันข้ามหากอัตราแลกเปลี่ยนกลายเป็น 1:5
เราเรียกเงิน B แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงิน A
หรือ 10 B ที่เคยแลกได้ 1 A กลายเป็น แลกได้ 2 A
แล้วถ้าเอาไปซื้อ Big Mac ที่ประเทศ A ก็จะได้ 2 ชิ้น
เห็นมั้ยครับ การที่ 1 บาท ไทยมีค่า 3 Japanese Yen ก็ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจของเราจะดีกว่าญี่ปุ่นแต่อย่างใด
อันที่จริงแล้วก๋วยเตี๋ยวบ้านเขาชามนึงราคาหลายร้อยบาทไทยครับ :shock:
หรือพูดง่ายๆว่า เงินเท่าเดิมนั่นแหละ เวลาไปอยู่ญี่ปุ่นแล้วเราจนลงเยอะเลย
การที่ประเทศใดประเทศหนึ่งมีเศรษฐกิจที่ดีกว่าประเทศหนึ่งส่วนใหญ่แล้วตัววัดที่เขาใช้เป็นสากล เขาใช้ GDP เป็นตัววัดครับ
คงช่วยให้เข้าใจได้ได้คร่าวๆ นะครับ
สมมติ อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน A : B เป็น 1 : 10 นะครับ
การที่ค่าเงิน 1 หน่วยของสกุลเงิน A
แลกได้ 10 หน่วยของสกุล B
ไม่ได้หมายความว่า ประเทศ A มีเศรษฐกิจดีกว่าประเทศ B
และได้ทางกลับกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจของประเทศ B แย่กว่าประเทศ A แต่อย่างใด
มันเป็นแค่หน่วยที่แต่ละประเทศสมมติขึ้นมา เพื่อใช้ในการแทนมูลค่าของสิ่งต่างๆ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ
สมมติว่าราคา Big Mac ที่ประเทศ A ราคา 1 หน่วย
แล้วก็สมมติว่าอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในภาวะที่สมดุลและสินค้ามีราคาเท่ากันทั่วโลก ราคา Big Mac ของประเทศ B ก็น่าจะมีราคา 10 หน่วย
เพราะ 1 หน่วยของ A แลก ได้ 10 หน่วยของ B
แต่ถ้าหากต่อมา ปรากฎว่า A แลก B ได้มากขึ้นกลายเป็น 1: 20
เราเรียกว่าเงิน A แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ B หรือหมายความว่า
เงิน 1 หน่วยเท่าเดิมนั่นแหละ แต่เวลาแลกเงิน B กลับได้มากขึ้นตั้งเท่าตัว
หรืออาจจะเรียกว่า B อ่อนค่าลงก็ได้ครับ (แต่ก่อนเงิน 10 หน่วยเคยแลก A ได้ 1 หน่วย กลับแลกได้แค่ 0.5 หน่วย)
สมมติว่าราคา Big Mac ที่ประเทศ B ยังคงเป็น 10 หน่วย เท่าเดิม
จะสังเกตเห็นว่าเราใช้เงินเพียงแค่ 0.5 A ในการแลกซื้อ Big Mac
หรือเงิน 1 A เท่าเดิมหากเราเอาไปซื้อ Big Mac ที่ประเทศ B เราซื้อได้ 2 ชิ้น
ในทางตรงกันข้ามหากอัตราแลกเปลี่ยนกลายเป็น 1:5
เราเรียกเงิน B แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงิน A
หรือ 10 B ที่เคยแลกได้ 1 A กลายเป็น แลกได้ 2 A
แล้วถ้าเอาไปซื้อ Big Mac ที่ประเทศ A ก็จะได้ 2 ชิ้น
เห็นมั้ยครับ การที่ 1 บาท ไทยมีค่า 3 Japanese Yen ก็ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจของเราจะดีกว่าญี่ปุ่นแต่อย่างใด
อันที่จริงแล้วก๋วยเตี๋ยวบ้านเขาชามนึงราคาหลายร้อยบาทไทยครับ :shock:
หรือพูดง่ายๆว่า เงินเท่าเดิมนั่นแหละ เวลาไปอยู่ญี่ปุ่นแล้วเราจนลงเยอะเลย
การที่ประเทศใดประเทศหนึ่งมีเศรษฐกิจที่ดีกว่าประเทศหนึ่งส่วนใหญ่แล้วตัววัดที่เขาใช้เป็นสากล เขาใช้ GDP เป็นตัววัดครับ
คงช่วยให้เข้าใจได้ได้คร่าวๆ นะครับ
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามผู้รู้หน่อยนะครับเกี่ยวกับเรื่องค่าเงินเยน,ดอลล่าร์,บาท
โพสต์ที่ 3
ตารางข้างล่างนี้เป็นการเรียงลำดับ รายได้ประชาชาติต่อหัว (GDP Per Capita) ซึ่งมีวิธีหาโดยนำ GDP หารด้วยจำนวนประชากรของประเทศนั้นๆ
ซึ่งเราสามารถใช้ข้อมูลตรงนี้บอกความเป็นอยู่ของประชากรในประเทศนั้นๆได้ในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนมีมาก การนำข้อมูลตรงนี้มาพูดในภาพรวมก็อาจจะผิดเพี้ยนไป
Thailand อยู่ในลำดับที่ 97
จะสังเกตุว่า ประเทศที่อยู่ล่างๆของตารางจะเป็นประเทศยากจน ที่อยู่แถบแอฟริกา
ส่วนประเทศที่อยู่บนๆ จะเป็นพวก Scandinavia, กลุ่มประเทศ EU, America และ Canada รวมทั้ง Japan (ประเทศที่พัฒนาแล้ว)
Source: http://www.cia.gov
ซึ่งเราสามารถใช้ข้อมูลตรงนี้บอกความเป็นอยู่ของประชากรในประเทศนั้นๆได้ในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนมีมาก การนำข้อมูลตรงนี้มาพูดในภาพรวมก็อาจจะผิดเพี้ยนไป
Thailand อยู่ในลำดับที่ 97
จะสังเกตุว่า ประเทศที่อยู่ล่างๆของตารางจะเป็นประเทศยากจน ที่อยู่แถบแอฟริกา
ส่วนประเทศที่อยู่บนๆ จะเป็นพวก Scandinavia, กลุ่มประเทศ EU, America และ Canada รวมทั้ง Japan (ประเทศที่พัฒนาแล้ว)
Rank Country GDP - per capita Date of Information
1 Luxembourg $ 62,700 2005 est.
2 Equatorial Guinea $ 50,200 2005 est.
3 Norway $ 42,400 2005 est.
4 United States $ 41,800 2005 est.
5 Guernsey $ 40,000 2003 est.
6 Jersey $ 40,000 2003 est.
7 British Virgin Islands $ 38,500 2004 est.
8 Hong Kong $ 36,800 2005 est.
9 Bermuda $ 36,000 2003 est.
10 Switzerland $ 35,000 2005 est.
11 Iceland $ 34,600 2005 est.
12 San Marino $ 34,600 2001 est.
13 Ireland $ 34,100 2005 est.
14 Denmark $ 33,500 2005 est.
15 Austria $ 32,900 2005 est.
16 Canada $ 32,800 2005 est.
17 Cayman Islands $ 32,300 2004 est.
18 Australia $ 32,000 2005 est.
19 Belgium $ 31,800 2005 est.
20 United Kingdom $ 30,900 2005 est.
21 Netherlands $ 30,500 2005 est.
22 Japan $ 30,400 2005 est.
23 Finland $ 30,300 2005 est.
24 France $ 29,900 2005 est.
25 Germany $ 29,700 2005 est.
26 Singapore $ 29,700 2005 est.
27 Sweden $ 29,600 2005 est.
28 United Arab Emirates $ 29,100 2005 est.
29 Isle of Man $ 28,500 2003 est.
30 Italy $ 28,300 2005 est.
31 European Union $ 28,100 2005 est.
32 Aruba $ 28,000 2002 est.
33 Gibraltar $ 27,900 2000 est.
34 Monaco $ 27,000 2000 est.
35 Andorra $ 26,800 2003 est.
36 Taiwan $ 26,700 2005 est.
37 Qatar $ 26,000 2005 est.
38 Spain $ 25,100 2005 est.
39 Falkland Islands (Islas Malvinas) $ 25,000 2002 est.
40 Liechtenstein $ 25,000 1999 est.
41 New Zealand $ 24,100 2005 est.
42 Brunei $ 23,600 2003 est.
43 Greece $ 22,800 2005 est.
44 Israel $ 22,200 2005 est.
45 Kuwait $ 22,100 2005 est.
46 Faroe Islands $ 22,000 2001 est.
47 Cyprus $ 21,600 NA
48 Guam $ 21,000 2000 est.
49 Slovenia $ 20,900 2005 est.
50 Bahrain $ 20,500 2005 est.
51 Korea, South $ 20,300 2005 est.
52 Greenland $ 20,000 2001 est.
53 Macau $ 19,400 2003
54 Bahamas, The $ 18,800 2005 est.
55 Malta $ 18,800 2005 est.
56 Puerto Rico $ 18,500 2005 est.
57 Portugal $ 18,400 2005 est.
58 Czech Republic $ 18,100 2005 est.
59 French Polynesia $ 17,500 2003 est.
60 Barbados $ 17,300 2005 est.
61 Virgin Islands $ 17,200 2002 est.
62 Estonia $ 16,400 2005 est.
63 Hungary $ 15,900 2005 est.
64 Slovakia $ 15,700 2005 est.
65 New Caledonia $ 15,000 2003 est.
66 Martinique $ 14,400 2003 est.
67 Lithuania $ 13,700 2005 est.
68 Argentina $ 13,600 2005 est.
69 Oman $ 13,400 2005 est.
70 Mauritius $ 13,300 2005 est.
71 Saudi Arabia $ 12,900 2005 est.
72 Latvia $ 12,800 2005 est.
73 Poland $ 12,700 2005 est.
74 Trinidad and Tobago $ 12,700 2005 est.
75 Northern Mariana Islands $ 12,500 2000 est.
76 South Africa $ 11,900 2005 est.
77 Croatia $ 11,600 2005 est.
78 Turks and Caicos Islands $ 11,500 2002 est.
79 Netherlands Antilles $ 11,400 2003 est.
80 Chile $ 11,300 2005 est.
81 Antigua and Barbuda $ 11,000 2002 est.
82 Russia $ 10,700 2005 est.
83 Malaysia $ 10,400 2005 est.
84 Botswana $ 10,100 2005 est.
85 Costa Rica $ 10,000 2005 est.
86 Mexico $ 10,000 2005 est.
87 Uruguay $ 10,000 2005 est.
88 World $ 9,300 2005 est.
89 Bulgaria $ 9,000 2005 est.
90 Palau $ 9,000 2001 est.
91 Saint Kitts and Nevis $ 8,800 2002 est.
92 Kazakhstan $ 8,700 2005 est.
93 Brazil $ 8,500 2005 est.
94 Libya $ 8,400 2005 est.
95 French Guiana $ 8,300 2003 est.
96 Romania $ 8,300 2005 est.
97 Thailand $ 8,300 2005 est.
98 Iran $ 8,100 2005 est.
99 American Samoa $ 8,000 2000 est.
100 Guadeloupe $ 7,900 2003 est.
101 Turkey $ 7,900 2005 est.
102 Seychelles $ 7,800 2002 est.
103 Namibia $ 7,800 2005 est.
104 Belarus $ 7,600 2005 est.
105 Tunisia $ 7,600 2005 est.
106 Anguilla $ 7,500 2002 est.
107 Macedonia $ 7,400 2005 est.
108 Algeria $ 7,300 2005 est.
109 Panama $ 7,300 2005 est.
110 Cyprus $ 7,135 NA
111 Colombia $ 7,100 2005 est.
112 Saint Pierre and Miquelon $ 7,000 2001 est.
113 Belize $ 6,800 2005 est.
114 Ukraine $ 6,800 2005 est.
115 Bosnia and Herzegovina $ 6,800 2005 est.
116 Dominican Republic $ 6,500 2005 est.
117 Venezuela $ 6,400 2005 est.
118 China $ 6,200 2005 est.
119 Cape Verde $ 6,200 2005 est.
120 Reunion $ 6,200 2005 est.
121 Fiji $ 6,000 2005 est.
122 Peru $ 6,000 2005 est.
123 Turkmenistan $ 5,900 2005 est.
124 Gabon $ 5,800 2005 est.
125 Samoa $ 5,600 2002 est.
126 Dominica $ 5,500 2003 est.
127 Saint Lucia $ 5,400 2002 est.
128 Swaziland $ 5,300 2005 est.
129 Armenia $ 5,100 2005 est.
130 Lebanon $ 5,100 2005 est.
131 El Salvador $ 5,100 2005 est.
132 Philippines $ 5,100 2005 est.
133 Cook Islands $ 5,000 2001 est.
134 Grenada $ 5,000 2002 est.
135 Nauru $ 5,000 2001 est.
136 Albania $ 4,900 2005 est.
137 Paraguay $ 4,900 2005 est.
138 Jordan $ 4,800 2005 est.
139 Suriname $ 4,700 2005 est.
140 Azerbaijan $ 4,600 2005 est.
141 Egypt $ 4,400 2005 est.
142 Sri Lanka $ 4,300 2005 est.
143 Guatemala $ 4,300 2005 est.
144 Jamaica $ 4,300 2005 est.
145 Morocco $ 4,300 2005 est.
146 Ecuador $ 3,900 2005 est.
147 Guyana $ 3,900 2005 est.
148 Maldives $ 3,900 2002 est.
149 Wallis and Futuna $ 3,800 2004 est.
150 Indonesia $ 3,700 2005 est.
151 Niue $ 3,600 2000 est.
152 Syria $ 3,500 2005 est.
153 Georgia $ 3,400 2005 est.
154 Montserrat $ 3,400 2002 est.
155 India $ 3,400 2005 est.
156 Iraq $ 3,400 2005 est.
157 Cuba $ 3,300 2005 est.
158 Lesotho $ 3,300 2005 est.
159 Vietnam $ 3,000 2005 est.
160 Honduras $ 2,900 2005 est.
161 Vanuatu $ 2,900 2003 est.
162 Saint Vincent and the Grenadines $ 2,900 2002 est.
163 Nicaragua $ 2,800 2005 est.
164 Bolivia $ 2,700 2005 est.
165 Mayotte $ 2,600 2003 est.
166 Serbia and Montenegro $ 2,600 2005 est.
167 Angola $ 2,500 2005 est.
168 Saint Helena $ 2,500 1998 est.
169 Ghana $ 2,500 2005 est.
170 Pakistan $ 2,400 2005 est.
171 Papua New Guinea $ 2,400 2005 est.
172 Tonga $ 2,300 2002 est.
173 Guinea $ 2,200 2005 est.
174 Mongolia $ 2,200 2005 est.
175 Bangladesh $ 2,100 2005 est.
176 Cambodia $ 2,100 2005 est.
177 Sudan $ 2,100 2005 est.
178 Moldova $ 2,100 2005 est.
179 Cameroon $ 2,000 2005 est.
180 Micronesia, Federated States of $ 2,000 2002 est.
181 Mauritania $ 2,000 2005 est.
182 Chad $ 1,900 2005 est.
183 Laos $ 1,900 2005 est.
184 Uzbekistan $ 1,900 2005 est.
185 Zimbabwe $ 1,900 2005 est.
186 Gambia, The $ 1,900 2005 est.
187 Burma $ 1,800 2005 est.
188 Senegal $ 1,800 2005 est.
189 Korea, North $ 1,800 2005 est.
190 Kyrgyzstan $ 1,800 2005 est.
191 Solomon Islands $ 1,700 2002 est.
192 Uganda $ 1,700 2005 est.
193 Haiti $ 1,600 2005 est.
194 Togo $ 1,600 2005 est.
195 Marshall Islands $ 1,600 2001 est.
196 Nepal $ 1,500 2005 est.
197 Bhutan $ 1,400 2003 est.
198 Cote d'Ivoire $ 1,400 2005 est.
199 Djibouti $ 1,300 2002 est.
200 Rwanda $ 1,300 2005 est.
201 Mozambique $ 1,300 2005 est.
202 Benin $ 1,200 2005 est.
203 Central African Republic $ 1,200 2005 est.
204 Burkina Faso $ 1,200 2005 est.
205 Sao Tome and Principe $ 1,200 2003 est.
206 Tajikistan $ 1,200 2005 est.
207 Kenya $ 1,200 2005 est.
208 Tuvalu $ 1,100 2000 est.
209 West Bank $ 1,100 2003 est.
210 Eritrea $ 1,000 2005 est.
211 Mali $ 1,000 2005 est.
212 Tokelau $ 1,000 1993 est.
213 Nigeria $ 1,000 2005 est.
214 Madagascar $ 900 2005 est.
215 Zambia $ 900 2005 est.
216 Niger $ 900 2005 est.
217 Afghanistan $ 800 2004 est.
218 Sierra Leone $ 800 2005 est.
219 Yemen $ 800 2005 est.
220 Guinea-Bissau $ 800 2005 est.
221 Congo, Democratic Republic of the $ 800 2005 est.
222 Kiribati $ 800 2001 est.
223 Ethiopia $ 800 2005 est.
224 Congo, Republic of the $ 800 2005 est.
225 Burundi $ 700 2005 est.
226 Tanzania $ 700 2005 est.
227 Liberia $ 700 2005 est.
228 Comoros $ 600 2005 est.
229 Somalia $ 600 2005 est.
230 Malawi $ 600 2005 est.
231 Gaza Strip $ 600 2003 est.
232 East Timor $ 400 2004 est.
updated on 10 January, 2006
Source: http://www.cia.gov
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามผู้รู้หน่อยนะครับเกี่ยวกับเรื่องค่าเงินเยน,ดอลล่าร์,บาท
โพสต์ที่ 4
รูปข้างบนเป็นการนำราคาของ Big Mac มาเปรียบเทียบกันในแต่ละประเทศ
หรือเรียกว่า Big Mac Index ซึ่งต้องการแสดงทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ที่เรียกว่า "purchasing-power parity"
ซึ่งกล่าวไว้ว่า อัตราแลกเปลี่ยน ควรจะมีการปรับเปลี่ยน (adjust) เพื่อให้ราคาสินค้าและบริการมีมูลค่าเท่ากันทั่วโลก
จากชาร์ต
หากเรานำเงินสกุลต่างๆมาแปลงเป็น US Dollar ทั้งหมด
จะพบว่า ราคา Big Mac ที่ China ถูกที่สุด
และที่ Switzerland แพงที่สุด
ของบ้านเราก็ค่อนข้างถูกเหมือนกัน
หากเราเทียบเงิน หยวน กับ USD จาก Big Mac Index จะพบว่า
เงินหยวนมีมูลค่าต่ำกว่า (undervalued) USD ถึง 59%
ซึ่งเป็นสาเหตหนึ่ง ที่ทำให้หลายๆประเทศทั่วโลกย้ายกำลังการผลิตไปที่ China เพื่อลดต้นทุนการผลิต จากสินค้าและบริการที่ถูก
Source: http://www.economist.com
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามผู้รู้หน่อยนะครับเกี่ยวกับเรื่องค่าเงินเยน,ดอลล่าร์,บาท
โพสต์ที่ 6
"เงินทองของมายา ข้าวปลาสิของจริง" เป็นคำพูดของผู้รู้ท่านหนึ่ง
สิ่งสิ่งหนึ่ง เอาไปแลกกับอีก สิ่งสิ่งหนึ่ง จะไม่คล่องตัว เพื่อความสะดวก ก็ใช้เงินแทน สิ่งสิ่งหนึ่งที่ว่า
ในทางเศรษฐศาสตร์ ราคาของสิ่งสิ่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับ Demand และ Supply ดังนั้น ราคา (ค่า) เงิน ก็เป็นเช่นกัน
แบงก์ชาติเป็นผู้ดูแลปริมาณเงิน
ปริมาณเงิน = ตัวคูณ X ฐานเงิน
ฐานเงิน มีสองส่วน คือ Net Foreign Assets กับ Net Domestic Asset
Net Foreign Assets ก็คือ Net International Reserve นั่นเอง
ด้วยกฎหมาย เงินตราต่างประเทศต้องซื้อขายโดยแบงก์ชาติ ส่วนธนาคารพาณิชย์ที่เราเห็นนั้นเป็นเพียงนายหน้าเท่านั้นครับ
เมื่อเป็นอย่างนี้ ยอดเงินตราต่างประเทศก็ตกอยู่ที่แบงก์ชาติ ซึ่งยอดเงินตรานี่แหละครับ จะสร้างเสถียรภาพให้กับค่าเงินบาท
หากไม่มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพียงพอ ค่าเงินบาทอาจตกลงไปแบบไม่มีจุดรับ อะไรประมาณนั้นครับ
Net Domestic Asset การให้กู้ยืมจากแบงก์ชาติกับรัฐบาล (พันธบัตรรัฐบาล) และสินเชื่อสุทธิที่แบงก์ชาติให้กับสถาบันการเงิน
เมื่อนำ NFA + NDA เราก็จะได้ฐานเงิน พอเม็ดเงินเหล่านี้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจหลายรอบ ก็จะเกิดปริมาณเงินเพิ่มขึ้นมามากใหนระบบเศรษฐกิจครับ
เงินจึงเป็นเหมือนสารหล่อลื่นในระบบเศรษฐกิจครับ ... ก็ตอบง่ายๆ อย่างนี้ผมเองก็ไม่ทราบว่า คุณ Cantona ต้องการทราบเรื่องรวมๆ ในประด็นที่ถามมาแบบนี้หรือเปล่า
สิ่งสิ่งหนึ่ง เอาไปแลกกับอีก สิ่งสิ่งหนึ่ง จะไม่คล่องตัว เพื่อความสะดวก ก็ใช้เงินแทน สิ่งสิ่งหนึ่งที่ว่า
ในทางเศรษฐศาสตร์ ราคาของสิ่งสิ่งหนึ่งจะขึ้นอยู่กับ Demand และ Supply ดังนั้น ราคา (ค่า) เงิน ก็เป็นเช่นกัน
แบงก์ชาติเป็นผู้ดูแลปริมาณเงิน
ปริมาณเงิน = ตัวคูณ X ฐานเงิน
ฐานเงิน มีสองส่วน คือ Net Foreign Assets กับ Net Domestic Asset
Net Foreign Assets ก็คือ Net International Reserve นั่นเอง
ด้วยกฎหมาย เงินตราต่างประเทศต้องซื้อขายโดยแบงก์ชาติ ส่วนธนาคารพาณิชย์ที่เราเห็นนั้นเป็นเพียงนายหน้าเท่านั้นครับ
เมื่อเป็นอย่างนี้ ยอดเงินตราต่างประเทศก็ตกอยู่ที่แบงก์ชาติ ซึ่งยอดเงินตรานี่แหละครับ จะสร้างเสถียรภาพให้กับค่าเงินบาท
หากไม่มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพียงพอ ค่าเงินบาทอาจตกลงไปแบบไม่มีจุดรับ อะไรประมาณนั้นครับ
Net Domestic Asset การให้กู้ยืมจากแบงก์ชาติกับรัฐบาล (พันธบัตรรัฐบาล) และสินเชื่อสุทธิที่แบงก์ชาติให้กับสถาบันการเงิน
เมื่อนำ NFA + NDA เราก็จะได้ฐานเงิน พอเม็ดเงินเหล่านี้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจหลายรอบ ก็จะเกิดปริมาณเงินเพิ่มขึ้นมามากใหนระบบเศรษฐกิจครับ
เงินจึงเป็นเหมือนสารหล่อลื่นในระบบเศรษฐกิจครับ ... ก็ตอบง่ายๆ อย่างนี้ผมเองก็ไม่ทราบว่า คุณ Cantona ต้องการทราบเรื่องรวมๆ ในประด็นที่ถามมาแบบนี้หรือเปล่า
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามผู้รู้หน่อยนะครับเกี่ยวกับเรื่องค่าเงินเยน,ดอลล่าร์,บาท
โพสต์ที่ 7
วันนี้พอดีไปเข้าเว็บหนึ่งมา เห็นว่าด้านล่างสุดของเว็บ มีข้อมูล Real Time ที่น่าสนใจดีครับ
เกี่ยวกับ Currency , Stock , Gold , Oil
ลองเข้าไปดูซิครับ ที่ http://www.hooninside.com/
ปล.
เลื่อนลงมาด้านล่างสุดของเว็บเลยนะครับ ข้อมูลกระพริบตลอดเลยครับผม
(^_^)
เกี่ยวกับ Currency , Stock , Gold , Oil
ลองเข้าไปดูซิครับ ที่ http://www.hooninside.com/
ปล.
เลื่อนลงมาด้านล่างสุดของเว็บเลยนะครับ ข้อมูลกระพริบตลอดเลยครับผม
(^_^)
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."